พ่อเลี้ยงยอดเซียน (异界无敌奶爸) 269 สองภาพวาด

Now you are reading พ่อเลี้ยงยอดเซียน (异界无敌奶爸) Chapter 269 สองภาพวาด at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ซือโถวเหวินหยวนไปที่หมู่ตึกหยูอี่ เพื่อหาข้อมูลเกี่ยวกับยันต์สั่งสวรรค์ และหลังจากนั้นไม่นานเขาก็กลับไปที่สวนอี้หลาน

หลังจากเข้าไปในสวนอี้หลานแล้ว ซือโถวเหวินหยวนก็สังเกตเห็นว่าสถานที่นี้ดูเปลี่ยนไป เมื่อตรวจสอบอย่างละเอียดเขาก็ตระหนักว่า ‘พลังแห่งกฎระหว่างสวรรค์และโลก’ ทั้งหมดได้รับการเสริมกำลังให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น

หากเป็นก่อนหน้านี้ที่เพิ่งย้ายมาอยู่ที่นี่ใหม่ ๆในฐานะผู้เชี่ยวชาญขอบเขตครึ่งสวรรค์เขาคงสามารถทำลายสวนอี้หลานได้อย่างง่ายดาย แต่ตอนนี้เขารู้สึกราวกับว่าพลังแห่งกฎระหว่างสวรรค์และโลกกลายเป็นหนึ่งเดียวกับสวนอี้หลาน ซึ่งหากเขาคิดจะลงโจมตีที่นี่จริงมันคงต้องใช้เวลาอยู่พักใหญ่เลยทีเดียวกว่าที่เขาจะสามารถทะลวงการป้องกันของมันได้

โชคดีที่แม้ว่าสวนอี้หลานจะถูกเสริมการป้องกันให้แข็งแกร่งขึ้น แต่เขาก็ยังคงไม่ถูกปฏิเสธไม่ให้เข้าไปด้านใน

เมื่อเขาพบหลิงตู้ฉิง เขาพบว่าหลิงตู้ฉิงกำลังจัดการกับยันต์ผิวหยก 2 แผ่น เมื่อเห็นท่าทีที่จริงจังของหลิงตู้ฉิง เขาก็กลืนคำพูดลงคอทันทีและมองดูอย่างเงียบ ๆ

ในตอนแรกเขาคิดว่าหลิงตู้ฉิงใช้ยันต์ผิวหยกเพื่อสลักอักขระเวทย์

เนื่องจากยันต์ผิวหยกนี้เป็นสิ่งของระดับสูงที่เหล่าผู้เชี่ยวชาญอักขระเวทย์ระดับสูงนิยมใช้กัน มันสามารถสลักอักขระเวทย์ระดับสูงลงไปได้ และเมื่อใช้งาน มันสามารถปลดปล่อยอำนาจของอักขระเวทย์ที่เคยสลักลงไปออกมาอย่างรวดเร็วโดยที่ไม่ต้องมานั่งเสียเวลาในการวาดอักขระเวทย์ขึ้นมาใหม่ในระหว่างต่อสู้

อย่างไรก็ตามหลังจากยืนดูอยู่เป็นเวลานาน ซือโถวเหวินหยวนก็รู้ว่าหลิงตู้ฉิงไม่ได้สลักอักขระเวทย์ใด ๆ ลงไปบนมันเลย

“นายท่านเขากำลังทำอะไรอยู่งั้นเหรอ?” เมื่อเสี่ยวเยว่เฟิงมาถึงและเห็นสถานการณ์ที่เกิดขึ้นต่อหน้า นางก็ส่งข้อความทางโทรจิตไปถามซือโถวเหวินหยวน

ซือโถวเหวินหยวนตอบด้วยสีหน้าครุ่นคิด “ถ้าข้าเดาไม่ผิด นายท่านกำลังวาดภาพ!”

แม้ว่ามันจะดูเหมือนว่าหลิงตู้ฉิงกำลังวาดภาพ แต่การวาดภาพจะดูแปลกขนาดนี้ได้อย่างไร?

ในเวลานี้ร่างของสัตว์ประหลาดค่อย ๆ ปรากฏขึ้นบนยันต์ผิวหยก สัตว์ประหลาดตัวนี้ดูแปลกตาและกำลังอ้าปากกว้างคล้ายกับกำลังคำรามใส่บางสิ่ง แต่มันก็ไม่ได้ส่งเสียงหรือแสดงพลังใด ๆ

หลิงตู้ฉิงวาดสัตว์ประหลาดตัวนี้อย่างระมัดระวัง

สองวันต่อมาในที่สุดหลิงตู้ฉิงก็วาดมันได้สำเร็จ

แม้ว่ามันจะเป็นภาพสัตว์ประหลาดที่กำลังอ้าปากคำราม แต่นอกเหนือจากนั้นก็ไม่มีรายละเอียดอะไรเพิ่มเติมอีก

จากนั้นหลิงตู้ฉิงเริ่มจัดการยันต์ผิวหยกแผ่นที่สองทันที คราวนี้ทั้งเสี่ยวเยว่เฟิงและซือโถวเหวินหยวนเข้าใจว่าสิ่งที่หลิงตู้ฉิงวาดน่าจะเป็นธนู

นอกจากคันธนูแล้วยังมีลูกศรอีกสามดอก ซึ่งทั้งสองคนก็ไม่สามารถบอกได้เช่นกันว่าธนูนั้นทรงพลังเพียงใด

อย่างไรก็ตามสำหรับยันต์แผ่นใหม่ หลิงตู้ฉิงใช้เวลา 5 วันในการวาดคันธนูและลูกศรสามดอกถึงจะเสร็จ

แม้ว่าเสี่ยวเยว่เฟิงและซือโถวเหวินหยวนจะไม่เข้าใจ แต่พวกเขาก็รู้ว่าหลิงตู้ฉิงจะไม่ยอมเสียเวลาไปกับสิ่งที่ไร้ประโยชน์ แต่พวกเขาก็ไม่รู้เช่นกันว่าภาพวาดทั้งสองนี้ใช้ประโยชน์อะไรได้

เมื่อเทียบกับความสับสนของทั้งคู่ หลิงตู้ฉิงดูพอใจกับภาพวาดสองภาพที่อยู่ตรงหน้าเขามาก

“ข้าจะให้อสูรเขมือบสวรรค์ตัวนี้ไว้กับเจ้า หากพบกับศัตรูที่แข็งแกร่งจงเปิดใช้งานตามวิธีที่ข้ากำลังจะสอนให้ไว้” หลิงตู้ฉิงส่งภาพอสูรเขมือบสวรรค์ให้กับซือโถวเหวินหยวน และสอนซือโถวเหวินหยวนเกี่ยวกับวิธีการอัญเชิญสัตว์ประหลาดตัวนี้และเรื่องอื่นที่ต้องใส่ใจ

“อย่าใช้มัน เว้นแต่ศัตรูจะอยู่ในขอบเขตสวรรค์สามัญหรือสูงกว่า” หลิงตู้ฉิงเน้นย้ำ

ซือโถวเหวินหยวนพยักหน้าอย่างรวดเร็ว “นายท่าน ข้าเข้าใจแล้ว!”

แม้ว่าเขาจะเรียนรู้ทักษะการอัญเชิญ แต่เขาก็ไม่รู้ว่าสัตว์อสูรเขมือบสวรรค์นี้ทรงพลังเพียงใด

จากนั้น หลิงตู้ฉิงก็ส่งภาพ ‘ธนูและลูกศร’ ให้เสี่ยวเยว่เฟิงและพูดว่า “นี่สำหรับเจ้า แล้วยังมีวิธีเปิดใช้งานด้วย! แต่จงจำไว้มันมีลูกศรเพียงสามดอกที่สามารถใช้ได้สามครั้งเท่านั้น ห้ามใช้ตามใจชอบ พูดตามตรงถึงแม้ว่าเจ้าจะใช้มันกับผู้เชี่ยวชาญขอบเขตสวรรค์สามัญก็ยังถือว่าเป็นการใช้อย่างสิ้นเปลือง”

เสี่ยวเยว่เฟิงสั่นสะท้าน นางรีบพูดว่า “นายท่าน ข้าจะไม่ใช้มันเว้นแต่ข้าจะไม่มีทางเลือกอื่น”

นางรู้สึกแปลก ๆ เล็กน้อย สิ่งนี้มีพลังขนาดนั้นจริงหรือ?

“ในอนาคต หนึ่งในพวกเจ้าจะต้องอยู่ปกป้องสวนอี้หลาน ขณะที่อีกคนจะเดินทางไปกับข้า” หลิงตู้ฉิงพูด “เรายังต้องอาศัยอยู่ในเมืองเจินไห่อีกนาน นอกจากนั้นซือโถว ข้าขอให้เจ้าไปหาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับยันต์สั่งสวรรค์”

ซือโถวเหวินหยวนรีบพูดว่า “นายท่าน ข้ากำลังจะรายงานท่านเรื่องนี้พอดี ข้าได้ไปหาข้อมูลมาเรียบร้อยและพบว่ามี ‘ยันต์สั่งสวรรค์’ อยู่จริง ๆ อย่างไรก็ตาม ยันต์สั่งสวรรค์แผ่นนี้ไม่สามารถใช้สิ่งของใด ๆ แลกเปลี่ยนมาได้ ผู้ที่ต้องการครอบครองมันจะต้องเป็นผู้ที่มีชะตาลิขิตถูกเลือกเอาไว้เท่านั้น”

“เพียงเพราะข่าวลือนี้ผู้เชี่ยวชาญอักขระเวทย์หลายคนจึงมารวมตัวกันที่ลานของหมู่ตึกหยูอี่ หลายคนได้ศึกษาเรื่องเกี่ยวกับมันมานานแล้ว แต่ก็ยังไม่มีใครได้ครอบครอง ‘ยันต์สั่งสวรรค์’ แม้แต่คนเดียว”

หลิงตู้ฉิงขมวดคิ้วและถามว่า “นี่พวกเขากำลังมองหาคนที่ถูกเลือกจริง ๆ งั้นเหรอ? พวกเขากำลังทำบ้าอะไรกันอยู่?”

ซือโถวเหวินหยวนยิ้มอย่างขมขื่นและพูดว่า “ข้าก็ไม่รู้ถึงเหตุผลนี้เช่นกัน แต่ข้าคิดว่ามันอาจจะเป็นกลอุบายอะไรสักอย่างก็ได้! นายท่านอาจไม่รู้ แต่ยันต์สั่งสวรรค์นี้ทำให้พวกเขามีชื่อเสียงและผลประโยชน์มหาศาล”

“ถ้าอย่างนั้นเดี๋ยวเราไปดูกันก่อนแล้วกันว่ามันเกิดอะไรขึ้นกันแน่” หลิงตู้ฉิงพูดขึ้น “แต่ก่อนที่จะไปข้าจะสร้างสมบัติวิเศษเพิ่มขึ้นสักหน่อยแล้วเอาไปขายหาเงินเพิ่มอีก แล้วข้าจะให้เหรียญคริสตัลระดับสวรรค์อีก 5 เหรียญเพื่อให้เจ้านำไปจ่ายค่าเช่าเรือนหลังนี้ต่ออายุไปอีก 1 ปี”

จากนั้นหลิงตู้ฉิงก็เริ่มสร้างอาวุธวิเศษระดับราชวงศ์ และหลอมโอสถอยู่ครึ่งเดือน หลังจากนั้นหลิงตู้ฉิงจึงหยุดพัก

“หยุดพักกันสักหน่อยก่อน วันนี้เราจะออกไปเดินเล่นแล้วจะไปดูยันต์สั่งสวรรค์ที่หมู่ตึกหยูอี่กัน” หลิงตู้ฉิงบอกกับมี่ไลและคนอื่น ๆ

แม้ว่าเรื่องของการบ่มเพาะจะสำคัญ แต่ความรู้และประสบการณ์ก็สำคัญไม่แพ้กัน ด้วยเหตุนี้เสี่ยวเยว่เฟิงจึงพาน้องสาวมาด้วย

นางได้ถ่ายทอดคาถาวัฏจักรศักดิ์สิทธิ์ให้น้องสาวแล้ว เมื่อพิจารณาความคืบหน้า น้องสาวของนางน่าจะสามารถฝึกฝนจนถึงขอบเขตประสานทะเลปราณระดับ 12 ได้ทันเวลา ดังนั้นนางจึงไม่รีบร้อนอีก

อาคารหยูอี่นั้นตั้งอยู่ส่วนทิศเหนือของเมือง ซึ่งเป็นเขตที่มีผู้คนอยู่อย่างหนาแน่น พวกหลิงตู้ฉิงจึงต้องเดินเท้าเข้าไป เนื่องจากไม่สามารถให้กงหนิวฝ่าฝูงชนเข้าไปได้

เมื่อพวกเขามาถึงเขตทิศเหนือของเมือง เมื่อใดก็ตามที่พวกเขาเห็นหอการค้า หลิงคู้ฉิงจะแวะเข้าไปในหอการค้าเหล่านั้นเพื่อแบ่งอาวุธวิเศษระดับราชวงศ์ และโอสถที่เขาหลอมมาออกไปขาย ซึ่งพฤติกรรมแปลก ๆ ของกลุ่มพวกเขาดึงดูดความสนใจของใครบางคนทันที จากนั้นพวกเขามาถึงหอการค้าชื่อหอการค้าพิรุณทองคำ

“ยินดีต้อนรับสู่ หอการค้าพิรุณทองคำ ไม่ทราบว่าท่านต้องการสินค้าประเภทใดงั้นหรือ?” คนดูแลร้านของหอการค้าพิรุณทองคำรีบถามหลิงตู้ฉิงทันที

หลิงตู้ฉิงยิ้มและพูดว่า “ตอนนี้ข้าคงขอดูก่อน ถ้าเจอของถูกใจข้าก็จะซื้อ”

เมื่อพูดจบ หลิงตู้ฉิงก็ไม่ได้รั้งอยู่ที่ชั้นหนึ่งของหอการค้านี้ ซึ่งมีแต่สิ่งของธรรมดาที่อยู่ในระดับวิญญาณ หลิงตู้ฉิงที่ไม่ได้สนใจในของระดับต่ำเหล่านี้ เขาจึงนำทุกคนขึ้นไปที่ชั้นสอง ซึ่งชั้นนี้มีแต่วัสดุระดับราชวงศ์ขึ้นไปเท่านั้น

หลิงตู้ฉิงเหลือบมองไปรอบ ๆ ทันใดนั้นก็ชี้ไปที่แส้ยาวและพูดกับคนดูแลร้าน “ขอข้าดูอันนั้นที”

แส้ยาวนี้เป็นอาวุธวิเศษระดับราชวงศ์อันเลื่องชื่อ มันถูกเรียกว่า แส้แยกภูเขาและมีราคาถึง 7 ล้านเหรียญคริสตัลระดับวิญญาณ

คนดูแลร้านชำเลืองมองไปที่ซือโถวเหวินหยวนและเสี่ยวเยว่เฟิง จากนั้นก็มอบแส้แยกภูเขาให้กับหลิงตู้ฉิง

หลิงตู้ฉิงหยิบมันขึ้นมาและตรวจสอบอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นก็หันกลับมาและพูดกับมี่ไลว่า “มอบเงินให้เขา”

มี่ไลจ่ายเงินขณะที่รู้สึกแปลก ๆ นางไม่ได้ถามหลิงตู้ฉิงว่าทำไมเขาถึงต้องการซื้อ แส้แยกภูเขา เพราะว่าหลิงตู้ฉิงเองก็สามารถสร้างอาวุธวิเศษระดับราชวงศ์เองก็ได้ ฉะนั้นจากมุมมองของนางจึงเดาไปว่าวัสดุที่ใช้ทำแส้นี้คงจะไปถูกใจหลิงตู้ฉิงแทนล่ะมั้ง?

หลิงตู้ฉิงชี้ขึ้นไปชั้นบนและถามคนดูแลร้านของหอการค้าพิรุณทองคำ “บนนั้นมีอะไรบ้าง?”

คนดูแลร้านซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญขอบเขตรวมแสงดารา ตอบกลับด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย “ชั้นที่สามของเราเต็มไปด้วยสินค้าคุณภาพเยี่ยมที่สุด มูลค่าต่ำสุดของสินค้าที่อยู่ด้านบนนั้นอย่างน้อยก็คือ 10 ล้านเหรียญคริสตัลระดับวิญญาณครับ”

หลิงตู้ฉิงแสดงโอสถวิญญาณบริสุทธิ์ในมือของเขาและพูดว่า “ข้าขอขึ้นไปดูได้ไหม?”

เมื่อเห็นโอสถวิญญาณบริสุทธิ์ คนดูแลร้านก็ตอบกลับด้วยน้ำเสียงนอบน้อมทันที

“แขกผู้มีเกียรติทุกท่าน เชิญทางนี้!”

Related

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

พ่อเลี้ยงยอดเซียน (异界无敌奶爸) 269 สองภาพวาด

Now you are reading พ่อเลี้ยงยอดเซียน (异界无敌奶爸) Chapter 269 สองภาพวาด at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ซือโถวเหวินหยวนไปที่หมู่ตึกหยูอี่ เพื่อหาข้อมูลเกี่ยวกับยันต์สั่งสวรรค์ และหลังจากนั้นไม่นานเขาก็กลับไปที่สวนอี้หลาน

หลังจากเข้าไปในสวนอี้หลานแล้ว ซือโถวเหวินหยวนก็สังเกตเห็นว่าสถานที่นี้ดูเปลี่ยนไป เมื่อตรวจสอบอย่างละเอียดเขาก็ตระหนักว่า ‘พลังแห่งกฎระหว่างสวรรค์และโลก’ ทั้งหมดได้รับการเสริมกำลังให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น

หากเป็นก่อนหน้านี้ที่เพิ่งย้ายมาอยู่ที่นี่ใหม่ ๆในฐานะผู้เชี่ยวชาญขอบเขตครึ่งสวรรค์เขาคงสามารถทำลายสวนอี้หลานได้อย่างง่ายดาย แต่ตอนนี้เขารู้สึกราวกับว่าพลังแห่งกฎระหว่างสวรรค์และโลกกลายเป็นหนึ่งเดียวกับสวนอี้หลาน ซึ่งหากเขาคิดจะลงโจมตีที่นี่จริงมันคงต้องใช้เวลาอยู่พักใหญ่เลยทีเดียวกว่าที่เขาจะสามารถทะลวงการป้องกันของมันได้

โชคดีที่แม้ว่าสวนอี้หลานจะถูกเสริมการป้องกันให้แข็งแกร่งขึ้น แต่เขาก็ยังคงไม่ถูกปฏิเสธไม่ให้เข้าไปด้านใน

เมื่อเขาพบหลิงตู้ฉิง เขาพบว่าหลิงตู้ฉิงกำลังจัดการกับยันต์ผิวหยก 2 แผ่น เมื่อเห็นท่าทีที่จริงจังของหลิงตู้ฉิง เขาก็กลืนคำพูดลงคอทันทีและมองดูอย่างเงียบ ๆ

ในตอนแรกเขาคิดว่าหลิงตู้ฉิงใช้ยันต์ผิวหยกเพื่อสลักอักขระเวทย์

เนื่องจากยันต์ผิวหยกนี้เป็นสิ่งของระดับสูงที่เหล่าผู้เชี่ยวชาญอักขระเวทย์ระดับสูงนิยมใช้กัน มันสามารถสลักอักขระเวทย์ระดับสูงลงไปได้ และเมื่อใช้งาน มันสามารถปลดปล่อยอำนาจของอักขระเวทย์ที่เคยสลักลงไปออกมาอย่างรวดเร็วโดยที่ไม่ต้องมานั่งเสียเวลาในการวาดอักขระเวทย์ขึ้นมาใหม่ในระหว่างต่อสู้

อย่างไรก็ตามหลังจากยืนดูอยู่เป็นเวลานาน ซือโถวเหวินหยวนก็รู้ว่าหลิงตู้ฉิงไม่ได้สลักอักขระเวทย์ใด ๆ ลงไปบนมันเลย

“นายท่านเขากำลังทำอะไรอยู่งั้นเหรอ?” เมื่อเสี่ยวเยว่เฟิงมาถึงและเห็นสถานการณ์ที่เกิดขึ้นต่อหน้า นางก็ส่งข้อความทางโทรจิตไปถามซือโถวเหวินหยวน

ซือโถวเหวินหยวนตอบด้วยสีหน้าครุ่นคิด “ถ้าข้าเดาไม่ผิด นายท่านกำลังวาดภาพ!”

แม้ว่ามันจะดูเหมือนว่าหลิงตู้ฉิงกำลังวาดภาพ แต่การวาดภาพจะดูแปลกขนาดนี้ได้อย่างไร?

ในเวลานี้ร่างของสัตว์ประหลาดค่อย ๆ ปรากฏขึ้นบนยันต์ผิวหยก สัตว์ประหลาดตัวนี้ดูแปลกตาและกำลังอ้าปากกว้างคล้ายกับกำลังคำรามใส่บางสิ่ง แต่มันก็ไม่ได้ส่งเสียงหรือแสดงพลังใด ๆ

หลิงตู้ฉิงวาดสัตว์ประหลาดตัวนี้อย่างระมัดระวัง

สองวันต่อมาในที่สุดหลิงตู้ฉิงก็วาดมันได้สำเร็จ

แม้ว่ามันจะเป็นภาพสัตว์ประหลาดที่กำลังอ้าปากคำราม แต่นอกเหนือจากนั้นก็ไม่มีรายละเอียดอะไรเพิ่มเติมอีก

จากนั้นหลิงตู้ฉิงเริ่มจัดการยันต์ผิวหยกแผ่นที่สองทันที คราวนี้ทั้งเสี่ยวเยว่เฟิงและซือโถวเหวินหยวนเข้าใจว่าสิ่งที่หลิงตู้ฉิงวาดน่าจะเป็นธนู

นอกจากคันธนูแล้วยังมีลูกศรอีกสามดอก ซึ่งทั้งสองคนก็ไม่สามารถบอกได้เช่นกันว่าธนูนั้นทรงพลังเพียงใด

อย่างไรก็ตามสำหรับยันต์แผ่นใหม่ หลิงตู้ฉิงใช้เวลา 5 วันในการวาดคันธนูและลูกศรสามดอกถึงจะเสร็จ

แม้ว่าเสี่ยวเยว่เฟิงและซือโถวเหวินหยวนจะไม่เข้าใจ แต่พวกเขาก็รู้ว่าหลิงตู้ฉิงจะไม่ยอมเสียเวลาไปกับสิ่งที่ไร้ประโยชน์ แต่พวกเขาก็ไม่รู้เช่นกันว่าภาพวาดทั้งสองนี้ใช้ประโยชน์อะไรได้

เมื่อเทียบกับความสับสนของทั้งคู่ หลิงตู้ฉิงดูพอใจกับภาพวาดสองภาพที่อยู่ตรงหน้าเขามาก

“ข้าจะให้อสูรเขมือบสวรรค์ตัวนี้ไว้กับเจ้า หากพบกับศัตรูที่แข็งแกร่งจงเปิดใช้งานตามวิธีที่ข้ากำลังจะสอนให้ไว้” หลิงตู้ฉิงส่งภาพอสูรเขมือบสวรรค์ให้กับซือโถวเหวินหยวน และสอนซือโถวเหวินหยวนเกี่ยวกับวิธีการอัญเชิญสัตว์ประหลาดตัวนี้และเรื่องอื่นที่ต้องใส่ใจ

“อย่าใช้มัน เว้นแต่ศัตรูจะอยู่ในขอบเขตสวรรค์สามัญหรือสูงกว่า” หลิงตู้ฉิงเน้นย้ำ

ซือโถวเหวินหยวนพยักหน้าอย่างรวดเร็ว “นายท่าน ข้าเข้าใจแล้ว!”

แม้ว่าเขาจะเรียนรู้ทักษะการอัญเชิญ แต่เขาก็ไม่รู้ว่าสัตว์อสูรเขมือบสวรรค์นี้ทรงพลังเพียงใด

จากนั้น หลิงตู้ฉิงก็ส่งภาพ ‘ธนูและลูกศร’ ให้เสี่ยวเยว่เฟิงและพูดว่า “นี่สำหรับเจ้า แล้วยังมีวิธีเปิดใช้งานด้วย! แต่จงจำไว้มันมีลูกศรเพียงสามดอกที่สามารถใช้ได้สามครั้งเท่านั้น ห้ามใช้ตามใจชอบ พูดตามตรงถึงแม้ว่าเจ้าจะใช้มันกับผู้เชี่ยวชาญขอบเขตสวรรค์สามัญก็ยังถือว่าเป็นการใช้อย่างสิ้นเปลือง”

เสี่ยวเยว่เฟิงสั่นสะท้าน นางรีบพูดว่า “นายท่าน ข้าจะไม่ใช้มันเว้นแต่ข้าจะไม่มีทางเลือกอื่น”

นางรู้สึกแปลก ๆ เล็กน้อย สิ่งนี้มีพลังขนาดนั้นจริงหรือ?

“ในอนาคต หนึ่งในพวกเจ้าจะต้องอยู่ปกป้องสวนอี้หลาน ขณะที่อีกคนจะเดินทางไปกับข้า” หลิงตู้ฉิงพูด “เรายังต้องอาศัยอยู่ในเมืองเจินไห่อีกนาน นอกจากนั้นซือโถว ข้าขอให้เจ้าไปหาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับยันต์สั่งสวรรค์”

ซือโถวเหวินหยวนรีบพูดว่า “นายท่าน ข้ากำลังจะรายงานท่านเรื่องนี้พอดี ข้าได้ไปหาข้อมูลมาเรียบร้อยและพบว่ามี ‘ยันต์สั่งสวรรค์’ อยู่จริง ๆ อย่างไรก็ตาม ยันต์สั่งสวรรค์แผ่นนี้ไม่สามารถใช้สิ่งของใด ๆ แลกเปลี่ยนมาได้ ผู้ที่ต้องการครอบครองมันจะต้องเป็นผู้ที่มีชะตาลิขิตถูกเลือกเอาไว้เท่านั้น”

“เพียงเพราะข่าวลือนี้ผู้เชี่ยวชาญอักขระเวทย์หลายคนจึงมารวมตัวกันที่ลานของหมู่ตึกหยูอี่ หลายคนได้ศึกษาเรื่องเกี่ยวกับมันมานานแล้ว แต่ก็ยังไม่มีใครได้ครอบครอง ‘ยันต์สั่งสวรรค์’ แม้แต่คนเดียว”

หลิงตู้ฉิงขมวดคิ้วและถามว่า “นี่พวกเขากำลังมองหาคนที่ถูกเลือกจริง ๆ งั้นเหรอ? พวกเขากำลังทำบ้าอะไรกันอยู่?”

ซือโถวเหวินหยวนยิ้มอย่างขมขื่นและพูดว่า “ข้าก็ไม่รู้ถึงเหตุผลนี้เช่นกัน แต่ข้าคิดว่ามันอาจจะเป็นกลอุบายอะไรสักอย่างก็ได้! นายท่านอาจไม่รู้ แต่ยันต์สั่งสวรรค์นี้ทำให้พวกเขามีชื่อเสียงและผลประโยชน์มหาศาล”

“ถ้าอย่างนั้นเดี๋ยวเราไปดูกันก่อนแล้วกันว่ามันเกิดอะไรขึ้นกันแน่” หลิงตู้ฉิงพูดขึ้น “แต่ก่อนที่จะไปข้าจะสร้างสมบัติวิเศษเพิ่มขึ้นสักหน่อยแล้วเอาไปขายหาเงินเพิ่มอีก แล้วข้าจะให้เหรียญคริสตัลระดับสวรรค์อีก 5 เหรียญเพื่อให้เจ้านำไปจ่ายค่าเช่าเรือนหลังนี้ต่ออายุไปอีก 1 ปี”

จากนั้นหลิงตู้ฉิงก็เริ่มสร้างอาวุธวิเศษระดับราชวงศ์ และหลอมโอสถอยู่ครึ่งเดือน หลังจากนั้นหลิงตู้ฉิงจึงหยุดพัก

“หยุดพักกันสักหน่อยก่อน วันนี้เราจะออกไปเดินเล่นแล้วจะไปดูยันต์สั่งสวรรค์ที่หมู่ตึกหยูอี่กัน” หลิงตู้ฉิงบอกกับมี่ไลและคนอื่น ๆ

แม้ว่าเรื่องของการบ่มเพาะจะสำคัญ แต่ความรู้และประสบการณ์ก็สำคัญไม่แพ้กัน ด้วยเหตุนี้เสี่ยวเยว่เฟิงจึงพาน้องสาวมาด้วย

นางได้ถ่ายทอดคาถาวัฏจักรศักดิ์สิทธิ์ให้น้องสาวแล้ว เมื่อพิจารณาความคืบหน้า น้องสาวของนางน่าจะสามารถฝึกฝนจนถึงขอบเขตประสานทะเลปราณระดับ 12 ได้ทันเวลา ดังนั้นนางจึงไม่รีบร้อนอีก

อาคารหยูอี่นั้นตั้งอยู่ส่วนทิศเหนือของเมือง ซึ่งเป็นเขตที่มีผู้คนอยู่อย่างหนาแน่น พวกหลิงตู้ฉิงจึงต้องเดินเท้าเข้าไป เนื่องจากไม่สามารถให้กงหนิวฝ่าฝูงชนเข้าไปได้

เมื่อพวกเขามาถึงเขตทิศเหนือของเมือง เมื่อใดก็ตามที่พวกเขาเห็นหอการค้า หลิงคู้ฉิงจะแวะเข้าไปในหอการค้าเหล่านั้นเพื่อแบ่งอาวุธวิเศษระดับราชวงศ์ และโอสถที่เขาหลอมมาออกไปขาย ซึ่งพฤติกรรมแปลก ๆ ของกลุ่มพวกเขาดึงดูดความสนใจของใครบางคนทันที จากนั้นพวกเขามาถึงหอการค้าชื่อหอการค้าพิรุณทองคำ

“ยินดีต้อนรับสู่ หอการค้าพิรุณทองคำ ไม่ทราบว่าท่านต้องการสินค้าประเภทใดงั้นหรือ?” คนดูแลร้านของหอการค้าพิรุณทองคำรีบถามหลิงตู้ฉิงทันที

หลิงตู้ฉิงยิ้มและพูดว่า “ตอนนี้ข้าคงขอดูก่อน ถ้าเจอของถูกใจข้าก็จะซื้อ”

เมื่อพูดจบ หลิงตู้ฉิงก็ไม่ได้รั้งอยู่ที่ชั้นหนึ่งของหอการค้านี้ ซึ่งมีแต่สิ่งของธรรมดาที่อยู่ในระดับวิญญาณ หลิงตู้ฉิงที่ไม่ได้สนใจในของระดับต่ำเหล่านี้ เขาจึงนำทุกคนขึ้นไปที่ชั้นสอง ซึ่งชั้นนี้มีแต่วัสดุระดับราชวงศ์ขึ้นไปเท่านั้น

หลิงตู้ฉิงเหลือบมองไปรอบ ๆ ทันใดนั้นก็ชี้ไปที่แส้ยาวและพูดกับคนดูแลร้าน “ขอข้าดูอันนั้นที”

แส้ยาวนี้เป็นอาวุธวิเศษระดับราชวงศ์อันเลื่องชื่อ มันถูกเรียกว่า แส้แยกภูเขาและมีราคาถึง 7 ล้านเหรียญคริสตัลระดับวิญญาณ

คนดูแลร้านชำเลืองมองไปที่ซือโถวเหวินหยวนและเสี่ยวเยว่เฟิง จากนั้นก็มอบแส้แยกภูเขาให้กับหลิงตู้ฉิง

หลิงตู้ฉิงหยิบมันขึ้นมาและตรวจสอบอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นก็หันกลับมาและพูดกับมี่ไลว่า “มอบเงินให้เขา”

มี่ไลจ่ายเงินขณะที่รู้สึกแปลก ๆ นางไม่ได้ถามหลิงตู้ฉิงว่าทำไมเขาถึงต้องการซื้อ แส้แยกภูเขา เพราะว่าหลิงตู้ฉิงเองก็สามารถสร้างอาวุธวิเศษระดับราชวงศ์เองก็ได้ ฉะนั้นจากมุมมองของนางจึงเดาไปว่าวัสดุที่ใช้ทำแส้นี้คงจะไปถูกใจหลิงตู้ฉิงแทนล่ะมั้ง?

หลิงตู้ฉิงชี้ขึ้นไปชั้นบนและถามคนดูแลร้านของหอการค้าพิรุณทองคำ “บนนั้นมีอะไรบ้าง?”

คนดูแลร้านซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญขอบเขตรวมแสงดารา ตอบกลับด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย “ชั้นที่สามของเราเต็มไปด้วยสินค้าคุณภาพเยี่ยมที่สุด มูลค่าต่ำสุดของสินค้าที่อยู่ด้านบนนั้นอย่างน้อยก็คือ 10 ล้านเหรียญคริสตัลระดับวิญญาณครับ”

หลิงตู้ฉิงแสดงโอสถวิญญาณบริสุทธิ์ในมือของเขาและพูดว่า “ข้าขอขึ้นไปดูได้ไหม?”

เมื่อเห็นโอสถวิญญาณบริสุทธิ์ คนดูแลร้านก็ตอบกลับด้วยน้ำเสียงนอบน้อมทันที

“แขกผู้มีเกียรติทุกท่าน เชิญทางนี้!”

Related

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+