พ่อเลี้ยงยอดเซียน (异界无敌奶爸) 319 การแสดงออกอันแปลกประหลาดของสำนักอักขระวิญญาณ

Now you are reading พ่อเลี้ยงยอดเซียน (异界无敌奶爸) Chapter 319 การแสดงออกอันแปลกประหลาดของสำนักอักขระวิญญาณ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 319 การแสดงออกอันแปลกประหลาดของสำนักอักขระวิญญาณ

ขณะนี้บรรดาคนในหมู่ตึกหยูอี่ต่างรีบเก็บข้าวของ และเตรียมตัวออกเดินทาง

ถ้าไม่ใช่เพราะพวกเขากำลังรอการกลับมาของเย่หยูหลัน หลิงตู้ฉิง และคนอื่น ๆ ก็คงจะออกจากเมืองเจินไห่ไปแล้ว

ในขณะที่กำลังรอให้เย่หยูหลันกลับมา หลิงตู้ฉิงก็วาดภาพร่างต่าง ๆ ลงบนยันต์เคลือบหยกหรือสร้างสมบัติวิเศษอื่น ๆ และทำการบ่มเพาะแบบคู่กับภรรยาทั้งสามเพื่อเป็นการฆ่าเวลา

เย่หยูหลันที่จากไปเป็นเวลากว่า 8 เดือน ในที่สุดนางก็กลับมาถึงหมู่ตึกหยูอี่

ทันทีที่นางกลับมา นางก็เข้ามาหาเย่ชิงเฉิง

“ป้าหลัน นี่ถ้าเราไม่รอให้ท่านกลับมาก่อน พวกเราคงออกเดินทางไปเมืองหยูหลันเรียบร้อยแล้ว” เย่ชิงเฉิงหัวเราะ “สามี นี่ป้าหลัน นางเป็นผู้ติดตามแม่ของข้ามาตั้งแต่นางยังเด็ก ตอนนี้ระดับการบ่มเพาะของนางอยู่ในระดับสวรรค์ศักดิ์สิทธิ์แล้ว สาเหตุที่นางมาที่นี่กับข้าก็เพราะนางได้รับคำสั่งจากแม่ของข้าให้มาปกป้องความปลอดภัยของข้า”

“ป้าหลันนี่คือสามีของข้า หลิงตู้ฉิง ข้าได้แต่งงานกับเขาแล้ว”

เย่หยูหลัน เมื่อได้ยินเย่ชิงเฉิงใช้คำว่า ‘สามี’ อย่างเต็มปากเต็มคำ นางจึงเอ่ยตอบด้วยความรู้สึกรู้สึกขัดแย้ง “เฮ้อ…คุณหนู ข้า…”

นางเข้าใจว่าเย่ชิงเฉิงหมายถึงอะไร เย่ชิงเฉิงไม่เพียงแต่ตกลงที่จะแต่งงานกับชายผู้นี้ แต่นางยังนอนร่วมเตียงเดียวกันกับเขาอีกด้วย

เมื่อพวกเขาอยู่ในห้องเดียวกัน มันจึงเป็นไปไม่ได้ที่พวกเขาจะย้อนกลับไปอยู่ในสถานะเดิมก่อนหน้า

จริง ๆ แล้วในใจของนางคิดว่าหลิงตู้ฉิงไม่คู่ควรกับเย่ชิงเฉิง ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของความสามารถ ระดับการบ่มเพาะ ภูมิหลังครอบครัว และอื่น ๆ

อย่างไรก็ตามเนื่องจากพวกเขาเข้าหอด้วยกันแล้ว นางจึงไม่สามารถทำอะไรได้

เย่ชิงเฉิงหัวเราะ “ป้าหลัน ข้าไม่เสียใจหรอกนะที่ได้แต่งงานกับสามีของข้า ว่าแต่ป้าหลันท่านไปที่สำนักอักขระวิญญาณและคืนสมบัติระดับเซียนให้พวกเขาแล้วใช่ไหม? แล้วพวกเขาตกลงที่จะละทิ้งความแค้นที่มีต่อสามีของข้าด้วยรึเปล่า?”

ทันทีที่นางพูดถึงเรื่องนี้ท่าทีของเย่หยูหลันก็เปลี่ยนไปทันที

“คุณหนู ข้าล่ะไม่อยากพูดถึงเรื่องนี้เลยจริง ๆ!” เย่หยูหลันพูดด้วยสีหน้าโมโห “หลังจากที่ข้าส่งสมบัติวิเศษชิ้นนั้นคืนไปให้กับพวกเขาและย้ำกับกับพวกเขาในเรื่องความแค้นที่พวกเขามีต่อท่านหลิงจะต้องยุติลง แต่ไอ้เจ้าสำนักบ้านั่นมันกลับเหน็บแนมข้า และมันพูดว่าสำนักอักขระศักดิ์สิทธิ์ของเรานั้นเนรคุณ และลืมไปแล้วว่าสำนักอักขระวิญญาณของมันได้เคยช่วยเหลือเราในอดีต”

“มันยังพูดอีกว่าพวกเราทั้งสองสำนักล้วนเป็นผู้เชี่ยวชาญที่บ่มเพาะในเส้นทางเต๋าอักขระเวทย์เหมือนกัน ดังนั้นพวกเราควรต้องเข้าข้างและสนับสนุนพวกมัน ไม่ใช่นำชื่อเสียงของสำนักเราที่เป็นสำนักมหาอำนาจไปกดขี่พวกมันแบบนี้ นี่ถ้าข้าไม่มีความอดทนมากพอ ข้าคงฆ่าไอ้นั่นไปแล้ว”

เมื่อได้ยินเช่นนี้ เย่ชิงเฉิงก็รู้สึกโกรธเช่นกัน “นี่พวกมันไม่ขอบคุณในความปราณีของข้ายังไม่พอ แถมกลับยังกล้าใช้วาจาสามหาวกับสำนักของข้าอีกงั้นเหรอ? ได้เลย! ข้าจะไปทำลายสำนักของพวกมันเดี๋ยวนี้ ข้าไม่รู้จริง ๆ ว่าพวกมันไปกินอะไรมาถึงกล้าหยิ่งผยองได้ขนาดนี้ ยิ่งไปกว่านั้นพวกมันไม่ได้ช่วยอะไรเลยเมื่อตอนที่พวกมันมาสำนักของเรา ตรงกันข้ามเป็นเพราะพวกมันด้วยซ้ำที่ทำให้ผู้อาวุโสคนหนึ่งของเราตกเข้าไปอยู่ในหมอกบ้านั่น สามี ท่านมีความคิดเห็นว่าอย่างไรดีกับพวกมัน…”

ในขณะที่นางเริ่มควบคุมอารมณ์ตัวเองไม่อยู่ การแสดงออกเช่นเดิมของคุณหนูอันสูงส่งแห่งสำนักอักขระศักดิ์สิทธิ์ก็เผยขึ้นออกมา อย่างไรก็ตามเมื่อนางเห็นหลิงตู้ฉิงจ้องมองนาง และคิดถึงสิ่งที่หลิงตู้ฉิงเคยเตือนนางไว้ นางก็รีบดึงอารมณ์ตัวเองกลับทันทีและถามว่า “สามี เราจะจัดการเรื่องนี้ยังไงดี?”

หลิงตู้ฉิงตอบว่า “ถ้าพวกมันไม่มายุ่งกับข้า เราก็ไม่จำเป็นต้องไปสนใจพวกมัน! แต่ถ้ามันกล้ามาสร้างความรำคาญให้ข้าอีกครั้ง เราค่อยไปจัดการกับพวกมันให้เด็ดขาด! เอาล่ะในเมื่อตอนนี้คนที่เจ้ารอก็กลับมาแล้ว พวกเราควรรีบออกเดินทางไปเมืองหยูหลันกันได้แล้ว!”

เย่ชิงเฉิงพยักหน้า “โม่เอ๋อไปแจ้งเหล่าศิษย์พี่ของข้าและคนอื่น ๆ ว่าเราจะมุ่งหน้าไปยังเมืองหยูหลัน”

โม่เอ๋อพยักหน้าทันทีและพูดว่า “ข้าจะไปเดี๋ยวนี้!”

เย่หยูหลันมองไปที่เย่ชิงเฉิงด้วยสายตาแปลกประหลาด นี่คือคุณหนูที่นางรู้จักจริงงั้นเหรอ?

ทำไมหลังจากที่นางแต่งงาน นางก็กลายเป็นคนละคนได้ถึงขนาดนี้กัน?

ในขณะที่หลิงตู้ฉิงกำลังถอดค่ายกลกระบี่เหินเมฆา เย่หยูหลันก็แอบถามเย่ชิงเฉิงผ่านการส่งข้อความโทรจิตว่า “คุณหนู เขารังแกท่านหรือเปล่า? ทำไมท่านถึงดูกลัวเขาได้ถึงขนาดนี้?”

“ไม่นี่!” เย่ชิงเฉิงหัวเราะ “ความสัมพันธ์ของเราค่อนข้างดีมาก ๆ ทีเดียวเลยล่ะ! แต่มันเป็นไปได้ที่เจ้าจะมองว่ามันออกจะแปลกไปสักหน่อย เนื่องจากบางทีนิสัยของเขาก็จะดูประหลาด ๆ และค่อนข้างแข็งทื่อไปสักหน่อย แต่จริง ๆ แล้วเขาเป็นคนที่วิเศษมากคนหนึ่งเลยล่ะ ฉะนั้นเพื่อที่จะรับมือกับเขาในบางครั้งข้าก็เลยต้องตามใจเขาบ้างน่ะ!”

“นี่ท่านต้องยอมลดตัวทำให้เขาถึงขนาดนี้เลยงั้นเหรอ?” เย่หยูหลันกระซิบ

“ก็ในเมื่อเขาดีกับข้า ฉะนั้นทำไมข้าถึงจะไม่ยอมเขากันล่ะ?” เย่ชิงเฉิงยิ้ม “เอาล่ะป้าหลัน ท่านไม่ต้องเป็นห่วงหรอกหยุดพูดเรื่องนี้เถอะ ยังไงซะนี่มันก็เป็นเรื่องระหว่างข้ากับเขา บางทีท่านอาจต้องใช้เวลาสักหน่อยท่านถึงจะเข้าใจ”

ไม่นานต่อมาหลิงตู้ฉิงก็ถอดค่ายกลกระบี่เหินเมฆาออกมาจากสวนด้านหลังของหมู่ตึกหยูอี่ และมอบมันพร้อมกับกระบี่บินทั้งชุดให้เย่ชิงเฉิง “ให้เจ้า!”

“ขอบคุณ สามี!” เย่ชิงเฉิงหัวเราะ

เมื่อเห็นว่าหลิงตู้ฉิงคืนอาวุธวิเศษระดับจักรพรรดิให้เย่ชิงเฉิง เย่หยูหลันก็พูดไม่ออกอีกครั้ง

อาวุธวิเศษระดับจักรพรรดินั่นมันเป็นของของนางตั้งแตกแรกอยู่แล้ว เมื่อเขาคืนให้แล้วยังต้องไปขอบคุณเขาที่คืนให้อีกเหรอ?

อย่างไรก็ตาม เย่ชิงเฉิงได้บอกกับนางแล้วว่านี่เป็นเรื่องในครอบครัวของนาง ดังนั้นมันจึงไม่เหมาะสมที่นางจะพูดอะไรไปมากกว่านี้

ในเวลานี้ หลิงตู้ฉิงกำลังมองไปที่หยุนจื่อรุ่ยและเปียนเฉียวเฉียว ในเวลาที่ผ่านมาเด็กสาวทั้งสองในที่สุดก็ทะลวงขอบเขตเข้าสู่ขอบเขตประสานทะเลปราณได้แล้ว และอายุของพวกนางก็ได้เพิ่มขึ้นมาเกือบ 2 ปี

เมื่อถูกหลิงตู้ฉิงจ้องเขม็งมาแบบนั้น พวกนางก็เริ่มรู้สึกทำตัวไม่ถูก

หลิงตู้ฉิงเกาหัวของเขาและพูดว่า “เฟิง ให้น้องของเจ้าและเด็กทั้งสองนั่งที่ด้านหน้ารถกับเจ้าและดูแลพวกเขาด้วย”

ความตั้งใจเดิมของเขาคือเก็บชุดค่ายกลกระบี่ไว้ในหมู่ตึกหยูอี่เพื่อให้เด็กทั้งสองได้ใช้มันเพื่อดูแลที่นี่ จริง ๆ แล้วเขาเองก็ไม่ต้องการที่จะพาเด็กทั้งสองไปที่อื่นกับเขา

อย่างไรก็ตาม เมื่อค่ายกลกระบี่เหินเมฆาและอาวุธวิเศษระดับจักรพรรดิถูกรวมเข้าด้วยกันเพื่อให้อำนาจของมันเพิ่มมากขึ้น แต่ข้อเสียที่ตามมาก็คือพวกมันจะไม่สามารถถูกแยกออกจากกันได้

สำหรับเด็กทั้งสองที่คอยรับใช้พวกเขามานาน หากปล่อยให้พวกนางอยู่ที่หมู่ตึกหยูอี่กันเพียงลำพังสองคนมันจะต้องมีปัญหาเกิดกับพวกนางอย่างแน่นอน

อย่างไรก็ตาม เขาเองก็ไม่ต้องการให้คนอื่นรู้ว่าครอบครัวของเขาฝึกฝนวิชาเจตจำนงแปลงสรรพสิ่ง ดังนั้นเขาจึงตัดสินใจให้เด็กน้อยทั้งสองนั่งที่ตรงที่นั่งหน้ารถกับเฟิงไปเพื่อแก้ปัญหา

“ไม่ต้องห่วงนายท่าน ข้าจะดูแลพวกนางเป็นอย่างดี!” เสี่ยวเยว่เฟิงหัวเราะ

หลิงตู้ฉิงพยักหน้า “เอาล่ะ ถ้าพร้อมแล้วก็ไปกันเถอะ!”

เมื่อได้ยินคำสั่ง บรรดาครอบครัวของหลิงตู้ฉิงก็ทยอยกันเดินขึ้นรถม้า ซึ่งโม่เอ๋อและเย่หยูหลันต่างก็เดินตามขึ้นไปด้วยเช่นกัน แต่ก่อนที่พวกนางจะได้ก้าวขึ้นไปบนรถม้า พวกนางก็ได้ถูกเย่ชิงเฉิงหยุดเอาไว้

“ป้าหลัน ข้าเกรงว่าการเดินทางครั้งนี้ท่านอาจจะต้องลำบากกว่าข้าสักหน่อย…” เย่ชิงเฉิงพูดด้วยสีหน้ากระอักกระอ่วน

เย่ชิงเฉิงรู้ดีว่าความลับที่อยู่ด้านในรถไม่สามารถเปิดเผยได้ แม้กระทั่งโม่เอ๋อที่ทำสัญญากฎสวรรค์ไปแล้วนางก็ยังไม่มีสิทธิ์ได้รับรู้การมีอยู่ของวิชาเจตจำนงแปลงสรรพสิ่ง ซึ่งมันชี้ให้เห็นชัดเจนว่าหลิงตู้ฉิงต้องการเก็บความลับนี้ไว้มากขนาดไหน

เย่หยูหลันรู้สึกเสียใจเล็กน้อย ถึงแม้ว่าสถานะของนางจะเป็นเพียงผู้ติดตามแม่ของเย่ชิงเฉิง แต่ด้วยความผูกพันธ์และความสนิทสนมกันนั้นจริง ๆ แล้วนางก็ไม่ต่างอะไรกับเป็นญาติคนหนึ่ง แต่แล้วเมื่อคุณหนูของนางแต่งงานไป คุณหนูของนางกลับทำตัวห่างเหินเช่นนี้มันทำให้นางรู้สึกเศร้าอยู่ลึก ๆ

อย่างไรก็ตาม เมื่อเย่หยูหลันได้เห็นสีหน้าอันกระอักกระอ่วนของเย่ชิงเฉิง นางจึงตัดสินใจที่จะไม่ดึงดันร้องขอเข้าไปนั่งในรถด้วย และทำได้แค่เพียงเก็บความสงสัยไว้ในใจว่ามีอะไรที่อยู่ในรถม้าคันนี้กันแน่?

เมื่อทุกคนพร้อมออกเดินทาง กงหนิวก็กลายร่างเป็นปีศาจกระทิงอเวจีและเชื่อมตัวเองกับรถม้า ซึ่งทำให้คนอื่น ๆ ที่ไม่เคยเห็นเขาตกตะลึงไปชั่วขณะ

ไม่ใช่ว่าพวกเขาจะประหลาดใจที่ได้เห็นปีศาจกระทิงอเวจี แต่พวกเขาประหลาดใจที่หลิงตู้ฉิงสามารถทำให้ปีศาจกระทิงอเวจีเชื่อฟังและลากรถม้าให้กับเขาได้ ซึ่งภาพเช่นนี้พวกเขาไม่เคยเห็นมาก่อน

เนื่องจากมีผู้เชี่ยวชาญขอบเขตนภา 2 คนในกลุ่ม กงหนิวจึงต้องชะลอความเร็วลงเพื่อให้หานซ่งหยวนและหยูจิ้งเฉิงสามารถไล่ตามได้ทัน

ในทางกลับกัน หยุนจื่อรุ่ยและเปียนเฉียวเฉียวที่นั่งอยู่ข้างเสี่ยวเยว่เฟิงอย่างเชื่อฟัง พวกนางในตอนนี้มีสีหน้าที่ตื่นเต้นมาก

พวกนางไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่ากงหนิวที่ไม่ค่อยจะปรากฎตัวให้พวกนางเห็นนั้น จริง ๆ แล้วเขาเป็นกระทิง? และสิ่งที่คาดไม่ถึงยิ่งกว่าก็คือตอนนี้พวกนางที่เพิ่งเข้าสู่ขอบเขตประสานทะเลปราณ แต่พวกนางกลับมีโอกาสได้ลอยอยู่ในอากาศ!

Related

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

พ่อเลี้ยงยอดเซียน (异界无敌奶爸) 319 การแสดงออกอันแปลกประหลาดของสำนักอักขระวิญญาณ

Now you are reading พ่อเลี้ยงยอดเซียน (异界无敌奶爸) Chapter 319 การแสดงออกอันแปลกประหลาดของสำนักอักขระวิญญาณ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 319 การแสดงออกอันแปลกประหลาดของสำนักอักขระวิญญาณ

ขณะนี้บรรดาคนในหมู่ตึกหยูอี่ต่างรีบเก็บข้าวของ และเตรียมตัวออกเดินทาง

ถ้าไม่ใช่เพราะพวกเขากำลังรอการกลับมาของเย่หยูหลัน หลิงตู้ฉิง และคนอื่น ๆ ก็คงจะออกจากเมืองเจินไห่ไปแล้ว

ในขณะที่กำลังรอให้เย่หยูหลันกลับมา หลิงตู้ฉิงก็วาดภาพร่างต่าง ๆ ลงบนยันต์เคลือบหยกหรือสร้างสมบัติวิเศษอื่น ๆ และทำการบ่มเพาะแบบคู่กับภรรยาทั้งสามเพื่อเป็นการฆ่าเวลา

เย่หยูหลันที่จากไปเป็นเวลากว่า 8 เดือน ในที่สุดนางก็กลับมาถึงหมู่ตึกหยูอี่

ทันทีที่นางกลับมา นางก็เข้ามาหาเย่ชิงเฉิง

“ป้าหลัน นี่ถ้าเราไม่รอให้ท่านกลับมาก่อน พวกเราคงออกเดินทางไปเมืองหยูหลันเรียบร้อยแล้ว” เย่ชิงเฉิงหัวเราะ “สามี นี่ป้าหลัน นางเป็นผู้ติดตามแม่ของข้ามาตั้งแต่นางยังเด็ก ตอนนี้ระดับการบ่มเพาะของนางอยู่ในระดับสวรรค์ศักดิ์สิทธิ์แล้ว สาเหตุที่นางมาที่นี่กับข้าก็เพราะนางได้รับคำสั่งจากแม่ของข้าให้มาปกป้องความปลอดภัยของข้า”

“ป้าหลันนี่คือสามีของข้า หลิงตู้ฉิง ข้าได้แต่งงานกับเขาแล้ว”

เย่หยูหลัน เมื่อได้ยินเย่ชิงเฉิงใช้คำว่า ‘สามี’ อย่างเต็มปากเต็มคำ นางจึงเอ่ยตอบด้วยความรู้สึกรู้สึกขัดแย้ง “เฮ้อ…คุณหนู ข้า…”

นางเข้าใจว่าเย่ชิงเฉิงหมายถึงอะไร เย่ชิงเฉิงไม่เพียงแต่ตกลงที่จะแต่งงานกับชายผู้นี้ แต่นางยังนอนร่วมเตียงเดียวกันกับเขาอีกด้วย

เมื่อพวกเขาอยู่ในห้องเดียวกัน มันจึงเป็นไปไม่ได้ที่พวกเขาจะย้อนกลับไปอยู่ในสถานะเดิมก่อนหน้า

จริง ๆ แล้วในใจของนางคิดว่าหลิงตู้ฉิงไม่คู่ควรกับเย่ชิงเฉิง ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของความสามารถ ระดับการบ่มเพาะ ภูมิหลังครอบครัว และอื่น ๆ

อย่างไรก็ตามเนื่องจากพวกเขาเข้าหอด้วยกันแล้ว นางจึงไม่สามารถทำอะไรได้

เย่ชิงเฉิงหัวเราะ “ป้าหลัน ข้าไม่เสียใจหรอกนะที่ได้แต่งงานกับสามีของข้า ว่าแต่ป้าหลันท่านไปที่สำนักอักขระวิญญาณและคืนสมบัติระดับเซียนให้พวกเขาแล้วใช่ไหม? แล้วพวกเขาตกลงที่จะละทิ้งความแค้นที่มีต่อสามีของข้าด้วยรึเปล่า?”

ทันทีที่นางพูดถึงเรื่องนี้ท่าทีของเย่หยูหลันก็เปลี่ยนไปทันที

“คุณหนู ข้าล่ะไม่อยากพูดถึงเรื่องนี้เลยจริง ๆ!” เย่หยูหลันพูดด้วยสีหน้าโมโห “หลังจากที่ข้าส่งสมบัติวิเศษชิ้นนั้นคืนไปให้กับพวกเขาและย้ำกับกับพวกเขาในเรื่องความแค้นที่พวกเขามีต่อท่านหลิงจะต้องยุติลง แต่ไอ้เจ้าสำนักบ้านั่นมันกลับเหน็บแนมข้า และมันพูดว่าสำนักอักขระศักดิ์สิทธิ์ของเรานั้นเนรคุณ และลืมไปแล้วว่าสำนักอักขระวิญญาณของมันได้เคยช่วยเหลือเราในอดีต”

“มันยังพูดอีกว่าพวกเราทั้งสองสำนักล้วนเป็นผู้เชี่ยวชาญที่บ่มเพาะในเส้นทางเต๋าอักขระเวทย์เหมือนกัน ดังนั้นพวกเราควรต้องเข้าข้างและสนับสนุนพวกมัน ไม่ใช่นำชื่อเสียงของสำนักเราที่เป็นสำนักมหาอำนาจไปกดขี่พวกมันแบบนี้ นี่ถ้าข้าไม่มีความอดทนมากพอ ข้าคงฆ่าไอ้นั่นไปแล้ว”

เมื่อได้ยินเช่นนี้ เย่ชิงเฉิงก็รู้สึกโกรธเช่นกัน “นี่พวกมันไม่ขอบคุณในความปราณีของข้ายังไม่พอ แถมกลับยังกล้าใช้วาจาสามหาวกับสำนักของข้าอีกงั้นเหรอ? ได้เลย! ข้าจะไปทำลายสำนักของพวกมันเดี๋ยวนี้ ข้าไม่รู้จริง ๆ ว่าพวกมันไปกินอะไรมาถึงกล้าหยิ่งผยองได้ขนาดนี้ ยิ่งไปกว่านั้นพวกมันไม่ได้ช่วยอะไรเลยเมื่อตอนที่พวกมันมาสำนักของเรา ตรงกันข้ามเป็นเพราะพวกมันด้วยซ้ำที่ทำให้ผู้อาวุโสคนหนึ่งของเราตกเข้าไปอยู่ในหมอกบ้านั่น สามี ท่านมีความคิดเห็นว่าอย่างไรดีกับพวกมัน…”

ในขณะที่นางเริ่มควบคุมอารมณ์ตัวเองไม่อยู่ การแสดงออกเช่นเดิมของคุณหนูอันสูงส่งแห่งสำนักอักขระศักดิ์สิทธิ์ก็เผยขึ้นออกมา อย่างไรก็ตามเมื่อนางเห็นหลิงตู้ฉิงจ้องมองนาง และคิดถึงสิ่งที่หลิงตู้ฉิงเคยเตือนนางไว้ นางก็รีบดึงอารมณ์ตัวเองกลับทันทีและถามว่า “สามี เราจะจัดการเรื่องนี้ยังไงดี?”

หลิงตู้ฉิงตอบว่า “ถ้าพวกมันไม่มายุ่งกับข้า เราก็ไม่จำเป็นต้องไปสนใจพวกมัน! แต่ถ้ามันกล้ามาสร้างความรำคาญให้ข้าอีกครั้ง เราค่อยไปจัดการกับพวกมันให้เด็ดขาด! เอาล่ะในเมื่อตอนนี้คนที่เจ้ารอก็กลับมาแล้ว พวกเราควรรีบออกเดินทางไปเมืองหยูหลันกันได้แล้ว!”

เย่ชิงเฉิงพยักหน้า “โม่เอ๋อไปแจ้งเหล่าศิษย์พี่ของข้าและคนอื่น ๆ ว่าเราจะมุ่งหน้าไปยังเมืองหยูหลัน”

โม่เอ๋อพยักหน้าทันทีและพูดว่า “ข้าจะไปเดี๋ยวนี้!”

เย่หยูหลันมองไปที่เย่ชิงเฉิงด้วยสายตาแปลกประหลาด นี่คือคุณหนูที่นางรู้จักจริงงั้นเหรอ?

ทำไมหลังจากที่นางแต่งงาน นางก็กลายเป็นคนละคนได้ถึงขนาดนี้กัน?

ในขณะที่หลิงตู้ฉิงกำลังถอดค่ายกลกระบี่เหินเมฆา เย่หยูหลันก็แอบถามเย่ชิงเฉิงผ่านการส่งข้อความโทรจิตว่า “คุณหนู เขารังแกท่านหรือเปล่า? ทำไมท่านถึงดูกลัวเขาได้ถึงขนาดนี้?”

“ไม่นี่!” เย่ชิงเฉิงหัวเราะ “ความสัมพันธ์ของเราค่อนข้างดีมาก ๆ ทีเดียวเลยล่ะ! แต่มันเป็นไปได้ที่เจ้าจะมองว่ามันออกจะแปลกไปสักหน่อย เนื่องจากบางทีนิสัยของเขาก็จะดูประหลาด ๆ และค่อนข้างแข็งทื่อไปสักหน่อย แต่จริง ๆ แล้วเขาเป็นคนที่วิเศษมากคนหนึ่งเลยล่ะ ฉะนั้นเพื่อที่จะรับมือกับเขาในบางครั้งข้าก็เลยต้องตามใจเขาบ้างน่ะ!”

“นี่ท่านต้องยอมลดตัวทำให้เขาถึงขนาดนี้เลยงั้นเหรอ?” เย่หยูหลันกระซิบ

“ก็ในเมื่อเขาดีกับข้า ฉะนั้นทำไมข้าถึงจะไม่ยอมเขากันล่ะ?” เย่ชิงเฉิงยิ้ม “เอาล่ะป้าหลัน ท่านไม่ต้องเป็นห่วงหรอกหยุดพูดเรื่องนี้เถอะ ยังไงซะนี่มันก็เป็นเรื่องระหว่างข้ากับเขา บางทีท่านอาจต้องใช้เวลาสักหน่อยท่านถึงจะเข้าใจ”

ไม่นานต่อมาหลิงตู้ฉิงก็ถอดค่ายกลกระบี่เหินเมฆาออกมาจากสวนด้านหลังของหมู่ตึกหยูอี่ และมอบมันพร้อมกับกระบี่บินทั้งชุดให้เย่ชิงเฉิง “ให้เจ้า!”

“ขอบคุณ สามี!” เย่ชิงเฉิงหัวเราะ

เมื่อเห็นว่าหลิงตู้ฉิงคืนอาวุธวิเศษระดับจักรพรรดิให้เย่ชิงเฉิง เย่หยูหลันก็พูดไม่ออกอีกครั้ง

อาวุธวิเศษระดับจักรพรรดินั่นมันเป็นของของนางตั้งแตกแรกอยู่แล้ว เมื่อเขาคืนให้แล้วยังต้องไปขอบคุณเขาที่คืนให้อีกเหรอ?

อย่างไรก็ตาม เย่ชิงเฉิงได้บอกกับนางแล้วว่านี่เป็นเรื่องในครอบครัวของนาง ดังนั้นมันจึงไม่เหมาะสมที่นางจะพูดอะไรไปมากกว่านี้

ในเวลานี้ หลิงตู้ฉิงกำลังมองไปที่หยุนจื่อรุ่ยและเปียนเฉียวเฉียว ในเวลาที่ผ่านมาเด็กสาวทั้งสองในที่สุดก็ทะลวงขอบเขตเข้าสู่ขอบเขตประสานทะเลปราณได้แล้ว และอายุของพวกนางก็ได้เพิ่มขึ้นมาเกือบ 2 ปี

เมื่อถูกหลิงตู้ฉิงจ้องเขม็งมาแบบนั้น พวกนางก็เริ่มรู้สึกทำตัวไม่ถูก

หลิงตู้ฉิงเกาหัวของเขาและพูดว่า “เฟิง ให้น้องของเจ้าและเด็กทั้งสองนั่งที่ด้านหน้ารถกับเจ้าและดูแลพวกเขาด้วย”

ความตั้งใจเดิมของเขาคือเก็บชุดค่ายกลกระบี่ไว้ในหมู่ตึกหยูอี่เพื่อให้เด็กทั้งสองได้ใช้มันเพื่อดูแลที่นี่ จริง ๆ แล้วเขาเองก็ไม่ต้องการที่จะพาเด็กทั้งสองไปที่อื่นกับเขา

อย่างไรก็ตาม เมื่อค่ายกลกระบี่เหินเมฆาและอาวุธวิเศษระดับจักรพรรดิถูกรวมเข้าด้วยกันเพื่อให้อำนาจของมันเพิ่มมากขึ้น แต่ข้อเสียที่ตามมาก็คือพวกมันจะไม่สามารถถูกแยกออกจากกันได้

สำหรับเด็กทั้งสองที่คอยรับใช้พวกเขามานาน หากปล่อยให้พวกนางอยู่ที่หมู่ตึกหยูอี่กันเพียงลำพังสองคนมันจะต้องมีปัญหาเกิดกับพวกนางอย่างแน่นอน

อย่างไรก็ตาม เขาเองก็ไม่ต้องการให้คนอื่นรู้ว่าครอบครัวของเขาฝึกฝนวิชาเจตจำนงแปลงสรรพสิ่ง ดังนั้นเขาจึงตัดสินใจให้เด็กน้อยทั้งสองนั่งที่ตรงที่นั่งหน้ารถกับเฟิงไปเพื่อแก้ปัญหา

“ไม่ต้องห่วงนายท่าน ข้าจะดูแลพวกนางเป็นอย่างดี!” เสี่ยวเยว่เฟิงหัวเราะ

หลิงตู้ฉิงพยักหน้า “เอาล่ะ ถ้าพร้อมแล้วก็ไปกันเถอะ!”

เมื่อได้ยินคำสั่ง บรรดาครอบครัวของหลิงตู้ฉิงก็ทยอยกันเดินขึ้นรถม้า ซึ่งโม่เอ๋อและเย่หยูหลันต่างก็เดินตามขึ้นไปด้วยเช่นกัน แต่ก่อนที่พวกนางจะได้ก้าวขึ้นไปบนรถม้า พวกนางก็ได้ถูกเย่ชิงเฉิงหยุดเอาไว้

“ป้าหลัน ข้าเกรงว่าการเดินทางครั้งนี้ท่านอาจจะต้องลำบากกว่าข้าสักหน่อย…” เย่ชิงเฉิงพูดด้วยสีหน้ากระอักกระอ่วน

เย่ชิงเฉิงรู้ดีว่าความลับที่อยู่ด้านในรถไม่สามารถเปิดเผยได้ แม้กระทั่งโม่เอ๋อที่ทำสัญญากฎสวรรค์ไปแล้วนางก็ยังไม่มีสิทธิ์ได้รับรู้การมีอยู่ของวิชาเจตจำนงแปลงสรรพสิ่ง ซึ่งมันชี้ให้เห็นชัดเจนว่าหลิงตู้ฉิงต้องการเก็บความลับนี้ไว้มากขนาดไหน

เย่หยูหลันรู้สึกเสียใจเล็กน้อย ถึงแม้ว่าสถานะของนางจะเป็นเพียงผู้ติดตามแม่ของเย่ชิงเฉิง แต่ด้วยความผูกพันธ์และความสนิทสนมกันนั้นจริง ๆ แล้วนางก็ไม่ต่างอะไรกับเป็นญาติคนหนึ่ง แต่แล้วเมื่อคุณหนูของนางแต่งงานไป คุณหนูของนางกลับทำตัวห่างเหินเช่นนี้มันทำให้นางรู้สึกเศร้าอยู่ลึก ๆ

อย่างไรก็ตาม เมื่อเย่หยูหลันได้เห็นสีหน้าอันกระอักกระอ่วนของเย่ชิงเฉิง นางจึงตัดสินใจที่จะไม่ดึงดันร้องขอเข้าไปนั่งในรถด้วย และทำได้แค่เพียงเก็บความสงสัยไว้ในใจว่ามีอะไรที่อยู่ในรถม้าคันนี้กันแน่?

เมื่อทุกคนพร้อมออกเดินทาง กงหนิวก็กลายร่างเป็นปีศาจกระทิงอเวจีและเชื่อมตัวเองกับรถม้า ซึ่งทำให้คนอื่น ๆ ที่ไม่เคยเห็นเขาตกตะลึงไปชั่วขณะ

ไม่ใช่ว่าพวกเขาจะประหลาดใจที่ได้เห็นปีศาจกระทิงอเวจี แต่พวกเขาประหลาดใจที่หลิงตู้ฉิงสามารถทำให้ปีศาจกระทิงอเวจีเชื่อฟังและลากรถม้าให้กับเขาได้ ซึ่งภาพเช่นนี้พวกเขาไม่เคยเห็นมาก่อน

เนื่องจากมีผู้เชี่ยวชาญขอบเขตนภา 2 คนในกลุ่ม กงหนิวจึงต้องชะลอความเร็วลงเพื่อให้หานซ่งหยวนและหยูจิ้งเฉิงสามารถไล่ตามได้ทัน

ในทางกลับกัน หยุนจื่อรุ่ยและเปียนเฉียวเฉียวที่นั่งอยู่ข้างเสี่ยวเยว่เฟิงอย่างเชื่อฟัง พวกนางในตอนนี้มีสีหน้าที่ตื่นเต้นมาก

พวกนางไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่ากงหนิวที่ไม่ค่อยจะปรากฎตัวให้พวกนางเห็นนั้น จริง ๆ แล้วเขาเป็นกระทิง? และสิ่งที่คาดไม่ถึงยิ่งกว่าก็คือตอนนี้พวกนางที่เพิ่งเข้าสู่ขอบเขตประสานทะเลปราณ แต่พวกนางกลับมีโอกาสได้ลอยอยู่ในอากาศ!

Related

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+