พ่อเลี้ยงยอดเซียน (异界无敌奶爸) 258 เยี่ยมบุตรชาย

Now you are reading พ่อเลี้ยงยอดเซียน (异界无敌奶爸) Chapter 258 เยี่ยมบุตรชาย at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 258 เยี่ยมบุตรชาย

เกาะฟงเย่ หรือที่เรียกว่า ทวีปฟงเย่ หากมองจากมุมสูงแล้ว รูปร่างของเกาะนี้คล้ายกับใบไม้ห้าแฉกที่ลอยอยู่บนผิวทะเล

ขนาดของเกาะนี้มีขนาดใหญ่กว่าทวีปเทียนหยวนถึงสองเท่า และความขัดแย้งของอาณาจักรต่าง ๆ ภายในเกาะล้วนเกิดขึ้นอยู่เป็นประจำ

ในเกาะนี้มีอยู่ 6 อาณาจักร และขนาดของแต่ละอาณาจักรนั้นใกล้เคียงกับขนาดของอาณาจักรจันทราในช่วงที่เหลียงซานยังคงเป็นจักรพรรดิ

ที่สำคัญที่สุดคือที่ตั้งของสำนักสวนร้อยพฤกษาเองก็อยู่บนเกาะฟงเย่

เนื่องจากสำนักสวนร้อยพฤกษาเป็นสำนักที่มีชื่อเสียงมากในการหลอมโอสถ การคงอยู่ของมันบนเกาะแห่งนี้จึงทำให้เกาะนี้ค่อนข้างเจริญรุ่งเรือง

อย่างไรก็ตาม หลังจากการตายของหลู่หยุนตี๋ สวนร้อยพฤกษาก็เหมือนมังกรที่ขาดหัว และบรรดาคนที่อยู่ในสำนักก็เริ่มแตกคอกันเองแก่งแย่งชิงอำนาจกัน

แต่หลังจากนั้นเมื่อ 10 กว่าปีก่อนที่จือหมิงฮ่าวกลับมาที่สำนักพร้อมกับระดับการบ่มเพาะขอบเขตสวรรค์ บรรดาความขัดแย้งที่กำลังคุกรุ่นภายในสำนักและนอกสำนักจึงถูกดับลงอย่างรวดเร็ว

และแน่นอนว่าเมื่อจือหมิงฮ่าวได้ยอมเป็นข้ารับใช้ของหลิงยี่เทียนแล้ว สวนร้อยพฤกษาเองก็ยอมสวามิภักดิ์ต่ออาณาจักรจันทราเช่นกัน ซึ่งตามมาด้วยอีกสองอาณาจักรที่ได้รับการสนับสนุนจากสวนร้อยพฤกษาก็ได้ยอมเข้าร่วมด้วยเช่นกัน

ฉะนั้นภารกิจของหลิงว่านจุนในตอนนี้คือเป็นการนำกองทัพของตนเองไปต่อสู้กับอีก 4 อาณาจักรที่เหลือ

“นายท่าน ตอนนี้ทั้งเกาะฟงเย่เกิดการสู้รบอยู่ทุกหนทุกแห่งทั่วไปหมด ข้าเกรงว่าการหาตัวนายน้อยว่านจุนอาจจะต้องใช้เวลามากสักหน่อย” เสี่ยวเยว่เฟิงพูดขึ้น

หลิงตู้ฉิงยื่นหัวออกไปนอกหน้าต่างและมองไปรอบ ๆ ทันใดนั้นเขาก็ชี้และพูดว่า “ไปที่นั่น!”

กงหนิวลากรถม้าไปตามทิศทางที่หลิงตู้ฉิงชี้และมุ่งหน้าไปยังเป้าหมายทันที

จากระยะไกล ในทิศทางที่หลิงตู้ฉิงชี้ไปนั้น ภาพของร่างมังกรขนาดใหญ่ 8 ตัวกำลังดักจับและสังหารผู้เชี่ยวชาญขอบเขตครึ่งสวรรค์

“หยุดรอตรงนี้ก่อน รอให้พวกเขาสู้กันเสร็จเราค่อยเข้าไปหาพวกเขา!” หลิงตู้ฉิงสั่ง

หลิงตู้ฉิงไม่ต้องการที่จะแสดงตัวในตอนนี้ เนื่องจากเขาอยากเห็นความก้าวหน้าของลูกเขา ดังนั้นเขาจึงสั่งให้เสี่ยวเยว่เฟิงหยุดรถม้าคอยสังเกตการณ์จากในระยะไกลไปก่อน

ในเวลานี้บนพื้นดินมีภาพร่างของมังกร 8 ตัว ซึ่งแต่ละตัวมีระดับพลังถึงจุดสูงสุดของขอบเขตนภา ซึ่งพวกมันกำลังห้อมล้อมผู้เชี่ยวชาญขอบเขตครึ่งสวรรค์อยู่ตรงกลาง

ครึ่งชั่วโมงต่อมา ร่างของผู้เชี่ยวชาญขอบเขตครึ่งสวรรค์ก็ถูกฉีกออกจากกันเป็น 8 ส่วนและการต่อสู้ก็สิ้นสุดลง

เมื่อจบศึกร่างของมังกรทั้งแปดก็จางหายไปกลายเป็นกลุ่มทหาร 8 กลุ่ม จากนั้นร่างของหลิงว่านจุนก็ปรากฏขึ้นภายในเงามังกรตัวที่ใหญ่ที่สุดที่กำลังจางหายไป

“พวกเจ้ายังเกื้อหนุนกันได้ไม่ดีมากพอ!” หลิงว่านจุนมองไปยังทหารของเขาที่เพิ่งจบศึกมาหมาด ๆ “กับอีแค่ผู้เชี่ยวชาญขอบเขตครึ่งสวรรค์คนเดียวพวกเจ้ากลับต้องใช้เวลาในการสังหารเขามากถึงขนาดนี้ แล้วในอนาคตเมื่อพวกเจ้าต้องเผชิญกับผู้เชี่ยวชาญขอบเขตสวรรค์พวกเจ้าไม่ต้องใช้เวลากันทั้งอาทิตย์ในการสังหารเขางั้นเหรอ? หลังจากนี้ทุกคนต้องฝึกให้หนักขึ้นอีก ไม่เช่นนั้นในอนาคตพวกเจ้าทั้งหมดจะไม่มีประโยชน์อะไรให้ข้าต้องสนใจ”

เมื่อโดนตำหนิเช่นนี้ ทหารทั้งหมดไม่กล้าที่จะพูดอะไรสักคำ

ขณะที่พวกเขาฟังคำตำหนิของหลิงว่านจุนอย่างเงียบ ๆ ในใจของพวกเขาก็ยังอดคิดไม่ได้

พวกเขาฝึกฝนกันมาได้นานแค่ไหนกัน? การที่พวกเขาสามารถสังหารผู้เชี่ยวชาญขอบเขตครึ่งสวรรค์ได้ในตอนนี้ ก็ถือเป็นความสำเร็จที่น่าประทับใจสำหรับพวกเขามากแล้ว

แต่เมื่อพวกเขาได้ยินหลิงว่านจุนพูดถึงการสู้กับผู้เชี่ยวชาญขอบเขตสวรรค์ในอนาคต พวกเขาก็เริ่มใจเสียและคิดทบทวนว่าพวกเขาเองต้องทำยังไงดีหากต้องเผชิญกับผู้เชี่ยวชาญระดับนั้นจริง ๆ

หลิงว่านจุนตำหนิทหารอยู่สักพักก่อนที่จะสั่งให้บรรดาทหารกลับคืนร่างมังกรอีกครั้งเพื่อที่จะฝึกซ้อมต่อและพูดว่า “พี่ใหญ่ คนพวกนี้ยังอ่อนแอเกิน ข้าขอตัวไปฝึกฝนพวกเขาต่อก่อนล่ะ!”

หลิงยู่ชานหัวเราะ “ว่านจุน อันที่จริงที่พวกเขาแสดงพลังได้ถึงขนาดนี้มันก็ไม่เลวนักหรอกนะ เจ้าอย่าลืมสิว่าพวกเขาพึ่งเข้าร่วมกองทัพมังกรได้เป็นเวลาไม่เท่าไหร่เอง เจ้าจะเอาพวกเขาไปเปรียบเทียบกับเหล่าทหารชุดก่อนหน้านี้ได้ยังไง”

“เฮ้อ…มันก็คงจริงอย่างที่ท่านว่าล่ะนะ” หลิงว่านจุนส่ายหัว “เอาล่ะพี่ใหญ่เดี๋ยวขอตัวไปฝึกพวกเขาต่อก่อน ข้าฝากพี่ใหญ่ช่วยดูแลทางนี้แทนข้าด้วยละกัน!”

แต่ในขณะที่หลิงว่านจุนกำลังจะพาทหารของเขาออกไปฝึกฝนต่อ เสียงตะโกนดังลั่นก็ได้ดังขึ้น

“ใครกัน? จงไสหัวออกมาเดี๋ยวนี้!” จือหมิงฮ่าวที่อยู่ข้าง ๆ หลิงว่านจุนตะโกนขึ้น “แม่ทัพหลิง เมื่อครู่ข้าจับสัมผัสได้ว่ามีผู้เชี่ยวชาญขอบเขตสวรรค์มาสอดแนมเรา!”

หลิงว่านจุนพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเย็นชา “กล้าดีจริง ๆ นะที่มาสอดแนมข้าใกล้ถึงขนาดนี้ งั้นขอให้ข้าได้ตอบแทนความกล้าของเจ้าสักหน่อยก็แล้วกัน! ทหาร! เปิดใช้ค่ายกลร้อยมังกรและบินขึ้นไปฆ่ามันให้ข้า… เอ๊ะ?! เดี๋ยวทุกคนหยุดก่อน ถอยทัพ ๆ”

เมื่อครู่ในขณะที่หลิงว่านจุนกำลังจะสั่งกองทหารของเขาลงมือโจมตี เขาก็ได้เห็นร่างของกระทิงตัวหนึ่งกำลังลากรถม้าลงมา เมื่อเห็นเช่นนี้เขาก็จำได้ทันทีว่านั่นคือกงหนิว และเมื่อเขาได้เห็นเสี่ยวเยว่เฟิงที่นั่งอยู่ตรงที่นั่งคนบังคับ เขาก็ตะโกนถามขึ้นทันที “ท่านพ่อ ทำไมท่านมาที่นี่?”

เนื่องจากเสี่ยวเยว่เฟิงเป็นสารถีส่วนตัวของหลิงตู้ฉิง เขาจึงไม่จำเป็นต้องเดาเลยว่าคนที่อยู่ในรถม้าต้องเป็นพ่อของเขาแน่นอน

ในเวลาเพียงชั่วพริบตา รถม้าก็ร่อนลงมาจอดตรงหน้าเขาอย่างรวดเร็ว

หลิงว่านจุน เมื่อได้เห็นเช่นนี้เขาจึงรีบพุ่งตัวไปด้านในรถม้าด้วยใบหน้ายิ้มแย้มและเมื่อเข้าไปเขาก็เห็นคนอื่น ๆ และถามด้วยความสงสัยว่า “เอ๊ะ นี่พวกท่านแม่ทั้งสองกับพี่สามก็มาด้วยงั้นเหรอ นี่ดูเหมือนว่าพวกท่านกำลังจะออกจากทะเลชางหมางกันแล้วสินะ?”

หลิงยู่ชานที่ตามขึ้นมาบนรถทีหลังเขาพูดด้วยรอยยิ้มว่า “คารวะท่านพ่อและท่านแม่ พวกท่านสบายดีไหม?”

หลิงตู้ฉิงพยักหน้าและหัวเราะ “เรากำลังจะออกจากทะเลชางหมางในไม่ช้านี้ แต่เมื่อพ่อคิดว่าพวกเจ้าสองคนไม่ได้กลับไปที่คฤหาสน์ให้พ่อเห็นหน้าตั้งนานแล้วตั้งแต่ที่เจ้าออกมาล่าสุด ดังนั้นพ่อจึงมาดูความก้าวกน้าของพวกเจ้าสักหน่อยก่อนที่จะออกเดินทาง และที่สำคัญ ยู่ชาน พ่อมีอะไรบางอย่างจะให้เจ้าด้วย”

เมื่อพูดจบ หลิงตู้ฉิงก็โยนถุงมือคู่หนึ่งให้หลิงยู่ชานและพูดต่อ “ถุงมือคู่นี้จะทำให้เจ้ามีความสามารถในการป้องกันตัวเองเมื่อเผชิญหน้ากับผู้เชี่ยวชาญที่มีพลังเหนือกว่าเจ้า แต่พ่อเองก็ไม่มีวัสดุระดับสูงอยู่มากเท่าไหร่ พ่อก็เลยสามารถสร้างอาวุธวิเศษชิ้นนี้ให้อยู่ได้แค่ในระดับราชวงศ์เท่านั้น”

หลิงยู่ชานรับถุงมือมาสวมใส่และลองทดสอบดู จากนั้นเขาก็พูดอย่างมีความสุข “ขอบคุณมาก ท่านพ่อ!”

“ตอนนี้หมิงจู้กำลังตั้งใจบ่มเพาะอยู่ที่คฤหาสน์ เมื่อบ่มเพาะเสร็จนางอาจจะมาหาเจ้าในเร็ว ๆ นี้และครูถังก็ออกจากทะเลชางหมางไปแล้ว” หลิงตู้ฉิงบอกเขา

หลิงยู่ชานพยักหน้า “ทราบแล้วท่านพ่อ!”

หลิงว่านจุนที่รออยู่ที่ด้านข้างสักพัก เมื่อเขารู้สึกว่าพ่อของเขาไม่ได้เอ่ยเรื่องของที่จะให้กับเขาบ้างเลยก็รีบพูดว่า “ท่านพ่อ แล้วข้าล่ะ เราไม่ได้พบกันนานขนาดนี้ ท่านคงมีของขวัญมาให้ข้าด้วยใช่ไหม?”

หลิงตู้ฉิงยิ้มและพูดว่า “สำหรับเจ้า พ่อจะให้ของขวัญกับเจ้าคือการเล่นหมากรุกกับเจ้าสักหนึ่งกระดานแล้วค่อยไป! จงเตรียมกองกำลังของเจ้า ถ้าเจ้าสามารถบรรลุหมากกระดานนี้ที่พ่อกำลังจะเล่นกับเจ้าได้ เจ้าจะมีอำนาจพอทำให้ศัตรูของเจ้าไม่สามารถเคลื่อนไหวได้แม้แต่ก้าวเดียว เหมือนที่พ่อเคยทำกับคณบดี คณะเตรียมทหาร เว่ยเทียนไล้ ตอนที่พ่อเล่นหมากรุกกับเขาที่สถาบันราชวงศ์เจ้าจำได้ใช่ไหม?”

หลิงว่านจุนรู้สึกผิดหวังมากเมื่อเขาได้ยินว่าสิ่งที่เขาจะได้มันเป็นเพียงแค่การเล่นหมากรุก

อย่างไรก็ตามเมื่อได้ยินส่วนสุดท้ายในคำพูดของหลิงตู้ฉิง เขาก็กระโดดลงจากรถม้าอย่างตื่นเต้น และเรียกทหารทั้งหมดให้มาตั้งแถวรวมกันใกล้ ๆ

หลิงตู้ฉิงเดินออกจากรถม้าและนำกระดานหมากรุกขนาดใหญ่ออกมาวางไว้ตรงหน้าของหลิงว่านจุนทันที

“มาเริ่มกันเลย!” หลิงตู้ฉิงพูดขึ้นด้วยสีหน้าเจ้าเล่ห์

เมื่อหลิงว่านจุนเห็นกระดานหมากรุกตั้งอยู่ตรงหน้า เขาก็เริ่มใช้สมาธิจดจ่ออยู่กับกระดานและเหล่าตัวหมากทันที

“เปิดหมาก!”

หลิงว่านจุนเริ่มผลักเบี้ยทหารของเขาที่อยู่เลนกลางกระดานตรงขึ้นไปทันที พร้อมกับเหล่าทหารของเขาที่อยู่ด้านหลังก็พากันตะโกนกู่ร้อง

“ฆ่า! ฆ่า! ฆ่า!”

หลิงตู้ฉิงมองดูหลิงว่านจุนเล่นหมากรุกอย่างเงียบ ๆ ซึ่งแผนการเล่นของว่านจุนนั้นเน้นไปทางด้านการตั้งรับอย่างเหนียวแน่น

หลิงตู้ฉิงที่เห็นเช่นนี้เขาก็ส่ายหัว และเริ่มวางแผนยุแหย่ให้ลูกชายเขาเข้าโจมตี

Related

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

พ่อเลี้ยงยอดเซียน (异界无敌奶爸) 258 เยี่ยมบุตรชาย

Now you are reading พ่อเลี้ยงยอดเซียน (异界无敌奶爸) Chapter 258 เยี่ยมบุตรชาย at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 258 เยี่ยมบุตรชาย

เกาะฟงเย่ หรือที่เรียกว่า ทวีปฟงเย่ หากมองจากมุมสูงแล้ว รูปร่างของเกาะนี้คล้ายกับใบไม้ห้าแฉกที่ลอยอยู่บนผิวทะเล

ขนาดของเกาะนี้มีขนาดใหญ่กว่าทวีปเทียนหยวนถึงสองเท่า และความขัดแย้งของอาณาจักรต่าง ๆ ภายในเกาะล้วนเกิดขึ้นอยู่เป็นประจำ

ในเกาะนี้มีอยู่ 6 อาณาจักร และขนาดของแต่ละอาณาจักรนั้นใกล้เคียงกับขนาดของอาณาจักรจันทราในช่วงที่เหลียงซานยังคงเป็นจักรพรรดิ

ที่สำคัญที่สุดคือที่ตั้งของสำนักสวนร้อยพฤกษาเองก็อยู่บนเกาะฟงเย่

เนื่องจากสำนักสวนร้อยพฤกษาเป็นสำนักที่มีชื่อเสียงมากในการหลอมโอสถ การคงอยู่ของมันบนเกาะแห่งนี้จึงทำให้เกาะนี้ค่อนข้างเจริญรุ่งเรือง

อย่างไรก็ตาม หลังจากการตายของหลู่หยุนตี๋ สวนร้อยพฤกษาก็เหมือนมังกรที่ขาดหัว และบรรดาคนที่อยู่ในสำนักก็เริ่มแตกคอกันเองแก่งแย่งชิงอำนาจกัน

แต่หลังจากนั้นเมื่อ 10 กว่าปีก่อนที่จือหมิงฮ่าวกลับมาที่สำนักพร้อมกับระดับการบ่มเพาะขอบเขตสวรรค์ บรรดาความขัดแย้งที่กำลังคุกรุ่นภายในสำนักและนอกสำนักจึงถูกดับลงอย่างรวดเร็ว

และแน่นอนว่าเมื่อจือหมิงฮ่าวได้ยอมเป็นข้ารับใช้ของหลิงยี่เทียนแล้ว สวนร้อยพฤกษาเองก็ยอมสวามิภักดิ์ต่ออาณาจักรจันทราเช่นกัน ซึ่งตามมาด้วยอีกสองอาณาจักรที่ได้รับการสนับสนุนจากสวนร้อยพฤกษาก็ได้ยอมเข้าร่วมด้วยเช่นกัน

ฉะนั้นภารกิจของหลิงว่านจุนในตอนนี้คือเป็นการนำกองทัพของตนเองไปต่อสู้กับอีก 4 อาณาจักรที่เหลือ

“นายท่าน ตอนนี้ทั้งเกาะฟงเย่เกิดการสู้รบอยู่ทุกหนทุกแห่งทั่วไปหมด ข้าเกรงว่าการหาตัวนายน้อยว่านจุนอาจจะต้องใช้เวลามากสักหน่อย” เสี่ยวเยว่เฟิงพูดขึ้น

หลิงตู้ฉิงยื่นหัวออกไปนอกหน้าต่างและมองไปรอบ ๆ ทันใดนั้นเขาก็ชี้และพูดว่า “ไปที่นั่น!”

กงหนิวลากรถม้าไปตามทิศทางที่หลิงตู้ฉิงชี้และมุ่งหน้าไปยังเป้าหมายทันที

จากระยะไกล ในทิศทางที่หลิงตู้ฉิงชี้ไปนั้น ภาพของร่างมังกรขนาดใหญ่ 8 ตัวกำลังดักจับและสังหารผู้เชี่ยวชาญขอบเขตครึ่งสวรรค์

“หยุดรอตรงนี้ก่อน รอให้พวกเขาสู้กันเสร็จเราค่อยเข้าไปหาพวกเขา!” หลิงตู้ฉิงสั่ง

หลิงตู้ฉิงไม่ต้องการที่จะแสดงตัวในตอนนี้ เนื่องจากเขาอยากเห็นความก้าวหน้าของลูกเขา ดังนั้นเขาจึงสั่งให้เสี่ยวเยว่เฟิงหยุดรถม้าคอยสังเกตการณ์จากในระยะไกลไปก่อน

ในเวลานี้บนพื้นดินมีภาพร่างของมังกร 8 ตัว ซึ่งแต่ละตัวมีระดับพลังถึงจุดสูงสุดของขอบเขตนภา ซึ่งพวกมันกำลังห้อมล้อมผู้เชี่ยวชาญขอบเขตครึ่งสวรรค์อยู่ตรงกลาง

ครึ่งชั่วโมงต่อมา ร่างของผู้เชี่ยวชาญขอบเขตครึ่งสวรรค์ก็ถูกฉีกออกจากกันเป็น 8 ส่วนและการต่อสู้ก็สิ้นสุดลง

เมื่อจบศึกร่างของมังกรทั้งแปดก็จางหายไปกลายเป็นกลุ่มทหาร 8 กลุ่ม จากนั้นร่างของหลิงว่านจุนก็ปรากฏขึ้นภายในเงามังกรตัวที่ใหญ่ที่สุดที่กำลังจางหายไป

“พวกเจ้ายังเกื้อหนุนกันได้ไม่ดีมากพอ!” หลิงว่านจุนมองไปยังทหารของเขาที่เพิ่งจบศึกมาหมาด ๆ “กับอีแค่ผู้เชี่ยวชาญขอบเขตครึ่งสวรรค์คนเดียวพวกเจ้ากลับต้องใช้เวลาในการสังหารเขามากถึงขนาดนี้ แล้วในอนาคตเมื่อพวกเจ้าต้องเผชิญกับผู้เชี่ยวชาญขอบเขตสวรรค์พวกเจ้าไม่ต้องใช้เวลากันทั้งอาทิตย์ในการสังหารเขางั้นเหรอ? หลังจากนี้ทุกคนต้องฝึกให้หนักขึ้นอีก ไม่เช่นนั้นในอนาคตพวกเจ้าทั้งหมดจะไม่มีประโยชน์อะไรให้ข้าต้องสนใจ”

เมื่อโดนตำหนิเช่นนี้ ทหารทั้งหมดไม่กล้าที่จะพูดอะไรสักคำ

ขณะที่พวกเขาฟังคำตำหนิของหลิงว่านจุนอย่างเงียบ ๆ ในใจของพวกเขาก็ยังอดคิดไม่ได้

พวกเขาฝึกฝนกันมาได้นานแค่ไหนกัน? การที่พวกเขาสามารถสังหารผู้เชี่ยวชาญขอบเขตครึ่งสวรรค์ได้ในตอนนี้ ก็ถือเป็นความสำเร็จที่น่าประทับใจสำหรับพวกเขามากแล้ว

แต่เมื่อพวกเขาได้ยินหลิงว่านจุนพูดถึงการสู้กับผู้เชี่ยวชาญขอบเขตสวรรค์ในอนาคต พวกเขาก็เริ่มใจเสียและคิดทบทวนว่าพวกเขาเองต้องทำยังไงดีหากต้องเผชิญกับผู้เชี่ยวชาญระดับนั้นจริง ๆ

หลิงว่านจุนตำหนิทหารอยู่สักพักก่อนที่จะสั่งให้บรรดาทหารกลับคืนร่างมังกรอีกครั้งเพื่อที่จะฝึกซ้อมต่อและพูดว่า “พี่ใหญ่ คนพวกนี้ยังอ่อนแอเกิน ข้าขอตัวไปฝึกฝนพวกเขาต่อก่อนล่ะ!”

หลิงยู่ชานหัวเราะ “ว่านจุน อันที่จริงที่พวกเขาแสดงพลังได้ถึงขนาดนี้มันก็ไม่เลวนักหรอกนะ เจ้าอย่าลืมสิว่าพวกเขาพึ่งเข้าร่วมกองทัพมังกรได้เป็นเวลาไม่เท่าไหร่เอง เจ้าจะเอาพวกเขาไปเปรียบเทียบกับเหล่าทหารชุดก่อนหน้านี้ได้ยังไง”

“เฮ้อ…มันก็คงจริงอย่างที่ท่านว่าล่ะนะ” หลิงว่านจุนส่ายหัว “เอาล่ะพี่ใหญ่เดี๋ยวขอตัวไปฝึกพวกเขาต่อก่อน ข้าฝากพี่ใหญ่ช่วยดูแลทางนี้แทนข้าด้วยละกัน!”

แต่ในขณะที่หลิงว่านจุนกำลังจะพาทหารของเขาออกไปฝึกฝนต่อ เสียงตะโกนดังลั่นก็ได้ดังขึ้น

“ใครกัน? จงไสหัวออกมาเดี๋ยวนี้!” จือหมิงฮ่าวที่อยู่ข้าง ๆ หลิงว่านจุนตะโกนขึ้น “แม่ทัพหลิง เมื่อครู่ข้าจับสัมผัสได้ว่ามีผู้เชี่ยวชาญขอบเขตสวรรค์มาสอดแนมเรา!”

หลิงว่านจุนพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเย็นชา “กล้าดีจริง ๆ นะที่มาสอดแนมข้าใกล้ถึงขนาดนี้ งั้นขอให้ข้าได้ตอบแทนความกล้าของเจ้าสักหน่อยก็แล้วกัน! ทหาร! เปิดใช้ค่ายกลร้อยมังกรและบินขึ้นไปฆ่ามันให้ข้า… เอ๊ะ?! เดี๋ยวทุกคนหยุดก่อน ถอยทัพ ๆ”

เมื่อครู่ในขณะที่หลิงว่านจุนกำลังจะสั่งกองทหารของเขาลงมือโจมตี เขาก็ได้เห็นร่างของกระทิงตัวหนึ่งกำลังลากรถม้าลงมา เมื่อเห็นเช่นนี้เขาก็จำได้ทันทีว่านั่นคือกงหนิว และเมื่อเขาได้เห็นเสี่ยวเยว่เฟิงที่นั่งอยู่ตรงที่นั่งคนบังคับ เขาก็ตะโกนถามขึ้นทันที “ท่านพ่อ ทำไมท่านมาที่นี่?”

เนื่องจากเสี่ยวเยว่เฟิงเป็นสารถีส่วนตัวของหลิงตู้ฉิง เขาจึงไม่จำเป็นต้องเดาเลยว่าคนที่อยู่ในรถม้าต้องเป็นพ่อของเขาแน่นอน

ในเวลาเพียงชั่วพริบตา รถม้าก็ร่อนลงมาจอดตรงหน้าเขาอย่างรวดเร็ว

หลิงว่านจุน เมื่อได้เห็นเช่นนี้เขาจึงรีบพุ่งตัวไปด้านในรถม้าด้วยใบหน้ายิ้มแย้มและเมื่อเข้าไปเขาก็เห็นคนอื่น ๆ และถามด้วยความสงสัยว่า “เอ๊ะ นี่พวกท่านแม่ทั้งสองกับพี่สามก็มาด้วยงั้นเหรอ นี่ดูเหมือนว่าพวกท่านกำลังจะออกจากทะเลชางหมางกันแล้วสินะ?”

หลิงยู่ชานที่ตามขึ้นมาบนรถทีหลังเขาพูดด้วยรอยยิ้มว่า “คารวะท่านพ่อและท่านแม่ พวกท่านสบายดีไหม?”

หลิงตู้ฉิงพยักหน้าและหัวเราะ “เรากำลังจะออกจากทะเลชางหมางในไม่ช้านี้ แต่เมื่อพ่อคิดว่าพวกเจ้าสองคนไม่ได้กลับไปที่คฤหาสน์ให้พ่อเห็นหน้าตั้งนานแล้วตั้งแต่ที่เจ้าออกมาล่าสุด ดังนั้นพ่อจึงมาดูความก้าวกน้าของพวกเจ้าสักหน่อยก่อนที่จะออกเดินทาง และที่สำคัญ ยู่ชาน พ่อมีอะไรบางอย่างจะให้เจ้าด้วย”

เมื่อพูดจบ หลิงตู้ฉิงก็โยนถุงมือคู่หนึ่งให้หลิงยู่ชานและพูดต่อ “ถุงมือคู่นี้จะทำให้เจ้ามีความสามารถในการป้องกันตัวเองเมื่อเผชิญหน้ากับผู้เชี่ยวชาญที่มีพลังเหนือกว่าเจ้า แต่พ่อเองก็ไม่มีวัสดุระดับสูงอยู่มากเท่าไหร่ พ่อก็เลยสามารถสร้างอาวุธวิเศษชิ้นนี้ให้อยู่ได้แค่ในระดับราชวงศ์เท่านั้น”

หลิงยู่ชานรับถุงมือมาสวมใส่และลองทดสอบดู จากนั้นเขาก็พูดอย่างมีความสุข “ขอบคุณมาก ท่านพ่อ!”

“ตอนนี้หมิงจู้กำลังตั้งใจบ่มเพาะอยู่ที่คฤหาสน์ เมื่อบ่มเพาะเสร็จนางอาจจะมาหาเจ้าในเร็ว ๆ นี้และครูถังก็ออกจากทะเลชางหมางไปแล้ว” หลิงตู้ฉิงบอกเขา

หลิงยู่ชานพยักหน้า “ทราบแล้วท่านพ่อ!”

หลิงว่านจุนที่รออยู่ที่ด้านข้างสักพัก เมื่อเขารู้สึกว่าพ่อของเขาไม่ได้เอ่ยเรื่องของที่จะให้กับเขาบ้างเลยก็รีบพูดว่า “ท่านพ่อ แล้วข้าล่ะ เราไม่ได้พบกันนานขนาดนี้ ท่านคงมีของขวัญมาให้ข้าด้วยใช่ไหม?”

หลิงตู้ฉิงยิ้มและพูดว่า “สำหรับเจ้า พ่อจะให้ของขวัญกับเจ้าคือการเล่นหมากรุกกับเจ้าสักหนึ่งกระดานแล้วค่อยไป! จงเตรียมกองกำลังของเจ้า ถ้าเจ้าสามารถบรรลุหมากกระดานนี้ที่พ่อกำลังจะเล่นกับเจ้าได้ เจ้าจะมีอำนาจพอทำให้ศัตรูของเจ้าไม่สามารถเคลื่อนไหวได้แม้แต่ก้าวเดียว เหมือนที่พ่อเคยทำกับคณบดี คณะเตรียมทหาร เว่ยเทียนไล้ ตอนที่พ่อเล่นหมากรุกกับเขาที่สถาบันราชวงศ์เจ้าจำได้ใช่ไหม?”

หลิงว่านจุนรู้สึกผิดหวังมากเมื่อเขาได้ยินว่าสิ่งที่เขาจะได้มันเป็นเพียงแค่การเล่นหมากรุก

อย่างไรก็ตามเมื่อได้ยินส่วนสุดท้ายในคำพูดของหลิงตู้ฉิง เขาก็กระโดดลงจากรถม้าอย่างตื่นเต้น และเรียกทหารทั้งหมดให้มาตั้งแถวรวมกันใกล้ ๆ

หลิงตู้ฉิงเดินออกจากรถม้าและนำกระดานหมากรุกขนาดใหญ่ออกมาวางไว้ตรงหน้าของหลิงว่านจุนทันที

“มาเริ่มกันเลย!” หลิงตู้ฉิงพูดขึ้นด้วยสีหน้าเจ้าเล่ห์

เมื่อหลิงว่านจุนเห็นกระดานหมากรุกตั้งอยู่ตรงหน้า เขาก็เริ่มใช้สมาธิจดจ่ออยู่กับกระดานและเหล่าตัวหมากทันที

“เปิดหมาก!”

หลิงว่านจุนเริ่มผลักเบี้ยทหารของเขาที่อยู่เลนกลางกระดานตรงขึ้นไปทันที พร้อมกับเหล่าทหารของเขาที่อยู่ด้านหลังก็พากันตะโกนกู่ร้อง

“ฆ่า! ฆ่า! ฆ่า!”

หลิงตู้ฉิงมองดูหลิงว่านจุนเล่นหมากรุกอย่างเงียบ ๆ ซึ่งแผนการเล่นของว่านจุนนั้นเน้นไปทางด้านการตั้งรับอย่างเหนียวแน่น

หลิงตู้ฉิงที่เห็นเช่นนี้เขาก็ส่ายหัว และเริ่มวางแผนยุแหย่ให้ลูกชายเขาเข้าโจมตี

Related

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+