พ่อเลี้ยงยอดเซียน (异界无敌奶爸) 424 ถูกวางแผนโดยใครบางคน

Now you are reading พ่อเลี้ยงยอดเซียน (异界无敌奶爸) Chapter 424 ถูกวางแผนโดยใครบางคน at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 424 ถูกวางแผนโดยใครบางคน

มี่ไลและหลิวเฟ่ยเฟ่ยคุ้นเคยกับยันต์สั่งสวรรค์ และ ‘พี่สาว’ ในนั้นมานานแล้ว ดังนั้นพวกนางจึงไม่ได้รู้สึกแปลกอะไร

แต่ยังไงซะ นี่เป็นครั้งแรกที่จ้าวเหมิงลู่และหลิงฟ่างหัวที่ได้พบกับหญิงสาวในยันต์สั่งสวรรค์ ซึ่งมันทำให้พวกนางรู้สึกตกตะลึงอย่างไม่น่าเชื่อ

สำหรับทางด้านของหญิงสาวในยันต์สั่งสวรรค์ เมื่อนางถูกนำออกมา นางก็กวาดสายตามองไปยังจ้าวเหมิงลู่ เหลียงเฟ่ยเอ๋อ และคนอื่น ๆ ก่อนที่จะหยุดที่หลิงฟ่างหัว หลิงยี่เทียน และหลิงไช่หยุน ซึ่งมันทำให้สีหน้าของนางเปลี่ยนไปในทันที

จากนั้นสายตาของนางก็กลับไปที่หลิงตู้ฉิงขณะที่นางถามว่า “พวกเขาเป็นลูกบุญธรรมของเจ้าทั้งหมดงั้นเหรอ? นี่ใครเป็นคนวางหลุมพลางเจ้าแบบนี้กัน?”

นางเห็นได้อย่างชัดเจนว่าร่างกายของลูก ๆ ของหลิงตู้ฉิงเหล่านี้นั้นน่าอัศจรรย์ขนาดไหน ซึ่งมันทำให้นางรู้สึกได้ทันทีว่ามีบางอย่างผิดปกติ

และเช่นเดียวกับหลิงตู้ฉิง นางเองก็ได้ข้อสรุปว่าหลิงตู้ฉิงถูกวางหลุมพราง

หลิงตู้ฉิงยิ้มและพูดว่า “ตอนนี้ที่เจ้าเห็นอยู่ คือลูกสาวคนที่ห้า ลูกชายคนที่หกและลูกสาวคนที่เจ็ด ลูกชายคนโตของข้ามีสายเลือดทรราชสวรรค์ ลูกสาวคนที่สองของข้าคือร่างวิถีนภาคราม ส่วนลูกชายคนที่สามนั้นเจ้าได้เห็นเขาแล้วและคนสุดท้ายลูกชายคนที่สี่เขามีร่างแห่งมังกรสงคราม”

หญิงสาวในยันต์สั่งสวรรค์พูดด้วยสีหน้าเคร่งเครียด “เจ้าถูกใครบางคนวางแผนร้ายเอาไว้นอน ไม่เช่นนั้นเรื่องแบบนี้มันจะไม่เกิดขึ้นแน่นอน”

หลิงตู้ฉิงยิ้มและพูดว่า “ข้าไม่สน!”

“แต่เจ้าต้องระวัง! บางทีคนที่ส่งลูก ๆ ของเจ้าเหล่านี้มาอยู่กับเจ้านั่นก็เพราะเมื่อถึงเวลาคนผู้นั้นจะลงมือกับเจ้าอย่างรุนแรงผ่านทางพวกเขา โดยเฉพาะที่ตอนนี้สายใยของเจ้ากับพวกเขาต่างแน่นแฟ้นกันถึงขนาดนี้ และยิ่งมองจากทัศนคติของเจ้าที่มีต่อพวกเขา ข้าคิดว่ามันมีความเป็นไปได้สูง”

“ยิ่งไปกว่านั้นข้าเห็นว่าเจ้าได้ถ่ายทอดวิชาลับที่หายสาบสูญให้กับพวกเขามากมายแบบที่คนอื่นไม่สามารถเรียนรู้ได้ ซึ่งมันอาจเป็นหนึ่งในการวางแผนของใครบางคน” หญิงสาวในยันต์สั่งสวรรค์เตือนเขา

“ข้ารู้!” หลิงตู้ฉิงพยักหน้า “ถึงแม้ว่าข้าจะมีความขัดแย้งกับไอ้พวกคนเหล่านั้น แต่ในเมื่อตอนนี้พวกเขาเป็นลูกของข้าและพวกเขาก็เป็นหนึ่งในวิถีเส้นทางที่ข้าไล่ตามในชีวิตนี้ ดังนั้นข้าเชื่อว่าข้าจะจัดการกับปัญหาทุกอย่างได้”

หญิงสาวในยันต์สั่งสวรรค์กลอกตาแล้วพูดว่า “เจ้าก็เหมือนเดิมเสมอ แยกแยะเจตนาดีของคนอื่นไม่ได้!”

หลิงตู้ฉิงยิ้ม “ไม่ต้องกังวล ข้าคิดว่ามันจะต้องดี”

หญิงสาวในยันต์สั่งสวรรค์ถอนหายใจ “ข้าหวังว่าวันหนึ่งเจ้าจะไม่เสียใจ!”

“ข้าไม่เคยเสียใจเลยที่เดินตามเส้นทางที่ข้าใฝ่หาในชีวิตที่แล้ว และในชีวิตนี้ข้าก็จะไม่เสียใจเช่นกัน!” หลิงตู้ฉิงพูดอย่างหนักแน่น

หญิงสาวในยันต์สั่งสวรรค์โกรธและพูดว่า “นี่เจ้าหมายความว่าข้าสมควรตายแล้วงั้นเหรอ!”

ในชีวิตก่อนหน้านี้นางเป็นผู้เสียสละบนเส้นทางบ่มเพาะของหลิงตู้ฉิง

“นั่นไม่ใช่สิ่งที่ข้าหมายถึง!” หลิงตู้ฉิงพูดอย่างทำอะไรไม่ถูก

“ฮึ่ม!” หญิงสาวในยันต์สั่งสวรรค์ตะคอกด้วยความโกรธ จากนั้นนางก็บังคับยันต์สั่งสวรรค์ม้วนเก็บและบินกลับไปอยู่ในมือของมี่ไล

“สามี…” จ้าวเหมิงลู่และคนอื่น ๆ มองหน้ากันด้วยความตกใจ

หลิงตู้ฉิงมองไปที่มี่ไล และส่ายหัวเล็กน้อยโดยไม่พูดอะไรอีก

หลังจากนั้นไม่นานลูก ๆ ของหลิงตู้ฉิงแต่ละคนก็แยกย้ายกลับไปที่เรือนของตัวเอง เนื่องจากพวกเขารู้ดีว่าพ่อและแม่ของพวกเขาไม่ได้เจอกันมานานหลายสิบปีและในเมื่อตอนนี้พวกเขาได้กลับมาเจอกันอีกครั้ง พวกเขาคงจะต้องใช้เวลาในการทักทายกันอย่างรุงแรงและนานสักหน่อย

แน่นอนว่าหลังจากนั้น ความปั่นปวนของพลังวิญญาณรอบ ๆ คฤหาสน์สราญรมย์ก็เริ่มพุ่งพล่านขึ้นอย่างรุนแรง

สำหรับผู้คนที่อยู่ในเมืองจันทรามาตั้งแต่ยุคที่หลิงตู้ฉิงยังโด่งดัง เมื่อพวกเขารู้สึกได้ถึงพลังวิญญาณที่ปั่นป่วนมาจากทิศทางของคฤหาสน์สราญรมย์ พวกเขาก็ทำได้เพียงแต่ส่ายหัวอย่างช่วยไม่ได้

“ความปั่นป่วนของพลังวิญญาณที่ไม่เกิดขึ้นมาหลายสิบปี ในที่สุดมันก็เกิดขึ้นอีกแล้วงั้นเหรอ?” ทุกคนในเมืองต่างพูดไม่ออก

เนื่องจากความปั่นป่วนของพลังวิญญาณที่ไหลเวียนที่รุนแรงเช่นนี้ ผู้เชี่ยวชาญที่อยู่บริเวณรอบ ๆ จึงไม่สามารถสงบใจบ่มเพาะได้เลย รวมไปถึงหลายคนที่คุ้นเคยกับจังหวะความปั่นป่วนของพลังวิญญาณเช่นนี้พวกเขาก็สามารถคาดเดาได้อย่างง่าย ๆ ว่าใครเป็นต้นเหตุ

“ถ้าข้าเดาถูกคณบดีศาลาศักดิ์สิทธิ์น่าจะกลับมาแล้ว” คนรุ่นเก่าทุกคนพึมพำ

“ท่านปู่ คณบดีอะไรเหรอ?” เด็กหนุ่มเอ่ยถามด้วยความประหลาดใจ

“ก็คณบดีแห่งศาลาศักดิ์สิทธิ์ของอาณาจักรจันทราของเรายังไงล่ะ” คนรุ่นเก่าถอนหายใจ

“ท่านปู่ แล้วคณบดีในตำนานของสถาบันศักดิ์สิทธิ์นั้นเขาเคยทำอะไรเอาไว้บ้าง ท่านช่วยเล่าให้พวกเราฟังหน่อยได้ไหม?” เด็กหนุ่มผู้นั้นเอ่ยถาม

“ในตอนนั้นมันคือช่วงเวลาแห่งความปั่นป่วน…” คนรุ่นเก่าเริ่มอธิบายเรื่องราวเมื่อหลายสิบปีก่อนให้คนรุ่นใหม่ฟัง

สำหรับคนทั่วไปช่วงเวลาหลายสิบปีนั้นนับได้ว่านานถึงช่วงชีวิตหนึ่งและการเปลี่ยนแปลงของอาณาจักรจันทราเมื่อหลายสิบปีก่อนก็เป็นผลให้สภาพความเป็นอยู่ของพวกเขาในตอนนี้ได้เปลี่ยนแปลงไปอย่างสิ้นเชิง

ความปั่นป่วนของพลังวิญญาณภายในเมืองหลวงกินเวลานานกว่าครึ่งเดือนก่อนที่มันจะสงบลงในที่สุด

จ้าวเหมิงลู่และเหลียงเฟ่ยเอ๋อไม่ได้เจอหลิงตู้ฉิงมานานหลายสิบปี ดังนั้นด้วยความคิดถึงจนสุดหัวใจพวกนางจึงปรนนิบัติเขาอย่างเต็มที่เพื่อแสดงความปรารถนาที่มีต่อเขา ซึ่งหลังจากนั้นมี่ไลและเย่ชิงเฉิงก็เข้าร่วมด้วย ส่งผลให้การบ่มเพาะคู่ครั้งยิ่งใหญ่นี้กินเวลามากถึงครึ่งเดือน

โชคยังดีที่ก่อนหน้านี้หลิงตู้ฉิงได้สำเร็จร่างเบญจธาตุ จากในเขตแดนวิญญาณผู้ล่วงลับ มิฉะนั้นถ้าเป็นก่อนหน้านี้เขาเองก็คงไม่สามารถจัดการกับภรรยาทั้งหกของเขาได้แบบนี้แน่นอน

หลังจากเสร็จสิ้นกับการบ่มเพาะแบบคู่ หลิงตู้ฉิงก็เริ่มยุ่งอีกครั้งในทันที

เพราะสิ่งที่เขานำกลับมาจากเขตแดนวิญญาณผู้ล่วงลับ ครอบครัวของเขาจะต้องใช้มันโดยเร็วที่สุด

ซึ่งคนแรกที่หลิงตู้ฉิงไปหานั้นก็คือ หลิงว่านถิง

“ว่านถิง พ่อเข้าไปได้ไหม” หลิงตู้ฉิงถาม

“ท่านพ่อ ท่านเข้ามาเลย!” หลิงว่านถิงออกมาต้อนรับเขาทันที

หลังจากที่นางชำระมวลมลทินออกจากร่างไปได้เกือบเดือนแล้ว ใบหน้าของนางก็ไม่เศร้าโศกเหมือนเดิมอีกต่อไป แต่แน่นอนว่านางยังคงไม่มีความสุข

หลิงตู้ฉิงพยักหน้าเล็กน้อยและพูดว่า “พ่อจะให้หยดน้ำวิญญาณบริสุทธิ์เจ้าเพิ่มอีกสักหน่อยให้เจ้าเก็บไว้ ส่วนเจ้าจะใช้มันหรือไม่นั้นก็ขึ้นอยู่กับเจ้า ถ้าเจ้าคิดว่าต้องการจะใช้มัน ก็จงใช้มันซะ”

หลิงว่านถิงพยักหน้าและพูดว่า “ขอบคุณ ท่านพ่อ!”

“นอกจากนี้ในอดีตพ่อเคยบอกว่าจะให้หลิงจู้ไว้กับเจ้า ตอนนี้พ่อรู้สึกว่าถึงเวลาแล้วที่เจ้าจะได้มันไปครอบครอง แม้ว่าตอนนี้หลิงจู้จะเป็นสมบัติระดับสวรรค์ แต่หลิงจู้นั้นสามารถพัฒนาระดับของมันขึ้นไปได้เรื่อย ๆ ดังนั้นจงดูแลมันให้ดีเพราะอนาคตของเจ้าและของมันนั้นไร้ขีดจำกัด อ๋อ! อันที่จริง หลิงจู้เป็นสมบัติชิ้นแรกที่พ่อสร้างให้มันมีสติปัญญาอยู่ในตัวเอง ดังนั้นมันจะช่วยเสริมความแข็งแกร่งให้ทั้งร่างกายและทักษะของเจ้าด้วย” หลังจากหลิงตู้ฉิงพูดจบ เขาก็เรียกหลิงจู้ออกมา หลังจากกระซิบอะไรบางอย่างกับหลิงจู้อยู่สักพัก เขาก็ยื่นมันให้กับหลิงว่านถิง

แต่เมื่อถูกยื่นออกไป หลิงจู้ก็ดูเหมือนจะไม่เต็มใจที่จะแยกทางกับหลิงตู้ฉิง ซึ่งมันแสดงออกโดยการใช้เส้นขนของมันพันรอบแขนของหลิงตู้ฉิงเอาไว้

เมื่อเห็นเช่นนี้ หลิงตู้ฉิงยิ้มและพูดว่า “เจ้าไม่เหมาะสมกับข้าหรอก แต่เจ้าจงวางใจหากข้าบอกว่า ว่านถิงเหมาะสมกับเจ้าที่สุดนั่นก็แปลว่าเจ้าจะได้รับประโยชน์อย่างมากมายเมื่ออยู่กับนางแน่นอน และเจ้าอย่าลืมสิว่า ว่านถิงเป็นลูกของข้า ดังนั้นข้าจะไม่ละเลยเจ้าแน่นอน”

เมื่อได้ยินเช่นนั้น หลิงจู้ก็ปล่อยหลิงตู้ฉิง และใช้เส้นขนของมันไปพันไว้รอบตัวของหลิงว่านถิงแทน

หลิงว่านถิงเองก็ยอมรับหลิงจู้ และลูบไล้มันด้วยความรักสักพักก่อนที่จะหลอมรวมมันเข้าไปในร่างกายของนาง จากนั้นนางก็ยิ้มและพูดกับหลิงตู้ฉิงว่า “ท่านพ่อหลังจากที่ข้าเจอกับคนใจร้ายคนนั้นอีกครั้งในอนาคต ข้าขอออกไปท่องโลกภายนอกได้ไหม?”

หลิงตู้ฉิงเลิกคิ้วครุ่นคิดเล็กน้อยแล้วพูดว่า “เอางี้ หลังจากที่จบเรื่องพ่อจะส่งเจ้าไปที่สำนักเต๋าสวรรค์ก็แล้วกัน เพราะไม่ว่าจะยังไงช้าเร็วเจ้าก็ต้องไปที่นั่นอยู่ดี เมื่อถึงเวลาพ่อจะให้คนของสำนักเต๋าสวรรค์มารับเจ้าออกไปท่องโลก แบบนี้ดีไหม?”

อันที่จริงหลิงตู้ฉิงไม่ต้องการให้หลิงว่านถิงจากไป แต่เขาจำได้ว่าถังชี่หยุนเคยพูดเอาไว้ว่า ลูก ๆ ของเขาควรมีเป้าหมายของตัวเอง และนั่นก็คือวิธีการเดียวกับที่ถังชี่หยุนใช้มันกับหมิงจู้และหมิงซิ่วเช่นกัน

ดังนั้นแม้ว่าเขาจะไม่ต้องการให้หลิงว่านถิงจากไป แต่เขาก็ยังรับปาก

หลิงว่านถิงโค้งคำนับไปทางหลิงตู้ฉิง และพูดว่า “ขอบคุณ ท่านพ่อ!”

“จงตั้งใจฝึกฝนให้ดี แล้วพ่อจะให้บางสิ่งบางอย่างแก่เจ้าเมื่อถึงเวลา” หลิงตู้ฉิงยิ้ม “เอาล่ะ ตอนนี้พ่อขอไปหาฟ่างหัวต่อก่อน”

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

พ่อเลี้ยงยอดเซียน (异界无敌奶爸) 424 ถูกวางแผนโดยใครบางคน

Now you are reading พ่อเลี้ยงยอดเซียน (异界无敌奶爸) Chapter 424 ถูกวางแผนโดยใครบางคน at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 424 ถูกวางแผนโดยใครบางคน

มี่ไลและหลิวเฟ่ยเฟ่ยคุ้นเคยกับยันต์สั่งสวรรค์ และ ‘พี่สาว’ ในนั้นมานานแล้ว ดังนั้นพวกนางจึงไม่ได้รู้สึกแปลกอะไร

แต่ยังไงซะ นี่เป็นครั้งแรกที่จ้าวเหมิงลู่และหลิงฟ่างหัวที่ได้พบกับหญิงสาวในยันต์สั่งสวรรค์ ซึ่งมันทำให้พวกนางรู้สึกตกตะลึงอย่างไม่น่าเชื่อ

สำหรับทางด้านของหญิงสาวในยันต์สั่งสวรรค์ เมื่อนางถูกนำออกมา นางก็กวาดสายตามองไปยังจ้าวเหมิงลู่ เหลียงเฟ่ยเอ๋อ และคนอื่น ๆ ก่อนที่จะหยุดที่หลิงฟ่างหัว หลิงยี่เทียน และหลิงไช่หยุน ซึ่งมันทำให้สีหน้าของนางเปลี่ยนไปในทันที

จากนั้นสายตาของนางก็กลับไปที่หลิงตู้ฉิงขณะที่นางถามว่า “พวกเขาเป็นลูกบุญธรรมของเจ้าทั้งหมดงั้นเหรอ? นี่ใครเป็นคนวางหลุมพลางเจ้าแบบนี้กัน?”

นางเห็นได้อย่างชัดเจนว่าร่างกายของลูก ๆ ของหลิงตู้ฉิงเหล่านี้นั้นน่าอัศจรรย์ขนาดไหน ซึ่งมันทำให้นางรู้สึกได้ทันทีว่ามีบางอย่างผิดปกติ

และเช่นเดียวกับหลิงตู้ฉิง นางเองก็ได้ข้อสรุปว่าหลิงตู้ฉิงถูกวางหลุมพราง

หลิงตู้ฉิงยิ้มและพูดว่า “ตอนนี้ที่เจ้าเห็นอยู่ คือลูกสาวคนที่ห้า ลูกชายคนที่หกและลูกสาวคนที่เจ็ด ลูกชายคนโตของข้ามีสายเลือดทรราชสวรรค์ ลูกสาวคนที่สองของข้าคือร่างวิถีนภาคราม ส่วนลูกชายคนที่สามนั้นเจ้าได้เห็นเขาแล้วและคนสุดท้ายลูกชายคนที่สี่เขามีร่างแห่งมังกรสงคราม”

หญิงสาวในยันต์สั่งสวรรค์พูดด้วยสีหน้าเคร่งเครียด “เจ้าถูกใครบางคนวางแผนร้ายเอาไว้นอน ไม่เช่นนั้นเรื่องแบบนี้มันจะไม่เกิดขึ้นแน่นอน”

หลิงตู้ฉิงยิ้มและพูดว่า “ข้าไม่สน!”

“แต่เจ้าต้องระวัง! บางทีคนที่ส่งลูก ๆ ของเจ้าเหล่านี้มาอยู่กับเจ้านั่นก็เพราะเมื่อถึงเวลาคนผู้นั้นจะลงมือกับเจ้าอย่างรุนแรงผ่านทางพวกเขา โดยเฉพาะที่ตอนนี้สายใยของเจ้ากับพวกเขาต่างแน่นแฟ้นกันถึงขนาดนี้ และยิ่งมองจากทัศนคติของเจ้าที่มีต่อพวกเขา ข้าคิดว่ามันมีความเป็นไปได้สูง”

“ยิ่งไปกว่านั้นข้าเห็นว่าเจ้าได้ถ่ายทอดวิชาลับที่หายสาบสูญให้กับพวกเขามากมายแบบที่คนอื่นไม่สามารถเรียนรู้ได้ ซึ่งมันอาจเป็นหนึ่งในการวางแผนของใครบางคน” หญิงสาวในยันต์สั่งสวรรค์เตือนเขา

“ข้ารู้!” หลิงตู้ฉิงพยักหน้า “ถึงแม้ว่าข้าจะมีความขัดแย้งกับไอ้พวกคนเหล่านั้น แต่ในเมื่อตอนนี้พวกเขาเป็นลูกของข้าและพวกเขาก็เป็นหนึ่งในวิถีเส้นทางที่ข้าไล่ตามในชีวิตนี้ ดังนั้นข้าเชื่อว่าข้าจะจัดการกับปัญหาทุกอย่างได้”

หญิงสาวในยันต์สั่งสวรรค์กลอกตาแล้วพูดว่า “เจ้าก็เหมือนเดิมเสมอ แยกแยะเจตนาดีของคนอื่นไม่ได้!”

หลิงตู้ฉิงยิ้ม “ไม่ต้องกังวล ข้าคิดว่ามันจะต้องดี”

หญิงสาวในยันต์สั่งสวรรค์ถอนหายใจ “ข้าหวังว่าวันหนึ่งเจ้าจะไม่เสียใจ!”

“ข้าไม่เคยเสียใจเลยที่เดินตามเส้นทางที่ข้าใฝ่หาในชีวิตที่แล้ว และในชีวิตนี้ข้าก็จะไม่เสียใจเช่นกัน!” หลิงตู้ฉิงพูดอย่างหนักแน่น

หญิงสาวในยันต์สั่งสวรรค์โกรธและพูดว่า “นี่เจ้าหมายความว่าข้าสมควรตายแล้วงั้นเหรอ!”

ในชีวิตก่อนหน้านี้นางเป็นผู้เสียสละบนเส้นทางบ่มเพาะของหลิงตู้ฉิง

“นั่นไม่ใช่สิ่งที่ข้าหมายถึง!” หลิงตู้ฉิงพูดอย่างทำอะไรไม่ถูก

“ฮึ่ม!” หญิงสาวในยันต์สั่งสวรรค์ตะคอกด้วยความโกรธ จากนั้นนางก็บังคับยันต์สั่งสวรรค์ม้วนเก็บและบินกลับไปอยู่ในมือของมี่ไล

“สามี…” จ้าวเหมิงลู่และคนอื่น ๆ มองหน้ากันด้วยความตกใจ

หลิงตู้ฉิงมองไปที่มี่ไล และส่ายหัวเล็กน้อยโดยไม่พูดอะไรอีก

หลังจากนั้นไม่นานลูก ๆ ของหลิงตู้ฉิงแต่ละคนก็แยกย้ายกลับไปที่เรือนของตัวเอง เนื่องจากพวกเขารู้ดีว่าพ่อและแม่ของพวกเขาไม่ได้เจอกันมานานหลายสิบปีและในเมื่อตอนนี้พวกเขาได้กลับมาเจอกันอีกครั้ง พวกเขาคงจะต้องใช้เวลาในการทักทายกันอย่างรุงแรงและนานสักหน่อย

แน่นอนว่าหลังจากนั้น ความปั่นปวนของพลังวิญญาณรอบ ๆ คฤหาสน์สราญรมย์ก็เริ่มพุ่งพล่านขึ้นอย่างรุนแรง

สำหรับผู้คนที่อยู่ในเมืองจันทรามาตั้งแต่ยุคที่หลิงตู้ฉิงยังโด่งดัง เมื่อพวกเขารู้สึกได้ถึงพลังวิญญาณที่ปั่นป่วนมาจากทิศทางของคฤหาสน์สราญรมย์ พวกเขาก็ทำได้เพียงแต่ส่ายหัวอย่างช่วยไม่ได้

“ความปั่นป่วนของพลังวิญญาณที่ไม่เกิดขึ้นมาหลายสิบปี ในที่สุดมันก็เกิดขึ้นอีกแล้วงั้นเหรอ?” ทุกคนในเมืองต่างพูดไม่ออก

เนื่องจากความปั่นป่วนของพลังวิญญาณที่ไหลเวียนที่รุนแรงเช่นนี้ ผู้เชี่ยวชาญที่อยู่บริเวณรอบ ๆ จึงไม่สามารถสงบใจบ่มเพาะได้เลย รวมไปถึงหลายคนที่คุ้นเคยกับจังหวะความปั่นป่วนของพลังวิญญาณเช่นนี้พวกเขาก็สามารถคาดเดาได้อย่างง่าย ๆ ว่าใครเป็นต้นเหตุ

“ถ้าข้าเดาถูกคณบดีศาลาศักดิ์สิทธิ์น่าจะกลับมาแล้ว” คนรุ่นเก่าทุกคนพึมพำ

“ท่านปู่ คณบดีอะไรเหรอ?” เด็กหนุ่มเอ่ยถามด้วยความประหลาดใจ

“ก็คณบดีแห่งศาลาศักดิ์สิทธิ์ของอาณาจักรจันทราของเรายังไงล่ะ” คนรุ่นเก่าถอนหายใจ

“ท่านปู่ แล้วคณบดีในตำนานของสถาบันศักดิ์สิทธิ์นั้นเขาเคยทำอะไรเอาไว้บ้าง ท่านช่วยเล่าให้พวกเราฟังหน่อยได้ไหม?” เด็กหนุ่มผู้นั้นเอ่ยถาม

“ในตอนนั้นมันคือช่วงเวลาแห่งความปั่นป่วน…” คนรุ่นเก่าเริ่มอธิบายเรื่องราวเมื่อหลายสิบปีก่อนให้คนรุ่นใหม่ฟัง

สำหรับคนทั่วไปช่วงเวลาหลายสิบปีนั้นนับได้ว่านานถึงช่วงชีวิตหนึ่งและการเปลี่ยนแปลงของอาณาจักรจันทราเมื่อหลายสิบปีก่อนก็เป็นผลให้สภาพความเป็นอยู่ของพวกเขาในตอนนี้ได้เปลี่ยนแปลงไปอย่างสิ้นเชิง

ความปั่นป่วนของพลังวิญญาณภายในเมืองหลวงกินเวลานานกว่าครึ่งเดือนก่อนที่มันจะสงบลงในที่สุด

จ้าวเหมิงลู่และเหลียงเฟ่ยเอ๋อไม่ได้เจอหลิงตู้ฉิงมานานหลายสิบปี ดังนั้นด้วยความคิดถึงจนสุดหัวใจพวกนางจึงปรนนิบัติเขาอย่างเต็มที่เพื่อแสดงความปรารถนาที่มีต่อเขา ซึ่งหลังจากนั้นมี่ไลและเย่ชิงเฉิงก็เข้าร่วมด้วย ส่งผลให้การบ่มเพาะคู่ครั้งยิ่งใหญ่นี้กินเวลามากถึงครึ่งเดือน

โชคยังดีที่ก่อนหน้านี้หลิงตู้ฉิงได้สำเร็จร่างเบญจธาตุ จากในเขตแดนวิญญาณผู้ล่วงลับ มิฉะนั้นถ้าเป็นก่อนหน้านี้เขาเองก็คงไม่สามารถจัดการกับภรรยาทั้งหกของเขาได้แบบนี้แน่นอน

หลังจากเสร็จสิ้นกับการบ่มเพาะแบบคู่ หลิงตู้ฉิงก็เริ่มยุ่งอีกครั้งในทันที

เพราะสิ่งที่เขานำกลับมาจากเขตแดนวิญญาณผู้ล่วงลับ ครอบครัวของเขาจะต้องใช้มันโดยเร็วที่สุด

ซึ่งคนแรกที่หลิงตู้ฉิงไปหานั้นก็คือ หลิงว่านถิง

“ว่านถิง พ่อเข้าไปได้ไหม” หลิงตู้ฉิงถาม

“ท่านพ่อ ท่านเข้ามาเลย!” หลิงว่านถิงออกมาต้อนรับเขาทันที

หลังจากที่นางชำระมวลมลทินออกจากร่างไปได้เกือบเดือนแล้ว ใบหน้าของนางก็ไม่เศร้าโศกเหมือนเดิมอีกต่อไป แต่แน่นอนว่านางยังคงไม่มีความสุข

หลิงตู้ฉิงพยักหน้าเล็กน้อยและพูดว่า “พ่อจะให้หยดน้ำวิญญาณบริสุทธิ์เจ้าเพิ่มอีกสักหน่อยให้เจ้าเก็บไว้ ส่วนเจ้าจะใช้มันหรือไม่นั้นก็ขึ้นอยู่กับเจ้า ถ้าเจ้าคิดว่าต้องการจะใช้มัน ก็จงใช้มันซะ”

หลิงว่านถิงพยักหน้าและพูดว่า “ขอบคุณ ท่านพ่อ!”

“นอกจากนี้ในอดีตพ่อเคยบอกว่าจะให้หลิงจู้ไว้กับเจ้า ตอนนี้พ่อรู้สึกว่าถึงเวลาแล้วที่เจ้าจะได้มันไปครอบครอง แม้ว่าตอนนี้หลิงจู้จะเป็นสมบัติระดับสวรรค์ แต่หลิงจู้นั้นสามารถพัฒนาระดับของมันขึ้นไปได้เรื่อย ๆ ดังนั้นจงดูแลมันให้ดีเพราะอนาคตของเจ้าและของมันนั้นไร้ขีดจำกัด อ๋อ! อันที่จริง หลิงจู้เป็นสมบัติชิ้นแรกที่พ่อสร้างให้มันมีสติปัญญาอยู่ในตัวเอง ดังนั้นมันจะช่วยเสริมความแข็งแกร่งให้ทั้งร่างกายและทักษะของเจ้าด้วย” หลังจากหลิงตู้ฉิงพูดจบ เขาก็เรียกหลิงจู้ออกมา หลังจากกระซิบอะไรบางอย่างกับหลิงจู้อยู่สักพัก เขาก็ยื่นมันให้กับหลิงว่านถิง

แต่เมื่อถูกยื่นออกไป หลิงจู้ก็ดูเหมือนจะไม่เต็มใจที่จะแยกทางกับหลิงตู้ฉิง ซึ่งมันแสดงออกโดยการใช้เส้นขนของมันพันรอบแขนของหลิงตู้ฉิงเอาไว้

เมื่อเห็นเช่นนี้ หลิงตู้ฉิงยิ้มและพูดว่า “เจ้าไม่เหมาะสมกับข้าหรอก แต่เจ้าจงวางใจหากข้าบอกว่า ว่านถิงเหมาะสมกับเจ้าที่สุดนั่นก็แปลว่าเจ้าจะได้รับประโยชน์อย่างมากมายเมื่ออยู่กับนางแน่นอน และเจ้าอย่าลืมสิว่า ว่านถิงเป็นลูกของข้า ดังนั้นข้าจะไม่ละเลยเจ้าแน่นอน”

เมื่อได้ยินเช่นนั้น หลิงจู้ก็ปล่อยหลิงตู้ฉิง และใช้เส้นขนของมันไปพันไว้รอบตัวของหลิงว่านถิงแทน

หลิงว่านถิงเองก็ยอมรับหลิงจู้ และลูบไล้มันด้วยความรักสักพักก่อนที่จะหลอมรวมมันเข้าไปในร่างกายของนาง จากนั้นนางก็ยิ้มและพูดกับหลิงตู้ฉิงว่า “ท่านพ่อหลังจากที่ข้าเจอกับคนใจร้ายคนนั้นอีกครั้งในอนาคต ข้าขอออกไปท่องโลกภายนอกได้ไหม?”

หลิงตู้ฉิงเลิกคิ้วครุ่นคิดเล็กน้อยแล้วพูดว่า “เอางี้ หลังจากที่จบเรื่องพ่อจะส่งเจ้าไปที่สำนักเต๋าสวรรค์ก็แล้วกัน เพราะไม่ว่าจะยังไงช้าเร็วเจ้าก็ต้องไปที่นั่นอยู่ดี เมื่อถึงเวลาพ่อจะให้คนของสำนักเต๋าสวรรค์มารับเจ้าออกไปท่องโลก แบบนี้ดีไหม?”

อันที่จริงหลิงตู้ฉิงไม่ต้องการให้หลิงว่านถิงจากไป แต่เขาจำได้ว่าถังชี่หยุนเคยพูดเอาไว้ว่า ลูก ๆ ของเขาควรมีเป้าหมายของตัวเอง และนั่นก็คือวิธีการเดียวกับที่ถังชี่หยุนใช้มันกับหมิงจู้และหมิงซิ่วเช่นกัน

ดังนั้นแม้ว่าเขาจะไม่ต้องการให้หลิงว่านถิงจากไป แต่เขาก็ยังรับปาก

หลิงว่านถิงโค้งคำนับไปทางหลิงตู้ฉิง และพูดว่า “ขอบคุณ ท่านพ่อ!”

“จงตั้งใจฝึกฝนให้ดี แล้วพ่อจะให้บางสิ่งบางอย่างแก่เจ้าเมื่อถึงเวลา” หลิงตู้ฉิงยิ้ม “เอาล่ะ ตอนนี้พ่อขอไปหาฟ่างหัวต่อก่อน”

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+