พ่อเลี้ยงยอดเซียน (异界无敌奶爸) 196 การแลกเปลี่ยน

Now you are reading พ่อเลี้ยงยอดเซียน (异界无敌奶爸) Chapter 196 การแลกเปลี่ยน at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 196 การแลกเปลี่ยน

โจวจื่อซินเข้าใจชัดเจนเป็นอย่างดี หากนางถูกจับกลับไปยังสวนร้อยพฤกษารอบนี้ นางจะไม่มีโอกาสหลบหนีอีกต่อไป

แม้ว่านางจะเป็นเพียงรุ่นหลานของเผ่าภูติพฤกษา แต่สายเลือดของนางก็ยังสามารถถูกพัฒนาจนกลายเป็นมีสรรพคุณเทียบเท่ากับโอสถระดับสวรรค์ได้อยู่ดี

นับตั้งแต่ที่หลิงตู้ฉิงอนุญาตให้บรรดาผู้คนเข้ามาทำข้อตกลงแลกเปลี่ยนกับเลือดของนาง ทุกครั้งที่มีคนหน้าใหม่ ๆ เข้ามาคุย นางจะรู้สึกหวาดกลัวทุกครั้ง นางกลัวว่าข้อเสนอที่คนเหล่านั้นให้กับหลิงตู้ฉิงมันอาจจะบังเอิญมีค่ามากกว่าตัวนาง และหลิงตู้ฉิงจะตัดสินใจส่งตัวนางออกไปให้กับคนเหล่านั้น

แต่เมื่อนางได้ยินคำพูดต่อไปของหลิงตู้ฉิงนางก็รู้สึกโล่งใจขึ้น

“ไม่แลก!” หลิงตู้ฉิงพูด

จือหมิงฮ่าวพูดด้วยน้ำเสียงหดหู่ “ท่านหลิง ข้าเข้าใจว่าผู้ครองสายเลือดพฤกษาสวรรค์มีค่าแค่ไหน แต่ในตอนนี้ร่างของนางเองก็ยังไม่พร้อมที่จะนำทำให้กลายเป็นโอสถระดับสวรรค์อยู่ดี แถมท่านยังต้องหล่อเลี้ยงนางต่อไปอีก ซึ่งก็ต้องใช้ทั้งเวลาและทรัพยากรจำนวนมาก”

“และในแง่ของการหลอมโอสถ สวนร้อยพฤกษาของข้ามีความเชี่ยวชาญเป็นอย่างมาก แม้ว่าท่านจะเป็นคนมาจากสำนักเก้าเทพอสูร ท่านก็ยังไม่สามารถเปรียบเทียบในด้านการหลอมโอสถกับเราได้”

“ดังนั้นจะเป็นการเหมาะสมที่สุดถ้าท่านจะคืนนางให้กับเราไปทำการบ่มเพาะนางต่อ และเพื่อเป็นการให้เกียรติท่านผู้มาจากสำนักเก้าเทพอสูร เมื่อร่างกายของนางพร้อมสำหรับการสร้างโอสถระดับสวรรค์ เราจะมอบส่วนหนึ่งของโอสถให้กับท่าน โปรดท่านลองไตร่ตรองให้ถี่ถ้วนดูอีกครั้ง”

หลิงตู้ฉิงยิ้มและพูดว่า “เจ้าบอกว่าสวนร้อยพฤกษาของเจ้าเชี่ยวชาญกว่าข้าในการหลอมโอสถงั้นเหรอ? งั้นข้าขอถามเจ้าหน่อย เจ้ารู้ไหมว่าสายเลือดของ จื่อซิน เป็นสายเลือดที่มีสรรพคุณทางโอสถประเภทใดและจะใช้ยังไง?”

หลิงตู้ฉิงไม่ได้สนใจเกี่ยวกับคำพูดโน้มน้าวปลิ้นปล้อนของจือหมิงฮ่าว และเนื่องจากจือหมิงฮ่าวต้องการล่อลวงเขา เขาจึงวางแผนเอาคืนสำนักนี้ซะหน่อย

จือหมิงฮ่าวครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งและพูดว่า “ท่านหลิงรู้งั้นหรือ?”

“แน่นอนว่าข้ารู้!” หลิงตู้ฉิงขมวดคิ้ว

จือหมิงฮ่าวเพิกเฉยต่อการดูถูกของหลิงตู้ฉิง และถามอย่างนอบน้อมว่า “ท่านหลิง โปรดบอกข้าด้วย!”

“มีสมุนไพรระดับสวรรค์ชนิดหนึ่งชื่อ ดอกไม้ฟื้นชีพ เจ้าเคยได้ยินไหม?” หลิงตู้ฉิงหัวเราะ

“ดอกไม้ฟื้นชีพ!? ทะ…ท่านอย่าบอกนะว่าสายเลือดของนางมีสรรพคุณเหมือนกับดอกไม้ฟื้นชีพ! ดอกไม้ที่ขึ้นชื่อว่าเป็นสมุนไพรที่ขนานนามให้เป็นจักรพรรดิแห่งสมุนไพรในระดับสวรรค์นั้นน่ะเหรอ!?” จือหมิงฮ่าวอุทาน “แค่ของเหลวที่สกัดได้จากมันเพียงหยดเดียว ก็เพียงพอที่จะชุบชีวิตผู้ที่อยู่ต่ำกว่าขอบเขตสวรรค์และยังสามารถยืดอายุของใครก็ตามที่ได้กินมันอย่างน้อย 1,000 ปี และตำนานยังกล่าวอีกว่าของเหลวของดอกไม้ฟื้นชีพยังแฝงไปด้วยพลังแห่งกฎของสวรรค์ หากผู้ใดก้ตามที่ได้ดื่มของเหลววิญญาณจากดอกไม้ฟื้นชีพ คนผู้นั้นจะสามารถเข้าใจกฎของสวรรค์และจะให้ทะลวงเข้าสู่ระดับสวรรค์ได้เร็วยิ่งขึ้น!”

จือหมิงฮ่าวรู้สึกตื่นเต้น เขามองไปที่โจวจื่อซินโดยไม่รู้ตัว พลางลืมตัวปลดปล่อยกลิ่นอายสังหารที่มองเห็นได้จาง ๆ ออกมาจากร่างของเขา

หลิงตู้ฉิงแสร้งทำเป็นไม่รู้สึกถึงกลิ่นอายสังหารของจือหมิงฮ่าว เขายิ้มและพยักหน้า “เจ้าเดาได้ถูกแล้ว สายเลือดของจื่อซินนั้นมีสรรพคุณเหมือนกับดอกไม้ฟื้นชีพเช่นกัน แต่นางไม่ใช่ดอกไม้ฟื้นชีพ ดังนั้นสรรพคุณของเลือดนางจึงเป็นเพียงแค่คล้ายคลึงเท่านั้นมันไม่ได้แข็งแกร่งเท่ากับดอกไม้ฟื้นชีพของจริง”

“และอีกอย่างในความเป็นจริง ส่วนที่มีประโยชน์ในร่างกายของจื่อซินนั้นมีเพียงแค่เลือดของนางเท่านั้น ไม่ใช่เอาทั้งตัวนางมาทำเป็นโอสถมนุษย์ แต่เลือดของนางเองในตอนนี้ก็ยังไม่พร้อมและยังไม่มีสรรพคุณคล้ายกับดอกไม้ฟื้นชีพในตอนนี้”

“มันยังต้องใช้เวลาในการบ่มเพาะนางต่อไปอีก เลือดของนางถึงจะพร้อมให้นำมาใช้ประโยชน์ เห็นไหม? ด้วยเรื่องคุณสมบัติของสายเลือดและวิธีใช้ประโยชน์แค่นี้พวกเจ้ายังไม่รู้ด้วยซ้ำ แล้วเจ้ากล้าพูดได้ยังไงว่าสวนร้อยพฤกษาเก่งที่สุดในการหลอมโอสถ?”

เมื่อหลิงตู้ฉิงพูดจบ โม่หยูถังค่อย ๆ เดินมาที่ด้านข้างของหลิงตู้ฉิงและนั่งลง เมื่อจือหมิงฮ่าวเห็นโม่หยูถังปรากฏตัวเขาก็รู้สึกตัวและเก็บกลิ่นอายสังหารทั้งหมดทันทีและก้มหน้าลง

หลังจากนั้นไม่นาน จือหมิงฮ่าวก็เงยหน้าขึ้นและพูดว่า “จากที่ท่านหลิงพูดดูเหมือนท่านจะรู้อะไร ๆ มากกว่าเรา หากเป็นเช่นนั้นแล้วเราจะทำข้อตกลงกันอย่างไร? เงื่อนไขที่จำเป็นในการบ่มเพาะให้นางเติบโตคืออะไร? สวนร้อยพฤกษาของเราจะพยายามอย่างเต็มที่เพื่อช่วยท่าน และเมื่อสายเลือดของนางเติบโตเต็มที่เมื่อไหร่ เราขอส่วนแบ่งหนึ่งในสามของเลือดนาง ท่านคิดว่าอย่างไร?”

หลิงตู้ฉิงพูดด้วยรอยยิ้มว่า “ตกลง!”

“แล้วท่านหลิงต้องการอะไรบ้างเพื่อช่วยในการบ่มเพาะนาง?” จือหมิงฮ่าวถาม

หลิงตู้ฉิงแสร้งทำเป็นครุ่นคิดอยู่ชั่วขณะ จากนั้นเขาหยิบปากกาออกมาและจดรายการสมุนไพรและสิ่งของต่าง ๆ ยาวเหยียด ส่วนใหญ่เป็นวัตถุดิบเพื่อช่วยเร่งการเจริญเติบโตของสมุนไพรและบางส่วนก็เป็นโอสถล้ำค่าระดับสูง

“นี่คือรายการสมุนไพรและโอสถที่ข้าต้องการ ด้วยจำนวนทั้งหมดที่ข้าเขียนลงไป แม้ว่าจำนวนเท่านี้มันอาจจะยังไม่ทำให้สายเลือดของจื่อซินเติบโตเต็มที่ แต่อย่างน้อยก็อาจเติบโตและแข็งแกร่งได้สักแปดส่วนจากสิบ ส่วนเวลากว่านางจะเติบโตได้ถึงจุดนั้นอาจจะใช้เวลา 7 ถึง 8 ปี ข้าคิดว่าเจ้าคงไม่ได้รีบร้อนอะไรใช่ไหม?” หลิงตู้ฉิงยิ้ม

จือหมิงฮ่าวไม่ได้ดูรายการวัตถุดิบ เขาโยนมันใส่ลงในแหวนมิติจากนั้นเขาก็ลุกขึ้นยืนและพูดว่า “หากเพียงแค่ 7 หรือ 8 ปีเราก็รอได้ ข้าหวังว่าเราจะร่วมมือกันอย่างราบรื่น โดยไม่ต้องกลายเป็นศัตรูกัน วันนี้ข้าขอตัวลา”

หลังจากพูดจบ จือหมิงฮ่าวก็ออกจากคฤหาสนสราญรมย์ ใบหน้าของเขาทั้งตื่นเต้นและแฝงไปด้วยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์

หมิงเซียนจ้าวที่รออยู่ที่ทางเข้าคฤหาสน์สราญรมย์ ถามอย่างใจจดใจจ่อ “เป็นยังไงบ้าง ท่านผู้อาวุโสสูงสุด?”

จือหมิงฮ่าวส่งรายการวัตถุดิบจากแหวนมิติให้หมิงเซียนจ้าว และพูดกับหมิงเซียนจ้าว “นำรายการนี้กลับไปและมอบให้กับท่านเจ้าสำนัก บอกเขาว่าเราจะใช้วัตถุดิบพวกนี้เพื่อช่วยหลิงตู้ฉิงเร่งการเติบโตสายเลือดของโจวจื่อซิน ซึ่งเลือดของนางมีสรรพคุณเดียวกับดอกไม้ฟื้นชีพ โดยเราจะได้ส่วนแบ่งเป็นหนึ่งในสามของเลือดนาง”

“ดอกไม้ฟื้นชีพ!?” หมิงเซียนจ้าวอุทานด้วยเสียงต่ำ

“ถูกต้องแล้ว!” จือหมิงฮ่าวพยักหน้าอย่างจริงจัง

หมิงเซียนจ้าวรู้สึกตื่นเต้นมาก แต่เมื่อเขาเห็นรายการวัตถุดิบเขาก็ยิ่ง ‘ตื่นเต้น’

“ผู้อาวุโส รายการนี้ไม่มากเกินไปหรือ? แม้ว่าสวนร้อยพฤกษาของเราจะมั่งคั่ง แต่ทั้งหมดนี่ก็เท่ากับสมบัติหนึ่งในห้าของเราเลยนะ!” หมิงเซียนจ้าวอุทาน

“เรื่องนี้ไม่ใช่สิ่งที่เจ้าต้องกังวล เพียงแค่ต้องนำรายการนี้ไปมอบให้กับท่านเจ้าสำนักก็พอ” จือหมิงฮ่าวพูด

หลังจากที่หมิงเซียนจ้าวจากไป จือหมิงฮ่าวก็หันหน้าไปมองที่คฤหาสน์สราญรมย์อีกครั้งและอดไม่ได้ที่จะเผยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์

7-8 ปีงั้นเหรอ? ถึงเวลานั้นท่านเจ้าสำนักของข้าก็กลายเป็นผู้เชี่ยวชาญขอบเขตสวรรค์ไปแล้วไม่ใช่รึไง?

ต่อหน้าผู้เชี่ยวชาญระดับสวรรค์ อาวุธวิเศษระดับราชวงศ์ หรือแม้แต่ผู้เชี่ยวชาญระดับครึ่งสวรรค์จะกลายเป็นไร้ค่าโดยสิ้นเชิง ส่วนสำหรับพวกผู้เชี่ยวชาญขอบเขตสวรรค์ขึ้นไปหรืออาวุธวิเศษที่อยู่เหนือระดับสวรรค์ สำนักของเขาไม่เคยกังวลถึงมัน เพราะตัวตนที่แข็งแกร่งเหล่านั้นจะมาอยู่ในสถานที่ที่ล้าหลังอย่างอาณาเขตทะเลชางหมางทำไมกัน?

และเมื่อถึงเวลานั้นหากเจ้าสำนักของเขาจะบุกมาที่คฤหาสน์สราญรมย์เพื่อชิงตัวโจวจื่อซินที่เติบโตจนใช้ประโยชน์จากเลือดของนางได้แล้วไว้กับสำนักของเขาเองทั้งหมด โดยที่ไม่จำเป็นต้องมานั่งเปลืองแรงบ่มเพาะนางและรบราฆ่าฟันกับเหล่าผู้ที่จะเข้ามาชิงตัวนางเรื่อย ๆ ในระหว่างที่บ่มเพาะ มันจะดีแค่ไหน?

ภายในคฤหาสน์สราญรมย์ โจวจื่อซินกำลังมองไปที่หลิงตู้ฉิงด้วยความงุนงง

นางไม่รู้ว่าหลิงตู้ฉิงกำลังจะทำอะไรกับนาง เขาเคยบอกว่าเขาจะไม่กินนางแต่ตอนนี้เขากลับไปตกลงกับจือหมิงฮ่าวว่าจะแบ่งเลือดนางไปให้ทางฝั่งนู้นตั้งหนึ่งในสามส่วนของร่างกายนาง ซึ่งการหลิงตู้ฉิงไปตกลงแบบนี้ หากเขายังไปตกลงกับคนอื่นในเงื่อนไขที่แลกเปลี่ยนเลือดของนางเยอะ ๆ เช่นนี้อีก มันก็เหมือนกับว่าเขากำลังจะสูบเลือดของนางจนตายไม่ใช่งั้นเหรอ นางเริ่มไม่แน่ใจแล้วว่าหลิงตู้ฉิงเป็นคนดีจริง ๆ หรือเปล่า?

“เจ้ามองข้าทำไม?” หลิงตู้ฉิงพูดพร้อมกับหัวเราะ “มีคนให้ทรัพยากรกับเจ้าแถมมันยังช่วยให้เจ้าเป็นผู้เชี่ยวชาญขอบเขตสวรรค์ได้เร็วกว่าเดิม เจ้าไม่ดีใจเหรอ?”

โจวจื่อซินรู้สึกขัดแย้ง “แต่นายท่านบอกว่าเลือดของข้ามันยังไม่แข็งแกร่งและมันยังมีจำกัด ถ้าท่านตกลงให้เลือดของข้ากับผู้อื่นมากขนาดนั้น มันจะมีเหลือพอสำหรับท่านเหรอ?”

หลิงตู้ฉิงส่ายหัว “เมื่อเจ้าไปถึงขอบเขตสวรรค์เจ้าจะรู้ว่าสิ่งต่าง ๆ ไม่ง่ายดายขนาดนั้นหรอก นอกจากนี้เจ้าคิดว่าสวนร้อยพฤกษานั่นจะเชื่อฟังข้าจริง ๆ งั้นเหรอ? ถ้าหากว่าพวกสำนักสวนร้อยพฤกษามันเป็นพวกเชื่อคนง่ายมากขนาดนั้นสำนักมันคงไม่อยู่รอดมาได้จนถึงปัจจุบันนี้หรอก และเมื่อไหร่ที่พวกมันออกนอกลู่นอกทางมันก็จะยิ่งเป็นโอกาสให้กับข้าที่จะได้รับผลประโยชน์จากพวกมันได้มากกว่าเดิมแบบเปล่า ๆ มากขึ้นไปอีก!”

“แต่แน่นอนว่าถ้าพวกเขากลับบังเอิญเชื่อฟังข้าจริง ๆ วัตถุดิบพวกนั้นที่สำนักสวนร้อยพฤกษาจะส่งมา มันจะช่วยเจ้าประหยัดเวลาในการบ่มเพาะไปถึงขอบเขตสวรรค์ได้หลักหลายสิบหรือหลายร้อยปีเลยทีเดียว ซึ่งถ้าหากได้รับผลประโยชน์ที่มากขนาดนี้โดยแลกไปเพียงแค่เลือดของเจ้าเพียงหนึ่งในสามก็นับว่าคุ้มค่ามาก เพราะยังไงซะในอนาคตเลือดที่เจ้าเสียไปทั้งหมดก็จะฟื้นฟูกลับมาอย่างช้า ๆ ด้วยตัวเองอยู่แล้ว”

ในที่สุดโจวจื่อซินก็เข้าใจความตั้งใจของหลิงตู้ฉิง นางพูดอย่างมีความสุขว่า “ข้าจะเชื่อฟังนายท่าน”

โม่หยูถังส่ายหัวและพูดว่า “นายท่าน ถ้าชื่อของดอกไม้ฟื้นชีพรั่วไหลไป ข้าเกรงว่าปฏิกิริยาของคนอื่น ๆ จะยิ่งรุนแรงขึ้น เราควรเตรียมพร้อมที่จะเผชิญหน้ากับการโจมตีของพวกเขา”

หลิงตู้ฉิงหัวเราะ “ก็ไม่ใช่ว่าข้าพูดไปแล้วไม่ใช่เหรอว่าเลือดของจื่อซินจะใช้เวลาเติบโตราว 7-8 ปี ไม่ว่าคนพวกนั้นจะโลภแค่ไหน หากพวกมันฉลาดพวกมันก็ควรจะรอก่อน แต่ถ้ายังมีพวกโง่เง่าต้องการลองของพวกเรา เราก็แค่ฆ่าพวกมันซะ เอาล่ะ! พรุ่งนี้ข้าจะพาพวกเราไปที่ศาลาศักดิ์สิทธิ์ เราถูกบังคับให้อยู่แต่เรือนเกือบ 2 เดือน ข้าไม่อยากอุดอู้อยู่ที่นี่อีกต่อไปแล้ว”

Related

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

พ่อเลี้ยงยอดเซียน (异界无敌奶爸) 196 การแลกเปลี่ยน

Now you are reading พ่อเลี้ยงยอดเซียน (异界无敌奶爸) Chapter 196 การแลกเปลี่ยน at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 196 การแลกเปลี่ยน

โจวจื่อซินเข้าใจชัดเจนเป็นอย่างดี หากนางถูกจับกลับไปยังสวนร้อยพฤกษารอบนี้ นางจะไม่มีโอกาสหลบหนีอีกต่อไป

แม้ว่านางจะเป็นเพียงรุ่นหลานของเผ่าภูติพฤกษา แต่สายเลือดของนางก็ยังสามารถถูกพัฒนาจนกลายเป็นมีสรรพคุณเทียบเท่ากับโอสถระดับสวรรค์ได้อยู่ดี

นับตั้งแต่ที่หลิงตู้ฉิงอนุญาตให้บรรดาผู้คนเข้ามาทำข้อตกลงแลกเปลี่ยนกับเลือดของนาง ทุกครั้งที่มีคนหน้าใหม่ ๆ เข้ามาคุย นางจะรู้สึกหวาดกลัวทุกครั้ง นางกลัวว่าข้อเสนอที่คนเหล่านั้นให้กับหลิงตู้ฉิงมันอาจจะบังเอิญมีค่ามากกว่าตัวนาง และหลิงตู้ฉิงจะตัดสินใจส่งตัวนางออกไปให้กับคนเหล่านั้น

แต่เมื่อนางได้ยินคำพูดต่อไปของหลิงตู้ฉิงนางก็รู้สึกโล่งใจขึ้น

“ไม่แลก!” หลิงตู้ฉิงพูด

จือหมิงฮ่าวพูดด้วยน้ำเสียงหดหู่ “ท่านหลิง ข้าเข้าใจว่าผู้ครองสายเลือดพฤกษาสวรรค์มีค่าแค่ไหน แต่ในตอนนี้ร่างของนางเองก็ยังไม่พร้อมที่จะนำทำให้กลายเป็นโอสถระดับสวรรค์อยู่ดี แถมท่านยังต้องหล่อเลี้ยงนางต่อไปอีก ซึ่งก็ต้องใช้ทั้งเวลาและทรัพยากรจำนวนมาก”

“และในแง่ของการหลอมโอสถ สวนร้อยพฤกษาของข้ามีความเชี่ยวชาญเป็นอย่างมาก แม้ว่าท่านจะเป็นคนมาจากสำนักเก้าเทพอสูร ท่านก็ยังไม่สามารถเปรียบเทียบในด้านการหลอมโอสถกับเราได้”

“ดังนั้นจะเป็นการเหมาะสมที่สุดถ้าท่านจะคืนนางให้กับเราไปทำการบ่มเพาะนางต่อ และเพื่อเป็นการให้เกียรติท่านผู้มาจากสำนักเก้าเทพอสูร เมื่อร่างกายของนางพร้อมสำหรับการสร้างโอสถระดับสวรรค์ เราจะมอบส่วนหนึ่งของโอสถให้กับท่าน โปรดท่านลองไตร่ตรองให้ถี่ถ้วนดูอีกครั้ง”

หลิงตู้ฉิงยิ้มและพูดว่า “เจ้าบอกว่าสวนร้อยพฤกษาของเจ้าเชี่ยวชาญกว่าข้าในการหลอมโอสถงั้นเหรอ? งั้นข้าขอถามเจ้าหน่อย เจ้ารู้ไหมว่าสายเลือดของ จื่อซิน เป็นสายเลือดที่มีสรรพคุณทางโอสถประเภทใดและจะใช้ยังไง?”

หลิงตู้ฉิงไม่ได้สนใจเกี่ยวกับคำพูดโน้มน้าวปลิ้นปล้อนของจือหมิงฮ่าว และเนื่องจากจือหมิงฮ่าวต้องการล่อลวงเขา เขาจึงวางแผนเอาคืนสำนักนี้ซะหน่อย

จือหมิงฮ่าวครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งและพูดว่า “ท่านหลิงรู้งั้นหรือ?”

“แน่นอนว่าข้ารู้!” หลิงตู้ฉิงขมวดคิ้ว

จือหมิงฮ่าวเพิกเฉยต่อการดูถูกของหลิงตู้ฉิง และถามอย่างนอบน้อมว่า “ท่านหลิง โปรดบอกข้าด้วย!”

“มีสมุนไพรระดับสวรรค์ชนิดหนึ่งชื่อ ดอกไม้ฟื้นชีพ เจ้าเคยได้ยินไหม?” หลิงตู้ฉิงหัวเราะ

“ดอกไม้ฟื้นชีพ!? ทะ…ท่านอย่าบอกนะว่าสายเลือดของนางมีสรรพคุณเหมือนกับดอกไม้ฟื้นชีพ! ดอกไม้ที่ขึ้นชื่อว่าเป็นสมุนไพรที่ขนานนามให้เป็นจักรพรรดิแห่งสมุนไพรในระดับสวรรค์นั้นน่ะเหรอ!?” จือหมิงฮ่าวอุทาน “แค่ของเหลวที่สกัดได้จากมันเพียงหยดเดียว ก็เพียงพอที่จะชุบชีวิตผู้ที่อยู่ต่ำกว่าขอบเขตสวรรค์และยังสามารถยืดอายุของใครก็ตามที่ได้กินมันอย่างน้อย 1,000 ปี และตำนานยังกล่าวอีกว่าของเหลวของดอกไม้ฟื้นชีพยังแฝงไปด้วยพลังแห่งกฎของสวรรค์ หากผู้ใดก้ตามที่ได้ดื่มของเหลววิญญาณจากดอกไม้ฟื้นชีพ คนผู้นั้นจะสามารถเข้าใจกฎของสวรรค์และจะให้ทะลวงเข้าสู่ระดับสวรรค์ได้เร็วยิ่งขึ้น!”

จือหมิงฮ่าวรู้สึกตื่นเต้น เขามองไปที่โจวจื่อซินโดยไม่รู้ตัว พลางลืมตัวปลดปล่อยกลิ่นอายสังหารที่มองเห็นได้จาง ๆ ออกมาจากร่างของเขา

หลิงตู้ฉิงแสร้งทำเป็นไม่รู้สึกถึงกลิ่นอายสังหารของจือหมิงฮ่าว เขายิ้มและพยักหน้า “เจ้าเดาได้ถูกแล้ว สายเลือดของจื่อซินนั้นมีสรรพคุณเหมือนกับดอกไม้ฟื้นชีพเช่นกัน แต่นางไม่ใช่ดอกไม้ฟื้นชีพ ดังนั้นสรรพคุณของเลือดนางจึงเป็นเพียงแค่คล้ายคลึงเท่านั้นมันไม่ได้แข็งแกร่งเท่ากับดอกไม้ฟื้นชีพของจริง”

“และอีกอย่างในความเป็นจริง ส่วนที่มีประโยชน์ในร่างกายของจื่อซินนั้นมีเพียงแค่เลือดของนางเท่านั้น ไม่ใช่เอาทั้งตัวนางมาทำเป็นโอสถมนุษย์ แต่เลือดของนางเองในตอนนี้ก็ยังไม่พร้อมและยังไม่มีสรรพคุณคล้ายกับดอกไม้ฟื้นชีพในตอนนี้”

“มันยังต้องใช้เวลาในการบ่มเพาะนางต่อไปอีก เลือดของนางถึงจะพร้อมให้นำมาใช้ประโยชน์ เห็นไหม? ด้วยเรื่องคุณสมบัติของสายเลือดและวิธีใช้ประโยชน์แค่นี้พวกเจ้ายังไม่รู้ด้วยซ้ำ แล้วเจ้ากล้าพูดได้ยังไงว่าสวนร้อยพฤกษาเก่งที่สุดในการหลอมโอสถ?”

เมื่อหลิงตู้ฉิงพูดจบ โม่หยูถังค่อย ๆ เดินมาที่ด้านข้างของหลิงตู้ฉิงและนั่งลง เมื่อจือหมิงฮ่าวเห็นโม่หยูถังปรากฏตัวเขาก็รู้สึกตัวและเก็บกลิ่นอายสังหารทั้งหมดทันทีและก้มหน้าลง

หลังจากนั้นไม่นาน จือหมิงฮ่าวก็เงยหน้าขึ้นและพูดว่า “จากที่ท่านหลิงพูดดูเหมือนท่านจะรู้อะไร ๆ มากกว่าเรา หากเป็นเช่นนั้นแล้วเราจะทำข้อตกลงกันอย่างไร? เงื่อนไขที่จำเป็นในการบ่มเพาะให้นางเติบโตคืออะไร? สวนร้อยพฤกษาของเราจะพยายามอย่างเต็มที่เพื่อช่วยท่าน และเมื่อสายเลือดของนางเติบโตเต็มที่เมื่อไหร่ เราขอส่วนแบ่งหนึ่งในสามของเลือดนาง ท่านคิดว่าอย่างไร?”

หลิงตู้ฉิงพูดด้วยรอยยิ้มว่า “ตกลง!”

“แล้วท่านหลิงต้องการอะไรบ้างเพื่อช่วยในการบ่มเพาะนาง?” จือหมิงฮ่าวถาม

หลิงตู้ฉิงแสร้งทำเป็นครุ่นคิดอยู่ชั่วขณะ จากนั้นเขาหยิบปากกาออกมาและจดรายการสมุนไพรและสิ่งของต่าง ๆ ยาวเหยียด ส่วนใหญ่เป็นวัตถุดิบเพื่อช่วยเร่งการเจริญเติบโตของสมุนไพรและบางส่วนก็เป็นโอสถล้ำค่าระดับสูง

“นี่คือรายการสมุนไพรและโอสถที่ข้าต้องการ ด้วยจำนวนทั้งหมดที่ข้าเขียนลงไป แม้ว่าจำนวนเท่านี้มันอาจจะยังไม่ทำให้สายเลือดของจื่อซินเติบโตเต็มที่ แต่อย่างน้อยก็อาจเติบโตและแข็งแกร่งได้สักแปดส่วนจากสิบ ส่วนเวลากว่านางจะเติบโตได้ถึงจุดนั้นอาจจะใช้เวลา 7 ถึง 8 ปี ข้าคิดว่าเจ้าคงไม่ได้รีบร้อนอะไรใช่ไหม?” หลิงตู้ฉิงยิ้ม

จือหมิงฮ่าวไม่ได้ดูรายการวัตถุดิบ เขาโยนมันใส่ลงในแหวนมิติจากนั้นเขาก็ลุกขึ้นยืนและพูดว่า “หากเพียงแค่ 7 หรือ 8 ปีเราก็รอได้ ข้าหวังว่าเราจะร่วมมือกันอย่างราบรื่น โดยไม่ต้องกลายเป็นศัตรูกัน วันนี้ข้าขอตัวลา”

หลังจากพูดจบ จือหมิงฮ่าวก็ออกจากคฤหาสนสราญรมย์ ใบหน้าของเขาทั้งตื่นเต้นและแฝงไปด้วยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์

หมิงเซียนจ้าวที่รออยู่ที่ทางเข้าคฤหาสน์สราญรมย์ ถามอย่างใจจดใจจ่อ “เป็นยังไงบ้าง ท่านผู้อาวุโสสูงสุด?”

จือหมิงฮ่าวส่งรายการวัตถุดิบจากแหวนมิติให้หมิงเซียนจ้าว และพูดกับหมิงเซียนจ้าว “นำรายการนี้กลับไปและมอบให้กับท่านเจ้าสำนัก บอกเขาว่าเราจะใช้วัตถุดิบพวกนี้เพื่อช่วยหลิงตู้ฉิงเร่งการเติบโตสายเลือดของโจวจื่อซิน ซึ่งเลือดของนางมีสรรพคุณเดียวกับดอกไม้ฟื้นชีพ โดยเราจะได้ส่วนแบ่งเป็นหนึ่งในสามของเลือดนาง”

“ดอกไม้ฟื้นชีพ!?” หมิงเซียนจ้าวอุทานด้วยเสียงต่ำ

“ถูกต้องแล้ว!” จือหมิงฮ่าวพยักหน้าอย่างจริงจัง

หมิงเซียนจ้าวรู้สึกตื่นเต้นมาก แต่เมื่อเขาเห็นรายการวัตถุดิบเขาก็ยิ่ง ‘ตื่นเต้น’

“ผู้อาวุโส รายการนี้ไม่มากเกินไปหรือ? แม้ว่าสวนร้อยพฤกษาของเราจะมั่งคั่ง แต่ทั้งหมดนี่ก็เท่ากับสมบัติหนึ่งในห้าของเราเลยนะ!” หมิงเซียนจ้าวอุทาน

“เรื่องนี้ไม่ใช่สิ่งที่เจ้าต้องกังวล เพียงแค่ต้องนำรายการนี้ไปมอบให้กับท่านเจ้าสำนักก็พอ” จือหมิงฮ่าวพูด

หลังจากที่หมิงเซียนจ้าวจากไป จือหมิงฮ่าวก็หันหน้าไปมองที่คฤหาสน์สราญรมย์อีกครั้งและอดไม่ได้ที่จะเผยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์

7-8 ปีงั้นเหรอ? ถึงเวลานั้นท่านเจ้าสำนักของข้าก็กลายเป็นผู้เชี่ยวชาญขอบเขตสวรรค์ไปแล้วไม่ใช่รึไง?

ต่อหน้าผู้เชี่ยวชาญระดับสวรรค์ อาวุธวิเศษระดับราชวงศ์ หรือแม้แต่ผู้เชี่ยวชาญระดับครึ่งสวรรค์จะกลายเป็นไร้ค่าโดยสิ้นเชิง ส่วนสำหรับพวกผู้เชี่ยวชาญขอบเขตสวรรค์ขึ้นไปหรืออาวุธวิเศษที่อยู่เหนือระดับสวรรค์ สำนักของเขาไม่เคยกังวลถึงมัน เพราะตัวตนที่แข็งแกร่งเหล่านั้นจะมาอยู่ในสถานที่ที่ล้าหลังอย่างอาณาเขตทะเลชางหมางทำไมกัน?

และเมื่อถึงเวลานั้นหากเจ้าสำนักของเขาจะบุกมาที่คฤหาสน์สราญรมย์เพื่อชิงตัวโจวจื่อซินที่เติบโตจนใช้ประโยชน์จากเลือดของนางได้แล้วไว้กับสำนักของเขาเองทั้งหมด โดยที่ไม่จำเป็นต้องมานั่งเปลืองแรงบ่มเพาะนางและรบราฆ่าฟันกับเหล่าผู้ที่จะเข้ามาชิงตัวนางเรื่อย ๆ ในระหว่างที่บ่มเพาะ มันจะดีแค่ไหน?

ภายในคฤหาสน์สราญรมย์ โจวจื่อซินกำลังมองไปที่หลิงตู้ฉิงด้วยความงุนงง

นางไม่รู้ว่าหลิงตู้ฉิงกำลังจะทำอะไรกับนาง เขาเคยบอกว่าเขาจะไม่กินนางแต่ตอนนี้เขากลับไปตกลงกับจือหมิงฮ่าวว่าจะแบ่งเลือดนางไปให้ทางฝั่งนู้นตั้งหนึ่งในสามส่วนของร่างกายนาง ซึ่งการหลิงตู้ฉิงไปตกลงแบบนี้ หากเขายังไปตกลงกับคนอื่นในเงื่อนไขที่แลกเปลี่ยนเลือดของนางเยอะ ๆ เช่นนี้อีก มันก็เหมือนกับว่าเขากำลังจะสูบเลือดของนางจนตายไม่ใช่งั้นเหรอ นางเริ่มไม่แน่ใจแล้วว่าหลิงตู้ฉิงเป็นคนดีจริง ๆ หรือเปล่า?

“เจ้ามองข้าทำไม?” หลิงตู้ฉิงพูดพร้อมกับหัวเราะ “มีคนให้ทรัพยากรกับเจ้าแถมมันยังช่วยให้เจ้าเป็นผู้เชี่ยวชาญขอบเขตสวรรค์ได้เร็วกว่าเดิม เจ้าไม่ดีใจเหรอ?”

โจวจื่อซินรู้สึกขัดแย้ง “แต่นายท่านบอกว่าเลือดของข้ามันยังไม่แข็งแกร่งและมันยังมีจำกัด ถ้าท่านตกลงให้เลือดของข้ากับผู้อื่นมากขนาดนั้น มันจะมีเหลือพอสำหรับท่านเหรอ?”

หลิงตู้ฉิงส่ายหัว “เมื่อเจ้าไปถึงขอบเขตสวรรค์เจ้าจะรู้ว่าสิ่งต่าง ๆ ไม่ง่ายดายขนาดนั้นหรอก นอกจากนี้เจ้าคิดว่าสวนร้อยพฤกษานั่นจะเชื่อฟังข้าจริง ๆ งั้นเหรอ? ถ้าหากว่าพวกสำนักสวนร้อยพฤกษามันเป็นพวกเชื่อคนง่ายมากขนาดนั้นสำนักมันคงไม่อยู่รอดมาได้จนถึงปัจจุบันนี้หรอก และเมื่อไหร่ที่พวกมันออกนอกลู่นอกทางมันก็จะยิ่งเป็นโอกาสให้กับข้าที่จะได้รับผลประโยชน์จากพวกมันได้มากกว่าเดิมแบบเปล่า ๆ มากขึ้นไปอีก!”

“แต่แน่นอนว่าถ้าพวกเขากลับบังเอิญเชื่อฟังข้าจริง ๆ วัตถุดิบพวกนั้นที่สำนักสวนร้อยพฤกษาจะส่งมา มันจะช่วยเจ้าประหยัดเวลาในการบ่มเพาะไปถึงขอบเขตสวรรค์ได้หลักหลายสิบหรือหลายร้อยปีเลยทีเดียว ซึ่งถ้าหากได้รับผลประโยชน์ที่มากขนาดนี้โดยแลกไปเพียงแค่เลือดของเจ้าเพียงหนึ่งในสามก็นับว่าคุ้มค่ามาก เพราะยังไงซะในอนาคตเลือดที่เจ้าเสียไปทั้งหมดก็จะฟื้นฟูกลับมาอย่างช้า ๆ ด้วยตัวเองอยู่แล้ว”

ในที่สุดโจวจื่อซินก็เข้าใจความตั้งใจของหลิงตู้ฉิง นางพูดอย่างมีความสุขว่า “ข้าจะเชื่อฟังนายท่าน”

โม่หยูถังส่ายหัวและพูดว่า “นายท่าน ถ้าชื่อของดอกไม้ฟื้นชีพรั่วไหลไป ข้าเกรงว่าปฏิกิริยาของคนอื่น ๆ จะยิ่งรุนแรงขึ้น เราควรเตรียมพร้อมที่จะเผชิญหน้ากับการโจมตีของพวกเขา”

หลิงตู้ฉิงหัวเราะ “ก็ไม่ใช่ว่าข้าพูดไปแล้วไม่ใช่เหรอว่าเลือดของจื่อซินจะใช้เวลาเติบโตราว 7-8 ปี ไม่ว่าคนพวกนั้นจะโลภแค่ไหน หากพวกมันฉลาดพวกมันก็ควรจะรอก่อน แต่ถ้ายังมีพวกโง่เง่าต้องการลองของพวกเรา เราก็แค่ฆ่าพวกมันซะ เอาล่ะ! พรุ่งนี้ข้าจะพาพวกเราไปที่ศาลาศักดิ์สิทธิ์ เราถูกบังคับให้อยู่แต่เรือนเกือบ 2 เดือน ข้าไม่อยากอุดอู้อยู่ที่นี่อีกต่อไปแล้ว”

Related

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+