พ่อเลี้ยงยอดเซียน (异界无敌奶爸) 229 ดอกบัวปีศาจกระหายโลหิตเบ่งบาน

Now you are reading พ่อเลี้ยงยอดเซียน (异界无敌奶爸) Chapter 229 ดอกบัวปีศาจกระหายโลหิตเบ่งบาน at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 229 ดอกบัวปีศาจกระหายโลหิตเบ่งบาน

เมื่อการต่อสู้ระหว่างโม่หยูถังและหมิงเย่เริ่มต้น ซือโถวเหวินหยวนก็รู้สึกกระวนกระวายใจ

ตอนนี้ความสามารถการอักขระเวทย์ของหลิงตู้ฉิงถูกปิดผนึกแล้ว ความแข็งแกร่งของหลิงตู้ฉิงก็ลดลงอย่างมาก ตอนนี้เขาจึงเป็นคนเดียวที่เหลืออยู่ในคฤหาสน์สราญรมย์ที่ต่อสู้ได้อย่างเต็มกำลัง แต่เขาไม่มีความมั่นใจเลยที่จะสามารถรับมือกับคนจำนวนมากขนาดนี้

“คนที่กินคนของสันเขาอสูรทมิฬทุกคนต้องตาย!” จี้จู่นำอสูรโลหิตทั้งสิบสองเข้าสู่คฤหาสน์สราญรมย์

“ห้ามแตะต้ององค์หญิงเหลียงเฟ่ยเอ๋อของพวกข้า!” ขันทีหลี่และขันทีคนอื่น ๆ ที่ตามเข้ามาก็ตะโกนขึ้นด้วยน้ำเสียงเย็นชา

หลังจากนั้นไม่นาน ผู้เชี่ยวชาญทั้งขอบเขตนภาและขอบเขตรวมแสงดารากว่าร้อยคนก็รีบกรูตามเข้ามาเช่นกัน เมื่อพวกเขาเห็นโจวจื่อซินที่อยู่ในอ่างเหล็ก พวกเขาก็เผยสีหน้าที่ให้ความรู้สึกโหยหาในทันที

“แค่คำเดียว ข้าขอกินแค่คำเดียว ข้าจะได้เข้าสู่ขอบเขตสวรรค์สักที!”

“ไม่! อย่างน้อย ๆ ก็ต้องแบ่งให้ข้าสักคำ อายุขัยของข้าใกล้จะหมดแล้ว อย่างน้อย ๆ ข้าขออยู่ต่ออีกสัก 50 ปี ขออีกเพียงแค่นั้นข้าก็สามารถทะลุผ่านไปถึงขอบเขตสวรรค์ได้แล้ว!”

“ข้ากำลังจะตายในไม่ช้า หากขวางข้าไม่ให้กินมัน ข้าจะลากมันผู้นั้นให้ตายไปกับข้าด้วย!”

เมื่อผู้เชี่ยวชาญกลุ่มใหญ่ต่างพุ่งเข้าหาโจวจื่อซิน

โจวจื่อซินที่นั่งอยู่ในอ่างเหล็กนางรู้สึกประหม่าเป็นอย่างมาก ในขณะที่นั่งอยู่ในอ่างมือข้างหนึ่งของนางก็ได้กำเมล็ดดอกบัวปีศาจกระหายโลหิตไว้แน่น และอีกข้างหนึ่งถือเลือดที่นางได้รับมาจากซือโถวเหวินหยวน ตอนนี้นางกำลังรอช่วงเวลาที่เหมาะสมตามที่หลิงตู้ฉิงได้สั่งเอาไว้

ตอนนี้มีคนจำนวนมากกำลังพุ่งมาหานาง ซึ่งทำให้นางกลัวแทบตาย แต่ไม่ว่าจะกลัวแค่ไหนนางก็ยังคงมองไปที่หลิงตู้ฉิงและรอสัญญาณจากเขา

“ลงมือได้” หลิงตู้ฉิงสั่งขึ้นไปทางโจวจื่อซิน

เมื่อได้รับคำสั่ง โจวจื่อซินรีบเทเลือดของซือโถวเหวินหยวนลงบนเมล็ดดอกบัวปีศาจกระหายโลหิตพร้อมกับโคจรพลังวิญญาณของนางส่งไปเข้าไปในมันพร้อม ๆ กัน

ในเวลาเดียวกัน บรรดาผู้คนที่กำลังพุ่งเข้าหาโจวจื่อซินต่างก็สัมผัสได้ถึงกลิ่นอายของสายเลือดพฤกษาสวรรค์ และเมื่อพวกสูดดมกลิ่นอายนี้เข้าไปพวกเขาก็รู้สึกได้ถึงพลังชีวิตของพวกเขาที่ค่อย ๆ เพิ่มขึ้นอย่างช้า ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งบรรดาผู้คนที่เกือบจะสิ้นอายุขัยแล้วพวกเขารู้สึกว่าอายุขัยของพวกเขายืดออกไปอย่างน้อยไม่ 2 ก็ 3 ปี

เพียงแค่กลิ่นอายก็มีพลังมากขนาดนี้แล้ว และถ้าพวกเขาได้จิบเลือดล่ะ? หรือว่ากินเนื้อล่ะ?

เมื่อคิดได้เช่นนี้ทุกคนก็ยิ่งคลั่งกันเข้าไปใหญ่!

แต่แล้วจู่ ๆ ในขณะที่พวกเขากำลังคลั่ง ทันใดนั้นภาพตรงหน้าที่พวกเขาเห็นก็เปลี่ยนไป

เมื่อโจวจื่อซินเทเลือดลงบนดอกบัวปีศาจกระหายโลหิต ในเสี้ยววินาทีดอกบัวที่น่าหลงใหลก็ผลิบานขึ้นจากเมล็ดดอกบัวปีศาจกระหายโลหิต

ภายใต้การหล่อเลี้ยงด้วยพลังวิญญาณของนางเป็นจำนวนมาก ดอกบัวก็เริ่มแตกตัวออกเป็นสองในทันที และจากสองก็กลายเป็นสี่ และจากสี่ก็กลายเป็นแปด…

ห่างออกไปไม่กี่สิบเมตร ผู้เชี่ยวชาญที่อยู่จุดสูงสุดของขอบเขตนภาก็พุ่งเข้าหาโจวจื่อซินในพริบตา

อย่างไรก็ตามด้วยเวลาเพียงชั่วครู่ จำนวนของดอกบัวปีศาจกระหายโลหิตก็แพร่กระจายเต็มลานคฤหาสน์สราญรมย์จนนับไม่ถ้วน

ถึงแม้ว่าดอกบัวเหล่านี้จะดูเหมือนจริง แต่หากมีใครไปสัมผัสพวกมัน คนผู้นั้นก็จะรู้ได้ทันทีว่ามันเป็นเพียงแค่ภาพมายา ไม่เพียงแต่ดอกบัวเหล่านี้จะเบ่งบานล่องลอยอยู่ในอากาศเพียงอย่างเดียว แต่ยังมีดอกบัวจำนวนมากที่กำลังเบ่งบานอยู่ในร่างของผู้เชี่ยวชาญที่บุกเข่ามาจำนวนนับไม่ถ้วน

ภาพบรรยากาศในลานคฤหาสน์สราญรมณ์ตอนนี้นั้นคล้ายกับว่ามันกลายเป็นทะเลสีเลือดยังไงยังงั้น

และก่อนที่จะมีใครสามารถตอบสนองได้ทัน ดอกบัวเหล่านี้ก็ได้หยั่งรากลึกลงไปในร่างกายของผู้คนจำนวนมากเหล่านี้ไปแล้ว

เมื่อรากของมันหยั่งลงไปในร่างของผู้เคราะห์ร้ายแล้ว ภาพที่ปรากฎขึ้นในเวลาต่อมาก็คือเลือดในร่างของคนผู้นั้นถูกมันดูดซะจนแห้งกรอบออกไปในทันที จากนั้นมันก็ยิ่งเบ่งบานทรงพลังและงดงามยิ่งขึ้น

ด้วยอำนาจของมัน ผู้เชี่ยวชาญขอบเขตรวมแสงดาราที่เผชิญกับการโจมตีเช่นนี้พวกเขาสิ้นชีพแทบจะทันทีก่อนที่พวกเขาจะได้เปล่งเสียงแห่งความเจ็บปวดออกมาด้วยซ้ำ

สำหรับผู้เชี่ยวชาญขอบเขตนภาที่มีระดับต่ำกว่า 5 พวกเขาบางคนที่มีรากฐานที่แข็งแกร่งหน่อยนั้นก็ไม่ได้ตายในทันที พวกเขาบางคนยังสามารถกรีดร้องโหยหวนในขณะที่พยายามต่อสู้กับดอกบัวปีศาจกระหายโลหิต

ส่วนผู้เชี่ยวชาญขอบเขตนภาระดับที่สูงกว่า พวกเขาต่างนั่งลงขัดสมาธิอยู่บนพื้นพยายามโคจรพลังวิญญาณหรือวิชาของตนเองอย่างเต็มที่ เพื่อกำจัดดอกบัวปีศาจกระหายโลหิตออกจากร่างของพวกเขา

อย่างไรก็ตาม ด้วยจำนวนคนที่ถูกดูดเลือดตายมากขึ้นเรื่อย ๆ ดอกบัวปีศาจกระหายโลหิตก็ยิ่งแข็งแกร่งยิ่งขึ้นไปอีก

ในเวลานี้ ดอกบัวปีศาจกระหายโลหิตยังคงขยายตัวเบ่งบานและกระจายออกไปนอกคฤหาสน์สราญรมย์

“ดอกบัวปีศาจกระหายโลหิตจากเขตแดนนรก?” เฉินถิงฟาง ซึ่งเป็นศิษย์ของยอดเขาหยกจักรพรรดินางจึงมีความรู้เป็นอย่างดีว่าสิ่งนี้คืออะไร และเมื่อนางเห็นดอกบัวหลากสีที่กำลังเบ่งบานและขยายจำนวนขึ้นเรื่อย ๆ นางก็ตะโกนด้วยความกลัวว่า “นะ นี่ใครกันที่กล้านำสิ่งนี้ออกมา? หลังจากจบเรื่องนี้ใครที่มันกล้านำสิ่งนี้ออกมามันจะต้องโดนทัณฑ์สวรรค์แน่นอน! ถ้าดอกบัวเหล่านี้แพร่กระจายออกไปทั่วอาณาเขตทะเลชางหมาง ผู้คนนับไม่ถ้วนจะต้องถูกฆ่า กองกระดูกของผู้ที่ตายลงจะสูงเสียดฟ้า พวกเจ้าคนไหนที่มันมีความคิดที่บาปมหันต์เช่นนี้ได้!”

นางไม่รู้ว่าใครเป็นคนปล่อยดอกบัวปีศาจกระหายโลหิต แต่ถ้าปล่อยให้มันแพร่กระจายออกไปแบบนี้เรื่อย ๆ จริง ๆ ก็จะไม่มีใครหยุดมันได้

หลู่หยุนตี๋เองก็เห็นดอกบัวปีศาจกระหายโลหิตเหล่านี้เช่นกัน แต่เนื่องจากระดับการบ่มเพาะของเขาในตอนนี้ที่ก้าวมาสู่ขอบเขตสวรรค์แล้ว เขาจึงไม่ได้สนใจอะไรมันมากมายนัก

เขาแค่ยืนโคจรพลังวิญญาณอยู่เฉย ๆ เพียงเท่านี้ก็ไม่มีดอกบัวปีศาจกระหายโลหิตดอกไหนที่สามารถมาเข้าใกล้เขาได้

อย่างไรก็ตาม จือหมิงฮ่าวที่อยู่ข้าง ๆ ด้วยระดับการบ่มเพาะของเขาที่อยู่ในขอบเขตครึ่งสวรรค์ เขาจึงไม่มีปัญหาอะไรเท่าไหร่ในการต่อต้านเหล่าดอกบัว แต่กลับกันสถานการณ์ของหมิงเซียนจ้าวนั้นออกจะไม่สู้ดีนัก เนื่องจากเขาเป็นเพียงผู้เชี่ยวชาญขอบเขตนภาระดับกลาง เหล่าดอกบัวที่ล่องลอยอยู่จึงสามารถเจาะเข้าไปในร่างกายของเขาได้อย่างไม่ยากเย็น มันเริ่มหยั่งราก ดูดเลือดและพลังชีวิตของเขาไปเรื่อย ๆ

หมิงเซียนจ้าวกลัวจนตัวสั่นและตะโกน “ท่านเจ้าสำนัก ช่วยข้าด้วย!”

หลู่หยุนตี๋ปลดปล่อยพลังระดับสวรรค์ของเขาไปยังหมิงเซียนจ้าวและกำจัดเหล่าดอกบัวที่เกาะตามร่างของเขาให้ออกไปจนหมด แต่หลังจากที่ดอกบัวชุดเก่าถูกกำจัดออกไปหมด ดอกบัวชุดใหม่ก็เริ่มเข้ามารายล้อมหมิงเซียนจ้าวอีกครั้ง

หลู่หยุนตี๋ที่เห็นภาพเช่นนี้เขาถึงกับขมวดคิ้ว และจากนั้นเขาจึงเปิดใช้ความสามารถ ‘อาณาเขตสวรรค์’ ครอบพื้นที่บริเวณรอบ ๆ ร่างของหมิงเซียนจ้าว ส่งผลให้เหล่าดอกบัวที่อยู่บริเวณนั้นสลายหายไปจนหมด

เมื่อเห็นว่าหมิงเซียนจ้าวปลอดภัยแล้ว หลู่หยุนตี๋จึงมองไปที่คฤหาสน์สราญรมย์ด้วยสีหน้าจริงจัง

ไอ้สิ่งที่น่ากลัวเช่นนี้ปรากฏขึ้นมาได้ยังไง?

ในเวลานี้ เฉินถิงฟางและซูอี้เว่ยได้ใช้อาวุธระดับสวรรค์ของพวกนางโจมตีดอกบัวปีศาจกระหายโลหิตอย่างสุดกำลัง

พวกนางรู้ดีว่าหากพวกนางปล่อยให้ดอกบัวเหล่านี้แพร่กระจายไปทั่วอาณาจักรจันทรามันก็จะต้องกระจายไปยังอาณาจักรอื่น ๆ ต่อ

ในตอนนี้พวกนางอยากรู้มากว่าใครกันที่กล้าหาญถึงขนาดทำเรื่องท้าทายฟ้าดินเช่นนี้? และอีกอย่าง ดอกบัวเหล่านี้มันไม่เคยเชื่อฟังใครและก็ไม่มีใครที่สามารถควบคุมมันได้ ไม่ว่าใครก็ตามที่ปล่อยมันออกมา คนผู้นั้นก็จะต้องถูกดอกบัวโจมตีเช่นกัน หรือว่าเป็นไปได้ไหมที่คนปล่อยพวกมันต้องการที่จะพินาศไปพร้อมกับพวกเขา?

ภายในคฤหาสน์สราญรมย์ เมื่อโจวจื่อซินเห็นพลังของดอกบัวปีศาจกระหายโลหิต นางก็อดไม่ได้ที่จะตัวสั่น นางไม่เคยคิดมาก่อนว่าเมล็ดดอกบัวที่ดูไม่น่ามีพิษมีภัยอะไรมันจะให้ผลลัพธ์ที่น่ากลัวเช่นนี้

แต่เมื่อโจวจื่อซินมองไปที่หลิงตู้ฉิงและซือโถวเหวินหยวน นางก็ต้องประหลาดใจที่นางพบว่าไม่มีดอกบัวใดที่สามารถเข้าไปอยู่ภายในระยะ 5 เมตรของหลิงตู้ฉิงได้เลย ส่วนซือโถวเหวินหยวนเองก็ยืนอยู่ข้าหลิงตู้ฉิง ดังนั้นเขาจึงไม่ถูกบรรดาดอกบัวรบกวนเช่นกัน

หลังจากที่นางงุนงงกับภาพของหลิงตู้ฉิงอยู่สักพัก นางก็ลุกขึ้นจากอ่างพลางใช้พลังสายเลือดของตัวนางเองสร้างใบไม้ของพืชพรรณต่าง ๆ ห่อหุ้มร่างนางไว้คล้ายกับมันเป็นเสื้อผ้าของนาง จากนั้นนางจึงก้าวขาออกจากอ่างและเดินไปหาหลิงตู้ฉิงทันที

“นายท่าน ตอนนี้ข้าควรจะทำอะไรต่อดี?” โจวจื่อซินถามไปยังหลิงตู้ฉิง

หลิงตู้ฉิงมองไปที่สถานการณ์ภายในคฤหาสน์สราญรมย์ ที่ทุกคนกำลังปกป้องตัวเองจากดอกบัวปีศาจกระหายโลหิต แม้แต่บรรดาขันทีจากอาณาจักรอ้าวเทียน หรือแม้แต่ เหล่าอสูรโลหิตก็ไม่มีข้อยกเว้น

โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับอสูรโลหิตที่ถูกดอกบัวรุมตอมมากกว่าใครเพื่อน เนื่องจากร่างและพลังของพวกมันนั้นมีความเกี่ยวข้องกับเลือดเป็นหลักอยู่แล้ว

หลิงตู้ฉิงมองไปรอบ ๆ และพูดกับโจวจื่อซินว่า “เก็บพวกมันกลับมาได้แล้ว ตอนนี้เหล่าปุ๋ยของเจ้าได้ถูกจัดเก็บเรียบร้อย หากไม่เก็บพวกมันกลับมาตอนนี้ มันจะแพร่กระจายไปทั่วทั้งอาณาจักรจันทรา ยิ่งไปกว่านั้นการที่จะให้ดอกบัวที่ได้กินเลือดของบรรดาปุ๋ยของเจ้ามาแล้ว ถูกเหล่าผู้เชี่ยวชาญที่ยังรอดอยู่ทำลายไปเรื่อย ๆ มันน่าเสียดาย ถึงแม้ว่าพวกเขาจะป้องกันตัวเองจากพวกมันได้อย่างยากลำบาก แต่ดอกบัวของเจ้ามันยังไม่แข็งแกร่งพอที่จะฆ่าพวกเขาได้หรอก”

โจวจื่อซินยังพูดอย่างเสียดายว่า “เฮ้อ…น่าเสียดายจริง ๆ ที่ในตอนนี้ระดับการบ่มเพาะของข้ามันต่ำเกินไป ไม่เช่นนั้นข้าคงสามารถสังหารศัตรูทั้งหมดได้ด้วยตัวเองไม่ต้องให้นายท่านต้องเหนื่อยลงมือต่อจากข้า นายท่าน ท่านจะให้ข้าเรียกมันกลับเลยใช่ไหม?”

หลิงตู้ฉิงพยักหน้า

Related

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

พ่อเลี้ยงยอดเซียน (异界无敌奶爸) 229 ดอกบัวปีศาจกระหายโลหิตเบ่งบาน

Now you are reading พ่อเลี้ยงยอดเซียน (异界无敌奶爸) Chapter 229 ดอกบัวปีศาจกระหายโลหิตเบ่งบาน at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 229 ดอกบัวปีศาจกระหายโลหิตเบ่งบาน

เมื่อการต่อสู้ระหว่างโม่หยูถังและหมิงเย่เริ่มต้น ซือโถวเหวินหยวนก็รู้สึกกระวนกระวายใจ

ตอนนี้ความสามารถการอักขระเวทย์ของหลิงตู้ฉิงถูกปิดผนึกแล้ว ความแข็งแกร่งของหลิงตู้ฉิงก็ลดลงอย่างมาก ตอนนี้เขาจึงเป็นคนเดียวที่เหลืออยู่ในคฤหาสน์สราญรมย์ที่ต่อสู้ได้อย่างเต็มกำลัง แต่เขาไม่มีความมั่นใจเลยที่จะสามารถรับมือกับคนจำนวนมากขนาดนี้

“คนที่กินคนของสันเขาอสูรทมิฬทุกคนต้องตาย!” จี้จู่นำอสูรโลหิตทั้งสิบสองเข้าสู่คฤหาสน์สราญรมย์

“ห้ามแตะต้ององค์หญิงเหลียงเฟ่ยเอ๋อของพวกข้า!” ขันทีหลี่และขันทีคนอื่น ๆ ที่ตามเข้ามาก็ตะโกนขึ้นด้วยน้ำเสียงเย็นชา

หลังจากนั้นไม่นาน ผู้เชี่ยวชาญทั้งขอบเขตนภาและขอบเขตรวมแสงดารากว่าร้อยคนก็รีบกรูตามเข้ามาเช่นกัน เมื่อพวกเขาเห็นโจวจื่อซินที่อยู่ในอ่างเหล็ก พวกเขาก็เผยสีหน้าที่ให้ความรู้สึกโหยหาในทันที

“แค่คำเดียว ข้าขอกินแค่คำเดียว ข้าจะได้เข้าสู่ขอบเขตสวรรค์สักที!”

“ไม่! อย่างน้อย ๆ ก็ต้องแบ่งให้ข้าสักคำ อายุขัยของข้าใกล้จะหมดแล้ว อย่างน้อย ๆ ข้าขออยู่ต่ออีกสัก 50 ปี ขออีกเพียงแค่นั้นข้าก็สามารถทะลุผ่านไปถึงขอบเขตสวรรค์ได้แล้ว!”

“ข้ากำลังจะตายในไม่ช้า หากขวางข้าไม่ให้กินมัน ข้าจะลากมันผู้นั้นให้ตายไปกับข้าด้วย!”

เมื่อผู้เชี่ยวชาญกลุ่มใหญ่ต่างพุ่งเข้าหาโจวจื่อซิน

โจวจื่อซินที่นั่งอยู่ในอ่างเหล็กนางรู้สึกประหม่าเป็นอย่างมาก ในขณะที่นั่งอยู่ในอ่างมือข้างหนึ่งของนางก็ได้กำเมล็ดดอกบัวปีศาจกระหายโลหิตไว้แน่น และอีกข้างหนึ่งถือเลือดที่นางได้รับมาจากซือโถวเหวินหยวน ตอนนี้นางกำลังรอช่วงเวลาที่เหมาะสมตามที่หลิงตู้ฉิงได้สั่งเอาไว้

ตอนนี้มีคนจำนวนมากกำลังพุ่งมาหานาง ซึ่งทำให้นางกลัวแทบตาย แต่ไม่ว่าจะกลัวแค่ไหนนางก็ยังคงมองไปที่หลิงตู้ฉิงและรอสัญญาณจากเขา

“ลงมือได้” หลิงตู้ฉิงสั่งขึ้นไปทางโจวจื่อซิน

เมื่อได้รับคำสั่ง โจวจื่อซินรีบเทเลือดของซือโถวเหวินหยวนลงบนเมล็ดดอกบัวปีศาจกระหายโลหิตพร้อมกับโคจรพลังวิญญาณของนางส่งไปเข้าไปในมันพร้อม ๆ กัน

ในเวลาเดียวกัน บรรดาผู้คนที่กำลังพุ่งเข้าหาโจวจื่อซินต่างก็สัมผัสได้ถึงกลิ่นอายของสายเลือดพฤกษาสวรรค์ และเมื่อพวกสูดดมกลิ่นอายนี้เข้าไปพวกเขาก็รู้สึกได้ถึงพลังชีวิตของพวกเขาที่ค่อย ๆ เพิ่มขึ้นอย่างช้า ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งบรรดาผู้คนที่เกือบจะสิ้นอายุขัยแล้วพวกเขารู้สึกว่าอายุขัยของพวกเขายืดออกไปอย่างน้อยไม่ 2 ก็ 3 ปี

เพียงแค่กลิ่นอายก็มีพลังมากขนาดนี้แล้ว และถ้าพวกเขาได้จิบเลือดล่ะ? หรือว่ากินเนื้อล่ะ?

เมื่อคิดได้เช่นนี้ทุกคนก็ยิ่งคลั่งกันเข้าไปใหญ่!

แต่แล้วจู่ ๆ ในขณะที่พวกเขากำลังคลั่ง ทันใดนั้นภาพตรงหน้าที่พวกเขาเห็นก็เปลี่ยนไป

เมื่อโจวจื่อซินเทเลือดลงบนดอกบัวปีศาจกระหายโลหิต ในเสี้ยววินาทีดอกบัวที่น่าหลงใหลก็ผลิบานขึ้นจากเมล็ดดอกบัวปีศาจกระหายโลหิต

ภายใต้การหล่อเลี้ยงด้วยพลังวิญญาณของนางเป็นจำนวนมาก ดอกบัวก็เริ่มแตกตัวออกเป็นสองในทันที และจากสองก็กลายเป็นสี่ และจากสี่ก็กลายเป็นแปด…

ห่างออกไปไม่กี่สิบเมตร ผู้เชี่ยวชาญที่อยู่จุดสูงสุดของขอบเขตนภาก็พุ่งเข้าหาโจวจื่อซินในพริบตา

อย่างไรก็ตามด้วยเวลาเพียงชั่วครู่ จำนวนของดอกบัวปีศาจกระหายโลหิตก็แพร่กระจายเต็มลานคฤหาสน์สราญรมย์จนนับไม่ถ้วน

ถึงแม้ว่าดอกบัวเหล่านี้จะดูเหมือนจริง แต่หากมีใครไปสัมผัสพวกมัน คนผู้นั้นก็จะรู้ได้ทันทีว่ามันเป็นเพียงแค่ภาพมายา ไม่เพียงแต่ดอกบัวเหล่านี้จะเบ่งบานล่องลอยอยู่ในอากาศเพียงอย่างเดียว แต่ยังมีดอกบัวจำนวนมากที่กำลังเบ่งบานอยู่ในร่างของผู้เชี่ยวชาญที่บุกเข่ามาจำนวนนับไม่ถ้วน

ภาพบรรยากาศในลานคฤหาสน์สราญรมณ์ตอนนี้นั้นคล้ายกับว่ามันกลายเป็นทะเลสีเลือดยังไงยังงั้น

และก่อนที่จะมีใครสามารถตอบสนองได้ทัน ดอกบัวเหล่านี้ก็ได้หยั่งรากลึกลงไปในร่างกายของผู้คนจำนวนมากเหล่านี้ไปแล้ว

เมื่อรากของมันหยั่งลงไปในร่างของผู้เคราะห์ร้ายแล้ว ภาพที่ปรากฎขึ้นในเวลาต่อมาก็คือเลือดในร่างของคนผู้นั้นถูกมันดูดซะจนแห้งกรอบออกไปในทันที จากนั้นมันก็ยิ่งเบ่งบานทรงพลังและงดงามยิ่งขึ้น

ด้วยอำนาจของมัน ผู้เชี่ยวชาญขอบเขตรวมแสงดาราที่เผชิญกับการโจมตีเช่นนี้พวกเขาสิ้นชีพแทบจะทันทีก่อนที่พวกเขาจะได้เปล่งเสียงแห่งความเจ็บปวดออกมาด้วยซ้ำ

สำหรับผู้เชี่ยวชาญขอบเขตนภาที่มีระดับต่ำกว่า 5 พวกเขาบางคนที่มีรากฐานที่แข็งแกร่งหน่อยนั้นก็ไม่ได้ตายในทันที พวกเขาบางคนยังสามารถกรีดร้องโหยหวนในขณะที่พยายามต่อสู้กับดอกบัวปีศาจกระหายโลหิต

ส่วนผู้เชี่ยวชาญขอบเขตนภาระดับที่สูงกว่า พวกเขาต่างนั่งลงขัดสมาธิอยู่บนพื้นพยายามโคจรพลังวิญญาณหรือวิชาของตนเองอย่างเต็มที่ เพื่อกำจัดดอกบัวปีศาจกระหายโลหิตออกจากร่างของพวกเขา

อย่างไรก็ตาม ด้วยจำนวนคนที่ถูกดูดเลือดตายมากขึ้นเรื่อย ๆ ดอกบัวปีศาจกระหายโลหิตก็ยิ่งแข็งแกร่งยิ่งขึ้นไปอีก

ในเวลานี้ ดอกบัวปีศาจกระหายโลหิตยังคงขยายตัวเบ่งบานและกระจายออกไปนอกคฤหาสน์สราญรมย์

“ดอกบัวปีศาจกระหายโลหิตจากเขตแดนนรก?” เฉินถิงฟาง ซึ่งเป็นศิษย์ของยอดเขาหยกจักรพรรดินางจึงมีความรู้เป็นอย่างดีว่าสิ่งนี้คืออะไร และเมื่อนางเห็นดอกบัวหลากสีที่กำลังเบ่งบานและขยายจำนวนขึ้นเรื่อย ๆ นางก็ตะโกนด้วยความกลัวว่า “นะ นี่ใครกันที่กล้านำสิ่งนี้ออกมา? หลังจากจบเรื่องนี้ใครที่มันกล้านำสิ่งนี้ออกมามันจะต้องโดนทัณฑ์สวรรค์แน่นอน! ถ้าดอกบัวเหล่านี้แพร่กระจายออกไปทั่วอาณาเขตทะเลชางหมาง ผู้คนนับไม่ถ้วนจะต้องถูกฆ่า กองกระดูกของผู้ที่ตายลงจะสูงเสียดฟ้า พวกเจ้าคนไหนที่มันมีความคิดที่บาปมหันต์เช่นนี้ได้!”

นางไม่รู้ว่าใครเป็นคนปล่อยดอกบัวปีศาจกระหายโลหิต แต่ถ้าปล่อยให้มันแพร่กระจายออกไปแบบนี้เรื่อย ๆ จริง ๆ ก็จะไม่มีใครหยุดมันได้

หลู่หยุนตี๋เองก็เห็นดอกบัวปีศาจกระหายโลหิตเหล่านี้เช่นกัน แต่เนื่องจากระดับการบ่มเพาะของเขาในตอนนี้ที่ก้าวมาสู่ขอบเขตสวรรค์แล้ว เขาจึงไม่ได้สนใจอะไรมันมากมายนัก

เขาแค่ยืนโคจรพลังวิญญาณอยู่เฉย ๆ เพียงเท่านี้ก็ไม่มีดอกบัวปีศาจกระหายโลหิตดอกไหนที่สามารถมาเข้าใกล้เขาได้

อย่างไรก็ตาม จือหมิงฮ่าวที่อยู่ข้าง ๆ ด้วยระดับการบ่มเพาะของเขาที่อยู่ในขอบเขตครึ่งสวรรค์ เขาจึงไม่มีปัญหาอะไรเท่าไหร่ในการต่อต้านเหล่าดอกบัว แต่กลับกันสถานการณ์ของหมิงเซียนจ้าวนั้นออกจะไม่สู้ดีนัก เนื่องจากเขาเป็นเพียงผู้เชี่ยวชาญขอบเขตนภาระดับกลาง เหล่าดอกบัวที่ล่องลอยอยู่จึงสามารถเจาะเข้าไปในร่างกายของเขาได้อย่างไม่ยากเย็น มันเริ่มหยั่งราก ดูดเลือดและพลังชีวิตของเขาไปเรื่อย ๆ

หมิงเซียนจ้าวกลัวจนตัวสั่นและตะโกน “ท่านเจ้าสำนัก ช่วยข้าด้วย!”

หลู่หยุนตี๋ปลดปล่อยพลังระดับสวรรค์ของเขาไปยังหมิงเซียนจ้าวและกำจัดเหล่าดอกบัวที่เกาะตามร่างของเขาให้ออกไปจนหมด แต่หลังจากที่ดอกบัวชุดเก่าถูกกำจัดออกไปหมด ดอกบัวชุดใหม่ก็เริ่มเข้ามารายล้อมหมิงเซียนจ้าวอีกครั้ง

หลู่หยุนตี๋ที่เห็นภาพเช่นนี้เขาถึงกับขมวดคิ้ว และจากนั้นเขาจึงเปิดใช้ความสามารถ ‘อาณาเขตสวรรค์’ ครอบพื้นที่บริเวณรอบ ๆ ร่างของหมิงเซียนจ้าว ส่งผลให้เหล่าดอกบัวที่อยู่บริเวณนั้นสลายหายไปจนหมด

เมื่อเห็นว่าหมิงเซียนจ้าวปลอดภัยแล้ว หลู่หยุนตี๋จึงมองไปที่คฤหาสน์สราญรมย์ด้วยสีหน้าจริงจัง

ไอ้สิ่งที่น่ากลัวเช่นนี้ปรากฏขึ้นมาได้ยังไง?

ในเวลานี้ เฉินถิงฟางและซูอี้เว่ยได้ใช้อาวุธระดับสวรรค์ของพวกนางโจมตีดอกบัวปีศาจกระหายโลหิตอย่างสุดกำลัง

พวกนางรู้ดีว่าหากพวกนางปล่อยให้ดอกบัวเหล่านี้แพร่กระจายไปทั่วอาณาจักรจันทรามันก็จะต้องกระจายไปยังอาณาจักรอื่น ๆ ต่อ

ในตอนนี้พวกนางอยากรู้มากว่าใครกันที่กล้าหาญถึงขนาดทำเรื่องท้าทายฟ้าดินเช่นนี้? และอีกอย่าง ดอกบัวเหล่านี้มันไม่เคยเชื่อฟังใครและก็ไม่มีใครที่สามารถควบคุมมันได้ ไม่ว่าใครก็ตามที่ปล่อยมันออกมา คนผู้นั้นก็จะต้องถูกดอกบัวโจมตีเช่นกัน หรือว่าเป็นไปได้ไหมที่คนปล่อยพวกมันต้องการที่จะพินาศไปพร้อมกับพวกเขา?

ภายในคฤหาสน์สราญรมย์ เมื่อโจวจื่อซินเห็นพลังของดอกบัวปีศาจกระหายโลหิต นางก็อดไม่ได้ที่จะตัวสั่น นางไม่เคยคิดมาก่อนว่าเมล็ดดอกบัวที่ดูไม่น่ามีพิษมีภัยอะไรมันจะให้ผลลัพธ์ที่น่ากลัวเช่นนี้

แต่เมื่อโจวจื่อซินมองไปที่หลิงตู้ฉิงและซือโถวเหวินหยวน นางก็ต้องประหลาดใจที่นางพบว่าไม่มีดอกบัวใดที่สามารถเข้าไปอยู่ภายในระยะ 5 เมตรของหลิงตู้ฉิงได้เลย ส่วนซือโถวเหวินหยวนเองก็ยืนอยู่ข้าหลิงตู้ฉิง ดังนั้นเขาจึงไม่ถูกบรรดาดอกบัวรบกวนเช่นกัน

หลังจากที่นางงุนงงกับภาพของหลิงตู้ฉิงอยู่สักพัก นางก็ลุกขึ้นจากอ่างพลางใช้พลังสายเลือดของตัวนางเองสร้างใบไม้ของพืชพรรณต่าง ๆ ห่อหุ้มร่างนางไว้คล้ายกับมันเป็นเสื้อผ้าของนาง จากนั้นนางจึงก้าวขาออกจากอ่างและเดินไปหาหลิงตู้ฉิงทันที

“นายท่าน ตอนนี้ข้าควรจะทำอะไรต่อดี?” โจวจื่อซินถามไปยังหลิงตู้ฉิง

หลิงตู้ฉิงมองไปที่สถานการณ์ภายในคฤหาสน์สราญรมย์ ที่ทุกคนกำลังปกป้องตัวเองจากดอกบัวปีศาจกระหายโลหิต แม้แต่บรรดาขันทีจากอาณาจักรอ้าวเทียน หรือแม้แต่ เหล่าอสูรโลหิตก็ไม่มีข้อยกเว้น

โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับอสูรโลหิตที่ถูกดอกบัวรุมตอมมากกว่าใครเพื่อน เนื่องจากร่างและพลังของพวกมันนั้นมีความเกี่ยวข้องกับเลือดเป็นหลักอยู่แล้ว

หลิงตู้ฉิงมองไปรอบ ๆ และพูดกับโจวจื่อซินว่า “เก็บพวกมันกลับมาได้แล้ว ตอนนี้เหล่าปุ๋ยของเจ้าได้ถูกจัดเก็บเรียบร้อย หากไม่เก็บพวกมันกลับมาตอนนี้ มันจะแพร่กระจายไปทั่วทั้งอาณาจักรจันทรา ยิ่งไปกว่านั้นการที่จะให้ดอกบัวที่ได้กินเลือดของบรรดาปุ๋ยของเจ้ามาแล้ว ถูกเหล่าผู้เชี่ยวชาญที่ยังรอดอยู่ทำลายไปเรื่อย ๆ มันน่าเสียดาย ถึงแม้ว่าพวกเขาจะป้องกันตัวเองจากพวกมันได้อย่างยากลำบาก แต่ดอกบัวของเจ้ามันยังไม่แข็งแกร่งพอที่จะฆ่าพวกเขาได้หรอก”

โจวจื่อซินยังพูดอย่างเสียดายว่า “เฮ้อ…น่าเสียดายจริง ๆ ที่ในตอนนี้ระดับการบ่มเพาะของข้ามันต่ำเกินไป ไม่เช่นนั้นข้าคงสามารถสังหารศัตรูทั้งหมดได้ด้วยตัวเองไม่ต้องให้นายท่านต้องเหนื่อยลงมือต่อจากข้า นายท่าน ท่านจะให้ข้าเรียกมันกลับเลยใช่ไหม?”

หลิงตู้ฉิงพยักหน้า

Related

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+