พิชิตสวรรค์ ทะยานฟ้า 1173 จุดซ่อนสมบัติที่ต่อไป

Now you are reading พิชิตสวรรค์ ทะยานฟ้า Chapter 1173 จุดซ่อนสมบัติที่ต่อไป at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

<p>เกาก้วนจ้องเขาพร้อมกล่าวอย่างใจเย็น &#8220;ไม่ได้จะให้พวกเขาไปปราบโจรกบฏให้ราบคาบ แต่จะให้พวกเขาไปวาดแผนที่ที่นรก ให้พวกเขาไปสืบดูสถานการณ์ของนรกให้ชัดเจน ความสูงต่ำของคะแนนทดสอบจะขึ้นอยู่กับว่าสืบดูสถานการณ์มาได้ลึกล้ำแค่ไหน ไม่รู้ว่ามีคนมากมายเท่าไรอยากไปนั่งตำแหน่งผู้บัญชาการใหญ่ของตลาดสวรรค์ ถ้าคนที่รับตำแหน่งผู้บัญชาการใหญ่ในปัจจุบันไม่อยากไป ในใต้หล้าก็มีคนอยากไปฝ่าฟันเพื่ออนาคตอยู่แล้ว ตำหนักสวรรค์มีผู้บัญชาการใหญ่ของตลาดสวรรค์แปดพันกว่าตำแหน่ง การดึงดูดคนสักสองสามแสนให้เข้าร่วมก็ไม่ใช่ปัญหา กับคนหลายแสนคนที่ไปนรกเพราะตัดสินใจจะฝ่าฟันเพื่ออนาคต เมื่อเทียบกันแล้ว คนที่ถูกตำหนักสวรรค์บังคับส่งไปเทียบไม่ติดหรอก ตอนทดสอบสืบอะไรได้บ้างนิดหน่อย เมื่อเวลาผ่านไปนานๆ ก็คงจะมีสักวันที่ตำหนักสวรรค์จะรู้สถานการณ์ในนรกอย่างชัดเจน รอให้โอกาสสุกงอม ค่อยส่งทัพใหญ่ไปปราบให้ราบคาบในรวดเดียว ดีกว่ามัวแต่อุดทางเข้าออกโดยไม่ทำอะไร!&#8221;</p>
<p>&#8220;เกรงว่าจะไม่มีใครอยากไปน่ะสิ!&#8221; ซือหม่าเวิ่นเทียนส่ายหน้า &#8220;ฝ่าบาท! เป็นอย่างที่ท่านเพิ่งจะบอกไป นี่ก็เหมือนการฟันผักกุยช่าย ที่บอกว่าผู้ผ่านการทดสอบเท่านั้นถึงจะได้ไปนั่งตำแหน่งที่ตลาดสวรรค์ นั่นเป็นเพียงสิ่งที่คิดเองอยู่ฝ่ายเดียวเท่านั้น ถึงอย่างไรตลาดสวรรค์แต่ละแห่งก็ยังอยู่ภายใต้การปกครองของขุนนางใหญ่ หลังจากจบเรื่องนี้พวกเขามีทางใส่ร้ายให้คนที่พวกเขาไม่อยากได้มีความผิดอยู่แล้ว อย่าบอกนะว่าหลังจากมีความผิดแล้ว จะทำให้ผู้บัญชาการใหญ่พวกนั้นออกจากตำแหน่งไม่ได้เชียวหรือ? จะไปอ้างเหตุผลนี้ที่ไหนไหว ใช้เวลาไม่นาน ขุนนางใหญ่พวกนั้นก็จะสามารถเจาะตาข่ายให้เป็นรูจนทั่ว คนไร้อำนาจหนุนหลังที่คิดจะนั่งตำแหน่งนั้นอย่างมั่นคง ไม่ว่าใครก็ต้องชั่งน้ำหนักดูทั้งนั้น&#8221;</p>
<p>&#8220;แต่ก็ใช่ว่าจะไม่มีวิธีการรับมือ ระดับความยากก็ไม่มากขนาดนั้น เพียงแต่เวลาปฏิบัติขึ้นมาเกรงว่าฝ่าบาทจะต้องรับแรงกดดันเล็กน้อย&#8221; เกาก้วนกล่าว</p>
<p>&#8220;ว่ามา!&#8221; ประมุขชิงกล่าว</p>
<p>เกาก้วนอธิบายว่า &#8220;แยกตลาดสวรรค์ในสังกัดของตำหนักสวรรค์ออกจากการปกครองเดิม สร้างช่องทางการดูแลแยกออกมาอีกหนึ่งช่องทาง ไม่จำเป็นต้องให้ตลาดสวรรค์ ผู้บัญชาการใหญ่ แม่ทัพภาคทำงานอยู่ในตำแหน่งร่วมกันแบบไม่ชัดเจน ในเมื่อต้องการจะปรับรุง ก็ต้องจัดระเบียบขอบเขตอำนาจก่อน เลื่อนขั้นให้แม่ทัพภาค! ตลาดสวรรค์ทุกๆ สิบแห่งจะอยู่ในการควบคุมของแม่ทัพภาคคนเดียว แม่ทัพภาคทุกๆ สิบคนจะอยู่ในการควบคุมของหัวหน้าภาคคนเดียว ในระบบเก่าเบื้องบนของหัวหน้าภาคจะเป็นท่านโหว ทว่าการแต่งตั้งเจ็ดสิบสองโหวให้เป็นท่านเซียนบนราชสำนักคือกฎเกณฑ์ตายตัวแล้ว ถ้าเพิ่มตำแหน่งท่านโหวบนราชสำนักอีก แบบนั้นก็จะโต้เถียงให้กระจ่างได้ยาก ลองตั้งหัวหน้าภาคใหญ่ขึ้นมาใหม่สักตำแหน่ง หัวหน้าภาคสิบคนจะอยู่ในการควบคุมของหัวหน้าภาคใหญ่หนึ่งคน ตลาดสวรรค์แปดพันกว่าแห่งก็จะมีหัวหน้าภาคใหญ่เพียงแปดเก้าคนเท่านั้น แล้วก็เลือกคนที่มีคุณธรรมและบารมีสูงส่งสักคนมาบัญชาการหัวหน้าภาคใหญ่พวกนั้นก็พอแล้ว!&#8221;</p>
<p>ประมุขชิงได้ยินแล้วหลับตาครุ่นคิดถึงความเป็นไปได้</p>
<p>หลังจากครุ่นคิดเล็กน้อย ซือหม่าเวิ่นเทียนก็ส่ายหน้าบอกว่า &#8220;ไม่เหมาะสม! ในปีนั้นที่ตั้งตำแหน่งแม่ทัพภาคขึ้นมาก็เพื่อให้มียอดฝีมือคอยคุมตลาดสวรรค์ ถ้าตลาดสวรรค์ขาดยอดฝีมือนั่งรักษาการณ์ สถานที่ที่เงินทองอุดมสมบูรณ์แบบนั้น ก็ยากที่จะหลีกเลี่ยงไม่ให้มีคนคิดไม่ซื่อ ถ้ามีคนมาปล้นตลาดสวรรค์อย่างไม่ขาดสาย นั่นก็จะไม่ใช่เรื่องดีอะไร!&#8221;</p>
<p>เกาก้วนเถียงกลับว่า &#8220;นี่เป็นคำวิจารณ์ที่ไร้สาระ! ในปีแรกที่ขุนนางใหญ่ทั้งราชสำนักแนะนำให้จัดแบบนี้ ประการแรกเป็นเพราะตำหนักสวรรค์เพิ่งก่อตั้งขึ้น เหตุผลที่ทูตซ้ายยกมา ก็น่าคำนึงถึงอยู่บ้างจริงๆ แต่แท้จริงแล้วก็เพื่อให้มีตำแหน่งดีๆ เยอะขึ้นสำหรับดูแลลูกน้องคนสนิท ตำหนักสวรรค์ก่อตั้งมาหลายปี ขนาดร้านค้าของตลาดสวรรค์แต่ละแห่งถูกสร้างขึ้นมาแล้ว ถามหน่อยว่านักพรตบงกชทองโดยทั่วไปจะมีใครกล้าไปปล้นตลาดสวรรค์? ต่อให้เป็นนักพรตระดับบงกชรุ้ง นั่นก็ต้องเป็นกลุ่มนักพรตบงกชรุ้งที่ร่วมมือกันถึงจะกล้าไปปล้น ถ้ามีกลุ่มนักพรตบงกชรุ้งร่วมมือกันไปปล้นจริงๆ ทูตซ้ายคิดว่าด้วยกำลังของแม่ทัพภาคตลาดสวรรค์จะสามารถต้านไหวเหรอ?&#8221;</p>
<p>&#8220;ถ้าไม่มีแม้แต่นักพรตบงกชรุ้งที่นั่งรักษาการณ์ ถึงตอนนั้นจะไม่มีโจรระดับบงกชรุ้งมากวาดล้างที่ตลาดสวรรค์ได้ตามใจชอบหรอกหรือ?&#8221; ซือหม่าเวิ่นเทียนถาม</p>
<p>เกาก้วนเถียงแบบตาต่อตา ฟันต่อฟัน &#8220;หรือทูตซ้ายคิดว่าคนที่เฝ้าร้านค้าในตลาดสวรรค์จะไม่มีนักพรตบงกชรุ้งเลยแม้แต่คนเดียว? จากที่ข้ารู้มา ผู้ประกอบการของร้านค้าบางร้านเป็นนักพรตบงกชรุ้งอยู่แล้ว ผู้บัญชาการใหญ่ของตลาดสวรรค์คนเดียวจะควบคุมพวกเขาไม่ได้เชียวหรือ? ก็เป็นอย่างที่ข้าบอก ตลาดสวรรค์แห่งเดียวไม่จำเป็นต้องมีแม่ทัพภาคกับผู้บัญชาการใหญ่เบียดกันอยู่ในรังเดียว ถ้าอยู่ด้วยกันก็จะมีคนเยอะเกินงาน จะผลักความรับผิดชอบใส่กัน!&#8221;</p>
<p>ซือหม่าเวิ่นเทียนบอกว่า &#8220;เกาก้วน เจ้าอย่าลืมนะ ตลาดสวรรค์แต่ละแห่งล้วนเป็นอาณาเขตของขุนนางใหญ่เต็มราชสำนัก ถ้าเจ้าแยกตลาดสวรรค์ออกมาจากมือพวกเขา ถึงตอนนั้นถ้าเกิดเรื่องขึ้นที่ตลาดสวรรค์ พวกเขาก็จะไม่แสดงความรับผิดชอบ ถ้าพวกเขาวางมือไม่ดูแลความปลอดภัยของตลาดสวรรค์ ตลาดสวรรค์ก็จะเกิดเรื่องขึ้นได้ง่ายมาก มีขุนนางใหญ่คนไหนไม่แอบใช้อำนาจของตัวเองอย่างลับๆ บ้าง?&#8221; คำพูดนี้เปิดโปงชัดเจนแล้วว่าเมื่อถึงตอนนั้นจะมีคนแอบเล่นไม่ซื่อ</p>
<p>เกาก้วนจึงตอบว่า &#8220;อาณาเขตของที่ขุนนางใหญ่ดูแล ถ้าแม้แต่ความปลอดภัยพื้นฐานก็ยังรักษาไม่ได้ พวกเขาจะหนีความรับผิดชอบพ้นเหรอ? ถ้ามีคนแอบเล่นไม่ซื่อจริงๆ เช่นนั้นก็ลองชั่งน้ำหนักดูสักหน่อย ถ้าตลาดสวรรค์ทุกแห่งถูกจัดการแล้ว ทูตซ้ายอย่าลืมเรื่องที่เกิดขึ้นในตลาดสวรรค์ดาวเทียนหยวนปีนั้นนะ ผู้บัญชาการใหญ่คนเดียวสามารถสั่งปิดร้านค้าได้เป็นโขยง ถ้าร้านค้าของขุนนางใหญ่คนไหนถูกสั่งปิดที่ตลาดสวรรค์ทุกแห่ง กิจการใหญ่โตของพวกเขาก็รับไม่ไหวหรอก พวกขุนนางใหญ่สามารถเล่นไม่ซื่อได้ แต่ฝั่งตลาดสวรรค์จะไม่รู้จักตอบโต้โดยการตัดช่องทางรายได้ของพวกเขาเชียวหรือ?&#8221;</p>
<p>ซือหม่าเวิ่นเทียนส่ายหน้า &#8220;เกาก้วน นี่เป็นการปล้นอำนาจมาจากมือขุนนางใหญ่ทุกคน เจ้ารู้มั้ยว่าจะทำให้เกิดการสะท้อนกลับมากขนาดไหน?&#8221;</p>
<p>&#8220;ดังนั้นข้าถึงได้บอกว่าฝ่าบาทอาจจะต้องทนแรงกดดันนิดหน่อย ถ้าพูดจากอีกมุมหนึ่ง ถ้าฝ่าบาทกุมตลาดสวรรค์ทั้งหมดไว้ในมือได้ ก็เท่ากับกุมช่องทางความร่ำรวยที่ใหญ่ที่สุดของขุนนางใหญ่ทุกคนไว้ได้เหมือนกัน แบบนี้ถ้าจะตำหนิตักเตือนใครก็จะง่ายแล้ว&#8221; เกาก้วนกล่าว</p>
<p>ประมุขชิงตาเป็นประกายเล็กน้อย</p>
<p>เกาก้วนเหล่ตามองปฏิกิริยาของเขาแวบหนึ่ง แล้วพูดต่อว่า &#8220;กลับมาพูดเรื่องการทดสอบ ไม่มีใครอยากจะเอาชีวิตไปเสี่ยงเปล่าๆ มีเพียงการตัดอำนาจของขุนนางใหญ่พวกนั้นที่ไปก้าวก่ายงตลาดสวรรค์ทิ้ง คนมีฝีมือที่ไร้อำนาจอิทธิพลไร้ภูมิหลังถึงจะเลิกห่วงหน้าพะวงหลัง ถึงจะมีคนอยากฝ่าฟันเพื่ออนาคต สำหรับคนส่วนใหญ่ ตำแหน่งผู้บัญชาการใหญ่ของตลาดสวรรค์มีแรงดึงดูดเยอะมาก!&#8221;</p>
<p>ซือหม่าเวิ่นเทียนจึงซักถามว่า &#8220;ถ้าเป็นอย่างที่เจ้าบอกจริงๆ แล้วใครจะมาดูแลตลาดสวรรค์แปดพันแห่งล่ะ? แล้วใครจะกล้ารับหน้าที่เป็นศัตรูกับขุนนางใหญ่เต็มราชสำนัก? เจ้าคงจะให้ฝ่าบาทกระโดดขึ้นมาตั้งตัวเป็นศัตรูกับขุนนางใหญ่ทุกคนของตัวเองไม่ได้หรอกกระมัง?&#8221;</p>
<p>ประมุขชิงได้ยินแล้วขมวดคิ้วเบาๆ เช่นกัน</p>
<p>&#8220;เรื่องของวังหลังไม่ใช่สิ่งที่ข้าน้อยจะไปถามได้&#8221; เกาก้วนตอบอย่างไม่ใส่ใจ</p>
<p>&#8220;วังหลัง…&#8221; ซือหม่าเวิ่นเทียนจะถามต่อ แต่พูดไปได้ครึ่งเดียวก็นิ่งเงียบพูดไม่ออกแล้ว เหมือนจะนึกอะไรได้ หันหน้าช้าๆ ไปมองในทุ่งนา</p>
<p>ประมุขชิงก็เหลือบตามองไปที่ทุ่งนาเช่นกัน สายตาไปหยุดอยู่บนตัวราชินีสวรรค์เซี่ยโห้วเฉิงอวี่ที่กำลังก้มตัวทำงานในทุ่งนา คิ้วที่ขมวดคลายออก อดไม่ได้ที่จะยิ้มอย่างเข้าใจ ในที่สุดก็ลุกขึ้นยืนแล้ว ชี้เกาก้วนพร้อมบอกกว่า &#8220;เกาก้วน ถ้าให้คนอื่นรู้ว่าเจ้าเป็นคนออกความคิดนี้ เจ้าคงจะทำให้ขุนนางใหญ่ขุ่นเคืองทั้งราชสำนักแล้ว&#8221;</p>
<p>&#8220;ข้าน้อยไม่จำเป็นต้องไว้หน้าพวกเขา เพียงทำเรื่องที่ตัวเองควรจะทำขอรับ!&#8221; เกาก้วนตอบเสียงเรียบ</p>
<p>&#8220;พูดได้ดี!&#8221; ประมุขชิงยกมือขึ้นตบบ่าเขา แล้วเอามือไขว้หลังเดินผ่านกลางทั้งสองไป ไปยืนอยู่ข้างคันนาเงียบๆ รับสายลมโชยแผ่วๆ</p>
<p>เกาก้วนกับซือหม่าเวิ่นเทียนเดินตามอยู่ข้างหลัง ซือหม่าเวิ่นเทียนมองเกาก้วนพลางส่ายหน้าเบาๆ ทำสีหน้าทอดถอนใจเบาๆ ไม่รู้ว่ากำลังทอดถอนใจอะไร</p>
<p>&#8220;ไม่น่าเชื่อว่าแดนอเวจีจะมีทางเข้าออกอีกทาง!&#8221; ประมุขชิงกล่าวเสียงต่ำ แล้วเงยหน้ามองฟ้า หรี่ตาพึมพำว่า &#8220;หรือว่าใต้หล้ากำลังจะเกิดเรื่องแล้ว?&#8221;</p>
<p>หลังจากนั้นครึ่งเดือน ราชสำนักของตำหนักสวรรค์ก็เกิดความปั่นป่วนโกลาหล&#8230;</p>
<p>&#8220;มีเรื่องอะไรกัน?&#8221;</p>
<p>เหมียวอี้รีบร้อนเข้ามาในชัยภูมิถ้ำสวรรค์ เมื่อเห็นอวิ๋นจือชิวเข้ามาต้อนรับก็เอ่ยถามทันที</p>
<p>ช่วงนี้เขาหลบฝึกตนอยู่กับจีเหม่ยลี่ตลอด กำลังทำความเข้าใจเรื่องการสร้างพื้นที่ว่างในกายเนื้อ พอจะเก็บเกี่ยวอะไรได้บ้างแล้ว แน่นอนว่าการศึกษาเรื่องสร้างพื้นที่ว่างในกายเนื้อเป็นหนึ่งในผลพลอยได้ การได้เกี้ยวพาราสีสาวงามขายาวก็ได้รสชาติไปอีกแบบ เขาต้องการจะจีบสาวงามขายาวให้ติดโดยไม่ต้องจ่ายค่าตอบแทน ถ้าต้องต่อรองราคากับอนุภรรยาของตัวเองถึงจะทำเรื่องอย่างนั้นได้ แบบนั้นเขารู้สึกไม่ประสบความสำเร็จ ช่วงนี้เขารู้สึกว่าตัวเองได้เปรียบแล้ว จีเหม่ยลี่ยืดหยุ่นผ่อนปรนขึ้นเยอะ อย่างน้อยก็ไม่ขัดขืนเวลาเขาลวนลาม มือของเขาได้ตักตวงผลประโยชน์ไปแล้วไม่น้อย</p>
<p>ถึงแม้จีเหม่ยลี่จะยังรักษาแนวป้องกัน แต่เหมียวอี้ก็รู้สึกว่าวันที่ตัวเองจะได้ฝ่าแนวป้องกันอยู่ไม่ไกลแล้ว เขาแอบใช้ชีวิตแต่ละวันอย่างสดชื่น ไม่อย่างนั้นการฝึกตนอย่างช้าๆ ก็จะทำให้เหงาเกินไป</p>
<p>อวิ๋นจือชิวรับน้ำชาที่เชียนเอ๋อร์ยกมา แล้ววางลงตรงหน้าเหมียวอี้ จากนั้นนั่งลงข้างๆ &#8220;หนิวเอ้อร์ ข้าเพิ่งได้ยินข่าวมา ว่าผู้บัญชาการใหญ่ของตลาดสวรรค์สายมะเมียสามคนโดนปล้นฆ่าตอนออกไปข้างนอก ทำให้จอมพลสายมะเมียเคลื่อนไหวใหญ่โต ได้ยินว่ากำหนดตัวผู้ร้ายที่หลบหนีได้แล้ว พวกเขาไล่ฆ่าไปตลอดทางจนถึงแดนอเวจี แต่ก็ยังทำให้ผู้ร้ายหนีรอดไปได้&#8221;</p>
<p>เหมียวอี้พยักหน้าบอกว่า &#8220;ภายในของระบบขุนนางข่าวไวกว่าเจ้า ข้าได้ยินข่าวนี้มาตั้งแต่หลายวันก่อนแล้ว ได้ยินว่าใช้นักพรตพลังอิทธิฤทธิ์อนันตภาพสามคนไล่ฆ่าแต่ก็ยังปล่อยให้ผู้ร้ายหนีรอดไปได้ จุจุ! คนที่กล้าทำเรื่องแบบนี้มีความสามารถจริงๆ ไม่รู้เหมือนกันว่าผู้ร้ายเป็นใคร กล้าหาญใช้ได้ เรื่องนี้เกิดที่สายมะเมีย ไม่เกี่ยวข้องกับพวกเราหรอก เจ้าเรียกข้ามาเพราะเรื่องนี้น่ะเหรอ?&#8221;</p>
<p>อวิ๋นจือชิวเตือนอย่างจริงจังว่า &#8220;เรื่องนี้มีให้เห็นเป็นตัวอย่างแล้ว เจ้าจะประมาทเลินเล่อไม่ได้เด็ดขาด ต่อไปถ้าออกจากตลาดสวรรค์ก็พยายามปลอมตัวด้วย อย่าคิดว่าเรื่องแบบนี้จะไม่เกิดขึ้นกับเจ้า ถ้าเกิดเรื่องนี้กับตัวเองจริงๆ จะมาเสียใจทีหลังก็สายไปแล้ว!&#8221;</p>
<p>&#8220;รู้แล้วน่า!&#8221; เหมียวอี้กล่าวกลั้วหัวเราะ เขารู้สึกกินปูนร้อนท้องนิดหน่อย ที่เขารู้ข่าวนี้ล่วงหน้าไม่ใช่เพราะหน่วยงานภายในของฝ่ายขุนนาง แต่เป็นเพราะหวงฝู่จวินโหรวส่งข่าวมาบอกเขา เตือนเขาว่าต่อไปถ้าจะออกข้างนอกต้องระวังตัว เขาจึงวางเรื่องที่ทำให้รู้สึกผิดเอาไว้ก่อน แล้วเปลี่ยนประเด็นพูดว่า &#8220;ฮูหยิน เปรียบเทียบที่อยู่ของเคล็ดวิชาวิญญาณหยินเชื่อมหยางภาคดินหรือยัง? ถือโอกาสตอนที่ข้ายังไม่รายงานตัวกับปี้เยว่ฮูหยิน จะออกไปอีกสักรอบ รีบจัดการเรื่องนี้เร็วๆ หน่อย&#8221;</p>
<p>&#8220;เปรียบเทียบที่อยู่ได้ตั้งนานแล้ว แต่ข้ารู้สึกว่าไม่ต้องหาเคล็ดวิชานี้ก็ได้ ข้าก็เลยไม่ได้บอกเจ้า&#8221; อวิ๋นจือชิวกล่าว</p>
<p>เหมียวอี้กล่าวอย่างแปลกใจว่า &#8220;จะไม่หาได้ยังไง ที่ซ่อนสมบัตินี้คือเบาะแสที่เชื่อมโยงกันเป็นทอดๆ ถ้าไม่ตามหาที่นี่ก็เท่ากับตัดขาดเคล็ดวิชาที่จะตามมาทีหลัง…เจ้าคงไม่ได้คิดจะไปตามหาเองหรอกใช่มั้ย? ข้าขอเตือนเจ้าไว้เลยนะ อย่าทำซี้ซั้วเด็ดขาด เรื่องนี้เจ้าไปทำเองไม่ได้ ถ้าไม่เชื่อฟังก็อย่าโทษว่าข้าแตกหักแล้วกัน!&#8221;</p>
<p>อวิ๋นจือชิวถอนหายใจแล้วบอกว่า &#8220;ต่อให้เจ้าจะให้ข้าไป แต่ข้าก็ไม่กล้าไปอยู่ดี และข้าก็ไม่คิดจะให้เจ้าไปด้วย เจ้ารู้มั้ยว่าเคล็ดวิชาวิญญาณหยินเชื่อมหยางภาคดินซ่อนอยู่ที่ไหน?&#8221;</p>
<p>เหมียวอี้ย่อมถามว่า &#8220;อยู่ที่ไหน?&#8221;</p>
<p>อวิ๋นจือชิวพยักหน้าบอกใบ้เชียนเอ๋อร์ เชียนเอ๋อร์เข้าใจทันที ตอบแทนว่า &#8220;นายท่าน ที่ซ่อนสมบัติก็คือสถานที่ที่คนร้ายของสายมะเมียหนีไปซ่อนตัว อยู่ที่แดนอเวจีเจ้าค่ะ!&#8221;</p>
<p>&#8220;&#8230;&#8221; เหมียวอี้อ้าปากค้างไปพักใหญ่ สุดท้ายกล่าวอย่างหัวเราะไม่ได้ร้องไห้ไม่ออกว่า &#8220;ทำไมไปซ่อนอยู่ที่นั่นได้? สงสัยจะไม่มีทางเลือกแล้ว ทางเข้าออกใหม่ก็โดนตำหนักสวรรค์ปิดล้อมแล้ว ต่อให้พวกเราอยากจะไปแต่ก็ไปไม่ได้อยู่ดี&#8221;</p>
<p>…………………………</p>

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด