พ่อเลี้ยงยอดเซียน (异界无敌奶爸) 186 เจ้าเอาสมบัติวิเศษระดับสวรรค์มาด้วยหรือเปล่า?

Now you are reading พ่อเลี้ยงยอดเซียน (异界无敌奶爸) Chapter 186 เจ้าเอาสมบัติวิเศษระดับสวรรค์มาด้วยหรือเปล่า? at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 186 เจ้าเอาสมบัติวิเศษระดับสวรรค์มาด้วยหรือเปล่า?

หลิงตู้ฉิงที่นั่งอยู่ในศาลาศักดิ์สิทธิ์ แน่นอนว่าเขาได้ยินเสียงของโจวจื่อซิน และยังสัมผัสได้ว่านางถูกไล่ตามโดยหมิงเซียนจ้าว

หากยึดตามเงื่อนไขที่เขาได้ให้กับโจวจื่อซินไว้ว่านางจะต้องมาให้เขาพบหน้าก่อน เขาถึงจะยอมรับนาง เมื่อดูจากสถานการณ์ในตอนนี้มันแน่นอนว่านางทำไม่สำเร็จแน่ เนื่องจากหมิงเซียนจ้าวได้มาถึงตัวนางและกำลังจะคว้าตัวนางไว้ได้แล้ว

ถ้าเขาปล่อยให้โจวจื่อซินถูกคว้าได้ตอนนี้ ในอนาคตนางจะต้องตายแน่นอน แต่เขาจะลดเรื่องราวยุ่งยากที่จะเกิดกับตัวเขาเองจากนางในอนาคตได้มากมาย

ตอนนี้ในหัวของหลิงตู้ฉิงมีความคิดตัวเลือกผลร้ายผลดีเกี่ยวกับการช่วยเหลือนางอยู่มากมาย เขาพยายามชั่งวัดดูว่าการช่วยเหลือนางในครั้งนี้เขาจะได้ผลประโยชน์จนสามารถมองข้ามผลเสียของมันได้ไหม

“เฮ้อ…สงสัยนี่มันคงเป็นชะตาลิขิตล่ะมั้ง?” หลิงตู้ฉิงพึมพำกับตัวเองพลางส่ายหัว

เมื่อพึมพำจบ หลิงตู้ฉิงนำหลิงจู้มาจากมือมี่ไล และสะบัดมันส่งกระแสพลังวิญญาณไปคว้าตัวโจวจื่อซินเข้ามาด้านในศาลาศักดิ์สิทธิ์ทันที

โจวจื่อซินที่กำลังคิดว่านางจะต้องถูกจับตัวกลับไปแน่นอนโดยหมิงเซียนจ้าว แต่จู่ ๆ นางกลับถูกพลังวิญญาณลึกลับดึงตัวนางเข้าไปในศาลาศักดิ์สิทธิ์ซะอย่างนั้น ส่งผลให้นางรู้สึกตื่นตะลึง

เมื่อนางรู้ตัวว่าตอนนี้ตัวเองได้เข้ามาอยู่ในบริเวณศาลาศักดิ์สิทธิ์และได้เห็นหน้าชายหนุ่มผู้ซึ่งเคยให้คำสัญญากับนางไว้ นางกล่าวด้วยสีหน้าเบิกบาน “ข้ามาแล้ว!”

หลิงตู้ฉิงที่ยืนอยู่ตรงหน้านาง เขาขมวดคิ้วและเอ่ยตอบด้วยสีหน้าบิดเบี้ยว “ทำไมเจ้าต้องทำตัวให้เหม็นขนาดนี้?”

โจวจื่อซินก้มหัวลงด้วยความอับอายและพูดว่า “ก็ถ้าข้าไม่ทำตัวให้เหม็นแบบนี้ ข้าก็ถูกจับตัวได้ไปตั้งนานแล้วน่ะสิ ไม่ใช่ว่าข้าชอบที่จะตัวเหม็นแบบนี้ซะเมื่อไหร่กันเล่า เดี๋ยวข้าจะไปทำความสะอาดร่างกายเดี๋ยวนี้แหละ แต่ว่ามีบางอย่างที่ท่านต้องรู้ไว้ ตาแก่ที่พยายามจะจับตัวข้าเมื่อกี้ เขาคือผู้อาวุโสหมิง เขาคือผู้คุมกฎของสำนักเก่าของข้า ส่วนระดับการบ่มเพาะของเขานั้นอยู่ในขอบเขตนภาระดับ 7 ท่านจะรับมือเขาไว้ไหม?”

หลิงตู้ฉิงถอนหายใจพลางออกคำสั่งนาง “เจ้าไม่ต้องเป็นห่วงเรื่องอื่น ตอนนี้เจ้าควรรีบ ๆ ไปทำความสะอาดตัวเจ้าได้แล้ว ข้าเหม็น!”

พูดจบหลิงตู้ฉิงหันไปหาโม่หยูถังและตะโกนขึ้น “พ่อบ้านโม่ เจ้าออกไปจัดการกับพวกคนข้างนอกที”

โม่หยูถังที่ในตอนนี้กำลังสอนคัมภีร์เก้าเทพอสูรให้กับหลิงเทียนหยุน เขาหันมาทางหลิงตู้ฉิงและพยักหน้าตอบรับทันที “รับทราบนายท่าน ข้าจะไปจัดการกับพวกเขาเดี๋ยวนี้!”

ในขณะนี้ ที่ด้านนอกของศาลาศักดิ์สิทธิ์ หมิงเซียนจ้าวรู้สึกหงุดหงิดสุดขีด

เมื่อครู่เขาที่ใกล้ได้ตัวของโจวจื่อซินแล้ว แต่จู่ ๆ กลับมีใครบางคนมาชิงตัดหน้าคว้าตัวนางไปซะอย่างนั้น เมื่อเจอแบบนี้ในฐานะที่เป็นผู้เชี่ยวชาญขอบเขตนภา เขาจะยอมได้ยังไง?

ด้วยอารมณ์ที่คุกรุ่น หมิงเซียนจ้าวพุ่งตัวไปยังพื้นที่ของศาลศักดิ์สิทธิ์ทันที แต่ก่อนที่เขาจะได้เหยียบเข้าไปในบริเวณศาลาศักดิ์สิทธิ์ ชายชราผู้หนึ่งได้โผล่มาปรากฏตรงหน้าเขาอย่างฉับพลันและตะโกนใส่หน้าของเขาอย่างไม่ยี่หระ “เจ้าไม่ได้รับอนุญาตให้เข้ามาในบริเวณนี้ กลับไปซะไม่งั้นเจ้าจะต้องเสียใจ!”

หมิงเซียนจ้าวที่อารมณ์ตอนนี้ย่ำแย่อยู่แล้ว เมื่อดันมาเจอตาแก่บ้าที่ไหนไม่รู้ไล่เขาเหมือนหมูเหมือนหมา เขายิ่งโมโหหนักเข้าไปใหญ่ เขาตอบกลับไปด้วยน้ำเสียงดุเดือด “ข้าไม่กลับ! โจวจื่อซิน นางเป็นคนทรยศของสำนักข้า วันนี้ข้าจะพาตัวนางกลับไปเพื่อลงโทษตามกฎของสำนัก!”

โม่หยูถังพูดกลับด้วยความรำคาญ “ข้าไม่สนใจว่านางจะเป็นคนทรยศของสำนักเจ้าหรือว่ายังไง แต่ตอนนี้นางเป็นคนของศาลาศักดิ์สิทธิ์แล้ว ฉะนั้นไม่ว่าเจ้าจะอ้างเหตุผลอะไรเจ้าก็ไม่มีสิทธิ์ที่จะพาตัวนางไป หากนางไม่ยินยอม”

หมิงเซียนจ้าวดวงตาแดงก่ำด้วยความโมโหพร้อมกับกระแทกเสียง “นี่เจ้าคิดจะตั้งตัวเป็นศัตรูกับสำนักสวนร้อยพฤกษาของข้างั้นเหรอตาเฒ่า!?”

โม่หยูถังมองหมิงเซียนจ้าวตั้งแต่หัวจรดเท้าด้วยสายตาดูถูก เขาหัวเราะและพูดว่า “แล้วรอบนี้เจ้าได้เอาสมบัติวิเศษระดับสวรรค์ของสำนักเจ้ามาอีกด้วยไหมล่ะ? รอบที่แล้วหากไอ้จักรพรรดิโอสถอะไรนั่นของสำนักเจ้ามันไม่ได้ใช้สมบัติวิเศษระดับสวรรค์ได้ทันการล่ะก็ มันคงถูกข้าฆ่าตายไปแล้วแทนที่จะเป็นเจ้านายของข้าที่ต้องมาฆ่ามันแทน!”

หมิงเซียนจ้าวที่ได้ยินเช่นนี้เขาเสียววันหลังวาบขึ้นมาทันที

เขาไม่คิดว่าวันนี้เขาจะดวงซวยได้มาเจอกับชายชราผู้ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญขอบเขตครึ่งสวรรค์ที่เขาร่ำลือกันไวขนาดนี้

ด้วยระดับการบ่มเพาะของเขาที่อยู่แค่ขอบเขตนภาระดับ 7 เมื่ออยู่ต่อหน้าชายชราผู้นี้ เขาถือว่าไม่มีโอกาสแม้แต่จะหนีเลยด้วยซ้ำหากชายชราคนนี้ตั้งใจจะเอาชีวิตเขา

แต่ไม่ว่าจะยังไงก็ตาม ถึงแม้จะเผชิญกับเทพแห่งความตายที่อยู่ตรงหน้าเขาก็ไม่คิดที่จะยินยอมถอยง่าย ๆ

ในระหว่างที่หมิงเซียนจ้าวกำลังครุ่นคิดว่าจะเอายังไงต่อ โจวจื่อซินได้เดินออกมาจากศาลาศักดิ์สิทธิ์และมายืนข้างโม่หยูถังพร้อมกับพูดว่า “ผู้อาวุโสหมิง ข้าแนะนำให้ท่านจากไปซะตั้งแต่ตอนนี้ ตอนที่ท่านยังมีโอกาส ไม่เช่นนั้นหากท่านยังทำตัวดื้อดึงอยู่อีก ข้าเกรงว่าชีวิตของท่านอาจจะมีอันตรายได้”

หมิงเซียนจ้าวมองไปยังโจวจื่อซินด้วยสายตาเย็นชา “ที่ผ่านมาท่านเจ้าสำนักได้อุตส่าห์เลี้ยงดูเจ้าเป็นอย่างดี แล้วนี่คือสิ่งที่เจ้าตอบแทนให้กับท่านเจ้าสำนักงั้นเหรอนังตัวดี? ข้าไม่สนใจ ยังไงวันนี้ข้าก็ต้องลากตัวเจ้ากลับไปที่สำนักให้ถูกลงโทษให้ได้!”

โจวจื่อซินยิ้มอ่อนให้กับหมิงเซียนจ้าวและพูดว่า “ผู้อาวุโสหมิง อย่าบอกนะว่าท่านคิดไม่ได้ว่าทำไมข้าถึงต้องหนีจากพวกท่าน? ดีกับข้างั้นเหรอ? หยุดเล่นลิ้นกับข้าสักทีเถอะ ตอนนี้ข้ารู้หมดแล้วว่าพวกท่านมันชั่วช้าแค่ไหน ข้ารู้หมดแล้วว่าพวกท่านจะเอาตัวข้าไปทำอะไร!”

หมิงเซียนจ้าว เมื่อได้ยินเช่นนี้สีหน้าของเขาเปลี่ยนเป็นน่าเกลียดทันที ตอนนี้เขาไม่สามารถใช้อุบายทวงบุญคุณกับโจวจื่อซินได้อีกต่อไปแล้วในเมื่อนางได้ค้นพบความลับว่าพวกเขาจะนำนางมาทำโอสถมนุษย์

“แล้วเจ้าคิดว่าเจ้าอยู่ที่นี่แล้วเจ้าจะรอดงั้นเหรอ? ข้าจะบอกอะไรให้ สวรรค์ได้ลิขิตชะตาของเจ้าเอาไว้แล้วว่าเจ้าจะต้องเกิดมาเพื่อถูกกิน!” หมิงเซียนจ้าวตอบกลับนางด้วยสีหน้าเหยียดหยาม

“ต่อให้ข้าจะถูกลิขิตให้โดนกิน แต่ท่านก็จะไม่มีวันได้กินข้าหรอก!” โจวจื่อซินตอบกลับทันควัน

หมิงเซียนจ้าวจ้องนางอย่างเอาเป็นเอาตาย หลังจากครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง เขาหัวเราะและพูดว่า “ได้! นังเด็กบ้า! ในเมื่อเจ้าไม่กลับไปกับข้า ข้าจะไปป่าวประกาศบอกให้ทั่วเลยว่าร่างกายเจ้าสามารถนำไปทำเป็นโอสถมนุษย์ระดับสวรรค์ได้ ข้ารับประกันว่าเมื่อข่าวนี้แพร่ออกไปบรรดาพวกตาแก่ดึกดำบรรพ์คงรีบผุดขึ้นมาจากหลุมมาแย่งตัวเจ้ากันให้วุ่น แล้วเรามาคอยดูกันว่าเจ้าจะรอดไปได้อีกสักกี่น้ำ แต่ถ้าหากเจ้ากลับไปกับข้าตอนนี้ เจ้าจะมีชีวิตอยู่ต่อได้อีกสักหลายปี เจ้าลองเลือกดู!”

โจวจื่อซินถึงกับหน้าเสียเมื่อได้ยินคำขู่เช่นนี้

โม่หยูถังที่ยืนอยู่ด้านข้างโดยไม่พูดอะไรมาสักพักแล้ว ตอนนี้เขาได้รู้แล้วว่าทำไมหลิงตู้ฉิงถึงได้ต้องการให้ผู้หญิงคนนี้มาร่วมกับพวกเขา ที่แท้นางก็มีร่างกายที่วิเศษเช่นนี้นี่เอง!

เมื่อเก็บข้อมูลจนจุใจ โม่หยูถังจึงพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาไปยังหมิงเซียนจ้าว “เอาล่ะข้าคิดว่าเจ้าควรจะหยุดพล่ามได้แล้ว เจ้าจะไปดี ๆ ด้วยตัวเองหรือจะให้ข้าลงมือ?”

หมิงเซียนจ้าวที่ได้ยินคำขู่ของโม่หยูถัง หัวใจของเขาแทบหล่นลงไปอยู่ที่ตาตุ่มด้วยความกลัว เขาหุบปากตัวเองทันทีและหันหลังจากไปอย่างรวดเร็ว

โม่หยูถังตะโกนไปยังเหล่าผู้เชี่ยวชาญขอบเขตรวมแสงดาราที่บินดูสถานการณ์อยู่ห่าง ๆ “การทดสอบรับนักศึกษาใหม่ของศาลาศักดิ์สิทธิ์ใกล้จะเริ่มแล้ว พวกเจ้าที่ไม่เกี่ยวข้อง จงสลายตัวกันออกไปได้แล้วอย่ามาเกะกะ!”

เมื่อพูดจบโม่หยูถังจึงเดินกลับเข้าไปด้านในคณะศาลาศักดิ์สิทธิ์ พร้อมกับโจวจื่อซินที่รีบวิ่งตามเขาเข้าไปด้านในเช่นกัน

เมื่อเข้ามาด้านในแล้ว โจวจื่อซินนั่งครุ่นคิดกับตัวเองอย่างเคร่งเครียด ในตอนนี้นางเข้าใจดีว่าเมื่อหมิงเซียนจ้าวปล่อยข่าวเรื่องของนางออกไปจะต้องมีผู้คนมากมายมาสร้างปัญหาให้หลิงตู้ฉิงแน่นอน แล้วเมื่อถึงเวลานั้นหลิงตู้ฉิงจะทิ้งนางไหม? และหลิงตู้ฉิงจะสามารถรับมือกับบรรดาทุกคนที่หวังจะมากินนางได้ทุกคนหรือเปล่า?

เมื่อยิ่งนางคิดนางก็ยิ่งกลัวจนเผลอเหลือบมองไปยังหลิงตู้ฉิงโดยไม่ได้ตั้งใจ และเมื่อนางมองไปยังหลิงตู้ฉิง นางก็ได้เห็นสายตาของหลิงตู้ฉิงที่มองตอบกลับมายังนางเช่นกัน

นางเม้มริมฝีปากจากนั้นจึงลุกขึ้นยืนเดินไปหาหลิงตู้ฉิงและพูดว่า “ข้าขอบคุณท่านจริง ๆ สำหรับการมอบโอกาสในการดำเนินชีวิตใหม่ให้กับข้า แต่ข้าคิดว่ามันจะดีที่สุดหากท่านจะกินข้าแทนซะตั้งแต่ตอนนี้ ไม่เช่นนั้นในอนาคตท่านจะมีปัญหาไม่รู้จักจบจักสิ้น แต่ก่อนที่ท่านจะกินข้า ข้าอยากจะขอให้ท่านมอบความรู้สึกความเป็นผู้หญิงอย่างเต็มตัวให้ข้าครั้งสักครั้งก่อนที่ข้าจะตาย และถ้าเป็นไปได้อีกอย่างมันจะดีมากหากท่านจะทำให้ข้าตายอย่างไม่ทรมานก่อนที่ท่านจะกินข้า…”

หลิงตู้ฉิงมองไปยังโจวจื่อซินด้วยสีหน้าเหมือนเห็นตัวประหลาดและพูดว่า “นี่เจ้าพูดเรื่องอะไรของเจ้า? ทำไมข้าต้องกินเจ้ากัน ที่ข้าให้เจ้ามาอยู่กับข้าก็เพราะข้าจะสอนให้เจ้ารู้จักควบคุมพลังตัวเองให้ได้และช่วยงานของข้าในอนาคตก็แค่นั้น หากเจ้าสามารถควบคุมพลังของเจ้าได้อย่างเหมาะสมแล้วล่ะก็พวกผู้เชี่ยวชายธรรมดาอย่างคนในสำนักเจ้าทำอะไรเจ้าไม่ได้หรอก”

โจวจื่อซินมองไปยังหลิงตู้ฉิงด้วยแววตามีความหวังและถามด้วยความรวดเร็ว “ท่านจะสอนให้ข้าควบคุมพลังของข้าจริง ๆ เหรอ? แล้วหากข้าควบคุมพลังได้ข้าจะสามารถสู้กับทุกคนได้จริง ๆ เหรอ?”

หลิงตู้ฉิงส่ายหัวด้วยความเหนื่อยใจและพูดขึ้น “เจ้าอย่าพึ่งตื่นเต้นเกินไป เส้นทางการบ่มเพาะของเจ้ามันยังต้องใช้เวลาสักหน่อยกว่าที่จะไปถึงขั้นนั้นได้ ตอนนี้เจ้าเอาแค่อยู่กับปัจจุบันก่อน และปัจจุบันของเจ้าในตอนนี้ก็คือมาให้ข้าเริ่มถ่ายทอดวิธีการควบคุมพลังให้เจ้าได้แล้ว”

โจวจื่อซินรีบพยักหน้าอย่างตื่นเต้นพร้อมกับถามย้ำอีกครั้ง “ท่านจะสอนให้ข้าจริง ๆ นะ?”

“ใช่ข้าจะสอน” หลิงตู้ฉิงยิ้ม “ก็เจ้าอยากจะเรียนรู้ใช่ไหมล่ะ?”

“ใช่ข้าอยากเรียน!” โจวจื่อซินรีบตอบกลับ “ข้าจะตั้งใจฝึกฝนเป็นอย่างดีเลย และเมื่อไหร่ที่ข้าพร้อมให้ท่านกิน ข้าจะบอกท่านทันที ถือว่าเป็นการแลกเปลี่ยนที่ท่านให้โอกาสข้าได้ใช้ชีวิตอยู่อย่างไม่เป็นคนโง่ ท่านตกลงไหม!”

หลิงตู้ฉิงส่ายหัวและตอบกลับ “ข้าก็บอกเจ้าไปแล้วว่าข้าไม่ต้องการกินเจ้า และที่ข้าบอกว่าจะใช้ประโยชน์จากเจ้านั่นก็เพียงแค่ข้าต้องการเลือดของเจ้าก็แค่นั้น มีแต่พวกโง่เง่าเท่านั้นแหละที่ต้องการจะกินเจ้าทั้งร่าง ทั้งที่อันที่จริงแล้วเลือดที่ไหลเวียนในร่างกายเจ้าตอนเจ้าเป็น ๆ มันมีประโยชน์มากกว่าตั้งไม่รู้กี่เท่า”

“อ่า เป็นแบบนี้เองงั้นเหรอ ถ้าเช่นนั้นต่อไปนี้ข้าจะให้เลือดของข้ากับท่านทุกวันเลยเป็นไง?” โจวจื่อซินหัวเราะ “เอ๊ะจริงด้วย! ในเมื่อต่อไปนี้ข้าต้องติดตามท่านแล้ว ข้าควรเรียกท่านว่าอะไรดี? อาจารย์? นายท่าน? สามี? หรือมีอย่างอื่นที่ท่านต้องการให้เรียกอีก?”

หลิงตู้ฉิงมองไปยังนางด้วยความเหนื่อยใจและตอบว่า “เจ้าจะเรียกอะไรก็แล้วแต่เจ้าเถอะ!”

โจวจื่อซินที่ยืนครุ่นคิดอยู่สักพัก จากนั้นเมื่อนางมองไปยังเหล่าผู้หญิงของหลิงตู้ฉิงที่กำลังยืนจับกลุ่มคุยกันอย่างสนุกสนานอยู่ไกล ๆ นางก็หันกลับมาที่หลิงตู้ฉิงและพูดว่า “ถ้างั้น ตอนนี้ข้าจะเป็นสาวใช้ให้ท่านก่อน และเมื่อไหร่ที่ข้าโตขึ้น หากท่านต้องการให้ข้าเปลี่ยนฐานะไปเป็นอย่างอื่นแทนท่านก็ค่อยบอกกับข้าก็แล้วกัน ข้ายินดีที่จะทุกฐานะที่ท่านให้ข้าทั้งหมด…”

หลิงตู้ฉิงพยักหน้าและพูดว่า “งั้นก็เอาตามที่เจ้าว่า เอาล่ะตอนนี้เจ้ามาใกล้ ๆ ข้า ให้ข้าถ่ายทอดวิชาควบแน่นโลหิตพฤกษาสวรรค์ให้เจ้าก่อน”

“ขอบคุณ นายท่าน!” โจวจื่อซินตอบกลับด้วยอารมณ์เบิกบาน

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

พ่อเลี้ยงยอดเซียน (异界无敌奶爸) 186 เจ้าเอาสมบัติวิเศษระดับสวรรค์มาด้วยหรือเปล่า?

Now you are reading พ่อเลี้ยงยอดเซียน (异界无敌奶爸) Chapter 186 เจ้าเอาสมบัติวิเศษระดับสวรรค์มาด้วยหรือเปล่า? at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 186 เจ้าเอาสมบัติวิเศษระดับสวรรค์มาด้วยหรือเปล่า?

หลิงตู้ฉิงที่นั่งอยู่ในศาลาศักดิ์สิทธิ์ แน่นอนว่าเขาได้ยินเสียงของโจวจื่อซิน และยังสัมผัสได้ว่านางถูกไล่ตามโดยหมิงเซียนจ้าว

หากยึดตามเงื่อนไขที่เขาได้ให้กับโจวจื่อซินไว้ว่านางจะต้องมาให้เขาพบหน้าก่อน เขาถึงจะยอมรับนาง เมื่อดูจากสถานการณ์ในตอนนี้มันแน่นอนว่านางทำไม่สำเร็จแน่ เนื่องจากหมิงเซียนจ้าวได้มาถึงตัวนางและกำลังจะคว้าตัวนางไว้ได้แล้ว

ถ้าเขาปล่อยให้โจวจื่อซินถูกคว้าได้ตอนนี้ ในอนาคตนางจะต้องตายแน่นอน แต่เขาจะลดเรื่องราวยุ่งยากที่จะเกิดกับตัวเขาเองจากนางในอนาคตได้มากมาย

ตอนนี้ในหัวของหลิงตู้ฉิงมีความคิดตัวเลือกผลร้ายผลดีเกี่ยวกับการช่วยเหลือนางอยู่มากมาย เขาพยายามชั่งวัดดูว่าการช่วยเหลือนางในครั้งนี้เขาจะได้ผลประโยชน์จนสามารถมองข้ามผลเสียของมันได้ไหม

“เฮ้อ…สงสัยนี่มันคงเป็นชะตาลิขิตล่ะมั้ง?” หลิงตู้ฉิงพึมพำกับตัวเองพลางส่ายหัว

เมื่อพึมพำจบ หลิงตู้ฉิงนำหลิงจู้มาจากมือมี่ไล และสะบัดมันส่งกระแสพลังวิญญาณไปคว้าตัวโจวจื่อซินเข้ามาด้านในศาลาศักดิ์สิทธิ์ทันที

โจวจื่อซินที่กำลังคิดว่านางจะต้องถูกจับตัวกลับไปแน่นอนโดยหมิงเซียนจ้าว แต่จู่ ๆ นางกลับถูกพลังวิญญาณลึกลับดึงตัวนางเข้าไปในศาลาศักดิ์สิทธิ์ซะอย่างนั้น ส่งผลให้นางรู้สึกตื่นตะลึง

เมื่อนางรู้ตัวว่าตอนนี้ตัวเองได้เข้ามาอยู่ในบริเวณศาลาศักดิ์สิทธิ์และได้เห็นหน้าชายหนุ่มผู้ซึ่งเคยให้คำสัญญากับนางไว้ นางกล่าวด้วยสีหน้าเบิกบาน “ข้ามาแล้ว!”

หลิงตู้ฉิงที่ยืนอยู่ตรงหน้านาง เขาขมวดคิ้วและเอ่ยตอบด้วยสีหน้าบิดเบี้ยว “ทำไมเจ้าต้องทำตัวให้เหม็นขนาดนี้?”

โจวจื่อซินก้มหัวลงด้วยความอับอายและพูดว่า “ก็ถ้าข้าไม่ทำตัวให้เหม็นแบบนี้ ข้าก็ถูกจับตัวได้ไปตั้งนานแล้วน่ะสิ ไม่ใช่ว่าข้าชอบที่จะตัวเหม็นแบบนี้ซะเมื่อไหร่กันเล่า เดี๋ยวข้าจะไปทำความสะอาดร่างกายเดี๋ยวนี้แหละ แต่ว่ามีบางอย่างที่ท่านต้องรู้ไว้ ตาแก่ที่พยายามจะจับตัวข้าเมื่อกี้ เขาคือผู้อาวุโสหมิง เขาคือผู้คุมกฎของสำนักเก่าของข้า ส่วนระดับการบ่มเพาะของเขานั้นอยู่ในขอบเขตนภาระดับ 7 ท่านจะรับมือเขาไว้ไหม?”

หลิงตู้ฉิงถอนหายใจพลางออกคำสั่งนาง “เจ้าไม่ต้องเป็นห่วงเรื่องอื่น ตอนนี้เจ้าควรรีบ ๆ ไปทำความสะอาดตัวเจ้าได้แล้ว ข้าเหม็น!”

พูดจบหลิงตู้ฉิงหันไปหาโม่หยูถังและตะโกนขึ้น “พ่อบ้านโม่ เจ้าออกไปจัดการกับพวกคนข้างนอกที”

โม่หยูถังที่ในตอนนี้กำลังสอนคัมภีร์เก้าเทพอสูรให้กับหลิงเทียนหยุน เขาหันมาทางหลิงตู้ฉิงและพยักหน้าตอบรับทันที “รับทราบนายท่าน ข้าจะไปจัดการกับพวกเขาเดี๋ยวนี้!”

ในขณะนี้ ที่ด้านนอกของศาลาศักดิ์สิทธิ์ หมิงเซียนจ้าวรู้สึกหงุดหงิดสุดขีด

เมื่อครู่เขาที่ใกล้ได้ตัวของโจวจื่อซินแล้ว แต่จู่ ๆ กลับมีใครบางคนมาชิงตัดหน้าคว้าตัวนางไปซะอย่างนั้น เมื่อเจอแบบนี้ในฐานะที่เป็นผู้เชี่ยวชาญขอบเขตนภา เขาจะยอมได้ยังไง?

ด้วยอารมณ์ที่คุกรุ่น หมิงเซียนจ้าวพุ่งตัวไปยังพื้นที่ของศาลศักดิ์สิทธิ์ทันที แต่ก่อนที่เขาจะได้เหยียบเข้าไปในบริเวณศาลาศักดิ์สิทธิ์ ชายชราผู้หนึ่งได้โผล่มาปรากฏตรงหน้าเขาอย่างฉับพลันและตะโกนใส่หน้าของเขาอย่างไม่ยี่หระ “เจ้าไม่ได้รับอนุญาตให้เข้ามาในบริเวณนี้ กลับไปซะไม่งั้นเจ้าจะต้องเสียใจ!”

หมิงเซียนจ้าวที่อารมณ์ตอนนี้ย่ำแย่อยู่แล้ว เมื่อดันมาเจอตาแก่บ้าที่ไหนไม่รู้ไล่เขาเหมือนหมูเหมือนหมา เขายิ่งโมโหหนักเข้าไปใหญ่ เขาตอบกลับไปด้วยน้ำเสียงดุเดือด “ข้าไม่กลับ! โจวจื่อซิน นางเป็นคนทรยศของสำนักข้า วันนี้ข้าจะพาตัวนางกลับไปเพื่อลงโทษตามกฎของสำนัก!”

โม่หยูถังพูดกลับด้วยความรำคาญ “ข้าไม่สนใจว่านางจะเป็นคนทรยศของสำนักเจ้าหรือว่ายังไง แต่ตอนนี้นางเป็นคนของศาลาศักดิ์สิทธิ์แล้ว ฉะนั้นไม่ว่าเจ้าจะอ้างเหตุผลอะไรเจ้าก็ไม่มีสิทธิ์ที่จะพาตัวนางไป หากนางไม่ยินยอม”

หมิงเซียนจ้าวดวงตาแดงก่ำด้วยความโมโหพร้อมกับกระแทกเสียง “นี่เจ้าคิดจะตั้งตัวเป็นศัตรูกับสำนักสวนร้อยพฤกษาของข้างั้นเหรอตาเฒ่า!?”

โม่หยูถังมองหมิงเซียนจ้าวตั้งแต่หัวจรดเท้าด้วยสายตาดูถูก เขาหัวเราะและพูดว่า “แล้วรอบนี้เจ้าได้เอาสมบัติวิเศษระดับสวรรค์ของสำนักเจ้ามาอีกด้วยไหมล่ะ? รอบที่แล้วหากไอ้จักรพรรดิโอสถอะไรนั่นของสำนักเจ้ามันไม่ได้ใช้สมบัติวิเศษระดับสวรรค์ได้ทันการล่ะก็ มันคงถูกข้าฆ่าตายไปแล้วแทนที่จะเป็นเจ้านายของข้าที่ต้องมาฆ่ามันแทน!”

หมิงเซียนจ้าวที่ได้ยินเช่นนี้เขาเสียววันหลังวาบขึ้นมาทันที

เขาไม่คิดว่าวันนี้เขาจะดวงซวยได้มาเจอกับชายชราผู้ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญขอบเขตครึ่งสวรรค์ที่เขาร่ำลือกันไวขนาดนี้

ด้วยระดับการบ่มเพาะของเขาที่อยู่แค่ขอบเขตนภาระดับ 7 เมื่ออยู่ต่อหน้าชายชราผู้นี้ เขาถือว่าไม่มีโอกาสแม้แต่จะหนีเลยด้วยซ้ำหากชายชราคนนี้ตั้งใจจะเอาชีวิตเขา

แต่ไม่ว่าจะยังไงก็ตาม ถึงแม้จะเผชิญกับเทพแห่งความตายที่อยู่ตรงหน้าเขาก็ไม่คิดที่จะยินยอมถอยง่าย ๆ

ในระหว่างที่หมิงเซียนจ้าวกำลังครุ่นคิดว่าจะเอายังไงต่อ โจวจื่อซินได้เดินออกมาจากศาลาศักดิ์สิทธิ์และมายืนข้างโม่หยูถังพร้อมกับพูดว่า “ผู้อาวุโสหมิง ข้าแนะนำให้ท่านจากไปซะตั้งแต่ตอนนี้ ตอนที่ท่านยังมีโอกาส ไม่เช่นนั้นหากท่านยังทำตัวดื้อดึงอยู่อีก ข้าเกรงว่าชีวิตของท่านอาจจะมีอันตรายได้”

หมิงเซียนจ้าวมองไปยังโจวจื่อซินด้วยสายตาเย็นชา “ที่ผ่านมาท่านเจ้าสำนักได้อุตส่าห์เลี้ยงดูเจ้าเป็นอย่างดี แล้วนี่คือสิ่งที่เจ้าตอบแทนให้กับท่านเจ้าสำนักงั้นเหรอนังตัวดี? ข้าไม่สนใจ ยังไงวันนี้ข้าก็ต้องลากตัวเจ้ากลับไปที่สำนักให้ถูกลงโทษให้ได้!”

โจวจื่อซินยิ้มอ่อนให้กับหมิงเซียนจ้าวและพูดว่า “ผู้อาวุโสหมิง อย่าบอกนะว่าท่านคิดไม่ได้ว่าทำไมข้าถึงต้องหนีจากพวกท่าน? ดีกับข้างั้นเหรอ? หยุดเล่นลิ้นกับข้าสักทีเถอะ ตอนนี้ข้ารู้หมดแล้วว่าพวกท่านมันชั่วช้าแค่ไหน ข้ารู้หมดแล้วว่าพวกท่านจะเอาตัวข้าไปทำอะไร!”

หมิงเซียนจ้าว เมื่อได้ยินเช่นนี้สีหน้าของเขาเปลี่ยนเป็นน่าเกลียดทันที ตอนนี้เขาไม่สามารถใช้อุบายทวงบุญคุณกับโจวจื่อซินได้อีกต่อไปแล้วในเมื่อนางได้ค้นพบความลับว่าพวกเขาจะนำนางมาทำโอสถมนุษย์

“แล้วเจ้าคิดว่าเจ้าอยู่ที่นี่แล้วเจ้าจะรอดงั้นเหรอ? ข้าจะบอกอะไรให้ สวรรค์ได้ลิขิตชะตาของเจ้าเอาไว้แล้วว่าเจ้าจะต้องเกิดมาเพื่อถูกกิน!” หมิงเซียนจ้าวตอบกลับนางด้วยสีหน้าเหยียดหยาม

“ต่อให้ข้าจะถูกลิขิตให้โดนกิน แต่ท่านก็จะไม่มีวันได้กินข้าหรอก!” โจวจื่อซินตอบกลับทันควัน

หมิงเซียนจ้าวจ้องนางอย่างเอาเป็นเอาตาย หลังจากครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง เขาหัวเราะและพูดว่า “ได้! นังเด็กบ้า! ในเมื่อเจ้าไม่กลับไปกับข้า ข้าจะไปป่าวประกาศบอกให้ทั่วเลยว่าร่างกายเจ้าสามารถนำไปทำเป็นโอสถมนุษย์ระดับสวรรค์ได้ ข้ารับประกันว่าเมื่อข่าวนี้แพร่ออกไปบรรดาพวกตาแก่ดึกดำบรรพ์คงรีบผุดขึ้นมาจากหลุมมาแย่งตัวเจ้ากันให้วุ่น แล้วเรามาคอยดูกันว่าเจ้าจะรอดไปได้อีกสักกี่น้ำ แต่ถ้าหากเจ้ากลับไปกับข้าตอนนี้ เจ้าจะมีชีวิตอยู่ต่อได้อีกสักหลายปี เจ้าลองเลือกดู!”

โจวจื่อซินถึงกับหน้าเสียเมื่อได้ยินคำขู่เช่นนี้

โม่หยูถังที่ยืนอยู่ด้านข้างโดยไม่พูดอะไรมาสักพักแล้ว ตอนนี้เขาได้รู้แล้วว่าทำไมหลิงตู้ฉิงถึงได้ต้องการให้ผู้หญิงคนนี้มาร่วมกับพวกเขา ที่แท้นางก็มีร่างกายที่วิเศษเช่นนี้นี่เอง!

เมื่อเก็บข้อมูลจนจุใจ โม่หยูถังจึงพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาไปยังหมิงเซียนจ้าว “เอาล่ะข้าคิดว่าเจ้าควรจะหยุดพล่ามได้แล้ว เจ้าจะไปดี ๆ ด้วยตัวเองหรือจะให้ข้าลงมือ?”

หมิงเซียนจ้าวที่ได้ยินคำขู่ของโม่หยูถัง หัวใจของเขาแทบหล่นลงไปอยู่ที่ตาตุ่มด้วยความกลัว เขาหุบปากตัวเองทันทีและหันหลังจากไปอย่างรวดเร็ว

โม่หยูถังตะโกนไปยังเหล่าผู้เชี่ยวชาญขอบเขตรวมแสงดาราที่บินดูสถานการณ์อยู่ห่าง ๆ “การทดสอบรับนักศึกษาใหม่ของศาลาศักดิ์สิทธิ์ใกล้จะเริ่มแล้ว พวกเจ้าที่ไม่เกี่ยวข้อง จงสลายตัวกันออกไปได้แล้วอย่ามาเกะกะ!”

เมื่อพูดจบโม่หยูถังจึงเดินกลับเข้าไปด้านในคณะศาลาศักดิ์สิทธิ์ พร้อมกับโจวจื่อซินที่รีบวิ่งตามเขาเข้าไปด้านในเช่นกัน

เมื่อเข้ามาด้านในแล้ว โจวจื่อซินนั่งครุ่นคิดกับตัวเองอย่างเคร่งเครียด ในตอนนี้นางเข้าใจดีว่าเมื่อหมิงเซียนจ้าวปล่อยข่าวเรื่องของนางออกไปจะต้องมีผู้คนมากมายมาสร้างปัญหาให้หลิงตู้ฉิงแน่นอน แล้วเมื่อถึงเวลานั้นหลิงตู้ฉิงจะทิ้งนางไหม? และหลิงตู้ฉิงจะสามารถรับมือกับบรรดาทุกคนที่หวังจะมากินนางได้ทุกคนหรือเปล่า?

เมื่อยิ่งนางคิดนางก็ยิ่งกลัวจนเผลอเหลือบมองไปยังหลิงตู้ฉิงโดยไม่ได้ตั้งใจ และเมื่อนางมองไปยังหลิงตู้ฉิง นางก็ได้เห็นสายตาของหลิงตู้ฉิงที่มองตอบกลับมายังนางเช่นกัน

นางเม้มริมฝีปากจากนั้นจึงลุกขึ้นยืนเดินไปหาหลิงตู้ฉิงและพูดว่า “ข้าขอบคุณท่านจริง ๆ สำหรับการมอบโอกาสในการดำเนินชีวิตใหม่ให้กับข้า แต่ข้าคิดว่ามันจะดีที่สุดหากท่านจะกินข้าแทนซะตั้งแต่ตอนนี้ ไม่เช่นนั้นในอนาคตท่านจะมีปัญหาไม่รู้จักจบจักสิ้น แต่ก่อนที่ท่านจะกินข้า ข้าอยากจะขอให้ท่านมอบความรู้สึกความเป็นผู้หญิงอย่างเต็มตัวให้ข้าครั้งสักครั้งก่อนที่ข้าจะตาย และถ้าเป็นไปได้อีกอย่างมันจะดีมากหากท่านจะทำให้ข้าตายอย่างไม่ทรมานก่อนที่ท่านจะกินข้า…”

หลิงตู้ฉิงมองไปยังโจวจื่อซินด้วยสีหน้าเหมือนเห็นตัวประหลาดและพูดว่า “นี่เจ้าพูดเรื่องอะไรของเจ้า? ทำไมข้าต้องกินเจ้ากัน ที่ข้าให้เจ้ามาอยู่กับข้าก็เพราะข้าจะสอนให้เจ้ารู้จักควบคุมพลังตัวเองให้ได้และช่วยงานของข้าในอนาคตก็แค่นั้น หากเจ้าสามารถควบคุมพลังของเจ้าได้อย่างเหมาะสมแล้วล่ะก็พวกผู้เชี่ยวชายธรรมดาอย่างคนในสำนักเจ้าทำอะไรเจ้าไม่ได้หรอก”

โจวจื่อซินมองไปยังหลิงตู้ฉิงด้วยแววตามีความหวังและถามด้วยความรวดเร็ว “ท่านจะสอนให้ข้าควบคุมพลังของข้าจริง ๆ เหรอ? แล้วหากข้าควบคุมพลังได้ข้าจะสามารถสู้กับทุกคนได้จริง ๆ เหรอ?”

หลิงตู้ฉิงส่ายหัวด้วยความเหนื่อยใจและพูดขึ้น “เจ้าอย่าพึ่งตื่นเต้นเกินไป เส้นทางการบ่มเพาะของเจ้ามันยังต้องใช้เวลาสักหน่อยกว่าที่จะไปถึงขั้นนั้นได้ ตอนนี้เจ้าเอาแค่อยู่กับปัจจุบันก่อน และปัจจุบันของเจ้าในตอนนี้ก็คือมาให้ข้าเริ่มถ่ายทอดวิธีการควบคุมพลังให้เจ้าได้แล้ว”

โจวจื่อซินรีบพยักหน้าอย่างตื่นเต้นพร้อมกับถามย้ำอีกครั้ง “ท่านจะสอนให้ข้าจริง ๆ นะ?”

“ใช่ข้าจะสอน” หลิงตู้ฉิงยิ้ม “ก็เจ้าอยากจะเรียนรู้ใช่ไหมล่ะ?”

“ใช่ข้าอยากเรียน!” โจวจื่อซินรีบตอบกลับ “ข้าจะตั้งใจฝึกฝนเป็นอย่างดีเลย และเมื่อไหร่ที่ข้าพร้อมให้ท่านกิน ข้าจะบอกท่านทันที ถือว่าเป็นการแลกเปลี่ยนที่ท่านให้โอกาสข้าได้ใช้ชีวิตอยู่อย่างไม่เป็นคนโง่ ท่านตกลงไหม!”

หลิงตู้ฉิงส่ายหัวและตอบกลับ “ข้าก็บอกเจ้าไปแล้วว่าข้าไม่ต้องการกินเจ้า และที่ข้าบอกว่าจะใช้ประโยชน์จากเจ้านั่นก็เพียงแค่ข้าต้องการเลือดของเจ้าก็แค่นั้น มีแต่พวกโง่เง่าเท่านั้นแหละที่ต้องการจะกินเจ้าทั้งร่าง ทั้งที่อันที่จริงแล้วเลือดที่ไหลเวียนในร่างกายเจ้าตอนเจ้าเป็น ๆ มันมีประโยชน์มากกว่าตั้งไม่รู้กี่เท่า”

“อ่า เป็นแบบนี้เองงั้นเหรอ ถ้าเช่นนั้นต่อไปนี้ข้าจะให้เลือดของข้ากับท่านทุกวันเลยเป็นไง?” โจวจื่อซินหัวเราะ “เอ๊ะจริงด้วย! ในเมื่อต่อไปนี้ข้าต้องติดตามท่านแล้ว ข้าควรเรียกท่านว่าอะไรดี? อาจารย์? นายท่าน? สามี? หรือมีอย่างอื่นที่ท่านต้องการให้เรียกอีก?”

หลิงตู้ฉิงมองไปยังนางด้วยความเหนื่อยใจและตอบว่า “เจ้าจะเรียกอะไรก็แล้วแต่เจ้าเถอะ!”

โจวจื่อซินที่ยืนครุ่นคิดอยู่สักพัก จากนั้นเมื่อนางมองไปยังเหล่าผู้หญิงของหลิงตู้ฉิงที่กำลังยืนจับกลุ่มคุยกันอย่างสนุกสนานอยู่ไกล ๆ นางก็หันกลับมาที่หลิงตู้ฉิงและพูดว่า “ถ้างั้น ตอนนี้ข้าจะเป็นสาวใช้ให้ท่านก่อน และเมื่อไหร่ที่ข้าโตขึ้น หากท่านต้องการให้ข้าเปลี่ยนฐานะไปเป็นอย่างอื่นแทนท่านก็ค่อยบอกกับข้าก็แล้วกัน ข้ายินดีที่จะทุกฐานะที่ท่านให้ข้าทั้งหมด…”

หลิงตู้ฉิงพยักหน้าและพูดว่า “งั้นก็เอาตามที่เจ้าว่า เอาล่ะตอนนี้เจ้ามาใกล้ ๆ ข้า ให้ข้าถ่ายทอดวิชาควบแน่นโลหิตพฤกษาสวรรค์ให้เจ้าก่อน”

“ขอบคุณ นายท่าน!” โจวจื่อซินตอบกลับด้วยอารมณ์เบิกบาน

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+