พ่อเลี้ยงยอดเซียน (异界无敌奶爸) 307 หญิงสาวผู้ร่ำรวย

Now you are reading พ่อเลี้ยงยอดเซียน (异界无敌奶爸) Chapter 307 หญิงสาวผู้ร่ำรวย at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 307 หญิงสาวผู้ร่ำรวย

เมื่อเย่ชิงเฉิงตื่นขึ้นจากห้วงแห่งความฝัน นางมองไปที่หลิงตู้ฉิง ซึ่งนั่งอยู่ตรงหน้าด้วยแววตาประหลาดใจ

วิชาที่สูญหายไปนับหมื่นปีเหตุใดจึงปรากฏขึ้นกับคนผู้นี้?

นอกจากนี้มันยิ่งทำให้นางเริ่มสับสนหนักเข้าไปใหญ่ว่า หลิงตู้ฉิงเน้นการฝึกฝนไปในทิศทางไหนกันแน่

ในตอนแรกนางคิดว่า หลิงตู้ฉิงเป็นผู้เชี่ยวชาญอักขระเวทย์ แต่หลังจากสนทนากับสีเป่ยเซียะ นางก็พบว่าหลิงตู้ฉิงเป็นนักหลอมโอสถที่น่าทึ่ง และเมื่อครู่ตอนที่นางนั่งอยู่ตรงหน้าเขา เขากลับกำลังสร้างอาวุธวิเศษระดับราชวงศ์ขั้นสูงสุดโดยเหมือนกับว่ามันไม่ใช่เรื่องยากอะไรเลยด้วยซ้ำ คน ๆ หนึ่งจะมีความสามารถหลากหลายแบบนี้ได้ยังไง?

นางเหม่อมองไปที่หลิงตู้ฉิงอยู่สักพัก จากนั้นก็ถามว่า “เจ้าเรียนรู้ วิชาห้วงนิทราแห่งราชันย์ มาได้ยังไง?”

หลิงตู้ฉิงมองไปที่เย่ชิงเฉิง และพูดอย่างเรียบเฉย “ครั้งหนึ่งมีชายคนหนึ่งพยายามใช้วิชาห้วงนิทราแห่งราชันย์เพื่อสังหารข้า แต่เขาทำไม่สำเร็จและถูกข้าสังหารลง หลังจากนั้นข้าจึงได้เรียนรู้วิชาห้วงนิทราแห่งราชันย์”

ได้ยินเช่นนี้ เยว่ชิงเฉิงก็ยิ่งงุนงงหนักเข้าไปใหญ่ นางพูดอย่างติด ๆ ขัด ๆ “วิชาห้วงนิทราแห่งราชันย์นี้เป็นวิชาลับของอารามจินตภาพ ซึ่งมีแต่ผู้สืบทอดเท่านั้นที่จะได้รับการถ่ายทอดมา นี่เจ้ารู้บ้างรึเปล่าว่าการเลือกผู้สืบทอดของอารามจินตภาพนั้นยากแค่ไหน หากอารามจินตภาพรู้เรื่องนี้นักบวชพวกนั้นจะต้องล่าหัวเจ้าไปจนสุดขอบฟ้า!”

“งั้นมันก็คงจะยากหน่อย” หลิงตู้ฉิงเอ่ยอย่างไม่แยแส

คนผู้นั้นมันก็เป็นแค่ผู้สืบทอดและคนที่รู้เรื่องนี้ทั้งหมดก็ถูกเขาฆ่าตายไปจนหมดแล้ว

เย่ชิงเฉิงพูดไม่ออก วิชาห้วงนิทราแห่งราชันย์ที่หายสาบสูญไปนานนับหมื่นปี และเป็นไปได้ว่าเมื่อเร็ว ๆ นี้อาจมีผู้สืบทอดบางคนอาจโชคดีไปเจอมันโดยบังเอิญ แต่แล้วการสืบทอดมรดกนี้กลับถูกทำลายโดยบุคคลตรงหน้านาง หนี้แค้นระดับเช่นนี้ต่อให้เป็นสมณะที่อยู่มาเป็นพันปีก็คงยากที่จะระงับอารมณ์ตัวเองไม่ให้เด็ดหัวชายผู้นี้!

แน่นอนว่านางไม่รู้ว่าคนที่ทำลายมรดกของอารามจินตภาพเมื่อหลายหมื่นปีก่อน เขาคนนั้นได้นั่งอยู่ตรงหน้านางตอนนี้

“ข้าแนะนำว่าเจ้าอย่าได้เที่ยวไปบอกใครดีกว่าว่าเจ้ารู้ วิชาห้วงนิทราแห่งราชันย์ หรือที่เจ้าเคยไปสังหารคนที่ได้รับมันมา” เย่ชิงเฉิงเตือน

“โอ้ น่าเสียดายที่เจ้าบอกช้าเกินไปแล้ว ก่อนหน้านี้ข้าได้ถ่ายทอดมันให้กับคนอื่นไปแล้ว!” หลิงตู้ฉิงกล่าวอย่างไม่แยแส

แม้ว่ามันจะเป็นวิชาที่ดี แต่มันก็ไม่ใช่วิชาที่ไร้เทียมทานอะไรมากมายสำหรับเขา ดังนั้นเขาจึงถ่ายทอดมันให้กับจิ๋นชานได้โดยไม่ต้องคิดอะไรมาก

เย่ชิงเฉิงจ้องไปที่หลิงตู้ฉิงด้วยความงุนงง และไม่รู้จะพูดอะไรไปได้ชั่วขณะ หลังจากนั้นไม่นานนางก็หัวเราะ “ถ้าอย่างนั้นในเมื่อเจ้าได้ถ่ายทอดมันให้กับคนอื่นไปแล้ว ทำไมเจ้าถึงไม่ถ่ายทอดมันให้ข้าบ้างล่ะ?”

อารามจินตภาพได้ทำมรดกนี้หายไปนับหมื่นปี หากนางสามารถส่งมรดกนี้กลับคืนไปได้ นางคงจะได้รับค่าตอบแทนเป็นสมบัติวิเศษจำนวนนับไม่ถ้วนแน่นอน

“เจ้าไม่สามารถเรียนรู้มันได้!” หลิงตู้ฉิงมองไปที่เย่ชิงเฉิง “ยิ่งจิตใจของผู้ฝึกซับซ้อนมากเท่าไหร่โอกาสที่จะเรียนรู้วิชานี้ได้ก็จะน้อยลงเท่านั้น”

เยว่ชิงเฉิงจ้องมองไปที่หลิงตู้ฉิง และตะคอกกลับ “ถ้าเจ้าไม่อยากสอนข้า เจ้าก็ไม่ต้องสอน แต่ทำไมต้องมาเหน็บแนมข้าด้วย? ช่างเถอะ ๆ กลับมาพูดถึงเรื่องการกลับไปที่สำนักอักขระศักดิ์สิทธิ์ของข้าต่อกันก่อน เจ้าแน่ใจใช่ไหมว่าหลังจากที่เจ้าได้เห็นสถานที่นั้นแล้วเจ้าจะช่วยพวกข้าได้?”

หลิงตู้ฉิงขมวดคิ้วและพูดว่า “อันที่จริงหมอกนั่นที่พวกเจ้าเห็นว่าระยะจากจุดศูนย์กลางของมันเป็นระยะ 50 กิโลเมตร แต่จริง ๆ แล้วระยะที่แท้จริงของมันคือ 30 กิโลเมตร จากที่ข้าคาดเดาแล้วพื้นที่ที่เจ้าและแม่ของเจ้าเข้าไปนั้นไม่ใช่อาณาเขตจริงของมัน”

“ไม่ใช่อาณาเขตจริงงั้นเหรอ?” เย่ชิงเฉิงนิ่งแข็งไป และทันใดนั้นก็กรีดร้อง “แล้วเจ้ารู้ใช่ไหมว่าจริง ๆ แล้วอาณาเขตนั้นมันคืออะไร? เจ้าต้องรู้แน่ ๆ เลยใช่ไหม? ใช่ไหม?”

เย่ชิงเฉิงกระโดดขึ้นอย่างตื่นเต้นและตะโกนใส่หลิงตู้ฉิงโดยไม่สนใจภาพลักษณ์ของนางเลย

สำนักอักขระศักดิ์สิทธิ์ของนางไม่เคยเข้าใจเลยว่ามันคืออะไรมาเป็นเวลาหลายพันปีและไม่มีผู้เชี่ยวชาญคนไหนที่รู้เช่นกันว่ามันคืออะไร แต่ตอนนี้คนตรงหน้านางผู้นี้กลับดูเหมือนจะรู้เรื่องของมัน เรื่องของหมอกปริศนานี่ที่เป็นปัญหารบกวนสำนักของนางมาเป็นพัน ๆ ปี!

เมื่อมองไปที่หญิงสาวที่กำลังทำตัว ‘บ้า ๆ บอ ๆ’ ตรงหน้า หลิงตู้ฉิงก็ตะลึงไปชั่วขณะก่อนที่เขาจะพยักหน้าและพูดว่า “แน่นอนข้ารู้!”

“เจ้าช่วยบอกข้ามาทีได้ไหมว่ามันคืออะไรกันแน่ นะ นะ นะ?” เย่ชิงเฉิงตื่นเต้นและไม่ดึงแขนของหลิงตู้ฉิงไม่หยุด

หลิงตู้ฉิงหน้ามุ่ยและพูดว่า “ทำไมข้าต้องบอกเจ้า?”

นี่เป็นเพราะหลิงตู้ฉิงเองก็ตั้งเป้าหมายไว้ว่าจะจัดการกับมันเช่นกันเมื่อเขามีความแข็งแกร่งเพียงพอ เพื่อที่จะเก็บสมบัติชิ้นนี้ไว้กับตัวเอง แน่นอนว่าเขาก็รู้เช่นกันว่าต่อให้เขาจะบอกสำนักอักขระศักดิ์สิทธิ์ไปถึงความลับของสมบัติชิ้นนี้ คนของสำนักอักขระศักดิ์สิทธิ์ก็คงไม่มีปัญญาที่จะได้มันมาครอบครองอยู่แล้ว แต่สิ่งที่เขากังวลและไม่อยากบอกออกไปก็คือเขาไม่ต้องการให้มีคนรู้ความลับนี้เป็นจำนวนมากนัก หากมีคนรู้ถึงความลับนี้เป็นจำนวนมากแล้ว ในตอนที่เขาจะไปเอามันออกมามันจะต้องมีผู้คนมากมายมาสร้างความรำคาญให้กับเขาอย่างแน่นอน

“นี่เจ้า…!” เย่ชิงเฉิงจ้องไปที่หลิงตู้ฉิงด้วยความโกรธสักพัก ก่อนจะสงบอารมณ์ของตัวเองและพูดว่า “ก็ได้ ๆ งั้นท่านต้องการอะไร บอกข้ามา!”

หลิงตู้ฉิงส่ายหัว “การบอกเจ้าไปมันก็ไม่มีประโยชน์อะไร แม้ว่าสำนักอักขระศักดิ์สิทธิ์ของเจ้าจะขุดบรรพบุรุษทุกรุ่นออกมา พวกเขาก็ไม่สามารถจัดการกับมันได้อยู่ดี”

“ไม่ว่าสำนักของข้าจะจัดการกับมันได้หรือไม่ได้ มันก็เป็นปัญหาของสำนักข้า สิ่งที่เจ้าควรจะทำก็แค่บอกความลับนี้กับข้าเท่านั้น!” เย่ชิงเฉิงพูดด้วยน้ำเสียงขุ่นเคือง

ในที่สุดตอนนี้นางก็ได้พบกับความหวังแบบใหม่แล้ว ซึ่งต่อให้มันจะดูริบหรี่แต่นางก็ต้องคว้ามันมาให้ได้ อย่างไรก็ตามชายผู้นี้ซึ่งดูเหมือนว่าจะรู้ข้อมูลนี้อย่างชัดเจน แต่เขากลับทำเหมือนว่าเขาไม่ต้องการบอกนาง ซึ่งมันทำให้นางโกรธจนแทบคลั่ง

คิ้วของหลิงตู้ฉิงกระตุกขณะที่เขาพูด “แล้วเจ้าให้อะไรข้าได้บ้าง?”

เย่ชิงเฉิงจ้องไปที่หลิงตู้ฉิงเป็นเวลานาน และพูดว่า “เจ้าชอบยันต์สั่งสวรรค์ใช่ไหม? ข้าจะให้ยันต์สั่งสวรรค์ 2 แผ่นกับเจ้า!”

เมื่อพูดจบ นางก็หยิบยันต์สั่งสวรรค์ออกมาวางไว้บนมือและพูดกับหลิงตู้ฉิง “บอกมาก่อน! แล้วยันต์สั่งสวรรค์ทั้งสองนี้จะเป็นของเจ้าทันที!”

เสียงโวยวายของเย่ชิงเฉิง ตอนนี้ต่างดึงดูดผู้คนที่อยู่ในหมู่ตึกหยูอี่ให้ออกมาดูนาง ทุกคนต่างสงสัยว่าหลิงตู้ฉิงทำอะไรกับผู้หญิงคนนี้กันแน่?

เมื่อพวกเขาพบว่าเย่ชิงเฉิง ในตอนนี้กำลังถือยันต์สั่งสวรรค์สองแผ่นอยู่ในมือ มี่ไล หลิวเฟ่ยเฟ่ยและคนอื่น ๆ หรือแม้แต่เสี่ยวเยว่เฟิงก็ยังพูดไม่ออก ตามที่คาดไว้ ผู้สืบทอดสายตรงของสำนักระดับสูง แม้แต่ยันต์สั่งสวรรค์ที่นับว่าเป็นของล้ำค่ามาก ๆ ก็ยังสามารถควักออกมามอบให้กับผู้อื่นได้อย่างง่ายดาย!

เสี่ยวเยว่เฟิงยิ้มอย่างขมขื่นในใจ แม้ว่านางอาจจะได้เข้าร่วมกับชนชั้นสูงของภูเขาฟีนิกซ์ในอนาคต แต่ทรัพยาของภูเขาฟีนิกซ์ของนางก็คงไม่สามารถเทียบได้กับสำนักระดับสูงแบบนี้

อย่างไรก็ตามเมื่อเห็นว่าเย่ชิงเฉิงหยิบยันต์สั่งสวรรค์ 2 แผ่นขึ้นมา หลิงตู้ฉิงส่ายหัวและพูดว่า “แค่นี้มันยังไม่พอ!”

โดยไม่ลังเล นางหยิบสมบัติวิเศษอีกชิ้นออกมาและพูดขึ้น “แล้วถ้าเพิ่มสมบัติวิเศษระดับราชันเข้าไปอีกชิ้นล่ะ เจ้าจะว่าไง?”

เสี่ยวเยว่เฟิงและซือโถวเหวินหยวนที่มองอยู่จากด้านข้างต่างรู้สึกหดหู่ ตามที่คาดไว้กับคุณหนูผู้ร่ำรวยผู้นี้แม้แต่สมบัติวิเศษระดับราชันก็ยังสามารถนำมันออกมาได้อย่างง่ายดาย ซึ่งแม้แต่ในสำนักของพวกเขากว่าที่พวกเขาจะได้มาซึ่งสมบัติวิเศษระดับราชัน แม้สักชิ้นก็ไม่ใช่เรื่องง่าย

ในทางกลับกัน มี่ไลและหลิวเฟ่ยเฟ่ยที่ไม่รู้ว่าสมบัติระดับนี้มีค่าสักแค่ไหน พวกนางจึงมองภาพตรงหน้าอย่างไม่มีความรู้สึกอะไรสักเท่าไหร่

น่าเสียดายที่หลิงตู้ฉิงยังคงส่ายหัวอย่างใจเย็น “มันยังคงไม่พอ!”

เย่ชิงเฉิงพูดอย่างโกรธ ๆ “ข้ารู้ว่าเจ้ากำลังยุ่งอยู่กับการเพิ่มอำนาจของค่ายกลกระบี่เหินเมฆาของเจ้า แต่น่าเสียดายที่พลังสังหารของมันอ่อนแอเกินไป แต่ข้ามีวิธีที่จะหาเศษดาวหางทองคำมาให้เจ้าได้ ด้วยค่ายกลกระบี่เหินเมฆาที่เส็งเคร็งของเจ้าหากกระบี่บินแต่ละเล่มได้รับการปรับแต่งด้วย เศษดาวหางทองคำ ที่แต่ละชิ้นมีขนาดเท่าเมล็ดงา พลังของค่ายกลเจ้าจะสามารถแข็งแกร่งขึ้นกว่าเดิมได้อีกหลายพันเท่า ข้าจะให้ เศษดาวหางทองคำ 1 กิโลกรัมกับเจ้าเพื่อเป็นค่าตอบแทนแก่เจ้า ทีนี้เจ้าบอกข้าได้รึยัง?”

“ไม่พอ!” หลิงตู้ฉิงยังคงส่ายหัว

“อย่าให้มันมากเกินไป!” เยว่ชิงเฉิงพูดด้วยความโกรธ “มันก็แค่ชื่อ ชื่อเดียวเท่านั้น ข้าจ่ายราคาไปมากแล้ว!”

หลิงตู้ฉิงหรี่ตามองนางและพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง “ถ้าเจ้ารู้ว่ามันคืออะไร เจ้าก็จะเข้าใจเองว่าราคาที่ข้าเรียกมันไม่ได้เกินเลยไปแม้แต่น้อย!”

เย่ชิงเฉิงจ้องมองไปที่หลิงตู้ฉิงอย่างไม่แน่ใจว่าสิ่งที่หลิงตู้ฉิงพูดนั้นเป็นความจริงหรือเปล่า

หลังจากจ้องมองเป็นเวลานาน นางหยิบค้อนขนาดเล็กออกมาและโยนค้อนนั้นลงบนพื้นของสวนด้านหลังหมู่ตึกหยูอี่ จากนั้นนางเชิดหน้าขึ้นแล้วถามว่า “ถ้าเป็นไอ้นี่ล่ะพอรึยัง?”

Related

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

พ่อเลี้ยงยอดเซียน (异界无敌奶爸) 307 หญิงสาวผู้ร่ำรวย

Now you are reading พ่อเลี้ยงยอดเซียน (异界无敌奶爸) Chapter 307 หญิงสาวผู้ร่ำรวย at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 307 หญิงสาวผู้ร่ำรวย

เมื่อเย่ชิงเฉิงตื่นขึ้นจากห้วงแห่งความฝัน นางมองไปที่หลิงตู้ฉิง ซึ่งนั่งอยู่ตรงหน้าด้วยแววตาประหลาดใจ

วิชาที่สูญหายไปนับหมื่นปีเหตุใดจึงปรากฏขึ้นกับคนผู้นี้?

นอกจากนี้มันยิ่งทำให้นางเริ่มสับสนหนักเข้าไปใหญ่ว่า หลิงตู้ฉิงเน้นการฝึกฝนไปในทิศทางไหนกันแน่

ในตอนแรกนางคิดว่า หลิงตู้ฉิงเป็นผู้เชี่ยวชาญอักขระเวทย์ แต่หลังจากสนทนากับสีเป่ยเซียะ นางก็พบว่าหลิงตู้ฉิงเป็นนักหลอมโอสถที่น่าทึ่ง และเมื่อครู่ตอนที่นางนั่งอยู่ตรงหน้าเขา เขากลับกำลังสร้างอาวุธวิเศษระดับราชวงศ์ขั้นสูงสุดโดยเหมือนกับว่ามันไม่ใช่เรื่องยากอะไรเลยด้วยซ้ำ คน ๆ หนึ่งจะมีความสามารถหลากหลายแบบนี้ได้ยังไง?

นางเหม่อมองไปที่หลิงตู้ฉิงอยู่สักพัก จากนั้นก็ถามว่า “เจ้าเรียนรู้ วิชาห้วงนิทราแห่งราชันย์ มาได้ยังไง?”

หลิงตู้ฉิงมองไปที่เย่ชิงเฉิง และพูดอย่างเรียบเฉย “ครั้งหนึ่งมีชายคนหนึ่งพยายามใช้วิชาห้วงนิทราแห่งราชันย์เพื่อสังหารข้า แต่เขาทำไม่สำเร็จและถูกข้าสังหารลง หลังจากนั้นข้าจึงได้เรียนรู้วิชาห้วงนิทราแห่งราชันย์”

ได้ยินเช่นนี้ เยว่ชิงเฉิงก็ยิ่งงุนงงหนักเข้าไปใหญ่ นางพูดอย่างติด ๆ ขัด ๆ “วิชาห้วงนิทราแห่งราชันย์นี้เป็นวิชาลับของอารามจินตภาพ ซึ่งมีแต่ผู้สืบทอดเท่านั้นที่จะได้รับการถ่ายทอดมา นี่เจ้ารู้บ้างรึเปล่าว่าการเลือกผู้สืบทอดของอารามจินตภาพนั้นยากแค่ไหน หากอารามจินตภาพรู้เรื่องนี้นักบวชพวกนั้นจะต้องล่าหัวเจ้าไปจนสุดขอบฟ้า!”

“งั้นมันก็คงจะยากหน่อย” หลิงตู้ฉิงเอ่ยอย่างไม่แยแส

คนผู้นั้นมันก็เป็นแค่ผู้สืบทอดและคนที่รู้เรื่องนี้ทั้งหมดก็ถูกเขาฆ่าตายไปจนหมดแล้ว

เย่ชิงเฉิงพูดไม่ออก วิชาห้วงนิทราแห่งราชันย์ที่หายสาบสูญไปนานนับหมื่นปี และเป็นไปได้ว่าเมื่อเร็ว ๆ นี้อาจมีผู้สืบทอดบางคนอาจโชคดีไปเจอมันโดยบังเอิญ แต่แล้วการสืบทอดมรดกนี้กลับถูกทำลายโดยบุคคลตรงหน้านาง หนี้แค้นระดับเช่นนี้ต่อให้เป็นสมณะที่อยู่มาเป็นพันปีก็คงยากที่จะระงับอารมณ์ตัวเองไม่ให้เด็ดหัวชายผู้นี้!

แน่นอนว่านางไม่รู้ว่าคนที่ทำลายมรดกของอารามจินตภาพเมื่อหลายหมื่นปีก่อน เขาคนนั้นได้นั่งอยู่ตรงหน้านางตอนนี้

“ข้าแนะนำว่าเจ้าอย่าได้เที่ยวไปบอกใครดีกว่าว่าเจ้ารู้ วิชาห้วงนิทราแห่งราชันย์ หรือที่เจ้าเคยไปสังหารคนที่ได้รับมันมา” เย่ชิงเฉิงเตือน

“โอ้ น่าเสียดายที่เจ้าบอกช้าเกินไปแล้ว ก่อนหน้านี้ข้าได้ถ่ายทอดมันให้กับคนอื่นไปแล้ว!” หลิงตู้ฉิงกล่าวอย่างไม่แยแส

แม้ว่ามันจะเป็นวิชาที่ดี แต่มันก็ไม่ใช่วิชาที่ไร้เทียมทานอะไรมากมายสำหรับเขา ดังนั้นเขาจึงถ่ายทอดมันให้กับจิ๋นชานได้โดยไม่ต้องคิดอะไรมาก

เย่ชิงเฉิงจ้องไปที่หลิงตู้ฉิงด้วยความงุนงง และไม่รู้จะพูดอะไรไปได้ชั่วขณะ หลังจากนั้นไม่นานนางก็หัวเราะ “ถ้าอย่างนั้นในเมื่อเจ้าได้ถ่ายทอดมันให้กับคนอื่นไปแล้ว ทำไมเจ้าถึงไม่ถ่ายทอดมันให้ข้าบ้างล่ะ?”

อารามจินตภาพได้ทำมรดกนี้หายไปนับหมื่นปี หากนางสามารถส่งมรดกนี้กลับคืนไปได้ นางคงจะได้รับค่าตอบแทนเป็นสมบัติวิเศษจำนวนนับไม่ถ้วนแน่นอน

“เจ้าไม่สามารถเรียนรู้มันได้!” หลิงตู้ฉิงมองไปที่เย่ชิงเฉิง “ยิ่งจิตใจของผู้ฝึกซับซ้อนมากเท่าไหร่โอกาสที่จะเรียนรู้วิชานี้ได้ก็จะน้อยลงเท่านั้น”

เยว่ชิงเฉิงจ้องมองไปที่หลิงตู้ฉิง และตะคอกกลับ “ถ้าเจ้าไม่อยากสอนข้า เจ้าก็ไม่ต้องสอน แต่ทำไมต้องมาเหน็บแนมข้าด้วย? ช่างเถอะ ๆ กลับมาพูดถึงเรื่องการกลับไปที่สำนักอักขระศักดิ์สิทธิ์ของข้าต่อกันก่อน เจ้าแน่ใจใช่ไหมว่าหลังจากที่เจ้าได้เห็นสถานที่นั้นแล้วเจ้าจะช่วยพวกข้าได้?”

หลิงตู้ฉิงขมวดคิ้วและพูดว่า “อันที่จริงหมอกนั่นที่พวกเจ้าเห็นว่าระยะจากจุดศูนย์กลางของมันเป็นระยะ 50 กิโลเมตร แต่จริง ๆ แล้วระยะที่แท้จริงของมันคือ 30 กิโลเมตร จากที่ข้าคาดเดาแล้วพื้นที่ที่เจ้าและแม่ของเจ้าเข้าไปนั้นไม่ใช่อาณาเขตจริงของมัน”

“ไม่ใช่อาณาเขตจริงงั้นเหรอ?” เย่ชิงเฉิงนิ่งแข็งไป และทันใดนั้นก็กรีดร้อง “แล้วเจ้ารู้ใช่ไหมว่าจริง ๆ แล้วอาณาเขตนั้นมันคืออะไร? เจ้าต้องรู้แน่ ๆ เลยใช่ไหม? ใช่ไหม?”

เย่ชิงเฉิงกระโดดขึ้นอย่างตื่นเต้นและตะโกนใส่หลิงตู้ฉิงโดยไม่สนใจภาพลักษณ์ของนางเลย

สำนักอักขระศักดิ์สิทธิ์ของนางไม่เคยเข้าใจเลยว่ามันคืออะไรมาเป็นเวลาหลายพันปีและไม่มีผู้เชี่ยวชาญคนไหนที่รู้เช่นกันว่ามันคืออะไร แต่ตอนนี้คนตรงหน้านางผู้นี้กลับดูเหมือนจะรู้เรื่องของมัน เรื่องของหมอกปริศนานี่ที่เป็นปัญหารบกวนสำนักของนางมาเป็นพัน ๆ ปี!

เมื่อมองไปที่หญิงสาวที่กำลังทำตัว ‘บ้า ๆ บอ ๆ’ ตรงหน้า หลิงตู้ฉิงก็ตะลึงไปชั่วขณะก่อนที่เขาจะพยักหน้าและพูดว่า “แน่นอนข้ารู้!”

“เจ้าช่วยบอกข้ามาทีได้ไหมว่ามันคืออะไรกันแน่ นะ นะ นะ?” เย่ชิงเฉิงตื่นเต้นและไม่ดึงแขนของหลิงตู้ฉิงไม่หยุด

หลิงตู้ฉิงหน้ามุ่ยและพูดว่า “ทำไมข้าต้องบอกเจ้า?”

นี่เป็นเพราะหลิงตู้ฉิงเองก็ตั้งเป้าหมายไว้ว่าจะจัดการกับมันเช่นกันเมื่อเขามีความแข็งแกร่งเพียงพอ เพื่อที่จะเก็บสมบัติชิ้นนี้ไว้กับตัวเอง แน่นอนว่าเขาก็รู้เช่นกันว่าต่อให้เขาจะบอกสำนักอักขระศักดิ์สิทธิ์ไปถึงความลับของสมบัติชิ้นนี้ คนของสำนักอักขระศักดิ์สิทธิ์ก็คงไม่มีปัญญาที่จะได้มันมาครอบครองอยู่แล้ว แต่สิ่งที่เขากังวลและไม่อยากบอกออกไปก็คือเขาไม่ต้องการให้มีคนรู้ความลับนี้เป็นจำนวนมากนัก หากมีคนรู้ถึงความลับนี้เป็นจำนวนมากแล้ว ในตอนที่เขาจะไปเอามันออกมามันจะต้องมีผู้คนมากมายมาสร้างความรำคาญให้กับเขาอย่างแน่นอน

“นี่เจ้า…!” เย่ชิงเฉิงจ้องไปที่หลิงตู้ฉิงด้วยความโกรธสักพัก ก่อนจะสงบอารมณ์ของตัวเองและพูดว่า “ก็ได้ ๆ งั้นท่านต้องการอะไร บอกข้ามา!”

หลิงตู้ฉิงส่ายหัว “การบอกเจ้าไปมันก็ไม่มีประโยชน์อะไร แม้ว่าสำนักอักขระศักดิ์สิทธิ์ของเจ้าจะขุดบรรพบุรุษทุกรุ่นออกมา พวกเขาก็ไม่สามารถจัดการกับมันได้อยู่ดี”

“ไม่ว่าสำนักของข้าจะจัดการกับมันได้หรือไม่ได้ มันก็เป็นปัญหาของสำนักข้า สิ่งที่เจ้าควรจะทำก็แค่บอกความลับนี้กับข้าเท่านั้น!” เย่ชิงเฉิงพูดด้วยน้ำเสียงขุ่นเคือง

ในที่สุดตอนนี้นางก็ได้พบกับความหวังแบบใหม่แล้ว ซึ่งต่อให้มันจะดูริบหรี่แต่นางก็ต้องคว้ามันมาให้ได้ อย่างไรก็ตามชายผู้นี้ซึ่งดูเหมือนว่าจะรู้ข้อมูลนี้อย่างชัดเจน แต่เขากลับทำเหมือนว่าเขาไม่ต้องการบอกนาง ซึ่งมันทำให้นางโกรธจนแทบคลั่ง

คิ้วของหลิงตู้ฉิงกระตุกขณะที่เขาพูด “แล้วเจ้าให้อะไรข้าได้บ้าง?”

เย่ชิงเฉิงจ้องไปที่หลิงตู้ฉิงเป็นเวลานาน และพูดว่า “เจ้าชอบยันต์สั่งสวรรค์ใช่ไหม? ข้าจะให้ยันต์สั่งสวรรค์ 2 แผ่นกับเจ้า!”

เมื่อพูดจบ นางก็หยิบยันต์สั่งสวรรค์ออกมาวางไว้บนมือและพูดกับหลิงตู้ฉิง “บอกมาก่อน! แล้วยันต์สั่งสวรรค์ทั้งสองนี้จะเป็นของเจ้าทันที!”

เสียงโวยวายของเย่ชิงเฉิง ตอนนี้ต่างดึงดูดผู้คนที่อยู่ในหมู่ตึกหยูอี่ให้ออกมาดูนาง ทุกคนต่างสงสัยว่าหลิงตู้ฉิงทำอะไรกับผู้หญิงคนนี้กันแน่?

เมื่อพวกเขาพบว่าเย่ชิงเฉิง ในตอนนี้กำลังถือยันต์สั่งสวรรค์สองแผ่นอยู่ในมือ มี่ไล หลิวเฟ่ยเฟ่ยและคนอื่น ๆ หรือแม้แต่เสี่ยวเยว่เฟิงก็ยังพูดไม่ออก ตามที่คาดไว้ ผู้สืบทอดสายตรงของสำนักระดับสูง แม้แต่ยันต์สั่งสวรรค์ที่นับว่าเป็นของล้ำค่ามาก ๆ ก็ยังสามารถควักออกมามอบให้กับผู้อื่นได้อย่างง่ายดาย!

เสี่ยวเยว่เฟิงยิ้มอย่างขมขื่นในใจ แม้ว่านางอาจจะได้เข้าร่วมกับชนชั้นสูงของภูเขาฟีนิกซ์ในอนาคต แต่ทรัพยาของภูเขาฟีนิกซ์ของนางก็คงไม่สามารถเทียบได้กับสำนักระดับสูงแบบนี้

อย่างไรก็ตามเมื่อเห็นว่าเย่ชิงเฉิงหยิบยันต์สั่งสวรรค์ 2 แผ่นขึ้นมา หลิงตู้ฉิงส่ายหัวและพูดว่า “แค่นี้มันยังไม่พอ!”

โดยไม่ลังเล นางหยิบสมบัติวิเศษอีกชิ้นออกมาและพูดขึ้น “แล้วถ้าเพิ่มสมบัติวิเศษระดับราชันเข้าไปอีกชิ้นล่ะ เจ้าจะว่าไง?”

เสี่ยวเยว่เฟิงและซือโถวเหวินหยวนที่มองอยู่จากด้านข้างต่างรู้สึกหดหู่ ตามที่คาดไว้กับคุณหนูผู้ร่ำรวยผู้นี้แม้แต่สมบัติวิเศษระดับราชันก็ยังสามารถนำมันออกมาได้อย่างง่ายดาย ซึ่งแม้แต่ในสำนักของพวกเขากว่าที่พวกเขาจะได้มาซึ่งสมบัติวิเศษระดับราชัน แม้สักชิ้นก็ไม่ใช่เรื่องง่าย

ในทางกลับกัน มี่ไลและหลิวเฟ่ยเฟ่ยที่ไม่รู้ว่าสมบัติระดับนี้มีค่าสักแค่ไหน พวกนางจึงมองภาพตรงหน้าอย่างไม่มีความรู้สึกอะไรสักเท่าไหร่

น่าเสียดายที่หลิงตู้ฉิงยังคงส่ายหัวอย่างใจเย็น “มันยังคงไม่พอ!”

เย่ชิงเฉิงพูดอย่างโกรธ ๆ “ข้ารู้ว่าเจ้ากำลังยุ่งอยู่กับการเพิ่มอำนาจของค่ายกลกระบี่เหินเมฆาของเจ้า แต่น่าเสียดายที่พลังสังหารของมันอ่อนแอเกินไป แต่ข้ามีวิธีที่จะหาเศษดาวหางทองคำมาให้เจ้าได้ ด้วยค่ายกลกระบี่เหินเมฆาที่เส็งเคร็งของเจ้าหากกระบี่บินแต่ละเล่มได้รับการปรับแต่งด้วย เศษดาวหางทองคำ ที่แต่ละชิ้นมีขนาดเท่าเมล็ดงา พลังของค่ายกลเจ้าจะสามารถแข็งแกร่งขึ้นกว่าเดิมได้อีกหลายพันเท่า ข้าจะให้ เศษดาวหางทองคำ 1 กิโลกรัมกับเจ้าเพื่อเป็นค่าตอบแทนแก่เจ้า ทีนี้เจ้าบอกข้าได้รึยัง?”

“ไม่พอ!” หลิงตู้ฉิงยังคงส่ายหัว

“อย่าให้มันมากเกินไป!” เยว่ชิงเฉิงพูดด้วยความโกรธ “มันก็แค่ชื่อ ชื่อเดียวเท่านั้น ข้าจ่ายราคาไปมากแล้ว!”

หลิงตู้ฉิงหรี่ตามองนางและพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง “ถ้าเจ้ารู้ว่ามันคืออะไร เจ้าก็จะเข้าใจเองว่าราคาที่ข้าเรียกมันไม่ได้เกินเลยไปแม้แต่น้อย!”

เย่ชิงเฉิงจ้องมองไปที่หลิงตู้ฉิงอย่างไม่แน่ใจว่าสิ่งที่หลิงตู้ฉิงพูดนั้นเป็นความจริงหรือเปล่า

หลังจากจ้องมองเป็นเวลานาน นางหยิบค้อนขนาดเล็กออกมาและโยนค้อนนั้นลงบนพื้นของสวนด้านหลังหมู่ตึกหยูอี่ จากนั้นนางเชิดหน้าขึ้นแล้วถามว่า “ถ้าเป็นไอ้นี่ล่ะพอรึยัง?”

Related

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+