บทที่ 220 เวลาที่รอคอย

การบ่มเพาะแบบคู่ของทั้ง 5 คนจึงดำเนินต่อไปเป็นเวลา 7 วัน ก่อนที่หลิงตู้ฉิงจะออกมาจากห้องของเหลียงเฟ่ยเอ๋อ

หลิงตู้ฉิงจำใจต้องหยุดเพราะภรรยาทั้งสี่ไม่สามารถทนบ่มเพาะได้อีกต่อไป

เมื่อพิจารณาดูตนเอง หลิงตู้ฉิงก็เห็นว่าในแอ่งทะเลวิญญาณของเขานั้นได้ถูกเติมพลังวิญญาณเข้าไปได้ยังไม่ถึงหนึ่งในสิบส่วนเลยด้วยซ้ำ

เขายิ้มอย่างขมขื่น ในที่สุดปัญหาของการมีรากฐานการบ่มเพาะที่แข็งแกร่งก็เผยให้เห็น ด้วยแอ่งทะเลวิญญาณที่กว้างใหญ่เช่นนี้ มันก็หมายถึงว่าเขาต้องหาพลังวิญญาณจำนวนมหาศาลมาเติมมันให้เต็ม

อย่างไรก็ตามที่ผ่านมา 7 วัน แม้ว่าเขาจะทำการดูดซับพลังวิญญาณมาอย่างมากมาย แต่มันกลับเติมพลังวิญญาณให้เขาไม่ถึงแม้แต่หนึ่งในสิบของทะเลวิญญาณด้วยซ้ำ นี่เป็นผลลัพธ์ที่น่ากลัวอย่างยิ่ง หากเป็นเช่นนี้ต่อไปจะต้องใช้เวลานานเท่าไหร่ในการทะลวงขอบเขตรวมแสงดารา?

โชคดีที่เขาบ่มเพาะบนเส้นทางเต๋าแห่งอารมณ์ ซึ่งเขาสามารถดูซับพลังวิญญาณที่อยู่รอบกายให้เติมเข้ามาในร่างเขาได้อย่างต่อเนื่องอยู่เรื่อย ๆ แต่ถ้าเขาต้องใช้โอสถเพื่อบ่มเพาะใครจะรู้ว่าเขาต้องการเวลาและทรัพยากรมากแค่ไหน?

หลังจาก 7 วันของการบ่มเพาะแบบคู่ แม้แต่คนที่แข็งแกร่งอย่างเขาก็ยังรู้สึกเหนื่อยล้า โชคดีที่ในช่วง 5 ปีนี้นอกเหนือจากการสร้างทะเลวิญญาณแล้วเขายังได้เสริมสร้างความแข็งแกร่งของร่างกายด้วย มิฉะนั้นเขาคงไม่สามารถทนต่อมันได้

หลังจากยืดเส้นยืดสายอย่างเกียจคร้าน เขาก็ไปที่สวนของมี่ไลและดึงดอกบัวชำระจิตออกมา ซึ่งตอนนี้มีอายุถึง 10,000 ปีแล้ว

เนื่องจากเขาเข้าสู่ขอบเขตประสานทะเลปราณแล้ว เขาจึงสามารถปรับแต่งโอสถวิญญาณบริสุทธิ์สำหรับซือโถวเหวินหยวนได้

นอกจากนี้จุดตันเถียนของโม่หยูถังก็กำลังรอให้เขาช่วยฟื้นฟูเช่นกัน

เมื่อเขามาถึงลานของคฤหาสน์เขาก็สร้างค่ายกลควบแน่นวิญญาณเพลิงขึ้นมา

ก่อนที่เขาจะสามารถหลอมโอสถวิญญาณบริสุทธิ์ได้ หลิงตู้ฉิงจำเป็นต้องสร้างเตาหลอมโอสถของตัวเองขึ้นมาซะก่อน

เตาหลอมโอสถที่เขาเคยใช้ก่อนหน้านี้เป็นเพียงแค่เตาหลอมธรรมดาเท่านั้น เตาหลอมแบบนั้นมันไม่เพียงพอที่จะหลอมโอสถที่มีระดับสูงเช่นโอสถวิญญาณบริสุทธิ์ได้ อย่างน้อยที่สุดเขาต้องใช้เตาหลอมโอสถระดับราชวงศ์

เมื่อเขาเริ่มต้นกระบวนการสร้าง เสี่ยวเยว่เฟิงก็เดินมาหาและพูดด้วยความประหลาดใจ “นายท่าน ท่านทะลวงขอบเขตประสานทะเลปราณแล้วเหรอ?”

ไม่ได้มีเพียงแค่เสี่ยวเยว่เฟิงที่ประหลาดใจ แม้แต่โม่หยูถังและซือโถวเหวินหยวนก็ประหลาดใจเช่นกัน

หลิงตู้ฉิงพยักหน้า “ใช่! พ่อบ้านโม่ รอให้ข้าหลอมโอสถวิญญาณบริสุทธิ์เสร็จแล้วข้าจะช่วยฟื้นฟูจุดตันเถียนของเจ้า”

โม่หยูถังและซือโถวเหวินหยวนตอบรับอย่างตื่นเต้น “ขอบคุณ นายท่าน!”

“ไม่ต้องเกรงใจ!” หลิงตู้ฉิงพูดอย่างสบาย ๆ

แม้ว่ามันจะเป็นแค่เตาหลอมโอสถ แต่เขาก็ยังต้องใช้เวลามากกว่า 1 วันในการปรับแต่งมันให้มันสามารถใช้หลอมได้อย่างต่อเนื่องเป็นเวลานาน

จากนั้นเขาโยนวัตถุดิบโอสถวิญญาณบริสุทธิ์ที่เขาเตรียมไว้ลงในเตาและเริ่มการหลอม

เริ่มใช้เทคนิคการหลอม “นวโคจรกำเนิดโอสถ” เหมือนเดิม

อย่างไรก็ตามการหลอมโอสถครั้งนี้เป็นไปอย่างเชื่องช้าเป็นอย่างมากและหลังจากเวลาผ่านไปครึ่งวัน เตาหลอมยังหมุนได้ไม่ถึงหนึ่งรอบเลยด้วยซ้ำ

ซือโถวเหวินหยวนที่อยู่ด้านข้างมองไปยังวิธีการที่หลิงตู้ฉิงใช้หลอมโอสถอย่างตั้งใจอยู่สักพัก แล้วพูดด้วยความตกใจ “นายท่าน นี่มันคือเทคนิคการหลอมโอสถขั้นสูงสุดของสำนักโอสถนิรันดร์ นวโคจรกำเนิดโอสถ ใช่รึเปล่า?”

หลิงตู้ฉิงพูดอย่างเรียบเฉย “ใช่!”

“แต่…” ซือโถวเหวินหยวนพูดด้วยสีหน้าขัดแย้ง “หลายหมื่นปีมาแล้วหลังจากที่สำนักโอสถนิรันดร์ถูกทำลายโดยสัตว์อสูรยักษ์ปริศนาตัวนั้น วิธีการนี้ไม่ได้หายสาบสูญไปแล้วงั้นหรือ?”

หลิงตู้ฉิงพูดเบา ๆ “มันไม่ใช่แค่สำนักโอสถนิรันดร์ที่จะรู้วิธีการหลอมนี้แค่เพียงผู้เดียวหรอก”

ซือโถวเหวินหยวนสับสนมากขึ้น

โม่หยูถังส่งเสียงคร่ำครวญอยู่ในใจ “ชื่อเสียงของสำนักโอสถนิรันดร์เพิ่งจะมาดังเอาเมื่อหมื่นปีก่อน แต่นายท่าน เป็นถึงผู้ที่เคยรู้จักกับบรรพบุรุษของข้า เก้าจักรพรรดิเทพอสูร ซึ่งเป็นตัวตนที่เคยดำรงอยู่เมื่อหลายแสนปีก่อน บางทีเทคนิคการหลอมโอสถ นวโคจรกำเนิดโอสถ ของสำนักโอสถนิรันดร์ ก็อาจจะมาจากนายท่านเองที่เป็นคนถ่ายทอดให้พวกเขาเมื่อชีวิตที่แล้วของนายท่านเอง!”

เสี่ยวเยว่เฟิงมองไปที่หลิงตู้ฉิงด้วยความประหลาดใจ ตอนนี้นางพบว่าวิธีการหลอมโอสถของหลิงตู้ฉิงนั้นเคยเป็นวิธีการหลอมของสำนักโอสถนิรันดร์ ซึ่งเป็นเทคนิคการหลอมโอสถของสำนักที่แข็งแกร่งด้านการหลอมโอสถที่สุดในอดีต

ในที่สุดนางก็เข้าใจว่าทำไมหลิงตู้ฉิงถึงหลอมโอสถได้เก่งนัก

ภายใต้การจ้องมองอย่างเงียบงันของผู้คน หลิงตู้ฉิงได้ดับไฟของเตาหลอมใน 5 วันถัดมา

เมื่อเขาเปิดเตาดูผลงานของตน เขาพูดด้วยความผิดหวังว่า “มี 2 เม็ดที่ไม่ได้คุณภาพระดับสูงสุด!”

ทั้งสามคนข้าง ๆ เขาพูดไม่ออก

โอสถวิญญาณบริสุทธิ์ คือโอสถที่อยู่ในระดับสวรรค์ หากสามารถหลอมมันขึ้นมาได้สัก 1 เม็ดก็ถือว่าเป็นผลงานที่สุดยอดอยู่แล้ว

แต่ตอนนี้เขาที่มีระดับการบ่มเพาะแค่ขอบเขตประสานทะเลปราณ และยังสามารถหลอมพวกมันออกมาได้สำเร็จเป็นจำนวนหลายเม็ดในคราวเดียวกัน แถมมีเพียงแค่ 2 เม็ดที่ไม่ได้คุณภาพระดับสูงสุด แต่เขากลับแสดงสีหน้าผิดหวังงั้นเหรอ?

หลิงตู้ฉิงหยิบขวดหยกออกมาและใส่โอสถวิญญาณบริสุทธิ์ 8 เม็ดลงไป และโยนอีกเม็ดที่เหลือไปให้ซือโถวเหวินหยวนและพูดว่า “นี่คือสิ่งที่ข้าสัญญาว่าจะให้เจ้า!”

ซือโถวเหวินหยวนรับโอสถวิญญาณบริสุทธิ์ที่ถูกโยนมาอย่างตื่นเต้น เมื่อมองไปที่รัศมีของโอสถที่ปรากฏขึ้นบนมัน เขาก็รู้ได้ทันทีว่านี่คือโอสถวิญญาณบริสุทธิ์อย่างแน่นอน

โอสถวิญญาณบริสุทธิ์คุณภาพสูงสุดนี้สามารถยืดอายุเขาต่อไปได้อย่างน้อย 100 ปี

ในช่วงร้อยปีนี้ เขามีเวลาเพียงพอที่จะทะลวงเข้าสู่ขอบเขตสวรรค์

นอกจากนี้หลิงตู้ฉิงยังตกลงที่จะพาเขาเข้าไปที่เขตแดนวิญญาณผู้ล่วงลับ และเมื่อเขาได้เข้าไปที่นั่นแล้ว เขาจะมีโอกาสได้พบกับสมบัติวิเศษหายากที่สามารถยกระดับการบ่มเพาะของเขาได้ ซึ่งจะทำให้เขามีโอกาสเพิ่มระดับของตนเองเป็นขอบเขตนภาระดับ 13 และใช้มันทะลวงเข้าสู่ขอบเขตสวรรค์ต่อไป

เมื่อเพ่งมองโอสถที่อยู่ในมือด้วยความตื่นเต้นอยู่สักพัก ซือโถวเหวินหยวนจึงนั่งลงและเริ่มควบคุมจิตใจของตนเองให้สงบ จากนั้นก็กินโอสถวิญญาณบริสุทธิ์และดูดซับพลังจากโอสถอย่างช้า ๆ

หลิงตู้ฉิงเพิกเฉยต่อซือโถวเหวินหยวน ผู้กำลังดูดซับโอสถวิญญาณบริสุทธิ์ เขาหันศีรษะและพูดกับโม่หยูถัง “เจ้ารู้จักเคล็ดวิชาพลังชีพหวนคืนแล้วใช่ไหม?”

โม่หยูถังพยักหน้าและพูดว่า “แม้ว่าข้าจะไม่สามารถบ่มเพาะได้ แต่ข้ารู้วิธี”

“ถ้าเจ้ารู้วิธีแล้วก็ดี เจ้าต้องใช้วิชาพลังชีพหวนคืนช่วยข้าในขั้นตอนต่อไป แต่ตอนนี้จงเปิดใช้พลังของลูกปัดสะสมวิญญาณและใช้ ‘หมื่นอสูรเทิดทูน’ ที่อยู่ในบทที่สามของตำราเก้าเทพอสูรเพื่อห่อหุ้มตันเถียนของเจ้า และร่วมมือกับข้าเพื่อสร้างจุดตันเถียนขึ้นมาใหม่ นอกจากนี้ข้าจะให้เจ้ากินโอสถวิญญาณบริสุทธิ์ระดับสูงนี้ด้วย!”

“ขอบคุณ นายท่าน!” โม่หยูถังรีบพูด

หลังจากกินโอสถวิญญาณบริสุทธิ์ โม่หยูถังก็ยกระดับการบ่มเพาะสู่ขอบเขตนภาทันที และเริ่มใช้หมื่นอสูรเทิดทูน

เมื่อเขาใช้หมื่นอสูรเทิดทูน ร่างเงามายาของปีศาจจำนวนมากพุ่งเข้าหาและวนเวียนรอบจุดตันเถียนที่พิการของเขา

เมื่อโม่หยูถังอยู่ในสภาวะที่พร้อมแล้ว พลังวิญญาณจากแอ่งทะเลวิญญาณของหลิงตู้ฉิงก็พุ่งออกมาราวกับเขื่อนแตกและเติมเต็มเส้นลมปราณของโม่หยูถังและไหลบ่าไปยังจุดตันเถียนของเขาจากทุกทิศทาง

“ใช้จิตสำนึก ของเจ้านำทางพลังของโอสถวิญญาณบริสุทธิ์ และให้เหล่าร่างเงาปีศาจจากวิชาหมื่นอสูรเทิดทูนของเจ้าร่วมมือกับพลังวิญญาณของข้า เพื่อซ่อมแซมจุดตันเถียนของเจ้าขึ้นมาใหม่!” หลิงตู้ฉิงตะโกน

โม่หยูถังยังคงตกตะลึงกับพลังวิญญาณที่มากมายของหลิงตู้ฉิง

เมื่อได้ยินคำพูดของหลิงตู้ฉิง เขาก็ทำตามอย่างรวดเร็วและเริ่มซ่อมแซมจุดตันเถียนของเขาทันที

เมื่อจุดตันเถียนที่พิการได้รับการซ่อมแซมใหม่แล้ว ในอีก 3 วันต่อมาโม่หยูถังก็พูดกับหลิงตู้ฉิงด้วยน้ำตาแห่งความปิติ “ข้าคิดว่าข้าจะเป็นคนพิการไปตลอดชีวิตเสียแล้ว ก่อนหน้านี้ข้าไม่เคยหวังเลยจริง ๆ ว่านายท่านจะช่วยให้ข้ากลายเป็นเหมือนเดิม ขอบคุณนายท่านที่เมตตา!”

หลิงตู้ฉิงพูดว่า “ในเมื่อตอนนี้เจ้ามีพลังเช่นเดิมนั้นก็ดีแล้ว มันจะทำให้เจ้ามีโอกาสแก้ไขความผิดพลาดของสำนักเก้าเทพอสูรอีกครั้ง คัมภีร์เก้าเทพอสูร ที่สำนักเจ้าใช้ในการฝึกฝน หลักของมันคือการยืมพลังปีศาจมาจากปีศาจที่อยู่ในขุมนรกอเวจีจริงไหม? และนี่คือข้อผิดพลาดที่ใหญ่ที่สุดของสำนักเจ้า”

“นายท่านรู้เรื่อง ขุมนรกอเวจี ด้วยงั้นหรือ?” โม่หยูถังพูดด้วยความตกใจ

“ข้ารู้ด้วยซ้ำว่ามีอะไรอยู่ในนั้น!” หลิงตู้ฉิงพูดว่า “พวกเจ้าที่ยืมพลังปีศาจของมันมาเพื่อฝึกฝน เมื่อมันออกมาจากที่นั่นได้ สำนักเก้าเทพอสูรทั้งหมดของเจ้าจะกลายเป็นทาสรับใช้ของมัน”

โม่หยูถังมองไปที่หลิงตู้ฉิงด้วยความกลัว ถ้าสิ่งที่หลิงตู้ฉิงพูดเป็นความจริง มันจะกลายเป็นโศกนาฏกรรมของสำยักของเขาทั้งหมด

“ตอนนี้เจ้ายังไม่จำเป็นต้องสงสัยอะไรให้มากในเรื่องนี้ หลังจากนี้เจ้าแค่ตั้งใจเริ่มต้นบ่มเพาะไปก่อน ด้วยความแข็งแกร่งเพียงน้อยนิดของเจ้า ต่อให้เจ้าจะรู้เรื่องเยอะไปมากกว่านี้มันก็ไม่มีประโยชน์อะไรทั้งนั้น” หลิงตู้ฉิงพูด

โม่หยูถัง เมื่อได้ยินเช่นนั้นจึงรู้ว่ามันไม่มีประโยชน์ที่จะกังวล ในตอนนี้สิ่งที่สำคัญกว่าสำหรับเขาก็คือเขาจะต้องตั้งใจฝึกฝนให้มีความแข็งแกร่งมากขึ้น เขาจึงระงับอารมณ์และเริ่มบ่มเพาะจากขั้นพื้นฐานที่สุดคือขอบเขตหลอมรวมลมปราณใหม่ตั้งแต่ต้น!

Related