พิชิตสวรรค์ ทะยานฟ้า 1716 ประมุขชิงลงมือ

Now you are reading พิชิตสวรรค์ ทะยานฟ้า Chapter 1716 ประมุขชิงลงมือ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

เซี่ยโห้วท่าหันกลับไปมองลูกชายของตัวเองแวบหนึ่ง เห็นเพียงเซี่ยโห้วลิ่งกำลังจ้องเหมียวอี้ไม่ละสายตา

โพ่จวินขมวดคิ้ว ซ่างกวนชิงกับซือหม่าเวิ่นเทียนแทบจะหรี่ตาจ้องเหมียวอี้พร้อมกัน

เทพประจำดาวฟ้าเถาะผังก้วนมองเหมียวอี้ด้วยแววตาตกตะลึงอย่างชัดเจน จอมพลสายวอกลั่วหม่างก็ยิ่งตกใจไม่ใช่น้อย

ขนาดเซี่ยโห้วเฉิงอวี่ยังพูดไม่ออก เป็นครั้งแรกที่เห็นคนบ้าระห่ำขนาดนี้ที่ตำหนักสวรรค์ กล้าขอตำแหน่งขุนนางต่อหน้าฝ่าบาท

เม่ยเหนียงและลูกสาวก็ยิ่งตกใจจนหุบปากไม่ลว ไม่น่าเชื่อว่าจะอยากกระโดดจากตำแหน่งแม่ทัพภาคไปนั่งตำแหน่งใหญ่อย่างหัวหน้าภาคเลย

ประมุขชิงมองต่ำลงมา จ้องเหมียวอี้อย่างเย็นเยียบ “เป็นคนตัวเล็กๆ แต่ความกระหายของเจ้าไม่เล็กเลย!”

ใครจะคิดว่าเหมียวอี้จะพูดสิ่งที่ทำให้คนตกตะลึงต่ออีก “สิ่งเดิมพันนี้เป็นแค่หนึ่งในนั้น ที่จริงไม่นับว่าเป็นสิ่งเดิมพันอะไรหรอก เพียงแต่ข้าน้อยรวบรวมความกล้าขอความเมตตาจากฝ่าบาท! ในเมื่อท่านโหวทั้งสี่จำกัดเงื่อนไขข้าน้อยสามข้อ เช่นนั้นข้าน้อยก็ย่อมต้องขอสิ่งเดิมพันจากท่านโหวทั้งสี่สักส่วนหนึ่ง หากข้าน้อยสามารถดึงกำลังพลเก่งๆ จากสี่ทัพมาสร้างทัพเกรียงไกรหนึ่งแสนได้ หวังว่าท่านโหวทั้งสี่จะปรึกษากับบรรดาขุนนางใหญ่สักหน่อย สี่ทัพต้องให้ตำแหน่งท่านโหวคนละตำแหน่งแก่ฝ่าบาท!”

เมื่อเขากล่าวเช่นนี้ ก็ราวกับเกิดคลื่นยักษ์ซัดกระเพื่อมขึ้นในตำหนัก ไม่น่าเชื่อว่าแม่ทัพภาคต่ำต้อยคนเดียวจะอยากตัดสินใจเรื่องตำแหน่งท่านโหวสี่ตำแหน่ง บ้าบิ่นเกินไปแล้ว!

ประมุขชิงพลันหรี่ตา ในดวงตาฉายประกาย ถ้าสามารถหาทางตัดอำนาจของสี่อ๋องสวรรค์ได้ นั่นก็เป็นสิ่งที่เขาเฝ้าหวังอยู่แล้ว ตำแหน่งโหวสี่ตำแหน่ง ในสายตาเขาสำคัญกว่าตำแหน่งหัวหน้าภาคของเหมียวอี้ตั้งเยอะ เมื่อเทียบกับตำแหน่งท่านโหวแล้ว ตำแหน่งหัวหน้าภาคไม่นับว่าสำคัญเลย!

ซ่างกวนชิงกับซือหม่าเวิ่นเทียนมองเหมียวอี้ด้วยแววตาตกตะลึงอย่างแท้จริง โพ่จวินกับอู๋ฉวี่ก็เช่นกัน แต่ละคนทำสีหน้าชื่นชม ราวกับกำลังชมว่าเจ้าเด็กนี่ก็ไม่เลว!

ในสายตาของประมุขชิง สิ่งเดิมพันที่เหมียวอี้เสนอมาต่างหากถึงจะเหมือนคนกำลังทำงานอย่างแท้จริง

เซี่ยโห้วท่าวางจอกสุราลง หลับตาลงอย่างช้าๆ ไม่รู้ว่ากำลังครุ่นคิดอะไร

เซี่ยโห้วเฉิงอวี่มองปฏิกิริยาประมุขชิงที่อยู่ข้างกันแวบหนึ่ง รู้ว่าคำพูดของเหมียวอี้ทำให้ประมุขชิงสำราญใจแล้ว นางมองเหมียวอี้อีกครั้งด้วยแววตาชื่นชม รู้สึกทันทีว่ายิ่งมองก็ยิ่งถูกชะตา ตอนนี้นางหวังให้เหมียวอี้เดิมพันชนะ เช่นนั้นในภายหัลงตลาดผีเล็กๆ ใต้สังกัดตำหนักนารีสวรรค์ก็จะหลายเป็นน่านฟ้าทั้งแดนรัตติกาลแล้ว

ไม่รู้ว่ามีคนตั้งมากมายเท่าไรที่ตกตะลึงจนพูดไม่ออก เม่ยเหนียงและลูกสาวก็ไม่รู้ว่าตกตะลึงหรือกังวล แต่รู้ว่าคำพูดของเหมียวอี้ล่วงละเมิดผลประโยชน์ของอ๋องสวรรค์ก่วงแล้ว

บนใบหน้าโค่วเจิงก็ฉายแววเดือดดาลเช่นกัน อิ๋งอู๋หม่านพลันยืนขึ้น แล้วตะคอกอย่างเดือดดาล “บังอาจ! แม่ทัพภาคต่ำต้อยอย่างเจ้าช่างกล้าพูดเหลวไหลกับเจ้าของตำแหน่งโหว!”

“บอกว่าเป็นเพียงสิ่งเดิมพันเองไม่ใช่เหรอ ไม่ได้ร้ายแรงขนาดที่เจ้าพูดหรอก จะให้คำพูดประโยคเดียวของเขาตัดสินเจ้าของตำแหน่งโหวได้อย่างไร ถ้าเป็นเช่นนี้จริง ข้าจะเป็นคนแรกที่ไม่ปล่อยเขาไป!” ประมุขชิงเอ่ยปากพูดแล้ว โบกมือให้อิ๋งอู๋หม่านพลางหัวเราะเบาๆ บอกเป็นนัยว่าอย่าโมโหมากไปนัก รอยยิ้มค่อนข้างเป็นมิตรสนิทสนม

อิ๋งอู๋หม่านจะหลีกทางให้ประเด็นนี้ง่ายๆ ได้อย่างไร เขาถามกดดันเหมียวอี้ “ได้ยินแต่เจ้าร้องขอ ไม่รู้ว่าถ้าเจ้าแพ้แล้วจะเอาอะไรมาเป็นสิ่งเดิมพันที่เท่าเทียมกัน?”

เหมียวอี้เงียบแล้ว คนในตำหนักก็มองเขาอย่างเงียบงันเช่นกัน ประมุขชิงมองเหมียวอี้ด้วยแววตาเฝ้าคอย หวังว่าเจ้าเด็กนี่จะทำเรื่องดีๆ เพียงครึ่งเดียว

หลังจากเงียบไปครู่หนึ่ง เหมียวอี้ก็ทำสีหน้าสุขุมใจเย็น แล้วกล่าวเสียงดังฟังชัด “ข้ายินดีถวายหัวให้!”

อิ๋งอู๋หม่านแสยะยิ้ม “ถ้าเจ้าแพ้แล้วก็แปลว่าเจ้าใส่ร้ายขุนนางใหญ่ทั้งราชสำนัก ต่อให้เจ้าไม่ต้องมอบศีรษะให้ แต่ก็มีโทษตายอยู่ดี นี่นับเป็นสิ่งเดิมพันอะไรกัน?”

เรื่องดำเนินมาถึงขั้นนี้แล้ว เหมียวอี้เองก็ระมัดระวังตัวสุดๆ ชั่งน้ำหนักเลือกใช้คำพูดในใจ กลัวว่าจะล้มเหลวเอาตอนสุดท้าย

ใครจะคิดว่าความเงียบของเขาจะทำให้ประมุขชิงเปล่งเสียงพูดแล้ว ยังไม่ทันรอให้เหมียวอี้ใช้แผนสำรอง ประมุขชิงก็หัวเราะลั่นแล้ว “วันนี้เป็นงานวันเกิดของท่านปู่สวรรค์ การเดิมพันนี้ช่างน่าสนุกมาก เพื่อเพิ่มความบันเทิงให้ท่านปู่สวรรค์ ข้าจะเพิ่มรางวัลก็แล้วกัน ไม่ทราบว่าท่านปู่สวรรค์มีความคิดเห็นอย่างไร?” เขาเอ่ยถามขณะมองเซี่ยโห้วท่า

กลุ่มขุนนางใหญ่รู้ทันทีว่าเกิดเรื่องแล้ว รู้ว่าตำแหน่งท่านโหวทั้งสี่ดึงดูดความสนใจประมุขชิงแล้ว ตอนนี้ประมุขชิงต้องการลงมือแล้ว กลุ่มขุนนางเรียกสติให้กระปรี้กระเปร่าเพื่อเตรียมรับมือทันที ถ้าเจอช่องโหว่จากคำพูดของประมุขชิงเมื่อไรก็จะเถียงกลับทันที ส่วนหนิวโหย่วเต๋อนั้นไม่ได้อยู่ในสายตาพวกเขาเลย คนที่พวกเขากังวลจริงๆ ก็คือประมุขชิงที่นั่งอยู่เบื้องสูง

ในเวลานี้เซี่ยโห้วท่าย่อมไม่บุ่มบ่ามเข้ามาเกี่ยวข้อง เขาย่อมไม่ตอบตกลงหรือไม่ตอบตกลงให้ขัดใจใคร ผลักเรื่องนี้กลับไปทันที ตอบอย่างร่าเริง “ทุกสิ่งล้วนขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของฝ่าบาท!”

“ดี! เช่นนั้นก็ทำตามประสงค์ของท่านปู่สวรรค์ เพิ่มการเฉลิมฉลองสักหน่อยแล้วกัน” ประโยคนี้ประมุขชิงบอกกับเซี่ยโห้วเฉิงอวี่ นางย่อมพยักหน้ายิ้มอย่างให้ความร่วมมือ แสดงออกว่าเห็นด้วย

ประมุขชิงยืนขึ้น เอามือไขว้หลังมองลงมาที่กลุ่มขุนนาง กวาดมองด้วยสายตาคมกริบ กล่าวในขณะที่ยิ้มแย้มว่า “เช่นนั้นข้าก็จะเพิ่มความบันเทิงสักหน่อย เพิ่มความบันเทิงอะไรดีล่ะ? ชีวิตของหนิวโหย่วเต๋อจะเทียบกับตำแหน่งท่านโหวทั้งสี่ได้อย่างไร ชีวิตของเขามีน้ำหนักเบาไปหน่อย เดิมพันกับเขาอาจจะเสียเปรียบ เอาอย่างนี้แล้วกัน ข้าจะช่วยนำตำแหน่งโหวสี่ตำแหน่งมาช่วยเขาแบ่งน้ำหนักก็แล้วกัน ถ้าเขาชนะแล้ว ข้าอาจจะให้ท่านโหวสี่ตำแหน่งจากสี่ทัพปลิดชีพตัวเองเหมือนกัน สี่คนจากตระกูลต่างๆ แบบนี้ยังยุติธรรมมั้ย?”

ยุติธรรมบ้าบออะไรล่ะ! ขุนนางใหญ่ของสี่ทัพเข้าใจทันทีว่าประมุขชิงใช้แผนชั่วเพื่อเอาเปรียบ หลังจากเรื่องที่น้ำพุวังเวง สี่ทัพเหนือใต้ออกตกก็อาศัยโอกาสย้ายทัพใหญ่ ฉวยโอกาสถอดอำนาจคนของประมุขชิงแล้ว ลองคิดดูว่าถ้าเกิดศึกใหญ่ขึ้นมา แต่เส้นทางหลักของประตูดวงดาวสำคัญกลับถูกคนของประมุขชิงควบคุมไว้ คนของประมุขชิงก็สังหารเข้ามาได้ง่ายๆ แต่ฝั่งนี้กลับไม่อาจสังหารออกไปได้อย่างราบรื่น ถ้าพลาดโอกาสสำคัญตอนทำศึก ก็จะเป็นภัยคุกคามที่อันตายถึงชีวิต ภายใต้สถานการณ์แบบนั้น ถ้าสี่อ๋องสวรรค์ไม่ถอดคนที่เฝ้าตำแหน่งสำคัญออกก่อนก็แปลกแล้ว ตอนนี้ประมุขชิงนำตำแหน่งที่แทบจะมีแต่ในนามมาเป็นสิ่งเดิมพัน แบบนี้ไม่เรียกว่าเอาเปรียบแล้วจะเรียกว่าอะไร?

ที่สำคัญคือประมุขชิงมีอำนาจตัดสินใจเบ็ดเสร็จที่คนอื่นไม่มี ไม่ว่าเขาจะแพ้สี่ตำแหน่งนั้นหรือชนะสี่ตำแหน่งนั้น แต่ก็ล้วนมีความชอบธรรมที่จะเลือกมาลงมือได้ตามอำเภอใจ

เหมียวอี้รู้สึกผิดคาดอยู่บ้าง นึกไม่ถึงว่าตัวเองยังไม่ทันเพิ่มของเดิมพัน แต่ประมุขชิงก็โผล่ควักกระเป๋าช่วยเขาเพิ่มของเดิมพันแล้ว แต่แบบนี้ก็ดีเหมือนกัน ลดความยุ่งยากให้เขาได้

ก่วงจวินอันกุมหมัดคารวะ “ฝ่าบาท สิ่งเดิมพันนี้มากเกินไป ข้าน้อยทั้งสี่มีเพียงตำแหน่งโหวต่ำต้อย จะถือวิสาสะตัดสินใจได้อย่างไรว่าจะเก็บหรือจะปล่อยตำแหน่งโหวสี่ตำแหน่ง”

อิ๋งอู๋หม่าน ฮ่าวเจ๋อ โค่วเจิง ทั้งสามสบตากัน ก่อนจะกุมหมัดคารวะพร้อมกัน “เป็นเช่นนี้จริงๆ ฝ่าบาทได้โปรดเก็บของเดิมพันกลับไป”

ทว่าคนในตำหนักมีใครไม่รู้บ้างว่าตอนนี้สี่คนนี้เป็นตัวแทนของสี่ทัพในราชสำนัก เพียงแต่เมื่อเจอกับเรื่องแบบนี้ พวกเขาจึงอ้างว่าตัวเองตำแหน่งไม่สูงพอมาเป็นโล่กำบังทันที

ประมุขชิงชำเลืองขุนนางใหญ่คนอื่นๆ “พวกเจ้าไม่มีอำนาจตัดสินใจ แต่ผู้บังคับบัญชาของพวกเจ้าย่อมตัดสินใจได้” ในเมื่อเหมียวอี้ให้โอกาสเขาลงมือแล้ว ถ้าเขาไม่ได้ความสามารถที่แท้จริง มีหรือที่จะยอมหยุด

หวงฮ่าวจอมพลสายมะเมียยืนขึ้นแล้ว กุมหมัดคารวะต่อเบื้องบน “ฝ่าบาท ตำแหน่งขุนนางราชสำนัก ตำแหน่งโหวอันทรงเกียรติ จะนำมาเดิมพันเหมือนเป็นของเล่นได้อย่างไร ถ้าข่าวแพร่ออกไป ตำหนักสวรรค์จะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน? จะให้ค่านิยมแบบนี้ลุกลามไม่ได้ ฝ่าบาทได้โปรดคืนคำสั่ง!”

ไม่ผิดหรอก ประมุขชิงรักหน้าตาศักดิ์ศรี แต่ก็ต้องการเห็นการเปรียบเทียบว่าเป็นอย่างไรเหมือนกัน ยิ่งไปกว่านั้น การที่เขาได้เปรียบก็ถือว่าได้หน้า เมื่อได้ยินแบบนี้ ประมุขชิงก็สีหน้าบึ้งตึงเล็กน้อย “ตอนนี้รู้จักเห็นแก่หน้าตาตำหนักสวรรค์แล้วเหรอ? หรือว่าเมื่อครู่นี้เจ้ากำลังหลับอยู่? เมื่อครู่ตอนพวกเขาสี่คนออกมาเจรจาต่อรองเงื่อนไขกับหนิวโหย่วเต๋อ เจ้าไปไหนแล้วล่ะ? ตอนนี้รู้จักคิดแล้วเหรอว่าจะปล่อยให้คค่านิยมแบบนี้ลุกลามไม่ได้? หวงฮ่าว ข้าถามเจ้าหน่อย เจ้ามีเจตนาอะไรกันแน่? หรือว่าเจ้าคือคนที่ขัดขวางการรับคนเข้าจวนแม่ทัพภาคตลาดผีอยู่เบื้องหลัง?” เสียงนี้ดังก้องทั้งตำหนัก

คำพูดนี้ทำให้ฮูหยินที่นั่งอยู่ข้างกายหวงฮ่าวหวาดระแวงกลัว ทำให้กลุ่มขุนนางใหญ่พูดไม่ออกเช่นกัน ก่อนหน้านี้ใครจะไปรู้ว่าหนิวโหย่วเต๋อจะเปลี่ยนแปลงเรื่องราวให้กลายเป็นอย่างนี้

“ฝ่าบาทโปรดระงับโทสะ ข้าน้อยไม่ได้ทำเรื่องขัดขวางการรับคนเข้าจวนแม่ทัพภาคตลาดผีจริงๆ” หวงฮ่าวกล่าว

“แล้วพวกเจ้าล่ะ?” ประมุขชิงโบกมือชี้รอบในตำหนัก “ทำไมไม่พูดอะไรกันแล้วล่ะ? วางแผนจะขัดขวางการรับคนเข้าจวนแม่ทัพภาคตลาดผีให้ได้เลยใช่มั้ย?”

เมื่อเห็นประมุขชิงกดดันให้กลุ่มขุนนางใหญ่แสดงท่าที สี่คนที่สี่อ๋องสวรรค์ส่งมาก็ย่อมไม่อาจนิ่งเฉยดูเรื่องนี้ถูกกำหนดตายตัว ฮ่าวเจ๋อกุมหมัดคารวะกล่าวเสียงดัง “ฝ่าบาท การเดิมพันนี้เป็นเรื่องระหว่างพวกเราสี่คนกับหนิวโหย่วเต๋อ ไม่เกี่ยวกับขุนนางคนอื่นขอรับ”

ประมุขชิงแสยะหัวเราะ แล้วพยักหน้าบอกว่า “พูดได้ดี! ในเมื่อเป็นสิ่งเดิมพันระหว่างพวกเจ้าสี่คนกับหนิวโหย่วเต๋อ แล้วพวกเจ้าสี่คนก็นั่งอยู่บนตำแหน่งโหวพอดี ยินดีเดิมพันก็ต้องยอมรับความพ่ายแพ้ ถ้าพวกเจ้าสี่คนแพ้แล้ว ข้าจะริบตำแหน่งโหวของพวกเจ้า!” เขาชี้ทั้งสี่คน แล้วก็ชี้ทุกคนอีก “ทุกคนคิดว่าอย่างไร?”

เมื่อประมุขชิงกล่าวเช่นนี้ ฮ่าวเจ๋อก็แอบร้องว่าแย่แล้วทันที

กลุ่มขุนนางแอบทอดถอนใจอย่างพูดไม่ออก เมื่อเทียบกับอ๋องสวรรค์แล้ว ตัวแทนพวกนี้ยังอ่อนหัดเกินไปจริงๆ ตอนนี้มาพูดก็ไม่มีความหมายอะไร ถ้าจะริบตำแหน่งโหวสี่ตำแหน่งนี้จริง เช่นนั้นจะไม่ฟังดูเหลวไหลหรอกเหรอ ไม่ว่าสุดท้ายจะแพ้หรือจะชนะ ขุนนางใหญ่ที่อยู่ตรงนี้ก็ไม่อาจปล่อยให้สี่ตำแหน่งนี้อยู่ในอันตราย เมื่อถูกประมุขชิงลงมือกดดันถึงขั้นนี้แล้ว ทุกคนนับว่ามองออก วันนี้ถ้าไม่อาจวางเดิมพันให้เป็นรูปเป็นร่างได้ ประมุขชิงก็จะไม่ยอมเลิกราแน่นอน

เถิงเฟยจอมพลสายชวดยืนขึ้นแล้ว เขาหัวเราะเบาๆ ช่วยคลายบรรยากาศตึงเครียดในตำหนักใหญ่ก่อน เสร็จแล้วถึงได้กุมหมัดคารวะต่อประมุขชิง “ฝ่าบาท การเดิมพันที่ราชสำนัก จะให้ความนิยมนี้ลุกลามไม่ได้ เพียงแต่มีประโยคหนึ่งที่ฝ่าบาทกล่าวได้ดี วันนี้เป็นงานวันเกิดท่านปู่สวรรค์ เดิมพันเล็กน้อยเพิ่มความบันเทิงให้งานวันเกิด ครั้งนี้ยกเว้นให้ แต่ไม่มีครั้งหน้าอีก! ดังนั้นข้าน้อยยินดีตอบรับฝ่าบาทที่จะร่วมสนุก ควบคุมผู้ใต้บังคับบัญชาไม่ให้แทรกแซงการรับคนที่ตลาดผี”

เขากำลังให้บันไดลงแก่หวงฮ่าว และกำลังทำให้อิ๋งอู๋หม่านหลบอันตรายด้วย

“ข้าน้อยสนับสนุนให้เพิ่มความบันเทิง!” จอมพลสายฉลูเฉิงไท่เจ๋อยืนขึ้นเช่นกัน

“ข้าน้อยสนับสนุนให้เพิ่มความบันเทิง!”

“ข้าน้อยสนับสนุนให้เพิ่มความบันเทิง!”

กลุ่มขุนนางใหญ่ทยอยกันยืนขึ้นแสดงท่าทีว่าสนับสนุน ถ้าจะพูดให้ถูกก็คือเพื่อปกป้องสี่คนนี้

หลังจากกลุ่มขุนนางแสดงท่าทีแล้ว ประมุขชิงก็พยักหน้าอย่างพอใจ “ดี! หลังจากนี้หนึ่งปี ข้าจะดูผลลัพธ์ไปพร้อมกับทุกคน แล้วค่อยตัดสินอย่างยุติธรรมอีกที!”

ใครจะคิดว่าหวงฮ่าวกลับกุมหมัดคารวะอีกครั้ง “ฝ่าบาท การเรื่องที่พระตำหนักอุทยาน จะให้ความนิยมนี้ลุกลามไม่ได้ อิ๋งอู๋เชวียกับหนิวโหย่วเต๋อต่างคนต่างมีเหตุผลของตัวเอง ข้าน้อยแนะนำให้เลือกคนไปตรวจสอบเรื่องนี้ เพื่อให้เป็นไปตามกฎระเบียบ!”

เมื่อกล่าวเช่นนี้ ก็มีคนไม่น้อยเกิดความคิดในใจอีก เข้าใจเจตนาของหวงฮ่าวแล้ว ทำแบบนี้เพื่อจะอาศัยการตรวจสอบขยายเวลาการเดินพัน ไม่แน่ว่าในระหว่างที่ตรวจสอบอาจจะใช้อุบายอะไรเล่นงานให้หนิวโหย่วเต๋อตายไปก็ได้ การเดิมพันก็ย่อมพังไปด้วย

ขณะที่กลุ่มขุนนางใหญ่กำลังจะกล่าวสนับสนุน ใครจะคิดว่าประมุขชิงจะแย่งลงมือแล้ว “ก่อเรื่องเอะอะโวยวายที่พระตำหนักอุทยาน ไม่ว่าใครจะมีเหตุผลอะไร แต่ถ้าอดทนไว้หน่อยก็ทำให้เรื่องสงบได้แล้ว แต่กลับมีคนมองข้ามหัวเดชานุภาพสวรรค์! ข้าไม่สนว่าผลลัพธ์จะเป็นอย่างไร ทำโทษก่อนแล้วค่อยว่ากัน! วันนี้เห็นแก่หน้าท่านปู่สวรรค์ ข้าไม่อยากทำให้เสียบรรยากาศ โทษตายหลีกได้ โทษเป็นมิอาจเว้น ทหาร ลากสองคนนี้ไปให้รางวัลคนละสิบแส้!”

…………………………

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

พิชิตสวรรค์ ทะยานฟ้า 1716 ประมุขชิงลงมือ

Now you are reading พิชิตสวรรค์ ทะยานฟ้า Chapter 1716 ประมุขชิงลงมือ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

เซี่ยโห้วท่าหันกลับไปมองลูกชายของตัวเองแวบหนึ่ง เห็นเพียงเซี่ยโห้วลิ่งกำลังจ้องเหมียวอี้ไม่ละสายตา

โพ่จวินขมวดคิ้ว ซ่างกวนชิงกับซือหม่าเวิ่นเทียนแทบจะหรี่ตาจ้องเหมียวอี้พร้อมกัน

เทพประจำดาวฟ้าเถาะผังก้วนมองเหมียวอี้ด้วยแววตาตกตะลึงอย่างชัดเจน จอมพลสายวอกลั่วหม่างก็ยิ่งตกใจไม่ใช่น้อย

ขนาดเซี่ยโห้วเฉิงอวี่ยังพูดไม่ออก เป็นครั้งแรกที่เห็นคนบ้าระห่ำขนาดนี้ที่ตำหนักสวรรค์ กล้าขอตำแหน่งขุนนางต่อหน้าฝ่าบาท

เม่ยเหนียงและลูกสาวก็ยิ่งตกใจจนหุบปากไม่ลว ไม่น่าเชื่อว่าจะอยากกระโดดจากตำแหน่งแม่ทัพภาคไปนั่งตำแหน่งใหญ่อย่างหัวหน้าภาคเลย

ประมุขชิงมองต่ำลงมา จ้องเหมียวอี้อย่างเย็นเยียบ “เป็นคนตัวเล็กๆ แต่ความกระหายของเจ้าไม่เล็กเลย!”

ใครจะคิดว่าเหมียวอี้จะพูดสิ่งที่ทำให้คนตกตะลึงต่ออีก “สิ่งเดิมพันนี้เป็นแค่หนึ่งในนั้น ที่จริงไม่นับว่าเป็นสิ่งเดิมพันอะไรหรอก เพียงแต่ข้าน้อยรวบรวมความกล้าขอความเมตตาจากฝ่าบาท! ในเมื่อท่านโหวทั้งสี่จำกัดเงื่อนไขข้าน้อยสามข้อ เช่นนั้นข้าน้อยก็ย่อมต้องขอสิ่งเดิมพันจากท่านโหวทั้งสี่สักส่วนหนึ่ง หากข้าน้อยสามารถดึงกำลังพลเก่งๆ จากสี่ทัพมาสร้างทัพเกรียงไกรหนึ่งแสนได้ หวังว่าท่านโหวทั้งสี่จะปรึกษากับบรรดาขุนนางใหญ่สักหน่อย สี่ทัพต้องให้ตำแหน่งท่านโหวคนละตำแหน่งแก่ฝ่าบาท!”

เมื่อเขากล่าวเช่นนี้ ก็ราวกับเกิดคลื่นยักษ์ซัดกระเพื่อมขึ้นในตำหนัก ไม่น่าเชื่อว่าแม่ทัพภาคต่ำต้อยคนเดียวจะอยากตัดสินใจเรื่องตำแหน่งท่านโหวสี่ตำแหน่ง บ้าบิ่นเกินไปแล้ว!

ประมุขชิงพลันหรี่ตา ในดวงตาฉายประกาย ถ้าสามารถหาทางตัดอำนาจของสี่อ๋องสวรรค์ได้ นั่นก็เป็นสิ่งที่เขาเฝ้าหวังอยู่แล้ว ตำแหน่งโหวสี่ตำแหน่ง ในสายตาเขาสำคัญกว่าตำแหน่งหัวหน้าภาคของเหมียวอี้ตั้งเยอะ เมื่อเทียบกับตำแหน่งท่านโหวแล้ว ตำแหน่งหัวหน้าภาคไม่นับว่าสำคัญเลย!

ซ่างกวนชิงกับซือหม่าเวิ่นเทียนมองเหมียวอี้ด้วยแววตาตกตะลึงอย่างแท้จริง โพ่จวินกับอู๋ฉวี่ก็เช่นกัน แต่ละคนทำสีหน้าชื่นชม ราวกับกำลังชมว่าเจ้าเด็กนี่ก็ไม่เลว!

ในสายตาของประมุขชิง สิ่งเดิมพันที่เหมียวอี้เสนอมาต่างหากถึงจะเหมือนคนกำลังทำงานอย่างแท้จริง

เซี่ยโห้วท่าวางจอกสุราลง หลับตาลงอย่างช้าๆ ไม่รู้ว่ากำลังครุ่นคิดอะไร

เซี่ยโห้วเฉิงอวี่มองปฏิกิริยาประมุขชิงที่อยู่ข้างกันแวบหนึ่ง รู้ว่าคำพูดของเหมียวอี้ทำให้ประมุขชิงสำราญใจแล้ว นางมองเหมียวอี้อีกครั้งด้วยแววตาชื่นชม รู้สึกทันทีว่ายิ่งมองก็ยิ่งถูกชะตา ตอนนี้นางหวังให้เหมียวอี้เดิมพันชนะ เช่นนั้นในภายหัลงตลาดผีเล็กๆ ใต้สังกัดตำหนักนารีสวรรค์ก็จะหลายเป็นน่านฟ้าทั้งแดนรัตติกาลแล้ว

ไม่รู้ว่ามีคนตั้งมากมายเท่าไรที่ตกตะลึงจนพูดไม่ออก เม่ยเหนียงและลูกสาวก็ไม่รู้ว่าตกตะลึงหรือกังวล แต่รู้ว่าคำพูดของเหมียวอี้ล่วงละเมิดผลประโยชน์ของอ๋องสวรรค์ก่วงแล้ว

บนใบหน้าโค่วเจิงก็ฉายแววเดือดดาลเช่นกัน อิ๋งอู๋หม่านพลันยืนขึ้น แล้วตะคอกอย่างเดือดดาล “บังอาจ! แม่ทัพภาคต่ำต้อยอย่างเจ้าช่างกล้าพูดเหลวไหลกับเจ้าของตำแหน่งโหว!”

“บอกว่าเป็นเพียงสิ่งเดิมพันเองไม่ใช่เหรอ ไม่ได้ร้ายแรงขนาดที่เจ้าพูดหรอก จะให้คำพูดประโยคเดียวของเขาตัดสินเจ้าของตำแหน่งโหวได้อย่างไร ถ้าเป็นเช่นนี้จริง ข้าจะเป็นคนแรกที่ไม่ปล่อยเขาไป!” ประมุขชิงเอ่ยปากพูดแล้ว โบกมือให้อิ๋งอู๋หม่านพลางหัวเราะเบาๆ บอกเป็นนัยว่าอย่าโมโหมากไปนัก รอยยิ้มค่อนข้างเป็นมิตรสนิทสนม

อิ๋งอู๋หม่านจะหลีกทางให้ประเด็นนี้ง่ายๆ ได้อย่างไร เขาถามกดดันเหมียวอี้ “ได้ยินแต่เจ้าร้องขอ ไม่รู้ว่าถ้าเจ้าแพ้แล้วจะเอาอะไรมาเป็นสิ่งเดิมพันที่เท่าเทียมกัน?”

เหมียวอี้เงียบแล้ว คนในตำหนักก็มองเขาอย่างเงียบงันเช่นกัน ประมุขชิงมองเหมียวอี้ด้วยแววตาเฝ้าคอย หวังว่าเจ้าเด็กนี่จะทำเรื่องดีๆ เพียงครึ่งเดียว

หลังจากเงียบไปครู่หนึ่ง เหมียวอี้ก็ทำสีหน้าสุขุมใจเย็น แล้วกล่าวเสียงดังฟังชัด “ข้ายินดีถวายหัวให้!”

อิ๋งอู๋หม่านแสยะยิ้ม “ถ้าเจ้าแพ้แล้วก็แปลว่าเจ้าใส่ร้ายขุนนางใหญ่ทั้งราชสำนัก ต่อให้เจ้าไม่ต้องมอบศีรษะให้ แต่ก็มีโทษตายอยู่ดี นี่นับเป็นสิ่งเดิมพันอะไรกัน?”

เรื่องดำเนินมาถึงขั้นนี้แล้ว เหมียวอี้เองก็ระมัดระวังตัวสุดๆ ชั่งน้ำหนักเลือกใช้คำพูดในใจ กลัวว่าจะล้มเหลวเอาตอนสุดท้าย

ใครจะคิดว่าความเงียบของเขาจะทำให้ประมุขชิงเปล่งเสียงพูดแล้ว ยังไม่ทันรอให้เหมียวอี้ใช้แผนสำรอง ประมุขชิงก็หัวเราะลั่นแล้ว “วันนี้เป็นงานวันเกิดของท่านปู่สวรรค์ การเดิมพันนี้ช่างน่าสนุกมาก เพื่อเพิ่มความบันเทิงให้ท่านปู่สวรรค์ ข้าจะเพิ่มรางวัลก็แล้วกัน ไม่ทราบว่าท่านปู่สวรรค์มีความคิดเห็นอย่างไร?” เขาเอ่ยถามขณะมองเซี่ยโห้วท่า

กลุ่มขุนนางใหญ่รู้ทันทีว่าเกิดเรื่องแล้ว รู้ว่าตำแหน่งท่านโหวทั้งสี่ดึงดูดความสนใจประมุขชิงแล้ว ตอนนี้ประมุขชิงต้องการลงมือแล้ว กลุ่มขุนนางเรียกสติให้กระปรี้กระเปร่าเพื่อเตรียมรับมือทันที ถ้าเจอช่องโหว่จากคำพูดของประมุขชิงเมื่อไรก็จะเถียงกลับทันที ส่วนหนิวโหย่วเต๋อนั้นไม่ได้อยู่ในสายตาพวกเขาเลย คนที่พวกเขากังวลจริงๆ ก็คือประมุขชิงที่นั่งอยู่เบื้องสูง

ในเวลานี้เซี่ยโห้วท่าย่อมไม่บุ่มบ่ามเข้ามาเกี่ยวข้อง เขาย่อมไม่ตอบตกลงหรือไม่ตอบตกลงให้ขัดใจใคร ผลักเรื่องนี้กลับไปทันที ตอบอย่างร่าเริง “ทุกสิ่งล้วนขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของฝ่าบาท!”

“ดี! เช่นนั้นก็ทำตามประสงค์ของท่านปู่สวรรค์ เพิ่มการเฉลิมฉลองสักหน่อยแล้วกัน” ประโยคนี้ประมุขชิงบอกกับเซี่ยโห้วเฉิงอวี่ นางย่อมพยักหน้ายิ้มอย่างให้ความร่วมมือ แสดงออกว่าเห็นด้วย

ประมุขชิงยืนขึ้น เอามือไขว้หลังมองลงมาที่กลุ่มขุนนาง กวาดมองด้วยสายตาคมกริบ กล่าวในขณะที่ยิ้มแย้มว่า “เช่นนั้นข้าก็จะเพิ่มความบันเทิงสักหน่อย เพิ่มความบันเทิงอะไรดีล่ะ? ชีวิตของหนิวโหย่วเต๋อจะเทียบกับตำแหน่งท่านโหวทั้งสี่ได้อย่างไร ชีวิตของเขามีน้ำหนักเบาไปหน่อย เดิมพันกับเขาอาจจะเสียเปรียบ เอาอย่างนี้แล้วกัน ข้าจะช่วยนำตำแหน่งโหวสี่ตำแหน่งมาช่วยเขาแบ่งน้ำหนักก็แล้วกัน ถ้าเขาชนะแล้ว ข้าอาจจะให้ท่านโหวสี่ตำแหน่งจากสี่ทัพปลิดชีพตัวเองเหมือนกัน สี่คนจากตระกูลต่างๆ แบบนี้ยังยุติธรรมมั้ย?”

ยุติธรรมบ้าบออะไรล่ะ! ขุนนางใหญ่ของสี่ทัพเข้าใจทันทีว่าประมุขชิงใช้แผนชั่วเพื่อเอาเปรียบ หลังจากเรื่องที่น้ำพุวังเวง สี่ทัพเหนือใต้ออกตกก็อาศัยโอกาสย้ายทัพใหญ่ ฉวยโอกาสถอดอำนาจคนของประมุขชิงแล้ว ลองคิดดูว่าถ้าเกิดศึกใหญ่ขึ้นมา แต่เส้นทางหลักของประตูดวงดาวสำคัญกลับถูกคนของประมุขชิงควบคุมไว้ คนของประมุขชิงก็สังหารเข้ามาได้ง่ายๆ แต่ฝั่งนี้กลับไม่อาจสังหารออกไปได้อย่างราบรื่น ถ้าพลาดโอกาสสำคัญตอนทำศึก ก็จะเป็นภัยคุกคามที่อันตายถึงชีวิต ภายใต้สถานการณ์แบบนั้น ถ้าสี่อ๋องสวรรค์ไม่ถอดคนที่เฝ้าตำแหน่งสำคัญออกก่อนก็แปลกแล้ว ตอนนี้ประมุขชิงนำตำแหน่งที่แทบจะมีแต่ในนามมาเป็นสิ่งเดิมพัน แบบนี้ไม่เรียกว่าเอาเปรียบแล้วจะเรียกว่าอะไร?

ที่สำคัญคือประมุขชิงมีอำนาจตัดสินใจเบ็ดเสร็จที่คนอื่นไม่มี ไม่ว่าเขาจะแพ้สี่ตำแหน่งนั้นหรือชนะสี่ตำแหน่งนั้น แต่ก็ล้วนมีความชอบธรรมที่จะเลือกมาลงมือได้ตามอำเภอใจ

เหมียวอี้รู้สึกผิดคาดอยู่บ้าง นึกไม่ถึงว่าตัวเองยังไม่ทันเพิ่มของเดิมพัน แต่ประมุขชิงก็โผล่ควักกระเป๋าช่วยเขาเพิ่มของเดิมพันแล้ว แต่แบบนี้ก็ดีเหมือนกัน ลดความยุ่งยากให้เขาได้

ก่วงจวินอันกุมหมัดคารวะ “ฝ่าบาท สิ่งเดิมพันนี้มากเกินไป ข้าน้อยทั้งสี่มีเพียงตำแหน่งโหวต่ำต้อย จะถือวิสาสะตัดสินใจได้อย่างไรว่าจะเก็บหรือจะปล่อยตำแหน่งโหวสี่ตำแหน่ง”

อิ๋งอู๋หม่าน ฮ่าวเจ๋อ โค่วเจิง ทั้งสามสบตากัน ก่อนจะกุมหมัดคารวะพร้อมกัน “เป็นเช่นนี้จริงๆ ฝ่าบาทได้โปรดเก็บของเดิมพันกลับไป”

ทว่าคนในตำหนักมีใครไม่รู้บ้างว่าตอนนี้สี่คนนี้เป็นตัวแทนของสี่ทัพในราชสำนัก เพียงแต่เมื่อเจอกับเรื่องแบบนี้ พวกเขาจึงอ้างว่าตัวเองตำแหน่งไม่สูงพอมาเป็นโล่กำบังทันที

ประมุขชิงชำเลืองขุนนางใหญ่คนอื่นๆ “พวกเจ้าไม่มีอำนาจตัดสินใจ แต่ผู้บังคับบัญชาของพวกเจ้าย่อมตัดสินใจได้” ในเมื่อเหมียวอี้ให้โอกาสเขาลงมือแล้ว ถ้าเขาไม่ได้ความสามารถที่แท้จริง มีหรือที่จะยอมหยุด

หวงฮ่าวจอมพลสายมะเมียยืนขึ้นแล้ว กุมหมัดคารวะต่อเบื้องบน “ฝ่าบาท ตำแหน่งขุนนางราชสำนัก ตำแหน่งโหวอันทรงเกียรติ จะนำมาเดิมพันเหมือนเป็นของเล่นได้อย่างไร ถ้าข่าวแพร่ออกไป ตำหนักสวรรค์จะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน? จะให้ค่านิยมแบบนี้ลุกลามไม่ได้ ฝ่าบาทได้โปรดคืนคำสั่ง!”

ไม่ผิดหรอก ประมุขชิงรักหน้าตาศักดิ์ศรี แต่ก็ต้องการเห็นการเปรียบเทียบว่าเป็นอย่างไรเหมือนกัน ยิ่งไปกว่านั้น การที่เขาได้เปรียบก็ถือว่าได้หน้า เมื่อได้ยินแบบนี้ ประมุขชิงก็สีหน้าบึ้งตึงเล็กน้อย “ตอนนี้รู้จักเห็นแก่หน้าตาตำหนักสวรรค์แล้วเหรอ? หรือว่าเมื่อครู่นี้เจ้ากำลังหลับอยู่? เมื่อครู่ตอนพวกเขาสี่คนออกมาเจรจาต่อรองเงื่อนไขกับหนิวโหย่วเต๋อ เจ้าไปไหนแล้วล่ะ? ตอนนี้รู้จักคิดแล้วเหรอว่าจะปล่อยให้คค่านิยมแบบนี้ลุกลามไม่ได้? หวงฮ่าว ข้าถามเจ้าหน่อย เจ้ามีเจตนาอะไรกันแน่? หรือว่าเจ้าคือคนที่ขัดขวางการรับคนเข้าจวนแม่ทัพภาคตลาดผีอยู่เบื้องหลัง?” เสียงนี้ดังก้องทั้งตำหนัก

คำพูดนี้ทำให้ฮูหยินที่นั่งอยู่ข้างกายหวงฮ่าวหวาดระแวงกลัว ทำให้กลุ่มขุนนางใหญ่พูดไม่ออกเช่นกัน ก่อนหน้านี้ใครจะไปรู้ว่าหนิวโหย่วเต๋อจะเปลี่ยนแปลงเรื่องราวให้กลายเป็นอย่างนี้

“ฝ่าบาทโปรดระงับโทสะ ข้าน้อยไม่ได้ทำเรื่องขัดขวางการรับคนเข้าจวนแม่ทัพภาคตลาดผีจริงๆ” หวงฮ่าวกล่าว

“แล้วพวกเจ้าล่ะ?” ประมุขชิงโบกมือชี้รอบในตำหนัก “ทำไมไม่พูดอะไรกันแล้วล่ะ? วางแผนจะขัดขวางการรับคนเข้าจวนแม่ทัพภาคตลาดผีให้ได้เลยใช่มั้ย?”

เมื่อเห็นประมุขชิงกดดันให้กลุ่มขุนนางใหญ่แสดงท่าที สี่คนที่สี่อ๋องสวรรค์ส่งมาก็ย่อมไม่อาจนิ่งเฉยดูเรื่องนี้ถูกกำหนดตายตัว ฮ่าวเจ๋อกุมหมัดคารวะกล่าวเสียงดัง “ฝ่าบาท การเดิมพันนี้เป็นเรื่องระหว่างพวกเราสี่คนกับหนิวโหย่วเต๋อ ไม่เกี่ยวกับขุนนางคนอื่นขอรับ”

ประมุขชิงแสยะหัวเราะ แล้วพยักหน้าบอกว่า “พูดได้ดี! ในเมื่อเป็นสิ่งเดิมพันระหว่างพวกเจ้าสี่คนกับหนิวโหย่วเต๋อ แล้วพวกเจ้าสี่คนก็นั่งอยู่บนตำแหน่งโหวพอดี ยินดีเดิมพันก็ต้องยอมรับความพ่ายแพ้ ถ้าพวกเจ้าสี่คนแพ้แล้ว ข้าจะริบตำแหน่งโหวของพวกเจ้า!” เขาชี้ทั้งสี่คน แล้วก็ชี้ทุกคนอีก “ทุกคนคิดว่าอย่างไร?”

เมื่อประมุขชิงกล่าวเช่นนี้ ฮ่าวเจ๋อก็แอบร้องว่าแย่แล้วทันที

กลุ่มขุนนางแอบทอดถอนใจอย่างพูดไม่ออก เมื่อเทียบกับอ๋องสวรรค์แล้ว ตัวแทนพวกนี้ยังอ่อนหัดเกินไปจริงๆ ตอนนี้มาพูดก็ไม่มีความหมายอะไร ถ้าจะริบตำแหน่งโหวสี่ตำแหน่งนี้จริง เช่นนั้นจะไม่ฟังดูเหลวไหลหรอกเหรอ ไม่ว่าสุดท้ายจะแพ้หรือจะชนะ ขุนนางใหญ่ที่อยู่ตรงนี้ก็ไม่อาจปล่อยให้สี่ตำแหน่งนี้อยู่ในอันตราย เมื่อถูกประมุขชิงลงมือกดดันถึงขั้นนี้แล้ว ทุกคนนับว่ามองออก วันนี้ถ้าไม่อาจวางเดิมพันให้เป็นรูปเป็นร่างได้ ประมุขชิงก็จะไม่ยอมเลิกราแน่นอน

เถิงเฟยจอมพลสายชวดยืนขึ้นแล้ว เขาหัวเราะเบาๆ ช่วยคลายบรรยากาศตึงเครียดในตำหนักใหญ่ก่อน เสร็จแล้วถึงได้กุมหมัดคารวะต่อประมุขชิง “ฝ่าบาท การเดิมพันที่ราชสำนัก จะให้ความนิยมนี้ลุกลามไม่ได้ เพียงแต่มีประโยคหนึ่งที่ฝ่าบาทกล่าวได้ดี วันนี้เป็นงานวันเกิดท่านปู่สวรรค์ เดิมพันเล็กน้อยเพิ่มความบันเทิงให้งานวันเกิด ครั้งนี้ยกเว้นให้ แต่ไม่มีครั้งหน้าอีก! ดังนั้นข้าน้อยยินดีตอบรับฝ่าบาทที่จะร่วมสนุก ควบคุมผู้ใต้บังคับบัญชาไม่ให้แทรกแซงการรับคนที่ตลาดผี”

เขากำลังให้บันไดลงแก่หวงฮ่าว และกำลังทำให้อิ๋งอู๋หม่านหลบอันตรายด้วย

“ข้าน้อยสนับสนุนให้เพิ่มความบันเทิง!” จอมพลสายฉลูเฉิงไท่เจ๋อยืนขึ้นเช่นกัน

“ข้าน้อยสนับสนุนให้เพิ่มความบันเทิง!”

“ข้าน้อยสนับสนุนให้เพิ่มความบันเทิง!”

กลุ่มขุนนางใหญ่ทยอยกันยืนขึ้นแสดงท่าทีว่าสนับสนุน ถ้าจะพูดให้ถูกก็คือเพื่อปกป้องสี่คนนี้

หลังจากกลุ่มขุนนางแสดงท่าทีแล้ว ประมุขชิงก็พยักหน้าอย่างพอใจ “ดี! หลังจากนี้หนึ่งปี ข้าจะดูผลลัพธ์ไปพร้อมกับทุกคน แล้วค่อยตัดสินอย่างยุติธรรมอีกที!”

ใครจะคิดว่าหวงฮ่าวกลับกุมหมัดคารวะอีกครั้ง “ฝ่าบาท การเรื่องที่พระตำหนักอุทยาน จะให้ความนิยมนี้ลุกลามไม่ได้ อิ๋งอู๋เชวียกับหนิวโหย่วเต๋อต่างคนต่างมีเหตุผลของตัวเอง ข้าน้อยแนะนำให้เลือกคนไปตรวจสอบเรื่องนี้ เพื่อให้เป็นไปตามกฎระเบียบ!”

เมื่อกล่าวเช่นนี้ ก็มีคนไม่น้อยเกิดความคิดในใจอีก เข้าใจเจตนาของหวงฮ่าวแล้ว ทำแบบนี้เพื่อจะอาศัยการตรวจสอบขยายเวลาการเดินพัน ไม่แน่ว่าในระหว่างที่ตรวจสอบอาจจะใช้อุบายอะไรเล่นงานให้หนิวโหย่วเต๋อตายไปก็ได้ การเดิมพันก็ย่อมพังไปด้วย

ขณะที่กลุ่มขุนนางใหญ่กำลังจะกล่าวสนับสนุน ใครจะคิดว่าประมุขชิงจะแย่งลงมือแล้ว “ก่อเรื่องเอะอะโวยวายที่พระตำหนักอุทยาน ไม่ว่าใครจะมีเหตุผลอะไร แต่ถ้าอดทนไว้หน่อยก็ทำให้เรื่องสงบได้แล้ว แต่กลับมีคนมองข้ามหัวเดชานุภาพสวรรค์! ข้าไม่สนว่าผลลัพธ์จะเป็นอย่างไร ทำโทษก่อนแล้วค่อยว่ากัน! วันนี้เห็นแก่หน้าท่านปู่สวรรค์ ข้าไม่อยากทำให้เสียบรรยากาศ โทษตายหลีกได้ โทษเป็นมิอาจเว้น ทหาร ลากสองคนนี้ไปให้รางวัลคนละสิบแส้!”

…………………………

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+