พิชิตสวรรค์ ทะยานฟ้า 1753 โอรสสวรรค์ถือกำเนิด (1)

Now you are reading พิชิตสวรรค์ ทะยานฟ้า Chapter 1753 โอรสสวรรค์ถือกำเนิด (1) at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

เว่ยซูตอบว่า “หนิวโหย่วเต๋อเลือกคุณชายหก สาเหตุก็เพราะพวกเขาสองคนถูกลดตำแหน่งมานานมากพอแล้ว ถ้าให้ไปทำเรื่องผิดกฎหมาย คนข้างนอกที่รู้จักพวกเขาก็มีไม่เยอะ ประการต่อมา หนิวโหย่วเต๋อไม่สะดวกจะส่งยอดฝีมือบงกชกลายออกไปข้างนอกเยอะเกิน ส่งชิงเยว่กับหลงซิ่นไปทำเรื่องนี้ไม่ได้อยู่แล้ว อีกทั้งคุณชายหกและอีกคนวรยุทธ์ค่อนข้างสูงในบรรดานักพรตระดับบงกชกลายด้วยกัน อีกสาเหตุก็คือ…”

ตั้งใจฟัง เซี่ยโห้วท่าที่กำลังครุ่นคิดอย่างละเอียดเหล่ตามอง “ยังมีอะไร? มีอะไรไม่สะดวกพูด?”

เว่ยซูค่อนข้างอึดอัด “หนิวโหย่วเต๋อบอกว่าคุณชายหกกับอีกคนหน้าตาไม่ดี ไม่สะดุดตาคน ไม่เป็นจุดสนใจได้ง่ายๆ ขอรับ”

“…” เซี่ยโห้วท่าพูดไม่ออก ยกมือลูบใบหน้าตัวเองโดยจิตใต้สำนึก ในจุดนี้แม้แต่ตัวเองก็ยังต้องยอมรับ ตระกูลเซี่ยโห้วไม่มีใครหน้าตาดีสักคนเลยจริงๆ เพียงแต่การส่งไปทำงานเทาๆ เพราะหน้าตาไม่ดี เหตุผลนี้มันออกจะ…ใบหน้าเขากระตุกอย่างรุนแรงครู่หนึ่ง

แต่ไม่ว่าจะน่าฟังหรือไม่ อย่างน้อยก็มีเหตุผล เพราะถ้าหน้าตาดีจะดึงดูดสายตาคนได้ง่าย

โดยเฉพาะเหตุผลข้อแรก เมื่อถูกลดตำแหน่งเป็นเทพแห่งภูผาและเทพแห่งผืนดินนานก็ย่อมอยู่อย่างสงบเสงี่ยมมานาน คนข้างนอกที่รู้จักก็ย่อมมีไม่เยอะเช่นกัน เหมาะจะส่งไปทำงานสีเทาจริงๆ

มีเหตุผลสองข้อนี้ก็เพียงพอแล้ว เซี่ยโห้วท่าเองก็ไม่ได้ว่าอะไร แต่ก็ยังคาใจกับเหตุผลนี้ ที่แท้การหน้าตาไม่ดีก็เป็นความผิดพลาดอย่างหนึ่งเหมือนกัน

ทั้งตระกูลเซี่ยโห้วทำให้คนรู้สึกทอดถอนใจ ทั้งลูกทั้งหลานหาใครหน้าตาดีไม่ได้สักคน ขนาดคนที่ส่งให้ราชันสวรรค์ คนที่สนับสนุนให้เป็นราชินีสวรรค์ก็ยังน่าหัวเราะเยาะ

ที่พูดไม่ออกยิ่งกว่านั้นก็คือ คุณชายหกตระกูลเซี่ยโห้วที่ควบคุมอำนาจกลุ่มก๊วนอยู่อย่างหลบซ่อนมาหลายปี พอโผล่มาก็ทำเสียแผนเพราะหน้าตาไม่ดี

คุณชายหกรับตำแหน่งเทพแห่งผืนดินมานานเกินไปจริงๆ ยังไม่ต้องพูดถึงเหตุผลอื่น การอยู่ในตำแหน่งเทพแห่งผืนดินไปเรื่อยๆ สักวันความก้าวหน้าของวรยุทธ์ก็ต้องทำให้คนอื่นสงสัย ดังนั้นจึงหาโอกาสล้างตัวตนมาโดยตลอด ตอนแรกการรับสมัครคนของจวนแม่ทัพภาคตลาดผีไม่ได้อยู่ในแผนการล้างตัวตนของเขา เพราะวรยุทธ์ของคุณชายหกสูงไปหน่อย จนกระทั่งชิงเยว่กับหลงซิ่นปรากฏตัว ถึงได้ทำลายความหวาดระแวงของเขาไป ถึงได้เด็ดขาดสั่งให้คุณชายหกฉวยโอกาสนี้ล้างตัวตน ไม่ใช่แค่สามารถแทรกสายลับเข้าไปข้างกายหนิวโหย่วเต๋อได้ ทั้งยังสืบได้ด้วยว่าเรื่องรับสมัครคนเป็นอย่างไรกันแน่ ผลก็คือพบว่ามีลับลมคมในจริงๆ มีอำนาจกลุ่มหนึ่งกำลังแอบช่วยตรวจสอบกลุ่มผู้สมัครให้หนิวโหย่วเต๋อ

ใครจะคิดว่าตอนที่คุณชายหกเพิ่งจะเข้าไป ยังไม่ทันได้ยืนให้มั่นคง ก็ถูกส่งตัวไปทำงานสีเทาด้วยเหตุผลที่ว่าหน้าตาไม่ดีแล้ว หนึ่งในผู้ควบคุมอำนาจใต้ดินของตระกูลเซี่ยโห้ว ไม่น่าเชื่อว่าจะถูกส่งไปทำเรื่องนี้…

เซี่ยโห้วท่าที่เงียบไปนานถอนหายใจ “บอกเจ้าหกว่าให้ระวังตัวหน่อย ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไร แต่ในเมื่อถูกเลือกแล้ว ก็ต้องกอดความระแวงสงสัยเอาไว้ตลอด

“ขอรับ!” เว่ยซูเอ่ยรับ

ดาวเทียนหยวน ตลาดสวรรค์ ประตูเมืองตะวันออกปิดแล้ว

ในเมืองนี้ มีคนไม่น้อยกำลังมองประตูเขตเมืองตะวันออกที่ถูกปิดและพากันวิพากษ์วิจารณ์ พากันสงสัยว่าปิดประตูเมืองทำไม ต่างก็สอบถามกันและกันว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้น

ด้านนอกเมือง ทหารสวรรค์ถืออาวุธตั้งยืนเรียงราย ผู้บัญชาการใหญ่ตลาดสวรรค์ฝูชิงเอามือไขว้หลังเดินไปเดินมา

“ผู้บัญชาการใหญ่ มาแล้ว” จู่ๆ ก็มีคนชี้บนท้องฟ้าพร้อมตะโกนบอก

ฝูชิงเงยหน้ามอง เห็นคนกลุ่มหนึ่งเหาะลงมาจากฟ้า เข้ามาใกล้อย่างรวดเร็ว คนหนึ่งพันคนเหยียบลงพื้น ทั้งหมดใส่ชุดลำลอง ส่วนใหญ่ใส่หน้ากากปลอมตัว มีเพียงสองคนหน้าที่ไม่ได้ปลอมตัว นั่นก็คือสวีถังหรานกับเสวี่ยหลิงหลง

ฝูชิงรีบก้าวมาข้างหน้า แล้วกุมหมัดคารวะ “คารวะรองหัวหน้าภาคสวี”

“ไอ๊หยา!” สวีถังหรานที่ใบหน้าเต็มไปด้วยรอยยิ้มรีบก้าวมาข้างหน้า ใช้สองมือประคอง “พี่ฝู ระหว่างเจ้ากับข้าไม่จำเป็นต้องเกรงใจขนาดนั้นหรอก”

ฝูชิงกุมหมัดคารวะเสวี่ยหลิงหลง “คารวะฮูหยิน”

เสวี่ยหลิงหลงพยักหน้ายิ้ม

“เชิญ!” ฝูชิงยื่นมือเชิญ แล้วนำทางด้วยตัวเอง

พอเข้ามาในเมืองแล้วเห็นทหารสวรรค์ตรงประตูฝั่งซ้ายและขวา สวีถังหรานก็ถอนหายใจ “พี่ฝูต้อนรับใหญ่โตขนาดนี้ เกรงใจเกินไปแล้ว”

ฝูชิงกับสวีถังหรานเดินพูดคุยหัวเราะกันอยู่ข้างหน้าขณะเข้าเมือง เสวี่ยหลิงหลงติดตามอยู่ข้างกายสวีถังหราน ข้างหลังมีคนติดตามหนึ่งพัน

พอคนกลุ่มนี้เข้าเมือง ก็มีผู้จัดการร้านตาแหลมจำสวีถังหรานได้ทันที ควรจะบอกว่ามีคนไม่น้อยจำสวีถังหรานได้ ลูกค้าในตลาดสวรรค์แวะเวียนไปมาไม่ขาดสาย แต่ผู้ประกอบการกลับเปลี่ยนบ่อยไม่ได้ และสวีถังหรานก็อยู่ที่เขตเมืองตะวันออกมาหลายปี ย่อมต้องรู้จักคนมากมายอยู่แล้ว

สวีถังหรานที่เดินเข้าเมืองกวาดสายตามองซ้ายมองขวา เห็นใบหน้าที่คุ้นเคยบ้างแล้ว รู้ว่าคงมีคนไม่นอยที่จำตัวเองได้

“ภัตตาคารบุปผาวสันต์จันทร์สารทเตรียมสุราไว้เลี้ยงรับรองรองหัวหน้าภาคใหญ่” ฝูชิงยื่นมือเชิญอีกครัง บอกเป็นนัยว่าสามารถเหาะไปได้โดยตรงเลย

“พี่ฝูสุภาพเกินไปแล้ว เรียกข้าว่าน้องชายก็พอ” สวีถังหรานกล่าวตามมารยาท แล้วมองไปข้างหน้าอย่างทอดถอนใจ “ข้าผูกพันธ์กับตลาดสวรรค์ ไม่ได้มาหลายปีแล้ว ไม่สู้เดินเล่นสักหน่อยดีกว่า ดูว่าเป็นยังไงบ้างแล้ว?”

ฝูชิงยิ้มตอบ “ก็พอเข้าใจได้ ถึงยังไงรองหัวหน้าภาคสวีก็เดินออกไปจากที่นี่”

“ฮูหยินคิดว่ายังไงบ้าง” สวีถังหรานถามเสวี่ยหลิงหลงที่อยู่ข้างกันอีก

“ก็ได้ค่ะ!” เสวี่ยหลิงหลงพยักหน้ายิ้ม

หยวนกงและโม่ซิ่นสงที่ตามมาข้างหลังสบตากันแวบหนึ่ง ต่างรู้สึกพูดไม่ออกมาก นายท่านหัวหน้าภาคใช้ให้พวกเรามาทำงานเทาๆ แต่เจ้าหมอนี่กลับพาพวกเราเดินเล่นที่ตลาดสวรรค์อย่างเปิดเผย เหมือนกลัวว่าคนจะจำตัวเองไม่ได้อย่างนั้นแหละ เป็นบ้าหรือเปล่า โชคดีที่พวกเราใส่หน้ากากปลอมตัวแล้ว

“ผู้จัดการร้าน นั่นคือใครน่ะ ไม่น่าเชื่อว่าผู้บัญชาการใหญ่ตลาดสวรรค์จะไปรับด้วยตัวเอง”

ขณะมองคนกลุ่มนี้เดินผ่านประตู คนงานของร้านค้าร้านหนึ่งถามผู้จัดการร้านที่อยู่ข้างกันด้วยสีหน้าประหลาดใจ

ผู้จัดการร้านส่ายหน้าด้วยความสะท้อนใจ “สวีถังหราน เคยเป็นทหารเขตเมืองตะวันออกที่นี่ ในปีนั้นข้ายังเคยคบค้ากับเขาอยู่เลย”

“เขาก็คือรองหัวหน้าภาคสวีถังหรานของจวนหัวหน้าภาคแดนรัตติกาลที่เพิ่งสร้างใหม่ช่วงนี้ใช่มั้ย?” คนงานตกใจ

ผู้จัดการร้านพยักหน้า “พอพูดถึงเรื่องนี้ ในปีนั้นตอนที่ผู้บัญชาการใหญ่ฝูรับตำแหน่งผู้บัญชาการใหญ่ต่อ สวีถังหรานคนนี้ก็ยังเป็นผู้บัญชาการอยู่เลย ตอนนี้ผ่านไปแค่ไม่กี่ปี ผู้บัญชาการใหญ่ฝูยังเป็นผู้บัญชาการใหญ่ฝู แต่ผู้บัญชาการสวีกลับไม่ใช่ผู้บัญชาการสวีคนนั้นแล้ว ได้เป็นรองหัวหน้าภาคแล้ว คนเราเทียบกันไม่ได้จริงๆ!”

หน้าต่างบนตึกของร้านค้าอีกร้านเปิดออก มีศีรษะคนสองคนยื่นออกมามอง หนึ่งในนั้นถือระฆังดาราในมือ “เป็นสวีถังหรานจริงๆ ด้วย!”

“เป็นเขาจริงด้วย ในปีนั้นชอบมากินดื่มกับพวกเราโดยไม่จ่ายเงิน ไม่ผิดคนแน่” อีกคนบอก

“ได้ยินว่าเขาเป็นรองหัวหน้าภาคของจวนหัวหน้าภาคแดนรัตติกาลแล้ว” คนแรกกล่าว

คนหลังบอกอีกว่า “ตั้งแต่ตำหนักสวรรค์ก่อตั้งมา คนที่เดินออกจากตลาดสวรรค์ดาวเทียนหยวนแล้วไต่เต้าขึ้นตำแหน่งนั้นได้มีน้อยจนนับนิ้วได้เลย”

“เจ้าขี้ประจบนี่ไม่ใช่คนดีอะไร แต่ก็ช่วยไม่ได้ ใครใช้ให้เขาเกาะขาหนิวโหย่วเต๋อแน่น ไต่เต้าเร็วอย่างกับอะไร” คนแรกกล่าว

“ไม่ต้อวสนใจหรอกว่าเขาเป็นพวกขี้ประจบหรือเปล่า ถึงยังไงเขาก็ตามรับใช้ถูกคนแล้ว คนที่เป็นทหารเลวที่ตลาดสวรรค์เหมือนเขาในปีนั้น ตอนนี้ก็ยังเป็นทหารเลวอยู่เลย ยกตัวอย่างเช่นเจ้าซุนเหลียวนั่น ในปีนั้นดื่มสุรากับสวีถังหรานยังเคยคว่ำโต๊ะ ตอนหลังถ้าไปพึ่งพาลูกน้องคนสนิทของฝูชิงไม่ทัน แม้แต่ตำแหน่งทหารเลวก็คงรักษาไว้ไม่ได้ด้วยซ้ำ แต่เจ้าดูสวีถังหรานสิ เกือบได้กลายเป็นเจ้าอาณาเขตแล้ว นี่ก็นับเป็นความสามารถเหมือนกัน” คนหลังบอก

………………………………………..

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

พิชิตสวรรค์ ทะยานฟ้า 1753 โอรสสวรรค์ถือกำเนิด (1)

Now you are reading พิชิตสวรรค์ ทะยานฟ้า Chapter 1753 โอรสสวรรค์ถือกำเนิด (1) at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

เว่ยซูตอบว่า “หนิวโหย่วเต๋อเลือกคุณชายหก สาเหตุก็เพราะพวกเขาสองคนถูกลดตำแหน่งมานานมากพอแล้ว ถ้าให้ไปทำเรื่องผิดกฎหมาย คนข้างนอกที่รู้จักพวกเขาก็มีไม่เยอะ ประการต่อมา หนิวโหย่วเต๋อไม่สะดวกจะส่งยอดฝีมือบงกชกลายออกไปข้างนอกเยอะเกิน ส่งชิงเยว่กับหลงซิ่นไปทำเรื่องนี้ไม่ได้อยู่แล้ว อีกทั้งคุณชายหกและอีกคนวรยุทธ์ค่อนข้างสูงในบรรดานักพรตระดับบงกชกลายด้วยกัน อีกสาเหตุก็คือ…”

ตั้งใจฟัง เซี่ยโห้วท่าที่กำลังครุ่นคิดอย่างละเอียดเหล่ตามอง “ยังมีอะไร? มีอะไรไม่สะดวกพูด?”

เว่ยซูค่อนข้างอึดอัด “หนิวโหย่วเต๋อบอกว่าคุณชายหกกับอีกคนหน้าตาไม่ดี ไม่สะดุดตาคน ไม่เป็นจุดสนใจได้ง่ายๆ ขอรับ”

“…” เซี่ยโห้วท่าพูดไม่ออก ยกมือลูบใบหน้าตัวเองโดยจิตใต้สำนึก ในจุดนี้แม้แต่ตัวเองก็ยังต้องยอมรับ ตระกูลเซี่ยโห้วไม่มีใครหน้าตาดีสักคนเลยจริงๆ เพียงแต่การส่งไปทำงานเทาๆ เพราะหน้าตาไม่ดี เหตุผลนี้มันออกจะ…ใบหน้าเขากระตุกอย่างรุนแรงครู่หนึ่ง

แต่ไม่ว่าจะน่าฟังหรือไม่ อย่างน้อยก็มีเหตุผล เพราะถ้าหน้าตาดีจะดึงดูดสายตาคนได้ง่าย

โดยเฉพาะเหตุผลข้อแรก เมื่อถูกลดตำแหน่งเป็นเทพแห่งภูผาและเทพแห่งผืนดินนานก็ย่อมอยู่อย่างสงบเสงี่ยมมานาน คนข้างนอกที่รู้จักก็ย่อมมีไม่เยอะเช่นกัน เหมาะจะส่งไปทำงานสีเทาจริงๆ

มีเหตุผลสองข้อนี้ก็เพียงพอแล้ว เซี่ยโห้วท่าเองก็ไม่ได้ว่าอะไร แต่ก็ยังคาใจกับเหตุผลนี้ ที่แท้การหน้าตาไม่ดีก็เป็นความผิดพลาดอย่างหนึ่งเหมือนกัน

ทั้งตระกูลเซี่ยโห้วทำให้คนรู้สึกทอดถอนใจ ทั้งลูกทั้งหลานหาใครหน้าตาดีไม่ได้สักคน ขนาดคนที่ส่งให้ราชันสวรรค์ คนที่สนับสนุนให้เป็นราชินีสวรรค์ก็ยังน่าหัวเราะเยาะ

ที่พูดไม่ออกยิ่งกว่านั้นก็คือ คุณชายหกตระกูลเซี่ยโห้วที่ควบคุมอำนาจกลุ่มก๊วนอยู่อย่างหลบซ่อนมาหลายปี พอโผล่มาก็ทำเสียแผนเพราะหน้าตาไม่ดี

คุณชายหกรับตำแหน่งเทพแห่งผืนดินมานานเกินไปจริงๆ ยังไม่ต้องพูดถึงเหตุผลอื่น การอยู่ในตำแหน่งเทพแห่งผืนดินไปเรื่อยๆ สักวันความก้าวหน้าของวรยุทธ์ก็ต้องทำให้คนอื่นสงสัย ดังนั้นจึงหาโอกาสล้างตัวตนมาโดยตลอด ตอนแรกการรับสมัครคนของจวนแม่ทัพภาคตลาดผีไม่ได้อยู่ในแผนการล้างตัวตนของเขา เพราะวรยุทธ์ของคุณชายหกสูงไปหน่อย จนกระทั่งชิงเยว่กับหลงซิ่นปรากฏตัว ถึงได้ทำลายความหวาดระแวงของเขาไป ถึงได้เด็ดขาดสั่งให้คุณชายหกฉวยโอกาสนี้ล้างตัวตน ไม่ใช่แค่สามารถแทรกสายลับเข้าไปข้างกายหนิวโหย่วเต๋อได้ ทั้งยังสืบได้ด้วยว่าเรื่องรับสมัครคนเป็นอย่างไรกันแน่ ผลก็คือพบว่ามีลับลมคมในจริงๆ มีอำนาจกลุ่มหนึ่งกำลังแอบช่วยตรวจสอบกลุ่มผู้สมัครให้หนิวโหย่วเต๋อ

ใครจะคิดว่าตอนที่คุณชายหกเพิ่งจะเข้าไป ยังไม่ทันได้ยืนให้มั่นคง ก็ถูกส่งตัวไปทำงานสีเทาด้วยเหตุผลที่ว่าหน้าตาไม่ดีแล้ว หนึ่งในผู้ควบคุมอำนาจใต้ดินของตระกูลเซี่ยโห้ว ไม่น่าเชื่อว่าจะถูกส่งไปทำเรื่องนี้…

เซี่ยโห้วท่าที่เงียบไปนานถอนหายใจ “บอกเจ้าหกว่าให้ระวังตัวหน่อย ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไร แต่ในเมื่อถูกเลือกแล้ว ก็ต้องกอดความระแวงสงสัยเอาไว้ตลอด

“ขอรับ!” เว่ยซูเอ่ยรับ

ดาวเทียนหยวน ตลาดสวรรค์ ประตูเมืองตะวันออกปิดแล้ว

ในเมืองนี้ มีคนไม่น้อยกำลังมองประตูเขตเมืองตะวันออกที่ถูกปิดและพากันวิพากษ์วิจารณ์ พากันสงสัยว่าปิดประตูเมืองทำไม ต่างก็สอบถามกันและกันว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้น

ด้านนอกเมือง ทหารสวรรค์ถืออาวุธตั้งยืนเรียงราย ผู้บัญชาการใหญ่ตลาดสวรรค์ฝูชิงเอามือไขว้หลังเดินไปเดินมา

“ผู้บัญชาการใหญ่ มาแล้ว” จู่ๆ ก็มีคนชี้บนท้องฟ้าพร้อมตะโกนบอก

ฝูชิงเงยหน้ามอง เห็นคนกลุ่มหนึ่งเหาะลงมาจากฟ้า เข้ามาใกล้อย่างรวดเร็ว คนหนึ่งพันคนเหยียบลงพื้น ทั้งหมดใส่ชุดลำลอง ส่วนใหญ่ใส่หน้ากากปลอมตัว มีเพียงสองคนหน้าที่ไม่ได้ปลอมตัว นั่นก็คือสวีถังหรานกับเสวี่ยหลิงหลง

ฝูชิงรีบก้าวมาข้างหน้า แล้วกุมหมัดคารวะ “คารวะรองหัวหน้าภาคสวี”

“ไอ๊หยา!” สวีถังหรานที่ใบหน้าเต็มไปด้วยรอยยิ้มรีบก้าวมาข้างหน้า ใช้สองมือประคอง “พี่ฝู ระหว่างเจ้ากับข้าไม่จำเป็นต้องเกรงใจขนาดนั้นหรอก”

ฝูชิงกุมหมัดคารวะเสวี่ยหลิงหลง “คารวะฮูหยิน”

เสวี่ยหลิงหลงพยักหน้ายิ้ม

“เชิญ!” ฝูชิงยื่นมือเชิญ แล้วนำทางด้วยตัวเอง

พอเข้ามาในเมืองแล้วเห็นทหารสวรรค์ตรงประตูฝั่งซ้ายและขวา สวีถังหรานก็ถอนหายใจ “พี่ฝูต้อนรับใหญ่โตขนาดนี้ เกรงใจเกินไปแล้ว”

ฝูชิงกับสวีถังหรานเดินพูดคุยหัวเราะกันอยู่ข้างหน้าขณะเข้าเมือง เสวี่ยหลิงหลงติดตามอยู่ข้างกายสวีถังหราน ข้างหลังมีคนติดตามหนึ่งพัน

พอคนกลุ่มนี้เข้าเมือง ก็มีผู้จัดการร้านตาแหลมจำสวีถังหรานได้ทันที ควรจะบอกว่ามีคนไม่น้อยจำสวีถังหรานได้ ลูกค้าในตลาดสวรรค์แวะเวียนไปมาไม่ขาดสาย แต่ผู้ประกอบการกลับเปลี่ยนบ่อยไม่ได้ และสวีถังหรานก็อยู่ที่เขตเมืองตะวันออกมาหลายปี ย่อมต้องรู้จักคนมากมายอยู่แล้ว

สวีถังหรานที่เดินเข้าเมืองกวาดสายตามองซ้ายมองขวา เห็นใบหน้าที่คุ้นเคยบ้างแล้ว รู้ว่าคงมีคนไม่นอยที่จำตัวเองได้

“ภัตตาคารบุปผาวสันต์จันทร์สารทเตรียมสุราไว้เลี้ยงรับรองรองหัวหน้าภาคใหญ่” ฝูชิงยื่นมือเชิญอีกครัง บอกเป็นนัยว่าสามารถเหาะไปได้โดยตรงเลย

“พี่ฝูสุภาพเกินไปแล้ว เรียกข้าว่าน้องชายก็พอ” สวีถังหรานกล่าวตามมารยาท แล้วมองไปข้างหน้าอย่างทอดถอนใจ “ข้าผูกพันธ์กับตลาดสวรรค์ ไม่ได้มาหลายปีแล้ว ไม่สู้เดินเล่นสักหน่อยดีกว่า ดูว่าเป็นยังไงบ้างแล้ว?”

ฝูชิงยิ้มตอบ “ก็พอเข้าใจได้ ถึงยังไงรองหัวหน้าภาคสวีก็เดินออกไปจากที่นี่”

“ฮูหยินคิดว่ายังไงบ้าง” สวีถังหรานถามเสวี่ยหลิงหลงที่อยู่ข้างกันอีก

“ก็ได้ค่ะ!” เสวี่ยหลิงหลงพยักหน้ายิ้ม

หยวนกงและโม่ซิ่นสงที่ตามมาข้างหลังสบตากันแวบหนึ่ง ต่างรู้สึกพูดไม่ออกมาก นายท่านหัวหน้าภาคใช้ให้พวกเรามาทำงานเทาๆ แต่เจ้าหมอนี่กลับพาพวกเราเดินเล่นที่ตลาดสวรรค์อย่างเปิดเผย เหมือนกลัวว่าคนจะจำตัวเองไม่ได้อย่างนั้นแหละ เป็นบ้าหรือเปล่า โชคดีที่พวกเราใส่หน้ากากปลอมตัวแล้ว

“ผู้จัดการร้าน นั่นคือใครน่ะ ไม่น่าเชื่อว่าผู้บัญชาการใหญ่ตลาดสวรรค์จะไปรับด้วยตัวเอง”

ขณะมองคนกลุ่มนี้เดินผ่านประตู คนงานของร้านค้าร้านหนึ่งถามผู้จัดการร้านที่อยู่ข้างกันด้วยสีหน้าประหลาดใจ

ผู้จัดการร้านส่ายหน้าด้วยความสะท้อนใจ “สวีถังหราน เคยเป็นทหารเขตเมืองตะวันออกที่นี่ ในปีนั้นข้ายังเคยคบค้ากับเขาอยู่เลย”

“เขาก็คือรองหัวหน้าภาคสวีถังหรานของจวนหัวหน้าภาคแดนรัตติกาลที่เพิ่งสร้างใหม่ช่วงนี้ใช่มั้ย?” คนงานตกใจ

ผู้จัดการร้านพยักหน้า “พอพูดถึงเรื่องนี้ ในปีนั้นตอนที่ผู้บัญชาการใหญ่ฝูรับตำแหน่งผู้บัญชาการใหญ่ต่อ สวีถังหรานคนนี้ก็ยังเป็นผู้บัญชาการอยู่เลย ตอนนี้ผ่านไปแค่ไม่กี่ปี ผู้บัญชาการใหญ่ฝูยังเป็นผู้บัญชาการใหญ่ฝู แต่ผู้บัญชาการสวีกลับไม่ใช่ผู้บัญชาการสวีคนนั้นแล้ว ได้เป็นรองหัวหน้าภาคแล้ว คนเราเทียบกันไม่ได้จริงๆ!”

หน้าต่างบนตึกของร้านค้าอีกร้านเปิดออก มีศีรษะคนสองคนยื่นออกมามอง หนึ่งในนั้นถือระฆังดาราในมือ “เป็นสวีถังหรานจริงๆ ด้วย!”

“เป็นเขาจริงด้วย ในปีนั้นชอบมากินดื่มกับพวกเราโดยไม่จ่ายเงิน ไม่ผิดคนแน่” อีกคนบอก

“ได้ยินว่าเขาเป็นรองหัวหน้าภาคของจวนหัวหน้าภาคแดนรัตติกาลแล้ว” คนแรกกล่าว

คนหลังบอกอีกว่า “ตั้งแต่ตำหนักสวรรค์ก่อตั้งมา คนที่เดินออกจากตลาดสวรรค์ดาวเทียนหยวนแล้วไต่เต้าขึ้นตำแหน่งนั้นได้มีน้อยจนนับนิ้วได้เลย”

“เจ้าขี้ประจบนี่ไม่ใช่คนดีอะไร แต่ก็ช่วยไม่ได้ ใครใช้ให้เขาเกาะขาหนิวโหย่วเต๋อแน่น ไต่เต้าเร็วอย่างกับอะไร” คนแรกกล่าว

“ไม่ต้อวสนใจหรอกว่าเขาเป็นพวกขี้ประจบหรือเปล่า ถึงยังไงเขาก็ตามรับใช้ถูกคนแล้ว คนที่เป็นทหารเลวที่ตลาดสวรรค์เหมือนเขาในปีนั้น ตอนนี้ก็ยังเป็นทหารเลวอยู่เลย ยกตัวอย่างเช่นเจ้าซุนเหลียวนั่น ในปีนั้นดื่มสุรากับสวีถังหรานยังเคยคว่ำโต๊ะ ตอนหลังถ้าไปพึ่งพาลูกน้องคนสนิทของฝูชิงไม่ทัน แม้แต่ตำแหน่งทหารเลวก็คงรักษาไว้ไม่ได้ด้วยซ้ำ แต่เจ้าดูสวีถังหรานสิ เกือบได้กลายเป็นเจ้าอาณาเขตแล้ว นี่ก็นับเป็นความสามารถเหมือนกัน” คนหลังบอก

………………………………………..

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+