พิชิตสวรรค์ ทะยานฟ้า 907

Now you are reading พิชิตสวรรค์ ทะยานฟ้า Chapter 907 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.
เจดีย์งามวิจิตรเล็ก

ชายที่มีลักษณะสง่างามคนหนึ่งถลันตัวเข้ามา เขาคือเซี่ยงไป่ถิงนั่นเอง เขากุมหมัดคารวะโม่หมิงด้วยความเคารพก่อน “ท่านอาจารย์!”

จากนั้นก็หันตัวมาหาเยารั่วเซียน ถามอย่างจนใจว่า “ศิษย์น้อง เจ้าคิดจะประลองอย่างไร?” ดูมีกิริยาท่าทางงดงามกว่าเยารั่วเซียนเยอะเลย

ที่จริงถ้าดูจากรูปลักษณ์ภายนอกของทั้งสอง เมื่อนำมาเปรียบเทียบกัน ก็ไม่ต้องพูดถึงหน้าตาแล้ว เยารั่วเซียนไม่มีจุดไหนที่สามารถเทียบกับเซี่ยงไป่ถิงได้เลย ดูเหมือนอายุจะต่างกันไม่น้อยด้วย ที่จริงเซี่ยงไป่ถิงอายุมากกว่าเยารั่วเซียนตั้งเยอะ แต่ดูหล่อเหล่าอ่อนเยาว์และยังหนุ่มยังแน่นกว่า ส่วนเยารั่วเซียนกลับเป็นตาเฒ่าผมหงอกขาวแล้ว

สำหรับนักพรต อายุไม่ใช่สิ่งสำคัญอะไร ที่สำคัญคือความต่างด้านวรยุทธ์ วรยุทธ์ของเซี่ยงไป่ถิงคือบงกชม่วงขั้นหนึ่ง ส่วนเยารั่วเซียนที่ต่างกับเขาแค่ขั้นเดียวในปีนั้น ตอนนี้กลับยังอยู่แค่ระดับบงกชแดงขั้นหก ต่างกันไม่ใช่น้อยๆ

ความน่าเศร้าเรื่องความแตกต่างนี้ มีเพียงเยารั่วเซียนที่รู้ชัดอยู่แก่ใจ เซี่ยงไป่ถิงอยู่ในฐานะผู้สืบทอดตำแหน่งเจ้าสำนัก ไม่เคยขาดแคลนทรัพยากรฝึกตนจากสำนักงามวิจิตร ส่วนตัวเขาในปีนั้นกลับใช้ชีวิตทุกข์ยาก หลบหนีซ่อนตัวไปทั่วสารทิศ สามารถรักษาชีวิตไว้ได้ก็ถือว่าไม่แย่แล้ว จะหาทรัพยากรฝึกตนที่เพียงพอมาจากไหนกัน

แต่พอได้มาอยู่กับเหมียวอี้ เขาก็ไม่ขาดทรัพยากรฝึกตนแล้ว ถึงได้มีวรยุทธ์บงกชแดงขั้นหกเหมือนอย่างวันนี้ ไม่อย่างนั้นแค่บรรลุระดับบงกชแดงขั้นสามก็ยังยากเลย

เยารั่วเซียนตอบว่า “ได้ยินว่าสำนักงามวิจิตรใช้เวลาหลายปีเพื่อหลอมสร้างเจดีย์งามวิจิตรขึ้นมาชิ้นหนึ่ง ข้าไปสืบมาแล้ว นั่นคือของวิเศษที่เกิดจากการรวมทักษะการหลอมหลายอย่างเข้าไว้ด้วยกัน เรียกได้ว่าเป็นของวิเศษที่ยอดเยี่ยมที่สุดในพิภพเล็ก ในโลกนี้ยากจะหาของวิเศษใดมาเทียบเทียมได้ แต่ก็ยังมีจุดอ่อน เพราะคนที่ถือของวิเศษไม่สามารถควบคุมได้อย่างอิสระ นี่ก็คือสาเหตุสำคัญที่ทำให้เจดีย์งามวิจิตรถูกทำลายพัง วันนี้ข้าชดเชยจุดอ่อนนั่นให้แล้ว ข้าอาศัยแรงของข้าคนเดียวเพื่อหลอมสร้างเจดีย์งามวิจิตรเล็กขึ้นมาหลังหนึ่ง วันนี้ตั้งใจจะมาแสดงฝีมืออันต่ำต้อย!”

เยารั่วเซียนพลิกฝ่ามือเผยเจดีย์วิเศษแก้วสีทองอร่ามชิ้นหนึ่งวางอยู่บนฝ่ามือ ลวดลายที่แกะสลักอยู่บนนั้นเรียกได้ว่าประณีตงดงามไร้ที่เปรียบ ให้ความรู้สึกเหมือนครอบจักรวาล อย่างน้อยเมื่อมองจากรูปลักษณ์ภายนอก ก็สามารถข่มเจดีย์งามวิจิตรที่สำนักงามวิจิตรหลอมสร้างในปีนั้นได้แล้ว

เหมียวอี้ยิ้มมุมปาก เหมือนมองเห็นเงาของสำนักงามประณีตบนเจดีย์งามวิจิตรเล็กชิ้นนี้ ดูเหมือนว่าในหลายปีมานี้ การให้พวกตงกัวหลี่มาอยู่กับเยารั่วเซียนจะไม่สูญเปล่า

เมื่อกล่าวคำนี้ออกมา เมื่อเผยของวิเศษชิ้นนี้ออกมา บุคคลระดับสูงของสำนักงามวิจิตรก็พากันทำสีหน้าสะดุ้งตกใจ เจดีย์งามวิจิตรเป็นของวิเศษที่ใช้ยอดฝีมือด้านการหลอมของวิเศษของสำนักงามวิจิตรไปตั้งเท่าไร ใช้สติปัญญาและกำลังตั้งกี่ปีเพื่อสร้างขึ้นมา ไม่น่าเชื่อว่าเยารั่วเซียนจะบอกว่าเขาหลอมสร้างขึ้นมาด้วยกำลังของตัวเองคนเดียว ที่สำคัญที่สุดก็คือ เยารั่วเซียนยังอยู่ในวรยุทธ์ระดับบงกชแดง จะไม่ให้บุคคลระดับสูงของสำนักงามวิจิตรสั่นสะเทือนได้อย่างไร?

โม่หมิงมองลูกศิษย์ที่ถูกขับไล่ด้วยแววตาเหลือเชื่อ ในฐานะที่เคยหลอมเจดีย์งามวิจิตรมาก่อน เขารู้สึกว่าคำพูดของเยารั่วเซียนอาจจะคุยโวโอ้อวดเกินไปหน่อย แต่เขารู้จักอุปนิสัยของลูกศิษย์คนนี้ดี ไม่เหมือนคนที่จะมาพูดโอ้อวดในโอกาสและสถานที่แบบนี้

บอกได้เพียงว่า ความตกตะลึงที่อยู่ในใจ ยากที่จะหาคำใดมาบรรยายได้!

เหมียวอี้เอามือลูบคางพลางครุ่นคิด ในดวงตาฉายแววสงสัยประหลาดใจ จริงหรือล้อเล่น ตาแก่เยาหลอมสร้างเจดีย์งามวิจิตรได้แล้วเหรอ? ทั้งยังเป็นเจดีย์งามวิจิตรที่ชดเชยจุดด้อยแล้วด้วย?

เขาคือคนที่เข้าไปในเจดีย์งามวิจิตร รับรู้ถึงอานุภาพของเจดีย์งามวิจิตรอย่างลึกซึ้ง นั่นคือของวิเศษที่แม้แต่นักพรตบงกชทองก็ทำอะไรไม่ได้ ตอนนั้นถ้าไม่ใช่เพราะสังเกตเห็นพิรุธและโชคดีขุดรูหนีออกมาได้ ก็ไม่ต้องบอกเลยว่าผลที่ตามมาจะเป็นอย่างไร ถ้าเยารั่วเซียนเติมเต็มช่องโหว่ของเจดีย์งามวิจิตรแล้วจริงๆ ของวิเศษชิ้นนี้จะไม่พลิกฟ้าหรอกเหรอ?

ใช้ของที่สำนักงามวิจิตรภาคภูมิใจที่สุดมาเอาชนะสำนักงามวิจิตร ช่างเป็นวิธีการล้างความอัปยศที่ดีจริงๆ!

แต่ในใจเหมียวอี้แทบจะด่าแม่ ถ้าเยารั่วเซียนสามารถหลอมของวิเศษแบบนั้นได้จริงๆ แต่นำมาประลองของวิเศษบ้าบออะไรนี่แทนที่จะให้เหมียวอี้ลองใช้ก่อน ถ้าเป็นแบบนั้นเขาต้องด่าบรรพบุรุษของเยารั่วเซียนไปสิบแปดรุ่นแน่ๆ ข้าใช้ทรัพยากรเลี้ยงเจ้าไปตั้งเยอะนะโว้ย!

เขาแน่ใจได้เลย ว่าวัตถุดิบที่เยารั่วเซียนใช้หลอมของวิเศษชิ้นนี้มาจากเขา โดยเฉพาะเปลือกหุ้มของเจดีย์วิเศษ ชัดเจนว่าหลอมสร้างจากทองผลึกบริสุทธิ์ เป็นสิ่งที่ผลิตมาจากตั๊กแตนพวกนั้นแน่นอน

เฟิงเป่ยเฉินที่อยู่หลังหน้าต่างชั้นลอยก็ตาลุกวาวเช่นกัน หลังจากหลอมสร้างเจดีย์งามวิจิตรแล้ว เขาเองก็เคยเข้าไปทดสอบในเจดีย์งามวิจิตรเช่นกัน และรับรู้ถึงอานุภาพของมันอย่างลึกซึ้ง สรุปก็คือต่อให้อาศัยความสามารถของเขาก็ยังไม่มีทางหลุดออกจากเจดีย์งามวิจิตรได้เลย ทุกวันนี้สำนักงามวิจิตรรวมทั้งเขาเองก็ยังไม่รู้ว่าเจดีย์งามวิจิตรถูกทำให้พังได้อย่างไร

ถ้าท่านจื่อหยางสามารถเติมเต็มช่องโหว่ของเจดีย์งามวิจิตรได้จริงๆ… หัวใจของเฟิงเป่ยเฉินร้อนผ่าวขึ้นมาทันที ดวงตาฉายแววเป็นประกาย ค่อนข้างตั้งตารอ!

คนที่ตั้งตารอมีอยู่ไม่น้อย แต่ละคนจับจ้องเจดีย์วิเศษที่อยู่บนฝ่ามือของเยารั่วเซียน!

เซี่ยงไป่ถิงที่จ้องเจดีย์วิเศษด้วยแววตาเหลือเชื่อค่อยๆ กลับมาเป็นปกติ ถ้าอีกฝ่ายสามารถหลอมสร้างเจดีย์งามวิจิตรด้วยตัวคนเดียวจริงๆ เช่นนั้นเขาก็ไม่ต้องประลองแล้ว เขายอมรับเลยว่าตัวเองทำไม่ได้ ยอมรับความพ่ายแพ้ไปเสียเลยดีกว่า

แต่เขาไม่เชื่อ จึงกล่าวด้วยรอยยิ้มเรียบๆ ว่า “ศิษย์น้อง อย่าหาว่าข้าพูดจาไม่น่าฟังเลยนะ เจดีย์งามวิจิตรเป็นผลงานที่อาจารย์หลายท่านทุ่มกำลังและสติปัญญาเป็นเวลาหลายปี ที่เจ้าบอกว่าเจ้าหลอมสร้างขึ้นมาด้วยตัวคนเดียว ข้าไม่เชื่อหรอก! เพราะวรยุทธ์ของเจ้าก็เห็นๆ กันอยู่ คนที่หลอมของวิเศษเป็นเขารู้กันทั้งนั้น บางครั้งถ้าวรยุทธ์ไม่สูงพอ ก็จะควบคุมของบางอย่างไม่ได้!”

“เซี่ยงไป่ถิง ที่เจ้าพูดก็ไม่ผิดหรอก ข้ามีข้อจำกัดด้านวรยุทธ์ ไม่มีทางหลอมสร้างของวิเศษที่เหมือนกับเจดีย์งามวิจิตรทุกกระเบียดนิ้วได้ เจดีย์งามวิจิตรมีความจุกว้างใหญ่ขนาดนั้น แค่เรื่องกำลังทรัพย์อย่างเดียวข้าก็รับไม่ไหวแล้ว แต่สำหรับคนที่หลอมของวิเศษอย่างพวกเรา มันไม่ได้ขึ้นอยู่กับขนาด แต่ขึ้นอยู่กับฝีมือการหลอมต่างหาก ของชิ้นไหนที่วรยุทธ์ยังไม่สูงพอ รอให้วรยุทธ์สูงพอก็ย่อมชดเชยข้อเสียได้แล้ว! พื้นที่ว่างและจำนวนของที่อยู่ในเจดีย์งามวิจิตรเล็กของข้าเทียบกับเจดีย์งามวิจิตรไม่ติดเลย เพราะข้ามีข้อจำกัดด้านวรยุทธ์ บุกเบิกพื้นที่ให้กว้างกว่านี้ไม่ได้ และไม่มีกำลังทรัพย์ที่จะทำของชิ้นใหญ่ขนาดนั้นด้วย ข้าถึงได้เรียกว่าเจดีย์งามวิจิตรเล็กไง!” เยารั่วเซียนตอบ

พูดจบแล้วก็สะบัดมือ เจดีย์งามวิจิตรเล็กบินขึ้นไปเปล่งแสงสีแดงอยู่บนฟ้า ชั่วพริบตาเดียวก็กลายเป็นเจดีย์วิเศษเจ็ดชั้นสูงประมาณหนึ่งจั้ง ลอยอยู่บนท้องฟ้าแล้ว

ตอนนี้ทุกคนถึงได้พบว่ามันคือของวิเศษขั้นสาม หรือพูดได้อีกอย่างว่าอานุภาพไม่ได้เยอะสักเท่าไร ทว่าตัวเจดีย์ที่สูงหนึ่งจั้งก็ยังทำให้คนส่วนใหญ่เดาะลิ้นด้วยความทึ่งไม่หยุด แค่มองปราดเดียวก็รู้แล้วว่าสร้างจากทองผลึกบริสุทธิ์ทั้งหมด ทองผลึกที่มีความบริสุทธิ์สูงขนาดนี้ไม่ใช่สิ่งที่คนทั่วไปจะหามาได้

เยารั่วเซียนย้ายสายตาออกจากตัวเซี่ยงไป่ถิง แล้วมองไปทางสำนักงามวิจิตร “คนที่คุ้นเคยกับเจดีย์งามวิจิตรสามารถเข้าไปทดสอบได้ พิสูจน์ได้ว่าข้าพูดจริงหรือโกหก!”

คนที่คุ้นเคยกับเจดีย์งามวิจิตรก็ย่อมเป็นคนของสำนักงามวิจิตรอยู่แล้ว พูดแบบนี้เท่ากับเป็นการเชิญให้คนของสำนักงามวิจิตรมาทดสอบสินค้า

“ข้าไปเอง!” ใครจะคิดว่าคนที่เสนอตัวคนแรกจะเป็นโม่หมิง พูดจบก็เหาะไปที่เจดีย์วิเศษเลย

“ข้าด้วย!” เสียงหลายเสียงดังขึ้นพร้อมกัน ผู้อาวุโสหลายท่านของสำนักงามวิจิตรระงับอารมณ์ไม่ไหว เหาะออกไปด้วยกัน

สุดท้ายแม้แต่เซี่ยงไป่ถิงก็ยังต้องแข็งใจพุ่งตัวเข้าไป ถึงแม้เขาจะกังวลนิดหน่อยว่าอาจจะโดนลอบทำร้ายลับหลัง แต่เขาคือคนที่โดนท้าสู้ แม้แต่พวกอาจารย์ก็ไปกันหมดแล้ว เขาจะมัวชักช้าอยู่ได้อย่างไร

ใต้ฐานเจดีย์เปิดอุโมงค์มืดไว้ช่องหนึ่ง มันทะยานขึ้นครอบกลางอากาศ เก็บคนพวกนั้นเข้าไปโดยตรง

เหมียวอี้เห็นแล้วแอบส่ายหน้า อาศัยแค่จุดนี้ก็ต่างกับเจดีย์งามวิจิตรตัวจริงแล้ว เจดีย์งามวิจิตรตัวจริงเก็บคนได้รวดเร็วสุดๆ ขนาดนักพรตระดับบงกชทองอย่างเลี่ยหวนยังหนีลำบาก ด้วยความเร็วเล็กน้อยแบบนี้ ถ้าอยากจะเก็บคนเข้าไปในเจดีย์ก็เกรงว่าจะยาก อย่างมากก็ใช้รับมือกับนักพรตที่ระดับไม่เกินบงกชม่วงได้ แต่ก็อาจจะเป็นเพราะมันเป็นแค่ของวิเศษขั้นสามด้วย

พอคนจำนวนหนึ่งเข้าไปในเจดีย์ เยารั่วเซียนก็โบกมือร่ายวิชาทันที ทำให้หลังคาของเจดีย์งามวิจิตรเล็กพลันเปล่งแสงสีขาว คายสิ่งของที่เหมือนกับลูกแก้วใสออกมาลูกหนึ่ง คายออกมาวางอยู่บนยอดเจดีย์ ที่น่าอัศจรรย์ก็คือ สภาพภายในเจดีย์ปรากฏเป็นภาพให้เห็นบนลูกแก้วใส ทำให้ทุกคนมองเห็นได้อย่างชัดเจน เห็นโลกอีกใบที่อยู่ในเจดีย์ เห็นพวกโม่หมิงที่กำลังเหลียวซ้ายแลขวาอยู่ในเจดีย์ แม้แต่เสียงพูดคุยกันก็ได้ยินออกมาถึงข้างนอก

แค่ฉากนี้ก็ทำให้เหมียวอี้แอบตกใจแล้ว ถ้าเจดีย์งามวิจิตรในปีนั้นมีความสามารถนี้ เขากับเลี่ยหวนก็คงไม่มีทางฉวยโอกาสขุดรูออกมาได้หรอก เพราะอีกฝ่ายสามารถควบคุมการเปลี่ยนแปลงของลักษณะพื้นดินได้ตลอดวลา เพื่อไม่ให้เจ้าสามารถขุดรูออกมาได้

คนที่ร่วมหลอมสร้างเจดีย์งามวิจิตรไม่ได้เข้าไปทั้งหมด คนข้างนอกที่ได้เห็นภาพนี้พากันสีหน้าเปลี่ยน นี่คือช่องโหว่ที่พวกเขาอยากจะเติมเต็มในตอนนั้น แต่จนใจเพราะไม่เคยคิดหาวิธีได้เลย ไม่รู้เหมือนกันว่าเยารั่วเซียนทำได้อย่างไร

ท่ามกลางสายตาฝูงชน คนในเจดีย์เริ่มแยกย้ายกันเหาะเหิน เยารั่วเซียนที่เห็นสภาพข้างในชัดเจนโบกแขนเสื้อติดต่อกันหลายครั้ง ในที่สุดเจดีย์วิเศษก็เริ่มหมุนวนแล้ว เจดีย์วิเศษทั้งเจ็ดชั้น มีทั้งหมุนตามเข็มนาฬิกา มีทั้งหมุนทวนเข็มนาฬิกา หมุนเร็วมากจนเกิดเสียงดังหึ่งๆ

ที่จริงพื้นที่ว่างในเจดีย์ก็ไม่ได้ใหญ่โต มีรัศมีเพียงหนึ่งพันเมตรเท่านั้น ภูเขาเล็ก ทะเลสาบเล็ก ป่าผืนเล็ก แม้จะเล็กแต่มีทุกอย่างครบครัน สามารถเปลี่ยนแปลงสภาพได้ต่างๆ นาๆ ภูเขาเดี๋ยวก็จมเดี๋ยวก็นูน ป่าไม้เดี๋ยวก็โดนฝังเดี๋ยวก็งอกใหม่ ทะเลสาบเดี๋ยวก็แห้งเดี๋ยวก็เอ่อท่วม เดี๋ยวก็มีฝนตก เดี๋ยวก็มีหิมะตก… เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่องในพื้นที่อันจำกัด คนที่ดูอยู่ข้างนอกพากันเหม่อลอย

คนที่ไม่เข้าใจอาจจะยังมองอะไรไม่ออก แต่สิ่งที่เยารั่วเซียนอยากจะแสดงให้สำนักงามวิจิตรเห็น ก็คือฝีมือในการหลอมของวิเศษของเขา พิสูจน์ว่าฝีมือของเขาสามารหลอมสร้างเจดีย์งามวิจิตรได้ คนบางกลุ่มที่ไม่ได้อยู่ในวงการนี้ จะมองเข้าใจหรือไม่ก็ไม่สำคัญ

เหมียวอี้ก็เป็นคนนอกวงการเช่นกัน เขาหลอมของวิเศษไม่เป็น แต่เขาเคยเข้าไปในเจดีย์งามวิจิตรมาก่อน แค่เห็นสภาพการณ์แบบนี้ก็เข้าใจทันที ถ้าให้เยารั่วเซียนมีวรยุทธ์ที่สูงพอ มีทรัพยากรมากพอ หลอมสร้างพื้นที่ว่างได้ใหญ่มากพอ เจดีย์งามวิจิตรที่มีภาพมายาทำให้คนสับสนงุนงง เยารั่วเซียนก็ทำได้เช่นกัน

พื้นที่ในเจดีย์วิเศษมีจำกัดจริงๆ ตรงจุดไกลๆ ที่มีหมอกหนาคงจะเป็นจุดสิ้นสุด คนในเจดีย์เหาะอยู่บนฟ้าด้วยความเร็วสูง บินไปยังจุดสิ้นสุด การเปลี่ยนแปลงของพื้นดินข้างล่างเหมือนจะเป็นสิ่งพิสูจน์ว่าพวกเขาข้ามน้ำข้ามภูเขามานับไม่ถ้วนแล้ว แต่ในสายตาของคนที่อยู่ข้างนอก เหมือนพวกเขาจะยังอยู่ที่เดิม

เมื่อดูไปเรื่อยๆ ต่อให้เป็นคนที่ไม่เข้าใจ แต่ก็เริ่มมองเห็นเงื่อนงำแล้วเช่นกัน มองออกถึงความยอดเยี่ยมหากของวิเศษชิ้นนี้มีขนาดใหญ่ขึ้น เริ่มมีเสียงตื่นตะลึงดังขึ้นแล้ว

กลุ่มคนในเจดีย์สีหน้าเปลี่ยนนิดหน่อย รู้ว่าถ้าทำแบบนี้จะไม่มีวันหาจุดสิ้นสุดเจอ โม่หมิงเรียกให้ทุกคนเหาะลงมาบนพื้น แล้วจู่ๆ ก็ลงมือโจมตี ทำให้ที่ผิวดินมีมนุษย์ดินกระโดดออกมาต่อต้านตัวแล้วตัวเล่า ฆ่าเท่าไรก็ไม่หมด! เจดีย์งามวิจิตรหลังนี้เหมือนจะมีพลังที่ไม่สิ้นสุด

คนที่ดูการต่อสู้อยู่ด้านนอกส่งเสียงร้องตกใจอีกครั้ง ตกตะลึงพรึงเพริดมาก!

เหมียวอี้พยักหน้าเบาๆ มันเป็นอย่างนี้นี่เอง เขาพบว่าในเจดีย์งามวิจิตรสั่นสะเทือนเล็กน้อย จึงเข้าใจทันที ถึงอย่างไรที่ก็เป็นแค่ของวิเศษขั้นสาม พวกโม่หมิงวรยุทธ์สูงเกินไป เจดีย์วิเศษหลังนี้พยุงได้ไม่นานเท่าไร ถ้าไม่ใช่เพราะโครงสร้างหลักของมันเป็นทองผลึกที่มีความบริสุทธิ์สูง เกรงว่าคงจะทนไม่ไหวและพังไปแล้ว

แต่ไม่ว่าใครก็ดูออก อาศัยแค่ของวิเศษขั้นสามชิ้นเดียวก็สามารถขังนักพรตหลายคนได้นานขนาดนี้ นับว่าเป็นสิ่งที่หายากมากแล้ว แค่นี้ก็เป็นของที่คนส่วนใหญ่ไม่เคยได้ยินและไม่เคยเห็นแล้ว ถึงแม้จะมีบางคนเคยเห็นเจดีย์งามวิจิตรมาก่อน แต่ก็เพิ่งเข้าใจว่าภายในของเจดีย์งามวิจิตรในตอนนั้นเป็นอย่างไรหลังจากได้เห็นภาพที่แสดงบนลูกแก้วใส

อวิ๋นเป้ากับตัวแทนจากแดนอื่นๆ ดูจนเหงื่อแตกเต็มหลัง สิ่งที่สำนักงามวิจิตรทำออกมาในปีนั้นคือของวิเศษขั้นสี่ และอานุภาพก็เหนือกว่าเจดีย์หลังเล็กนี้ไม่รู้ตั้งกี่เท่า แค่ของวิเศษขั้นสามเล็กๆ ชิ้นเดียวก็ขังนักพรตบงกชม่วงได้เป็นกลุ่ม ในปีนั้นที่เฟิงเป่ยเฉินตั้งใจให้ยอดฝีมือจากแดนต่างๆ มาทดสอบเจดีย์งามวิจิตร ไม่ต้องบอกก็รู้ว่ามีจุดประสงค์อะไร ชัดเจนว่าจะเอาไว้สู้กับอีกห้าปราชญ์

โชคดีที่ตอนนั้นแผนพังเสียก่อน แต่เยารั่วเซียนก็พูดไว้ชัดเจนมากแล้ว ว่าเขามีวิธีเติมเต็มช่องโหว่ของเจดีย์งามวิจิตร ถ้ามีเจดีย์งามวิจิตรที่ไร้ช่องโหว่โผล่ออกมาจริงๆ แบบนั้นจะไม่แย่หรอกเหรอ!

เหมียวอี้เริ่มรู้สึกว่าท่าไม่ดีแล้ว ถ้าเยารั่วเซียนทำแบบนี้ต่อไป บางทีอาจจะล้างความอัปยศได้ อาจจะพิสูจน์ได้ว่าเจ้าเก่งกว่าเซี่ยงไป่ถิง อาจจะพิสูจน์ได้ว่าเจ้ามีคุณสมบัติที่จะเป็นผู้สืบทอดสำนัก อาจจะพิสูจน์ว่าเจ้ามีคุณสมบัติจะแต่งงานกับลูกสาวเจ้าสำนัก แต่นี่ก็เท่ากับตัดหนทางรอดชีวิตเช่นกัน หกปราชญ์ไม่ยอมให้เจ้าตกอยู่ในมือคนอื่นแน่ มารดาเจ้าเถอะ แล้วจะให้ข้าช่วยเจ้ายังไงล่ะ…

หลังจากแสดงอานุภาพในเจดีย์งามวิจิตรเล็กทีละอย่าง ที่หน้าผากเยารั่วเซียนก็มีเม็ดเหงื่อผุดเยอะมาก ถึงแม้จะเป็นของวิเศษขั้นสาม แต่ด้วยวรยุทธ์อย่างเขา เวลาควบคุมก็ลำบากเหมือนกัน ไม่สามารถทำต่อเนื่องได้นานเกินไป

ก็เหมือนกับเจดีย์งามวิจิตรในปีนั้น ถึงแม้จะเป็นของวิเศษขั้นสี่ แต่เจ้าสำนักโม่หมิงไม่มีทางควบคุมมันได้เลย ยังต้องอาศัยแรงฮูหยินเหมียวจวินอี๋ซึ่งมีวรยุทธ์บงกชทองให้ลงมือควบคุมให้

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด