พิชิตสวรรค์ ทะยานฟ้า 1861 ไปแทรกกลางทาง

Now you are reading พิชิตสวรรค์ ทะยานฟ้า Chapter 1861 ไปแทรกกลางทาง at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

อิ๋งจิ่วกวง : ก่อนที่กองทัพองครักษ์จะไปถึง ถ้ามีคนของเจ้าเข้าร่วม ก็น่าจะกำจัดปัญหานี้ทิ้งได้

ฮ่าวเต๋อฟาง : ขนาดทัพใหญ่ห้าล้านยังกลายเป็นแบบนี้ไปแล้ว เจ้าแน่ใจนะว่ากำลังพลของข้าที่อยู่แถวนั้นเข้าสระน้ำมังกรดำแล้วจะได้ผล? ฝั่งเจ้าให้ใครเป็นผู้บัญชาการรบ ทำไมถึงกลายเป็นอย่างนี้ไปได้?

อิ๋งจิ่วกวง : อ๋าวเฟย!

ฮ่าวเต๋อฟางเงียบไปพักหนึ่ง เขารู้ถึงความสามารถของอ๋าวเฟย จึงตอบไปว่า : เจ้าคิดหาทางเอาเองแล้วกัน เรื่องนี้ข้าช่วยเจ้าไม่ไหว

อิ๋งจิ่วกวง : ตอนนี้ที่นั่นมีแค่คนของเจ้าที่อยู่ใกล้ สามารถไปได้ทันเวลา มีเงื่อนไขอะไรเจ้าเสนอมาได้

ฮ่าวเต๋อฟาง : มารดาเจ้าเถอะ ทำเรื่องพรรค์นี้อย่างกับหมาบ้า ยังจะให้ข้าบ้าไปกับเจ้าอีกเหรอ?เจ้ารีบฉวยโอกาสคิดหาวิธีอื่น

จากนั้นก็จบการติดต่อกับอิ๋งจิ่วกวงเสียเลย แล้วหันกลับมาสายหน้าให้ซูอวิ้นที่อยู่ข้างๆ “ครั้งนี้อิ๋งจิ่วกวงคงโดนเล่นงานจนหัวไฟลุกแล้ว”

“ไม่ได้ติดตามสถานการณ์ของสระน้ำมังกรดำหรือคะ?” ซูอวิ้นประหลาดใจเล็กน้อย “ทำไมกลายเป็นอย่างนี้ไปได้?”

“เขาบอกว่าประมุขชิงส่งกองทัพองครักษ์ห้าแสนไปช่วยหนิวโหย่วเต๋อที่สระน้ำมังกรดำ เรื่องนี้ข้าสงสัยนิดหน่อย ตาผีเฒ่านี่คงจะอยากดึงข้าลงน้ำไปด้วย” ฮ่าวเต๋อฟางตอบ

ซูอวิ้นครุ่นคิดพลางพยักหน้าเบาๆ “เป็นไปไม่ได้ที่ประมุขชิงจะทำอย่างโจ่งแจ้งแบบนี้”

อิ๋งจิ่วกวงที่อยู่ริมแม่น้ำเขย่าระฆังดาราอีกหลายครั้งแต่ไม่ได้รับคำตอบจากฮ่าวเต๋อฟางอีก จึงเกิดอารมณ์ชั่ววูบอยากทุ่มระฆังดาราในมือ

เขาเก็บระฆังดาราแล้วหันกลับมา เห็นสีหน้าจั่วเอ๋อร์ผิดปกติอย่างเห็นได้ชัด รีบเขย่าระฆังดาราในมืออย่างร้อนใจ ไม่รู้ว่ากำลังติดต่อไปที่ไหน ดูจากสีหน้าจั่วเอ๋อร์ก็รู้เลยว่าไม่ใช่ข่าวดีอะไร

อิ๋งจิ่วกวงรอด้วยสีหน้าบึ้งตึง กระทั่งจั่วเอ๋อร์วางระฆังดาราแล้ว ถึงได้ถามเสียงต่ำว่า “มีเรื่องอะไร?”

จั่วเอ๋อร์ฝืนตอบว่า “ทางแดนรัตติกาลรวบรวมคนไปขอคนที่ปราสาทดำเนินจันทร์ ด้วยความที่พวกเราขู่ ลี่หัวจึงไม่ได้ขัดขวาง แค่ประกาศว่าจะฟ้องประมุขชิง แต่คนในครอบครัวหนิวโหย่วเต๋อไปหลบที่ไหนหมดแล้วก็ไม่รู้ คนของพวกเรากลับไปมือเปล่า ไม่ได้อะไรกลับมา”

อิ๋งจิ่วกวงจ้องนางพักหนึ่ง “ไม่ถูก! เจ้ามีอะไรกำลังปิดบังข้า เรื่องที่ครอบครัวของหนิวโหย่วเต๋อหนีไปคือสิ่งที่ข้าคาดเดาไว้อยู่แล้ว จับไม่ได้ก็คือจับไม่ได้ ไม่ถึงขั้นทำให้สีหน้าเจ้าเป็นแบบนี้ บอกมา!” เขาตะคอก

จั่วเอ๋อร์ไม่อยากรายงานข่าวนี้ให้เขารู้เลยจริงๆ แต่ในเมื่อเขาถามถึงแล้ว ไม่สะดวกจะปิดบังด้วย จึงตอบอย่างไม่สบายใจว่า “ท่านอ๋อง เพิ่งได้ข่าวจากร้านค้าที่ตลาดสวรรค์ บอกว่าร้านค้าได้ข่าวจากเจ๋อชุนชิวว่าให้นำทรัพย์สินในร้านค้ามาหมุนเวียนใช้ ร้านค้าจึงนำทรัพย์สินถ่ายเทให้คนที่มารับต่อ บ่าวรู้สึกว่าไม่ชอบมาพากล จึงสั่งให้ตรวจสอบทันที ผลก็คือพบว่าร้านค้านับพันในมือพวกเราถูกขนย้ายทรัพย์สินไปหมดแล้ว”

ร้านค้าของตระกูลอิ๋งนับพัน แค่คิดก็รู้แล้วว่าเป็นทรัพย์สินจำนวนเท่าไร อิ๋งจิ่วกวงถลึงตาตะคอกว่า “พวกเขาเป็นหมูรึไง? เจ๋อชุนชิวอยู่ที่สระน้ำมังกรดำ เป็นไปได้ว่าตกอยู่ในมือหนิวโหย่วเต๋อตามไอ้ลูกทรพีนั่นไปแล้ว จะถ่ายทอดคำสั่งให้พวกเขาได้ยังไง!”

“ที่สำคัญคือเรื่องสระน้ำมังกรดำเป็นความลับ เบื้องล่างไม่รู้ว่าเจ๋อชุนชิวอยู่ที่สระน้ำมังกรดำ…” จั่วเอ๋อร์กล่าวด้วยน้ำเสียงอ่อนปวกเปียก คิดในใจว่านี่เป็นเพราะเบื้องล่างมีคนอยากนั่งตำแหน่งของเจ๋อชุนชิว จึงรายงานข่าวนี้มา ถึงได้เผยพิรุธของเรื่องนี้ ไม่อย่างนั้นก็คงถ่วงเวลาไปอีกสักพักถึงจะรู้

อิ๋งจิ่วกวงทำสีหน้าราวกับโดนตะคริวกิน ไม่ต้องเดาก็รู้ว่าใครทำ เป็นไปได้ว่าเจ๋อชุนชิวตกอยู่ในมือหนิวโหย่วเต๋อแล้ว ยังจะมีใครทำได้อีก? เขาหัวเราะหึหึอยู่พักหนึ่ง เดือดดาลสุดขีดจนหัวเราะประชด “ดี! หนิวโหย่วเต๋อ เจ้ากล้าหาญ…”

เขาโมโหจนแทบกระอักเลือด ในที่สุดเข้าใจความรู้สึกที่ว่า ‘บ้านหลังคารั่วซ้ำยังถูกฝนกระหน่ำทั้งคืน’ พบว่าประสบเคราะห์ภัยแล้วจริงๆ ฝ่ายนี้วางกับดักที่สระน้ำมังกรดำ แต่หนิวโหย่วเต๋อจับเผ่าเทพอสรพิษดำไปเป็นตัวประกันให้ต่อต้าน ต่อให้โถงชุมนุมอัจฉริยะพังทลายแต่ก็ต้องทำลายชื่อเสียงอ๋องสวรรค์อิ๋งให้ได้ ฝ่ายนี้ส่งคนไปจับตัวคนในครอบครัวของอีกฝ่าย แต่หนิวโหย่วเต๋อก็ส่งคนไปเล่นงานร้านค้านับพันของเขา เป็นการผลัดกันลงมืออย่างโหดเหี้ยมจริงๆ ไม่มีความปรานีใดๆ ล้วนอยากเล่นงานฝ่ายตรงข้ามให้ถึงตาย ตอนนี้หนิวโหย่วเต๋อยังสู้กับกำลังพลของเขาที่สระน้ำมังกรดำ นี่ยังไม่นับที่จับตัวอิ๋งอู๋หม่านลูกชายของเขาไป

ถ้าพูดจาอีกมุมหนึ่ง เขาก็ต้องยอมรับว่าหนิวโหย่วเต๋อยิ่งใหญ่แล้วจริงๆ เพราะใช้กำลังลงมือทั่วทุกที่ได้ ราวกับเป็นสุนัขบ้า ตอนนี้เขานึกเสียใจทีหลังแล้วจริงๆ เสียใจที่ไม่กำจัดหนิวโหย่วเต๋อทิ้งตอนที่ยังไม่ยิง่ใหญ่ จึงทิ้งภัยพิบัติแบบนี้ไว้!

จวนอ๋องสวรรค์ก่วง ในโถงหลักของเรือนด้านหลัง เม่ยเหนียงและลูกสาวถูกกันออกไปแล้ว ก่วงลิ่งกงกับโกวเยว่เฝ้าอยู่ข้างเข็มทิศ โกวเยว่ได้รับข่าวจากสายลับที่อยู่ทางนั้นไม่หยุดหย่อน

“ทัพตะวันออกใช้กลยุทธ์เติมเชื้อเพลิง หนิวโหย่วเต๋อกำลังล่อกองหนุนออกมาโจมตี ทัพตะวันออกกำลังเอาชีวิตคนไปถ่วงเวลา หนิวโหย่วเต๋อไม่กลัวว่ากองหนุนฝ่ายตรงข้ามจะตามไปถึงเหรอ? สู้กันจนกลายเป็นอย่างนั้น สองฝ่ายกำลังเล่นบ้าอะไร?” ก่วงลิ่งกงเอามือลูบเคราพึมพำ

โกวเยว่กล่าวว่า “ก่อนหน้านี้ตอนยังไม่ประมือกันก็ยังไม่รู้ แต่ดูจากจุดที่ต่อสู้กัน ชีวิตคนทัพตะวันออกที่ทุ่มเข้าไปคงไม่ต่ำกว่าห้าแสน เสียกำลังพลไปมากขนาดนี้เพื่อรับมือกับทัพใหญ่หนึ่งแสนแดนรัตติกาล มันช่าง…” เขาส่ายหน้า

“หนิวโหย่วเต๋อนี่ห้าวหาญมากทีเดียว ต่อให้ตายก็กัดไม่ปล่อยจริงๆ” ก่วงลิ่งกงกล่าวอย่างรู้สึกขำ

สระน้ำมังกรดำ ในพื้นที่วางของกระเป๋าสัตว์ พอพวกเหมียวอี้เข้ามาแล้ว ก็นำเข็มทิศออกมาทันที กำลังพลที่รับหน้าที่ประสานงานก็คอยใช้ระฆังดาราสื่อสารอยู่ข้างๆ ไม่หยุด บรรยากาศค่อนข้างตึงเครียด

เรื่องแรกที่เหมียวอี้ทำก็คือถามว่า “ตามมาหรือยัง?”

เหลิ่งจัวฉุนที่กำลังถือระฆังดาราติดต่อตานฉิงพยักหน้า “ตามมาแล้ว”

“ให้กำลังพลสายต่างๆ ที่จับตาดูฝ่ายศัตรูเคลื่อนไหวได้” เหมียวอี้กล่าว

ไม่นานก็มีคนมารายงาน “นายท่าน ทัพใหญ่หนึ่งล้านที่ปิดทางเข้าเปลี่ยนเส้นทางมาดักแล้ว”

“กำลังพลสายอื่นมีปฏิกิริยาอะไรหรือเปล่า?” เหมียวอี้ถาม

“ตอนนี้ยังไม่เห็นมีปฏิกิริยาอะไร” ผู้รายงานตอบ

เหลิ่งจัวฉุนชี้ข็มทิศ “เจตนาของฝ่ายตรงข้ามชัดเจนมาก ทัพใหญ่หนึ่งล้านที่ปิดล้อมทางเข้าเปลี่ยนเส้นทางก็เพื่อมาดักพวกเรา ทัพใหญ่หนึ่งล้านที่ปิดล้อมทางออกก็ตามติดพวกเราไม่ปล่อย เพื่อที่จะตีขนาบหน้าหลังพวกเรา ตอนหลังค่อยรวบรวมกำลังพลสายอื่นไปกำจัดกำลังพลของชิงเยว่ แล้วค่อยรวบรวมกำลังพลทั้งหมดมากำจัดพวกเราทิ้ง”

เหมียวอี้พยักหน้า ชี้ที่เข็มทิศ “ทัพใหญ่ตรงทางออกอยู่ทางตะวันตกเฉียงเหนือ ย้ายจากตรงนั้นมาตามหลังพวกเราแล้ว ทัพใหญ่ตรงทางเข้าอยู่ทางทิศตะวันตก เดิมทีมุ่งหน้าไปที่สนามรบ แต่ตอนนี้เปลี่ยนเส้นทางมาดักพวกเราแล้ว ตอนนี้พวกเราถ่วงรั้งทัพใหญ่สองล้านได้แล้ว แต่เท่านี้ยังไม่พอ ทางฝั่งชิงเยว่ต้านการล้อมปราบจากทัพตะวันออกสองแสนกว่าไม่ไหว ยังต้องให้พวกเราไปแก้สถานการณ์ให้ กำลังพลหนึ่งแสนที่เที่ยวตระเวนถูกกำจัดแล้ว กำลังพลที่ดักซุ่มทางทิศตะวันตกก็ถูกกำจัดแล้วเช่นกัน ตอนนี้สายลับหนึ่งล้านถูกพวกเรากำจัดไปสามแสนกว่า ที่เหลืออีกเจ็ดแสนยังเข้ามาเพิ่มไม่หยุดหย่อน แต่ก็ไม่มีอะไรน่ากลัว กลยุทธ์เติมเชื้อเพลิงก็แค่ส่งคนมารนหาที่ตายเท่านั้น

ตอนนี้ภัยคุกคามที่ใหญ่ที่สุดของชิงเยว่ก็คือกำลังพลดักซุ่มฝั่งตะวันออก กำลังพลดักซุ่มฝั่งเหนือ กำลังพลดักซุ่มฝั่งใต้ แล้วยังมีทัพกลางของอ๋าวเฟยอีก จุดที่สู้กันอยู่ใกล้ทิศตะวันตกเฉียงใต้ หรือพูดได้อีกอย่างว่า กองหนุนทางฝั่งใต้จะไปโจมตีกำลังพลของชิงเยว่ก่อน ที่รองลงมาก็คือทัพกลางของอ๋าวเฟยที่วางกำลังไว้ตรงกลางสระน้ำมังกรดำ สุดท้ายถึงจะเป็นกำลังพลฝั่งตะวันออกกำลังฝั่งเหนือ ตอนนี้กำลังพลฝั่งใต้แทบจะสูญเสียการควบคุมแล้ว สิ่งที่พวกเราต้องทำตอนนี้ก็คือ ถ่วงทัพกลางของอ๋าวเฟย กำลังพลฝั่งตะวันออกและฝั่งเหนือเหนือเอาไว้ พยายามถ่วงเวลาให้กำลังพลของชิงเยว่สะสมธนูฝ่าอิทธิฤทธิ์ให้ได้มากกว่านี้ บ่มเอาไว้โจมตีกลับ!”

“นายท่านคิดจะถ่วงรั้งยังไง?” เหลิ่งจัวฉุนถาม

เหมียวอี้ชี้ตำแหน่งคร่าวๆ ที่ทัพใหญ่ดักบนเข็มทิศ “ตอนนี้ยังไม่ต้องรีบเปลี่ยนแปลง รอให้ทัพใหญ่หนึ่งล้านที่ดักเข้าใกล่พวกเราก่อน ตอนที่ใกล้เข้ามาหาพวกเรา ให้เลี้ยวหลบพวกเขาทันที พยายามถ่วงเวลาให้ชิงเยว่!” นิ้วลากอยู่บนเข็มทิศ “ไปแทรกกลางทาง จู่โจมทัพกลางของอ๋าวเฟย ในมืออ๋าวเฟยคงจะเหลือกำลังพลแค่สี่แสน ธนูฝ่าอิทธิฤทธิ์ประมาณห้าพัน ยามเผชิญหน้ากับทัพใหญ่หนึ่งแสนติดอาวุธของพวกเรา มีหรือที่อ๋าวเฟยจะไม่กลัว ทัพใหญ่หนึ่งล้านที่ตามมาทีหลังกลัวว่าพวกเราจะเป็นภัยคุกคามต่ออ๋าวเฟย จะต้องกัดไม่ปล่อยแน่ ถ้าอ๋าวเฟยโหดมากพอ เพื่อที่จะถ่วงพวกเราไม่ให้เข้าใกล้ชิงเยว่มากเกินไป ก็น่าจะเอาตัวเองมาเป็นเหยื่อล่อ แล้วดึงพวกเรามาไกลๆ หน่อยค่อยลงมือ! ข้าเดาว่าอ๋าวเฟยต้องทำอย่างนี้แน่นอน เจ้าหมอนี่มันเป็นคนโหด คนที่เอาชีวิตคนมาใช้กลยุทธ์เติมเชื้อเพลิงได้ สามารถทำแบบนี้ได้อยู่แล้ว”

กุยอู๋พยักหน้า “พอเป็นแบบนี้ ก็ลดแรงกดดันจากทัพกลางสี่แสนในมืออ๋าวเฟยให้ชิงเยว่ได้ชั่วคราว”

เหมียวอี้หดมือกลับมาจากเข็มทิศ “บอกให้ตานฉิงเตรียมตัวให้พร้อม”

ในดาราจักรหลากสีสัน กองหนุนที่ทยอยมาถึงอย่างต่อเนื่องได้รับคำสั่งตายแล้ว ให้ฝ่าเข้าขบวนรบไปช่วยเชออู่

จงซานหมิงนำกำลังพลหนึ่งแสนไปถึงอย่างรวดเร็ว ภายใต้การโจมตีอันดุเดือดของลูกธนูดาวตก เกิดการบาดเจ็บล้มตายอย่างหนัก สุดท้ายก็ฝ่าเข้าไปรวมกับเชออู่ในขบวนรบแล้ว

ตอนนี้เชออู่ตาสองข้างแดงก่ำ คำรามเสียงแตกเพื่อบัญชาการให้กำลังพลที่เหลือไม่มากสู้ตาย การมาถึงของจงซานหมิงทำให้เขาได้พักหายใจนิดหน่อยเท่านั้น ทั้งสองบัญชาการกำลังพลให้สู้ตายเพื่อถ่วงรั้งทัพพันธมิตรไว้ ถ้ทัพพันธมิตรจะถอย ฝั่งนี้ก็จะกระโดนเข้าใจอย่างไม่คิดชีวิตทันที ต่อสู้กันอย่างอุตลุต ไม่ให้อาสทั้งสองฝ่ายดึงระยะห่างออกจากกัน

ส่วนฝั่งทัพใหญ่พันธมิตรแม้จะบาดเจ็บล้มตายไปแล้วไม่น้อย แต่กลับโจมตีได้อย่างคล่องมือมากขึ้น  ธนูฝ่าอิทธิฤทธิ์มากขึ้นเรื่อยๆ ยิ่งสู้ก็ยิ่งได้อาวุธยอดที่เยี่ยม ที่สำคัญกว่านั้นก็คือเผ่าเทพอสรพิษดำเริ่มหลุดออกจากความรู้สึกหวาดกลัวเหมือนตอนแรกที่ต่อสู้แล้ว เมื่อเข่นฆ่ากันไปนานๆ ก็เริ่มมีประสบการณ์ คุ้นเคยกับการให้ความร่วมมือในขบวนรบมากขึ้นแล้ว

“นายท่าน สายลับรายงานมา ว่ากำลังพลฝ่ายศัตรูที่มากดักอยู่ไม่ห่างจากพวกเราแล้ว!”

ในกระเป๋าสัตว์ คนจากศูนย์ประสานงานรีบรายงานเหมียวอี้

เหมียวอี้ถ่ายทอดคำสั่งอย่างเด็ดขาด “เปลี่ยนทิศทาง บุกโจมตีทัพกลางของอ๋าวเฟย!”

ในดาราจักร พวกตานฉิงรีบเบี่ยงออกจากเส้นทางเดิม กำลังพลที่ตามหลังมากัดไม่ปล่อย กำลังพลที่ดักอยู่อีกฝั่งก็ปรับทิศทางตามมาเช่นกัน

หวังหย่วนเฉียวที่ได้รับข่าวรีบรายงานอ๋าวเฟย “แม่ทัพใหญ่ ลู่ผิงฟางที่ตามติดหนิวโหย่วเต๋อรายงานมา ว่าหนิวโหย่วเต๋อเปลี่ยนทิศทางแล้ว ไม่ได้ไปช่วยสนับสนุนทัพใหญ่”

“ไปไหนแล้ว?” อ๋าวเฟยรีบถาม

หวังหย่วนเฉียว: “ตอนนี้ยังไม่รู้เจตนาของหนิวโหย่วเต๋อ ไม่มีทางตัดสินทิศทางได้”

“บอกอูจินหวน ไม่ต้องตามหลังแล้ว ให้ตามอยู่ข้างๆ ไปทางสนามรบ ไล่โจมตีด้านข้าง ป้องกันไม่ให้หนิวโหย่วเต๋อเปลี่ยนทิศทางกลับไปในเวลากระชั้นชิด ฝ่ายเราจะได้พร้อมดักได้ทุกเมื่อ” อ๋าวเฟยกล่าว

หลังจากผ่านไประยะหนึ่ง ตามรายงานการไล่โจมตีของลู่ผิงฟาง หวังหย่วนเฉียวเหมือนจะตัดสินอะไรบางอย่างได้แล้ว จึงรายงานต่ออ๋าวเฟยอีกครั้ง “แม่ทัพใหญ่ หนิวโหย่วเต๋อเหมือนจะมุ่งมาทางพวกเรา เหมือนจะมีเป้าหมายเป็นทัพกลางของพวกเรา!”

“หยุด!” อ๋าวเฟยที่คิ้วกระตุกพลันตะโกนหยุดกำลังพลที่กำลังเหาะไปข้างหน้า พวกเขาหยุดอยู่กลางท้องฟ้า แล้วแสยะยิ้มไม่หยุด “เจ้าเด็กดี อวดฉลาดนักนะ สงสัยจะตัดสินว่าอาวุธในมือทัพกลางของข้ามีไม่เยอะ รู้ว่าพวกเราต้านการโจมตีจากกำลังพลห้าแสนของเขาไม่ไหว!”

“ดูท่าแล้วเขาคงอยากโจมตีพวกเรา บีบให้กำลังพลสายอื่นเปลี่ยนทิศทางมาสนับสนุน จะได้ถ่วงเวลาให้จุดที่กำลังพลกำลังประมือกันได้สะดวก” คงฮั่นกล่าวเสียงต่ำ

อ๋าวเฟยพยักหน้า “ไม่ผิดหรอก เขาย่อมคิดว่าถ้าโจมตีศูนย์บัญชาการของเรา ก็จะบีบให้กำลังพลสายอื่นรีบมาช่วยได้! ดี งั้นข้าก็จะทำให้เขาสมปรารถนา ลดความเร็วลง รอให้อีกฝ่ายเข้ามาใกล้ แล้วพวกเราค่อยหนีเพื่อล่อให้อีกฝ่ายโจมตี ต้องดึงกำลังพลเก่งๆ ของเขาให้อยู่ห่างจากจุดสู้รบสักหน่อย อย่าให้โอกาสกำลังพลสองกลุ่มนั้นรวมกัน บอกอูจินหวนกับลู่ผิงฟาง รอข้าให้ล่อหนิวโหย่วเต๋อออกไปไกลพอสมควร ข้าจะโจมตีกลับทันที สั่งให้สองคนนั้นให้ความร่วมมือเต็มที่ ไม่ต้องสนใจฝั่งข้า ให้รวมกำลังพลไปจัดการกำลังพลที่สู้กันอุตลุตอยู่ในสนามรบ!”

……………

Related

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

พิชิตสวรรค์ ทะยานฟ้า 1861 ไปแทรกกลางทาง

Now you are reading พิชิตสวรรค์ ทะยานฟ้า Chapter 1861 ไปแทรกกลางทาง at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

อิ๋งจิ่วกวง : ก่อนที่กองทัพองครักษ์จะไปถึง ถ้ามีคนของเจ้าเข้าร่วม ก็น่าจะกำจัดปัญหานี้ทิ้งได้

ฮ่าวเต๋อฟาง : ขนาดทัพใหญ่ห้าล้านยังกลายเป็นแบบนี้ไปแล้ว เจ้าแน่ใจนะว่ากำลังพลของข้าที่อยู่แถวนั้นเข้าสระน้ำมังกรดำแล้วจะได้ผล? ฝั่งเจ้าให้ใครเป็นผู้บัญชาการรบ ทำไมถึงกลายเป็นอย่างนี้ไปได้?

อิ๋งจิ่วกวง : อ๋าวเฟย!

ฮ่าวเต๋อฟางเงียบไปพักหนึ่ง เขารู้ถึงความสามารถของอ๋าวเฟย จึงตอบไปว่า : เจ้าคิดหาทางเอาเองแล้วกัน เรื่องนี้ข้าช่วยเจ้าไม่ไหว

อิ๋งจิ่วกวง : ตอนนี้ที่นั่นมีแค่คนของเจ้าที่อยู่ใกล้ สามารถไปได้ทันเวลา มีเงื่อนไขอะไรเจ้าเสนอมาได้

ฮ่าวเต๋อฟาง : มารดาเจ้าเถอะ ทำเรื่องพรรค์นี้อย่างกับหมาบ้า ยังจะให้ข้าบ้าไปกับเจ้าอีกเหรอ?เจ้ารีบฉวยโอกาสคิดหาวิธีอื่น

จากนั้นก็จบการติดต่อกับอิ๋งจิ่วกวงเสียเลย แล้วหันกลับมาสายหน้าให้ซูอวิ้นที่อยู่ข้างๆ “ครั้งนี้อิ๋งจิ่วกวงคงโดนเล่นงานจนหัวไฟลุกแล้ว”

“ไม่ได้ติดตามสถานการณ์ของสระน้ำมังกรดำหรือคะ?” ซูอวิ้นประหลาดใจเล็กน้อย “ทำไมกลายเป็นอย่างนี้ไปได้?”

“เขาบอกว่าประมุขชิงส่งกองทัพองครักษ์ห้าแสนไปช่วยหนิวโหย่วเต๋อที่สระน้ำมังกรดำ เรื่องนี้ข้าสงสัยนิดหน่อย ตาผีเฒ่านี่คงจะอยากดึงข้าลงน้ำไปด้วย” ฮ่าวเต๋อฟางตอบ

ซูอวิ้นครุ่นคิดพลางพยักหน้าเบาๆ “เป็นไปไม่ได้ที่ประมุขชิงจะทำอย่างโจ่งแจ้งแบบนี้”

อิ๋งจิ่วกวงที่อยู่ริมแม่น้ำเขย่าระฆังดาราอีกหลายครั้งแต่ไม่ได้รับคำตอบจากฮ่าวเต๋อฟางอีก จึงเกิดอารมณ์ชั่ววูบอยากทุ่มระฆังดาราในมือ

เขาเก็บระฆังดาราแล้วหันกลับมา เห็นสีหน้าจั่วเอ๋อร์ผิดปกติอย่างเห็นได้ชัด รีบเขย่าระฆังดาราในมืออย่างร้อนใจ ไม่รู้ว่ากำลังติดต่อไปที่ไหน ดูจากสีหน้าจั่วเอ๋อร์ก็รู้เลยว่าไม่ใช่ข่าวดีอะไร

อิ๋งจิ่วกวงรอด้วยสีหน้าบึ้งตึง กระทั่งจั่วเอ๋อร์วางระฆังดาราแล้ว ถึงได้ถามเสียงต่ำว่า “มีเรื่องอะไร?”

จั่วเอ๋อร์ฝืนตอบว่า “ทางแดนรัตติกาลรวบรวมคนไปขอคนที่ปราสาทดำเนินจันทร์ ด้วยความที่พวกเราขู่ ลี่หัวจึงไม่ได้ขัดขวาง แค่ประกาศว่าจะฟ้องประมุขชิง แต่คนในครอบครัวหนิวโหย่วเต๋อไปหลบที่ไหนหมดแล้วก็ไม่รู้ คนของพวกเรากลับไปมือเปล่า ไม่ได้อะไรกลับมา”

อิ๋งจิ่วกวงจ้องนางพักหนึ่ง “ไม่ถูก! เจ้ามีอะไรกำลังปิดบังข้า เรื่องที่ครอบครัวของหนิวโหย่วเต๋อหนีไปคือสิ่งที่ข้าคาดเดาไว้อยู่แล้ว จับไม่ได้ก็คือจับไม่ได้ ไม่ถึงขั้นทำให้สีหน้าเจ้าเป็นแบบนี้ บอกมา!” เขาตะคอก

จั่วเอ๋อร์ไม่อยากรายงานข่าวนี้ให้เขารู้เลยจริงๆ แต่ในเมื่อเขาถามถึงแล้ว ไม่สะดวกจะปิดบังด้วย จึงตอบอย่างไม่สบายใจว่า “ท่านอ๋อง เพิ่งได้ข่าวจากร้านค้าที่ตลาดสวรรค์ บอกว่าร้านค้าได้ข่าวจากเจ๋อชุนชิวว่าให้นำทรัพย์สินในร้านค้ามาหมุนเวียนใช้ ร้านค้าจึงนำทรัพย์สินถ่ายเทให้คนที่มารับต่อ บ่าวรู้สึกว่าไม่ชอบมาพากล จึงสั่งให้ตรวจสอบทันที ผลก็คือพบว่าร้านค้านับพันในมือพวกเราถูกขนย้ายทรัพย์สินไปหมดแล้ว”

ร้านค้าของตระกูลอิ๋งนับพัน แค่คิดก็รู้แล้วว่าเป็นทรัพย์สินจำนวนเท่าไร อิ๋งจิ่วกวงถลึงตาตะคอกว่า “พวกเขาเป็นหมูรึไง? เจ๋อชุนชิวอยู่ที่สระน้ำมังกรดำ เป็นไปได้ว่าตกอยู่ในมือหนิวโหย่วเต๋อตามไอ้ลูกทรพีนั่นไปแล้ว จะถ่ายทอดคำสั่งให้พวกเขาได้ยังไง!”

“ที่สำคัญคือเรื่องสระน้ำมังกรดำเป็นความลับ เบื้องล่างไม่รู้ว่าเจ๋อชุนชิวอยู่ที่สระน้ำมังกรดำ…” จั่วเอ๋อร์กล่าวด้วยน้ำเสียงอ่อนปวกเปียก คิดในใจว่านี่เป็นเพราะเบื้องล่างมีคนอยากนั่งตำแหน่งของเจ๋อชุนชิว จึงรายงานข่าวนี้มา ถึงได้เผยพิรุธของเรื่องนี้ ไม่อย่างนั้นก็คงถ่วงเวลาไปอีกสักพักถึงจะรู้

อิ๋งจิ่วกวงทำสีหน้าราวกับโดนตะคริวกิน ไม่ต้องเดาก็รู้ว่าใครทำ เป็นไปได้ว่าเจ๋อชุนชิวตกอยู่ในมือหนิวโหย่วเต๋อแล้ว ยังจะมีใครทำได้อีก? เขาหัวเราะหึหึอยู่พักหนึ่ง เดือดดาลสุดขีดจนหัวเราะประชด “ดี! หนิวโหย่วเต๋อ เจ้ากล้าหาญ…”

เขาโมโหจนแทบกระอักเลือด ในที่สุดเข้าใจความรู้สึกที่ว่า ‘บ้านหลังคารั่วซ้ำยังถูกฝนกระหน่ำทั้งคืน’ พบว่าประสบเคราะห์ภัยแล้วจริงๆ ฝ่ายนี้วางกับดักที่สระน้ำมังกรดำ แต่หนิวโหย่วเต๋อจับเผ่าเทพอสรพิษดำไปเป็นตัวประกันให้ต่อต้าน ต่อให้โถงชุมนุมอัจฉริยะพังทลายแต่ก็ต้องทำลายชื่อเสียงอ๋องสวรรค์อิ๋งให้ได้ ฝ่ายนี้ส่งคนไปจับตัวคนในครอบครัวของอีกฝ่าย แต่หนิวโหย่วเต๋อก็ส่งคนไปเล่นงานร้านค้านับพันของเขา เป็นการผลัดกันลงมืออย่างโหดเหี้ยมจริงๆ ไม่มีความปรานีใดๆ ล้วนอยากเล่นงานฝ่ายตรงข้ามให้ถึงตาย ตอนนี้หนิวโหย่วเต๋อยังสู้กับกำลังพลของเขาที่สระน้ำมังกรดำ นี่ยังไม่นับที่จับตัวอิ๋งอู๋หม่านลูกชายของเขาไป

ถ้าพูดจาอีกมุมหนึ่ง เขาก็ต้องยอมรับว่าหนิวโหย่วเต๋อยิ่งใหญ่แล้วจริงๆ เพราะใช้กำลังลงมือทั่วทุกที่ได้ ราวกับเป็นสุนัขบ้า ตอนนี้เขานึกเสียใจทีหลังแล้วจริงๆ เสียใจที่ไม่กำจัดหนิวโหย่วเต๋อทิ้งตอนที่ยังไม่ยิง่ใหญ่ จึงทิ้งภัยพิบัติแบบนี้ไว้!

จวนอ๋องสวรรค์ก่วง ในโถงหลักของเรือนด้านหลัง เม่ยเหนียงและลูกสาวถูกกันออกไปแล้ว ก่วงลิ่งกงกับโกวเยว่เฝ้าอยู่ข้างเข็มทิศ โกวเยว่ได้รับข่าวจากสายลับที่อยู่ทางนั้นไม่หยุดหย่อน

“ทัพตะวันออกใช้กลยุทธ์เติมเชื้อเพลิง หนิวโหย่วเต๋อกำลังล่อกองหนุนออกมาโจมตี ทัพตะวันออกกำลังเอาชีวิตคนไปถ่วงเวลา หนิวโหย่วเต๋อไม่กลัวว่ากองหนุนฝ่ายตรงข้ามจะตามไปถึงเหรอ? สู้กันจนกลายเป็นอย่างนั้น สองฝ่ายกำลังเล่นบ้าอะไร?” ก่วงลิ่งกงเอามือลูบเคราพึมพำ

โกวเยว่กล่าวว่า “ก่อนหน้านี้ตอนยังไม่ประมือกันก็ยังไม่รู้ แต่ดูจากจุดที่ต่อสู้กัน ชีวิตคนทัพตะวันออกที่ทุ่มเข้าไปคงไม่ต่ำกว่าห้าแสน เสียกำลังพลไปมากขนาดนี้เพื่อรับมือกับทัพใหญ่หนึ่งแสนแดนรัตติกาล มันช่าง…” เขาส่ายหน้า

“หนิวโหย่วเต๋อนี่ห้าวหาญมากทีเดียว ต่อให้ตายก็กัดไม่ปล่อยจริงๆ” ก่วงลิ่งกงกล่าวอย่างรู้สึกขำ

สระน้ำมังกรดำ ในพื้นที่วางของกระเป๋าสัตว์ พอพวกเหมียวอี้เข้ามาแล้ว ก็นำเข็มทิศออกมาทันที กำลังพลที่รับหน้าที่ประสานงานก็คอยใช้ระฆังดาราสื่อสารอยู่ข้างๆ ไม่หยุด บรรยากาศค่อนข้างตึงเครียด

เรื่องแรกที่เหมียวอี้ทำก็คือถามว่า “ตามมาหรือยัง?”

เหลิ่งจัวฉุนที่กำลังถือระฆังดาราติดต่อตานฉิงพยักหน้า “ตามมาแล้ว”

“ให้กำลังพลสายต่างๆ ที่จับตาดูฝ่ายศัตรูเคลื่อนไหวได้” เหมียวอี้กล่าว

ไม่นานก็มีคนมารายงาน “นายท่าน ทัพใหญ่หนึ่งล้านที่ปิดทางเข้าเปลี่ยนเส้นทางมาดักแล้ว”

“กำลังพลสายอื่นมีปฏิกิริยาอะไรหรือเปล่า?” เหมียวอี้ถาม

“ตอนนี้ยังไม่เห็นมีปฏิกิริยาอะไร” ผู้รายงานตอบ

เหลิ่งจัวฉุนชี้ข็มทิศ “เจตนาของฝ่ายตรงข้ามชัดเจนมาก ทัพใหญ่หนึ่งล้านที่ปิดล้อมทางเข้าเปลี่ยนเส้นทางก็เพื่อมาดักพวกเรา ทัพใหญ่หนึ่งล้านที่ปิดล้อมทางออกก็ตามติดพวกเราไม่ปล่อย เพื่อที่จะตีขนาบหน้าหลังพวกเรา ตอนหลังค่อยรวบรวมกำลังพลสายอื่นไปกำจัดกำลังพลของชิงเยว่ แล้วค่อยรวบรวมกำลังพลทั้งหมดมากำจัดพวกเราทิ้ง”

เหมียวอี้พยักหน้า ชี้ที่เข็มทิศ “ทัพใหญ่ตรงทางออกอยู่ทางตะวันตกเฉียงเหนือ ย้ายจากตรงนั้นมาตามหลังพวกเราแล้ว ทัพใหญ่ตรงทางเข้าอยู่ทางทิศตะวันตก เดิมทีมุ่งหน้าไปที่สนามรบ แต่ตอนนี้เปลี่ยนเส้นทางมาดักพวกเราแล้ว ตอนนี้พวกเราถ่วงรั้งทัพใหญ่สองล้านได้แล้ว แต่เท่านี้ยังไม่พอ ทางฝั่งชิงเยว่ต้านการล้อมปราบจากทัพตะวันออกสองแสนกว่าไม่ไหว ยังต้องให้พวกเราไปแก้สถานการณ์ให้ กำลังพลหนึ่งแสนที่เที่ยวตระเวนถูกกำจัดแล้ว กำลังพลที่ดักซุ่มทางทิศตะวันตกก็ถูกกำจัดแล้วเช่นกัน ตอนนี้สายลับหนึ่งล้านถูกพวกเรากำจัดไปสามแสนกว่า ที่เหลืออีกเจ็ดแสนยังเข้ามาเพิ่มไม่หยุดหย่อน แต่ก็ไม่มีอะไรน่ากลัว กลยุทธ์เติมเชื้อเพลิงก็แค่ส่งคนมารนหาที่ตายเท่านั้น

ตอนนี้ภัยคุกคามที่ใหญ่ที่สุดของชิงเยว่ก็คือกำลังพลดักซุ่มฝั่งตะวันออก กำลังพลดักซุ่มฝั่งเหนือ กำลังพลดักซุ่มฝั่งใต้ แล้วยังมีทัพกลางของอ๋าวเฟยอีก จุดที่สู้กันอยู่ใกล้ทิศตะวันตกเฉียงใต้ หรือพูดได้อีกอย่างว่า กองหนุนทางฝั่งใต้จะไปโจมตีกำลังพลของชิงเยว่ก่อน ที่รองลงมาก็คือทัพกลางของอ๋าวเฟยที่วางกำลังไว้ตรงกลางสระน้ำมังกรดำ สุดท้ายถึงจะเป็นกำลังพลฝั่งตะวันออกกำลังฝั่งเหนือ ตอนนี้กำลังพลฝั่งใต้แทบจะสูญเสียการควบคุมแล้ว สิ่งที่พวกเราต้องทำตอนนี้ก็คือ ถ่วงทัพกลางของอ๋าวเฟย กำลังพลฝั่งตะวันออกและฝั่งเหนือเหนือเอาไว้ พยายามถ่วงเวลาให้กำลังพลของชิงเยว่สะสมธนูฝ่าอิทธิฤทธิ์ให้ได้มากกว่านี้ บ่มเอาไว้โจมตีกลับ!”

“นายท่านคิดจะถ่วงรั้งยังไง?” เหลิ่งจัวฉุนถาม

เหมียวอี้ชี้ตำแหน่งคร่าวๆ ที่ทัพใหญ่ดักบนเข็มทิศ “ตอนนี้ยังไม่ต้องรีบเปลี่ยนแปลง รอให้ทัพใหญ่หนึ่งล้านที่ดักเข้าใกล่พวกเราก่อน ตอนที่ใกล้เข้ามาหาพวกเรา ให้เลี้ยวหลบพวกเขาทันที พยายามถ่วงเวลาให้ชิงเยว่!” นิ้วลากอยู่บนเข็มทิศ “ไปแทรกกลางทาง จู่โจมทัพกลางของอ๋าวเฟย ในมืออ๋าวเฟยคงจะเหลือกำลังพลแค่สี่แสน ธนูฝ่าอิทธิฤทธิ์ประมาณห้าพัน ยามเผชิญหน้ากับทัพใหญ่หนึ่งแสนติดอาวุธของพวกเรา มีหรือที่อ๋าวเฟยจะไม่กลัว ทัพใหญ่หนึ่งล้านที่ตามมาทีหลังกลัวว่าพวกเราจะเป็นภัยคุกคามต่ออ๋าวเฟย จะต้องกัดไม่ปล่อยแน่ ถ้าอ๋าวเฟยโหดมากพอ เพื่อที่จะถ่วงพวกเราไม่ให้เข้าใกล้ชิงเยว่มากเกินไป ก็น่าจะเอาตัวเองมาเป็นเหยื่อล่อ แล้วดึงพวกเรามาไกลๆ หน่อยค่อยลงมือ! ข้าเดาว่าอ๋าวเฟยต้องทำอย่างนี้แน่นอน เจ้าหมอนี่มันเป็นคนโหด คนที่เอาชีวิตคนมาใช้กลยุทธ์เติมเชื้อเพลิงได้ สามารถทำแบบนี้ได้อยู่แล้ว”

กุยอู๋พยักหน้า “พอเป็นแบบนี้ ก็ลดแรงกดดันจากทัพกลางสี่แสนในมืออ๋าวเฟยให้ชิงเยว่ได้ชั่วคราว”

เหมียวอี้หดมือกลับมาจากเข็มทิศ “บอกให้ตานฉิงเตรียมตัวให้พร้อม”

ในดาราจักรหลากสีสัน กองหนุนที่ทยอยมาถึงอย่างต่อเนื่องได้รับคำสั่งตายแล้ว ให้ฝ่าเข้าขบวนรบไปช่วยเชออู่

จงซานหมิงนำกำลังพลหนึ่งแสนไปถึงอย่างรวดเร็ว ภายใต้การโจมตีอันดุเดือดของลูกธนูดาวตก เกิดการบาดเจ็บล้มตายอย่างหนัก สุดท้ายก็ฝ่าเข้าไปรวมกับเชออู่ในขบวนรบแล้ว

ตอนนี้เชออู่ตาสองข้างแดงก่ำ คำรามเสียงแตกเพื่อบัญชาการให้กำลังพลที่เหลือไม่มากสู้ตาย การมาถึงของจงซานหมิงทำให้เขาได้พักหายใจนิดหน่อยเท่านั้น ทั้งสองบัญชาการกำลังพลให้สู้ตายเพื่อถ่วงรั้งทัพพันธมิตรไว้ ถ้ทัพพันธมิตรจะถอย ฝั่งนี้ก็จะกระโดนเข้าใจอย่างไม่คิดชีวิตทันที ต่อสู้กันอย่างอุตลุต ไม่ให้อาสทั้งสองฝ่ายดึงระยะห่างออกจากกัน

ส่วนฝั่งทัพใหญ่พันธมิตรแม้จะบาดเจ็บล้มตายไปแล้วไม่น้อย แต่กลับโจมตีได้อย่างคล่องมือมากขึ้น  ธนูฝ่าอิทธิฤทธิ์มากขึ้นเรื่อยๆ ยิ่งสู้ก็ยิ่งได้อาวุธยอดที่เยี่ยม ที่สำคัญกว่านั้นก็คือเผ่าเทพอสรพิษดำเริ่มหลุดออกจากความรู้สึกหวาดกลัวเหมือนตอนแรกที่ต่อสู้แล้ว เมื่อเข่นฆ่ากันไปนานๆ ก็เริ่มมีประสบการณ์ คุ้นเคยกับการให้ความร่วมมือในขบวนรบมากขึ้นแล้ว

“นายท่าน สายลับรายงานมา ว่ากำลังพลฝ่ายศัตรูที่มากดักอยู่ไม่ห่างจากพวกเราแล้ว!”

ในกระเป๋าสัตว์ คนจากศูนย์ประสานงานรีบรายงานเหมียวอี้

เหมียวอี้ถ่ายทอดคำสั่งอย่างเด็ดขาด “เปลี่ยนทิศทาง บุกโจมตีทัพกลางของอ๋าวเฟย!”

ในดาราจักร พวกตานฉิงรีบเบี่ยงออกจากเส้นทางเดิม กำลังพลที่ตามหลังมากัดไม่ปล่อย กำลังพลที่ดักอยู่อีกฝั่งก็ปรับทิศทางตามมาเช่นกัน

หวังหย่วนเฉียวที่ได้รับข่าวรีบรายงานอ๋าวเฟย “แม่ทัพใหญ่ ลู่ผิงฟางที่ตามติดหนิวโหย่วเต๋อรายงานมา ว่าหนิวโหย่วเต๋อเปลี่ยนทิศทางแล้ว ไม่ได้ไปช่วยสนับสนุนทัพใหญ่”

“ไปไหนแล้ว?” อ๋าวเฟยรีบถาม

หวังหย่วนเฉียว: “ตอนนี้ยังไม่รู้เจตนาของหนิวโหย่วเต๋อ ไม่มีทางตัดสินทิศทางได้”

“บอกอูจินหวน ไม่ต้องตามหลังแล้ว ให้ตามอยู่ข้างๆ ไปทางสนามรบ ไล่โจมตีด้านข้าง ป้องกันไม่ให้หนิวโหย่วเต๋อเปลี่ยนทิศทางกลับไปในเวลากระชั้นชิด ฝ่ายเราจะได้พร้อมดักได้ทุกเมื่อ” อ๋าวเฟยกล่าว

หลังจากผ่านไประยะหนึ่ง ตามรายงานการไล่โจมตีของลู่ผิงฟาง หวังหย่วนเฉียวเหมือนจะตัดสินอะไรบางอย่างได้แล้ว จึงรายงานต่ออ๋าวเฟยอีกครั้ง “แม่ทัพใหญ่ หนิวโหย่วเต๋อเหมือนจะมุ่งมาทางพวกเรา เหมือนจะมีเป้าหมายเป็นทัพกลางของพวกเรา!”

“หยุด!” อ๋าวเฟยที่คิ้วกระตุกพลันตะโกนหยุดกำลังพลที่กำลังเหาะไปข้างหน้า พวกเขาหยุดอยู่กลางท้องฟ้า แล้วแสยะยิ้มไม่หยุด “เจ้าเด็กดี อวดฉลาดนักนะ สงสัยจะตัดสินว่าอาวุธในมือทัพกลางของข้ามีไม่เยอะ รู้ว่าพวกเราต้านการโจมตีจากกำลังพลห้าแสนของเขาไม่ไหว!”

“ดูท่าแล้วเขาคงอยากโจมตีพวกเรา บีบให้กำลังพลสายอื่นเปลี่ยนทิศทางมาสนับสนุน จะได้ถ่วงเวลาให้จุดที่กำลังพลกำลังประมือกันได้สะดวก” คงฮั่นกล่าวเสียงต่ำ

อ๋าวเฟยพยักหน้า “ไม่ผิดหรอก เขาย่อมคิดว่าถ้าโจมตีศูนย์บัญชาการของเรา ก็จะบีบให้กำลังพลสายอื่นรีบมาช่วยได้! ดี งั้นข้าก็จะทำให้เขาสมปรารถนา ลดความเร็วลง รอให้อีกฝ่ายเข้ามาใกล้ แล้วพวกเราค่อยหนีเพื่อล่อให้อีกฝ่ายโจมตี ต้องดึงกำลังพลเก่งๆ ของเขาให้อยู่ห่างจากจุดสู้รบสักหน่อย อย่าให้โอกาสกำลังพลสองกลุ่มนั้นรวมกัน บอกอูจินหวนกับลู่ผิงฟาง รอข้าให้ล่อหนิวโหย่วเต๋อออกไปไกลพอสมควร ข้าจะโจมตีกลับทันที สั่งให้สองคนนั้นให้ความร่วมมือเต็มที่ ไม่ต้องสนใจฝั่งข้า ให้รวมกำลังพลไปจัดการกำลังพลที่สู้กันอุตลุตอยู่ในสนามรบ!”

……………

Related

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+