พ่อเลี้ยงยอดเซียน (异界无敌奶爸) 477 โอสถรัศมีธาตุศักดิ์สิทธิ์

Now you are reading พ่อเลี้ยงยอดเซียน (异界无敌奶爸) Chapter 477 โอสถรัศมีธาตุศักดิ์สิทธิ์ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 477 โอสถรัศมีธาตุศักดิ์สิทธิ์

บรรดาผู้อาวุโสของอารามนวดาราต่างถอนหายใจที่ได้ยินหยวนต้าตงโทษตัวเองเช่นนี้ อันที่จริงถ้าจะโทษที่หยวนต้าตงลังเลก่อนหน้านี้เป็นเพราะความสามารถในการตัดสินใจของเขาไม่ดีพอก็คงจะไม่ถูกนัก เพราะก่อนหน้านี้พวกเขาเพิ่งได้รับบทเรียนอันเจ็บปวดจากเหตุการณ์ที่เมืองหยูหลันมา ไม่เช่นนั้นเขาอาจจะแสดงท่าทีที่แตกต่างออกไป

หยวนต้าตงส่ายหัว “เมื่อผู้อาวุโสเสร็จสิ้นการหลอมโอสถธาตุแสงศักดิ์สิทธิ์ ข้าจะสละตำแหน่งเจ้าสำนักและเก็บตัวปิดด่านบ่มเพาะ ซึ่งพวกเจ้าจะต้องคัดเลือกเจ้าสำนักคนใหม่กันขึ้นมาเอง! เนื่องจากความสามารถของข้าคงไม่คู่ควรที่จะดำรงตำแหน่งเป็นเจ้าสำนักต่อ แล้วยิ่งตอนนี้ที่อารามนวดาราของเราได้รับโชคดีเช่นนี้ เราต้องการคนที่มีความสามารถมากพอที่จะพาสำนักของเราให้รุ่งเรืองกว่าเดิม”

“ท่านเจ้าสำนัก…” หวางหมิงหยวนรีบพูด

หยวนต้าตงรีบโบกมือขัดและพูดว่า “ไม่ต้องพูดอีกแล้ว ข้าตัดสินใจแล้ว อย่าลืมว่าข้าแค่สละตำแหน่งแต่ข้าไม่ได้ออกจากสำนัก หากสำนักมีปัญหาอะไร ข้าก็จะยังคงอยู่เพื่อช่วยเหลือเหมือนเดิม อย่างไรก็ตามสิ่งที่ข้าเอ่ยทั้งหมดพวกเราจะรอให้ผู้อาวุโสเสร็จสิ้นการหลอมโอสถรัศมีธาตุศักดิ์สิทธิ์ก่อน จากนั้นพวกเราค่อยดำเนินการเรื่องในสำนักทั้งหมดด้วยตัวเราเองหลังจากที่ผู้อาวุโสจากไปแล้ว”

เมื่อหยวนต้าตงพูดจบ คนอื่น ๆ ต่างก็พยักหน้าและไม่พยายามพูดโน้มน้าวอะไรอีก

หลิงตู้ฉิงใช้เวลาในการหลอมโอสถรัศมีธาตุศักดิ์สิทธิ์มากกว่าที่เขาคิด

ประการแรกเป็นเพราะโอสถรัศมีธาตุศักดิ์สิทธิ์เป็นโอสถระดับสูงมาก การหลอมโอสถดังกล่าวจะต้องใช้เวลามากขึ้นตามลำดับ

ประการที่สองเป็นเพราะระดับการบ่มเพาะของหลิงตู้ฉิงต่ำเกินไป มันจึงทำให้การหลอมโอสถระดับสูงยิ่งยากขึ้นมากไปอีก

ดังนั้นการหลอมโอสถรัศมีธาตุศักดิ์สิทธิ์จึงใช้เวลานานกว่า 3 เดือน

แต่ในขณะที่โอสถรัศมีธาตุศักดิ์สิทธิ์เพิ่งขึ้นรูป จู่ ๆ สายฟ้าทัณฑ์สวรรค์ก็ฟาดลงมา ซึ่งมันคือสัญญาณบ่งบอกว่าขั้นตอนสุดท้ายของการหลอมโอสถรัศมีธาตุศักดิ์สิทธิ์ได้มาถึงแล้ว

นี่เป็นเหตุการณ์ปกติที่จะต้องเกิดขึ้นหากเม็ดโอสถระดับเซียนกำลังจะหลอมเสร็จ มันจะต้องเผชิญกับทัณฑ์สวรรค์อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

เรื่องนี้แม้แต่อารามนวดาราก็รู้ดี ดังนั้นพวกเขาจึงเปิดค่ายกลป้องกันสำนักรอเอาไว้เพื่อใช้มันต้านทานทัณฑ์สวรรค์ที่เกิดขึ้นจากโอสถ

ซึ่งคนของอารามนวดารานั้นรู้ดีว่าค่ายกลใหม่ที่ยิ่งใหญ่ของพวกเขานั้นอยู่ในระดับสวรรค์สมบูรณ์ขั้นสูงสุด ดังนั้นด้วยการปกป้องของมันพวกเขาจึงวางใจได้แน่นอนว่า ทัณฑ์สวรรค์ที่เกิดขึ้นจากโอสถระดับเซียนจะได้รับการปัดป้องอย่างสมบูรณ์

อย่างไรก็ตามคำสั่งต่อไปของหลิงตู้ฉิงก็ทำให้พวกเขาตกตะลึง

“ยกเลิกค่ายกลป้องกันของพวกเจ้าซะ!” หลิงตู้ฉิงตะโกนออกคำสั่ง

เมื่อได้ยินเช่นนั้น หยวนต้าตงก็รีบถามขึ้นทันที “ผู้อาวุโสท่านจะไม่ให้เราช่วยท่านงั้นเหรอ?”

หลิงตู้ฉิงตอบกลับทันที “ไม่จำเป็นต้องห่วงข้า ข้าต้องการยืมพลังของทัณฑ์สวรรค์มาปรับแต่งค่ายกลกระบี่ของข้าเอง!”

หยวนต้าตงยิ้มอย่างขมขื่น จากนั้นเขาจึงยกเลิกค่ายกลป้องกันทันที

อย่างไรก็ตามเมื่อพวกเขาเห็นค่ายกลกระบี่อันน่าเกรงขาม พวกเขาก็ได้แต่พูดอะไรไม่ออก

เมื่อค่ายกลป้องกันของอารามนวดาราถูกยกเลิก สายฟ้าทัณฑ์สวรรค์ก็ฟาดลงมาจากท้องฟ้าในทันทีโดยพุ่งเข้าหาค่ายกลกระบี่เหินเมฆาที่ลอยอยู่เหนือเตาหลอมโอสถ

อย่างไรก็ตาม กระบี่บินทั้งสี่สิบเก้าเล่มของค่ายกลกระบี่เหินเมฆาก็ตั้งตระหง่านอยู่บนท้องฟ้าราวกับว่าพวกมันยอมรับการชำระล้างบาปจากสายฟ้า

แน่นอนว่าเมื่อเหล่ากระบี่บินถูกอาบไปด้วยสายฟ้าที่ฟาดกระหน่ำลงมา กฎของสายฟ้าก็ค่อย ๆ ถูกสลักลงไปบนมันด้วย

ในอีกด้านหนึ่งนอกอารามนวดารา ผู้คนจากสำนักอื่น ๆ ที่ปิดล้อมอยู่ต่างก็มุงดูทัณฑ์สวรรค์ที่เกิดขึ้นในอารามนวดาราอย่างใจจดใจจ่อ ช่วงสามเดือนที่ผ่านมาพวกเขายังคงปิดล้อมอยู่และยังไม่เต็มใจที่จะจากไป

“ใครคือผู้ที่กำลังเผชิญกับทัณฑ์สวรรค์?” จางไป๋อู่ถามด้วยความประหลาดใจ

หลานฟ่างจุนขมวดคิ้วและเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงเย็นชา “เราควรใช้โอกาสนี้กำจัดอารามนวดาราดีไหม?”

ฟางหมิงยู่ส่ายหัวช้า ๆ และพูดว่า “ข้าเห็นด้วยถ้าเราจะขึ้นไปดู แต่เราไม่ควรจะลงมือทำอะไรพวกเขา คนพวกนั้นยังอยู่ที่นั่นและค่ายกลกระบี่ก็ยังอยู่ที่นั่น”

เมื่อได้ยินเช่นนี้ทุกคนก็พยักหน้า จากนั้นก็กระโดดบินขึ้นฟ้าไปยังอารามนวดารา

จากระยะไกล เมื่อมองไปที่เหล่ากระบี่บินที่กำลังถูกสายฟ้าฟาดอยู่ ฟางหมิงยู่และคนพวกเดียวกับเขาก็รู้ได้ทันทีว่าใครกำลังเผชิญทัณฑ์สวรรค์

สำหรับหยวนต้าตงและคนอื่น ๆ ในอารามนวดารา เมื่อพวกเขาเห็นฟางหมิงยู่และคนของฝั่งตรงข้าม ลอยอยู่ด้านนอกอาณาเขตของสำนักของพวกเขา พวกเขาก็ยิ้มเยาะในใจ เนื่องจากในตอนนี้พวกเขาไม่จำเป็นต้องกังวลอะไรกับศัตรูเหล่านี้อีกแล้ว เพราะตอนนี้สำนักของพวกเขานั้นมีค่ายกลป้องกันระดับสวรรค์สมบูรณ์คอยปกป้องอยู่

ในทางกลับกัน โม่เอ๋อกลับรู้สึกกังวลเล็กน้อย นางหยิบยันต์เคลือบหยกมาไว้ในมือเตรียมพร้อมรับทุกสถานการณ์ที่จะเกิดขึ้น นางตั้งใจว่าหากมีผู้เชี่ยวชาญจากฝั่งตรงข้ามไม่ว่าใครบุกเข้ามาขัดจังหวะขั้นตอนการหลอมโอสถของหลิงตู้ฉิง นางจะเปิดใช้งานยันต์เคลือบหยกเพื่อสังหารทันที

“พวกเจ้ามาทำอะไรที่นี่?” หยวนต้าตงมองไปที่ฟางหมิงยู่และคนฝั่งตรงข้ามด้วยสายตาเย็นชา

ฟางหมิงยู่ยิ้มและพูดว่า “แหม่ เจ้าสำนักหยวน ไม่ว่าจะยังไงพวกเรามันก็นับได้ว่าเป็นสหายเต๋า เมื่อพวกข้าเห็นว่าพวกท่านกำลังเผชิญกับทัณฑ์สวรรค์ พวกข้าก็เลยรีบมาดูพวกท่านด้วยความเป็นห่วง”

แม้ว่าพวกเขาจะกล้าบินมาดูสถานการณ์ แต่พวกเขาก็ไม่กล้าเข้าไปในอาณาเขตของอารามนวดารา เนื่องจากพวกเขารู้สึกกังวลกับค่ายกลที่คอยปกป้องสำนักแห่งนี้

หวางหมิงหยวนตะคอกกลับ “ที่นี่ไม่มีอะไรจะให้พวกเจ้าดู ไสหัวกลับไปซะ!”

พวกเขาไม่ต้องการให้คนพวกนี้รับรู้เกี่ยวกับโอสถรัศมีธาตุศักดิ์สิทธิ์

ทันทีที่ทัณฑ์สวรรค์ของโอสถรัศมีธาตุศักดิ์สิทธิ์สิ้นสุดลง หยวนต้าตงก็เปิดใช้งานค่ายกลป้องกันสำนักทันที

เมื่อสัมผัสได้ถึงพลังอำนาจอันแรงกล้าของค่ายกลป้องกันอารามนวดารา สีหน้าของ ฟางหมิงยู่และพวกของเขาก็เปลี่ยนไป ซึ่งพวกเขาก็รีบถอยห่างจากอารามนวดาราทันที

“ทำไมค่ายกลป้องกันของอารามนวดาราถึงได้แข็งแกร่งขนาดนี้?” หลานฟ่างจุนพูดพลางแสดงสีหน้าไม่น่าดู

เมื่อสัมผัสได้ถึงความแข็งแกร่งของค่ายกลระดับนี้ อย่าว่าแต่จะให้พวกเขาเข้าโจมตีเลย แม้แต่จะเข้าไปใกล้พวกเขายังรู้สึกหนาวไปถึงขั้วกระดูก

พูดอีกนัยหนึ่งก็คือตราบใดที่ค่ายกลป้องกันนี้ยังคงอยู่ แผนการและความตั้งใจทั้งหมดของพวกเขาจะต้องดับวูบลง

ฟางหมิงยู่และคนอื่น ๆ ต่างมองไปที่อารามนวดาราด้วยความไม่เต็มใจ ในใจของพวกเขานั้นเต็มไปด้วยความรู้สึกโกรธต่อหลิงตู้ฉิง เนื่องจากหลิงตู้ฉิงเป็นตัวต้นเหตุที่ทำให้แผนการของพวกเขาต้องพังทลาย

ไม่ต้องสงสัยเลยว่าการเปลี่ยนแปลงของอารามนวดารานั้นเกี่ยวข้องกับหลิงตู้ฉิงอย่างแน่นอน

ไม่อย่างนั้นทำไมอารามนวดาราถึงไม่นำค่ายกลป้องกันสำนักที่แข็งแกร่งเช่นนี้ออกมาแสดงให้พวกเขาเห็นตั้งแต่แรก?

ภายในอารามนวดาราเมื่อทัณฑ์สวรรค์จบลง หลิงตู้ฉิงก็บังคับให้ค่ายกลกระบี่เหินเมฆามาตีวงล้อมรอบเตาหลอมโอสถแทน ที่เขาทำเช่นนี้ก็เพราะว่าโอสถระดับเซียนขึ้นไปนั้นมันจะมีวิญญาณเป็นของตัวมันเอง ดังนั้นการที่หลอมมันเสร็จมันก็ไม่ได้หมายความว่าพวกเขาจะสามารถหยิบมันใส่กระเป๋าไปได้อย่างง่าย ๆ

และก็ตามที่คาดไว้ เมื่อเขาฝาของเตาหลอมโอสถเปิดออก เม็ดโอสถทั้งเจ็ดเม็ดก็บินพุ่งออกมาจากเตาทันทีและทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้า

อย่างไรก็ตามความพยายามที่จะทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้าของโอสถทั้งเจ็ดนี้ก็ถูกขัดขวางด้วยค่ายกลกระบี่เหินเมฆา ซึ่งทำให้พวกมันได้แต่บินไปรอบ ๆ ข้างในวงล้อมของค่ายกลกระบี่โดยไม่สามารถไปไหนได้

หลิงตู้ฉิงมองไปที่โอสถรัศมีธาตุศักดิ์สิทธิ์ในค่ายกลกระบี่เหินเมฆา จากนั้นก็หันไปพูดกับหยวนต้าตงและคนอื่น ๆ “โอสถ 7 เม็ด คุณภาพสูง 2 เม็ด หนึ่งเม็ดสำหรับพวกเจ้า โอสถคุณภาพระดับกลาง 2 เม็ด หนึ่งเม็ดสำหรับพวกเจ้า โอสถคุณภาพต่ำ 3 เม็ด ข้าจะให้พวกเจ้า 2 เม็ด! เตรียมตัวรอจับมันให้ดี ข้าจะปล่อยมันออกไปให้พวกเจ้ารับมันไว้”

เมื่อหยวนต้าตงและคนของเขาได้ยินเช่นนี้ พวกเขาก็ตื่นตัวทันทีราวกับว่าพวกเขากำลังเผชิญหน้าอยู่กับศัตรูคู่อาฆาตมาเป็นหมื่นปี พวกเขารู้ดีว่าหากพวกเขาพลาดโอกาสในขั้นตอนสุดท้ายนี้ไปพวกเขาจะต้องเสียใจไปจนวันตาย!

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

พ่อเลี้ยงยอดเซียน (异界无敌奶爸) 477 โอสถรัศมีธาตุศักดิ์สิทธิ์

Now you are reading พ่อเลี้ยงยอดเซียน (异界无敌奶爸) Chapter 477 โอสถรัศมีธาตุศักดิ์สิทธิ์ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 477 โอสถรัศมีธาตุศักดิ์สิทธิ์

บรรดาผู้อาวุโสของอารามนวดาราต่างถอนหายใจที่ได้ยินหยวนต้าตงโทษตัวเองเช่นนี้ อันที่จริงถ้าจะโทษที่หยวนต้าตงลังเลก่อนหน้านี้เป็นเพราะความสามารถในการตัดสินใจของเขาไม่ดีพอก็คงจะไม่ถูกนัก เพราะก่อนหน้านี้พวกเขาเพิ่งได้รับบทเรียนอันเจ็บปวดจากเหตุการณ์ที่เมืองหยูหลันมา ไม่เช่นนั้นเขาอาจจะแสดงท่าทีที่แตกต่างออกไป

หยวนต้าตงส่ายหัว “เมื่อผู้อาวุโสเสร็จสิ้นการหลอมโอสถธาตุแสงศักดิ์สิทธิ์ ข้าจะสละตำแหน่งเจ้าสำนักและเก็บตัวปิดด่านบ่มเพาะ ซึ่งพวกเจ้าจะต้องคัดเลือกเจ้าสำนักคนใหม่กันขึ้นมาเอง! เนื่องจากความสามารถของข้าคงไม่คู่ควรที่จะดำรงตำแหน่งเป็นเจ้าสำนักต่อ แล้วยิ่งตอนนี้ที่อารามนวดาราของเราได้รับโชคดีเช่นนี้ เราต้องการคนที่มีความสามารถมากพอที่จะพาสำนักของเราให้รุ่งเรืองกว่าเดิม”

“ท่านเจ้าสำนัก…” หวางหมิงหยวนรีบพูด

หยวนต้าตงรีบโบกมือขัดและพูดว่า “ไม่ต้องพูดอีกแล้ว ข้าตัดสินใจแล้ว อย่าลืมว่าข้าแค่สละตำแหน่งแต่ข้าไม่ได้ออกจากสำนัก หากสำนักมีปัญหาอะไร ข้าก็จะยังคงอยู่เพื่อช่วยเหลือเหมือนเดิม อย่างไรก็ตามสิ่งที่ข้าเอ่ยทั้งหมดพวกเราจะรอให้ผู้อาวุโสเสร็จสิ้นการหลอมโอสถรัศมีธาตุศักดิ์สิทธิ์ก่อน จากนั้นพวกเราค่อยดำเนินการเรื่องในสำนักทั้งหมดด้วยตัวเราเองหลังจากที่ผู้อาวุโสจากไปแล้ว”

เมื่อหยวนต้าตงพูดจบ คนอื่น ๆ ต่างก็พยักหน้าและไม่พยายามพูดโน้มน้าวอะไรอีก

หลิงตู้ฉิงใช้เวลาในการหลอมโอสถรัศมีธาตุศักดิ์สิทธิ์มากกว่าที่เขาคิด

ประการแรกเป็นเพราะโอสถรัศมีธาตุศักดิ์สิทธิ์เป็นโอสถระดับสูงมาก การหลอมโอสถดังกล่าวจะต้องใช้เวลามากขึ้นตามลำดับ

ประการที่สองเป็นเพราะระดับการบ่มเพาะของหลิงตู้ฉิงต่ำเกินไป มันจึงทำให้การหลอมโอสถระดับสูงยิ่งยากขึ้นมากไปอีก

ดังนั้นการหลอมโอสถรัศมีธาตุศักดิ์สิทธิ์จึงใช้เวลานานกว่า 3 เดือน

แต่ในขณะที่โอสถรัศมีธาตุศักดิ์สิทธิ์เพิ่งขึ้นรูป จู่ ๆ สายฟ้าทัณฑ์สวรรค์ก็ฟาดลงมา ซึ่งมันคือสัญญาณบ่งบอกว่าขั้นตอนสุดท้ายของการหลอมโอสถรัศมีธาตุศักดิ์สิทธิ์ได้มาถึงแล้ว

นี่เป็นเหตุการณ์ปกติที่จะต้องเกิดขึ้นหากเม็ดโอสถระดับเซียนกำลังจะหลอมเสร็จ มันจะต้องเผชิญกับทัณฑ์สวรรค์อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

เรื่องนี้แม้แต่อารามนวดาราก็รู้ดี ดังนั้นพวกเขาจึงเปิดค่ายกลป้องกันสำนักรอเอาไว้เพื่อใช้มันต้านทานทัณฑ์สวรรค์ที่เกิดขึ้นจากโอสถ

ซึ่งคนของอารามนวดารานั้นรู้ดีว่าค่ายกลใหม่ที่ยิ่งใหญ่ของพวกเขานั้นอยู่ในระดับสวรรค์สมบูรณ์ขั้นสูงสุด ดังนั้นด้วยการปกป้องของมันพวกเขาจึงวางใจได้แน่นอนว่า ทัณฑ์สวรรค์ที่เกิดขึ้นจากโอสถระดับเซียนจะได้รับการปัดป้องอย่างสมบูรณ์

อย่างไรก็ตามคำสั่งต่อไปของหลิงตู้ฉิงก็ทำให้พวกเขาตกตะลึง

“ยกเลิกค่ายกลป้องกันของพวกเจ้าซะ!” หลิงตู้ฉิงตะโกนออกคำสั่ง

เมื่อได้ยินเช่นนั้น หยวนต้าตงก็รีบถามขึ้นทันที “ผู้อาวุโสท่านจะไม่ให้เราช่วยท่านงั้นเหรอ?”

หลิงตู้ฉิงตอบกลับทันที “ไม่จำเป็นต้องห่วงข้า ข้าต้องการยืมพลังของทัณฑ์สวรรค์มาปรับแต่งค่ายกลกระบี่ของข้าเอง!”

หยวนต้าตงยิ้มอย่างขมขื่น จากนั้นเขาจึงยกเลิกค่ายกลป้องกันทันที

อย่างไรก็ตามเมื่อพวกเขาเห็นค่ายกลกระบี่อันน่าเกรงขาม พวกเขาก็ได้แต่พูดอะไรไม่ออก

เมื่อค่ายกลป้องกันของอารามนวดาราถูกยกเลิก สายฟ้าทัณฑ์สวรรค์ก็ฟาดลงมาจากท้องฟ้าในทันทีโดยพุ่งเข้าหาค่ายกลกระบี่เหินเมฆาที่ลอยอยู่เหนือเตาหลอมโอสถ

อย่างไรก็ตาม กระบี่บินทั้งสี่สิบเก้าเล่มของค่ายกลกระบี่เหินเมฆาก็ตั้งตระหง่านอยู่บนท้องฟ้าราวกับว่าพวกมันยอมรับการชำระล้างบาปจากสายฟ้า

แน่นอนว่าเมื่อเหล่ากระบี่บินถูกอาบไปด้วยสายฟ้าที่ฟาดกระหน่ำลงมา กฎของสายฟ้าก็ค่อย ๆ ถูกสลักลงไปบนมันด้วย

ในอีกด้านหนึ่งนอกอารามนวดารา ผู้คนจากสำนักอื่น ๆ ที่ปิดล้อมอยู่ต่างก็มุงดูทัณฑ์สวรรค์ที่เกิดขึ้นในอารามนวดาราอย่างใจจดใจจ่อ ช่วงสามเดือนที่ผ่านมาพวกเขายังคงปิดล้อมอยู่และยังไม่เต็มใจที่จะจากไป

“ใครคือผู้ที่กำลังเผชิญกับทัณฑ์สวรรค์?” จางไป๋อู่ถามด้วยความประหลาดใจ

หลานฟ่างจุนขมวดคิ้วและเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงเย็นชา “เราควรใช้โอกาสนี้กำจัดอารามนวดาราดีไหม?”

ฟางหมิงยู่ส่ายหัวช้า ๆ และพูดว่า “ข้าเห็นด้วยถ้าเราจะขึ้นไปดู แต่เราไม่ควรจะลงมือทำอะไรพวกเขา คนพวกนั้นยังอยู่ที่นั่นและค่ายกลกระบี่ก็ยังอยู่ที่นั่น”

เมื่อได้ยินเช่นนี้ทุกคนก็พยักหน้า จากนั้นก็กระโดดบินขึ้นฟ้าไปยังอารามนวดารา

จากระยะไกล เมื่อมองไปที่เหล่ากระบี่บินที่กำลังถูกสายฟ้าฟาดอยู่ ฟางหมิงยู่และคนพวกเดียวกับเขาก็รู้ได้ทันทีว่าใครกำลังเผชิญทัณฑ์สวรรค์

สำหรับหยวนต้าตงและคนอื่น ๆ ในอารามนวดารา เมื่อพวกเขาเห็นฟางหมิงยู่และคนของฝั่งตรงข้าม ลอยอยู่ด้านนอกอาณาเขตของสำนักของพวกเขา พวกเขาก็ยิ้มเยาะในใจ เนื่องจากในตอนนี้พวกเขาไม่จำเป็นต้องกังวลอะไรกับศัตรูเหล่านี้อีกแล้ว เพราะตอนนี้สำนักของพวกเขานั้นมีค่ายกลป้องกันระดับสวรรค์สมบูรณ์คอยปกป้องอยู่

ในทางกลับกัน โม่เอ๋อกลับรู้สึกกังวลเล็กน้อย นางหยิบยันต์เคลือบหยกมาไว้ในมือเตรียมพร้อมรับทุกสถานการณ์ที่จะเกิดขึ้น นางตั้งใจว่าหากมีผู้เชี่ยวชาญจากฝั่งตรงข้ามไม่ว่าใครบุกเข้ามาขัดจังหวะขั้นตอนการหลอมโอสถของหลิงตู้ฉิง นางจะเปิดใช้งานยันต์เคลือบหยกเพื่อสังหารทันที

“พวกเจ้ามาทำอะไรที่นี่?” หยวนต้าตงมองไปที่ฟางหมิงยู่และคนฝั่งตรงข้ามด้วยสายตาเย็นชา

ฟางหมิงยู่ยิ้มและพูดว่า “แหม่ เจ้าสำนักหยวน ไม่ว่าจะยังไงพวกเรามันก็นับได้ว่าเป็นสหายเต๋า เมื่อพวกข้าเห็นว่าพวกท่านกำลังเผชิญกับทัณฑ์สวรรค์ พวกข้าก็เลยรีบมาดูพวกท่านด้วยความเป็นห่วง”

แม้ว่าพวกเขาจะกล้าบินมาดูสถานการณ์ แต่พวกเขาก็ไม่กล้าเข้าไปในอาณาเขตของอารามนวดารา เนื่องจากพวกเขารู้สึกกังวลกับค่ายกลที่คอยปกป้องสำนักแห่งนี้

หวางหมิงหยวนตะคอกกลับ “ที่นี่ไม่มีอะไรจะให้พวกเจ้าดู ไสหัวกลับไปซะ!”

พวกเขาไม่ต้องการให้คนพวกนี้รับรู้เกี่ยวกับโอสถรัศมีธาตุศักดิ์สิทธิ์

ทันทีที่ทัณฑ์สวรรค์ของโอสถรัศมีธาตุศักดิ์สิทธิ์สิ้นสุดลง หยวนต้าตงก็เปิดใช้งานค่ายกลป้องกันสำนักทันที

เมื่อสัมผัสได้ถึงพลังอำนาจอันแรงกล้าของค่ายกลป้องกันอารามนวดารา สีหน้าของ ฟางหมิงยู่และพวกของเขาก็เปลี่ยนไป ซึ่งพวกเขาก็รีบถอยห่างจากอารามนวดาราทันที

“ทำไมค่ายกลป้องกันของอารามนวดาราถึงได้แข็งแกร่งขนาดนี้?” หลานฟ่างจุนพูดพลางแสดงสีหน้าไม่น่าดู

เมื่อสัมผัสได้ถึงความแข็งแกร่งของค่ายกลระดับนี้ อย่าว่าแต่จะให้พวกเขาเข้าโจมตีเลย แม้แต่จะเข้าไปใกล้พวกเขายังรู้สึกหนาวไปถึงขั้วกระดูก

พูดอีกนัยหนึ่งก็คือตราบใดที่ค่ายกลป้องกันนี้ยังคงอยู่ แผนการและความตั้งใจทั้งหมดของพวกเขาจะต้องดับวูบลง

ฟางหมิงยู่และคนอื่น ๆ ต่างมองไปที่อารามนวดาราด้วยความไม่เต็มใจ ในใจของพวกเขานั้นเต็มไปด้วยความรู้สึกโกรธต่อหลิงตู้ฉิง เนื่องจากหลิงตู้ฉิงเป็นตัวต้นเหตุที่ทำให้แผนการของพวกเขาต้องพังทลาย

ไม่ต้องสงสัยเลยว่าการเปลี่ยนแปลงของอารามนวดารานั้นเกี่ยวข้องกับหลิงตู้ฉิงอย่างแน่นอน

ไม่อย่างนั้นทำไมอารามนวดาราถึงไม่นำค่ายกลป้องกันสำนักที่แข็งแกร่งเช่นนี้ออกมาแสดงให้พวกเขาเห็นตั้งแต่แรก?

ภายในอารามนวดาราเมื่อทัณฑ์สวรรค์จบลง หลิงตู้ฉิงก็บังคับให้ค่ายกลกระบี่เหินเมฆามาตีวงล้อมรอบเตาหลอมโอสถแทน ที่เขาทำเช่นนี้ก็เพราะว่าโอสถระดับเซียนขึ้นไปนั้นมันจะมีวิญญาณเป็นของตัวมันเอง ดังนั้นการที่หลอมมันเสร็จมันก็ไม่ได้หมายความว่าพวกเขาจะสามารถหยิบมันใส่กระเป๋าไปได้อย่างง่าย ๆ

และก็ตามที่คาดไว้ เมื่อเขาฝาของเตาหลอมโอสถเปิดออก เม็ดโอสถทั้งเจ็ดเม็ดก็บินพุ่งออกมาจากเตาทันทีและทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้า

อย่างไรก็ตามความพยายามที่จะทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้าของโอสถทั้งเจ็ดนี้ก็ถูกขัดขวางด้วยค่ายกลกระบี่เหินเมฆา ซึ่งทำให้พวกมันได้แต่บินไปรอบ ๆ ข้างในวงล้อมของค่ายกลกระบี่โดยไม่สามารถไปไหนได้

หลิงตู้ฉิงมองไปที่โอสถรัศมีธาตุศักดิ์สิทธิ์ในค่ายกลกระบี่เหินเมฆา จากนั้นก็หันไปพูดกับหยวนต้าตงและคนอื่น ๆ “โอสถ 7 เม็ด คุณภาพสูง 2 เม็ด หนึ่งเม็ดสำหรับพวกเจ้า โอสถคุณภาพระดับกลาง 2 เม็ด หนึ่งเม็ดสำหรับพวกเจ้า โอสถคุณภาพต่ำ 3 เม็ด ข้าจะให้พวกเจ้า 2 เม็ด! เตรียมตัวรอจับมันให้ดี ข้าจะปล่อยมันออกไปให้พวกเจ้ารับมันไว้”

เมื่อหยวนต้าตงและคนของเขาได้ยินเช่นนี้ พวกเขาก็ตื่นตัวทันทีราวกับว่าพวกเขากำลังเผชิญหน้าอยู่กับศัตรูคู่อาฆาตมาเป็นหมื่นปี พวกเขารู้ดีว่าหากพวกเขาพลาดโอกาสในขั้นตอนสุดท้ายนี้ไปพวกเขาจะต้องเสียใจไปจนวันตาย!

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+