พิชิตสวรรค์ ทะยานฟ้า 1180 รับความอัปยศใหญ่หลวง

Now you are reading พิชิตสวรรค์ ทะยานฟ้า Chapter 1180 รับความอัปยศใหญ่หลวง at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

<p>&#8220;ตอนการทดสอบในปีนั้นข้าเคยทรยศเขาครั้งหนึ่ง แต่เขาก็ไม่ถือสาและช่วยชีวิตข้าไว้  ถ้าไม่ใช่เพราะเขา เกรงว่าข้าคงจะไม่รอดชีวิตกลับมาหรอก ตอนหลังเขาก็วางตัวกับข้าดี จู่ๆ ก็เป็นแบบนี้ ท่านทำกับเขามากเกินไปหรือเปล่า?&#8221; มู่หรงซิงหัวกล่าวถามอย่างจนใจ</p>
<p>เฉาว่านเสียงพูดเหยียดว่า &#8220;ทำไมเขาถึงไม่ถือสาเจ้าล่ะ? ทำไมถึงช่วยชีวิตเจ้าไว้ล่ะ? ทำไมถึงวางตัวกับเจ้าดี? ผู้บัญชาการต่ำต้อยอย่างเขากล้าไม่เคารพหัวหน้าภาคอย่างข้าเหรอ? ถ้าจะพูดให้ถูกก็เป็นเพราะฐานะของข้าไง เขาไม่กล้าทำบุ่มบ่ามก็เท่านั้นเอง ตอนแรกเขาฆ่าคนมากมายอย่างสบายใจโดยไม่สนผลที่จะตามมา ตอนนี้ถึงเวลาที่เขาต้องชดใช้หนี้แล้ว แกว่งเท้าหาเสี้ยนเองทั้งนั้น ฟังข้านะ ต่อไปนี้รักษาระยะห่างกับเขาหน่อย ถ้าเปลี่ยนคนรับช่วงต่อตลาดสวรรค์แล้วเจ้าจะได้ไม่ลำบาก&#8221;</p>
<p>มู่หรงซิงหัวจะไปเถียงอะไรเขาได้? ทำได้เพียงถอนหายใจ&#8230;</p>
<p>สวีถังหราน ฝูชิงและอิงอู๋ตี๋ยืนอยู่ข้างหลังเหมียวอี้ เหมียวอี้ยืนตัวตรงอยู่ตรงหน้าพวกเขา ไม่ได้ไปเบียดแย่งทางกับคนอื่น มองดูกลุ่มหัวหน้าภาคจากไป แล้วก็มองดูกลุ่มผู้บัญชาการใหญ่ของตลาดสวรรค์นำลูกน้องจากไป</p>
<p>เมื่อคนไปกันหมดแล้ว เหมียวอี้ถึงได้บอกว่า &#8220;ไปกันเถอะ!&#8221;</p>
<p>ทั้งสี่เพิ่งจะหันตัว จู่ๆ ด้านหลังก็มีเสียงของปี้เยว่ฮูหยินดังมา &#8220;ยังไม่ไปอีกเหรอ มีเรื่องอะไรหรือเปล่า?&#8221;</p>
<p>ทั้งสี่หันกลับมาอีกครั้ง เห็นปี้เยว่ฮูหยินกับท่านโหวเทียนหยวนเดินออกมาจากตำหนักใหญ่ด้วยกัน ไม่รู้ว่าเทียนหยวนเข้าไปในตำหนักใหญ่ตั้งแต่ตอนไหน</p>
<p>สายตาของเทียนหยวนหยุดบนตัวเหมียวอี้ชั่วขณะ แล้วก็ขมวดคิ้วเบาๆ ทันที</p>
<p>ทั้งสี่ย่อมรีบก้าวขึ้นมาคำนับ โค้งตัวกุมหมัดพร้อมกัน &#8220;คำนับท่านโหว คำนับฮูหยิน&#8221;</p>
<p>เทียนหยวนที่เดินลงบันไดมองลงมาอย่างเหยียดหยามแวบหนึ่ง แล้วก็ไม่ได้มองอะไรอีก เอามือไขว้หลังเดินผ่านไปเลย</p>
<p>&#8220;ท่านโหว คนนี้คือหนิวโหย่วเต๋อ…&#8221; ปี้เยว่ฮูหยินกล่าวเตือน แต่เทียนหยวนไม่ได้หันกลับมามองแม้แต่แวบเดียว ทำให้นางอึ้งอยู่บ้าง นางจึงหันตัวมากล่าวพร้อมรอยยิ้มว่า &#8220;คืนนี้ต้องดื่มหลายๆ จอกนะ&#8221; พูดจบก็รีบเร่งฝีเท้าเดินตามไป</p>
<p>&#8220;ขอรับ!&#8221;  หลังจากเอ่ยรับแล้ว พวกเหมียวอี้ถึงได้วางมือและยืนตัวตรง มองส่งเทียนหยวนและฮูหยินเดินหายไปในประตูพระจันทร์</p>
<p>ตอนแรกที่โดนเฉาว่านเสียงเหยียดหยาม เหมียวอี้ก็ยังไม่สะเทือนอารมณ์เท่าไรนัก ส่วนผู้บัญชาการใหญ่ของตลาดสวรรค์พวกนั้น เขาก็ยิ่งมองข้าม แต่ปฏิกิริยาของเทียนหยวนในตอนนี้กลับทำให้เขาเริ่มหวาดระแวงแล้ว เห็นได้ชัดเจนมาก ว่าท่าทีของเทียนหยวนสามารถส่งผลกระทบต่อปี้เยว่ฮูหยินโดยตรง หลังจากนี้ตนต้องทำงานอยู่ใต้บังคับบัญชาของปี้เยว่ฮูหยิน ถ้าวุ่นวายจนไม่ได้รับการช่วยเหลือจากปี้เยว่ฮูหยิน ก็เกรงว่าจะไม่ได้ใช้ชีวิตอย่างสงบสุข</p>
<p>สวีถังหราน ฝูชิงและอิงอู๋ตี๋ค่อนข้างผิดหวังในใจ พี่ใหญ่เบื้องบนมีท่าทีแบบนี้ แล้วต่อไปจะหากินอยู่ในตำหนักสวรรค์ได้อย่างไรล่ะ!</p>
<p>&#8220;กันเถอะ!&#8221; เหมียวอี้ถอนหายใจช้าๆ แล้วหันตัวพาทั้งสามจากไป</p>
<p>ที่สวนด้านใน ปี้เยว่ฮูหยินเร่งฝีเท้าเดินตามเทียนหยวน นางดึงแขนเสื้อเขาพร้อมบอกว่า &#8220;เจ้าทำแบบนี้หมายความว่ายังไง? ถึงยังไงเขาก็เป็นลูกน้องข้า เจ้าไว้หน้าข้าสักหน่อยไม่ได้เหรอ ต่อไปจะให้ลูกน้องมองข้ายังไง?&#8221;</p>
<p>เทียนหยวนกลับยิ้มอย่างไม่ใส่ใจ &#8220;หลังจากราชินีสวรรค์ประกาศเรื่องปรับปรุงตลาดสวรรค์ เขาก็หมดสิทธิ์ที่จะเป็นผู้บัญชาการใหญ่ตลาดสวรรค์แล้ว แล้วอีกอย่าง ท่านโหวอย่างข้าจำเป็นต้องเกรงใจผู้บัญชาการใหญ่ด้วยเหรอ? ข้าเกรงใจไหวเหรอ?&#8221;</p>
<p>ปี้เยว่ฮูหยินแปลกใจทันที &#8220;ตอนแรกเจ้าชื่นชมเขามากไม่ใช่เหรอ? เจ้าบอกไม่ใช่เหรอว่าเขาเป็นคนมีฝีมือ ตั้งใจรั้งไว้เพื่อให้ช่วยข้าอีกแรงไม่ใช่รึไง?&#8221;</p>
<p>เทียนหยวนยิ้มเยาะ &#8220;นั่นมันก่อนที่จะประกาศเรื่องปรับปรุงตลาดสวรรค์ ตอนนี้แม้แต่ข้าเองยังช่วยเขาไม่ได้เลย จำไว้นะ คนมีฝีมือที่ไม่มีโอกาสเติบโต ก็เท่ากับเป็นคนไม่มีฝีมือนั่นแหละ!&#8221;</p>
<p>&#8220;เจ้าใช้อิทธิพลเกินไปหรือเปล่า จำเป็นต้องทำแบบนี้ด้วยเหรอ? ทำตัวให้สมกับเป็นท่านโหวสักหน่อยได้มั้ย? ภายนอกแสดงละครสักหน่อยไม่ได้รึไง?&#8221; ปี้เยว่ฮูหยินกลอกตามองเขา</p>
<p>เทียนหยวนพูดเหยียดว่า &#8220;เจ้าหมอนั่นล่วงเกินคนมากมายขนาดนั้น ทั้งยังรู้เรื่องบางอย่างที่ไม่สมควรจะได้รู้ ถ้าไม่ใช่เพราะเขาถูกกำหนดไว้ในรายชื่อและต้องตายแน่นอน บวกกับตอนนี้ไม่มีใครเต็มใจจะเปลี่ยนตัวไปเป็นผู้บัญชาการใหญ่ที่ต้องเอาชีวิตไปทิ้ง ไม่อย่างนั้นเขาจะยังได้มาเดินโอ้อวดอยู่ตรงนี้เหรอ? เดิมทีไม่ต้องให้คนอื่นลงมือหรอก ข้าให้เจ้าลงมือกับเขาเพื่อให้คำอธิบายกับคนอื่นไปตั้งนานแล้ว ที่ไม่ไปแตะต้องเขาก็นับว่าไว้หน้ามากพอแล้ว เจ้ายังจะให้ข้าทำยังไงอีก?&#8221;</p>
<p>ปี้เยว่ฮูหยินถอนหายใจแล้วบอกว่า &#8220;ถึงอย่างไรเขาก็ติดตามรับใช้ข้ามาหลายปี&#8221;</p>
<p>เทียนหยวนจึงบอกว่า &#8220;เรื่องบางเรื่องเขาแกว่งเท้าหาเสี้ยนเอง ถ้าตอนแรกเขาไม่บุ่มบ่ามทำเรื่องแบบนั้น เขาจะมีจุดจบแบบวันนี้เหรอ? ถ้าไม่ไปล่วงเกินคนมากมายขนาดนั้น อาศัยความสามารถอย่างเขา ก็ยังมีหวังว่าจะรอดชีวิตกลับมาได้บ้าง ตอนนี้…เจ้าเชื่อมั้ยว่าพอเขาก้าวเข้านรกไป ก็จะโดนคนเป็นโขยงเล่นงานจนตายทันที? ต่อให้ไม่เข้าไปในนรก อนาคตเขาก็พังอยู่ดี ข้าจำเป็นต้องผิดใจกับคนอื่นเพื่อปกป้องคนไร้อนาคตอย่างเขาด้วยเหรอ? คนเราเมื่ออยู่ในสังคมแล้วไม่มองดูภาพรวม ทำอะไรวู่วามอาศัยแต่ความชอบตัวเอง ถ้าอย่างนั้นสุรารสขมที่หมักเอง ตัวเองก็ต้องกลืนลงคอเองให้ได้ ถ้าเข้ามาอยู่ในวงการนี้แล้วไม่เล่นตามกติกาของวงการนี้ นั่นก็เท่ากับรนหาที่ตายเอง เจ้ากับข้าหนุนหลังให้เขามาหลายปีขนาดนี้ ก็นับว่าทำดีที่สุดแล้ว ไม่ติดค้างอะไรเขาแล้ว ไม่ต้องคิดมาก!&#8221;</p>
<p>ปี้เยว่ฮูหยินเดินตามหลังเขา ก้มหน้าพึมพำว่า &#8220;ถ้าเขากลับมาได้อย่างปลอดภัยล่ะ?&#8221;</p>
<p>เทียนหยวนบอกว่า &#8220;ความคิดของผู้หญิงนี่นะ! แล้วยังไงล่ะ? กลับมาแล้วก็ยังเป็นลูกน้องของเจ้า ยังต้องเชื่อฟังเจ้า ทั้งยังต้องหวังให้เจ้าหนุนหลังอีก เขาจะพลิกฟ้าได้เชียวเหรอ?&#8221;</p>
<p>พอตกกลางคืน ในจวนแม่ทัพภาคตงหัวก็จัดงานเลี้ยงสุราใหญ่โต แม่ทัพภาคปี้เยว่แสดงความขอบคุณต่อผู้ที่มา</p>
<p>คนระดับหัวหน้าภาคล้วนอยู่ที่สวนด้านใน ส่วนคนที่เหลือนั่งด้านนอกสวน</p>
<p>ขณะที่เหมียวอี้และผู้บัญชาการของตัวเองถูกพาไปนั่งที่โต๊ะของผู้บัญชาการใหญ่ เขาเห็นโต๊ะของผู้บัญชาการใหญ่จางฮั่นฟางว่างอยู่ครึ่งหนึ่ง ถึงได้พาคนของตัวเองเข้าไปนั่ง</p>
<p>แต่ใครจะคิดว่าจู่ๆ จางฮั่นฟางจะยื่นมือพร้อมบอกว่า &#8220;ขออภัยนะ ตรงนี้มีคนนั่งแล้ว&#8221;</p>
<p>เหมียวอี้มองเขาแวบหนึ่ง แล้วหันตัวไปยังโต๊ะถัดไป ปรากฏว่าผู้บัญชาการใหญ่ติงเจ๋อเฉวียนก็ยื่นมือห้ามเช่นกัน &#8220;ตรงนี้ก็มีคนนั่งแล้วเหมือนกัน&#8221;</p>
<p>&#8220;ตรงนี้มีคนจองไว้แล้ว&#8221; หลิ่วกุ้ยผิงที่อยู่โต๊ะถัดไปยื่นมือห้ามเช่นกัน</p>
<p>เหมียวอี้เหลือบมองที่นั่งตรงแถวนี้แวบหนึ่ง พบว่านอกจากผู้บัญชาการใหญ่หญิงสามคนที่ไม่อยู่ ผู้บัญชาการใหญ่ที่เหลืออีกหกคนก็ให้ลูกน้องไปนั่งแยกที่อื่น ยึดครองที่นั่งแถวนี้ไว้เต็มหมดแล้ว เดิมทีมีที่นั่งว่างอยู่แล้วแท้ๆ ชัดเจนว่ากำลังจงใจกลั่นแกล้งเขา</p>
<p>&#8220;ทุกท่านทำแบบนี้หมายความว่าอย่างไร? คนก็มากันครบแล้วยังจะมีใครอีก?&#8221; เหมียวอี้ถามเสียงเรียบ</p>
<p>จู่ๆ ผู้บัญชาการใหญ่เหยาสิ้งก็กวักมือ กลุ่มผู้จัดการร้านที่นั่งอยู่ข้างหลังลุกขึ้นเดินเข้ามาพร้อมเสียงหัวเราะทันที มาทยอยกันนั่งลงตรงตำแหน่งว่าง</p>
<p>ผู้บัญชาการใหญ่รุ่ยฝานกล่าวกลั้วหัวเราะว่า &#8220;เต็มแล้ว ตอนนี้เห็นแล้วรึยัง? ผู้บัญชาการใหญ่หนิว ตรงนี้ไม่มีที่นั่งของท่านหรอก ไปดูที่อื่นแล้วกัน&#8221;</p>
<p>ที่นั่งแถวที่อยู่ทางนี้ ผู้จัดการร้านอีกกลุ่มที่นั่งอยู่ข้างหลังหัวเราะเสียงดังทันที เรียกได้ว่าเสียงหัวเราะดังเป็นแถบ</p>
<p>พวกผู้จัดการร้านที่มาจากดาวเทียนหยวนทำได้เพียงกลั้นขำ ไม่กล้าหัวเราะออกมาก็เท่านั้นเอง</p>
<p>เหมียวอี้กลับทำสีหน้าเรียบเฉย แต่สวีถังหราน ฝูชิงและอิงอู๋ตี๋สีหน้าแย่นิดหน่อย</p>
<p>อวิ๋นจือชิวกับหวงฝู่จวินโหรวนั่งอยู่ไม่ไกล พวกนางมองเหมียวอี้กับลูกน้องที่ยืนอยู่ท่ามกลางเสียงหัวเราะเยาะอย่างตะลึงงัน อวิ๋นจือชิวกัดริมฝีปากอย่างปวดใจ ส่วนหวงฝู่จวินโหรวทำสีหน้าสับสน ไม่มีทางจินตนาการได้เลยว่าผู้บัญชาการใหญ่หนิวที่สูงส่งอยู่ที่ดาวเทียนหยวนจะทนความอัปยศแบบนี้ได้</p>
<p>ในโอกาสและสถานที่แบบนี้ ผู้หญิงทั้งสองได้เห็นเองกับตาว่าเหมียวอี้ได้รับความอับอายสุดจะทนอยู่ท่ามกลางฝูงชน</p>
<p>เหมียวอี้กวาดสายตามองผู้จัดการร้านที่วิ่งเข้ามาครองที่นั่ง ไม่มีใครคุ้นตาสักคน ไม่มีใครมาจากดาวเทียนหยวน แล้วก็หันกลับมากวาดสายตามองรอบๆ พอสายตาสบประสานกับอวิ๋นจือชิวและหวงฝู่จวินโหรวแล้ว ก็หันกลับมาบอกลูกน้องว่า &#8220;ไปกันเถอะ!&#8221;</p>
<p>เขานำลูกน้องทั้งสามไปที่โต๊ะของอวิ๋นจือชิว เมื่อเห็นโต๊ะนี้ยังว่างอยู่ เขาก็นั่งลงทันที หลังจากนั่งลงแล้วก็พยักหน้าบอกทั้งสองว่า &#8220;ผู้จัดการร้านหวงฝู่ ผู้จัดการร้านอวิ๋น ไม่มีที่ให้นั่งแล้ว ขอนั่งด้วย&#8221;</p>
<p>&#8220;หึหึ! มุดเข้าใต้กระโปรงผู้หญิงเพื่อปิดบังความอับอายแล้ว&#8221;</p>
<p>จางฮั่นฟางที่อยู่ทางนั้นพลันเงยหน้ามองฟ้าถอนหายใจ ไม่ได้หันหน้ามาหาเหมียวอี้ แต่ใครก็รู้ทั้งนั้นว่าหมายถึงเหมียวอี้ ทำให้เกิดเสียงหัวเราะลั่นดังเป็นแถบอีกครั้ง</p>
<p>เหมียวอี้ทำเหมือนไม่ได้ยิน มองอวิ๋นจือชิวที่นั่งอยู่ตรงข้ามแวบหนึ่ง อวิ๋นจือชิวส่ายหน้าเล็กน้อย บอกใบ้เขาว่าอย่าวู่วาม</p>
<p>นางกลัวว่าเหมียวอี้จะระเบิดอารมณ์ แค่ดูสถานการณ์ก็รู้แล้ว ถ้าหากมีการลงมือสู้กันขึ้นมา ทุกคนก็จะตั้งตัวเป็นศัตรูกับเหมียวอี้ เขาจะต้องเสียเปรียบแน่นอน</p>
<p>พวกฝูชิงก็กังวลมากเช่นกันว่าเหมียวอี้จะวู่วาม ผู้บัญชาการใหญ่เหมียวทำอะไรวู่วามมาตลอด!</p>
<p>ทว่าเหมียวอี้ในวันนี้ควบคุมอารมณ์ได้ดีเป็นพิเศษ ทำสีหน้าเรียบเฉยมาตลอด ไม่มีท่าที่ว่าจะระเบิดอารมณ์</p>
<p>จนกระทั่งสุราอาหารมาครบแล้ว คำพูดเยาะเย้ยแดกดันก็ยังดังไม่หยุด</p>
<p>มู่หรงซิงหัวกลับมาก่อนแล้ว ตอนที่หาพวกเหมียวอี้ที่นั่งอยู่ทางนี้เจอ ตอนแรกก็ยังไม่รู้ว่าคนกลุ่มหนึ่งกำลังพูดจาแดกดันใคร รอจนกระทั่งรายงานตัวกับเหมียวอี้แล้วนั่งลง ถึงได้รู้ว่าคนกลุ่มนั้นกำลังพูดจาแดกดันเหมียวอี้</p>
<p>&#8220;ก็แค่ไอเด็กเมื่อวานซืนที่หลบวางมาดอยู่ในอาณาเขตของตัวเอง พอก้าวออกจากประตูมาก็เป็นแค่เต่าหัวหด&#8221;</p>
<p>&#8220;ไอ้พวกอาศัยบารมีคนอื่นมาอวดเบ่ง นับเป็นตัวอะไรกัน&#8221;</p>
<p>&#8220;จะพูดอย่างนั้นก็ไม่ได้นะ เขามีอำนาจบารมีจะตาย ตัดหัวคนไปหลายพัน นึกว่าในโลกนี้จะไม่มีใครกล้าตีหมาละมั้ง&#8221;</p>
<p>&#8220;ถ้าเก่งนักก็ลองให้เขามาฆ่าคนในอาณาเขตข้าดูบ้างสิ ข้าจะตัดขาเขาทิ้งเลย ถ้าข้าด่าเขา เขาจะกล้าเถียงรึเปล่านะ?&#8221;</p>
<p>&#8220;อย่างน้อยเวลาจะตีหมาก็ต้องดูเจ้าของด้วย ต่อให้ไม่ไว้หน้าคนอื่น แต่พวกเราก็ต้องไว้หน้าแม่ทัพภาค!&#8221;</p>
<p>&#8220;พวกเจ้าว่าไอ้เด็กนี่มันจะกล้าเข้าร่วมการทดสอบมั้ย!&#8221;</p>
<p>&#8220;ถ้ามันเข้าร่วมการทดสอบ ข้าก็จะเล่นงานมันให้ตาย แต่ถ้าไม่เข้าร่วม ข้าก็จะถือเชือกมัดสุนัขไปสวมคอมันแล้วจูงมันเดินเล่น&#8221;</p>
<p>เสียงพูดจาเยาะเย้ยถากถางดังเป็นระลอก เสียงหัวเราะก็ดังเป็นระลอกเช่นกัน บรรยากาศทางนี้คึกคักมาก เพียงแต่ฝูชิง อิงอู๋ตี๋ สวีถังหรานที่อยู่ท่ามกลางสายตาฝูงชนถูกมองจนเงยหน้าไม่ขึ้นสักเท่าไร</p>
<p>ต่อให้เป็นคนหน้าด่านหน้าทนอย่างสวีถังหรานก็ยังนั่งไม่ติดที่แล้ว</p>
<p>สีหน้าของมู่หรงซิงหัวค่อนข้างแย่ นางเอียงหน้ามองเหมียวอี้อยู่เป็นระยะ คนที่กล้าก้าวออกไปเสี่ยงตายต่อสู้ครั้งแล้วครั้งเล่าในการทดสอบครั้งก่อน นางแทบจะไม่กล้าเชื่อว่าเขาจะสามารถอดทนกับความอัปยศแบบนี้ได้!</p>
<p>อวิ๋นจือชิวหน้าตึงมาก หมัดที่กำอยู่ใต้โต๊ะกำลังสั่นเทิ้ม เริ่มจะทนฟังต่อไปไม่ไหวแล้ว เมื่อเห็นนางกำลังจะระเบิดอารมณ์ เหมียวอี้กลับชูจอกสุราพูดยับยั้งว่า &#8220;ดื่มสุรา!&#8221;</p>
<p>คนโต๊ะนี้ชูจอกสุราตามเงียบๆ ต่างก็หวังว่าจะได้ออกจากงานเลี้ยงนี้ไปเร็วๆ หน่อย แต่ใครจะคิดว่าเหมียวอี้ไม่มีท่าทีว่าจะลุกออกจากโต๊ะล่วงหน้าเลย ดันทุรังกินดื่มอยู่ในงานท่ามกลางเสียงหัวเราะเยาะจนงานจบ</p>
<p>หลังจากงานเลี้ยงเลิก จวนแม่ทัพภาคตงหัวก็ไม่มีที่พักให้แขกมากมายขนาดนั้น คนส่วนใหญ่กล่าวอำลาและกลับไปพร้อมเจ้านายตัวเอง</p>
<p>ตอนที่เหมียวอี้นำลูกน้องทั้งสี่ไปบอกลาปี้เยว่ฮูหยิน ปี้เยว่ฮูหยินก็มองเหมียวอี้ด้วยแววตาสับสน เป็นไปไม่ได้ที่นางจะไม่ได้ยินเสียงคึกครื้นด้านนอก ระหว่างที่อยู่ในงานเลี้ยงของสวนด้านใน ทีแรกนางก็คิดจะออกไปห้ามปรามสักหน่อย แต่กลับโดนท่านโหวเทียนหยวนดึงข้อมือเอาไว้ นางไม่รู้เลยว่าเหมียวอี้ทนไหวได้อย่างไร</p>
<p>พวกเขาไม่ได้พูดอะไรกันมาก หลังจากบอกลาตามมารยาทแล้ว ก็กำชับให้เหมียวอี้กลับไปเฝ้าตลาดสวรรค์ให้ดี</p>
<p>ตอนที่พวกเมียวอี้ออกจากจวนแม่ทัพภาค ตอนอยู่ในดาราจักรก็ &#8216;บังเอิญ&#8217; เจออวิ๋นจือชิวกับหวงฝู่จวินโหรวที่ออกมาก่อนล่วงหน้า แล้วทั้งสองฝ่ายก็เดินทางออกไปด้วยกัน</p>
<p>ระหว่างทางหวงฝู่จวินโหรวอยากจะพูดอะไรบางอย่างอยู่ตลอด ทว่าไม่สะดวกจะถ่ายทอดเสียงให้คนอื่นมองอะไรออก แต่ความจริงเก็บกดแทบแย่ สุดท้ายก็ฝืนยิ้มพร้อมบอกว่า &#8220;ผู้บัญชาการใหญ่ไม่จำเป็นต้อถือสาคนต่ำช้าที่ปากไม่มีหูรูดพวกนั้น&#8221;</p>
<p>&#8220;เฮอะ! คิดว่าข้ากลัวพวกเขาเหรอ? สินค้าระดับนี้คู่ควรกับข้าหรือไง? ต่อให้เข้ามาพร้อมกัน ข้าก็กล้าฆ่ามันทิ้งได้หลายยกเลย! คนที่ข้าสู้ด้วยจริงๆ คนที่ข้ากลัวจริงๆ ก็คือคนที่ไม่โผล่หน้ามา คนที่ไม่ออกมาพูดอะไรต่างหากล่ะ เพราะข้าไปรู้อะไรบางอย่างที่ไม่สมควรรู้ มีคนอยากจะยืมดาบฆ่าคน ที่ข้าอดทนก็เพราะสิ่งนี้ ส่วนสวะที่เห่าหอนพวกนั้น เดี๋ยวข้าค่อยจัดการพวกมันทีหลังก็ได้!&#8221; เหมียวอี้แสยะยิ้ม</p>
<p>ในระหว่างงานเลี้ยง ที่จริงเขากำลังรอให้ปี้เยว่ฮูหยินโผล่หน้ามาตลอด จะได้ตัดสินท่าทีของคนอีกคนได้ เพราะก่อนหน้านี้ท่าทีของคนคนนั้นทำให้เขาหวาดระแวงกลัว ปรากฏว่าตั้งแต่ต้นจนจบก็ไม่เห็นปี้เยว่ฮูหยินโผล่มาเลย เขาไม่เชื่อหรอกว่าปี้เยว่ฮูหยินจะไม่รู้ถึงความเคลื่อนไหวด้านนอก นี่ต่างหากคือเหตุผลที่แท้จริงที่เขาไม่กล้าลงมือ เพราะคนบางคนมีเจตนาแอบแฝง อยากให้เกิดเรื่องขึ้นกับเขา?</p>
<p>…………………………</p>

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด