พ่อเลี้ยงยอดเซียน (异界无敌奶爸) 151 แสดงละคร

Now you are reading พ่อเลี้ยงยอดเซียน (异界无敌奶爸) Chapter 151 แสดงละคร at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 151 แสดงละคร

เมื่อได้ยินคำขอของนาง หลิงตู้ฉิงหรี่ตามองโจวจื่อซินตั้งแต่หัวจรดเท้า ซึ่งทำให้โจวจื่อซินเข้าใจผิดคิดว่าหลิงตู้ฉิงพยายามเอาเปรียบนางในขณะกำลังตกยาก

โจวจื่อซินก้มหัวลงด้วยความขมขื่นและพูดว่า “ขอแค่ท่านไม่จับข้าไปทำโอสถมนุษย์ ข้ายินดียอมให้ท่านทำทุกอย่างกับร่างกายข้าตามที่ท่านต้องการ…”

หลิงตู้ฉิงไม่สนใจการแสดงออกของนางแม้แต่น้อย เมื่อเขามองตรวจสอบโจวจื่อซินจนเสร็จ เขาขมวดคิ้วและนำเลือดของนางจากในขวดหยกมาหนึ่งหยด และเริ่มใช้วิชาลับตรวจสอบสิ่งแปลกปลอมที่ปนอยู่ในเลือดของนางอีกครั้ง

เวลาที่เขาใช้ตรวจสอบนั้นผ่านไปไม่เกิน 1 ก้านธูป ผลปรากฎว่าในร่างของโจวจื่อซินนั้นถูกฝังปรสิตที่ใช้บอกตำแหน่งของนางอยู่

เมื่อนึกถึงความสามารถของปรสิตพฤกษาตัวนี้ หลิงตู้ฉิงขมวดคิ้วด้วยความหนักใจ

หลังจากครุ่นคิดได้สักพักหลิงตู้ฉิงได้เอ่ยกับโจวจื่อซินว่า “4 เดือนนับจากนี้ สถาบันราชวงศ์จะเปิดรับนักศึกษาใหม่ เมื่อถึงเวลานั้น หากเจ้ายังมีชีวิตอยู่ เจ้าจงมาที่สถาบันและมาหาข้าที่ศาลาศักดิ์สิทธิ์ หากเจ้ารอดมาเจอข้าได้ ข้าจะอนุญาตให้เจ้าเป็นบ่าวรับใช้ข้า…”

เมื่อหลิงตู้ฉิงพูดจบประโยค เสียงตะโกนของชายผู้หนึ่งดังลั่นขึ้นที่หน้าคฤหาสน์สราญรมย์

“หลิงตู้ฉิง แกกล้าดียังไงถึงบังอาจกักตัวศิษย์ข้าไว้ในคฤหาสน์บ้า ๆ นี่ของแกกัน!”

“อาจารย์ของข้ามาที่นี่แล้ว!” โจวจื่อซินอุทานด้วยน้ำเสียงตื่นตระหนก

หลิงตู้ฉิงป้ายนิ้วของเขาไปที่แผลบนข้อมือที่โจวจื่อซินกรีดไว้เพื่อให้เลือดกับเขา ให้ปิดสนิทดังเดิมเป็นการอำพลางไม่ให้อาจารย์ของนางจับพิรุธเรื่องต่าง ๆ ได้

เมื่อปิดบาดแผลของโจวจื่อซิยเสร็จ หลิงตู้ฉิงมองนางและพูดว่า “เจ้าจำที่ข้าพูดเอาไว้ให้ดี หากภายใน 4 เดือนนี้เจ้ารอดจนมาเจอข้าได้ ข้าจะยอมรับให้เจ้ามาเป็นบ่าวรับใช้ข้า ส่วนเหตุการณ์นับต่อจากนี้เพื่อตบตาอาจารย์เจ้า เจ้ารู้ใช่ไหมว่าต้องทำตัวยังไงต่อ?”

โจวจื่อซินพยักหน้าด้วยความประหม่า

ตอนนี้ชายชราชุดสีฟ้าอ่อนได้เดินผ่านประตูคฤหาสน์เข้ามาในลานเรียบร้อยแล้ว

ชายชราในชุดสีฟ้าผู้นี้คือผู้อาวุโสจาก สำนักสวนร้อยพฤกษา เจียงเต๋อชิง ผู้เชี่ยวชาญขอบเขตนภาระดับ 3 ด้วยประสบการณ์และระดับการบ่มเพาะที่แข็งแกร่งของเขา ทางสำนักจึงส่งเขาให้มาเป็นผู้ดูแลการเดินทางของสำนักในครั้งนี้

เมื่อไม่กี่ชั่วยามก่อนหน้านี้ เขาที่กำลังพยายามสืบเสาะหาข้อมูลของโอสถกำเนิดรากฐานอยู่นั้น พอได้ทราบเรื่องราวความพิสดารของความเกี่ยวข้องโอสถกำเนิดรากฐานกับหลิงตู้ฉิงผู้เป็นเจ้าของคฤหาสน์สราญรมย์มาบ้างแล้ว และในขณะที่เขากำลังครุ่นคิดว่ากำลังจะทำอย่างไรต่อไปดี จู่ ๆ เขากลับได้ทราบข่าวว่าโจวจื่อซินถูกจับกุมตัวอยู่ในคฤหาสน์สราญรมย์ที่เป็นดั่งพื้นที่ต้องห้าม

เมื่อทราบข่าวนี้ สีหน้าของเจียงเต๋อชิงซีดลงทันทีเนื่องจากตัวตนของโจวจื่อซินนั้นมีความสำคัญเป็นอย่างมากกับสำนักของเขา ด้วยความร้อนใจ เจียงเต๋อชิงจึงรีบบินมายังคฤหาสน์สราญรมย์ทันทีโดยไม่สนใจเรื่องเล่าต่าง ๆ นานา เกี่ยวกับคฤหาสน์หลังนี้ไปด้วยความโกรธ

เมื่อเขามาถึงคฤหาสน์สราญรมย์ ด้วยความกังวลเขาจึงรีบพุ่งเข้ามาด้านในคฤหาสน์ทันที

และหลังจากเขาเข้ามายังภายในคฤหาสน์และเห็นภาพที่โจวจื่อซิน ซึ่งกำลังเดินออกมาพร้อมกับหลิงตู้ฉิงโดยไร้รอยขีดข่วน เขาถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอกทันที

“หลิงตู้ฉิง! ต่อให้เจ้าคิดว่าตัวเองวิเศษมากในทวีปนี้ แต่อย่าคิดว่าข้าจะไม่กล้าทำอะไรเจ้า ปล่อยลูกศิษย์ของข้าเดี๋ยวนี้ ไม่เช่นนั้นข้าจะขอสู้ตายกับเจ้า!”

หลิงตู้ฉิงที่พึ่งเดินออกมาจากในตัวตึกคฤหาสน์กับโจวจื่อซิน เขามองไปยังเจียงเต๋อชิงด้วยสายตาเย็นชาและพูดว่า

“เจ้าไม่เคยได้ยินเกี่ยวกับกฎของคฤหาสน์สราญรมย์ของข้างั้นเหรอ ไม่ว่าใครก็ตามที่ต้องการเข้ามาพบกับข้า คนผู้นั้นจะต้องจ่ายเป็นวัสดุระดับสูงให้ข้าก่อน 1 ชิ้นถึงจะเข้ามาได้ แต่ถ้าเป็นสำหรับผู้ที่บุกรุกเข้ามาโดยพลการ คนเหล่านั้นจะต้องจ่ายวัตถุดิบมากกว่าอัตราปกตินะเจ้ารู้ไหม? และยิ่งโดยเฉพาะที่เจ้าเป็นผู้เชี่ยวชาญขอบเขตนภา หากข้าขอแค่วัสดุระดับสูงจากเจ้า เจ้าอาจจะรู้สึกว่าข้ากำลังดูแคลนเจ้าอยู่ ดังนั้นสำหรับราคาค่าไถ่ตัวเจ้าในครั้งนี้ เจ้าจะต้องมอบวัสดุระดับราชวงศ์ให้กับข้า และนอกจากวัสดุระดับราชวงศ์ที่ไถ่ตัวเจ้าแล้ว เจ้ายังต้องจ่ายในส่วนของศิษย์ของเจ้าที่บุกรุกเข้ามาที่นี่ สำหรับค่าไถ่ของนางข้าคิดแค่วัสดุระดับสูง 1 ชิ้นเท่านั้นก็พอ แต่ถ้าเจ้าคิดเบี้ยวไม่จ่ายข้าแล้วล่ะก็ เจ้ากับศิษย์เจ้าก็อย่าหวังจะได้รอดกลับไป!”

เจียงเต๋อชิงพูดด้วยความโกรธ “ต้องการวัสดุระดับราชวงศ์จากข้างั้นเหรอ? เจ้าฝันไปรึเปล่า? ระดับสูงสุดขอบเขตควบแน่นลมปราณอย่างเจ้า ข้าคนนี้สามารถแทงเจ้าตายได้หลายหมื่นครั้งด้วยนิ้วเดียว!”

โจวจื่อซินแสร้งทำเป็นตื่นตระหนกและพูดว่า “อาจารย์ ท่านต้องไม่สู้กับเขา หลิงตู้ฉิงคือผู้เชี่ยวชาญอักขระเวทย์! ก่อนหน้านี้ หลัวเจิ้งบุกเข้ามาที่นี้และข้าคิดว่า หลัวเจิ้งต้องชนะแน่นอน ข้าจึงตามเข้ามาดูเหตุการณ์ แต่กลับกลายเป็นว่าเขาเป็นผู้เชี่ยวชาญอักขระเวทย์ แม้แต่หลัวเจิ้งยังรับกระบวนท่าของเขาได้ไม่ถึงหนึ่งกระบวนท่าแถมยังสูญเสียดาบกิเลนร่ำไห้อันมีค่าของเขาไป อาจารย์ท่านอย่าโจมตีเขาเด็ดขาด! วันนี้ศิษย์ของท่านสร้างปัญหาให้กับท่านแล้ว อาจารย์…ข้าไม่มีวัสดุระดับสูงใด ๆ และข้าอายเกินกว่าที่จะแจ้งให้ท่านทราบ…” ขณะที่นางพูดนางก็เริ่มร้องไห้ แต่น้ำตาที่ไหลออกมานั้นไม่ใช่เพราะนางละอายใจ แต่เป็นเพราะนางแสร้งทำเพราะตบตาอาจารย์ของนาง

หลิงตู้ฉิงดึงดาบกิเลนร่ำไห้ออกมาจากแหวนมิติ เขาถือมันด้วยมือข้างเดียวและขึ้นพูด  “ดูเหมือนว่าเจ้าอยากจะลองดีไม่ยอมจ่ายค่าไถ่ให้ข้าสินะ เช่นนั้นเจ้าก็ลองใช้กำลังของเจ้าสยบข้าดูก็ได้! แต่ราคาสำหรับการโจมตีข้าทุกครั้ง ข้านับเป็นวัสดุระดับสูง 1 ชิ้น หากเจ้ามีวัสดุระดับสูงเพียงพอเจ้าก็สามารถโจมตีข้าได้ตามต้องการ”

ใบหน้าของเจียงเต๋อชิงบิดเบี้ยว เขาจ้องมองไปที่โจวจื่อซิน จากนั้นหันไปหาหลิงตู้ฉิงและพูดว่า “ข้าอยู่ในขอบเขตนภาระดับ 3 เจ้าแน่ใจว่าเจ้าอยากจะลองดีกับข้าแบบนี้จริง ๆ งั้นเหรอ? แม้ว่าเจ้าจะเป็นผู้เชี่ยวชาญอักขระเวทย์ แต่ระดับการบ่มเพาะในปัจจุบันของเจ้ายังตื้นเขินเกินไป เจ้ารู้รึเปล่าว่าความแตกต่างระหว่างขอบเขตปัจจุบันของเจ้ากับขอบเขตนภาของข้านั้นแตกต่างกันมากแค่ไหน?”

“เจ้านี่พูดมากจริง ๆ สรุปแล้วเจ้าจะให้วัสดุระดับสูงแก่ข้าหรือเจ้าจะลองใช้กำลังสยบข้า?” หลิงตู้ฉิงถาม

“ดี! ในเมื่อข้าให้โอกาสเจ้าแล้ว เจ้ากลับไม่สนใจ เช่นนั้นข้าก็อยากเห็นเหมือนกันว่าเจ้าจะแข็งแกร่งแค่ไหน” เจียงเต๋อชิง โกรธมาก

เขาเป็นผู้เชี่ยวชาญขอบเขตนภาระดับ 3 เขาไม่ใช่คนที่ใครจะมาดูถูกได้ง่าย ๆ ถึงแม้ว่าคนผู้นั้นจะเป็นผู้เชี่ยวชาญอักขระเวทย์ก็ตาม

นอกจากนี้ถึงแม้ว่าหลิงตู้ฉิงจะพิสดารตามที่คนร่ำลือกันจริง ๆ แต่เขาก็มั่นใจในตัวเองเช่นกันว่าการที่หลิงตู้ฉิงจะฆ่าเขาได้มันก็ไม่ใช่เรื่องง่าย ๆ

หรือต่อให้เขาจะหนีไม่ได้จริง ๆ สิ่งที่เขาจะต้องเสียมันก็แค่วัสดุขั้นสูงไม่กี่ชิ้นเท่านั้นเอง ยังไงเขาก็สามารถจ่ายได้

เมื่อนึกถึงผลได้ผลเสียและทางหนีทีไล่ของเรื่องนี้ทั้งหมด เจียงเต๋อชิงก็ขยับตัว

เมื่อผู้เชี่ยวชาญระดับสามของขอบเขตนภาเริ่มโจมตี ทุกคนในลานคฤหาสน์รู้สึกได้ทันทีถึงแรงกดดันของขอบเขตนภาที่กดทับลงมาจากท้องฟ้า

เมื่อเผชิญกับการโจมตีของเจียงเต๋อชิง หลิงตู้ฉิงส่ายหัวอย่างดูแคลน “แม้ว่าเจ้าจะเป็นผู้เชี่ยวชาญขอบเขตนภาแต่ในแง่ของพลังโจมตีเจ้าอ่อนแอกว่าหลัวเจิ้งเสียอีก ในเมื่อเจ้าไม่รู้ว่าอะไรดีอะไรไม่ดีต่อตัวเจ้า ข้าจะใช้ดาบกิเลนร่ำไห้ สั่งสอนบทเรียนให้เจ้าซะหน่อยก็แล้วกัน”

เมื่อพูดจบหลิงตู้ฉิงโคจรพลังวิญญาณเข้าไปในดาบกิเลนร่ำไห้ เงาของกิเลนสีทองปรากฏขึ้นพร้อมกับเสียงร้องของมัน การโจมตีจากพลังวิญญาณของเจียงเต๋อชิงที่เพิ่งรวมตัวกันได้สลายไปในทันที

จากนั้นเงาของกิเลนสีทองก็ค่อย ๆ สลายไปราวกับว่ามันไม่เคยปรากฏขึ้นมาก่อน

เมื่อทุกอย่างอยู่ในความสงบ หลิงตู้ฉิงชี้ดาบไปยังเจียงเต๋อชิงและพูดขึ้น “วัตถุดิบขั้นสูง 2 ชิ้นและระดับราชวงศ์ 1 ชิ้น ถ้าเจ้าไม่มอบให้ข้า เจ้าจะต้องตาย! แต่ถ้าเจ้ายังข้องใจอยู่อีก เจ้ายังคงสามารถโจมตีข้าต่อไปได้จนกว่าเจ้าจะหายแคลงใจ”

“ข้า…” เจียงเต๋อชิงรู้สึกหดหู่มาก

ตอนนี้ในหัวของเจียงเต๋อชิงสับสนเป็นอย่างมาก คำถามมากมายผุดขึ้นออกมาไม่จบ วันนี้ต้องยอมมอบวัสดุระดับราชวงศ์ให้กับหลิงตู้ฉิงง่าย ๆ แบบนี้จริง ๆ งั้นเหรอ? ทำไมการโจมตีของเขาถึงได้ถูกสลายไปอย่างง่ายดายแบบนั้น? ดาบกิเลนร่ำไห้เล่มนี้นอกจากหลัวเจิ้งยังมีคนอื่นใช้ได้อีกเหรอ? ชายคนนี้ไม่ใช่ผู้ใช้อักขระเวทย์เหรอไง? แล้วทำไมเขาถึงสามารถใช้เจตจำนงดาบของหลัวเจิ้งได้?

หลิงตู้ฉิงเมื่อถามไปได้สักพักยังไม่ได้รับคำตอบ เขาจึงพูดด้วยสีหน้าดำมืด “ดูเหมือนว่าเจ้าไม่ต้องการที่จะมอบของให้ข้าดี ๆ สินะ ในเมื่อเจ้าหัวแข็งนัก งั้นข้าคงไม่มีทางเลือกคงต้องฆ่าศิษย์ของเจ้าก่อนแล้วค่อยจัดการกับเจ้าทีหลัง”

เมื่อพูดจบ หลิงตู้ฉิงได้เปิดใช้งานค่ายกลของคฤหาสน์ ส่งผลให้ระดับการบ่มเพาะของเขาพุ่งขึ้นไปจนแตะขอบเขตนภาด้วยความรวดเร็ว จากนั้นเขาจึงเสียดดาบแทงไปที่โจวจื่อซินทันที

“หยุดก่อน! ข้าจะให้!” เจียงเต๋อชิงตะโกนขึ้น

หากเขาเป็นต้นเหตุทำให้โจวจื่อซินตกตายลงที่นี่ เขายังนึกถึงชะตากรรมชีวิตของเขาไม่ออกเลยเมื่อถึงเวลาที่เขากลับไปถึงสำนักเขาจะเผชิญกับการลงโทษอย่างไรบ้างจากเจ้าสำนัก ตอนนี้เจียงเต๋อชิงเสียใจเป็นอย่างมากที่พาโจวจื่อซินมาด้วย ในตอนก่อนมาเขาคิดว่าด้วยระดับการบ่มเพาะขอบเขตนภาของเขาจะสามารถปกป้องโจวจื่อซินได้

เขาไม่เคยคาดคิดมาก่อนว่าเขาจะเจอคนประหลาดอย่างผู้ใช้อักขระเวทย์ที่นี่

หลังจากที่เจียงเต๋อชิงตะโกนห้ามจบ ทุกสิ่งทุกอย่างมันก็สายไปเสียแล้ว ขณะนี้ดาบกิเลนร่ำไห้ในมือของหลิงตู้ฉิงได้แทงทะลุเสื้อของโจวจื่อซิน และปลายของมันได้ทิ่มลงบนหน้าอกของนางลึกราว 1 นิ้ว

โจวจื่อซิน เมื่อเผชิญกับการโจมตีของหลิงตู้ฉิง นางคิดว่านางกำลังจะตายจริง ๆ ในใจของนางมีแต่คำถาม

เขาเคยบอกว่าเลือดนางสามารถบ่มเพาะโอสถระดับสวรรค์ได้ ทำไมตอนนี้เขาถึงกลับต้องการสังหารนางกัน?

เมื่อปลายดาบทิ่มลึกเข้าในตัวนาง ในช่วงเวลานั้นเสียงของหลิงตู้ฉิงก็ลอยเข้าหูนางมาอย่างแผ่วเบา “เจ้าถูกสำนักเจ้าฝังปรสิตพฤกษาไว้ ไม่ว่าเจ้าจะวิ่งไปที่ใด พวกเขาก็สามารถค้นหาตัวเจ้าได้ด้วยปรสิตตัวนี้ ตอนนี้ข้ากำลังส่งเจตจำนงของดาบข้าเข้าไปฝังในร่างของเจ้า เมื่อถึงเวลาที่เหมาะสมเจ้าจงใช้เจตจำนงแห่งดาบของข้าในกายเจ้าทำลายปรสิตในร่างเจ้าซะ จงจำไว้ในเมื่อข้าได้ช่วยเจ้าแล้วถึงขนาดนี้ ถ้าเจ้ายังไม่สามารถเอาตัวรอดได้ถึง 4 เดือนและรอดมาหาข้าได้ เจ้าก็สมควรตายจริง ๆ”

ในที่สุดโจวจื่อซินก็เข้าใจว่าทำไมหลิงตู้ฉิงถึงเคลื่อนไหวเช่นนี้ นางขยิบตาให้เขาเพื่อแสดงว่านางเข้าใจ ในเวลาเดียวกันนางก็รู้สึกได้ว่าในตอนนี้มีพลังแห่งเจตจำนงของดาบสายหนึ่งซ่อนอยู่ในอกของนาง ซึ่งมันถูกซ่อนไว้อย่างแนบเนียนมากซะจนขนาดนางที่เป็นเจ้าของร่างยังต้องพยายามอย่างเต็มที่ถึงจะรู้การดำรงอยู่ของมัน

แต่ยังมีสิ่งที่นางไม่รู้ก็คือแม้ว่าหลิงตู้ฉิงต้องการที่จะทำลายปรสิตในร่างกายของนาง แต่มันก็ไม่ง่ายอย่างนั้น เขาไม่เพียงแต่ต้องใช้เจตจำนงดาบของเขาเท่านั้น เขายังต้องเพิ่มระดับการบ่มเพาะของตัวเองชั่วคราวไปจนถึงจุดสูงสุดของขอบเขตนภา ยิ่งไปกว่านั้นเขาต้องควบคุมเจตจำนงดาบให้มุ่งตรงไปล้อมรอบปรสิตตัวนั้นโดยไม่ฆ่ามัน และแถมเขายังต้องระวังไม่ให้โจวจื่อซินถูกเจตจำนงแห่งดาบสังหารอีก วิธีนี้หากเป็นผู้อื่นที่ต่อให้อยู่เหนือขอบเขตนภายังไม่สามารถทำได้อย่างแน่นอน

อันที่จริงหลิงตู้ฉิงคิดวิธินี้ที่จะช่วยโจวจื่อซินออกตั้งแต่อยู่ในคฤหาสน์แล้ว แต่บังเอิญเป็นช่วงเวลาเดียวกับที่อาจารย์ของนางบุกเข้ามาพอดี ในตอนที่เขาคิดออกเขาจึงไม่ทันได้ใช้วิธีนี้ตั้งแต่แรกกับนาง ตอนนี้เมื่อเขาเห็นจังหวะสถานการณ์ซึ่งอำนวยให้กับเขาพอดี หลิงตู้ฉิงจึงไม่รีรอปล่อยโอกาสการโจมตีหลอกนี้หลุดลอยไป

เมื่อโจมตีเสร็จ หลิงตู้ฉิงจึงสลายพลังวิญญาณบนดาบกิเลนร่ำไห้และพลังวิญญาณคงอยู่ในตัวเขาให้หายไป เขามองไปที่เจียงเต๋อชิง และพูดว่า “การโจมตีของข้าในครั้งนี้ถือว่าเป็นการเตือน! เจ้าต้องมอบวัสดุระดับราชวงศ์มาให้ข้า 1 ชิ้นและวัสดุระดับสูงอีก 3 ชิ้นให้ข้า มิฉะนั้นผลที่ตามมาจะร้ายแรงขึ้นเรื่อย ๆ”

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

พ่อเลี้ยงยอดเซียน (异界无敌奶爸) 151 แสดงละคร

Now you are reading พ่อเลี้ยงยอดเซียน (异界无敌奶爸) Chapter 151 แสดงละคร at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 151 แสดงละคร

เมื่อได้ยินคำขอของนาง หลิงตู้ฉิงหรี่ตามองโจวจื่อซินตั้งแต่หัวจรดเท้า ซึ่งทำให้โจวจื่อซินเข้าใจผิดคิดว่าหลิงตู้ฉิงพยายามเอาเปรียบนางในขณะกำลังตกยาก

โจวจื่อซินก้มหัวลงด้วยความขมขื่นและพูดว่า “ขอแค่ท่านไม่จับข้าไปทำโอสถมนุษย์ ข้ายินดียอมให้ท่านทำทุกอย่างกับร่างกายข้าตามที่ท่านต้องการ…”

หลิงตู้ฉิงไม่สนใจการแสดงออกของนางแม้แต่น้อย เมื่อเขามองตรวจสอบโจวจื่อซินจนเสร็จ เขาขมวดคิ้วและนำเลือดของนางจากในขวดหยกมาหนึ่งหยด และเริ่มใช้วิชาลับตรวจสอบสิ่งแปลกปลอมที่ปนอยู่ในเลือดของนางอีกครั้ง

เวลาที่เขาใช้ตรวจสอบนั้นผ่านไปไม่เกิน 1 ก้านธูป ผลปรากฎว่าในร่างของโจวจื่อซินนั้นถูกฝังปรสิตที่ใช้บอกตำแหน่งของนางอยู่

เมื่อนึกถึงความสามารถของปรสิตพฤกษาตัวนี้ หลิงตู้ฉิงขมวดคิ้วด้วยความหนักใจ

หลังจากครุ่นคิดได้สักพักหลิงตู้ฉิงได้เอ่ยกับโจวจื่อซินว่า “4 เดือนนับจากนี้ สถาบันราชวงศ์จะเปิดรับนักศึกษาใหม่ เมื่อถึงเวลานั้น หากเจ้ายังมีชีวิตอยู่ เจ้าจงมาที่สถาบันและมาหาข้าที่ศาลาศักดิ์สิทธิ์ หากเจ้ารอดมาเจอข้าได้ ข้าจะอนุญาตให้เจ้าเป็นบ่าวรับใช้ข้า…”

เมื่อหลิงตู้ฉิงพูดจบประโยค เสียงตะโกนของชายผู้หนึ่งดังลั่นขึ้นที่หน้าคฤหาสน์สราญรมย์

“หลิงตู้ฉิง แกกล้าดียังไงถึงบังอาจกักตัวศิษย์ข้าไว้ในคฤหาสน์บ้า ๆ นี่ของแกกัน!”

“อาจารย์ของข้ามาที่นี่แล้ว!” โจวจื่อซินอุทานด้วยน้ำเสียงตื่นตระหนก

หลิงตู้ฉิงป้ายนิ้วของเขาไปที่แผลบนข้อมือที่โจวจื่อซินกรีดไว้เพื่อให้เลือดกับเขา ให้ปิดสนิทดังเดิมเป็นการอำพลางไม่ให้อาจารย์ของนางจับพิรุธเรื่องต่าง ๆ ได้

เมื่อปิดบาดแผลของโจวจื่อซิยเสร็จ หลิงตู้ฉิงมองนางและพูดว่า “เจ้าจำที่ข้าพูดเอาไว้ให้ดี หากภายใน 4 เดือนนี้เจ้ารอดจนมาเจอข้าได้ ข้าจะยอมรับให้เจ้ามาเป็นบ่าวรับใช้ข้า ส่วนเหตุการณ์นับต่อจากนี้เพื่อตบตาอาจารย์เจ้า เจ้ารู้ใช่ไหมว่าต้องทำตัวยังไงต่อ?”

โจวจื่อซินพยักหน้าด้วยความประหม่า

ตอนนี้ชายชราชุดสีฟ้าอ่อนได้เดินผ่านประตูคฤหาสน์เข้ามาในลานเรียบร้อยแล้ว

ชายชราในชุดสีฟ้าผู้นี้คือผู้อาวุโสจาก สำนักสวนร้อยพฤกษา เจียงเต๋อชิง ผู้เชี่ยวชาญขอบเขตนภาระดับ 3 ด้วยประสบการณ์และระดับการบ่มเพาะที่แข็งแกร่งของเขา ทางสำนักจึงส่งเขาให้มาเป็นผู้ดูแลการเดินทางของสำนักในครั้งนี้

เมื่อไม่กี่ชั่วยามก่อนหน้านี้ เขาที่กำลังพยายามสืบเสาะหาข้อมูลของโอสถกำเนิดรากฐานอยู่นั้น พอได้ทราบเรื่องราวความพิสดารของความเกี่ยวข้องโอสถกำเนิดรากฐานกับหลิงตู้ฉิงผู้เป็นเจ้าของคฤหาสน์สราญรมย์มาบ้างแล้ว และในขณะที่เขากำลังครุ่นคิดว่ากำลังจะทำอย่างไรต่อไปดี จู่ ๆ เขากลับได้ทราบข่าวว่าโจวจื่อซินถูกจับกุมตัวอยู่ในคฤหาสน์สราญรมย์ที่เป็นดั่งพื้นที่ต้องห้าม

เมื่อทราบข่าวนี้ สีหน้าของเจียงเต๋อชิงซีดลงทันทีเนื่องจากตัวตนของโจวจื่อซินนั้นมีความสำคัญเป็นอย่างมากกับสำนักของเขา ด้วยความร้อนใจ เจียงเต๋อชิงจึงรีบบินมายังคฤหาสน์สราญรมย์ทันทีโดยไม่สนใจเรื่องเล่าต่าง ๆ นานา เกี่ยวกับคฤหาสน์หลังนี้ไปด้วยความโกรธ

เมื่อเขามาถึงคฤหาสน์สราญรมย์ ด้วยความกังวลเขาจึงรีบพุ่งเข้ามาด้านในคฤหาสน์ทันที

และหลังจากเขาเข้ามายังภายในคฤหาสน์และเห็นภาพที่โจวจื่อซิน ซึ่งกำลังเดินออกมาพร้อมกับหลิงตู้ฉิงโดยไร้รอยขีดข่วน เขาถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอกทันที

“หลิงตู้ฉิง! ต่อให้เจ้าคิดว่าตัวเองวิเศษมากในทวีปนี้ แต่อย่าคิดว่าข้าจะไม่กล้าทำอะไรเจ้า ปล่อยลูกศิษย์ของข้าเดี๋ยวนี้ ไม่เช่นนั้นข้าจะขอสู้ตายกับเจ้า!”

หลิงตู้ฉิงที่พึ่งเดินออกมาจากในตัวตึกคฤหาสน์กับโจวจื่อซิน เขามองไปยังเจียงเต๋อชิงด้วยสายตาเย็นชาและพูดว่า

“เจ้าไม่เคยได้ยินเกี่ยวกับกฎของคฤหาสน์สราญรมย์ของข้างั้นเหรอ ไม่ว่าใครก็ตามที่ต้องการเข้ามาพบกับข้า คนผู้นั้นจะต้องจ่ายเป็นวัสดุระดับสูงให้ข้าก่อน 1 ชิ้นถึงจะเข้ามาได้ แต่ถ้าเป็นสำหรับผู้ที่บุกรุกเข้ามาโดยพลการ คนเหล่านั้นจะต้องจ่ายวัตถุดิบมากกว่าอัตราปกตินะเจ้ารู้ไหม? และยิ่งโดยเฉพาะที่เจ้าเป็นผู้เชี่ยวชาญขอบเขตนภา หากข้าขอแค่วัสดุระดับสูงจากเจ้า เจ้าอาจจะรู้สึกว่าข้ากำลังดูแคลนเจ้าอยู่ ดังนั้นสำหรับราคาค่าไถ่ตัวเจ้าในครั้งนี้ เจ้าจะต้องมอบวัสดุระดับราชวงศ์ให้กับข้า และนอกจากวัสดุระดับราชวงศ์ที่ไถ่ตัวเจ้าแล้ว เจ้ายังต้องจ่ายในส่วนของศิษย์ของเจ้าที่บุกรุกเข้ามาที่นี่ สำหรับค่าไถ่ของนางข้าคิดแค่วัสดุระดับสูง 1 ชิ้นเท่านั้นก็พอ แต่ถ้าเจ้าคิดเบี้ยวไม่จ่ายข้าแล้วล่ะก็ เจ้ากับศิษย์เจ้าก็อย่าหวังจะได้รอดกลับไป!”

เจียงเต๋อชิงพูดด้วยความโกรธ “ต้องการวัสดุระดับราชวงศ์จากข้างั้นเหรอ? เจ้าฝันไปรึเปล่า? ระดับสูงสุดขอบเขตควบแน่นลมปราณอย่างเจ้า ข้าคนนี้สามารถแทงเจ้าตายได้หลายหมื่นครั้งด้วยนิ้วเดียว!”

โจวจื่อซินแสร้งทำเป็นตื่นตระหนกและพูดว่า “อาจารย์ ท่านต้องไม่สู้กับเขา หลิงตู้ฉิงคือผู้เชี่ยวชาญอักขระเวทย์! ก่อนหน้านี้ หลัวเจิ้งบุกเข้ามาที่นี้และข้าคิดว่า หลัวเจิ้งต้องชนะแน่นอน ข้าจึงตามเข้ามาดูเหตุการณ์ แต่กลับกลายเป็นว่าเขาเป็นผู้เชี่ยวชาญอักขระเวทย์ แม้แต่หลัวเจิ้งยังรับกระบวนท่าของเขาได้ไม่ถึงหนึ่งกระบวนท่าแถมยังสูญเสียดาบกิเลนร่ำไห้อันมีค่าของเขาไป อาจารย์ท่านอย่าโจมตีเขาเด็ดขาด! วันนี้ศิษย์ของท่านสร้างปัญหาให้กับท่านแล้ว อาจารย์…ข้าไม่มีวัสดุระดับสูงใด ๆ และข้าอายเกินกว่าที่จะแจ้งให้ท่านทราบ…” ขณะที่นางพูดนางก็เริ่มร้องไห้ แต่น้ำตาที่ไหลออกมานั้นไม่ใช่เพราะนางละอายใจ แต่เป็นเพราะนางแสร้งทำเพราะตบตาอาจารย์ของนาง

หลิงตู้ฉิงดึงดาบกิเลนร่ำไห้ออกมาจากแหวนมิติ เขาถือมันด้วยมือข้างเดียวและขึ้นพูด  “ดูเหมือนว่าเจ้าอยากจะลองดีไม่ยอมจ่ายค่าไถ่ให้ข้าสินะ เช่นนั้นเจ้าก็ลองใช้กำลังของเจ้าสยบข้าดูก็ได้! แต่ราคาสำหรับการโจมตีข้าทุกครั้ง ข้านับเป็นวัสดุระดับสูง 1 ชิ้น หากเจ้ามีวัสดุระดับสูงเพียงพอเจ้าก็สามารถโจมตีข้าได้ตามต้องการ”

ใบหน้าของเจียงเต๋อชิงบิดเบี้ยว เขาจ้องมองไปที่โจวจื่อซิน จากนั้นหันไปหาหลิงตู้ฉิงและพูดว่า “ข้าอยู่ในขอบเขตนภาระดับ 3 เจ้าแน่ใจว่าเจ้าอยากจะลองดีกับข้าแบบนี้จริง ๆ งั้นเหรอ? แม้ว่าเจ้าจะเป็นผู้เชี่ยวชาญอักขระเวทย์ แต่ระดับการบ่มเพาะในปัจจุบันของเจ้ายังตื้นเขินเกินไป เจ้ารู้รึเปล่าว่าความแตกต่างระหว่างขอบเขตปัจจุบันของเจ้ากับขอบเขตนภาของข้านั้นแตกต่างกันมากแค่ไหน?”

“เจ้านี่พูดมากจริง ๆ สรุปแล้วเจ้าจะให้วัสดุระดับสูงแก่ข้าหรือเจ้าจะลองใช้กำลังสยบข้า?” หลิงตู้ฉิงถาม

“ดี! ในเมื่อข้าให้โอกาสเจ้าแล้ว เจ้ากลับไม่สนใจ เช่นนั้นข้าก็อยากเห็นเหมือนกันว่าเจ้าจะแข็งแกร่งแค่ไหน” เจียงเต๋อชิง โกรธมาก

เขาเป็นผู้เชี่ยวชาญขอบเขตนภาระดับ 3 เขาไม่ใช่คนที่ใครจะมาดูถูกได้ง่าย ๆ ถึงแม้ว่าคนผู้นั้นจะเป็นผู้เชี่ยวชาญอักขระเวทย์ก็ตาม

นอกจากนี้ถึงแม้ว่าหลิงตู้ฉิงจะพิสดารตามที่คนร่ำลือกันจริง ๆ แต่เขาก็มั่นใจในตัวเองเช่นกันว่าการที่หลิงตู้ฉิงจะฆ่าเขาได้มันก็ไม่ใช่เรื่องง่าย ๆ

หรือต่อให้เขาจะหนีไม่ได้จริง ๆ สิ่งที่เขาจะต้องเสียมันก็แค่วัสดุขั้นสูงไม่กี่ชิ้นเท่านั้นเอง ยังไงเขาก็สามารถจ่ายได้

เมื่อนึกถึงผลได้ผลเสียและทางหนีทีไล่ของเรื่องนี้ทั้งหมด เจียงเต๋อชิงก็ขยับตัว

เมื่อผู้เชี่ยวชาญระดับสามของขอบเขตนภาเริ่มโจมตี ทุกคนในลานคฤหาสน์รู้สึกได้ทันทีถึงแรงกดดันของขอบเขตนภาที่กดทับลงมาจากท้องฟ้า

เมื่อเผชิญกับการโจมตีของเจียงเต๋อชิง หลิงตู้ฉิงส่ายหัวอย่างดูแคลน “แม้ว่าเจ้าจะเป็นผู้เชี่ยวชาญขอบเขตนภาแต่ในแง่ของพลังโจมตีเจ้าอ่อนแอกว่าหลัวเจิ้งเสียอีก ในเมื่อเจ้าไม่รู้ว่าอะไรดีอะไรไม่ดีต่อตัวเจ้า ข้าจะใช้ดาบกิเลนร่ำไห้ สั่งสอนบทเรียนให้เจ้าซะหน่อยก็แล้วกัน”

เมื่อพูดจบหลิงตู้ฉิงโคจรพลังวิญญาณเข้าไปในดาบกิเลนร่ำไห้ เงาของกิเลนสีทองปรากฏขึ้นพร้อมกับเสียงร้องของมัน การโจมตีจากพลังวิญญาณของเจียงเต๋อชิงที่เพิ่งรวมตัวกันได้สลายไปในทันที

จากนั้นเงาของกิเลนสีทองก็ค่อย ๆ สลายไปราวกับว่ามันไม่เคยปรากฏขึ้นมาก่อน

เมื่อทุกอย่างอยู่ในความสงบ หลิงตู้ฉิงชี้ดาบไปยังเจียงเต๋อชิงและพูดขึ้น “วัตถุดิบขั้นสูง 2 ชิ้นและระดับราชวงศ์ 1 ชิ้น ถ้าเจ้าไม่มอบให้ข้า เจ้าจะต้องตาย! แต่ถ้าเจ้ายังข้องใจอยู่อีก เจ้ายังคงสามารถโจมตีข้าต่อไปได้จนกว่าเจ้าจะหายแคลงใจ”

“ข้า…” เจียงเต๋อชิงรู้สึกหดหู่มาก

ตอนนี้ในหัวของเจียงเต๋อชิงสับสนเป็นอย่างมาก คำถามมากมายผุดขึ้นออกมาไม่จบ วันนี้ต้องยอมมอบวัสดุระดับราชวงศ์ให้กับหลิงตู้ฉิงง่าย ๆ แบบนี้จริง ๆ งั้นเหรอ? ทำไมการโจมตีของเขาถึงได้ถูกสลายไปอย่างง่ายดายแบบนั้น? ดาบกิเลนร่ำไห้เล่มนี้นอกจากหลัวเจิ้งยังมีคนอื่นใช้ได้อีกเหรอ? ชายคนนี้ไม่ใช่ผู้ใช้อักขระเวทย์เหรอไง? แล้วทำไมเขาถึงสามารถใช้เจตจำนงดาบของหลัวเจิ้งได้?

หลิงตู้ฉิงเมื่อถามไปได้สักพักยังไม่ได้รับคำตอบ เขาจึงพูดด้วยสีหน้าดำมืด “ดูเหมือนว่าเจ้าไม่ต้องการที่จะมอบของให้ข้าดี ๆ สินะ ในเมื่อเจ้าหัวแข็งนัก งั้นข้าคงไม่มีทางเลือกคงต้องฆ่าศิษย์ของเจ้าก่อนแล้วค่อยจัดการกับเจ้าทีหลัง”

เมื่อพูดจบ หลิงตู้ฉิงได้เปิดใช้งานค่ายกลของคฤหาสน์ ส่งผลให้ระดับการบ่มเพาะของเขาพุ่งขึ้นไปจนแตะขอบเขตนภาด้วยความรวดเร็ว จากนั้นเขาจึงเสียดดาบแทงไปที่โจวจื่อซินทันที

“หยุดก่อน! ข้าจะให้!” เจียงเต๋อชิงตะโกนขึ้น

หากเขาเป็นต้นเหตุทำให้โจวจื่อซินตกตายลงที่นี่ เขายังนึกถึงชะตากรรมชีวิตของเขาไม่ออกเลยเมื่อถึงเวลาที่เขากลับไปถึงสำนักเขาจะเผชิญกับการลงโทษอย่างไรบ้างจากเจ้าสำนัก ตอนนี้เจียงเต๋อชิงเสียใจเป็นอย่างมากที่พาโจวจื่อซินมาด้วย ในตอนก่อนมาเขาคิดว่าด้วยระดับการบ่มเพาะขอบเขตนภาของเขาจะสามารถปกป้องโจวจื่อซินได้

เขาไม่เคยคาดคิดมาก่อนว่าเขาจะเจอคนประหลาดอย่างผู้ใช้อักขระเวทย์ที่นี่

หลังจากที่เจียงเต๋อชิงตะโกนห้ามจบ ทุกสิ่งทุกอย่างมันก็สายไปเสียแล้ว ขณะนี้ดาบกิเลนร่ำไห้ในมือของหลิงตู้ฉิงได้แทงทะลุเสื้อของโจวจื่อซิน และปลายของมันได้ทิ่มลงบนหน้าอกของนางลึกราว 1 นิ้ว

โจวจื่อซิน เมื่อเผชิญกับการโจมตีของหลิงตู้ฉิง นางคิดว่านางกำลังจะตายจริง ๆ ในใจของนางมีแต่คำถาม

เขาเคยบอกว่าเลือดนางสามารถบ่มเพาะโอสถระดับสวรรค์ได้ ทำไมตอนนี้เขาถึงกลับต้องการสังหารนางกัน?

เมื่อปลายดาบทิ่มลึกเข้าในตัวนาง ในช่วงเวลานั้นเสียงของหลิงตู้ฉิงก็ลอยเข้าหูนางมาอย่างแผ่วเบา “เจ้าถูกสำนักเจ้าฝังปรสิตพฤกษาไว้ ไม่ว่าเจ้าจะวิ่งไปที่ใด พวกเขาก็สามารถค้นหาตัวเจ้าได้ด้วยปรสิตตัวนี้ ตอนนี้ข้ากำลังส่งเจตจำนงของดาบข้าเข้าไปฝังในร่างของเจ้า เมื่อถึงเวลาที่เหมาะสมเจ้าจงใช้เจตจำนงแห่งดาบของข้าในกายเจ้าทำลายปรสิตในร่างเจ้าซะ จงจำไว้ในเมื่อข้าได้ช่วยเจ้าแล้วถึงขนาดนี้ ถ้าเจ้ายังไม่สามารถเอาตัวรอดได้ถึง 4 เดือนและรอดมาหาข้าได้ เจ้าก็สมควรตายจริง ๆ”

ในที่สุดโจวจื่อซินก็เข้าใจว่าทำไมหลิงตู้ฉิงถึงเคลื่อนไหวเช่นนี้ นางขยิบตาให้เขาเพื่อแสดงว่านางเข้าใจ ในเวลาเดียวกันนางก็รู้สึกได้ว่าในตอนนี้มีพลังแห่งเจตจำนงของดาบสายหนึ่งซ่อนอยู่ในอกของนาง ซึ่งมันถูกซ่อนไว้อย่างแนบเนียนมากซะจนขนาดนางที่เป็นเจ้าของร่างยังต้องพยายามอย่างเต็มที่ถึงจะรู้การดำรงอยู่ของมัน

แต่ยังมีสิ่งที่นางไม่รู้ก็คือแม้ว่าหลิงตู้ฉิงต้องการที่จะทำลายปรสิตในร่างกายของนาง แต่มันก็ไม่ง่ายอย่างนั้น เขาไม่เพียงแต่ต้องใช้เจตจำนงดาบของเขาเท่านั้น เขายังต้องเพิ่มระดับการบ่มเพาะของตัวเองชั่วคราวไปจนถึงจุดสูงสุดของขอบเขตนภา ยิ่งไปกว่านั้นเขาต้องควบคุมเจตจำนงดาบให้มุ่งตรงไปล้อมรอบปรสิตตัวนั้นโดยไม่ฆ่ามัน และแถมเขายังต้องระวังไม่ให้โจวจื่อซินถูกเจตจำนงแห่งดาบสังหารอีก วิธีนี้หากเป็นผู้อื่นที่ต่อให้อยู่เหนือขอบเขตนภายังไม่สามารถทำได้อย่างแน่นอน

อันที่จริงหลิงตู้ฉิงคิดวิธินี้ที่จะช่วยโจวจื่อซินออกตั้งแต่อยู่ในคฤหาสน์แล้ว แต่บังเอิญเป็นช่วงเวลาเดียวกับที่อาจารย์ของนางบุกเข้ามาพอดี ในตอนที่เขาคิดออกเขาจึงไม่ทันได้ใช้วิธีนี้ตั้งแต่แรกกับนาง ตอนนี้เมื่อเขาเห็นจังหวะสถานการณ์ซึ่งอำนวยให้กับเขาพอดี หลิงตู้ฉิงจึงไม่รีรอปล่อยโอกาสการโจมตีหลอกนี้หลุดลอยไป

เมื่อโจมตีเสร็จ หลิงตู้ฉิงจึงสลายพลังวิญญาณบนดาบกิเลนร่ำไห้และพลังวิญญาณคงอยู่ในตัวเขาให้หายไป เขามองไปที่เจียงเต๋อชิง และพูดว่า “การโจมตีของข้าในครั้งนี้ถือว่าเป็นการเตือน! เจ้าต้องมอบวัสดุระดับราชวงศ์มาให้ข้า 1 ชิ้นและวัสดุระดับสูงอีก 3 ชิ้นให้ข้า มิฉะนั้นผลที่ตามมาจะร้ายแรงขึ้นเรื่อย ๆ”

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+