พ่อเลี้ยงยอดเซียน (异界无敌奶爸) 418 หลิงว่านถิงตกหลุมพลาง

Now you are reading พ่อเลี้ยงยอดเซียน (异界无敌奶爸) Chapter 418 หลิงว่านถิงตกหลุมพลาง at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 418 หลิงว่านถิงตกหลุมพลาง

เมื่อหลิงว่านถิงเห็นหยูเฉิงฮุย นางก็รู้สึกถูกใจเขาอย่างจัง เพราะนางชอบผู้ชายหน้าตาดีมากที่สุด

ตราบใดที่นางชอบมันก็ไม่มีอะไรสำคัญอีกแล้ว

นางไม่สนใจเกี่ยวกับภูมิหลังครอบครัว การบ่มเพาะ ความถนัด ฯลฯ

น้องชายของนางเป็นถึงจักรพรรดิแห่งอาณาจักรจันทรา นางสามารถจะได้อะไรก็ได้ที่ต้องการและที่สำคัญนางมีพ่อที่มีอำนาจทำได้ทุกอย่าง!

ด้วยเงื่อนไขที่ลงตัว นางชอบหยูเฉิงฮุยแต่หยูเฉิงฮุยมีแรงจูงใจอื่นในการเข้าหานาง มันจึงทำให้ทั้งสองคนใกล้ชิดกันอย่างรวดเร็ว

ในขณะเดียวกับที่หลิงว่านถิงและหยูเฉิงฮุยเริ่มใกล้ชิดกัน หลิงยี่เทียนก็ได้รับข่าว

“ฝ่าบาท ชาติกำเนิดของเปียนหยูหลินนั้นลึกลับมาก แล้วตอนนี้องค์หญิงใหญ่ก็กำลังมีความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดกับเขา ข้าเป็นห่วงว่าเรื่องนี้อาจจะมีปัญหา” แม่ทัพใหญ่โม่หยูถังพูดด้วยรอยยิ้มเบี้ยว “ที่สำคัญข้าพบว่ามีผู้เชี่ยวชาญระดับสวรรค์สามัญมากมายอยู่รายล้อมเขาตลอดเวลา ซึ่งผู้เชี่ยวชาญเหล่านี้ไม่มีใครที่อ่อนแอเลย ข้าคิดว่าเปียนหยูหลินนั้นต้องเป็นคนที่มีภูมิหลังไม่ธรรมดาแน่นอน”

หลิงยี่เทียนขมวดคิ้วและพูดว่า “ตราบใดที่พี่สาวของข้าชอบชายผู้นี้ ไม่ว่าเขาจะมาจากขุมกำลังไหนมันก็ไม่สำคัญ! แต่เรื่องสำคัญก็คือเราต้องรู้ให้ได้ก่อนชายผู้นี้เป็นใครกันแน่? แล้วเจ้าที่ตามสืบเรื่องของเขามาก็ตั้งนานแล้วทำไมถึงยังไม่พบตัวตนของเขาอีก?”

ชายหนุ่มหน้าตาดีผู้นี้ที่มีผู้เชี่ยวชาญระดับสวรรค์สามัญมากมายอยู่เคียงข้าง ในฐานะจักรพรรดิแห่งอาณาจักรจันทรา หลิงยี่เทียนย่อมต้องกังวลเกี่ยวกับเรื่องนี้

โม่หยูถังส่ายหัวและพูดว่า “คนของเราได้ติดตามพวกเขาไปที่เกาะมัจฉายักษ์ แต่เราก็ยังไม่พบที่มาของพวกเขา อย่างไรก็ตามตราบใดที่คนคนนี้ถูกพบเห็นในที่อื่น เราจะน่าจะได้เบาะแสอื่นอย่างแน่นอน”

หลิงยี่เทียนพยักหน้าเล็กน้อยและพูดว่า “รีบหน่อย! อันที่จริงเจ้าควรไปขอให้หอการค้าของตระกูลมี่ช่วยสืบหาด้วยอีกทาง และถ้าพบเบาะแสอะไรเจ้าก็ให้พี่ห้าส่งข่าวมาให้ข้าโดยเร็วที่สุด ข้าต้องรู้ตัวตนของเขาให้ได้ นอกจากนี้เจ้าจงไปพบกับแม่ทั้งสองและให้พวกนางบอกย้ำกับพี่สองเอาไว้ด้วยว่านางไม่ได้รับอนุญาตให้ออกจากเกาะเทียนหยวน!”

เขารู้ดีว่าแม้ว่าเขาจะเป็นจักรพรรดิ แต่คำพูดของเขาก็ไร้ประโยชน์ต่อหลิงว่านถิง

เนื่องจากหลิงตู้ฉิงไม่อยู่ที่นี่ เขาจึงได้แต่หวังว่าคำพูดห้ามปรามของจ้าวเหมิงลู่และเหลียงเฟ่ยเอ๋อจะได้ผล แต่ถ้ามันไม่ได้ผลจริง ๆ เขาก็คงเหลือแค่ต้องติดต่อพี่ใหญ่ของเขาให้กลับมาและปรามพี่สองของของเขา

โม่หยูถังพยักหน้า “ข้าจะไปแจ้งพวกเขาทันที!”

หลังจากผ่านไปหลายปี การบ่มเพาะของโม่หยูถังได้ฟื้นตัวอย่างสมบูรณ์มาเป็นเวลานานและตอนนี้เขายังได้ทะลวงไปยังระดับสวรรค์สามัญเรียบร้อยแล้ว

และด้วยการสนับสนุนของหลิงยี่เทียน หอกทะลวงเมฆาได้กลายเป็นสมบัติแห่งสวรรค์ หลังจากหลอมรวมเข้ากับวัสดุระดับสวรรค์

ดังนั้นในอาณาจักรจันทรา ความแข็งแกร่งของโม่หยูถังก็นับได้ว่าอยู่ในอันดับต้น ๆ

โม่หยูถังที่ได้รับคำสั่งมา เขาก็รีบไปที่คฤหาสน์สราญรมย์ทันทีและส่งต่อคำพูดของหลิงยี่เทียนให้จ้าวเหมิงลู่และเหลียงเฟ่ยเอ๋อ

เหลียงเฟ่ยเอ๋อยิ้มและพูดว่า “ว่านถิงไม่เคยสนใจใครเลย แต่ตอนนี้นางกำลังเริ่มที่จะตกหลุมรักชายผู้นี้เข้าให้แล้ว”

โม่หยูถังยิ้ม “นี่คือรูปของเปียนหยูหลิน!”

“หน้าตาของเขาดูดีถึงขนาดนี้นี่เอง ไม่น่าแปลกใจเลยจริง ๆ ที่ว่านถิงจะชอบเขา” เหลียงเฟ่ยเอ๋อยิ้มและพูด “พี่เหมิงลู่กำลังบ่มเพาะอยู่ เดี๋ยวข้าจะไปพาว่านถิงกลับมาและเตือนนางด้วยตัวข้าเอง”

“งั้นข้าจะส่งคนติดตามท่านหญิงไปด้วยก็แล้วกัน” โม่หยูถังพูด

เหลียงเฟ่ยเอ๋อพยักหน้าและไม่ปฏิเสธอะไร

หลังจากนั้นโม่หยูถังก็เรียกหลิงฉุยฟงมา

ตลอดหลายปีที่ผ่านมาความแข็งแกร่งของหลิงฉุยฟงได้บ่มเพาะไปจนถึงขอบเขตนภาระดับ 7 แล้ว

อย่างไรก็ตามจุดแข็งที่สุดของหลิงฉุยฟงไม่ใช่ระดับการบ่มเพาะของตัวเขา แต่เป็นกองทัพภายใต้การบังคับบัญชาการของเขา

ไม่ว่าหลิงฉุยฟงจะอยู่ที่ใดมันก็หมายความว่ากองทัพก็อยู่ที่นั่น

แต่ด้วยรูปแบบการเคลื่อนทัพของกองทัพของเขาที่สามารถหลบซ่อนจากสายตาผู้คนได้ มันจึงไม่มีใครได้เห็นกองทัพที่ติดตามเขาอยู่ตลอดเวลา นอกเสียจากศัตรูที่ชะตากำลังจะขาด

หลังจากผ่านไปหลายปี กองทัพของหลิงฉุยฟงนั้นได้กวาดล้างเหล่าผู้เชี่ยวชาญระดับสวรรค์สามัญไปหลายต่อหลายคนโดยไม่เคยมีใครได้รับรู้

และในเมื่อตอนนี้เหลียงเฟ่ยเอ๋อต้องการออกไปข้างนอก ด้วยคำสั่งจากโม่หยูถังที่ส่งไปยังหลิงฉุยฟง มันจึงเป็นที่แน่นอนอยู่แล้วที่กองทัพลึกลับนี้จะต้องไปกับนาง

จากนั้นเมื่อโม่หยูถังเห็นว่าหลิงฉุยฟงได้มาอยู่ข้างกายเหลียงเฟ่ยเอ๋อพร้อมที่จะคุ้มครองนางไปทุกที่แล้ว เขาก็จากไปโดยไร้ความกังวลใด ๆ เกี่ยวกับความปลอดภัยของนาง เนื่องจากอำนาจที่แข็งแกร่งที่สุดของอาณาจักรจันทราได้มาอยู่เคียงข้างเหลียงเฟ่ยเอ๋อเรียบร้อยแล้ว ดังนั้นนางจึงไม่ต้องการการปกป้องจากใครอีก

เมื่อทุกอย่างเตรียมพร้อม หลิงฉุยฟงกับเหลียงเฟ่ยเอ๋อก็มุ่งหน้าไปที่ศาลาศักดิ์สิทธิ์ทันที จากนั้นพวกเขาก็ได้พบกับหลิงว่านถิง

ซึ่งภาพที่พวกเขาเห็นก็คือ หลิงว่านถิงกำลังกระเซ้าเย้าแหย่อยู่กับหยูเฉิงฮุย

“ป้าเฟ่ย ท่านมาที่นี่มีอะไรงั้นเหรอ?” หลิงว่านถิงถามขึ้นด้วยความประหลาดใจ “อ๋อ ป้าเฟย นี่คือ เปียนหยูหลิน คนที่ข้าชอบ พี่หยูหลิน นี่คือป้าของข้า”

ตาของเปียนหยูหลินสว่างขึ้นทันที ในที่สุดเขาก็ได้เจอหญิงสาวผู้เป็นเจ้าของร่างกายแก่นแท้ปฐพี

เขายิ้มให้เหลียงเฟ่ยเอ๋อและพูดว่า “คารวะ ท่านหญิง!”

เหลียงเฟ่ยเอ๋อเหลือบมองเขาและพยักหน้าเป็นเชิงทักทาย จากนั้นนางดึงหลิงว่านถิงเข้ามาหาและพูดว่า “สาวน้อย เดี๋ยวนี้เจ้าเอาแต่เที่ยวเล่นไปเรื่อยจนไม่สนใจการบ่มเพาะแล้วใช่ไหม? อีกไม่นานพ่อของเจ้าก็จะกลับมาแล้ว ถ้าขืนเจ้ายังคงทำตัวเหลวไหลอยู่แบบนี้แล้วข้าจะอธิบายให้พ่อของเจ้าฟังได้อย่างไร?”

หลิงว่านถิงยิ้มและพูดว่า “ป้าเฟ่ย ข้าอยากให้ท่านพ่อกลับมาเร็ว ๆ จัง ข้าอยากพาพี่หยูหลินไปให้พ่อดูและให้เขายอมรับเรื่องของเรา!”

เด็ก ๆ ทุกคนต่างเคารพหลิงตู้ฉิงมากเพราะหลิงตู้ฉิงเป็นผู้มอบโอกาสทุกอย่างในชีวิตให้กับพวกเขา

ดังนั้นเวลาพวกเขาต้องทำการตัดสินใจเรื่องสำคัญต่าง ๆ อันดับแรกเลยคือพวกเขาจะต้องได้รับการเห็นชอบจากหลิงตู้ฉิงก่อน ซึ่งหลิงว่านถิงเองก็มีความคิดแบบนั้นเช่นกัน

เหลียงเฟ่ยเอ๋อยิ้มและพูดว่า “อืม ดีแล้วที่เจ้ารอพ่อของเจ้ากลับมาก่อน เอาล่ะแต่ตอนนี้เจ้าต้องกลับไปกับป้าก่อน”

นางไม่ได้สนใจเปียนหยูหลินแต่อย่างใด ในทางกลับกันหลิงว่านถิงหันไปยิ้มให้กับหยูเฉิงฮุยและพูดว่า “พี่หยูหลิน ข้าคงต้องขอตัวกลับไปก่อน แล้วข้าจะมาหาท่านใหม่วันหลัง”

หยูเฉิงฮุยยิ้มและพูดว่า “น้องว่านถิง อันที่จริงข้าเองก็อยากจะไปเยี่ยมครอบครัวของเจ้ามานานแล้ว เอาเป็นว่าข้าขอใช้โอกาสนี้ไปที่คฤหาสน์ของเจ้าเพื่อคารวะเหล่าญาติของเจ้าจะได้ไหม?”

หลิงว่านถิงลังเลอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นก็ส่ายหัวและพูดว่า “เราค่อยคุยกันเรื่องนี้เมื่อท่านพ่อของข้ากลับมา!”

เพราะตอนที่หลิงตู้ฉิงจากไป เขากำชับว่ามีเพียงสมาชิกในครอบครัวของเขาเท่านั้นที่ได้รับอนุญาตเข้าไปในคฤหาสน์สราญรมย์ได้ ซึ่งนางเองก็จำคำกำชับของพ่อนางได้ขึ้นใจ ยิ่งไปกว่านั้นนางเองก็เคยได้เห็นจุดจบของผู้คนมากมายที่บุกเข้ามาในคฤหาสน์สราญรมย์โดยไม่ได้รับอนุญาต ดังนั้นนางจึงไม่รู้ว่าหยูเฉิงฮุยจะมีปัญหาหรือไม่ถ้าหากนางพาเขาเข้าไปในคฤหาสน์

“เอาล่ะถ้าอย่างนั้นข้าจะรอพ่อของเจ้ากลับมาก่อนก็แล้วกัน!” หยูเฉิงฮุยหัวเราะ

หลังจากนั้นก็เขาเฝ้ามองร่างของหลิงว่านถิงและเหลียงเฟ่ยเอ๋อที่ค่อย ๆ เดินหายไป ซึ่งหลังจากนั้นดวงตาของเขาก็เต็มไปด้วยร่องรอยแห่งความปรารถนา

หญิงสาวที่บ่มเพาะได้จนถึงขอบเขตประสานทะเลปราณระดับ 13 นั้นถือได้ว่ามีฐานะเป็นธิดาแห่งสวรรค์เลยก็ว่าได้ในมหาพิภพไร้จุดจบ แถมเขาต้องยอมรับหลิงว่านถิงมีความดึงดูดต่อเขามาก แต่เหลียงเฟ่ยเอ๋อที่มีร่างกายแก่นแท้ปฐพีนั้นน่าดึงดูดยิ่งกว่า

“องค์ชาย ทำไมท่านไม่ให้ข้าจับพวกนางทั้งหมด?” ผู้เชี่ยวชาญระดับสวรรค์สามัญที่อยู่ด้านข้างเขาถามขึ้น

“นี่คือใจกลางของอาณาจักรจันทรา หากเราทำอะไรบุ่มบ่ามที่นี่ มันจะเป็นเรื่องยากที่เราจะฝ่าออกไปได้ นอกจากนี้เจ้าไม่สังเกตเหรอไงว่านางพาคนของนางมาด้วยอีกคน?” หยูเฉิงฮุยถาม

“ด้วยจำนวนของพวกเราที่ล้วนแต่เป็นผู้เชี่ยวชาญระดับสวรรค์สามัญ กว่าอาณาจักรจันทราจะรู้เรื่อง พวกเราก็คงหนีออกจากพื้นที่เกาะเทียนหยวนไปนานแล้ว และด้วยจำนวนของเราที่มีอยู่กันตั้งหลายคน ข้ามั่นใจว่าพวกข้าจะสามารถส่งท่านกลับไปที่อาณาจักรหลงซานได้อย่างรวดเร็ว”

หยูเฉิงฮุยส่ายหัวและพูดว่า “เราไม่ควรใจร้อน ไม่ว่าจะยังไง ตอนนี้พวกเขาไม่รู้จักตัวตนของข้า แถมตอนนี้แผนของข้าก็กำลังเป็นไปได้ด้วยดี ดังนั้นมันจึงเป็นเพียงเรื่องของเวลาที่เราจะโค่นพวกเขาลง เจ้าไม่จำเป็นต้องกังวล มันจะต้องสำเร็จอย่างแน่นอน”

จางหมิงที่ในตอนนี้ก็อยู่ข้าง ๆ เขาเช่นกัน ก็ได้พูดขึ้นว่า “ฝ่าบาทท่านต้องรีบแล้วนะ! หลิงตู้ฉิงจะกลับมาเร็ว ๆ นี้!”

“ต่อให้เขากลับมาแล้วมันจะเป็นยังไงล่ะ?” หยูเฉิงฮุยพูดอย่างไม่พอใจ

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

พ่อเลี้ยงยอดเซียน (异界无敌奶爸) 418 หลิงว่านถิงตกหลุมพลาง

Now you are reading พ่อเลี้ยงยอดเซียน (异界无敌奶爸) Chapter 418 หลิงว่านถิงตกหลุมพลาง at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 418 หลิงว่านถิงตกหลุมพลาง

เมื่อหลิงว่านถิงเห็นหยูเฉิงฮุย นางก็รู้สึกถูกใจเขาอย่างจัง เพราะนางชอบผู้ชายหน้าตาดีมากที่สุด

ตราบใดที่นางชอบมันก็ไม่มีอะไรสำคัญอีกแล้ว

นางไม่สนใจเกี่ยวกับภูมิหลังครอบครัว การบ่มเพาะ ความถนัด ฯลฯ

น้องชายของนางเป็นถึงจักรพรรดิแห่งอาณาจักรจันทรา นางสามารถจะได้อะไรก็ได้ที่ต้องการและที่สำคัญนางมีพ่อที่มีอำนาจทำได้ทุกอย่าง!

ด้วยเงื่อนไขที่ลงตัว นางชอบหยูเฉิงฮุยแต่หยูเฉิงฮุยมีแรงจูงใจอื่นในการเข้าหานาง มันจึงทำให้ทั้งสองคนใกล้ชิดกันอย่างรวดเร็ว

ในขณะเดียวกับที่หลิงว่านถิงและหยูเฉิงฮุยเริ่มใกล้ชิดกัน หลิงยี่เทียนก็ได้รับข่าว

“ฝ่าบาท ชาติกำเนิดของเปียนหยูหลินนั้นลึกลับมาก แล้วตอนนี้องค์หญิงใหญ่ก็กำลังมีความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดกับเขา ข้าเป็นห่วงว่าเรื่องนี้อาจจะมีปัญหา” แม่ทัพใหญ่โม่หยูถังพูดด้วยรอยยิ้มเบี้ยว “ที่สำคัญข้าพบว่ามีผู้เชี่ยวชาญระดับสวรรค์สามัญมากมายอยู่รายล้อมเขาตลอดเวลา ซึ่งผู้เชี่ยวชาญเหล่านี้ไม่มีใครที่อ่อนแอเลย ข้าคิดว่าเปียนหยูหลินนั้นต้องเป็นคนที่มีภูมิหลังไม่ธรรมดาแน่นอน”

หลิงยี่เทียนขมวดคิ้วและพูดว่า “ตราบใดที่พี่สาวของข้าชอบชายผู้นี้ ไม่ว่าเขาจะมาจากขุมกำลังไหนมันก็ไม่สำคัญ! แต่เรื่องสำคัญก็คือเราต้องรู้ให้ได้ก่อนชายผู้นี้เป็นใครกันแน่? แล้วเจ้าที่ตามสืบเรื่องของเขามาก็ตั้งนานแล้วทำไมถึงยังไม่พบตัวตนของเขาอีก?”

ชายหนุ่มหน้าตาดีผู้นี้ที่มีผู้เชี่ยวชาญระดับสวรรค์สามัญมากมายอยู่เคียงข้าง ในฐานะจักรพรรดิแห่งอาณาจักรจันทรา หลิงยี่เทียนย่อมต้องกังวลเกี่ยวกับเรื่องนี้

โม่หยูถังส่ายหัวและพูดว่า “คนของเราได้ติดตามพวกเขาไปที่เกาะมัจฉายักษ์ แต่เราก็ยังไม่พบที่มาของพวกเขา อย่างไรก็ตามตราบใดที่คนคนนี้ถูกพบเห็นในที่อื่น เราจะน่าจะได้เบาะแสอื่นอย่างแน่นอน”

หลิงยี่เทียนพยักหน้าเล็กน้อยและพูดว่า “รีบหน่อย! อันที่จริงเจ้าควรไปขอให้หอการค้าของตระกูลมี่ช่วยสืบหาด้วยอีกทาง และถ้าพบเบาะแสอะไรเจ้าก็ให้พี่ห้าส่งข่าวมาให้ข้าโดยเร็วที่สุด ข้าต้องรู้ตัวตนของเขาให้ได้ นอกจากนี้เจ้าจงไปพบกับแม่ทั้งสองและให้พวกนางบอกย้ำกับพี่สองเอาไว้ด้วยว่านางไม่ได้รับอนุญาตให้ออกจากเกาะเทียนหยวน!”

เขารู้ดีว่าแม้ว่าเขาจะเป็นจักรพรรดิ แต่คำพูดของเขาก็ไร้ประโยชน์ต่อหลิงว่านถิง

เนื่องจากหลิงตู้ฉิงไม่อยู่ที่นี่ เขาจึงได้แต่หวังว่าคำพูดห้ามปรามของจ้าวเหมิงลู่และเหลียงเฟ่ยเอ๋อจะได้ผล แต่ถ้ามันไม่ได้ผลจริง ๆ เขาก็คงเหลือแค่ต้องติดต่อพี่ใหญ่ของเขาให้กลับมาและปรามพี่สองของของเขา

โม่หยูถังพยักหน้า “ข้าจะไปแจ้งพวกเขาทันที!”

หลังจากผ่านไปหลายปี การบ่มเพาะของโม่หยูถังได้ฟื้นตัวอย่างสมบูรณ์มาเป็นเวลานานและตอนนี้เขายังได้ทะลวงไปยังระดับสวรรค์สามัญเรียบร้อยแล้ว

และด้วยการสนับสนุนของหลิงยี่เทียน หอกทะลวงเมฆาได้กลายเป็นสมบัติแห่งสวรรค์ หลังจากหลอมรวมเข้ากับวัสดุระดับสวรรค์

ดังนั้นในอาณาจักรจันทรา ความแข็งแกร่งของโม่หยูถังก็นับได้ว่าอยู่ในอันดับต้น ๆ

โม่หยูถังที่ได้รับคำสั่งมา เขาก็รีบไปที่คฤหาสน์สราญรมย์ทันทีและส่งต่อคำพูดของหลิงยี่เทียนให้จ้าวเหมิงลู่และเหลียงเฟ่ยเอ๋อ

เหลียงเฟ่ยเอ๋อยิ้มและพูดว่า “ว่านถิงไม่เคยสนใจใครเลย แต่ตอนนี้นางกำลังเริ่มที่จะตกหลุมรักชายผู้นี้เข้าให้แล้ว”

โม่หยูถังยิ้ม “นี่คือรูปของเปียนหยูหลิน!”

“หน้าตาของเขาดูดีถึงขนาดนี้นี่เอง ไม่น่าแปลกใจเลยจริง ๆ ที่ว่านถิงจะชอบเขา” เหลียงเฟ่ยเอ๋อยิ้มและพูด “พี่เหมิงลู่กำลังบ่มเพาะอยู่ เดี๋ยวข้าจะไปพาว่านถิงกลับมาและเตือนนางด้วยตัวข้าเอง”

“งั้นข้าจะส่งคนติดตามท่านหญิงไปด้วยก็แล้วกัน” โม่หยูถังพูด

เหลียงเฟ่ยเอ๋อพยักหน้าและไม่ปฏิเสธอะไร

หลังจากนั้นโม่หยูถังก็เรียกหลิงฉุยฟงมา

ตลอดหลายปีที่ผ่านมาความแข็งแกร่งของหลิงฉุยฟงได้บ่มเพาะไปจนถึงขอบเขตนภาระดับ 7 แล้ว

อย่างไรก็ตามจุดแข็งที่สุดของหลิงฉุยฟงไม่ใช่ระดับการบ่มเพาะของตัวเขา แต่เป็นกองทัพภายใต้การบังคับบัญชาการของเขา

ไม่ว่าหลิงฉุยฟงจะอยู่ที่ใดมันก็หมายความว่ากองทัพก็อยู่ที่นั่น

แต่ด้วยรูปแบบการเคลื่อนทัพของกองทัพของเขาที่สามารถหลบซ่อนจากสายตาผู้คนได้ มันจึงไม่มีใครได้เห็นกองทัพที่ติดตามเขาอยู่ตลอดเวลา นอกเสียจากศัตรูที่ชะตากำลังจะขาด

หลังจากผ่านไปหลายปี กองทัพของหลิงฉุยฟงนั้นได้กวาดล้างเหล่าผู้เชี่ยวชาญระดับสวรรค์สามัญไปหลายต่อหลายคนโดยไม่เคยมีใครได้รับรู้

และในเมื่อตอนนี้เหลียงเฟ่ยเอ๋อต้องการออกไปข้างนอก ด้วยคำสั่งจากโม่หยูถังที่ส่งไปยังหลิงฉุยฟง มันจึงเป็นที่แน่นอนอยู่แล้วที่กองทัพลึกลับนี้จะต้องไปกับนาง

จากนั้นเมื่อโม่หยูถังเห็นว่าหลิงฉุยฟงได้มาอยู่ข้างกายเหลียงเฟ่ยเอ๋อพร้อมที่จะคุ้มครองนางไปทุกที่แล้ว เขาก็จากไปโดยไร้ความกังวลใด ๆ เกี่ยวกับความปลอดภัยของนาง เนื่องจากอำนาจที่แข็งแกร่งที่สุดของอาณาจักรจันทราได้มาอยู่เคียงข้างเหลียงเฟ่ยเอ๋อเรียบร้อยแล้ว ดังนั้นนางจึงไม่ต้องการการปกป้องจากใครอีก

เมื่อทุกอย่างเตรียมพร้อม หลิงฉุยฟงกับเหลียงเฟ่ยเอ๋อก็มุ่งหน้าไปที่ศาลาศักดิ์สิทธิ์ทันที จากนั้นพวกเขาก็ได้พบกับหลิงว่านถิง

ซึ่งภาพที่พวกเขาเห็นก็คือ หลิงว่านถิงกำลังกระเซ้าเย้าแหย่อยู่กับหยูเฉิงฮุย

“ป้าเฟ่ย ท่านมาที่นี่มีอะไรงั้นเหรอ?” หลิงว่านถิงถามขึ้นด้วยความประหลาดใจ “อ๋อ ป้าเฟย นี่คือ เปียนหยูหลิน คนที่ข้าชอบ พี่หยูหลิน นี่คือป้าของข้า”

ตาของเปียนหยูหลินสว่างขึ้นทันที ในที่สุดเขาก็ได้เจอหญิงสาวผู้เป็นเจ้าของร่างกายแก่นแท้ปฐพี

เขายิ้มให้เหลียงเฟ่ยเอ๋อและพูดว่า “คารวะ ท่านหญิง!”

เหลียงเฟ่ยเอ๋อเหลือบมองเขาและพยักหน้าเป็นเชิงทักทาย จากนั้นนางดึงหลิงว่านถิงเข้ามาหาและพูดว่า “สาวน้อย เดี๋ยวนี้เจ้าเอาแต่เที่ยวเล่นไปเรื่อยจนไม่สนใจการบ่มเพาะแล้วใช่ไหม? อีกไม่นานพ่อของเจ้าก็จะกลับมาแล้ว ถ้าขืนเจ้ายังคงทำตัวเหลวไหลอยู่แบบนี้แล้วข้าจะอธิบายให้พ่อของเจ้าฟังได้อย่างไร?”

หลิงว่านถิงยิ้มและพูดว่า “ป้าเฟ่ย ข้าอยากให้ท่านพ่อกลับมาเร็ว ๆ จัง ข้าอยากพาพี่หยูหลินไปให้พ่อดูและให้เขายอมรับเรื่องของเรา!”

เด็ก ๆ ทุกคนต่างเคารพหลิงตู้ฉิงมากเพราะหลิงตู้ฉิงเป็นผู้มอบโอกาสทุกอย่างในชีวิตให้กับพวกเขา

ดังนั้นเวลาพวกเขาต้องทำการตัดสินใจเรื่องสำคัญต่าง ๆ อันดับแรกเลยคือพวกเขาจะต้องได้รับการเห็นชอบจากหลิงตู้ฉิงก่อน ซึ่งหลิงว่านถิงเองก็มีความคิดแบบนั้นเช่นกัน

เหลียงเฟ่ยเอ๋อยิ้มและพูดว่า “อืม ดีแล้วที่เจ้ารอพ่อของเจ้ากลับมาก่อน เอาล่ะแต่ตอนนี้เจ้าต้องกลับไปกับป้าก่อน”

นางไม่ได้สนใจเปียนหยูหลินแต่อย่างใด ในทางกลับกันหลิงว่านถิงหันไปยิ้มให้กับหยูเฉิงฮุยและพูดว่า “พี่หยูหลิน ข้าคงต้องขอตัวกลับไปก่อน แล้วข้าจะมาหาท่านใหม่วันหลัง”

หยูเฉิงฮุยยิ้มและพูดว่า “น้องว่านถิง อันที่จริงข้าเองก็อยากจะไปเยี่ยมครอบครัวของเจ้ามานานแล้ว เอาเป็นว่าข้าขอใช้โอกาสนี้ไปที่คฤหาสน์ของเจ้าเพื่อคารวะเหล่าญาติของเจ้าจะได้ไหม?”

หลิงว่านถิงลังเลอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นก็ส่ายหัวและพูดว่า “เราค่อยคุยกันเรื่องนี้เมื่อท่านพ่อของข้ากลับมา!”

เพราะตอนที่หลิงตู้ฉิงจากไป เขากำชับว่ามีเพียงสมาชิกในครอบครัวของเขาเท่านั้นที่ได้รับอนุญาตเข้าไปในคฤหาสน์สราญรมย์ได้ ซึ่งนางเองก็จำคำกำชับของพ่อนางได้ขึ้นใจ ยิ่งไปกว่านั้นนางเองก็เคยได้เห็นจุดจบของผู้คนมากมายที่บุกเข้ามาในคฤหาสน์สราญรมย์โดยไม่ได้รับอนุญาต ดังนั้นนางจึงไม่รู้ว่าหยูเฉิงฮุยจะมีปัญหาหรือไม่ถ้าหากนางพาเขาเข้าไปในคฤหาสน์

“เอาล่ะถ้าอย่างนั้นข้าจะรอพ่อของเจ้ากลับมาก่อนก็แล้วกัน!” หยูเฉิงฮุยหัวเราะ

หลังจากนั้นก็เขาเฝ้ามองร่างของหลิงว่านถิงและเหลียงเฟ่ยเอ๋อที่ค่อย ๆ เดินหายไป ซึ่งหลังจากนั้นดวงตาของเขาก็เต็มไปด้วยร่องรอยแห่งความปรารถนา

หญิงสาวที่บ่มเพาะได้จนถึงขอบเขตประสานทะเลปราณระดับ 13 นั้นถือได้ว่ามีฐานะเป็นธิดาแห่งสวรรค์เลยก็ว่าได้ในมหาพิภพไร้จุดจบ แถมเขาต้องยอมรับหลิงว่านถิงมีความดึงดูดต่อเขามาก แต่เหลียงเฟ่ยเอ๋อที่มีร่างกายแก่นแท้ปฐพีนั้นน่าดึงดูดยิ่งกว่า

“องค์ชาย ทำไมท่านไม่ให้ข้าจับพวกนางทั้งหมด?” ผู้เชี่ยวชาญระดับสวรรค์สามัญที่อยู่ด้านข้างเขาถามขึ้น

“นี่คือใจกลางของอาณาจักรจันทรา หากเราทำอะไรบุ่มบ่ามที่นี่ มันจะเป็นเรื่องยากที่เราจะฝ่าออกไปได้ นอกจากนี้เจ้าไม่สังเกตเหรอไงว่านางพาคนของนางมาด้วยอีกคน?” หยูเฉิงฮุยถาม

“ด้วยจำนวนของพวกเราที่ล้วนแต่เป็นผู้เชี่ยวชาญระดับสวรรค์สามัญ กว่าอาณาจักรจันทราจะรู้เรื่อง พวกเราก็คงหนีออกจากพื้นที่เกาะเทียนหยวนไปนานแล้ว และด้วยจำนวนของเราที่มีอยู่กันตั้งหลายคน ข้ามั่นใจว่าพวกข้าจะสามารถส่งท่านกลับไปที่อาณาจักรหลงซานได้อย่างรวดเร็ว”

หยูเฉิงฮุยส่ายหัวและพูดว่า “เราไม่ควรใจร้อน ไม่ว่าจะยังไง ตอนนี้พวกเขาไม่รู้จักตัวตนของข้า แถมตอนนี้แผนของข้าก็กำลังเป็นไปได้ด้วยดี ดังนั้นมันจึงเป็นเพียงเรื่องของเวลาที่เราจะโค่นพวกเขาลง เจ้าไม่จำเป็นต้องกังวล มันจะต้องสำเร็จอย่างแน่นอน”

จางหมิงที่ในตอนนี้ก็อยู่ข้าง ๆ เขาเช่นกัน ก็ได้พูดขึ้นว่า “ฝ่าบาทท่านต้องรีบแล้วนะ! หลิงตู้ฉิงจะกลับมาเร็ว ๆ นี้!”

“ต่อให้เขากลับมาแล้วมันจะเป็นยังไงล่ะ?” หยูเฉิงฮุยพูดอย่างไม่พอใจ

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+