พิชิตสวรรค์ ทะยานฟ้า 1182 การขู่ของอวิ๋นรั่วซวง

Now you are reading พิชิตสวรรค์ ทะยานฟ้า Chapter 1182 การขู่ของอวิ๋นรั่วซวง at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

<p>เมื่อได้กลับมาที่พิภพเล็กอีกครั้ง เชียนเอ๋อร์ เสวี่ยอ๋อร์ที่จากที่นี่ไปนานหลายปีก็ตื่นเต้นดีใจอยู่บ้าง เพียงแต่จิตใจและโลกทัศน์ต่างไปจากเดิมโดยสิ้นเชิงแล้ว</p>
<p>ยามเผชิญหน้ากับการคำนับของทุกคนที่แดนอู๋เลี่ยง ทั้งสองก็มีท่าทีสงบเยือกเย็น สำหรับการยึดครองอาณาเขตของปราชญ์เต๋าเฟิงเป่ยเฉินได้ ทั้งสองเหมือนจะไม่รู้สึกเหนือความคาดหมายเลยสักนิด เมื่อได้เห็นนักพรตของพิภพเล็กอีกครั้ง ก็มองด้วยสายตาสอบสวนราวกับอยู่สูงกว่า ทำให้คนอื่นๆ รู้สึกกดดัน</p>
<p>บางทีทั้งสองอาจจะไม่ได้สังเกตเห็นความเปลี่ยนแปลงของตัวเองก็ได้ นึกย้อนไปยังปีแรกที่ติดตามเหมียวอี้ที่ถ้ำคล้อยบูรพา พวกนางระมัดระวังเรื่องเล็กๆ น้อยๆ กดดันราวกับเหนือหัวมีภูเขากดทับหลายลูก ทว่าในตอนนี้หญิงรับใช้อย่างพวกนางสองคนเป็นบุคคลที่อยู่เหนือคนมากมายในพิภพเล็กแล้ว ตอนแรกจะคาดคิดได้อย่างไรว่าตัวเองจะมีวันนี้ได้</p>
<p>โชคชะตาก็เป็นสิ่งที่มหัศจรรย์แบบนี้ ในปีนั้นมีคนที่เข้าร่วมการคัดเลือกหญิงรับใช้กับพวกนางตั้งมากมาย มีบางคนยังติดตามรับใช้เจ้านายตัวเองอยู่ในตำแหน่งต่ำต้อยอยู่เลย เมื่อพูดถึงหญิงรับใช้ทั้งสองของเหมียวอี้แห่งนภาอู๋เลี่ยง ถึงแม้ในปีนั้นจะรู้จักกัน แต่ตอนนี้กลับไม่มีสิทธิ์แม้แต่จะได้แสดงความเคารพด้วยซ้ำ มีบางคนที่ไม่ได้ถูกท่านเซียนคัดเลือก พอออกจากสถานที่ฝึกอบรมก็ตกอับไปเป็นอนุภรรยาของมนุษย์ธรรมดา แก่ตายกลายเป็นกองดินตั้งนานแล้ว</p>
<p>พอกลับมาที่นี่ อวิ๋นจือชิวก็ให้ทั้งสองหยุดพักทันที ให้ทั้งสองไปเที่ยวเล่นให้เต็มที่ ถึงอย่างไรตอนนี้ที่พิภพเล็กก็ไม่มีใครเป็นภัยคุกคามต่อเหมียวอี้ได้ ต่อให้ก่อเรื่องใหญ่โตก็ไม่เป็นไร มีเหมียวอี้คุ้มครองอยู่</p>
<p>หญิงรับใช้ทั้งสองออกไปข้างนอกอย่างตื่นเต้นดีใจพร้อมกับองครักษ์ที่หยางชิ่งส่งมา รีบไปพบเยารั่วเซียนที่สำนักงามวิจิตร อยากจะเห็นว่ามารดาบุญธรรมในอนาคตหน้าตาเป็นอย่างไร</p>
<p>ยามอยู่ต่อหน้าเหมียวอี้กับอวิ๋นจือชิว พวกนางสองคนเป็นบ่าวรับใช้ แต่พอออกจากข้างกายสองคนนั้น พวกนางก็เป็นบุคคลที่อยู่ในระดับเจ้านายของใต้หล้า</p>
<p>&#8220;พี่หญิงใหญ่ พี่เขย!&#8221;</p>
<p>อวิ๋นรั่วซวงที่สวมชุดกระโปรงสีชมพูวิ่งกระโดดโลดเต้นออกมาจากตำหนักหลัง ดวงตางามกลมโต แต่พอมองเห็นคนด วงตาทั้งคู่ก็ยิ้มจนกลายเป็นรูปพระจันทร์เสี้ยว ข้างปากมีลักยิ้มเล็กๆ สองข้าง ฟันขาวสะอาดทั้งปาก ดูน่ารักซุกซน</p>
<p>&#8220;อืม!&#8221; เหมียวอี้พยักหน้ายิ้มแห้งๆ พอเห็นน้องสะใภ้ตัวน้อยคนนี้เขาก็ปวดประสาทนิดหน่อย จิตใต้สำนึกพาให้เขานึกถึงหลัวซวงเฟยผู้เหลวไหลที่มีไฝเส้นขนงอกบนใบหน้า</p>
<p>หลังจากอวิ๋นอ้าวเทียนและคนอื่นๆ ออกจากพิภพเล็กไป อวิ๋นรั่วซวงก็มาหาพี่หญิงใหญ่กับพี่เขยที่นี่ แต่พอหาตัวไม่เจอ นางเด็กน้อยคนนี้ก็วางยาเหยียนซิวเสียเลย พอวางยาจนเหยียนซิวจนเลอะเลือนแล้ว ก็ล้วงข้อมูลจนรู้เรื่องพิภพใหญ่จากปากเหยียนซิว ก็ดีเลย งั้นนางก็อยู่ที่นี่ไม่ไปไหนแล้ว ยึดครองตำหนักอู๋เลี่ยงแล้ว</p>
<p>หยางชิ่งที่นั่งรักษาการณ์อยู่ที่นี่ปวดหัวกับบรรพบุรุษผู้เหลวไหลท่านนี้มาก จะด่าก็ด่าไม่สะดวก จะตีก็ตีไม่ได้ จะไล่ก็ไล่ไม่ได้</p>
<p>&#8220;พี่เขย ท่านเห็นข้าแล้วไม่ดีใจเหรอ?&#8221; อวิ๋นรั่วซวงเอามือไขว้หลังพร้อมยื่นหน้าเข้ามาใกล้เหมียวอี้</p>
<p>เหมียวอี้หัวเราะแห้งๆ พลางถอยหลังโดยจิตใต้สำนึก</p>
<p>&#8220;ไอ๊หยา!&#8221; อวิ๋นรั่วซวงพลันร้องอย่างเจ็บปวด อวิ๋นจือชิวบิดหูนางเดินออกไปแล้ว บิดหูไปพลางด่าไปพลาง &#8220;เจ้าอยากจะเรียนรู้การเป็นกุลสตรีไม่ใช่เหรอ? เป็นกุลสตรีได้ไม่กี่วันก็เผยร่างเดิมเสียแล้ว กล้าถ่อมาวางยาพิษถึงที่นี่ เจ้าวอนมือวอนเท้านักใช่มั้ย!&#8221;</p>
<p>&#8220;พี่หญิงใหญ่ ข้าผิดไปแล้ว ถ้าบิดหูอีกหูข้าจะหลุดแล้วนะ&#8230;&#8221;</p>
<p>เชียนเอ๋อร์ เสวี่ยอ๋อร์ไม่อยู่ หยางชิ่งจึงโบกมือให้ฉินซีพาชิงเหมยกับชิงจวี๋ไปคอยรับใช้อยู่ข้างกายอวิ๋นจือชิว จากนั้นก็เดินเล่นช้าๆ อยู่ข้างกายเหมียวอี้ รายงานเรื่องบางอย่างให้รู้</p>
<p>หลังจากรายงานเรื่องสำคัญเสร็จ หยางชิ่งก็เอ่ยถึงคนคนหนึ่ง &#8220;นายท่าน นี่คือจดหมายที่น้องสาวของท่านฝากไว้ขอรับ&#8221;</p>
<p>&#8220;น้องสาวของข้าเหรอ?&#8221; เหมียวอี้งงไปชั่วขณะ เจ้าสามอยู่ที่พิภพใหญ่ไม่ใช่เหรอ?</p>
<p>หยางชิ่งเตือนว่า &#8220;แดนเซียนขอรับ เหวินฟางจากสมาคมร้านค้าแดนเซียน&#8221;</p>
<p>&#8220;อ้อ!&#8221; เหมียวอี้เข้าใจในทันที หยางชิ่งเคยส่งข่าวมาบอกเขาแล้ว ว่าเหวินฟางเคยมาหาเขา แต่ว่าเขาไม่อยู่ แล้วทางหยางชิ่งเองก็ไม่สะดวกจะบอกว่าเขาไปที่ไหน เหวินฟางที่ค่อนข้างผิดหวังจึงทำได้เพียงทิ้งจดหมายไว้แล้วจากไป กว่านางจะเดินทางมาได้สักครั้งนั้นไม่ง่ายเลย</p>
<p>พอหยิบจดหมายขึ้นมาอ่าน ก็พบว่าในนั้นเป็นคำพูดหยอกล้อทั้งหมด บอกประมาณว่าตอนนี้เขามีหน้ามีตาแล้ว คงจะลืมน้องสาวคนนี้ไปแล้วใช่มั้ย</p>
<p>เหมียวอี้ปาดเหงื่อนิดหน่อย ถ้าไม่พูดถึงเรื่องนี้ เขาก็ลืมน้องสาวจอมเอาเปรียบคนนี้ไปแล้วจริงๆ ถ้าจะพูดแบบไม่น่าฟังหน่อยก็คือ ด้วยสถานการณ์ของเขาในตอนนี้ เขาจะไปจำตัวละครเล็กๆ แบบนี้ได้อย่างไร</p>
<p>หลังจากอ่านจบ เหมียวอี้ก็ไตร่ตรองเล็กน้อย ก่อนจะบอกว่า &#8220;วรยุทธ์อย่างนางทำให้ไปไหนมาไหนลำบาก ส่งคนไปรับนางมาแล้วกัน ผู้หญิงคนนี้รักความก้าวหน้ามาก สามารถทนงานลำบากได้ด้วย แต่อยู่ที่แดนเซียนไม่มีโอกาสอะไร ข้าจะบอกทางมู่ฝานจวินเอง เจ้าไปที่ดูสมาคมร้านค้าของแดนอู๋เลี่ยงสักหน่อย จัดหาตำแหน่งที่เหมาะสมให้นางสักตำแหน่ง ถึงแม้จะไม่ใช่ท้องสาวแท้ๆ แต่ในปีนั้นก็มีไมตรีต่อกันจริงๆ ช่วยข้าดูแลสักหน่อย ให้โอกาสนางสักหน่อยแล้วกัน&#8221;</p>
<p>&#8220;ขอรับ!&#8221; หยางชิ่งเอ่ยรับ &#8220;เดี๋ยวจะกลับไปจัดการขอรับ&#8221;</p>
<p>เหมียวอี้ถอนหายใจแล้วถามอีกว่า &#8220;เรื่องของถานเล่ากับเย่ซินล่ะ ทางจูเก๋อชิงไม่ได้ทำอะไรสองคนนั้นใช่มั้ย?&#8221;</p>
<p>หยางชิ่งยิ้มพร้อมตอบว่า &#8220;นางก็ยังกล่าวคำเดิม ตราบใดที่จัดงานแต่งงานที่พรรคดรุณีหยก และให้นายท่านเป็นเจ้าภาพจัดงานให้ทั้งสอง นางก็จะไม่มีความเห็นแย้งใดๆ แน่นอน เจตนาของนางเดาได้ไม่ยากเลย หลังจากสำนักของแดนเซียนสายมะโรงถูกบังคับให้ย้ายมาอยู่ที่นี่หมด ถ้าอยากจะลงหลักปักฐานที่แดนอู๋เลี่ยงก็ค่อนข้างยากลำบาก ดังนั้นนางจึงอยากจะอาศัยอิทธิพลของนายท่าน เพื่ออนาคตของพรรคดรุณีหยก เจ้าสำนักอย่างนางก็เรียกได้ว่าทุ่มกำลังความคิดไปเยอะมาก และเห็นได้ชัดว่านางก็แน่ใจแล้วเช่นกัน ว่าในเมื่อนายท่านสามารถเอ่ยปากแบบนี้ได้ ก็จะตอบตกลงได้เพราะเห็นแก่หน้าถานเล่าและเย่ซินเช่นกัน ถ้าไม่ใช่เพราะแบบนี้ ข้าน้อยจะต้องให้บทเรียนนางแน่นอน!&#8221;</p>
<p>เหมียวอี้ส่ายหน้าหัวเราะ &#8220;พอแล้ว มาครั้งนี้ก็ถือโอกาสจัดการเรื่องเบ็ดเตล็ดพวกนี้ไปด้วยกันเสียเลยเถอะ ข้าอยู่ที่นี่อย่างมากก็แค่สองเดือน เจ้าบอกให้นางเตรียมการแข่งกับเวลาแล้วกัน ถึงตอนนั้นข้าไปสักเที่ยวก็สิ้นเรื่องแล้ว&#8221;</p>
<p>&#8220;ขอรับ!&#8221; หยางชิ่งเอ่ยรับ</p>
<p>&#8220;เออใช่ เรื่องงานแต่งงานของเยารั่วเซียนกับโม่จวินหลัน เจ้าจัดให้มีหน้ามีตาหน่อยนะ&#8221;</p>
<p>&#8220;เกรงว่าจะไม่ได้ขอรับ ทางนั้นหวังว่าจะจัดให้เรียบง่าย เป็นเจตนาของโม่จวินหลัน พอจะเข้าใจความรู้สึกของโม่จวินหลันได้ ถึงอย่างไรก็เคยผ่านการแต่งงานมาแล้วครั้งหนึ่ง&#8221;</p>
<p>&#8220;งั้นก็ตามใจพวกเขาแล้วกัน&#8221;</p>
<p>ตอนบ่าย เมื่อรู้ว่าเหมียวอี้กับอวิ๋นจือชิวมาแล้ว เยารั่วเซียนก็พาโม่จวินหลันไปคำนับด้วยกัน เห็นได้ชัดว่าโม่จวินหลันค่อนข้างละอายใจ</p>
<p>เรื่องนี้ไม่สำคัญ ที่สำคัญคือเหมียวอี้สังเกตเห็น ว่าหลังจากเยารั่วเซียนกลายเป็นเจ้าสำนักแล้ว เจ้าตัวก็พิจารณาเรื่องต่างๆ เพื่ออนาคตของทั้งสำนักโดยยืนอยู่ในมุมของเจ้าสำนัก ไม่เห็นแก่ตัวเองอีกแล้ว รู้จักเรียนรู้ที่จะเป็นฝ่ายมาคำนับก่อนแล้ว</p>
<p>แน่นอน เห็นได้ชัดว่าเยารั่วเซียนยังอยากจะรักษาหน้าสักหน่อย ถึงอย่างไรก็ดื้อรั้นกับเหมียวอี้มาหลายปีขนาดนั้น จึงมาโดยอ้างว่ามาเยี่ยมเฮยทั่น</p>
<p>ส่วนเชียนเอ๋อร์กับเสวี่ยอ๋อร์ก็ไปเที่ยวเล่นอย่างผ่อนคลายแล้วจริงๆ</p>
<p>ในตำหนักอู๋เลี่ยง เยารั่วเซียนกำลังลูบตัวเฮยทั่นพลางสื่อสารกัน เห็นได้ชัดว่าเขาค่อนข้างตื่นเต้นดีใจ วัดตัวให้เฮยทั่นด้วยตัวเอง เตรียมจะหลอมสร้างเกราะรบให้เฮยทั่น</p>
<p>ส่วนอวิ๋นจือชิวก็จูงมือโม่จวินหลันและพูดคุยยิ้มแย้มอยู่ด้วยกัน นางมีของขวัญมอบให้ต่างหาก เหมียวอี้เห็นแล้วแอยส่ายหน้า ผู้หญิงคนนี้กำลังใช้อุบายซื้อใจคนอีกแล้ว</p>
<p>ฉวยโอกาสตอนที่อวิ๋นจือชิวไม่ว่างเพราะต้องรับแขก อวิ๋นรั่วซวงแอบตามเหมียวอี้ เกาะแกะกวนใจกับเขาแล้ว</p>
<p>ไม่ว่าเหมียวอี้จะเดินไปที่ไหน อวิ๋นรั่วซวงก็ตามไปที่นั่น ดึงแขนเสื้อเหมียวอี้ไม่ยอมปล่อย พัวพันเพื่อให้บรรลุเป้าหมาย &#8220;พี่เขย พาข้าไปด้วยสิ พาข้าไปดูที่พิภพใหญ่หน่อยสิ พี่เขยคนดี พี่เขยที่รัก ขอร้องท่านเถอะนะ&#8221;</p>
<p>เหมียวอี้ที่ถูกดึงแขนเสื้อหยุดฝีเท้าอยู่ใต้ชายคาอย่างจนใจ &#8220;ซวงเอ๋อร์ ชายหญิงไม่ควรใกล้ชิดกัน อย่าฉุดดึงข้าได้มั้ย?&#8221;</p>
<p>อวิ๋นรั่วซวงยิ้มตาหยีทันที ดวงตางามทั้งคู่กลายเป็นรูปพระจันทร์เสี้ยว &#8220;งั้นท่านตอบตกลงข้าก็สิ้นเรื่องแล้วนี่นา&#8221;</p>
<p>เหมียวอี้ถอนหายใจแล้วบอกว่า &#8220;เรื่องนี้ข้าตัดสินใจเองไม่ได้ เจ้าไปหาพี่สาวเจ้าไป&#8221;</p>
<p>&#8220;ถ้าไปหานางแล้วได้ผล ข้าจะมาหาท่านทำไมล่ะ?&#8221; อวิ๋นรั่วซวงถาม</p>
<p>เหมียวอี้พยายามแกะมือนางออก &#8220;งั้นก็ขออภัยที่ข้าไร้ความสามารถ ขนาดข้ายังต้องเชื่อฟังพี่สาวเจ้าเลย&#8221;</p>
<p>&#8220;ไม่ใช่แล้วมั้งท่าน? ชายผู้ยิ่งใหญ่อย่างท่านยังกลัวเมียอีกเหรอ เมียท่านเข้มงวดเหรอ?&#8221; อวิ๋นรั่วซวงถลึงตาถาม</p>
<p>&#8220;เชอะ!&#8221; เหมียวอี้โบกมืออย่างดูถูก แล้วหันตัวก้าวเข้าไปในประตูพระจันทร์ &#8220;เจ้าจะพูดยังไงก็เรื่องของเจ้าเถอะ&#8221;</p>
<p>&#8220;หยุดนะ!&#8221; อวิ๋นรั่วซวงกระทืบเท้า แล้วขู่ว่า &#8220;ถ้าท่านไม่ตอบตกลง ข้าก็จะบอกพี่สาวข้า ว่าท่านเคยไปหอโคมเขียว!&#8221;</p>
<p>&#8220;ใช้มุกนี้กับข้าไม่ได้ผลหรอก&#8221; เหมียวอี้ยิ้มพลางเอามือไขว้หลัง แล้วเดินไปข้างหน้าต่อ</p>
<p>พรึ่บ! จู่ๆ อวิ๋นรั่วซวงก็ถลันตัวมาขวางตรงหน้าเขา ใช้สองมือดึงคอเสื้อของตัวเองไว้ ทำท่าเหมือนจะฉีกเสื้อตรงหน้าอกตัวเอง พร้อมเตือนอย่างจริงจังว่า &#8220;ถ้าไม่พาข้าไปพิภพใหญ่ ข้าก็จะฉีกเสื้อผ้าตัวเอง แล้วบอกพี่สาวว่าท่านล่วงเกินข้า!&#8221;</p>
<p>เหมียวอี้จอบเหมือนอยากขำ &#8220;ถ้าพี่สาวเจ้าไม่ได้รู้จักเจ้าดี อุบายนี้ของเจ้าก็ใช้ได้ผลจริงๆ แต่พี่สาวเจ้ารู้จักเจ้าดีเกินไปแล้ว ด้วยนิสัยอย่างเจ้าน่ะ ก็ยังไม่รู้เลยว่าพี่สาวเจ้าจะลงโทษใคร มีอะไรทำก็ไปทำซะไป!&#8221; พอโบกแขนเสื้อ พลังอิทธิฤทธิ์กลุ่มหนึ่งก็ซัดสาดออกมา โบกอวิ๋นรั่วซวงออกไปโดยตรง แล้วเอามือไขว้หลังเดินไปข้างหน้าต่อ</p>
<p>เรื่องนี้อย่าว่าแต่อวิ๋นจือชิวจะไม่ตอบตกลง ต่อให้นางตอบตกลง แต่เขาก็ไม่มีทางยอมให้อวิ๋นรั่วซวงไปที่พิภพใหญ่อยู่ดี เด็กสาวคนนี้เป็นจอมก่อเรื่อง เขาได้รับบทเรียนมาตั้งนานแล้ว ถ้าพาไปพิภพใหญ่ด้วยจะไม่แย่หรอกเหรอ?</p>
<p>&#8220;อ๊า…&#8221; อวิ๋นรั่วซวงกรีดร้องอย่างบ้าคลั่ง ระบายความโกรธกับพวกต้นไม้ใบหญ้า</p>
<p>เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้ผู้หญิงคนนี้พาลหาเรื่องกวนใจ เหมียวอี้จงใจกวักมือเรียกเหยียนซิวกับหยางเจาชิงให้มาอยู่ด้วยกัน เดินเล่นอย่างสบายใจอยู่ในตำหนักอู๋เลี่ยง</p>
<p>ระหว่างทางบังเอิญเจอจิ้งอิ๋งกับจิ้งลู่ ทั้งสองยังคงกวาดพื้นอยู่ที่นี่เหมือนเดิม เหมียวอี้หยุดฝีเท้าคุยกับทั้งสองครู่หนึ่ง แล้วให้ยาแก่นเซียนทั้งสองคนละหนึ่งแสนเม็ด</p>
<p>จากนั้นก็ตั้งใจไม่เจอโจวลี่ฉินกับเฉียนจื่อเฟิงที่เฝ้าประตูตำหนักให้เขามาตลอด เขาพูดคุยกับทั้งสองอย่างสนุกสนานอยู่นอกประตูตำหนัก ทำให้ทั้งสองตกใจที่ได้รับความเมตตา ก่อนที่จะเดินออกไป เขาก็มอบยาแก่นเซียนให้ทั้งสองอีกคนละหนึ่งแสนเม็ด</p>
<p>ไม่ง่ายเลยกว่าเขาจะกลับมาสักครั้ง พวกคนเก่าคนแก่เหล่านี้ ถ้าสามารถผูกมัดจิตใจได้ก็ต้องผูกมัดจิตใจสักหน่อย เขาไม่รู้ว่าเมื่อตัวเองไปเข้าร่วมการทดสอบแล้วจะสามารถกลับมาได้อย่างปลอดภัยหรือไม่ ถ้าเกิดเรื่องแล้วกลับมาไม่ได้ เขาก็หวังว่าการกระทำเล็กน้อยนี้จะสามารถทำให้มีคนเชื่อฟังพวกอวิ๋นจือชิวเยอะขึ้นก็ยังดี การแสดงความใส่ใจกับตัวละครเล็กๆ จะทำให้พวกเขาซาบซึ้งได้ง่าย</p>
<p>ตอนที่ก้าวออกจากประตูตำหนัก เหมียวอี้ก็หันกลับมาถามด้วยรอยยิ้มว่า &#8220;เจาชิง เมียเจ้าคนนั้นยังสบายดีมั้ย?&#8221;</p>
<p>&#8220;นางจดจำความดีของนายท่านมาตลอด บอกว่าถ้าไม่มีนายท่านก็ไม่มีนางในวันนี้&#8221; หยางเจาชิงตอบพร้อมรอยยิ้มเอียงอาย</p>
<p>เหมียวอี้หัวเราะลั่นแล้วบอกว่า &#8220;ข้าไม่เจอหลินผิงผิงมานานแล้วเหมือนกัน ไปเยี่ยมหาสักหน่อยเถอะ&#8221;</p>
<p>&#8220;ขอรับ!&#8221; หยางเจาชิงนำทางอยู่ข้างหน้าทันที</p>
<p>พรหมลิขิตเป็นสิ่งที่พูดยากจริงๆ เหมียวอี้เองก็ไม่รู้ว่าหยางเจาชิงไปชอบสาวใหญ่พราวเสน่ห์อย่างหลินผิงผิงได้ยังไง อาศัยตำแหน่งฐานะของหยางเจาชิงในตอนนี้ อยากจะหาผู้หญิงแบบไหนก็ได้ทั้งนั้น ส่วนหลินผิงผิงก็กึ่งยอมกึ่งปฏิเสธเช่นกัน ตอนนั้นเหมียวอี้ไม่มีเวลาว่าง เป็นอวิ๋นจือชิวที่กลับมาเป็นเจ้าภาพงานแต่งงานด้วยตัวเอง</p>
<p>เหมียวอี้หันกลับมาถามอีกว่า &#8220;เหยียนซิว เจ้าถูกใจคนไหนบ้างรึเปล่า? ชอบแล้วก็เอ่ยปาก ข้าจะตัดสินใจให้เจ้าเอง&#8221;</p>
<p>&#8220;บ่าวชราขอผ่านดีกว่าขอรับ&#8221; เหยียนซิวยิ้มเยาะตัวเอง</p>
<p>เหมียวอี้ส่ายหน้า &#8220;เจ้าน่ะ! เจาชิง ถ้ามีโอกาสช่วยเป็นพ่อสื่อให้เขาหน่อยนะ&#8221;</p>
<p>&#8220;ขอรับ!&#8221; หยางเจาชิงหัวเราะแห้งๆ</p>
<p>เหมียวอี้หัวเราะแล้วถามอีกว่า &#8220;เออใช่! เฉินเฟยเป็นยังไงบ้าง?&#8221;</p>
<p>&#8220;เขาได้รับการสนับสนุนจากนายท่าน วรยุทธ์เพิ่งจะบรรลุถึงบงกชแดงขั้นหนึ่ง ก็ถูกผู้การหยางเลื่อนขั้นให้เป็นประมุขตำหนักเจิ้นเจี่ยของปราสาทดำเนินเซียนสายขาลแล้ว หลายเดือนก่อนเขามาที่นี่รอบหนึ่ง อยากจะเยี่ยมคำนับนายท่าน&#8221; เหยียนซิวตอบ</p>
<p>เหมียวอี้ถอนหายใจแล้วบอกอีกว่า &#8220;ครั้งหน้าถ้าเจอเขาอีก จะลืมเบิกยาแก่นเซียนหนึ่งแสนเม็ดให้เขาด้วยนะ&#8221;</p>
<p>&#8220;จะจำไว้ขอรับ!&#8221; เหยียนซิวตอบ</p>
<p>&#8220;พวกเจ้าสองคน…&#8221; เหมียวอี้ลังเลครู่หนึ่ง แล้วสุดท้ายก็เปลี่ยนเป็นบอกว่า &#8220;รอให้ผ่านไปอีกหลายๆ ปีแล้วกัน ถึงตอนนั้นข้าจะให้เคล็ดวิชาฝึกตนที่ดีกว่ากับพวกเจ้าคนละวิชา ตอนนี้เพิ่มวรยุทธ์ให้สูงก่อน&#8221;</p>
<p>เดิมทีเขาอยากจะให้ตอนนี้เลย เพราะไม่จำเป็นต้องเฝ้าติดตามดูความเคลื่อนไหวหยางชิ่งแล้ว คนอื่นๆ ที่พิภพเล็กก็แสดงฝีมือไม่ได้เช่นกัน เขาเตรียมจะพาทั้งสองไปที่พิภพใหญ่ ทางตำหนักคุ้มเมืองควรจะมีลูกน้องคนสนิทไว้สักสองคน ไม่เหมาะสมที่จะให้ทั้งหมดเป็นคนของทะเลดาวนักษัตร ทว่าตอนนี้สถานการณ์ของตัวเองยังไม่แน่นอน ยังต้องรอให้ผ่านการทดสอบก่อนแล้วค่อยว่ากัน ไม่แน่ว่าอาจต้องเหลือน้ำใจนี้ไว้ให้อวิ๋นจือชิวเป็นคนแสดงก็ได้</p>
<p>…………………………</p>

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด