พิชิตสวรรค์ ทะยานฟ้า 1196 ศัตรูเยอะจริงๆ

Now you are reading พิชิตสวรรค์ ทะยานฟ้า Chapter 1196 ศัตรูเยอะจริงๆ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

<p>ทุกคนยังคงเหลียวซ้ายแลขวา สภาพอากาศกลับไม่เป็นใจ เมฆครึ้มผืนหนึ่งพัดเข้ามาแล้ว มีบางคนบ่นว่า &#8220;มารดาเจ้าเถอะ ฝนจะตกแล้ว อีกประเดี๋ยวพื้นจะต้องเต็มไปด้วยโคลนแน่ๆ  ที่อยู่ก็แย่ แม้แต่พื้นก็ไม่จัดให้ดีสักหน่อย ใครกันที่เลือกที่นี่?&#8221; เริ่มมีการร้องเรียนอย่างไม่พอใจ</p>
<p>ทุกคนมองดู ฝนจะตกแล้วจริงๆ คนสองพันคนแยกย้ายกันหาที่พักของตัวเองทันที ไม่ได้กำหนดด้วยว่าให้ใครไปอยู่ตรงไหน แต่เห็นได้ชัดว่าเหมียวอี้เป็นคนเดียวที่ถูกเบียดออก</p>
<p>ผู้บัญชาการใหญ่หนิวก็สำนึกตัวได้เหมือนกัน ไปหาตำแหน่งที่อยู่ในมุมของเขตตงหัว เขตนี้มีที่มากมาย เขาจึงไปเลือกจุดที่อยู่ไกลกับกลุ่มคนสักหน่อย</p>
<p>เขาไปเลือกจุดที่ห่างไกลจากฝั่งนี้ แต่กลับไปอยู่ใกล้กับคนอีกเขตหนึ่ง ข้างกันมีคนใช้ปลายเท้าเคาะเสาไม้แล้ว &#8220;นี่ ผู้น้อยถังซาน เจ้าคือหนิวโหย่วเต๋อใช่มั้ย?&#8221;</p>
<p>เมื่ออีกฝ่ายถามแบบนี้ ก็ทำให้คนไม่น้อยหันมามอง เหมียวอี้หันกลับไปมองแวบหนึ่ง เห็นเพียงชายคนหนึ่งกำลังใช้สองมือกุมหัวเอนกายอยู่บนไม้กระดาน หัวเคราะคิกคักพลางยกขาขึ้นไขว่ห้างมองสำรวจตน แต่หน้าตาไม่คุ้นเลย จึงถามว่า &#8220;เรารู้จักกันเหรอ?&#8221;</p>
<p>ผู้คนที่เรียกตัวเองว่าถังซานชักมือออกมาจากหมอนใบหนึ่ง ชี้ไปยังเกราะม่วงหนึ่งแถบบนตัวเขา แล้วก็ชี้ไปหาปี้เยว่ฮูหยินที่อยู่ไม่ไกล พร้อมพูดหยอกล้อว่า &#8220;เจ้าดูไม่เข้าพวกไง มิหนำซ้ำคนที่มาจากจวนแม่ทัพภาคตงหัว นอกจากแม่ทัพภาคของพวกเจ้าที่สามารถสวมเกราะรบแม่ทัพได้ อีกคนหนึ่งก็เหมือนจะเป็นเจ้าไง หนิวโหย่วเต๋อ ราชันสวรรค์แต่งตั้งเองให้&#8221;</p>
<p>ที่แท้ก็เป็นเช่นนี้! เหมียวอี้นั่งอยู่บนไม้กระดาน นั่งขัดสมาธิ มองดูสายหน้ารอบข้างที่จ้องเข้ามา พร้อมพูดเย้ยตัวเอง &#8220;สายตาเจ้าไม่เลวเลยนี่&#8221;</p>
<p>เมื่อเห็นว่ายืนยันแล้ว ถังซานก็พลิกตัวนอนตะแคงทันที ใช้มือข้างเดียวหนุนศีรษะ พร้อมถามอย่างแปลกใจว่า &#8220;เจ้าคือหนิวโหย่วเต๋อจริงเหรอ?&#8221;</p>
<p>&#8220;ถ้าเป็นของปลอมก็ยินดีเปลี่ยนให้เจ้าใหม่เลย!&#8221; เหมียวอี้ใช้สองมือกุมเข่า</p>
<p>ถังซานเดาะลิ้นทันที &#8220;ผู้บัญชาการใหญ่หนิว ข้าว่าเจ้านี่ใจกล้าไม่เบาเลยนะ เจ้าไม่รู้ตัวเหรอว่าสถานการณ์ของเจ้าเป็นยังไง!&#8221;</p>
<p>&#8220;ไม่รู้สิ พี่ถัง พวกเรามาเป็นพันธมิตรร่วมรับมือกับการทดสอบดีมั้ย?&#8221; เหมียวอี้กล่าวเสียงเรียบ</p>
<p>&#8220;ลืมมันไปเถอะ! ข้ายังอยากมีชีวิตอยู่อีกหลายๆ ปี!&#8221; ถังซานหันตัวกลับไป หันก้นให้เขา ไม่อย่างสร้างปัญหาให้ตัวเอง</p>
<p>ในที่สุดข้างหูเหมียวอี้ก็สงบเงียบแล้ว ใครจะคิดว่าฝนเม็ดใหญ่จะกระหน่ำจั้กๆ ลงมากอีก ในชั่วพริบตาเดียวก็ทำให้ฟ้าดินพร่ามัวไปด้วยไอน้ำ แต่กลับยากที่จะปิดกั้นสายตารอบข้างที่มองมาหาตนอยู่เป็นระยะ</p>
<p>ตอนนี้ตรงจุดที่อยู่ใกล้ๆ มีแม่ทัพภาคมาอีกหลายคน ฝ่าฝนมาเยี่ยมคำนับปี้เยว่ฮูหยิน พวกเขาล้วนเป็นลูกน้องของท่านโหวเทียนหยวน ถึงอย่างไรเทียนหยวนก็ตักตวงตำแหน่งแม่ทัพภาคมาได้ไม่น้อย ถึงแม้แม่ทัพภาคเหล่านั้นจะอยู่ในระดับเดียวกัน แต่ฐานะของฮูหยินท่านโหวก็เห็นๆ กันอยู่ ย่อมต้องมาแสดงมารยาททักทายอยู่แล้ว</p>
<p>หลังจากทักทายปราศรัยกันไปสักพัก แม่ทัพภาคบางคนก็ถามว่า &#8220;ฮูหยิน ไม่ทราบว่าคนไหนคือหนิวโหย่วเต๋อ&#8221;</p>
<p>ปี้เยว่ฮูหยินแอบถอนหายใจ ยังมีคนที่ไม่อยากจะปล่อยหนิวโหย่วเต๋อไปจริงๆ ด้วย นางหันกลับมามองเหมียวอี้แวบหนึ่ง แต่ไม่ได้พูดอะไร</p>
<p>แม่ทัพภาคหลายคนมองตามไป สายตาไปหยุดอยู่บนตัวเหมียวอี้ที่สวมเกราะรบสีม่วง ดวงตาแต่ละคนฉายแววสำรวจประเมิน</p>
<p>เหมียวอี้สบตากับพวกเขาหลายครั้งด้วยสีหน้าเรียบเฉย จากนั้นหันกลับมาหลับตาลง นั่งสมาธิฝึกตน</p>
<p>นี่เพิ่งจะเริ่มต้น เห็นได้ชัดว่าคนที่สนใจผู้บัญชาการใหญ่หนิวไม่ได้มีแค่เท่านี้ พวกแม่ทัพภาคทางนี้ยังออกไปได้ไม่นาน ก็มีคนอีกกลุ่มเหาะฝ่าฝนลงมาแล้ว หัวหน้ากลุ่มที่สวมเกราะทองหนึ่งแถบตะโกนถามว่า &#8220;คนไหนคือหนิวโหย่วเต๋อ?&#8221; ข้างหลังทางซ้ายและขวากลับมีกลุ่มคนที่สวมเกราะทองสี่แถบ ห้าแถบและหกแถบตามมาด้วย</p>
<p>ผู้ที่มาไม่ใช่ใครที่ไหน จาเหรินจวิ้นนั่นเอง ที่จริงเขาไม่ได้อยู่ในฐานะขุนนาง การทดสอบที่นรกครั้งนี้พุ่งเป้าไปที่คนของตำหนักสวรรค์เท่านั้น เพื่อที่จะลงชื่อสมัครเข้าร่วมทดสอบครั้งนี้ เขาจึงจงใจหายศเกราะทองหนึ่งแถบมาเพื่อใช้ลงสมัคร</p>
<p>เหมียวอี้ลืมตามองไป พบว่าตัวเองไม่รู้จักอีกฝ่าย แต่อีกฝ่ายกลับระบุชื่อแซ่เพื่อมาหาตน</p>
<p>&#8220;ใครมาตะโกนโหวกเหวกอยู่ที่นี่!&#8221; ปี้เยว่ฮูหยินที่นั่งขัดสมาธิอยู่กลางเขตตงหัวตะคอกถาม</p>
<p>จาเหรินจวิ้นกวาดสายตามองมา พอเห็นปี้ยศของเยว่ฮูหยินก็รู้ทันทีว่าเป็นแม่ทัพภาคที่คุมรักษาการณ์ที่นี่ จึงแอบถ่ายทอดเสียงตอบ่วา &#8220;ผู้น้อยจาเหรินจวิ้น จาหรูเยี่ยน ฮูหยินของเทพประจำดาวเถาะฟ้าคืออาหญิงของผู้น้อย&#8221; เขาไม่สะดวกจะเปิดเผยท่ามกลางฝูงชนว่ามีว่ามีอาเขยหนุนหลัง</p>
<p>ปี้เยว่ฮูหยินพูดไม่ออก คนคนนี้มีภูมิหลังยิ่งใหญ่กว่าสามีของตนเสียอีก จึงถ่ายทอดเสียงตอบทันทีว่า &#8220;อย่าก่อเรื่องที่นี่ ถ้ามีความขัดแย้งอะไรกัน พวกเจ้าค่อยไปแก้ไขกันในนรกเถอะ&#8221;</p>
<p>&#8220;ท่านแม่ทัพภาควางใจได้ เพียงมาถามหาตัวเฉยๆ ไม่ก่อเรื่องแน่นอน&#8221; จาเหรินจวิ้นแอบบอก แต่ภายนอกกลับกุมหมัดคารวะเอ่ยรับอย่างสุภาพเกรงใจ &#8220;ขอรับ!&#8221;</p>
<p>นัวว่าไว้หน้าปี้เยว่ฮูหยินแล้ว จากนั้นก็ใช้สายตากวาดมองหาจากกลุ่มคนอีก</p>
<p>เกราะรบของท่านขุนนางเหมียวสะดุดตาเกินไป ถ้าไม่อยากให้สังเกตเห็นก็คงยาก ในปีนั้นราชันสวรรค์แต่งตั้งให้อย่างมีหน้ามีตา แต่ตอนนี้กลับกลายเป็นความยุ่งยากและภาระ</p>
<p>จาเหรินจวิ้นนำกลุ่มคนแทรกเข้ามาทันที มาอุดอยู่ตรงหน้าไม้กระดานที่เหมียวอี้นั่ง แล้วตะโกนถาม &#8220;เจ้าคือหนิวโหย่วเต๋อเหรอ?&#8221;</p>
<p>&#8220;เจ้าเป็นใคร?&#8221; เหมียวอี้ถามกลับ</p>
<p>&#8220;ข้าเป็นใครเจ้าไม่คู่ควรที่จะได้รับรู้หรอก&#8221; จาเหรินจวิ้นพูดเหยียด</p>
<p>เหมียวอี้ชี้ไปยังยศทหารเลวหนึ่งแถบของเขา แล้วชี้ยศแม่ทัพหนึ่งแถบของตัวเอง &#8220;ทหารเลวหนึ่งแถบต่ำต้อย แต่บังอาจมามาพูดกับแม่ทัพแบบนี้ หรือว่ามองไม่เห็นกฎของตำหนักสวรรค์อยู่ในสายตา?&#8221;</p>
<p>นี่เป็นปมด้อยของจาเหรินจวิ้นจริงๆ จึงกล่าวอย่างโมโหเพราะความอับอาย &#8220;ข้าถามว่าเจ้าใช่หนิวโหย่วเต๋อหรือเปล่า?&#8221;</p>
<p>&#8220;แล้วยังไงล่ะ?&#8221; เหมียวอี้ถาม</p>
<p>&#8220;เป็นเจ้าจริงๆ ด้วย!&#8221; จาเหรินจวิ้นทำสีหน้าจริงจังทันที &#8220;เจ้ายังจำเย่สวินเกาที่ตลาดสวรรค์ดาวเทียนหยวนได้หรือเปล่า?&#8221;</p>
<p>&#8220;ถ้าอยากจะล้างแค้นข้า ก็ยังไม่ถึงคราวของทหารเลวหนึ่งแถบต่ำต้อยอย่างเจ้าหรอก คนที่ยศสูงกว่าเจ้ามีตั้งเยอะ ไปต่อแถวก่อนไป ดูว่าเมื่อไรจะถึงคราวเจ้า&#8221; เหมียวอี้กล่าว</p>
<p>เมื่อกล่าวคำนี้ออกมา ก็ทำให้รอบข้างมีเสียงหัวเราะดังลั่นของกลุ่มคน</p>
<p>เห็นได้ชัดเจนว่าสีหน้าของจาเหรินจวิ้นกำลังข่มไฟโกรธเอาไว้</p>
<p>&#8220;บังอาจ!&#8221; ทหารเลวหกแถบคนหนึ่งที่อยู่ข้างกายยกมือตบบ่าเหมียวอี้ แล้วเตือนว่า &#8220;ทำปากให้มันสะอาดๆ หน่อย!&#8221;</p>
<p>เหมียวอี้เอียงหน้ามองดูบ่าตัวเอง &#8220;ถ้าเจ้าขยับปากอย่างเดียวก็ว่าไปอย่าง ยังกล้าขยับมือด้วยเหรอ? ถ้ายังไม่เอากรงเล็บของเจ้าออกไป เจ้าเชื่อมั้ยว่าข้าจะตัดหัวเจ้าทิ้งได้?&#8221;</p>
<p>เมื่อมาถึงที่นี่ ปี้เยว่ฮูหยินก็ควบคุมสถานการณ์ไม่ได้แล้ว แต่เป็นเกาก้วน ทูตขวาของตำหนักสวรรค์ที่ควบคุม ความอดทนของเขาไม่ได้มีมากเหมือนตอนที่อยู่จวนแม่ทัพภาคตงหัว</p>
<p>คนคนนั้นถลึงตาสองข้าง แสยะยิ้มบอกว่า &#8220;เจ้ากล้าเหรอ!&#8221;</p>
<p>เหมียวอี้พลันเหลือบตาขึ้นจ้องเขา บนตัวมีกลิ่นอายสังหารลอยขึ้นจางๆ</p>
<p>&#8220;พวกเจ้าคิดจะทำอะไรกัน?&#8221; ปี้เยว่ฮูหยินพลันตะคอก ถลันตัวมายืนอยู่บนไม้กระดานข้างๆ ที่ว่างพร้อมจ้องทุกคน ถ้านางไม่ออกหน้ามาห้ามไว้จะต้องเกิดเรื่องแน่</p>
<p>ในขณะนี้เอง สตรีที่รูปร่างสูงสะโอดสะอง บุคลิกงดงามมีเสน่ห์ถลันตัวมายืนอยู่ข้างกายปี้เยว่ฮูหยิน สวมกระโปรงสีเขียวคราม ถึงแม้จะไม่ได้สวมเกราะรบ แต่ป้ายคำสั่งที่ปรึกษาที่ห้อยอยู่ตรงเอวก็เผยสถานะของนางแล้ว</p>
<p>ผู้ที่มาก็คือโค่วเหวินชิง นางถามเสียงต่ำว่า &#8220;มารวมตัวกันก่อเรื่องที่นี่ เบื่อหน่ายที่จะมีชีวิตอยู่แล้วใช่มั้ย?&#8221;</p>
<p>&#8220;เนี่ยกง!&#8221; จาเหรินจวิ้นตะโกนห้าม ยื่นมือไปปัดมือของสหายบนบ่าเหมียวอี้ออก แต่กลับชี้หน้าเหมียวพร้อมขู่ว่า &#8220;ชาติสุนัข เดี๋ยวถึงเวลาที่เจ้าจะได้ร้องไห้แน่ พวกเราไปกันเถอะ&#8221; พูดจบก็หันตัวไปพร้อมกับสีหน้าอึมครึม นำกลุ่มคนออกไปแล้ว</p>
<p>เมื่อเห็นเรื่องนี้สงบ ปี้เยว่ฮูหยินก็มองไปที่โค่วเหวินชิง แล้วก็มองไปที่เหมียวอี้ รู้ว่าโค่วเหวินชิงรู้จักเหมียวอี้ นางจึงพยักหน้าทักทายโค่วเหวินชิง แล้วหันตัวกลับไปอยู่ในที่ของตัวเอง ที่จริงแล้วในใจรู้สึกอับอายอยู่บ้าง</p>
<p>โค่วเหวินชิงสามารถปรากฏตัวอยู่ที่นี่ในเวลานี้ได้ เห็นได้ชัดว่าตั้งใจมาดูแลเหมียวอี้เป็นพิเศษ มีความเป็นไปได้สูงว่าเบื้องหลังมีโค่วเหวินหลานฝากฝังมา โค่วเหวินหลานเป็นผู้บังคับบัญชาของหนิวโหย่วเต๋อที่ออกไปจากที่นี่หลายปีแล้ว แต่ยังมีความตั้งใจมาดูแลได้ ลองย้อนกลับมามองผู้บังคับบัญชาในปัจจุบันอย่างนางสิ บางทีอาจจะจัดการเรื่องนี้ได้อย่างไม่เหมาะสม การที่หนิวโหย่วเต๋อตกอยู่ในสถานการณ์แบบนี้ ถึงอย่างไรก็เป็นผลจากการที่นางและสามีดึงดันกักตัวไว้ไม่ปล่อยให้โค่วเหวินหลานพาไป นางก็คิดว่าสามีของตัวเองทำเกินไปเช่นกัน แต่นางรู้ว่าตัวเองไม่ได้มองการณ์ไกลเท่าสามี จึงทำได้เพียงเชื่อฟัง</p>
<p>เหมียวอี้เองก็พยักหน้าเล็กน้อยให้โค่วเหวินชิง แสดงความขอบคุณโดยไม่ได้พูดอะไร</p>
<p>&#8220;คนไหนคือหนิวโหย่วเต๋อ?&#8221; ด้านนอกมีคนอีกกลุ่มโผล่มาถาม</p>
<p>ผลปรากฏว่าโดนโค่วเหวินชิงไล่ไปอีก</p>
<p>ทว่ามีเข้ามากลุ่มแล้วกลุ่มเล่า มีคนมาหาไม่ขาดสาย ใช้เวลาเพียงชั่วประเดี๋ยวเดียว โค่วเหวินชิงก็ไล่คนไปแล้วสิบกว่ากลุ่ม</p>
<p>ขณะมองดูเหมียวอี้หลับตานั่งสมาธิทำหูทวนลม โค่วเหวินชิงก็รู้สึกทอดถอนใจเช่นกัน ตอนเหมียวอี้ผ่านศึกเลือดด่านสุดท้ายของการทดสอบครั้งนั้น นางได้เห็นกับตาตัวเองแล้ว สมกับเป็นชายชาตรีจริงๆ แต่น่าเสียดายที่อ่านสถานการณ์ไม่ออกจนไปล่วงเกินคนไว้เยอะเกินไป ถึงขนาดทำให้ทุกคนสามารถฆ่าเขาได้ สิ่งนี้ทำให้คนอดไม่ได้ที่จะถอนหายใจ</p>
<p>พวกจางฮั่นฟางมองฉากนี้ด้วยความขบขัน พอมีคนวิ่งมาถามว่าใครคือหนิวโหย่วเต๋อ พวกเขาก็ยังชี้ไปทางเหมียวอี้ จะมีไมตรีของเพื่อนร่วมงานสักนิดเสียที่ไหนกัน และพอเห็นว่ามีคนมากมายต้องการจะหาเรื่องเหมียวอี้ ซูลี่ที่นั่งขัดสมาธิอยู่ท่ามกลางกลุ่มคนก็โล่งใจแล้ว เขายังกังวลอยู่บ้างว่าเหมียวอี้จะมาคิดบัญชีกับเขาหรือเปล่า แต่ดูจากสถาการณ์ในตอนนี้ คาดว่าผู้บัญชาการใหญ่หนิวเองก็ยังดูแลตัวเองไม่ไหวเลย</p>
<p>ฝนกระหน่ำแรง แต่ก็หยุดเร็วเช่นกัน ขณะที่น้ำฝนหยดจากชายคาติ๋งๆ ด้านนอกก็มีสตรีรูปร่างสูงโปร่งที่สวมเกราะรบสีม่วงของแม่ทัพเหาะลงมา ใบหน้าที่อยู่ใต้เกราะรบงดงามดุจภาพวาด ลักษณะห้าวหาญ เหยียบโคลนเดินเข้ามาลำพังจนถึงใต้เพิง ดวงตางามกำลังกวาดมองทุกคน</p>
<p>จู่ๆ ก็มีแม่ทัพเกราะม่วงหนึ่งแถบโผล่มา ทุกคนไม่รู้ว่านางเป็นใคร กลับเป็นโค่วเหวินชิงที่ยืนบังฝนอยู่ข้างกายเหมียวอี้ที่ขมวดคิ้วถามว่า &#8220;จ้านหรูอี้ เจ้ามาทำอะไรตรงนี้?&#8221;</p>
<p>&#8220;จ้านหรูอี้?&#8221;</p>
<p>&#8220;เขาก็คือจ้านหรูอี้ที่ได้อันดับหนึ่งจากการทดสอบครั้งก่อน?&#8221;</p>
<p>กลุ่มคนที่อยู่ในเพิงเริ่มสุมหัวกระซิบกระซาบกันทันที ต่างก็มองสำรวจผู้หญิงคนนี้ แม้แต่ปี้เยว่ฮูหยินก็อดไม่ได้ที่จะมองหลายครั้ง</p>
<p>การปรากฏตัวของผู้หญิงคนนี้ทำให้คนกลุ่มใหญ่ที่อยู่รอบข้างรวมตัวกันหันมามองทันที</p>
<p>จ้านหรูอี้? ในหัวเหมียวอี้มีชื่อนี้แวบเข้ามา ทำให้ลืมตาเอียงหน้ามองทันที</p>
<p>สายตาของจ้านหรูอี้ไปหยุดอยู่บนเกราะรบบนตัวเขา บวกกับที่พวกจางฮั่นฟางชี้บอก นางจึงเอามือไขว้หลังเดินช้าๆ เข้ามา ถามว่า &#8220;เจ้าเองเหรอหนิวโหย่วเต๋อ?&#8221;</p>
<p>เหมียวอี้มองสำรวจนางศีรษะจดเท้าเท้า แล้วถามเสียงเรียบว่า &#8220;คำถามนี้ข้าตอบจนไม่อยากจะตอบอีกแล้ว&#8221;</p>
<p>จ้านหรูอี้พยักหน้าเบาๆ &#8220;คนเปิดเผยย่อมไม่ทำเรื่องลับๆ หนิวโหย่วเต๋อ เจ้าฟังข้าให้ดีนะ เมื่อเข้าไปในนรกแล้ว เข้าจะเอาชีวิตเจ้าให้ได้!&#8221;</p>
<p>&#8220;มีเจ้าเพิ่มมาอีกสักคนก็ไม่ได้เยอะขึ้นนักหรอก&#8221; เหมียวอี้กล่าว</p>
<p>จ้านหรูอี้ไม่ได้พูดอะไรมากอีก มาเพื่อทำความรู้จักเฉยๆ นางจ้องเหมียวอี้อย่างละเอียดครู่หนึ่ง แล้วหันตัวช้าๆ เดินจากไป</p>
<p>ส่วนเหมียวอี้ก็เงยหน้ามองไปทางโค่วเหวินชิง แล้วถ่ายทอดเสียงถามว่า &#8220;ท่านรู้จักมั้ย? คนของตระกูลโค่วรึเปล่า? อีกประเดี๋ยวเวลาลงมือข้าต้องปรานีนางมั้ย?&#8221;</p>
<p>โค่วเหวินชิงถ่ายทอดเสียงตอบว่า &#8220;ไม่ต้องปรานีหรอก เจ้าดูแลตัวเองให้ดีก็พอ นางเป็นหลานนอกของอ๋องสวรรค์อิ๋ง เป็นลูกพี่ลูกน้องของอิ๋งเหย้า ครั้งก่อนอิ๋งเหย้าพลาดโดนประหาร นางจึงเข้าร่วมการทดสอบครั้งที่สองแล้วคว้าอันดับหนึ่งมา กู้หน้ากลับมาให้ตระกูลอิ๋งได้ครั้งหนึ่ง ตอนนี้เจ้าน่าจะเข้าใจแล้วนะว่าทำไมนางถึงต้องการจะฆ่าเจ้า?&#8221;</p>
<p>เข้าใจแน่นอน เหมียวอี้แอบยิ้มเจื่อน ถ้าตัวเองไม่ฆ่าชิงอวี้หลางจนกดดันให้อิ๋งเหย้าขัดแย้งกับเกาก้วน อิ๋งเหย้าก็คงไม่โดนเกาก้วนประหารต่อหน้าฝูงชนเหมือนกัน จ้านหรูอี้มาเพื่อล้างแค้นให้พี่ชายของตัวเอง สงสัยศัตรูของเขาจะไม่ได้เยอะแบบธรรมดา</p>
<p>&#8220;หลีกไป หลีกไปให้หมด อย่างกับแมลงวันตอมขี้หมา มาเบียดกันอยู่ตรงนี้ทำไม? ว่ะฮ่าๆๆๆ ไม่ใช่ขี้หมา แต่เป็นน้องจ้านคนสวยนี่นา บังเอิญอะไรขนาดนี้!&#8221; จู่ๆ ด้านนอกก็มีเสียงดังลั่นดุจฆ้องที่ไม่เกรงกลัวใคร</p>
<p>…………………………</p>

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด