พ่อเลี้ยงยอดเซียน (异界无敌奶爸) 452 เงื่อนไขการร่วมมือ

Now you are reading พ่อเลี้ยงยอดเซียน (异界无敌奶爸) Chapter 452 เงื่อนไขการร่วมมือ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 452 เงื่อนไขการร่วมมือ

เมื่อได้ยินหลิงตู้ฉิงพูดถึงมันอีกครั้ง สีเป่ยเซียะมองไปที่หลิงตู้ฉิงโดยไม่รู้ว่าจะตอบว่ายังไง

ที่ผ่านมา สำนักเบญจธาตุของนางก็ได้ลงทุนทรัพยากรและกำลังคนไปไม่น้อยกับการก่อตั้งอาณาจักรอี้จิ๋นเพื่อเป็นหน้าด่านในการสำรวจความลับที่อยู่ในทะเลชางหมาง

และที่สำคัญพวกนางเองก็ได้ค้นพบเบาะแสหลาย ๆ อย่างไปแล้วด้วยเช่นกัน

แต่มาตอนนี้ หลิงตู้ฉิงกลับบอกให้นางและสำนักของนางถอนตัวไปซะอย่างนั้น แบบนี้นางจะตอบรับข้อตกลงของเขาได้ยังไง?

โดยเฉพาะที่สำนักเบญจธาตุของนางก็ไม่ใช่สำนักธรรมดาไก่กาที่ไหน ต่อให้ภูมิหลังของหลิงตู้ฉิงจะเลิศเลอเพียงใด ทำไมนางจะต้องยินยอมทำตามคำพูดของเขาด้วย?

อย่างไรก็ตาม ด้วยประสบการณ์ที่นางเคยรับมือกับหลิงตู้ฉิงมาหลายครั้งหลายครา ซึ่งมันทำให้นางเข้าใจนิสัยของหลิงตู้ฉิงค่อนข้างดี ดังนั้นนางจึงไม่ได้เอ่ยคำพูดทั้งหลายที่อยู่ในใจนางออกมาให้เขาได้ยิน แต่เลือกที่จะถามเขากลับว่า “เจ้ายังติดค้างข้าอยู่ เจ้าจำได้ใช่ไหม?”

หลิงตู้ฉิงพยักหน้า “แน่นอนว่าข้าย่อมจำได้ และเป็นเพราะเหตุนั้นข้าจึงเรียกเจ้าให้มาคุยกับข้าก่อนที่นี่ ไม่เช่นนั้นเจ้าคิดว่าเมืองเจินไห่แห่งเดียวจะหยุดข้าได้งั้นเหรอ? หรือเจ้าคิดว่าอาณาจักรอี้จิ๋นของเจ้าจะหยุดข้าได้?”

สีเป่ยเซียะขมวดคิ้วและตอบกลับอย่างรวดเร็ว “นี่เจ้าเอาความมั่นใจมาจากไหนว่าเจ้าตัวคนเดียวสามารถต่อกรกับอาณาจักรอี้จิ๋นของข้าได้?”

หลิงตู้ฉิงยิ้ม และชี้ไปที่ลั่วหยุนที่กำลังอนู่ในขั้นตอนเปลี่ยนดวงวิญญาณให้กลายเป็นวิญญาณสงคราม “เขาได้ตกลงที่จะเข้าร่วมกับอาณาจักรจันทราแล้ว และหน้าที่ของเขาก็คือคอยปกป้องลูกชายของข้าเป็นเวลา 2,300 ปี!”

เมื่อได้ยินเช่นนี้ สีเป่ยเซียะถึงกับสูดหายใจลึกและไม่รู้จะพูดอะไรต่อ

หากเป็นอย่างที่หลิงตู้ฉิงกล่าวจริง ต่อให้เป็นก่อนหน้านี้ที่ลั่วหยุนเหลือแต่ดวงวิญญาณ อาณาจักรอี้จิ๋นของนางก็คงไม่สามารถต่อกรกับเขาได้ แล้วยิ่งตอนนี้ลั่วหยุนกำลังจะกลายเป็นวิญญาณสงครามที่ในอนาคตสามารถบ่มเพาะได้เช่นเดียวกับผู้เชี่ยวชาญปกติ ซึ่งความแข็งแกร่งของเขาก็มีแต่จะเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ ดังนั้นต่อให้นางจะใช้อาวุธระดับจักรพรรดิควบคู่กับโองการจักรพรรดิ นางและน้องชายของนางก็ไม่มีทางหยุดลั่วหยุนที่อยู่ในขอบเขตราชันอย่างแท้จริงแบบนี้ได้แน่นอน

เว้นแต่พวกนางจะพาผู้อาวุโสระดับสูงจากสำนักเบญจธาตุพร้อมกับนำสมบัติวิเศษที่ทรงพลังยิ่งกว่านี้มาด้วย พวกนางถึงจะสามารถต่อสู้กับลั่วหยุนได้อย่างสูสี

อย่างไรก็ตาม สิ่งเหล่านั้นนับได้ว่าเป็นรากฐานความแข็งแกร่งของสำนักเบญจธาตุ ดังนั้นนางและน้องชายของนางจึงไม่สามารถนำออกมาใช้ได้อย่างง่ายดายแน่นอน

หลังจากเงียบไปครู่หนึ่ง สีเป่ยเซียะก็พูดว่า “ถ้างั้นเจ้าจะเอายังไงกับพวกข้า? แต่จงอย่าลืมว่าเจ้าเป็นหนี้ข้า และที่สำคัญข้าได้ยินมาจากน้องชายของข้าว่าเขาเองได้มอบไม้มรกตศักดิ์สิทธิ์ครึ่งหนึ่งให้แก่เจ้าเช่นกัน และนั่นก็ถือเป็นหนี้บุญคุณเช่นกัน”

หลิงตู้ฉิงพยักหน้าเล็กน้อย และพูดว่า “ข้าได้เคยบอกกับเจ้าสองพี่น้องไปแล้วนี่ ว่าข้าจะให้เจ้าและน้องชายของเจ้าเลือกทางออกอยู่สองทาง ทางแรกคือต่อต้านข้า ทางที่สองคือร่วมมือกับข้า! ในเมื่อตอนนี้เจ้าอยู่ที่นี่แล้วก็จงตัดสินใจซะให้เสร็จ”

“ถ้าเจ้าเลือกที่จะต่อต้านข้า ด้วยหยดน้ำวิญญาณบริสุทธิ์ที่เจ้าให้ข้า ข้าจะหันหลังกลับไปที่ทะเลชางหมางและเลือกเส้นทางใหม่ไปยังอาณาจักรมังกรทะยาน และจะไม่แตะต้องอาณาจักรอี้จิ๋นของเจ้าเป็นเวลา 500 ปี แต่เมื่อไหร่ที่ 500 ปีผ่านไปข้าจะกลับมาอีกครั้ง และจะลงมือกับพวกเจ้าโดยไม่สนใจหรือไว้หน้าใครทั้งสิ้น”

สีเป่ยเซียะครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วถามว่า “ข้าถามได้ไหมว่าทำไมเจ้าถึงต้องการไปที่อาณาจักรมังกรทะยาน?”

หลิงตู้ฉิงพูดอย่างตรงไปตรงมา “หยูเฉิงฮุยแห่งอาณาจักรมังกรทะยานทะยานบังอาจมาล่อลวงลูกสาวของข้าด้วยเจตนาชั่วช้า ข้าจะไปลากตัวมันมาให้รับผิดชอบกับความรู้สึกของลูกสาวข้า!”

เมื่อได้ยินที่พ่อของนางเอ่ยเช่นนั้น หลิงว่านถิงพูดแทรกขึ้นด้วยสีหน้าอับอายทันทีว่า “ท่านพ่อ ท่านอย่าพูดให้มันดูเหมือนกับว่าข้าถูกล่วงเกินอะไรมากขนาดนั้นสิ…”

ในตอนนี้หลิงว่านถิงทำใจของนางเองได้มากขึ้นเยอะแล้ว ดังนั้นเมื่อนางได้ยินคำพูดของพ่อนางเช่นนี้ นางจึงแสดงความไม่พอใจออกมา

ในเวลาเดียวกัน เมื่อสีเป่ยเซียะมองไปที่หลิงว่านถิง ดวงตาของนางสว่างขึ้นทันทีและพูดว่า “พรสวรรค์ของลูกสาวของเจ้าไม่เลวเลยทีเดียว ถ้านางเต็มใจ ข้าสามารถแนะนำให้นางเข้าร่วมกับสำนักธาตุไม้ของสำนักเบญจธาตุของข้าได้”

สีเป่ยเซียะสามารถสัมผัสได้ถึงรัศมีอันเหนือล้ำที่แผ่ออกมาจากร่างกายของหลิงว่านถิงได้อย่างชัดเจน ซึ่งมันคล้ายกับที่มีอยู่ในสำนักเบญจธาตุของนางในสาขาธาตุไม้

หลิงตู้ฉิงส่ายหน้า “ลูกสาวของข้า หลิงว่านถิง หลังจากจบเรื่องหยูเฉิงฮุยเมื่อไหร่ คนของสำนักเต๋าสวรรค์จะมารับนางตัวให้ไปเข้าร่วมสำนักเต๋าทันที”

หลิงว่านถิงโค้งคำนับให้สีเป่ยเซียะและพูดว่า “ท่านป้าสี ขอต้องขออภัยด้วยจริง ๆ ที่ท่านพ่อของข้าทำเรื่องเล็กให้กลายเป็นเรื่องใหญ่เช่นนี้ อันที่จริงแล้วตัวข้าเองมีความขัดแย้งกับหยูเฉิงฮุยเพียงเล็กน้อยเท่านั้น พ่อของข้าจึงพยายามที่จะหาตัวหยูเฉิงฮุยมาสะสางปัญหาให้เสร็จสิ้น ส่วนเรื่องที่ข้าถูกล่อลวงนั้น ข้าไม่ได้ถูกล่อลวงและข้าก็ไม่ได้เสียอะไรไปให้กับคนผู้นั้นเลย”

หลิงว่านถิงได้ทราบถึงตัวตนของสีเป่ยเซียะจากมี่ไลแล้ว ซึ่งนับได้ว่าสีเป่ยเซียะเป็นผู้กว้างขวางคนหนึ่ง ดังนั้นนางจึงต้องปกป้องตัวเอง ไม่เช่นนั้นถ้าเรื่องนี้แพร่กระจายออกไป ผู้คนมากมายจะไม่คิดว่านางเป็นผู้หญิงโง่เง่าอย่างนั้นเหรอ? แล้วถ้าเป็นแบบนั้นในอนาคตชื่อเสียงของนางไม่ป่นปี้จนหมดเลยงั้นเหรอ?

สีเป่ยเซียะพยักหน้าพลางยิ้มให้หลิงว่านถิง แล้วพูดกับหลิงตู้ฉิง “งั้นข้าขอถามเจ้าต่อ ที่เจ้าบอกว่าให้เราร่วมมือกับเจ้า ข้าอยากรู้ว่าความร่วมมือแบบไหนที่เจ้าต้องการ?”

เนื่องจากหลิงว่านถิงกำลังจะได้เข้าร่วมสำนักเต๋าสวรรค์อยู่แล้ว นางจึงไม่พูดโน้มน้าวอะไรหลิงว่านถิงอีก

หลิงตู้ฉิงยิ้ม “ถ้าเราร่วมมือกันทุกอย่างย่อมจะง่ายขึ้น เหตุผลที่พวกเจ้าก่อตั้งอาณาจักรอี้จิ๋นที่นี่ก็เป็นเพราะพวกเจ้าต้องการค้นหาความลับของทะเลชางหมางไม่ใช่เพราะต้องการบ่มเพาะดวงใจจักรพรรดิ ดังนั้นบรรดาราษฎรที่พวกเจ้าปกครองอยู่มันก็คงไม่ได้มีความสำคัญอะไรกับพวกเจ้านัก”

“สำหรับเงื่อนไขในความร่วมมือกับข้าก็คือพวกเจ้าต้องมอบอาณาจักรอี้จิ๋นให้กับลูกชายของข้า รวมไปถึงกองกำลังของพวกเจ้าที่อยู่ภายในทะเลชางหมางให้เข้าร่วมกับเขาด้วย”

“ส่วนความลับที่พวกเจ้ากำลังมองหา ต่อให้ข้าจะบอกกับพวกเจ้าว่าทะเลชางหมางไม่มีความลับอย่างที่พวกเจ้าคิด พวกเจ้าก็คงจะไม่เชื่ออยู่ดี ดังนั้นเมื่อไหร่ที่ผนึกของทะเลชางหมางถูกคลายออกอย่างสมบูรณ์แล้ว ข้าจะอนุญาตให้พวกเจ้าสามารถเลือกสถานที่ที่พวกเจ้าคิดว่ามีความลับถูกซ่อนอยู่และยึดครองพื้นที่นั้นไปได้เลย”

“แต่แน่นอนว่าข้าไม่ได้หมายความว่าข้าจะให้พื้นที่ทั้งหมดของทะเลชางหมางกับเจ้า ข้าจะให้พวกเจ้าเลือกเอาว่ามีกี่แห่งในทะเลชางหมางที่เจ้าคาดว่าน่าจะมีความลับซ่อนอยู่ก็เท่านั้น”

เมื่อได้ยินคำพูดของหลิงตู้ฉิง สีเป่ยเซียะก็แสดงสีหน้าสนใจขึ้นมาทันที

มันเป็นเรื่องจริงที่สำนักของพวกนางลงทุนเฝ้าทางออกของทะเลชางหมางก็เพื่อความลับของทะเลชางหมาง

หากพวกนางสามารถเข้าไปครอบครองพื้นที่ที่มีความลับซ่อนอยู่เลยโดยตรง ทำไมพวกนางถึงต้องมาสนใจกับอาณาจักรอี้จิ๋น?

พวกนางไม่ใช่เหล่าคนที่บ่มเพาะวิชาดวงใจจักรพรรดิ ดังนั้นพวกนางจึงไม่จำเป็นต้องเป็นจักรพรรดิเพื่อที่จะทำให้ตัวเองแข็งแกร่งขึ้น

เมื่อคิดถึงจุดนี้ นางจึงพูดกับหลิงตู้ฉิง ว่า “อาณาจักรอี้จิ๋นก่อตั้งโดยน้องชายของข้า ดังนั้นข้าจะต้องให้เขาตัดสินใจเรื่องนี้อีกที อย่างไรก็ตามนอกเหนือจากเงื่อนไขของเจ้าแล้ว ข้าต้องการเพิ่มเงื่อนไขของข้าเข้าไปอีกสองข้อ”

“เงื่อนไขอะไร?” หลิงตู้ฉิงถามขึ้น

“เงื่อนไขแรกก็คือในตอนนี้สถานที่ที่พวกของข้าได้ค้นพบเบาะแสของความลับในทะเลชางหมางคือเกาะสี่เกาะแล้ว แต่ถ้าเจ้าต้องการให้ข้าร่วมมือกับเจ้าด้วย เจ้าต้องอนุญาตให้ข้าได้ครอบครองเกาะทั้งหมด 8 เกาะ! ซึ่งในทะเลชางหมางนั้นมีเกาะมากกว่าร้อยเกาะ ดังนั้นข้าคิดว่าเงื่อนไขนี้คงไม่มากเกินไป!” สีเป่ยเซียะเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงหนักแน่น

ในความคิดของนาง หากพวกนางยอมสละอาณาจักรอี้จิ๋นให้กับหลิงตู้ฉิงแล้ว การที่พวกนางขอค่าตอบแทนเป็นเกาะ 8 เกาะมันคงไม่มากเกินไปแน่นอน

หลิงตู้ฉิงยิ้ม “เหมาะสมแล้ว เอาล่ะ เงื่อนไขที่สองของเจ้าคืออะไร?”

“สำหรับเงื่อนไขที่สองของเรา …” สีเป่ยเซียะจ้องไปที่หลิงตู้ฉิงและพูดว่า “ถ้าวันหนึ่งมีการพิสูจน์ได้ว่าในทะเลชางหมางนั้นมีขุมทรัพย์ที่เป็นความลับซ่อนอยู่อย่างแท้จริง ข้าต้องการส่วนแบ่งหนึ่งในสิบ”

เมื่อได้ยินเช่นนี้ หลิงตู้ฉิงส่ายหัวอย่างจนปัญญา “ข้าบอกเจ้าไปแล้วว่าไม่มีทางที่จะมีสมบัติลับอะไรในทะเลชางหมาง ทำไมเจ้าถึงไม่เชื่อข้ากัน? หรือต่อให้มันจะมีความลับซ่อนอยู่ มันก็คงไม่ใช่อะไรที่สำนักของเจ้ามองหาหรอก แต่เอาเถอะ ข้าดูแล้วเจ้าคงจะไม่เชื่อคำพูดของข้าแน่ ๆ เอาเป็นว่าข้าตกลงยอมรับเงื่อนไขที่สองของเจ้าก็แล้วกัน”

สีเป่ยเซียะยิ้ม “นี่เป็นเพียงเงื่อนไขของข้าที่บอกให้เจ้ารู้ก่อน ส่วนการตัดสินใจที่จะร่วมมือหรือไม่นั้นมันขึ้นอยู่กับน้องชายของข้าอีกที แต่ข้าคิดว่าเขามีโอกาสสูงที่เขาจะเห็นด้วย”

หลิงตู้ฉิงพยักหน้าเล็กน้อยและพูดว่า “ไม่มีปัญหา เจ้าจงกลับไปถามเขาได้เลย ส่วนทางด้านของข้า หลังจากลั่วหยุนเปลี่ยนเป็นวิญญาณสงครามเสร็จเมื่อไหร่ ข้าถึงจะเข้าไปในเมือง อ๋อ! ให้ข้าแนะนำลูกชายของข้าให้เจ้ารู้จักก่อน นี่ลูกชายข้า หลิงยี่เทียน เขาคือจักรพรรดิแห่งอาณาจักรจันทรา เขาคือคนที่เจ้าจะร่วมมือด้วยในอนาคต”

“คารวะ ป้าสี!” หลิงยี่เทียนโค้งไปทางสีเป่ยเซียะด้วยรอยยิ้ม

สีเป่ยเซียะมองไปที่หลิงยี่เทียนด้วยสายตาประเมิน และถามขึ้นด้วยรอยยิ้ม “ข้าได้ยินมาว่าเจ้ายังไม่มีมเหสีใช่ไหม? บังเอิญว่าน้องชายของข้าก็มีลูกสาวอยู่ หากเราประสบความสำเร็จในการร่วมมือกัน ข้าจะให้หลานสาวของข้า อภิเษกกับเจ้าในฐานะมเหสีได้ไหม?”

เมื่อได้ยินเช่นนี้ หลิงยี่เทียนมองไปที่สีเป่ยเซียะด้วยสีหน้าตกตะลึง เขารีบหันกลับมาและร้องหาหลิงตู้ฉิงทันที “ท่านพ่อ…”

“เรื่องนี้เจ้าจงตัดสินใจด้วยตัวเอง!” หลิงตู้ฉิงตอบกลับทันทีพร้อมเบือนหน้าหนี

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

พ่อเลี้ยงยอดเซียน (异界无敌奶爸) 452 เงื่อนไขการร่วมมือ

Now you are reading พ่อเลี้ยงยอดเซียน (异界无敌奶爸) Chapter 452 เงื่อนไขการร่วมมือ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 452 เงื่อนไขการร่วมมือ

เมื่อได้ยินหลิงตู้ฉิงพูดถึงมันอีกครั้ง สีเป่ยเซียะมองไปที่หลิงตู้ฉิงโดยไม่รู้ว่าจะตอบว่ายังไง

ที่ผ่านมา สำนักเบญจธาตุของนางก็ได้ลงทุนทรัพยากรและกำลังคนไปไม่น้อยกับการก่อตั้งอาณาจักรอี้จิ๋นเพื่อเป็นหน้าด่านในการสำรวจความลับที่อยู่ในทะเลชางหมาง

และที่สำคัญพวกนางเองก็ได้ค้นพบเบาะแสหลาย ๆ อย่างไปแล้วด้วยเช่นกัน

แต่มาตอนนี้ หลิงตู้ฉิงกลับบอกให้นางและสำนักของนางถอนตัวไปซะอย่างนั้น แบบนี้นางจะตอบรับข้อตกลงของเขาได้ยังไง?

โดยเฉพาะที่สำนักเบญจธาตุของนางก็ไม่ใช่สำนักธรรมดาไก่กาที่ไหน ต่อให้ภูมิหลังของหลิงตู้ฉิงจะเลิศเลอเพียงใด ทำไมนางจะต้องยินยอมทำตามคำพูดของเขาด้วย?

อย่างไรก็ตาม ด้วยประสบการณ์ที่นางเคยรับมือกับหลิงตู้ฉิงมาหลายครั้งหลายครา ซึ่งมันทำให้นางเข้าใจนิสัยของหลิงตู้ฉิงค่อนข้างดี ดังนั้นนางจึงไม่ได้เอ่ยคำพูดทั้งหลายที่อยู่ในใจนางออกมาให้เขาได้ยิน แต่เลือกที่จะถามเขากลับว่า “เจ้ายังติดค้างข้าอยู่ เจ้าจำได้ใช่ไหม?”

หลิงตู้ฉิงพยักหน้า “แน่นอนว่าข้าย่อมจำได้ และเป็นเพราะเหตุนั้นข้าจึงเรียกเจ้าให้มาคุยกับข้าก่อนที่นี่ ไม่เช่นนั้นเจ้าคิดว่าเมืองเจินไห่แห่งเดียวจะหยุดข้าได้งั้นเหรอ? หรือเจ้าคิดว่าอาณาจักรอี้จิ๋นของเจ้าจะหยุดข้าได้?”

สีเป่ยเซียะขมวดคิ้วและตอบกลับอย่างรวดเร็ว “นี่เจ้าเอาความมั่นใจมาจากไหนว่าเจ้าตัวคนเดียวสามารถต่อกรกับอาณาจักรอี้จิ๋นของข้าได้?”

หลิงตู้ฉิงยิ้ม และชี้ไปที่ลั่วหยุนที่กำลังอนู่ในขั้นตอนเปลี่ยนดวงวิญญาณให้กลายเป็นวิญญาณสงคราม “เขาได้ตกลงที่จะเข้าร่วมกับอาณาจักรจันทราแล้ว และหน้าที่ของเขาก็คือคอยปกป้องลูกชายของข้าเป็นเวลา 2,300 ปี!”

เมื่อได้ยินเช่นนี้ สีเป่ยเซียะถึงกับสูดหายใจลึกและไม่รู้จะพูดอะไรต่อ

หากเป็นอย่างที่หลิงตู้ฉิงกล่าวจริง ต่อให้เป็นก่อนหน้านี้ที่ลั่วหยุนเหลือแต่ดวงวิญญาณ อาณาจักรอี้จิ๋นของนางก็คงไม่สามารถต่อกรกับเขาได้ แล้วยิ่งตอนนี้ลั่วหยุนกำลังจะกลายเป็นวิญญาณสงครามที่ในอนาคตสามารถบ่มเพาะได้เช่นเดียวกับผู้เชี่ยวชาญปกติ ซึ่งความแข็งแกร่งของเขาก็มีแต่จะเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ ดังนั้นต่อให้นางจะใช้อาวุธระดับจักรพรรดิควบคู่กับโองการจักรพรรดิ นางและน้องชายของนางก็ไม่มีทางหยุดลั่วหยุนที่อยู่ในขอบเขตราชันอย่างแท้จริงแบบนี้ได้แน่นอน

เว้นแต่พวกนางจะพาผู้อาวุโสระดับสูงจากสำนักเบญจธาตุพร้อมกับนำสมบัติวิเศษที่ทรงพลังยิ่งกว่านี้มาด้วย พวกนางถึงจะสามารถต่อสู้กับลั่วหยุนได้อย่างสูสี

อย่างไรก็ตาม สิ่งเหล่านั้นนับได้ว่าเป็นรากฐานความแข็งแกร่งของสำนักเบญจธาตุ ดังนั้นนางและน้องชายของนางจึงไม่สามารถนำออกมาใช้ได้อย่างง่ายดายแน่นอน

หลังจากเงียบไปครู่หนึ่ง สีเป่ยเซียะก็พูดว่า “ถ้างั้นเจ้าจะเอายังไงกับพวกข้า? แต่จงอย่าลืมว่าเจ้าเป็นหนี้ข้า และที่สำคัญข้าได้ยินมาจากน้องชายของข้าว่าเขาเองได้มอบไม้มรกตศักดิ์สิทธิ์ครึ่งหนึ่งให้แก่เจ้าเช่นกัน และนั่นก็ถือเป็นหนี้บุญคุณเช่นกัน”

หลิงตู้ฉิงพยักหน้าเล็กน้อย และพูดว่า “ข้าได้เคยบอกกับเจ้าสองพี่น้องไปแล้วนี่ ว่าข้าจะให้เจ้าและน้องชายของเจ้าเลือกทางออกอยู่สองทาง ทางแรกคือต่อต้านข้า ทางที่สองคือร่วมมือกับข้า! ในเมื่อตอนนี้เจ้าอยู่ที่นี่แล้วก็จงตัดสินใจซะให้เสร็จ”

“ถ้าเจ้าเลือกที่จะต่อต้านข้า ด้วยหยดน้ำวิญญาณบริสุทธิ์ที่เจ้าให้ข้า ข้าจะหันหลังกลับไปที่ทะเลชางหมางและเลือกเส้นทางใหม่ไปยังอาณาจักรมังกรทะยาน และจะไม่แตะต้องอาณาจักรอี้จิ๋นของเจ้าเป็นเวลา 500 ปี แต่เมื่อไหร่ที่ 500 ปีผ่านไปข้าจะกลับมาอีกครั้ง และจะลงมือกับพวกเจ้าโดยไม่สนใจหรือไว้หน้าใครทั้งสิ้น”

สีเป่ยเซียะครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วถามว่า “ข้าถามได้ไหมว่าทำไมเจ้าถึงต้องการไปที่อาณาจักรมังกรทะยาน?”

หลิงตู้ฉิงพูดอย่างตรงไปตรงมา “หยูเฉิงฮุยแห่งอาณาจักรมังกรทะยานทะยานบังอาจมาล่อลวงลูกสาวของข้าด้วยเจตนาชั่วช้า ข้าจะไปลากตัวมันมาให้รับผิดชอบกับความรู้สึกของลูกสาวข้า!”

เมื่อได้ยินที่พ่อของนางเอ่ยเช่นนั้น หลิงว่านถิงพูดแทรกขึ้นด้วยสีหน้าอับอายทันทีว่า “ท่านพ่อ ท่านอย่าพูดให้มันดูเหมือนกับว่าข้าถูกล่วงเกินอะไรมากขนาดนั้นสิ…”

ในตอนนี้หลิงว่านถิงทำใจของนางเองได้มากขึ้นเยอะแล้ว ดังนั้นเมื่อนางได้ยินคำพูดของพ่อนางเช่นนี้ นางจึงแสดงความไม่พอใจออกมา

ในเวลาเดียวกัน เมื่อสีเป่ยเซียะมองไปที่หลิงว่านถิง ดวงตาของนางสว่างขึ้นทันทีและพูดว่า “พรสวรรค์ของลูกสาวของเจ้าไม่เลวเลยทีเดียว ถ้านางเต็มใจ ข้าสามารถแนะนำให้นางเข้าร่วมกับสำนักธาตุไม้ของสำนักเบญจธาตุของข้าได้”

สีเป่ยเซียะสามารถสัมผัสได้ถึงรัศมีอันเหนือล้ำที่แผ่ออกมาจากร่างกายของหลิงว่านถิงได้อย่างชัดเจน ซึ่งมันคล้ายกับที่มีอยู่ในสำนักเบญจธาตุของนางในสาขาธาตุไม้

หลิงตู้ฉิงส่ายหน้า “ลูกสาวของข้า หลิงว่านถิง หลังจากจบเรื่องหยูเฉิงฮุยเมื่อไหร่ คนของสำนักเต๋าสวรรค์จะมารับนางตัวให้ไปเข้าร่วมสำนักเต๋าทันที”

หลิงว่านถิงโค้งคำนับให้สีเป่ยเซียะและพูดว่า “ท่านป้าสี ขอต้องขออภัยด้วยจริง ๆ ที่ท่านพ่อของข้าทำเรื่องเล็กให้กลายเป็นเรื่องใหญ่เช่นนี้ อันที่จริงแล้วตัวข้าเองมีความขัดแย้งกับหยูเฉิงฮุยเพียงเล็กน้อยเท่านั้น พ่อของข้าจึงพยายามที่จะหาตัวหยูเฉิงฮุยมาสะสางปัญหาให้เสร็จสิ้น ส่วนเรื่องที่ข้าถูกล่อลวงนั้น ข้าไม่ได้ถูกล่อลวงและข้าก็ไม่ได้เสียอะไรไปให้กับคนผู้นั้นเลย”

หลิงว่านถิงได้ทราบถึงตัวตนของสีเป่ยเซียะจากมี่ไลแล้ว ซึ่งนับได้ว่าสีเป่ยเซียะเป็นผู้กว้างขวางคนหนึ่ง ดังนั้นนางจึงต้องปกป้องตัวเอง ไม่เช่นนั้นถ้าเรื่องนี้แพร่กระจายออกไป ผู้คนมากมายจะไม่คิดว่านางเป็นผู้หญิงโง่เง่าอย่างนั้นเหรอ? แล้วถ้าเป็นแบบนั้นในอนาคตชื่อเสียงของนางไม่ป่นปี้จนหมดเลยงั้นเหรอ?

สีเป่ยเซียะพยักหน้าพลางยิ้มให้หลิงว่านถิง แล้วพูดกับหลิงตู้ฉิง “งั้นข้าขอถามเจ้าต่อ ที่เจ้าบอกว่าให้เราร่วมมือกับเจ้า ข้าอยากรู้ว่าความร่วมมือแบบไหนที่เจ้าต้องการ?”

เนื่องจากหลิงว่านถิงกำลังจะได้เข้าร่วมสำนักเต๋าสวรรค์อยู่แล้ว นางจึงไม่พูดโน้มน้าวอะไรหลิงว่านถิงอีก

หลิงตู้ฉิงยิ้ม “ถ้าเราร่วมมือกันทุกอย่างย่อมจะง่ายขึ้น เหตุผลที่พวกเจ้าก่อตั้งอาณาจักรอี้จิ๋นที่นี่ก็เป็นเพราะพวกเจ้าต้องการค้นหาความลับของทะเลชางหมางไม่ใช่เพราะต้องการบ่มเพาะดวงใจจักรพรรดิ ดังนั้นบรรดาราษฎรที่พวกเจ้าปกครองอยู่มันก็คงไม่ได้มีความสำคัญอะไรกับพวกเจ้านัก”

“สำหรับเงื่อนไขในความร่วมมือกับข้าก็คือพวกเจ้าต้องมอบอาณาจักรอี้จิ๋นให้กับลูกชายของข้า รวมไปถึงกองกำลังของพวกเจ้าที่อยู่ภายในทะเลชางหมางให้เข้าร่วมกับเขาด้วย”

“ส่วนความลับที่พวกเจ้ากำลังมองหา ต่อให้ข้าจะบอกกับพวกเจ้าว่าทะเลชางหมางไม่มีความลับอย่างที่พวกเจ้าคิด พวกเจ้าก็คงจะไม่เชื่ออยู่ดี ดังนั้นเมื่อไหร่ที่ผนึกของทะเลชางหมางถูกคลายออกอย่างสมบูรณ์แล้ว ข้าจะอนุญาตให้พวกเจ้าสามารถเลือกสถานที่ที่พวกเจ้าคิดว่ามีความลับถูกซ่อนอยู่และยึดครองพื้นที่นั้นไปได้เลย”

“แต่แน่นอนว่าข้าไม่ได้หมายความว่าข้าจะให้พื้นที่ทั้งหมดของทะเลชางหมางกับเจ้า ข้าจะให้พวกเจ้าเลือกเอาว่ามีกี่แห่งในทะเลชางหมางที่เจ้าคาดว่าน่าจะมีความลับซ่อนอยู่ก็เท่านั้น”

เมื่อได้ยินคำพูดของหลิงตู้ฉิง สีเป่ยเซียะก็แสดงสีหน้าสนใจขึ้นมาทันที

มันเป็นเรื่องจริงที่สำนักของพวกนางลงทุนเฝ้าทางออกของทะเลชางหมางก็เพื่อความลับของทะเลชางหมาง

หากพวกนางสามารถเข้าไปครอบครองพื้นที่ที่มีความลับซ่อนอยู่เลยโดยตรง ทำไมพวกนางถึงต้องมาสนใจกับอาณาจักรอี้จิ๋น?

พวกนางไม่ใช่เหล่าคนที่บ่มเพาะวิชาดวงใจจักรพรรดิ ดังนั้นพวกนางจึงไม่จำเป็นต้องเป็นจักรพรรดิเพื่อที่จะทำให้ตัวเองแข็งแกร่งขึ้น

เมื่อคิดถึงจุดนี้ นางจึงพูดกับหลิงตู้ฉิง ว่า “อาณาจักรอี้จิ๋นก่อตั้งโดยน้องชายของข้า ดังนั้นข้าจะต้องให้เขาตัดสินใจเรื่องนี้อีกที อย่างไรก็ตามนอกเหนือจากเงื่อนไขของเจ้าแล้ว ข้าต้องการเพิ่มเงื่อนไขของข้าเข้าไปอีกสองข้อ”

“เงื่อนไขอะไร?” หลิงตู้ฉิงถามขึ้น

“เงื่อนไขแรกก็คือในตอนนี้สถานที่ที่พวกของข้าได้ค้นพบเบาะแสของความลับในทะเลชางหมางคือเกาะสี่เกาะแล้ว แต่ถ้าเจ้าต้องการให้ข้าร่วมมือกับเจ้าด้วย เจ้าต้องอนุญาตให้ข้าได้ครอบครองเกาะทั้งหมด 8 เกาะ! ซึ่งในทะเลชางหมางนั้นมีเกาะมากกว่าร้อยเกาะ ดังนั้นข้าคิดว่าเงื่อนไขนี้คงไม่มากเกินไป!” สีเป่ยเซียะเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงหนักแน่น

ในความคิดของนาง หากพวกนางยอมสละอาณาจักรอี้จิ๋นให้กับหลิงตู้ฉิงแล้ว การที่พวกนางขอค่าตอบแทนเป็นเกาะ 8 เกาะมันคงไม่มากเกินไปแน่นอน

หลิงตู้ฉิงยิ้ม “เหมาะสมแล้ว เอาล่ะ เงื่อนไขที่สองของเจ้าคืออะไร?”

“สำหรับเงื่อนไขที่สองของเรา …” สีเป่ยเซียะจ้องไปที่หลิงตู้ฉิงและพูดว่า “ถ้าวันหนึ่งมีการพิสูจน์ได้ว่าในทะเลชางหมางนั้นมีขุมทรัพย์ที่เป็นความลับซ่อนอยู่อย่างแท้จริง ข้าต้องการส่วนแบ่งหนึ่งในสิบ”

เมื่อได้ยินเช่นนี้ หลิงตู้ฉิงส่ายหัวอย่างจนปัญญา “ข้าบอกเจ้าไปแล้วว่าไม่มีทางที่จะมีสมบัติลับอะไรในทะเลชางหมาง ทำไมเจ้าถึงไม่เชื่อข้ากัน? หรือต่อให้มันจะมีความลับซ่อนอยู่ มันก็คงไม่ใช่อะไรที่สำนักของเจ้ามองหาหรอก แต่เอาเถอะ ข้าดูแล้วเจ้าคงจะไม่เชื่อคำพูดของข้าแน่ ๆ เอาเป็นว่าข้าตกลงยอมรับเงื่อนไขที่สองของเจ้าก็แล้วกัน”

สีเป่ยเซียะยิ้ม “นี่เป็นเพียงเงื่อนไขของข้าที่บอกให้เจ้ารู้ก่อน ส่วนการตัดสินใจที่จะร่วมมือหรือไม่นั้นมันขึ้นอยู่กับน้องชายของข้าอีกที แต่ข้าคิดว่าเขามีโอกาสสูงที่เขาจะเห็นด้วย”

หลิงตู้ฉิงพยักหน้าเล็กน้อยและพูดว่า “ไม่มีปัญหา เจ้าจงกลับไปถามเขาได้เลย ส่วนทางด้านของข้า หลังจากลั่วหยุนเปลี่ยนเป็นวิญญาณสงครามเสร็จเมื่อไหร่ ข้าถึงจะเข้าไปในเมือง อ๋อ! ให้ข้าแนะนำลูกชายของข้าให้เจ้ารู้จักก่อน นี่ลูกชายข้า หลิงยี่เทียน เขาคือจักรพรรดิแห่งอาณาจักรจันทรา เขาคือคนที่เจ้าจะร่วมมือด้วยในอนาคต”

“คารวะ ป้าสี!” หลิงยี่เทียนโค้งไปทางสีเป่ยเซียะด้วยรอยยิ้ม

สีเป่ยเซียะมองไปที่หลิงยี่เทียนด้วยสายตาประเมิน และถามขึ้นด้วยรอยยิ้ม “ข้าได้ยินมาว่าเจ้ายังไม่มีมเหสีใช่ไหม? บังเอิญว่าน้องชายของข้าก็มีลูกสาวอยู่ หากเราประสบความสำเร็จในการร่วมมือกัน ข้าจะให้หลานสาวของข้า อภิเษกกับเจ้าในฐานะมเหสีได้ไหม?”

เมื่อได้ยินเช่นนี้ หลิงยี่เทียนมองไปที่สีเป่ยเซียะด้วยสีหน้าตกตะลึง เขารีบหันกลับมาและร้องหาหลิงตู้ฉิงทันที “ท่านพ่อ…”

“เรื่องนี้เจ้าจงตัดสินใจด้วยตัวเอง!” หลิงตู้ฉิงตอบกลับทันทีพร้อมเบือนหน้าหนี

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+