พิชิตสวรรค์ ทะยานฟ้า 1208 พูดคำไหนคำนั้น

Now you are reading พิชิตสวรรค์ ทะยานฟ้า Chapter 1208 พูดคำไหนคำนั้น at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

<p>ราวกับว่ามันฆ่าอย่างไรก็ไม่ตาย ทุกคนได้เห็นประจักษ์ชัดแจ้งกันหมดแล้ว จู่ๆ มันพุ่งเข้ามาในกลุ่มคนแบบนี้ ก็ทำให้เกิดฉากที่เหมือนกับโยนกินลงน้ำแล้วเกิดคลื่นนับพันชั้น</p>
<p>จู่ๆ เหมียวอี้ก็เปิดฉากสังหารใหญ่ ทำให้คนที่อยู่ข้างล่างชุลมุนวุ่นวายไปหมดแล้ว เฮยทั่นพุ่งเข้ามาประสมโรงอีก แค่คิดก็รู้แล้วว่าผลลัพธ์เป็นอย่างไร</p>
<p>หลังจากคนหนึ่งคนกับสัตว์พาหนะหนึ่งตัวร่วมมือกันด้วยกัน ก็ช่างเหมือนกับปลาที่ได้น้ำจริงๆ ปราณปีศาจโลหิตพัดม้วนขึ้นมาจากตัวเหมียวอี้ บนคมทวนเสริมด้วยปราณเลือดชั่วร้าย ด้านบนโบกทวนปาดไม่หยุด เฮยทั่นที่อยู่ด้านล่างแยกเขี้ยวยิงฟันสะบัดหางชนมั่วๆ สังหารจนเกิดเสียงกรีดร้องอย่างต่อเนื่องท่ามกลางกลุ่มคนที่แตกกระเจิง ใครที่หนีช้าหน่อยก็จะประสบหายนะ</p>
<p>โหดเหี้ยมห้าวหาญ ไม่น่าเชื่อว่าคนหนึ่งคนกับสัตว์พาหนะหนึ่งตัวจะกล้ารุกโจมตีทัพใหญ่หนึ่งล้าน โค่วเหวินชิงกับปี้เยว่ฮูหยินเหม่อค้างนิดหน่อย ไม่รู้ว่ามีคนมากมายเท่าไรตะลึงค้าง</p>
<p>เกาก้วนที่เอามือไขว้หลังยืนดูการต่อขมวดคิ้วขึ้น รู้สึกว่าเหมียวอี้ทำเกินไปหน่อย สู้ไปศึกแรกก็สะเทือนขวัญคนพวกนี้แล้ว ไม่มีใครลงมือกับเจ้าแล้ว ได้รับทั้งชื่อเสียงทั้งผลประโยชน์แล้ว สามารถปลีกตัวออกไปได้เลย ตอนนี้ทำแบบนี้เท่ากับเป็นการยั่วความโมโหของฝูงชนและรนหาที่ตาย</p>
<p>ที่จริงคนที่อยากจะประมือกับเหมียวอี้ก็มีไม่เยอะเลย ภาพเหตุการณ์ตอนนี้ไม่ได้มีกำลังพลห้าหมื่นไปรวมตัวกันที่จุดเดียวเหมือนก่อนหน้า กำลังพลห้าหมื่นโดยส่วนใหญ่จะกระจายตัวกัน ทั้งด้านบนและด้านล่างของดาราจักรมีพื้นที่ว่างมากมายให้หลบหนี เป็นเรื่องที่ยากมากที่จะมีคนเบียดกัน</p>
<p>เหมียวอี้ขี่เฮยทั่นพุ่งสังหารเป็นเส้นตรง ครั้งนี้ได้ทำให้ทุกคนเห็นศักยภาพของเขาอย่างแท้จริงแล้ว ความเร็วในการออกทวน คนที่มักลงมือก่อนกลับถูกคนที่ลงมือทีหลังอย่างเขาใช้ทวนปาดกระเด็น สังหารไปข้างหน้าตลอดทาง ราวกับกับตัดฟันคลื่น สังหารจนเกิดเป็นทางเลือดหนึ่งทาง แทบจะไม่มีใครสู้เขาได้เกินหนึ่งท่า</p>
<p>ที่สำคัญคือไม่มีใครอยากจะประมือกับเขา คนส่วนใหญ่ไม่ได้มีความแค้นอไรกับเขา ใครจะอยากไปสู้ตายกับเขาล่ะ บวกกับถูกความองอาญห้าวหาญของเขาเขย่าขวัญ ขวัญกำลังใจในการรบถูกเหมียวอี้ทำลายไปแล้ว</p>
<p>เถิงเฟยที่เอามือขยี้หนวดจ้องเหมียวอี้พร้อมกล่าวชม &#8220;เป็นวิชาทวนที่ดี!&#8221;</p>
<p>ยิ่งผู้บัญชาการใหญ่หนิวห้าวหาญร้ายกาจมากเท่าไร คนที่อยู่ข้างหลังก็ยิ่งไม่กล้ามาลูบคม ทิศทางที่เส้นทางการสังหารของเขามุ่งไป กำลังพลพากันหลีกหนีไปทางซ้ายขวาบนล่าง หลีกหนีอย่างรวดเร็ว</p>
<p>ผ่านไปไม่นาน คนหนึ่งคนกับอาชามังกรหนึ่งตัวก็ทะลุผ่านกำลังพลหนึ่งล้านอย่างห้าวหาญ สังหารฝ่าทัพใหญ่หนึ่งล้านจนเกิดเป็นทางเลือดแนวเส้นตรงออกมา</p>
<p>คนที่ดูการต่อสู้ตะลึงค้างแล้ว ทัพใหญ่หนึ่งล้านสั่นสะเทือน ปี้เยว่ฮูหยินอ้าปากกว้าง เหมือนไม่กล้าเชื่อว่านี่คือลูกน้องของตัวเอง</p>
<p>พวกจางฮั่นฟางก็หุบปากไม่ลงเช่นกัน ซูลี่หน้าซีดเผือด</p>
<p>&#8220;แต่งตัวเป็นหมูเพื่อมากินเสือ มารดาเจ้าเถอะ ลงนามสัญญาเพราะอยากจะวางกับดักข้าชัดๆ!&#8221; เซี่ยโห้วหลงเฉิงที่ใบหน้าเหมือนโดนตะคริวกินพึมพำกับตัวเอง</p>
<p>แม้แต่เกาก้วนเองก็ยังจ้องเหมียวอี้อย่างตกตะลึงปนประหลาดใจ</p>
<p>ขบวนของทัพใหญ่หนึ่งล้านถูกตัดครึ่งเป็นสองส่วน แสดงความแตกต่างกันอย่างชัดเจน กำลังพลที่อยู่ในนั้นถูกเหมียวอี้ถือทวนบุกเดี่ยวมาสังหารจนแตกซ่าน ศพนับพันลอยล่องอยู่ทั้งข้างล่างข้างบน มีคนไม่น้อยที่โดนทวนแล้วยังไม่ตาย แต่กลับโดนปราณเลือดชั่วร้ายรุกเข้ากัดกิน ทำให้กรีดร้องดิ้นพล่านอยู่กลางอากาศ</p>
<p>ก่อนหน้านี้ทุกคนยังไม่เห็น ตอนนี้ทุกคนได้เห็นเหมียวอี้บุกเดี่ยวสังหารคนตายนับพันในรวดเดียว ถึงแม้ในจำนวนนั้นจะมีผลงานของเฮยทั่นอยู่ไม่น้อย แต่สิ่งที่ได้เห็นและได้ยินที่นำความตกตะลึงมาให้ทุกคนก็ยากที่จะบรรยายออกมาได้</p>
<p>หลังจากสังหารฝ่าออกมาจากทักใหญ่หนึ่งล้าน เหมียวอี้ที่หันหลังให้กลุ่มคนก็ทำกระพุ้งแก้มพองลม เขาไม่ได้กลั้นเอาไว้ ที่ปากและจมูกมีเลือดทะลักออกมา เป็นเพราะลูกธนูสามดอกของต่งอิ้งเกาทำให้บาดเจ็บหนักจริงๆ เขาดันทุรังเปิดศึกเลือดโดยไม่สนใจอาการบาดเจ็บสาหัส กอปรกับตอนที่พุ่งสังหารเมื่อครู่นี้ ร่างกายก็โดนโจมตีไปครั้งหนึ่ง ถึงแม้จะกินสมุนไพรเซียนซิงหัวไว้ล่วงหน้าแล้ว แต่ความเร็วในการเยียวยาของสมุนไพรเซียนซิงหัวก็ไม่ได้ทำให้หายในทันทีเช่นกัน</p>
<p>สภาพร่างกายสู้ไม่ไหว หลังจากเหมียวอี้สังหารฝ่าออกมาแล้ว เดิมทีอยากจะควบเฮยทั่นเข้าไปในจุดลึกของดาราจักรที่กว้างใหญ่โดยตรง แต่เขาแววตาวูบไหว ไม่รู้ว่านึกอะไรขึ้นได้ กระตุกมุมปากอย่างดุร้ายครู่หนึ่ง</p>
<p>จู่ๆ เฮยทั่นก็หยุดและหันตัวมาสะบัดหัว ศพของต่งอิ้งเกาที่คาบอยู่ในปากตลอดถูกโยนออกมา</p>
<p>เหมียวอี้ที่ถือทวนเฉียงอยู่ในมือโบกทวนเก็บอย่างดุร้าย พอใช้ดวงตาอิทธิฤทธิ์รีบกวาดมองทัพใหญ่ที่ถูกตัดออกเป็นสองฝั่ง ไม่นานก็เห็นพวกจางฮั่นฟางแล้ว เขาแยกแยะและจ้องตรงไปที่ซูลี่อีก จากนั้นโบกทวนชี้ พร้อมจะโกนด้วยเสียงดุดัน &#8220;ซูลี่ บังอาจทรยศข้า เอาชีวิตมาซะ!&#8221;</p>
<p>ยังพูดไม่ทันจบ เฮยทั่นที่กำลังคลั่งก็แบกเขาพุ่งกลับมาแล้ว พุ่งสังหารอย่างบ้าคลั่งไปยังกำลังพลที่อยู่ทางด้านขวา</p>
<p>เดิมทีนึกว่าเขาจะหนีออกจากฝูงชนไปตอนนี้ แต่จู่ๆ ก็เห็นเขาพุ่งสังหารกลับมา กำลังพลที่อยู่ทางขวาหวาดกลัวทันที กำลังพลที่อยู่ข้างหลังเดิมทีก็เหาะเหินโดยไม่มีสัตว์เทพอยู่แล้ว จะมีใครกล้าขวางล่ะ?</p>
<p>ที่กลัวกว่าคือซูลี่ที่อยู่ในนั้น พอโดนเหมียวอี้ตะโกนเรียกชื่อ ก็ตกใจจนสติไม่อยู่กับเนื้อกับตัวทันที เขายังไม่ทันไหวตัวหลบหนี พวกจางฮั่นฟางก็รีบขี่สัตว์เทพออกจากทัพใหญ่หนีไปยังจุดลึกของดาราจักรแล้ว</p>
<p>&#8220;ผู้บัญชาการใหญ่จาง รอข้าด้วย รอข้าก่อน พาข้าไปด้วย ผู้บัญชาการใหญ่เหยียนช่วยข้า…&#8221; ซูลี่ที่รู้ตัวรีบไล่ตามทันที โบกมือร้องเรียกตลอดทาง</p>
<p>แต่นอกจากจะหันกลับมามองนิดหน่อย พวกจางฮั่นฟางก็ไม่มีใครพาเขาไปด้วยเลย ไม่ใช่ว่าไม่อยากช่วยชีวิตเขา แต่การพาเขาไปด้วยอาจจะล่อให้เหมียวอี้ไล่สังหารไม่ปล่อยก็ได้ ย่อมต้องทิ้งซูลี่อยู่แล้ว ทิ้งซูลี่ไว้อาจจะช่วยถ่วงเวลาให้พวกเขาหลบหนีได้บ้าง</p>
<p>ซูลี่เร่งไล่ตามและมองดูตลอดทาง ไม่เห็นพวกจางฮั่นฟางมีท่าทีว่าจะหยุด กลับหนีเร็วยิ่งกว่าเดิมด้วยซ้ำ ส่วนผู้บัญชาการใหญ่หนิวที่อยู่ข้างหลังก็สังหารฝ่ากลุ่มคนเข้ามาแล้ว สังหารมาตลอดทางราวกับฝ่าตัดคลื่น ขนาดเจอทางที่ใกล้กว่าก็ยังไม่ยอมลัดไป ดันทุรังจะสังหารฝ่าแรงต้านเข้ามาให้ได้ โหดเหี้ยมจนคนต้องยกนิ้วให้จริงๆ</p>
<p>ซูลี่รู้ตัวว่าถ้าอาศัยการความเร็วในการเหาะของตัวเองก็ไม่มีทางหนีการไล่โจมตีนี้พ้นเลย เมื่อเห็นว่าไม่มีใครช่วยเหลือ ทั้งยังมีคนไร้พ่ายไล่ฆ่าอยู่ข้างหลัง อารมณ์สิ้นหวังเศร้าโศกปนเดือดดาลบนใบหน้าเขาก็ยากจะบรรยายออกมาได้ อารมณ์นึกเสียใจทีหลังก็บรรยายได้ยากเช่นกัน ถ้ารู้แต่แรกว่าผู้บัญชาการใหญ่หนิวจะโหดเหี้ยมขนาดนี้ ขนาดทัพใหญ่หนึ่งล้านยังต้านไม่ไหว มีหรือที่ตนจะทรยศได้</p>
<p>ยังมีอีกคนที่สีหน้าเปลี่ยน ปี้เยว่ฮูหยินเรียกได้ว่าทำสีหน้าขื่นขม หนิวโหย่วเต๋อคนนี้ไม่ปล่อยแม้แต่คนของตัวเองด้วยซ้ำ แต่พอลองคิดดูว่าก่อนหน้านี้ &#8216;พวกเดียวกัน&#8217; ทำอะไรหนิวโหย่วเต๋อไว้บ้าง เรื่องที่เกิดขึ้นตอนนี้ก็สมเหตุสมผลไม่ใช่เหรอ</p>
<p>สรุปก็คือตอนนี้นางเข้าใจอย่างถ่องแท้แล้ว ไม่ใช่เพราะหนิวโหย่วเต๋อกลัวพวกจางฮั่นฟาง แต่หนิวโหย่วเต๋อกำลังป้องกันนางอยู่! อดกลั้นไว้ในใจตลอดจนมาถึงที่นี่ พอหลุดพ้นอำนาจอิทธิพลของนางแล้วค่อยลงมือ</p>
<p>เหมียวอี้เข้าแล้วออก สังหารเข้ามาอีกครั้ง ครั้งนี้กลับไม่มีแรงต้านอะไร ทุกคนเตรียมใจไว้นานแล้ว เมื่อเห็นเขาพุ่งเข้ามาทางนี้ ก็พากันถลันตัวหลบออกไปทันที</p>
<p>การทะลุผ่านครั้งนี้สังหารไปไม่กี่สิบคนเท่านั้น แต่เสียงกรีดร้องสิบกว่าครั้งก็ยังทำให้คนหวาดระแวงกลัวอยู่ดี</p>
<p>มีบางคนรู้สึกพูดไม่ออกนิดหน่อย ทำไมถึงรู้สึกว่าฆ่าไปแค่ไม่กี่สิบคนเท่านั้นล่ะ? ปกติทุกคนฆ่าได้ไม่กี่คนก็นับว่ายอดเยี่ยมแล้ว ตอนนี้จู่ๆ ก็พบว่าคนไม่กี่สิบที่ตายด้วยน้ำมือหนิวโหย่วเต๋อไม่ได้เรียกว่าฆ่าคนด้วยซ้ำ</p>
<p>คนที่เบียดอยู่สองข้างทางมองดูเหมียวอี้ทั้งตัวมีปราณปีศาจโลหิตไหลกลิ้งแฉลบผ่านหน้าไป</p>
<p>สังหารฝ่าออกมาจากทัพใหญ่อีกครั้ง เหมียวอี้จ้องและไล่ตามไปหาซูลี่อย่างรวดเร็ว</p>
<p>&#8220;ซูลี่คนนี้เป็นใครกัน ไม่น่าเชื่อว่าจะมีค่าพอให้หนิวโหย่วเต๋อกัดไม่ปล่อย?&#8221; เถิงเฟยที่กำลังดูการต่อสู้ถามอย่างแปลกใจ</p>
<p>เกาก้วนตอบเสียงเรียบว่า &#8220;เป็นผู้บังคับการกองร้อยคนหนึ่งของเขา ก่อนการทดสอบทรยศเขาเพื่อไปรวมกลุ่มกับคนอื่น ใช้วิธีการดูหมิ่นเหยียดหยามหนิวโหย่วเต๋อต่อหน้าฝูงชนเพื่อเป็นใบรับรองสมาชิกกลุ่ม&#8221;</p>
<p>&#8220;มิน่าล่ะ!&#8221; ขณะที่เถิงเฟยพยักหน้าก็อึ้งอีกครั้ง หันหน้าช้าๆ กลับมา ถามว่า &#8220;ขนาดเรื่องนี้เจ้ายังรู้เลยเหรอ ยังไม่อะไรที่หน่วยข่าวกรองของเจ้าไม่รู้บ้าง?&#8221;</p>
<p>&#8220;ที่ข้ายังมีสิ่งที่เจ้าอยากจะรู้อีก แต่เจ้าไม่กล้าถามหรอก&#8221; เกาก้วนกล่าว</p>
<p>&#8220;&#8230;&#8221; เถิงเฟยกระตุกมุมปากเล็กน้อย ไร้คำพูดโต้ตอบ</p>
<p>ซูลี่เหาะหนีสุดชีวิตและหันกลับมามองตลอดทาง เมื่อเห็นเหมียวอี้เข้ามาประชิด จู่ๆ ไม่หนีแล้ว เพราะรู้ว่าต่อให้หนีก็หนีไม่รอด จึงถือทวนหันตัวมา แล้วกล่าวเสียงดังด้วยสีหน้าหวาดกลัวว่า &#8220;ผู้บัญชาการใหญ่ ข้าน้อยสำนึกผิดแล้ว! ผู้บัญชาการใหญ่โปรดไว้ชีวิต ข้าน้อยก็โดนกดดันจนไม่มีทางเลือกเหมือนกัน! ข้าน้อยแค่อยากหาทางรอด แค่อยากจะหาทางรอดก็เท่านั้นเอง! ผู้บัญชาการใหญ่โปรดเมตตา!&#8221;</p>
<p>เหมียวอี้แสยะยิ้ม &#8220;ตอนที่เจ้าทรยศข้า เจ้ายังจำที่ข้าพูดได้มั้ย? กล้าทำก็ต้องกล้ารับผลที่ตามมา แค่ยอมจำนนก็พอ!&#8221;</p>
<p>ซูลี่ ถ้าเจ้าอยากจะต่อสู้เพื่ออนาคต ข้าก็ไม่ขัดขวางเจ้าหรอก เจ้ากลัวว่าข้าจะทำให้เจ้าลำบากไปด้วย ข้าก็ไม่โทษเจ้าเช่นกัน แต่มีอยู่คำหนึ่งที่เจ้าต้องจำไว้ให้ดี ข้าไม่ถือสาที่คนเรามีปณิธานต่างกัน แต่ถ้าเป็นคนทรยศ ข้าไม่ปล่อยไปเด็ดขา!&#8217;</p>
<p>ในหัวซูลี่มีคำพูดเหล่านี้แวบเข้ามา ราวกับดังอยู่ในหูอีกครั้ง!</p>
<p>เมื่อเห็นว่าร้องขอชีวิตแล้วไม่ได้ผล ซูลี่ก็พลันคำรามอย่างเดือดดาล &#8220;อ๋า! หนิวโหย่วเต๋อ ข้าจะสู้ตายกับเจ้า!&#8221; พูดจบก็ถือทวนพุ่งเข้ามา จนตรอกเป็นสุนัขกระโดดกำแพงจริงๆ จะซ้ายหรือขวาก็ตายอยู่ดี ทำได้เพียงดิ้นรนก่อนตายสักตั้ง</p>
<p>ชั่วพริบตาที่ทั้งสองฝ่ายเข้าใกล้กัน ซูลี่โบกทวนแทงเข้ามาอย่างบ้าคลั่ง เหมียวอี้ที่ยืนอยู่บนตัวเฮยทั่นที่พุ่งเข้ามาทำสีหน้าเหยียดหยาม ใช้มือข้างเดียวแทงทวนออกไปหนึ่งครั้งอย่างฉับพลัน</p>
<p>แกร๊ง! เสียงดังชัดเจน ทวนยาวในมือซูลี่โดนทวนเกล็ดย้อนทำลายหัก การเคลื่อนไหวของหัวทวนสามคมยังไม่หยุด แทงทะลุเกราะทองของซูลี่เสียงดังฉึก ทิ่มเข้าไปในหัวใจ ทะลุออกมาจากแผ่นหลัง เลือดสดพุ่งกระฉูด</p>
<p>โจมตีสังหารภายในทวนเดียว สังหารได้อย่างเบาสบายมือ</p>
<p>ซูลี่ที่โดนทวนปาดหิ้วขึ้นมาเอามือจับด้ามทวนเกล็ดย้อน มุมปากมีเลือดสดไหลทะลัก บนใบหน้าเต็มไปด้วยอารมณ์สิ้นหวัง พบว่าสู้สุดชีวิตไปก็ไม่มีประโยชน์ ทั้งสองไม่ใช่คู่ต่อสู้ที่อยู่ในระดับเดียวกันเลย</p>
<p>&#8220;เหอะๆ!&#8221; จู่ๆ ซูลี่ก็ฝืนหัวเราะอย่างน่าเวทนา แล้วกล่าวพร้อมหายใจติดๆ ขัดๆ ว่า &#8220;ผู้บัญชาการใหญ่พูดคำไหนคำนั้นจริงๆ ด้วย ไม่ปล่อยข้าน้อยไปจริงๆ!&#8221;</p>
<p>ซวบ! ทวนเกล็ดย้อนพลันดึงออกมา คมทวนกวาดหนึ่งครั้ง กวาดบนคอซูลี่จนละอองเลือดสาดกระจายหนึ่งสาย</p>
<p>เหมียวอี้โบกมือเก็บทั้งคนเก็บทั้งของ แล้วใช้ดวงตาอิทธิฤทธิ์มองไปยังจุดลึกในดาราจักร เขาตามพวกจางฮั่นฟางไม่ทันแล้ว เฮยทั่นแบกเขาเลี้ยวกลับมาอีกครั้ง</p>
<p>เมื่อเห็นเจ้าเวรนี่พุ่งกลับมาอีก ทัพใหญ่ที่ชุมนุมกันเพิ่มความระวังตัวอย่างสูงทันที ป้องกันไม่ให้เขาพุ่งเข้ามาสังหารอีก</p>
<p>แต่ใครจะคิดว่าเหมียวอี้จะมาหยุดอยู่ตรงหน้ากระบวนทัพ แล้วโบกทวนชี้ไปที่กลุ่มคน พร้อมตะโกนเสียงดังว่า &#8220;มัวแต่หลบซ่อนจะนับเก่งอะไรล่ะ ผู้บัญชาการใหญ่หนิวโหย่วเต๋อของตลาดสวรรค์ดาวเทียนหยวนอยู่นี่แล้ว ถ้าอยากจะได้ชีวิตข้า ก็รีบมาสู้ตายกับข้าสักตั้ง!&#8221;</p>
<p>เมื่อเผชิญหน้ากับคนเลอะเลือดที่กลิ่นอายสังหหารพลุ่งพล่าน ไม่น่าเชื่อว่าในทัพใหญ่จะไม่มีใครพูดอะไรเลย แต่ละคนหันซ้ายหันขวา มองหน้ากันไปมองหน้ากันมา</p>
<p>จ้านหรูอี้ที่ยืนอยู่แถวหน้ากัดฟัน ในใจลังเลไม่หยุด อีกฝ่ายคืออันดับหนึ่งที่ราชันสวรรค์แต่งตั้งให้ นางก็เป็นอันดับหนึ่งที่ราชันสวรรค์แต่งตั้งให้เช่นกัน ตอนนี้เจอประกาศท้าทายต่อหน้าฝูงชน ถ้าหากหลีกเลี่ยงที่จะสู้…ที่สำคัญคือนางเคยพูดไว้ต่อหน้าทุกคนแล้วว่าจะเอาชีวิตเหมียวอี้ กอประกับมาเป็นหน้าเป็นหน้าให้กับตระกูลอิ๋ง ถ้าหากหลีกเลี่ยงไม่สู้ ก็อาจจะน่าอับอายเกินทน</p>
<p>เมื่อเห็นว่าไม่มีใครตอบรับ เหมียวอี้ที่รออยู่ครู่หนึ่งก็โบกทวนชี้ไปที่กลุ่มคนอีกครั้ง เสียงดังกว่าเดิมหลายเท่า ตะคอกอย่างเกรี้ยวกราดว่า &#8220;หนิวโหย่วเต๋ออยู่นี่แล้ว ใครกล้าสู้กับข้า!&#8221;</p>
<p>&#8220;อ๋าว…&#8221; เฮยทั่นที่สั่นหัวส่ายหางก็เงยหน้าคำรามเสริมอานุภาพเช่นกัน</p>
<p>ภายใต้การท้าสู้ที่ต่อเนื่อง จ้านหรูอี้ทนไม่ไหวแล้ว จู่ๆ ก็หันกลับมาตะคอกเสียงเข้ม &#8220;จะให้ไอ้โจรกระจอกนี่มันเย้ยว่าเราไร้ความสามารถเหรอ ตราบใดที่พวกเราร่วมใจกัน เขาจะต้องตายแน่นอน ข้าจะรบอยู่แนวหน้า  ทุกคนร่วมมือกับข้า วันนี้ต้องเอาชีวิตเขาให้ได้ ติดตามข้าไปสังหาร ฆ่า!&#8221;</p>
<p>…………………………</p>

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด