พ่อเลี้ยงยอดเซียน (异界无敌奶爸) 267 หารายได้

Now you are reading พ่อเลี้ยงยอดเซียน (异界无敌奶爸) Chapter 267 หารายได้ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 267 หารายได้

เนื่องด้วยจำนวนของพวกเขาที่มีกันหลายคน มันจึงไม่สะดวกที่จะอาศัยในโรงแรม

ที่สำคัญกว่านั้น มี่ไลและหลิวเฟ่ยเฟ่ยยังต้องศึกษาวิชาเจตจำนงแปลงสรรพสิ่งโดยไม่ให้ใครเห็น

ดังนั้นพวกเขาจึงทำได้เพียงเช่าสถานที่เงียบสงบสำหรับพวกเขาเองเท่านั้น หลังจากค้นหาอยู่พักหนึ่ง ในที่สุดพวกเขาก็พบเรือนเช่าราคาถูกทางตอนใต้ของเมือง ชื่อของมันคือสวนอี้หลาน

เพียงแค่เช่าสวนอี้หลานแห่งนี้เพียงวันเดียวก็ต้องใช้เหรียญคริสตัลระดับวิญญาณกว่า 20,000 ชิ้น

หลังจากที่ซือโถวเหวินหยวนจ่ายค่าเช่าเรือนด้วยเหรียญคริสตัลระดับสวรรค์ด้วยความเจ็บปวดแล้ว หลิงตู้ฉิงและคนอื่น ๆ ก็ได้รับสิทธิ์ในการเช่าเรือนเป็นเวลา 2 เดือน

สิ่งที่ต้องรู้คือ เหรียญคริสตัลระดับสวรรค์ 1 เหรียญนั้นมีค่าเท่ากับเหรียญคริสตัลระดับจักรพรรดิ 1 หมื่นเหรียญ หรือ 1 ล้านเหรียญของระดับวิญญาณ เมื่อพวกเขาจ่ายด้วยเหรียญคริสตัลระดับสวรรค์ ดังนั้นพวกเขาจึงได้รับสิทธิ์ในการเช่าและอาศัยอยู่ที่นี่เป็นเวลา 2 เดือน

ไม่เพียงแต่เหรียญคริสตัลระดับสวรรค์จะบริสุทธิ์กว่าเหรียญคริสตัลระดับจักรพรรดิเท่านั้น ที่สำคัญกว่านั้นยังมีร่องรอยของกฎระดับสวรรค์อยู่ภายใน ดังนั้นมันย่อมมีค่ามากกว่าเหรียญคริสตัลระดับจักรพรรดิ

เมื่อเข้าสู่สวนอี้หลาน ทุกคนรู้สึกได้ทันทีว่าพลังวิญญาณในเรือนแห่งนี้นั้นหนาแน่นยิ่งกว่าข้างนอกเป็นร้อยเท่า

เดิมทีหากมองจากภายนอกมันเป็นเรือนที่มีขนาดเล็กมาก แต่หลังจากที่ทุกคนเข้าไปด้านในแล้วพวกเขาก็พบว่าสถานที่ทั้งหมดมีขนาดใหญ่มากและมีขนาดเกือบครึ่งหนึ่งของคฤหาสน์สราญรมย์ แน่นอนว่ายังมีความแตกต่างที่สำคัญนั่นก็คือพลังวิญญาณที่หนาแน่น

เสี่ยวเยว่เฟิงและซือโถวเหวินหยวนรู้อยู่แล้วว่าลานเหล่านี้ล้วนมีลักษณะเช่นนี้ ในทางกลับกันมี่ไลและหลิวเฟ่ยเฟ่ยไม่เคยเห็นมาก่อน ดังนั้นพวกนางจึงประหลาดใจมาก

“สถานที่แห่งนี้นั้นน่าจะถูกสร้างขึ้นโดยผู้เชี่ยวชาญค่ายกลและเหล่าช่างหลอมที่ระดับสูงอยู่พอสมควร หากดูจากตำแหน่งของค่ายกลต่าง ๆ แล้ว มันถูกวางไว้เป็นอย่างดีเพื่อดึงดูดพลังวิญญาณจากภายนอกเข้ามาควบแน่นด้านในนี้” หลิงตู้ฉิงอธิบาย

“สามี ท่านต้องฝึกหนักอีกแล้ว!” มี่ไลหัวเราะ

นางรู้ว่าหลิงตู้ฉิงต้องการพลังวิญญาณจำนวนมากเพื่อบ่มเพาะ และสถานที่แห่งนี้ก็เต็มไปด้วยพลังวิญญาณ ซึ่งมันน่าจะเป็นที่ที่หลิงตู้ฉิงชอบเป็นอย่างมาก

หลิงตู้ฉิงยิ้มและส่ายหัว “มีเพียงเทียนหยุน หลิงเฟิง และ กงหนิวเท่านั้นที่จะได้รับประโยชน์จากที่นี้ ส่วนพวกเราที่เหลือคงไม่ได้ประโยชน์จากมันมากนัก”

ถ้าเขาขาดพลังวิญญาณในการบ่มเพาะ หลิงตู้ฉิงคงจะใช้ค่ายกลวิญญาณบรรจบมานานแล้ว ไม่ใช่ว่าเขาไม่รู้วิธีใช้ค่ายกลระดับที่สูงระดับนี้ แต่สิ่งที่เขาขาดอย่างแท้จริงคือปฏิกิริยาทางอารมณ์ที่รุนแรง

สำหรับคนอื่น ๆ เช่น มี่ไลและหลิวเฟ่ยเฟ่ยที่ระดับการบ่มเพาะของพวกนางได้มาถึงจุดสูงสุดของขอบเขตประสานทะเลปราณระดับ 12 แล้ว พวกนางจะต้องหยุดการบ่มเพาะของพวกนางลงก่อนชั่วคราว ส่วนเสี่ยวเยว่เฟิงที่อยู่ในขอบเขตสวรรค์และซือโถวเหวินหยวนที่เป็นผู้เชี่ยวชาญขอบเขตครึ่งสวรรค์ ดังนั้นพวกเขาจึงไม่ต้องการพลังวิญญาณมากนัก

เหตุผลที่เขาเลือกเรือนนี้ก็เพราะว่ามันกว้างขวางมาก และไม่มีใครจากด้านนอกสามารถมองเห็นสิ่งที่เกิดขึ้นภายในเรือนได้ นั่นคือเหตุผลทั้งหมด

“เอาล่ะ ตอนนี้พวกเจ้าได้รับที่พำนักแล้ว ต่อไปจงขยันฝึกฝน! ข้าต้องรีบสร้างสมบัติวิเศษขายก่อน ไม่เช่นนั้นเราจะไม่มีเงินสำหรับเช่าเรือนนี้หลังจาก 2 เดือนผ่านไป” หลิงตู้ฉิงพูด

เมื่อได้ยินคำสั่ง เสี่ยวเยว่เฟิงก็ลากตัวน้องสาวของนางไปหาที่บ่มเพาะเหมาะ ๆ

เนื่องจากเงื่อนไขสำหรับเสี่ยวหลิงเฟิงในการเข้าสู่เขตแดนวิญญาณผู้ล่วงลับคือการเข้าสู่ขอบเขตประสานทะเลปราณระดับ 12 ให้ได้ และเมื่อตอนนี้พวกนางได้เข้ามาอยู่ในสถานที่ที่เต็มไปด้วยพลังวิญญาณ ดังนั้นนางต้องบังคับน้องสาวฝึกฝนให้หนักสักหน่อย

“พี่สาว ข้าอยากเห็นนายท่านสร้างอาวุธวิเศษระดับราชวงศ์!” เสี่ยวหลิงเฟิงขอร้อง

นางไม่มีแม้แต่อาวุธวิเศษระดับวิญญาณ ดังนั้นนางจึงอยากจะคอยดูวิธีสร้างอาวุธวิเศษระดับราชวงศ์

เสี่ยวเยว่เฟิงพูดอย่างขุ่นเคือง “เจ้าจะดูไปทำไม? งานของเจ้าคือการเข้าสู่ขอบเขตประสานทะเลปราณระดับ 12 ให้เร็วที่สุด นายท่านถึงจะสนใจเจ้า เจ้านี่มันโง่นัก เจ้าไม่สังเกตเหรอว่าตอนนี้ที่ข้างกายของนายท่านมีคนตั้ง 6 คนแล้วที่เต็มใจจะเข้าไปด้านในเขตแดนวิญญาณผู้ล่วงลับ?”

“เมื่อถึงเวลา ถ้าเจ้าไม่พยายาม เจ้าอาจจะเป็นหนึ่งในคนที่นายท่านไม่พาเข้าไปด้านใน นอกจากนี้นายท่านยังเตรียมที่จะทำการแลกเปลี่ยนกับหนิงเฟิง และนั่นก็ยิ่งทำให้โอกาสของเจ้าน้อยลงไปอีก อย่ามัวแต่ทำอะไรเล่น ๆ! นั่งลง ข้าจะถ่ายทอดคาถ าวัฏจักรศักดิ์สิทธิ์ให้เจ้า ดังนั้นจงฝึกให้ดี!”

หนิงเฟิง คือ นายน้อยของภูเขาฟีนิกซ์

ในฐานะพี่สาว นางอดไม่ได้ที่จะกังวลแทนน้องสาวเพราะโอกาสอยู่ตรงหน้าแล้ว หากไม่พยายามที่จะคว้ามันเอาไว้ มันก็คงจะเป็นโศกนาฏกรรมที่แย่ที่สุด

หลังจากนั้นเสี่ยวหลิงเฟิงก็ได้รับการถ่ายทอดคาถาวัฏจักรศักดิ์สิทธิ์และเริ่มบ่มเพาะ

สำหรับหลิงตู้ฉิง หลังจากที่เขาสร้างเขตป้องกันสำหรับมี่ไลและคนอื่น ๆ ในสวนอี้หลานแล้ว เขาก็ปล่อยให้พวกเขาทำความเข้าใจวิชาเจตจำนงแปลงสรรพสิ่งกันต่อไป

สำหรับตัวเขาเอง เขาหยิบวัสดุออกมาและเริ่มสร้างอาวุธวิเศษระดับราชวงศ์ทันที

ตามความสามารถในปัจจุบันของเขาเขาสามารถสร้างอาวุธวิเศษระดับราชวงศ์ 1 ชิ้นได้ในเวลา 2 หรือ 3 วัน

หลังจากผ่านไปครึ่งเดือน ตอนนี้หลิงตู้ฉิงได้สร้างไปแล้ว 3 หรือ 4 ชิ้น

“ข้าจะไปหาหอการค้าและขายอาวุธวิเศษระดับราชวงศ์ เฟิงเจ้าอยู่ที่เรือนและคอยปกป้องทุกคน ซือโถวมากับข้า ถ้าข้าเข้าไปคนเดียว มันอาจมีพวกน่ารำคาญมาคอยก่อกวนข้าอีก” หลิงตู้ฉิงสั่งขึ้น

ซือโถวเหวินหยวนพยักหน้าและยิ้ม “นายท่าน นี่ท่านกลัวปัญหาอย่างนั้นเหรอ”

หลิงตู้ฉิงพูดอย่างช่วยไม่ได้ “ข้าไม่ต้องการจะฆ่าคนหากมันไม่จำเป็น!”

หลิงตู้ฉิงเข้าใจสภาพจิตใจของเขาเองตอนนี้ดีว่าสถานการณ์ปัจจุบันของเขาแตกต่างออกไป เขาจะไม่ตามใจตัวเองเหมือนก่อนหน้านี้อีก

ซือโถวเหวินหยวนยิ้มและคิดกับตัวเองว่า ‘ถึงแม้ท่านจะไม่อยากฆ่าคน แต่บางทีการฆ่าเพื่อขู่มันก็จำเป็นเช่นกัน’

ทั้งสองเดินไปตามถนนมองหาหอการค้า อย่างไรก็ตามพวกเขาอาศัยอยู่ในย่านเขตที่พักอาศัย ซึ่งมันห่างจากเขตการค้า

หลังจากเดินมานาน ในที่สุดพวกเขาก็มาถึงส่วนทิศเหนือของเมืองและพบกับหอการค้ายู่หลาน ทั้งสองจึงเดินเข้าไปด้านใน

“ท่านทั้งสองกำลังมองหาอะไรงั้นหรือ?” พนักงานของหอการค้าเดินมาถาม

หลิงตู้ฉิงยิ้มและพูดว่า “ข้ามาขายอาวุธวิเศษระดับราชวงศ์ และซื้อของบางอย่าง”

เมื่อเขาได้ยินว่าหลิงตู้ฉิงกำลังจะขายอาวุธวิเศษระดับราชวงศ์ พนักงานก็พูดด้วยรอยยิ้มทันที “ข้าสงสัยว่าท่านจะขายอาวุธวิเศษระดับราชวงศ์ ระดับไหน?”

หลิงตู้ฉิงหยิบอาวุธวิเศษระดับราชวงศ์ออกมา และพูดว่า “โปรดประเมินดู!”

เมื่อพนักงานเห็นว่าเป็นอาวุธวิเศษระดับราชวงศ์จริง ๆ และรู้สึกได้ถึงอำนาจกดดันที่ออกมาจากอาวุธชิ้นนี้ เขาก็พูดทันทีว่า “ลูกค้าที่เคารพกรุณารอสักครู่!”

แม้ว่าอาวุธวิเศษระดับราชวงศ์จะสามารถใช้ได้กับผู้เชี่ยวชาญขอบเขตนภาเท่านั้น แต่มันก็ไม่ใช่ว่าผู้เชี่ยวชาญขอบเขตนภาทุกคนจะมีมันในครอบครอง ต้องรู้ไว้ว่าแม้แต่ผู้เชี่ยวชาญขอบเขตสวรรค์บางคนที่ไม่ได้ร่ำรวยนักยังต้องใช้อาวุธวิเศษระดับราชวงศ์อยู่เลย ดังนั้นด้วยมูลค่าและความนิยมของอาวุธวิเศษระดับราชวงศ์ หากมีคนต้องการขายมัน มันย่อมได้รับความสนใจจากหอการค้า

ต่อมาไม่นานผู้เชี่ยวชาญที่อยู่จุดสูงสุดของขอบเขตนภาก็เดินออกมา

เมื่อเขาได้พบกับหลิงตู้ฉิง เขาจึงเริ่มพูดก่อนว่า “ข้าคนชราผู้นี้คือหัวหน้าผู้ประเมินของหอการค้ายู่หลานของเรา ข้ามีนามว่าอู่เวิ่น ข้าขอทราบได้ไหมว่าท่านมีนามว่าอะไร?”

“เจ้าจำเป็นต้องรู้จักตัวตนของข้าด้วยเหรอ หากเจ้าต้องการซื้อของของข้า? เอาล่ะรีบประเมินมันเร็ว ๆ ได้แล้ว” หลิงตู้ฉิงตอบกลับ

“ขออภัยที่ชายชราคนนี้ได้กล่าววาจาหยาบคายออกไป” อู่เวิ่นยิ้ม

เมื่อพูดจบ อู่เวิ่นก็หยิบอาวุธวิเศษระดับราชวงศ์ขึ้นมาและเพ่งมองมันอย่างระมัดระวัง หลังจากนั้นไม่นานเขาก็พูดว่า “ด้วยโลหะที่ใช้สร้างและการประสานกฎแห่งปฐพีเข้าไปในมัน มันจึงเป็นอาวุธที่คมและหนักกว่าอาวุธวิเศษระดับราชวงศ์ทั่วไป มันเหมาะมากสำหรับการใช้งานของผู้บ่มเพาะที่มีทักษะอยู่ในระดับสูง… 3.5 ล้านเหรียญคริสตัลวิญญาณ ท่านคิดว่าอย่างไร?”

หลิงตู้ฉิงพยักหน้าเล็กน้อย “ก็สมเหตุสมผลแล้ว แต่ข้ายังมีอีกอัน!”

ขณะที่เขาพูด เขาหยิบชุดเกราะออกมาและส่งให้อู่เวิ่น

อู่เวิ่นมองไปที่หลิงตู้ฉิงด้วยสายตาเพ่งพินิจ และจากนั้นเขาก็ตรวจสอบชุดเกราะอย่างละเอียด

หลังจากนั้นไม่นานเขาก็หายใจเข้าลึก ๆ และพูดกับหลิงตู้ฉิง “ชุดเกราะชิ้นนี้ถือเป็นเครื่องป้องกันวิเศษระดับราชวงศ์ชั้นยอด ข้าไม่จำเป็นต้องพูดอะไรมา ข้าให้ 11 ล้านเหรียญคริสตัลระดับวิญญาณ ท่านเห็นด้วยกับราคาของข้าหรือไม่?”

หลิงตู้ฉิงพยักหน้าและพูดว่า “ก็ได้ แต่ข้าต้องการเหรียญคริสตัลระดับสวรรค์!”

“ไม่มีปัญหา!” อู่เวิ่นหัวเราะ “แขกผู้มีเกียรติ ท่านยังมีของดีอื่น ๆ อีกรึเปล่า?”

หลิงตู้ฉิงยิ้ม “ข้ายังมี แต่ข้าจะยังไม่ขายมัน ต่อไปนี้ข้าต้องการแลกเปลี่ยน”

“ท่านต้องการที่จะแลกเปลี่ยนอะไรงั้นหรือ?” อู่เวิ่นถามอย่างใจเย็น

“ข้ายังมีโอสถวิญญาณศักดิ์สิทธิ์คุณภาพเยี่ยม!” หลิงตู้ฉิงพูดขึ้น “ข้าต้องการแลกเปลี่ยนกับหน้ากระดาษเคลือบหยก”

Related

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

พ่อเลี้ยงยอดเซียน (异界无敌奶爸) 267 หารายได้

Now you are reading พ่อเลี้ยงยอดเซียน (异界无敌奶爸) Chapter 267 หารายได้ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 267 หารายได้

เนื่องด้วยจำนวนของพวกเขาที่มีกันหลายคน มันจึงไม่สะดวกที่จะอาศัยในโรงแรม

ที่สำคัญกว่านั้น มี่ไลและหลิวเฟ่ยเฟ่ยยังต้องศึกษาวิชาเจตจำนงแปลงสรรพสิ่งโดยไม่ให้ใครเห็น

ดังนั้นพวกเขาจึงทำได้เพียงเช่าสถานที่เงียบสงบสำหรับพวกเขาเองเท่านั้น หลังจากค้นหาอยู่พักหนึ่ง ในที่สุดพวกเขาก็พบเรือนเช่าราคาถูกทางตอนใต้ของเมือง ชื่อของมันคือสวนอี้หลาน

เพียงแค่เช่าสวนอี้หลานแห่งนี้เพียงวันเดียวก็ต้องใช้เหรียญคริสตัลระดับวิญญาณกว่า 20,000 ชิ้น

หลังจากที่ซือโถวเหวินหยวนจ่ายค่าเช่าเรือนด้วยเหรียญคริสตัลระดับสวรรค์ด้วยความเจ็บปวดแล้ว หลิงตู้ฉิงและคนอื่น ๆ ก็ได้รับสิทธิ์ในการเช่าเรือนเป็นเวลา 2 เดือน

สิ่งที่ต้องรู้คือ เหรียญคริสตัลระดับสวรรค์ 1 เหรียญนั้นมีค่าเท่ากับเหรียญคริสตัลระดับจักรพรรดิ 1 หมื่นเหรียญ หรือ 1 ล้านเหรียญของระดับวิญญาณ เมื่อพวกเขาจ่ายด้วยเหรียญคริสตัลระดับสวรรค์ ดังนั้นพวกเขาจึงได้รับสิทธิ์ในการเช่าและอาศัยอยู่ที่นี่เป็นเวลา 2 เดือน

ไม่เพียงแต่เหรียญคริสตัลระดับสวรรค์จะบริสุทธิ์กว่าเหรียญคริสตัลระดับจักรพรรดิเท่านั้น ที่สำคัญกว่านั้นยังมีร่องรอยของกฎระดับสวรรค์อยู่ภายใน ดังนั้นมันย่อมมีค่ามากกว่าเหรียญคริสตัลระดับจักรพรรดิ

เมื่อเข้าสู่สวนอี้หลาน ทุกคนรู้สึกได้ทันทีว่าพลังวิญญาณในเรือนแห่งนี้นั้นหนาแน่นยิ่งกว่าข้างนอกเป็นร้อยเท่า

เดิมทีหากมองจากภายนอกมันเป็นเรือนที่มีขนาดเล็กมาก แต่หลังจากที่ทุกคนเข้าไปด้านในแล้วพวกเขาก็พบว่าสถานที่ทั้งหมดมีขนาดใหญ่มากและมีขนาดเกือบครึ่งหนึ่งของคฤหาสน์สราญรมย์ แน่นอนว่ายังมีความแตกต่างที่สำคัญนั่นก็คือพลังวิญญาณที่หนาแน่น

เสี่ยวเยว่เฟิงและซือโถวเหวินหยวนรู้อยู่แล้วว่าลานเหล่านี้ล้วนมีลักษณะเช่นนี้ ในทางกลับกันมี่ไลและหลิวเฟ่ยเฟ่ยไม่เคยเห็นมาก่อน ดังนั้นพวกนางจึงประหลาดใจมาก

“สถานที่แห่งนี้นั้นน่าจะถูกสร้างขึ้นโดยผู้เชี่ยวชาญค่ายกลและเหล่าช่างหลอมที่ระดับสูงอยู่พอสมควร หากดูจากตำแหน่งของค่ายกลต่าง ๆ แล้ว มันถูกวางไว้เป็นอย่างดีเพื่อดึงดูดพลังวิญญาณจากภายนอกเข้ามาควบแน่นด้านในนี้” หลิงตู้ฉิงอธิบาย

“สามี ท่านต้องฝึกหนักอีกแล้ว!” มี่ไลหัวเราะ

นางรู้ว่าหลิงตู้ฉิงต้องการพลังวิญญาณจำนวนมากเพื่อบ่มเพาะ และสถานที่แห่งนี้ก็เต็มไปด้วยพลังวิญญาณ ซึ่งมันน่าจะเป็นที่ที่หลิงตู้ฉิงชอบเป็นอย่างมาก

หลิงตู้ฉิงยิ้มและส่ายหัว “มีเพียงเทียนหยุน หลิงเฟิง และ กงหนิวเท่านั้นที่จะได้รับประโยชน์จากที่นี้ ส่วนพวกเราที่เหลือคงไม่ได้ประโยชน์จากมันมากนัก”

ถ้าเขาขาดพลังวิญญาณในการบ่มเพาะ หลิงตู้ฉิงคงจะใช้ค่ายกลวิญญาณบรรจบมานานแล้ว ไม่ใช่ว่าเขาไม่รู้วิธีใช้ค่ายกลระดับที่สูงระดับนี้ แต่สิ่งที่เขาขาดอย่างแท้จริงคือปฏิกิริยาทางอารมณ์ที่รุนแรง

สำหรับคนอื่น ๆ เช่น มี่ไลและหลิวเฟ่ยเฟ่ยที่ระดับการบ่มเพาะของพวกนางได้มาถึงจุดสูงสุดของขอบเขตประสานทะเลปราณระดับ 12 แล้ว พวกนางจะต้องหยุดการบ่มเพาะของพวกนางลงก่อนชั่วคราว ส่วนเสี่ยวเยว่เฟิงที่อยู่ในขอบเขตสวรรค์และซือโถวเหวินหยวนที่เป็นผู้เชี่ยวชาญขอบเขตครึ่งสวรรค์ ดังนั้นพวกเขาจึงไม่ต้องการพลังวิญญาณมากนัก

เหตุผลที่เขาเลือกเรือนนี้ก็เพราะว่ามันกว้างขวางมาก และไม่มีใครจากด้านนอกสามารถมองเห็นสิ่งที่เกิดขึ้นภายในเรือนได้ นั่นคือเหตุผลทั้งหมด

“เอาล่ะ ตอนนี้พวกเจ้าได้รับที่พำนักแล้ว ต่อไปจงขยันฝึกฝน! ข้าต้องรีบสร้างสมบัติวิเศษขายก่อน ไม่เช่นนั้นเราจะไม่มีเงินสำหรับเช่าเรือนนี้หลังจาก 2 เดือนผ่านไป” หลิงตู้ฉิงพูด

เมื่อได้ยินคำสั่ง เสี่ยวเยว่เฟิงก็ลากตัวน้องสาวของนางไปหาที่บ่มเพาะเหมาะ ๆ

เนื่องจากเงื่อนไขสำหรับเสี่ยวหลิงเฟิงในการเข้าสู่เขตแดนวิญญาณผู้ล่วงลับคือการเข้าสู่ขอบเขตประสานทะเลปราณระดับ 12 ให้ได้ และเมื่อตอนนี้พวกนางได้เข้ามาอยู่ในสถานที่ที่เต็มไปด้วยพลังวิญญาณ ดังนั้นนางต้องบังคับน้องสาวฝึกฝนให้หนักสักหน่อย

“พี่สาว ข้าอยากเห็นนายท่านสร้างอาวุธวิเศษระดับราชวงศ์!” เสี่ยวหลิงเฟิงขอร้อง

นางไม่มีแม้แต่อาวุธวิเศษระดับวิญญาณ ดังนั้นนางจึงอยากจะคอยดูวิธีสร้างอาวุธวิเศษระดับราชวงศ์

เสี่ยวเยว่เฟิงพูดอย่างขุ่นเคือง “เจ้าจะดูไปทำไม? งานของเจ้าคือการเข้าสู่ขอบเขตประสานทะเลปราณระดับ 12 ให้เร็วที่สุด นายท่านถึงจะสนใจเจ้า เจ้านี่มันโง่นัก เจ้าไม่สังเกตเหรอว่าตอนนี้ที่ข้างกายของนายท่านมีคนตั้ง 6 คนแล้วที่เต็มใจจะเข้าไปด้านในเขตแดนวิญญาณผู้ล่วงลับ?”

“เมื่อถึงเวลา ถ้าเจ้าไม่พยายาม เจ้าอาจจะเป็นหนึ่งในคนที่นายท่านไม่พาเข้าไปด้านใน นอกจากนี้นายท่านยังเตรียมที่จะทำการแลกเปลี่ยนกับหนิงเฟิง และนั่นก็ยิ่งทำให้โอกาสของเจ้าน้อยลงไปอีก อย่ามัวแต่ทำอะไรเล่น ๆ! นั่งลง ข้าจะถ่ายทอดคาถ าวัฏจักรศักดิ์สิทธิ์ให้เจ้า ดังนั้นจงฝึกให้ดี!”

หนิงเฟิง คือ นายน้อยของภูเขาฟีนิกซ์

ในฐานะพี่สาว นางอดไม่ได้ที่จะกังวลแทนน้องสาวเพราะโอกาสอยู่ตรงหน้าแล้ว หากไม่พยายามที่จะคว้ามันเอาไว้ มันก็คงจะเป็นโศกนาฏกรรมที่แย่ที่สุด

หลังจากนั้นเสี่ยวหลิงเฟิงก็ได้รับการถ่ายทอดคาถาวัฏจักรศักดิ์สิทธิ์และเริ่มบ่มเพาะ

สำหรับหลิงตู้ฉิง หลังจากที่เขาสร้างเขตป้องกันสำหรับมี่ไลและคนอื่น ๆ ในสวนอี้หลานแล้ว เขาก็ปล่อยให้พวกเขาทำความเข้าใจวิชาเจตจำนงแปลงสรรพสิ่งกันต่อไป

สำหรับตัวเขาเอง เขาหยิบวัสดุออกมาและเริ่มสร้างอาวุธวิเศษระดับราชวงศ์ทันที

ตามความสามารถในปัจจุบันของเขาเขาสามารถสร้างอาวุธวิเศษระดับราชวงศ์ 1 ชิ้นได้ในเวลา 2 หรือ 3 วัน

หลังจากผ่านไปครึ่งเดือน ตอนนี้หลิงตู้ฉิงได้สร้างไปแล้ว 3 หรือ 4 ชิ้น

“ข้าจะไปหาหอการค้าและขายอาวุธวิเศษระดับราชวงศ์ เฟิงเจ้าอยู่ที่เรือนและคอยปกป้องทุกคน ซือโถวมากับข้า ถ้าข้าเข้าไปคนเดียว มันอาจมีพวกน่ารำคาญมาคอยก่อกวนข้าอีก” หลิงตู้ฉิงสั่งขึ้น

ซือโถวเหวินหยวนพยักหน้าและยิ้ม “นายท่าน นี่ท่านกลัวปัญหาอย่างนั้นเหรอ”

หลิงตู้ฉิงพูดอย่างช่วยไม่ได้ “ข้าไม่ต้องการจะฆ่าคนหากมันไม่จำเป็น!”

หลิงตู้ฉิงเข้าใจสภาพจิตใจของเขาเองตอนนี้ดีว่าสถานการณ์ปัจจุบันของเขาแตกต่างออกไป เขาจะไม่ตามใจตัวเองเหมือนก่อนหน้านี้อีก

ซือโถวเหวินหยวนยิ้มและคิดกับตัวเองว่า ‘ถึงแม้ท่านจะไม่อยากฆ่าคน แต่บางทีการฆ่าเพื่อขู่มันก็จำเป็นเช่นกัน’

ทั้งสองเดินไปตามถนนมองหาหอการค้า อย่างไรก็ตามพวกเขาอาศัยอยู่ในย่านเขตที่พักอาศัย ซึ่งมันห่างจากเขตการค้า

หลังจากเดินมานาน ในที่สุดพวกเขาก็มาถึงส่วนทิศเหนือของเมืองและพบกับหอการค้ายู่หลาน ทั้งสองจึงเดินเข้าไปด้านใน

“ท่านทั้งสองกำลังมองหาอะไรงั้นหรือ?” พนักงานของหอการค้าเดินมาถาม

หลิงตู้ฉิงยิ้มและพูดว่า “ข้ามาขายอาวุธวิเศษระดับราชวงศ์ และซื้อของบางอย่าง”

เมื่อเขาได้ยินว่าหลิงตู้ฉิงกำลังจะขายอาวุธวิเศษระดับราชวงศ์ พนักงานก็พูดด้วยรอยยิ้มทันที “ข้าสงสัยว่าท่านจะขายอาวุธวิเศษระดับราชวงศ์ ระดับไหน?”

หลิงตู้ฉิงหยิบอาวุธวิเศษระดับราชวงศ์ออกมา และพูดว่า “โปรดประเมินดู!”

เมื่อพนักงานเห็นว่าเป็นอาวุธวิเศษระดับราชวงศ์จริง ๆ และรู้สึกได้ถึงอำนาจกดดันที่ออกมาจากอาวุธชิ้นนี้ เขาก็พูดทันทีว่า “ลูกค้าที่เคารพกรุณารอสักครู่!”

แม้ว่าอาวุธวิเศษระดับราชวงศ์จะสามารถใช้ได้กับผู้เชี่ยวชาญขอบเขตนภาเท่านั้น แต่มันก็ไม่ใช่ว่าผู้เชี่ยวชาญขอบเขตนภาทุกคนจะมีมันในครอบครอง ต้องรู้ไว้ว่าแม้แต่ผู้เชี่ยวชาญขอบเขตสวรรค์บางคนที่ไม่ได้ร่ำรวยนักยังต้องใช้อาวุธวิเศษระดับราชวงศ์อยู่เลย ดังนั้นด้วยมูลค่าและความนิยมของอาวุธวิเศษระดับราชวงศ์ หากมีคนต้องการขายมัน มันย่อมได้รับความสนใจจากหอการค้า

ต่อมาไม่นานผู้เชี่ยวชาญที่อยู่จุดสูงสุดของขอบเขตนภาก็เดินออกมา

เมื่อเขาได้พบกับหลิงตู้ฉิง เขาจึงเริ่มพูดก่อนว่า “ข้าคนชราผู้นี้คือหัวหน้าผู้ประเมินของหอการค้ายู่หลานของเรา ข้ามีนามว่าอู่เวิ่น ข้าขอทราบได้ไหมว่าท่านมีนามว่าอะไร?”

“เจ้าจำเป็นต้องรู้จักตัวตนของข้าด้วยเหรอ หากเจ้าต้องการซื้อของของข้า? เอาล่ะรีบประเมินมันเร็ว ๆ ได้แล้ว” หลิงตู้ฉิงตอบกลับ

“ขออภัยที่ชายชราคนนี้ได้กล่าววาจาหยาบคายออกไป” อู่เวิ่นยิ้ม

เมื่อพูดจบ อู่เวิ่นก็หยิบอาวุธวิเศษระดับราชวงศ์ขึ้นมาและเพ่งมองมันอย่างระมัดระวัง หลังจากนั้นไม่นานเขาก็พูดว่า “ด้วยโลหะที่ใช้สร้างและการประสานกฎแห่งปฐพีเข้าไปในมัน มันจึงเป็นอาวุธที่คมและหนักกว่าอาวุธวิเศษระดับราชวงศ์ทั่วไป มันเหมาะมากสำหรับการใช้งานของผู้บ่มเพาะที่มีทักษะอยู่ในระดับสูง… 3.5 ล้านเหรียญคริสตัลวิญญาณ ท่านคิดว่าอย่างไร?”

หลิงตู้ฉิงพยักหน้าเล็กน้อย “ก็สมเหตุสมผลแล้ว แต่ข้ายังมีอีกอัน!”

ขณะที่เขาพูด เขาหยิบชุดเกราะออกมาและส่งให้อู่เวิ่น

อู่เวิ่นมองไปที่หลิงตู้ฉิงด้วยสายตาเพ่งพินิจ และจากนั้นเขาก็ตรวจสอบชุดเกราะอย่างละเอียด

หลังจากนั้นไม่นานเขาก็หายใจเข้าลึก ๆ และพูดกับหลิงตู้ฉิง “ชุดเกราะชิ้นนี้ถือเป็นเครื่องป้องกันวิเศษระดับราชวงศ์ชั้นยอด ข้าไม่จำเป็นต้องพูดอะไรมา ข้าให้ 11 ล้านเหรียญคริสตัลระดับวิญญาณ ท่านเห็นด้วยกับราคาของข้าหรือไม่?”

หลิงตู้ฉิงพยักหน้าและพูดว่า “ก็ได้ แต่ข้าต้องการเหรียญคริสตัลระดับสวรรค์!”

“ไม่มีปัญหา!” อู่เวิ่นหัวเราะ “แขกผู้มีเกียรติ ท่านยังมีของดีอื่น ๆ อีกรึเปล่า?”

หลิงตู้ฉิงยิ้ม “ข้ายังมี แต่ข้าจะยังไม่ขายมัน ต่อไปนี้ข้าต้องการแลกเปลี่ยน”

“ท่านต้องการที่จะแลกเปลี่ยนอะไรงั้นหรือ?” อู่เวิ่นถามอย่างใจเย็น

“ข้ายังมีโอสถวิญญาณศักดิ์สิทธิ์คุณภาพเยี่ยม!” หลิงตู้ฉิงพูดขึ้น “ข้าต้องการแลกเปลี่ยนกับหน้ากระดาษเคลือบหยก”

Related

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+