มหาวิบัติสงครามการกลายพันธุ์ (Mutagen) 29 : ล่อฝูงซอมบี้ออกไป

Now you are reading มหาวิบัติสงครามการกลายพันธุ์ (Mutagen) Chapter 29 : ล่อฝูงซอมบี้ออกไป at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 29 : ล่อฝูงซอมบี้ออกไป

 

เวลา 13.02 ห้างสรรพสินค้าบาคัวร์, ด้านทิศตะวันตก, ทางออกฉุกเฉิน

 

มาร์คผู้ซึ่งได้สวมใส่เสื้อเกราะสีดำสุดเท่ที่เขาใช้เวลาสวมใส่มันมากกว่าครึ่งชั่วโมง เขาได้ลงบันไดไปยังบันไดฉุกเฉินด้านล่างอย่างระมัดระวัง เหนือตัวเขาตามมาด้วยแผ่นโลหะที่ถูกผูกกันไว้สองอันห้อยต่องแต่งลงมาโดยถูกยื่นลงมาอย่างระมัดระวังโดยเบอนาร์ดและพวกผู้ชายที่เหลือ

 

อย่างไรก็ตาม ด้วยภาพลักษณ์ของมาร์ค มันทำให้ดูเสมือนภาพฉากหนังที่พระเอกเข้าไปสอดแนมผู้ร้ายโดยวิธีการปีนไต่กำแพง แต่ก็มีสองสิ่งที่ทำภาพลักษณ์นั้นออกไป เชือกที่อยู่บนไหล่ของเขานั้นทำมาจากลวดและเขาก็ได้สะพายกระเป๋า ecobag เล็กๆสีเขียวไว้ข้างๆตัว ซึ่งมีข้อความติดบนกระเป๋าว่าว่า ‘ได้โปรดช่วยโลก’ บนปากกระเป๋านั้นก็มีแท่งไม้หลากหลายสีซึ่งโผล่ออกมาอยู่ท่ามกลางท่อเหล็กที่ถูกพันด้วยเทปพันสายไฟ ถ้าสถานการณ์นี้เป็นหนึ่งในฉากภาพยนตร์ ผู้ชมคงระเบิดเสียงหัวเราะออกมาให้กับฉากหนังคอมมาดี้นี้ แทนที่มันควรจะเป็นหนังแนวสืบสวนสอบสวน

 

ในขณะที่แผ่นโลหะกำลังจะยื่นลงมา มาร์คก็จะคอยช่วยรอรับอยู่ข้างล่างเพื่อที่จะไม่ให้แผ่นโลหะนั้นไปกระทบกับบันไดที่เขาใช้ปีนลงมาและไม่ทำให้เกิดเสียงดังโดยไม่จำเป็น ในตอนแรกมาร์ควางแผนเพียงแค่ว่าจะลงไปที่บันไดและรอจนกว่าแผ่นโลหะจะมาถึงข้างล่าง แต่โชคร้ายไปหน่อยสภาพอากาศนั้นไม่เข้าข้างพวกเขา โดยเวลาที่พวกเขาได้เตรียมตัวพร้อมหมดแล้วนั้น ลมกลับพัดแรงไปมาอย่างไม่สเถียรตลอดเวลา

 

ภายใต้การปฎิบัติการที่ระมัดระวังของพวกเขา ในที่สุดมาร์คก็ได้มาถึงยังบันไดฉุกเฉินพร้อมกับพวกแผ่นโลหะ

 

เขาวางพิงแผ่นโลหะไปที่กำแพงที่อยู่ข้างๆกับประตูฉุกเฉินโดยไม่ก่อให้เกิดเสียงใดๆ และเขาตัดสินใจที่จะมองผ่านหน้าต่างประตูออกไป ในที่สุดเขาเห็นทางเดินข้างใน เขาถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งใจที่ไม่มีซอมบี้อยู่ตามทางเดินนั้น

 

จากนั้นเขาก็ได้จัดการดำเนินการตามแผน

 

เขาจัดการแกะเชือกที่ผูกอยู่กับแผ่นโลหะและส่งสัญญานให้กลุ่มชายที่อยู่ด้านบนดึงเชือกขึ้นไป จากนั้นเขาได้ตั้งแผ่นโลหะสองแผ่นขึ้นและให้พวกกลุ่มชายที่อยู่ด้านบนช่วยดึงปลายแผนโลหะขึ้นให้อยู่ในระดับเอวของมาร์ค

 

มาร์คหยิบคีมออกมาและตัดส่วนของเส้นลวดที่เขานำมา และนำปลายลวดใส่เข้าไปในรูของแผ่นเหล็กและพันลวดไปหลายรอบจนเขามั่นใจว่ามันแน่นหนาแล้วและเขาก็ นำแผ่นโลหะไปติดกับบันไดอย่างแน่นหนา

 

เขาพยายามจะดึงแผ่นโลหะอยู่หลายครั้งเพื่อตรวจสอบว่ามันจะหลวมออกมาได้อย่างง่าย แต่มันก็ยังทำให้เขาไม่พอใจในผลงานของเขา

 

ตอนนี้ ขั้นตอนต่อไปก็คือการล่อพวกฝูงซอมบี้ออกไป

 

มาร์คนำพลุจรวดออกมาจากกระเป๋า ecobag จำนวนหนึ่ง และผูกมันรวมเข้าด้วยกันในมือซ้ายของเขาโดยวิธีที่ให้มันเกิดการจุดประกายไฟเป็นหนึ่งเดียวกัน ในมือขวาของเขาได้บิดกลอนประตูและค่อยๆเปิดออกไป เขานำไฟแช็คที่ยืมจากแคลวินออกมา จากนั้นก็นำไฟแช็คมาจุดพลุเพียงกริ๊งเดียว

 

ไฟที่ออกมาจากไฟแช็คก็ได้เริ่มทำงานเต้นไปตามจังหวะที่ลมพัด ในขณะเดียวกันมาร์คนั้นก็ได้สูดลมหายใจเข้าลึกสุดปอด

 

บู้มมมม!!!!

 

เสียงดังลั่นก้องทันทีทันใดตามทางเดิน ในขณะที่มาร์คนั้นได้ถีบประตูออกไปอย่างแรงพร้อมกับจุดพลุในเวลาเดียว ไม่ต้องรอสิ่งใดๆ มาร์คนั้นก็ได้โยนพุออกไปข้างในทางเดินและวิ่งไปยังบันไดและปีนกลับไปทันที

 

เขาโยนพลุเข้าในข้างในโดยไม่ได้มีเป้าหมายว่าจะโยนไปที่ใด เขาแค่จำเป็นต้องการทำให้มันเกิดเสียงดังเท่าที่จะดึงดูดซอมบี้ข้างในมาได้

 

บู้มม!!

 

แม้ว่าพลุนั้นจะมีขนาดเล็ก แค่เพียงพลุอันเดียวก็ยังสร้างเสียงดังได้มากแล้ว แล้วถ้าหากรวมกันหลายๆอันในเวลาเดียวกันและอยู่ในพื้นที่เล็กๆในทางเดินแบบนี้มันจะต้องเสียงดังขนาดไหนกัน ?

 

เสียงพุได้ดังกึกก้อง แม้ว่ามาร์คจะปีนบันไดขึ้นห่างไปแล้วประมาณสองสามเมตรแต่ก็ยังคงได้ยินเสียงอันดังก้องของพุนั้นอยู่ เขาทำอะไรไม่ได้นอกจากเอาก้มศรีษะเอามือปิดหูไว้เพื่อกันเสียงดังที่รอดออกมาจากประตู ถึงแม้อย่างนั้นเขาก็ยังสวมใส่หมวกนิรภัยและหูฟังของเขาเพื่อกันเสียงไม่ให้หูเขาเกิดความเสียหาย

 

แถมเขายังสังเกตุได้ว่าแม้ซอมบี้ที่อยู่บนลานจอดรถก็ยังได้พยายามหาทางต้นเสียงว่ามาจากที่ไหน

 

พลุที่ถูกโยนออกไปอย่างสุ่มๆนั้น หลายๆอันก็ได้กระเด็นออกมานอกประตูและมีหนึ่งอันที่กระเด็นผ่านหน้ามาร์คไปและกระเด็นออกไป

 

ในที่สุดเสียงพลุก็หยุดดับลงไป

 

“มันไม่ได้ผลงั้นหรอ?”

แน่นอน เขาพูดแบบนั้นออกมาเพราะเป็นการท่องคาถาเพื่อที่จะยืนยันว่ามันได้ผลมากกว่าเดิม เมื่อคนเราได้ท่องคาถาออกมาแล้วว่า “มันได้ผลไหม?” บนความไม่แน่นอนในสถานการณ์ที่สำคัญแบบนี้ก็ต่อเมื่อคนเหล่านั้นทำไม่สำเร็จตามที่ตั้งใจไว้ ถ้าอย่างนั้นทำไมเขาถึงจะไม่ลองพูดในสิ่งที่ตรงกันข้ามล่ะ?

 

ในขณะที่เขากำลังท่องคาถาออกมา เสียงฝีเท้าอันหนักหน่วงและรวดเร็วก็พากันกรูมาจากทางประตู

 

เมื่อได้ยินเสียงเหล่านั้น มาร์คก็ได้เริ่มวิธีต่อไป

 

มาร์ครู้ว่าเสียงพุนั้นที่เกิดขึ้นข้างในมันไม่เพียงพอหรอกแม้ว่ามันจะดังสักแค่ไหน เขายังคงต้องการเอาซอมบี้ออกไปจากประตูเพิ่ม

 

มาร์คยึดแขนซ้ายไว้กับแถบบันไดและใช้แขนขวาของเขาถือท่อโลหะที่เขานำมา ท่อเหล็กที่เขานำออกมานั้นก็ดูแตกต่างออกไป ปลายท่อถูกหุ้มด้วยเทปพันสายไฟซึ่งเป็นด้านที่มาร์คนั้นได้จับไว้ ส่วนด้านที่เหลือนั้นถูกหุ้มด้วยพลุจรวดอย่างหลวมๆและมีเทปพันเอาไว้ เทปที่พันไว้หลวมพอที่จะให้พลุปลิวระเบิดออกไปทันทีเมื่อได้จุดชนวนไฟ

 

มาร์คชี้ไปที่พลุจรวดที่หุ้มไว้กับท่อที่ติดอยู่กับประตูและเริ่มจุดชนวนไฟ พลุจรวดได้ระเบิดออกผ่านประตูไปทีละอัน บางชิ้นปลิวกระเด็นออกไปผ่านบนพื้นชั้นบันได ในขณะที่ก็มีชิ้นสองชิ้นก็ได้กระเด็นออกไปที่อื่น มาร์คไม่ได้ตั้งใจให้มันออกมาเป็นแบบนั้นแต่ผลงานที่ออกมาก็เป็นค่อนข้างที่พอใจสำหรับเขา แม้ว่าเขาไม่สามารถทำให้พลุกระเด็นเข้าไปข้างในประตูตามที่ตั้งใจไว้

 

เสียงคำรามได้ดังขึ้นและดังขึ้นเรื่อยๆเป็นไปตามระเบียบ

 

เสียงพลุระเบิดได้ดังออกไปข้างนอก พวกฝูงซอมบี้ก็พากันตามเสียงออกไป มาร์คแค่ต้องจัดการจุดชนวนโยนพลุอันสุดท้ายออกไป

 

***

 

ซอมบี้มองขึ้นไปตามเสียงผิวปากของมาร์ค พลุจรวดอันสุดท้ายก็ปลิวผ่านหน้าพวกมันไป แต่พวกมันก็ไม่ได้เคบื่อนไหวไปไหนและยังคงมองไปที่มาร์คที่เกาะบันไดอยู่ด้านบน

 

พวกมันได้เห็นคนตัวเป็นๆซึ่งคือมาร์คที่อยู่ด้านบนกำลังโบกมือขวาเป็นการทักทาย จากนั้นมาร์คก็เริ่มใช้ท่อโลหะตีกับบันได สร้างเสียงดังสนั่น

 

***

 

มาร์คยังคงใช้ท่อโลหะตีกับบันไดและตะโกนออกไปเป็นครั้งคราวจนกระทั่งพวกฝูงซอมบี้ออกมาจากประตูมากขึ้นเรื่อยๆ

 

ซอมบี้ตัวแรกนั้นเริ่มคำรามอย่างรุนแรวมากขึ้น มันวิ่งขึ้นมาบนแผ่นโลหะที่อยู่ด้านล่างซึ่งได้ตั้งเอียงๆเอาไว้ และมันพยายามที่จะยกแขนคว้าตัวมาร์ค แน่นอน มันก็เป็นเพียงแค่สิ่งนึกคิดที่พวกมันได้ปราถนาไว้ แต่ไม่ใช่ว่าพวกมันจะสามารถทำได้ เพราะมาร์คก็อยู่เหนือกว่าพวกมันหลายเมตร

 

ดูเหมือนว่าเสียงคำรามอันก้าวร้าวของพวกมันนั้นดึงดูดมากกว่าเสียงพลุและเสียงที่มาร์คได้ทำ และนั่นก็ทำให้ซอมบี้ที่อยู่ข้างในต่างพาวิ่งกันออกมาตามทางของต้นเสียง หลังจากนั้นฝูงซอมบี้อันก้าวร้าวก็ท่วมท้นเต็มชั้นบันไดบนสุด บางตัวก็ได้ผลักกันตกลงมาที่ชั้นบันไดข้างล่าง

 

จำนวนของพวกซอมบี้นั้นก็ได้เพิ่มขึ้นและพวกมันก็พยายามเอื้อมจับคว้าตัวมาร์ค และ…

 

ซอมบี้ต่างผลักกันไปมาและสิ่งที่มาร์คนั้นคาดคิดก็เกิดขึ้น เมื่อฝูงซอมบี้ต่างหลั่งไหลกันออกมานอกประตู ฝูงซอมบี้ที่อยู่ข้างนอกประตูก็เริ่มที่จะดันแผ่นโลหะที่เอียงอยู่ พวกมันตกลงไปยังพื้นซีเมนต์ที่อยู่ด้านล่างทีละตัวๆซึ่งมีความสูงเท่ากับตึกสามชั้นเป็นความสูงยาวประมาณสิบเมตร

 

มาร์คยังคงเกาะอยู่กับบันได แต่เขาก็ได้หยุดเคาะท่อเหล็กกับบันไดไปแล้ว เสียงคำรามดังกระหน่ำของพวกซอมบี้นั้นสามารถพอที่จะทำให้หูหนวกได้เลย!

 

ในขณะที่มาร์คนั้นสามารถป้องกันตัวเองได้อย่างปลอดภัยดี เขาตัดสินใจที่จะใช้โอกาสล้ำค่านี้ที่จะสังเกตุดูฝูงซอมบี้อย่างใกล้ชิดมากขึ้น

 

เผละ! เผละ!

 

มาร์คมองลงไปยังชั้นล่างที่ซึ่งพวกเหล่าซอมบี้นั้นได้ตกลงไป เขาเห็นได้อย่างชัดเจนว่าฝูงซอมบี้เหล่านั้นบางตัวก็ได้พิการ ร่างกายไม่สามารถเคลื่อนไหวได้ และบางตัวก็ได้สิ้นชีพไป ด้วยความสูงเท่านี้มนุษย์ธรรมดาทั่วไปก็สามารถมีชีวิตรอดได้แม้ว่าอาจจะได้รับบาดเจ็บสาหัสก็ตาม เขาไม่ได้คาดคิดเลยว่าเหล่าซอมบี้ที่ล่วงลงไปชั้นล่างนั้นจะตกลงไปตายได้

 

จากการเฝ้ามองของเขาซอมบี้ก็ได้ล่วงหล่นลงไปอีกตัว หลังของมันและพื้นคอนกรีตด้านล่างได้กระทบกันอย่างหอมหวาน มันหอมหวานพอที่จะทำให้กระดูกสันหลังของมันแหลกสลายเป็นชิ้นๆ พวกมันก็ได้นอนเลือดท่วมพื้นอยู่อย่างนั้น

 

ซอมบี้ก็ได้ตกลงไปมากขึ้นเรื่อยๆและมาร์คสามารถเห็นได้ว่าซอมบี้ที่ได้ล่วงลงไปทีหลังนั้นได้รับบาดเจ็บที่น้อยกว่า มาร์คเข้าใจได้ว่าเป็นเพราะมันตกลงไปกระแทกกับร่างกายของพวกมันเองที่นอนนิ่งตายอยู่ด้านล่าง

 

มาร์คเริ่มตัวชาและรู้สึกเบื่อ ซอมบี้ข้างในจะมีเหลืออยู่เท่าไหร่กันนะ? เมื่อนับซอมบี้ที่ตกลงไปด้านล่างและซอมบี้ที่ยังอัดแน่นกันอยู่ที่ชั้นบันไดก็มีประมาณห้าสิบตัวได้แล้ว และพวกมันก็ยังคงท่วมท้นกันอยู่อย่างนั้น

 

ห้านาทีผ่านไป…

 

แขนของเขาก็เริ่มชาขึ้นจากการต้องเกาะราวบันได ดังนั้นเขาจึงตะโกนหากลุ่มชายที่ด้านบนให้หย่อนเชือกลงมาต่ำหน่อย หลังจากที่เขาได้เชือก เขาผูกเชือกไว้กับเอวและนำไปผูกกับบันไดอีกที หลังจากนั้นต่อมาเขาก็ได้นำโทรศัพท์ออกมาเพื่อถ่ายรูปของพวกฝูงซอมบี้เพื่อเก็บเป็นหลักฐานพิจารณา

 

เขาก็เริ่มที่จะนับจำนวนซอมบี้ที่โผล่ออกมาไม่ได้แต่เขาคิดว่าจำนวนนั้นยังมีไม่ถึงหนึ่งร้อยตัว พวกซอมบี้เริ่มหยุดไหลทะลักกันออกมาจากประตูและเหลือแค่ซอมบี้เพียงตัวเดียวที่ยังพยายามที่จะเอื้อมคว้าตัวมาร์ค

 

มาร์คคิดว่าจำนวนนั้นมันเยอะเกินไปหากเปรียบเทียบกับจำนวนผู้คนที่ได้เข้าไปยังโซนสินค้าไอที ดังนั้นเขาจึงได้แน่ใจแล้วว่าฝูงซอมบี้เหล่านั้นก็ได้มีมาจากโซนอื่นๆด้วย สถานที่บางแห่งอาจจะเกิดเรื่องที่เลวร้ายขึ้นหรือแย่กว่านั้น บางทีพวกคนโง่ในโซนสินค้าไอทีได้เปิดประตูเหล็กในขณะที่พวกเขากำลังพยายามที่จะหลบหนี นั่นแหละ มันไม่สำคัญว่าอะไรคือสาเหตุ พวกเขานั้นต้องจัดการกับปัญนั้นทีหลัง

 

มาร์คมองลงไป ด้านล่างของเขามีซอมบี้อยู่แปดตัวที่ยังคงเหลืออยู่ได้ยกแขนอ้ากรงเล็บไม่ยอมแพ้ต่อการเอื้อมคว้าเป้าหมายของมัน

 

‘เหลือแค่นี้ก็คงไม่เป็นไรแล้วมั้ง ?’

 

มาร์คส่งสัญญานให้เบอนาร์ดผู้ซึ่งมองดูอยู่ด้านบนอีกทีเพื่อที่จะหย่อนเชือกที่ได้เตรียมมาก่อนหน้านี้ให้มาร์ค

 

มาร์คจับเชือกที่ถูกหย่อนลงมา ปลายเชือกที่เขานั้นได้ถูกผูกเป็นวงกลมขนาดใหญ่คล้ายกับเวลาที่พวกหนุ่มคาวบอยทำ

 

เขาโยนเชือกที่ถูกผูกเป็นวงกลมลงไปด้านล่างผ่านพวกฝูงซอมบี้หลายๆครั้ง จนกระทั่งเขาได้จัดการจับพวกเหล่าฝูงซอมบี้ให้อยู่ในห่วงเชือกขนาดใหญ่ได้ จากนั้นเขาก็ได้ตะโกน

 

“โอเค! ปล่อยมันได้!”

 

ทันทีทันใดหลังจากนั้น เครื่องปรับอากาศที่มีน้ำหนักมากได้ถูกลากออกไปจากกำแพงที่อยู่ไม่ไกลจากตัวมาร์ค มีเชือกมะนิลาหนาผูกติดอยู่กับเครื่องและปลายอีกด้านของเชือกนั้น…

 

ปลายอีกด้านของเชือกนั้นมันได้เป็นห่วงมัดฝูงซอมบี้ที่อยู่ด้านล่างของมาร์คเอาไว้

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

มหาวิบัติสงครามการกลายพันธุ์ (Mutagen) 29 : ล่อฝูงซอมบี้ออกไป

Now you are reading มหาวิบัติสงครามการกลายพันธุ์ (Mutagen) Chapter 29 : ล่อฝูงซอมบี้ออกไป at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 29 : ล่อฝูงซอมบี้ออกไป

 

เวลา 13.02 ห้างสรรพสินค้าบาคัวร์, ด้านทิศตะวันตก, ทางออกฉุกเฉิน

 

มาร์คผู้ซึ่งได้สวมใส่เสื้อเกราะสีดำสุดเท่ที่เขาใช้เวลาสวมใส่มันมากกว่าครึ่งชั่วโมง เขาได้ลงบันไดไปยังบันไดฉุกเฉินด้านล่างอย่างระมัดระวัง เหนือตัวเขาตามมาด้วยแผ่นโลหะที่ถูกผูกกันไว้สองอันห้อยต่องแต่งลงมาโดยถูกยื่นลงมาอย่างระมัดระวังโดยเบอนาร์ดและพวกผู้ชายที่เหลือ

 

อย่างไรก็ตาม ด้วยภาพลักษณ์ของมาร์ค มันทำให้ดูเสมือนภาพฉากหนังที่พระเอกเข้าไปสอดแนมผู้ร้ายโดยวิธีการปีนไต่กำแพง แต่ก็มีสองสิ่งที่ทำภาพลักษณ์นั้นออกไป เชือกที่อยู่บนไหล่ของเขานั้นทำมาจากลวดและเขาก็ได้สะพายกระเป๋า ecobag เล็กๆสีเขียวไว้ข้างๆตัว ซึ่งมีข้อความติดบนกระเป๋าว่าว่า ‘ได้โปรดช่วยโลก’ บนปากกระเป๋านั้นก็มีแท่งไม้หลากหลายสีซึ่งโผล่ออกมาอยู่ท่ามกลางท่อเหล็กที่ถูกพันด้วยเทปพันสายไฟ ถ้าสถานการณ์นี้เป็นหนึ่งในฉากภาพยนตร์ ผู้ชมคงระเบิดเสียงหัวเราะออกมาให้กับฉากหนังคอมมาดี้นี้ แทนที่มันควรจะเป็นหนังแนวสืบสวนสอบสวน

 

ในขณะที่แผ่นโลหะกำลังจะยื่นลงมา มาร์คก็จะคอยช่วยรอรับอยู่ข้างล่างเพื่อที่จะไม่ให้แผ่นโลหะนั้นไปกระทบกับบันไดที่เขาใช้ปีนลงมาและไม่ทำให้เกิดเสียงดังโดยไม่จำเป็น ในตอนแรกมาร์ควางแผนเพียงแค่ว่าจะลงไปที่บันไดและรอจนกว่าแผ่นโลหะจะมาถึงข้างล่าง แต่โชคร้ายไปหน่อยสภาพอากาศนั้นไม่เข้าข้างพวกเขา โดยเวลาที่พวกเขาได้เตรียมตัวพร้อมหมดแล้วนั้น ลมกลับพัดแรงไปมาอย่างไม่สเถียรตลอดเวลา

 

ภายใต้การปฎิบัติการที่ระมัดระวังของพวกเขา ในที่สุดมาร์คก็ได้มาถึงยังบันไดฉุกเฉินพร้อมกับพวกแผ่นโลหะ

 

เขาวางพิงแผ่นโลหะไปที่กำแพงที่อยู่ข้างๆกับประตูฉุกเฉินโดยไม่ก่อให้เกิดเสียงใดๆ และเขาตัดสินใจที่จะมองผ่านหน้าต่างประตูออกไป ในที่สุดเขาเห็นทางเดินข้างใน เขาถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งใจที่ไม่มีซอมบี้อยู่ตามทางเดินนั้น

 

จากนั้นเขาก็ได้จัดการดำเนินการตามแผน

 

เขาจัดการแกะเชือกที่ผูกอยู่กับแผ่นโลหะและส่งสัญญานให้กลุ่มชายที่อยู่ด้านบนดึงเชือกขึ้นไป จากนั้นเขาได้ตั้งแผ่นโลหะสองแผ่นขึ้นและให้พวกกลุ่มชายที่อยู่ด้านบนช่วยดึงปลายแผนโลหะขึ้นให้อยู่ในระดับเอวของมาร์ค

 

มาร์คหยิบคีมออกมาและตัดส่วนของเส้นลวดที่เขานำมา และนำปลายลวดใส่เข้าไปในรูของแผ่นเหล็กและพันลวดไปหลายรอบจนเขามั่นใจว่ามันแน่นหนาแล้วและเขาก็ นำแผ่นโลหะไปติดกับบันไดอย่างแน่นหนา

 

เขาพยายามจะดึงแผ่นโลหะอยู่หลายครั้งเพื่อตรวจสอบว่ามันจะหลวมออกมาได้อย่างง่าย แต่มันก็ยังทำให้เขาไม่พอใจในผลงานของเขา

 

ตอนนี้ ขั้นตอนต่อไปก็คือการล่อพวกฝูงซอมบี้ออกไป

 

มาร์คนำพลุจรวดออกมาจากกระเป๋า ecobag จำนวนหนึ่ง และผูกมันรวมเข้าด้วยกันในมือซ้ายของเขาโดยวิธีที่ให้มันเกิดการจุดประกายไฟเป็นหนึ่งเดียวกัน ในมือขวาของเขาได้บิดกลอนประตูและค่อยๆเปิดออกไป เขานำไฟแช็คที่ยืมจากแคลวินออกมา จากนั้นก็นำไฟแช็คมาจุดพลุเพียงกริ๊งเดียว

 

ไฟที่ออกมาจากไฟแช็คก็ได้เริ่มทำงานเต้นไปตามจังหวะที่ลมพัด ในขณะเดียวกันมาร์คนั้นก็ได้สูดลมหายใจเข้าลึกสุดปอด

 

บู้มมมม!!!!

 

เสียงดังลั่นก้องทันทีทันใดตามทางเดิน ในขณะที่มาร์คนั้นได้ถีบประตูออกไปอย่างแรงพร้อมกับจุดพลุในเวลาเดียว ไม่ต้องรอสิ่งใดๆ มาร์คนั้นก็ได้โยนพุออกไปข้างในทางเดินและวิ่งไปยังบันไดและปีนกลับไปทันที

 

เขาโยนพลุเข้าในข้างในโดยไม่ได้มีเป้าหมายว่าจะโยนไปที่ใด เขาแค่จำเป็นต้องการทำให้มันเกิดเสียงดังเท่าที่จะดึงดูดซอมบี้ข้างในมาได้

 

บู้มม!!

 

แม้ว่าพลุนั้นจะมีขนาดเล็ก แค่เพียงพลุอันเดียวก็ยังสร้างเสียงดังได้มากแล้ว แล้วถ้าหากรวมกันหลายๆอันในเวลาเดียวกันและอยู่ในพื้นที่เล็กๆในทางเดินแบบนี้มันจะต้องเสียงดังขนาดไหนกัน ?

 

เสียงพุได้ดังกึกก้อง แม้ว่ามาร์คจะปีนบันไดขึ้นห่างไปแล้วประมาณสองสามเมตรแต่ก็ยังคงได้ยินเสียงอันดังก้องของพุนั้นอยู่ เขาทำอะไรไม่ได้นอกจากเอาก้มศรีษะเอามือปิดหูไว้เพื่อกันเสียงดังที่รอดออกมาจากประตู ถึงแม้อย่างนั้นเขาก็ยังสวมใส่หมวกนิรภัยและหูฟังของเขาเพื่อกันเสียงไม่ให้หูเขาเกิดความเสียหาย

 

แถมเขายังสังเกตุได้ว่าแม้ซอมบี้ที่อยู่บนลานจอดรถก็ยังได้พยายามหาทางต้นเสียงว่ามาจากที่ไหน

 

พลุที่ถูกโยนออกไปอย่างสุ่มๆนั้น หลายๆอันก็ได้กระเด็นออกมานอกประตูและมีหนึ่งอันที่กระเด็นผ่านหน้ามาร์คไปและกระเด็นออกไป

 

ในที่สุดเสียงพลุก็หยุดดับลงไป

 

“มันไม่ได้ผลงั้นหรอ?”

แน่นอน เขาพูดแบบนั้นออกมาเพราะเป็นการท่องคาถาเพื่อที่จะยืนยันว่ามันได้ผลมากกว่าเดิม เมื่อคนเราได้ท่องคาถาออกมาแล้วว่า “มันได้ผลไหม?” บนความไม่แน่นอนในสถานการณ์ที่สำคัญแบบนี้ก็ต่อเมื่อคนเหล่านั้นทำไม่สำเร็จตามที่ตั้งใจไว้ ถ้าอย่างนั้นทำไมเขาถึงจะไม่ลองพูดในสิ่งที่ตรงกันข้ามล่ะ?

 

ในขณะที่เขากำลังท่องคาถาออกมา เสียงฝีเท้าอันหนักหน่วงและรวดเร็วก็พากันกรูมาจากทางประตู

 

เมื่อได้ยินเสียงเหล่านั้น มาร์คก็ได้เริ่มวิธีต่อไป

 

มาร์ครู้ว่าเสียงพุนั้นที่เกิดขึ้นข้างในมันไม่เพียงพอหรอกแม้ว่ามันจะดังสักแค่ไหน เขายังคงต้องการเอาซอมบี้ออกไปจากประตูเพิ่ม

 

มาร์คยึดแขนซ้ายไว้กับแถบบันไดและใช้แขนขวาของเขาถือท่อโลหะที่เขานำมา ท่อเหล็กที่เขานำออกมานั้นก็ดูแตกต่างออกไป ปลายท่อถูกหุ้มด้วยเทปพันสายไฟซึ่งเป็นด้านที่มาร์คนั้นได้จับไว้ ส่วนด้านที่เหลือนั้นถูกหุ้มด้วยพลุจรวดอย่างหลวมๆและมีเทปพันเอาไว้ เทปที่พันไว้หลวมพอที่จะให้พลุปลิวระเบิดออกไปทันทีเมื่อได้จุดชนวนไฟ

 

มาร์คชี้ไปที่พลุจรวดที่หุ้มไว้กับท่อที่ติดอยู่กับประตูและเริ่มจุดชนวนไฟ พลุจรวดได้ระเบิดออกผ่านประตูไปทีละอัน บางชิ้นปลิวกระเด็นออกไปผ่านบนพื้นชั้นบันได ในขณะที่ก็มีชิ้นสองชิ้นก็ได้กระเด็นออกไปที่อื่น มาร์คไม่ได้ตั้งใจให้มันออกมาเป็นแบบนั้นแต่ผลงานที่ออกมาก็เป็นค่อนข้างที่พอใจสำหรับเขา แม้ว่าเขาไม่สามารถทำให้พลุกระเด็นเข้าไปข้างในประตูตามที่ตั้งใจไว้

 

เสียงคำรามได้ดังขึ้นและดังขึ้นเรื่อยๆเป็นไปตามระเบียบ

 

เสียงพลุระเบิดได้ดังออกไปข้างนอก พวกฝูงซอมบี้ก็พากันตามเสียงออกไป มาร์คแค่ต้องจัดการจุดชนวนโยนพลุอันสุดท้ายออกไป

 

***

 

ซอมบี้มองขึ้นไปตามเสียงผิวปากของมาร์ค พลุจรวดอันสุดท้ายก็ปลิวผ่านหน้าพวกมันไป แต่พวกมันก็ไม่ได้เคบื่อนไหวไปไหนและยังคงมองไปที่มาร์คที่เกาะบันไดอยู่ด้านบน

 

พวกมันได้เห็นคนตัวเป็นๆซึ่งคือมาร์คที่อยู่ด้านบนกำลังโบกมือขวาเป็นการทักทาย จากนั้นมาร์คก็เริ่มใช้ท่อโลหะตีกับบันได สร้างเสียงดังสนั่น

 

***

 

มาร์คยังคงใช้ท่อโลหะตีกับบันไดและตะโกนออกไปเป็นครั้งคราวจนกระทั่งพวกฝูงซอมบี้ออกมาจากประตูมากขึ้นเรื่อยๆ

 

ซอมบี้ตัวแรกนั้นเริ่มคำรามอย่างรุนแรวมากขึ้น มันวิ่งขึ้นมาบนแผ่นโลหะที่อยู่ด้านล่างซึ่งได้ตั้งเอียงๆเอาไว้ และมันพยายามที่จะยกแขนคว้าตัวมาร์ค แน่นอน มันก็เป็นเพียงแค่สิ่งนึกคิดที่พวกมันได้ปราถนาไว้ แต่ไม่ใช่ว่าพวกมันจะสามารถทำได้ เพราะมาร์คก็อยู่เหนือกว่าพวกมันหลายเมตร

 

ดูเหมือนว่าเสียงคำรามอันก้าวร้าวของพวกมันนั้นดึงดูดมากกว่าเสียงพลุและเสียงที่มาร์คได้ทำ และนั่นก็ทำให้ซอมบี้ที่อยู่ข้างในต่างพาวิ่งกันออกมาตามทางของต้นเสียง หลังจากนั้นฝูงซอมบี้อันก้าวร้าวก็ท่วมท้นเต็มชั้นบันไดบนสุด บางตัวก็ได้ผลักกันตกลงมาที่ชั้นบันไดข้างล่าง

 

จำนวนของพวกซอมบี้นั้นก็ได้เพิ่มขึ้นและพวกมันก็พยายามเอื้อมจับคว้าตัวมาร์ค และ…

 

ซอมบี้ต่างผลักกันไปมาและสิ่งที่มาร์คนั้นคาดคิดก็เกิดขึ้น เมื่อฝูงซอมบี้ต่างหลั่งไหลกันออกมานอกประตู ฝูงซอมบี้ที่อยู่ข้างนอกประตูก็เริ่มที่จะดันแผ่นโลหะที่เอียงอยู่ พวกมันตกลงไปยังพื้นซีเมนต์ที่อยู่ด้านล่างทีละตัวๆซึ่งมีความสูงเท่ากับตึกสามชั้นเป็นความสูงยาวประมาณสิบเมตร

 

มาร์คยังคงเกาะอยู่กับบันได แต่เขาก็ได้หยุดเคาะท่อเหล็กกับบันไดไปแล้ว เสียงคำรามดังกระหน่ำของพวกซอมบี้นั้นสามารถพอที่จะทำให้หูหนวกได้เลย!

 

ในขณะที่มาร์คนั้นสามารถป้องกันตัวเองได้อย่างปลอดภัยดี เขาตัดสินใจที่จะใช้โอกาสล้ำค่านี้ที่จะสังเกตุดูฝูงซอมบี้อย่างใกล้ชิดมากขึ้น

 

เผละ! เผละ!

 

มาร์คมองลงไปยังชั้นล่างที่ซึ่งพวกเหล่าซอมบี้นั้นได้ตกลงไป เขาเห็นได้อย่างชัดเจนว่าฝูงซอมบี้เหล่านั้นบางตัวก็ได้พิการ ร่างกายไม่สามารถเคลื่อนไหวได้ และบางตัวก็ได้สิ้นชีพไป ด้วยความสูงเท่านี้มนุษย์ธรรมดาทั่วไปก็สามารถมีชีวิตรอดได้แม้ว่าอาจจะได้รับบาดเจ็บสาหัสก็ตาม เขาไม่ได้คาดคิดเลยว่าเหล่าซอมบี้ที่ล่วงลงไปชั้นล่างนั้นจะตกลงไปตายได้

 

จากการเฝ้ามองของเขาซอมบี้ก็ได้ล่วงหล่นลงไปอีกตัว หลังของมันและพื้นคอนกรีตด้านล่างได้กระทบกันอย่างหอมหวาน มันหอมหวานพอที่จะทำให้กระดูกสันหลังของมันแหลกสลายเป็นชิ้นๆ พวกมันก็ได้นอนเลือดท่วมพื้นอยู่อย่างนั้น

 

ซอมบี้ก็ได้ตกลงไปมากขึ้นเรื่อยๆและมาร์คสามารถเห็นได้ว่าซอมบี้ที่ได้ล่วงลงไปทีหลังนั้นได้รับบาดเจ็บที่น้อยกว่า มาร์คเข้าใจได้ว่าเป็นเพราะมันตกลงไปกระแทกกับร่างกายของพวกมันเองที่นอนนิ่งตายอยู่ด้านล่าง

 

มาร์คเริ่มตัวชาและรู้สึกเบื่อ ซอมบี้ข้างในจะมีเหลืออยู่เท่าไหร่กันนะ? เมื่อนับซอมบี้ที่ตกลงไปด้านล่างและซอมบี้ที่ยังอัดแน่นกันอยู่ที่ชั้นบันไดก็มีประมาณห้าสิบตัวได้แล้ว และพวกมันก็ยังคงท่วมท้นกันอยู่อย่างนั้น

 

ห้านาทีผ่านไป…

 

แขนของเขาก็เริ่มชาขึ้นจากการต้องเกาะราวบันได ดังนั้นเขาจึงตะโกนหากลุ่มชายที่ด้านบนให้หย่อนเชือกลงมาต่ำหน่อย หลังจากที่เขาได้เชือก เขาผูกเชือกไว้กับเอวและนำไปผูกกับบันไดอีกที หลังจากนั้นต่อมาเขาก็ได้นำโทรศัพท์ออกมาเพื่อถ่ายรูปของพวกฝูงซอมบี้เพื่อเก็บเป็นหลักฐานพิจารณา

 

เขาก็เริ่มที่จะนับจำนวนซอมบี้ที่โผล่ออกมาไม่ได้แต่เขาคิดว่าจำนวนนั้นยังมีไม่ถึงหนึ่งร้อยตัว พวกซอมบี้เริ่มหยุดไหลทะลักกันออกมาจากประตูและเหลือแค่ซอมบี้เพียงตัวเดียวที่ยังพยายามที่จะเอื้อมคว้าตัวมาร์ค

 

มาร์คคิดว่าจำนวนนั้นมันเยอะเกินไปหากเปรียบเทียบกับจำนวนผู้คนที่ได้เข้าไปยังโซนสินค้าไอที ดังนั้นเขาจึงได้แน่ใจแล้วว่าฝูงซอมบี้เหล่านั้นก็ได้มีมาจากโซนอื่นๆด้วย สถานที่บางแห่งอาจจะเกิดเรื่องที่เลวร้ายขึ้นหรือแย่กว่านั้น บางทีพวกคนโง่ในโซนสินค้าไอทีได้เปิดประตูเหล็กในขณะที่พวกเขากำลังพยายามที่จะหลบหนี นั่นแหละ มันไม่สำคัญว่าอะไรคือสาเหตุ พวกเขานั้นต้องจัดการกับปัญนั้นทีหลัง

 

มาร์คมองลงไป ด้านล่างของเขามีซอมบี้อยู่แปดตัวที่ยังคงเหลืออยู่ได้ยกแขนอ้ากรงเล็บไม่ยอมแพ้ต่อการเอื้อมคว้าเป้าหมายของมัน

 

‘เหลือแค่นี้ก็คงไม่เป็นไรแล้วมั้ง ?’

 

มาร์คส่งสัญญานให้เบอนาร์ดผู้ซึ่งมองดูอยู่ด้านบนอีกทีเพื่อที่จะหย่อนเชือกที่ได้เตรียมมาก่อนหน้านี้ให้มาร์ค

 

มาร์คจับเชือกที่ถูกหย่อนลงมา ปลายเชือกที่เขานั้นได้ถูกผูกเป็นวงกลมขนาดใหญ่คล้ายกับเวลาที่พวกหนุ่มคาวบอยทำ

 

เขาโยนเชือกที่ถูกผูกเป็นวงกลมลงไปด้านล่างผ่านพวกฝูงซอมบี้หลายๆครั้ง จนกระทั่งเขาได้จัดการจับพวกเหล่าฝูงซอมบี้ให้อยู่ในห่วงเชือกขนาดใหญ่ได้ จากนั้นเขาก็ได้ตะโกน

 

“โอเค! ปล่อยมันได้!”

 

ทันทีทันใดหลังจากนั้น เครื่องปรับอากาศที่มีน้ำหนักมากได้ถูกลากออกไปจากกำแพงที่อยู่ไม่ไกลจากตัวมาร์ค มีเชือกมะนิลาหนาผูกติดอยู่กับเครื่องและปลายอีกด้านของเชือกนั้น…

 

ปลายอีกด้านของเชือกนั้นมันได้เป็นห่วงมัดฝูงซอมบี้ที่อยู่ด้านล่างของมาร์คเอาไว้

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+