มหาวิบัติสงครามการกลายพันธุ์ (Mutagen) 38 : เปลี่ยนเสื้อผ้า

Now you are reading มหาวิบัติสงครามการกลายพันธุ์ (Mutagen) Chapter 38 : เปลี่ยนเสื้อผ้า at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 38 : เปลี่ยนเสื้อผ้า

 

มาร์คยืนอยู่ตรงนั้นมาสักพักค้นหาอินเตอร์เน็ตด้วยโทรศัพท์ของเขา แต่ wi-fi ของห้างก็ช้าเหลือเกิน เขาเสียเวลาส่วนใหญ่ไปกับการรอโหลดอินเตอร์เน็ต แต่อย่างไรก็ตามเขาก็ยังเจอข้อมูลที่ดีเล็กๆน้อยๆเกี่ยวกับการระบาดของเชื้อไวรัส

 

ในขณะที่เขาเบื่อหน่ายกับการต้องมารอการดาวโหลดของอินเตอร์เน็ต และเหล่าผู้หญิงก็ยังเลือกชุดไม่เสร็จ เขาจึงตัดสินใจเข้าไปในร้านขายรองเท้าที่เขาได้เข้าไปมาก่อนหน้านี้ เขาได้ค้นทุกซอกทุกมุมเพื่อที่จะหารองเท้าในชั้นเก็บของและเขาก็ไม่ผิดหวัง

 

เมื่อมองดูไปรอบๆและเปิดกล่องรองเท้าต่อหลายกล่อง เขาก็เจอกล่องรองเท้าที่เป็นชนิดที่เขาตามหาซึ่งคือรองเท้าบูททหาร เขาเจออยู่คู่หนึ่งและเป็นไซส์ที่พอดีกับเขา ทันใดนั้นเขาก็ได้เปลี่ยนใส่รองเท้าเป็นรองเท้าบูทและเก็บรองเท้าคอนเวิร์ส Chuck Taylor ลงไปในกล่องแทนรองเท้าบูท ในชั้นร้องเท้ามีแบบและวัสดุที่แตกต่างกันของรองเท้าบู๊ท แต่คู่ที่มาร์คเลือกมานั้นเป็นรองเท้าบูททหารหนังสังเคราะห์ที่มีเชือกรัด เขาเลือกคู่นี้มาเพราะว่ามันสวมใส่ง่ายและง่ายต่อการทําความสะอา

 

จากนั้นเขาก็เจอคู่เล็กอีกคู่หนึ่ง เมื่อตอนนั้นเองก็มีคนเข้ามาหาเขาพอดี แต่เขาก็ไม่ได้ยกมือขึ้นมาป้องกันตัวแต่อย่างใด เพราะรู้อยู่แล้วว่าคือใคร

 

เมื่อมาร์คหันไป เขาเจอเหมยซึ่งยืนอยู่ตรงประตูและนักเรียนสาวอีกสองคนที่อยู่ข้างหลังเธอซึ่งก็ได้กําลังสวมรอยยิ้มอันขมขึ้นด้วยเหตุผลบางอย่าง

 

เมื่อมองไปที่เหมย เขาสามารถรู้สึกได้อยู่สองอย่างคือความประหลาดใจและความเศร้าโศกเสียใจ ตอนนี้เหมยได้สวมใส่เสื้อสู้ดสีเทาแขนยาวแล้วทับด้วยเสื้อกักยีนที่มีช่องกระเปาอยู่บนเสื้อหลายๆช่อง และเธอได้สวมถุงเท้ายาวสีดําเหนือขึ้นมา เกือบถึงเข่า เท้าของเธอก็ได้สวมรองเท้าแตะรัดส้น แถมยังมีพลาสเตอร์เจลที่ติดอยู่บนแก้มของเธอ เขาประหลาดใจที่ลุคนี้เหมาะกับเธอมาก และเขาเศร้าใจเพราะว่าเธอเป็นผู้หญิงที่สวยที่สุดที่ต้องเจอกับเรื่องราวเลวร้ายและทุกข์ทรมานในหายนะ

ครั้งนี้

 

ผู้หญิงที่งดงามก็คือผู้หญิงที่งดงามอยู่วันยังค่ําไม่ว่าเธอจะสวมใส่อะไร

 

นักเรียนหญิงสองคนนั้นก็ได้เปลี่ยนชุดของตัวเองจากเครื่องแบบชุดที่เปอะเปื้อนเต็มไปด้วยเลือด พอลลาได้สวมใส่เสื้อแจ็คเก็ตยีนแขนยาวพร้อมกับเสื้อสู้ดสีแดงและกระโปรงยีน ดูเข้ากันกับเสื้อฮูดสีแดงของเธอ เธอได้สวมกางเกงเลกกิ้งที่อยู่ภายใต้กระโปรงของเธอและถุงเท้าสีดํา

ในขณะที่แองเจนั้นสวมเสื้อแจ็คเก็ตสีเทาทับเสื้อกล้ามสีดํา ที่เธอสวมอยู่และใส่กางเกงคาร์โกสีเขียวเข้ม ทั้งพอลลาและแองเจดูดีมากบนเสื้อผ้าชิ้นใหม่ของพวกเธอ แต่สิ่งเดียวที่ไม่เข้ากันเลยก็คือพวกเธอยังสวมใส่รองเท้านักเรียนอยู่

 

มาร์คว่าน่าจะพอมีรองเท้าที่ดูทันสมัยของผู้หญิงในร้านขายรองเท้าอยู่บ้าง ดังนั้นเขาจึงขอให้พวกเธอสามคนเข้ามาดูในร้าน จากนั้นเขาก็ได้ให้รองเท้าบูททหารที่เขาเจอกับเหมยและช่วยเธอสวมมัน แองเจและพอลลาก็ได้ค้นหารองเท้าที่อยู่ในกล่องและเจอคู่ที่พวกเธอถูกใจ แองเจเลือกรองเท้าบูททหารสีน้ําตาล ในขณะที่พอลลาเลือกรองเท้าบูทยาวหนังสีเทา

 

เมื่อพวกเธอทั้งสามคนได้ไปแต่งตัวใหม่ มาร์คหยุดไม่ได้ที่จะคิดว่าพวกเธอคิดว่าจะไปเดินแฟชั่นโชว์หรือจะไปต่อสู้กับหายนะซอมบี้กันแน่

 

มาร์คต้องการจะกลับไปยังโซนขายสินค้าไอทีและเตรียมตัว แต่แองเจก็ได้ยุยงให้มาร์คพาเธอไปยังร้านขายสินค้าทางกีฬาซึ่งเป็นที่ที่มาร์คได้นําเสื้อเกราะมาให้เธอ มาร์คชี้ไปที่กระเป๋าที่แองเจกําลังสะพายอยู่ เขารู้ว่าในกระเป๋านั้นคือเสื้อเกราะที่เธอสวมใส่มาก่อนหน้านี้ แต่แองเจกลับบอกมาร์คไปว่าเธอต้องการอีกชุดเพื่อให้พอลลาและมาร์คก็ทําอะไรไม่ได้นอกจากต้องพาพวกเธอไปอย่างไม่เต็มใจ

 

โชคร้ายสําหรับแองเจ มันไม่มีเสื้อเกราะตัวอื่นแล้วที่เหมือนของที่เธอมีตัวเดียวที่พวกเขาเจอคือเสื้อเกราะมอเตอร์ไซซี่งมันก็ไม่ได้เป็นที่สนใจสําหรับเธอเท่าไหร่

 

สิ่งที่พวกเขาเจอคือบางสิ่งบางอย่างที่พอลลานั้นให้ความสนใจ มันคือคันธนู มาร์ครู้มาจากแองเจว่าพอลลานั้นได้เรียนวิชายิงธนูมาเมื่อช่วงระหว่างมัธยมปลาย

 

มาร์คเริ่มประหลาดใจกับพื้นหลังความเป็นมาของเด็กสาวสองคนนี้แล้ว อีกคนนึ่งก็มีประสบการณ์การต่อสู้ในขณะที่อีกคนนึงก็เคยได้เรียนยิงธนูมาก่อน สิ่งเหล่านั้นไม่ได้หาได้จากนักเรียนหญิงที่กําลังจะเข้ามหาลัยได้หรอกในประเทศนี้

 

ก่อนที่จะออกไปจากร้าน พอลลาก็ได้เอาคันธนูและลูกธนูออกมาหลายชุด ในขณะที่แองเจนั้นได้เอาไม้ตีเบสบอลอันใหม่ แทนอันที่มาร์คได้ให้เธอ ในขณะที่มาร์คก็เจอหอกโลหะซึ่งเขา ก็นํามันออกมาเพราะมันเป็นสิ่งที่ดึงดูดความสนใจกับมาร์คมาก

 

มาร์คมองไปที่เหมยซึ่งดูเหมือนว่าไม่ได้อะไรออกมาเลย ของพวกนั้นไม่มีอะไรที่เหมาะกับเธอที่จะนําไปใช้เป็นอาวุธ ด้วยความที่ก่อให้เกิดจุดประกายความคิดในใจของมาร์ค เขาจําได้ว่ามีเครื่องมืออุปกรณ์ที่อยู่ที่ดาดฟ้า จากนั้นเขาก็เริ่มบรรจุของหลายๆอย่างใส่ถุงภายใต้สายตาอันสับสนของเหล่าผู้หญิง

 

เมื่อมาร์คได้เสียเวลาไปเยอะแล้ว ตอนนี้เขาก็ต้องการดําเนินแผนต่อไป เขากลับไปยังข้างในโซนขายสินค้าไอทีกับเหล่าสาวๆที่ตามเขาไป

 

เมื่อมาร์คได้กลับเข้ามาเขาเห็นว่ามีการแบ่งแยกกลุ่มที่ชัดเจนภายในผู้รอดชีวิตด้วยกัน แต่ในเมื่อเขาคิดว่ามันก็ไม่ได้มีผลกระทบอะไรกับเขามากมาย เขาเลยตัดสินใจที่จะเพิกเฉยไป เขากังวลเรื่องการที่กลุ่มของเขาเป็นที่สนใจต่อคนอื่นๆมากกว่า ผู้รอดชีวิตเกือบจะทุกคนก็ได้กําลังมองไปที่กลุ่มของมาร์ค สายตาของความประหลาดใจและตัณหาจับจ้องไปที่สมาชิกผู้หญิงและสายตาที่เต็มไปด้วยทั้งความอิจฉาและความเคารพจับจ้องไปที่มาร์ค

 

“คนพวกนี้คิดอะไรกันได้บ้าง?” เขาคิดออกมาในเวลานั้น

 

มาร์คได้ทําตามขั้นตอนของแผนต่อไป เขาบอกแองเจและพอลลาให้ถามรหัสของ wi-fi ที่ยังใช้ได้และเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตบนโทรศัพท์ของเขา

 

จากนั้นมาร์คก็พาเหมยไปยังร้าน PC ที่ใหญ่ที่สุดในโซนยสินค้าไอทีและยึดเอา PC มา เมื่อเขาไม่เห็นว่ามีพนักงานที่รอดชีวิตเหลืออยู่

 

เขาเอาแล็ปท็อปที่ดีสุดในร้านค้าและตั้งค่าทุกอย่างเสร็จสรรพให้เขาพร้อมใช้งาน เหมยช่วยมาร์คจัดการกับสิ่งที่เขากําลังทํา แม้ว่ามันจะไม่มากอะไร แต่อย่างน้อยมาร์คก็ไม่ต้องทําอะไร เพราะเหมยได้จัดการให้เสร็จสรรพหมดแล้ว

 

มาร์คก็ได้รวบรวมแฟลชไดรฟ์และ external hardives ที่สามารถบรรจุความจําได้เยอะมากที่สุดและวางลงบนโต๊ะที่เขากําลังจะใช้งาน จากนั้นเขามองหาโทรศัพท์เครื่องที่ดีที่สุด รวมถึงแท็บแล็ต กล้องถ่ายวิดีโอ

 

ก่อนที่เขาจะสามารถตั้งค่าเสร็จ แองเจและพอลลาก็ได้เข้ามาในร้านสินค้าพร้อมกับเบอนาร์ดที่ตามพวกเขาเข้ามา แองเจและพอลลาก็ได้ให้รหัส wifi ไว้และได้ปล่อยเบอนาร์ดไว้ตรงนั้น

 

เห็นได้ชัดว่าเบอนาร์ดนั้นต้องการที่จะขอโทษถึงการกระทําของลูกชายของเขาซึ่งเกือบทําให้พวกเขาต้องเจอกับอันตราย มาร์คยอมรับคําขอโทษนั้นเพราะว่าก็ไม่มีใครได้รับความเสียหาย ถึงอย่างนั้นมาร์คก็ตัดสินใจว่าเขาจะไม่ทําอะไรกับโจเซฟทั้งนั้น ถ้าหากโจเซฟปรับตัวไม่ได้ถึงความอันตรายที่อยู่รอบๆตัวเขา มันมีความเป็นไปได้ว่าโจเซฟนั้นอาจจะพาใครสักคนพบกับอันตรายจนถึงขั้นเสียชีวิต และมาร์คไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์แบบนั้นขึ้นมา

 

หลังจากการตั้งค่าอุปกรณ์ต่างๆ เขาเห็นว่าเหมยนั้นผลอยหลับไปบนเก้าอี้ที่อยู่หลังเคาเตอร์ เธอพยายามมากที่สุดแล้ว เพื่อให้ตัวเองยังตื่นได้ มาร์คไม่สามารถโทษเธอได้หากเธอเหน็ดเหนื่อยเมื่อทั้งวันนี้เป็นวันที่แย่สําหรับเธอ มาร์คมองดูรอบๆหาร้านค้าหรือบางสิ่งที่เธอสามารถใช้หลับได้อย่างสบาย และเขาเจอเตียงพับได้ที่อยู่ข้างในห้องเก็บของ

 

เขาเห็นมีบางห้องเก็บของที่มีเตียงพับได้อยู่ข้างในมาก่อน ดังนั้นมันจึงไม่ยากสําหรับเขาถ้าจะหามันและเขาก็ยังเข้าใจ ด้วยว่าทําไมถึงมีเตียงพับอยู่ในนั้น เหมือนว่าพนักงานหลายๆคนใช้มันเพื่องีบหลับอยู่ข้างในห้องเก็บของระหว่างเวลาพัก มาร์คจึงปล่อยให้เหมยหลับอยู่ข้างหลังเคาเตอร์ที่ไม่น่าจะมีคนอื่นมาเห็น

 

ทุกอย่างนั้นก็ได้จัดแจงเรียบร้อยเสร็จสรรพแล้ว และในที่สุดมาร์คก็เริ่มทําในสิ่งที่เขาต้องการทํา เขานั่งลงบนเก้าอี้ตรงหน้าเขามีแลปทอปที่เขาเซ็ทไว้และมันก็เริ่มทํางาน เขานั่งอยู่ตรงนั้นเป็นเวลานาน และลุกขึ้นไปอยู่สองสามนาทีก็เพื่อตรวจดูเหมยและเหยียดขาของเขาที่กําลังจะเริ่มเหน็บกินขึ้นทุกที

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

มหาวิบัติสงครามการกลายพันธุ์ (Mutagen) 38 : เปลี่ยนเสื้อผ้า

Now you are reading มหาวิบัติสงครามการกลายพันธุ์ (Mutagen) Chapter 38 : เปลี่ยนเสื้อผ้า at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 38 : เปลี่ยนเสื้อผ้า

 

มาร์คยืนอยู่ตรงนั้นมาสักพักค้นหาอินเตอร์เน็ตด้วยโทรศัพท์ของเขา แต่ wi-fi ของห้างก็ช้าเหลือเกิน เขาเสียเวลาส่วนใหญ่ไปกับการรอโหลดอินเตอร์เน็ต แต่อย่างไรก็ตามเขาก็ยังเจอข้อมูลที่ดีเล็กๆน้อยๆเกี่ยวกับการระบาดของเชื้อไวรัส

 

ในขณะที่เขาเบื่อหน่ายกับการต้องมารอการดาวโหลดของอินเตอร์เน็ต และเหล่าผู้หญิงก็ยังเลือกชุดไม่เสร็จ เขาจึงตัดสินใจเข้าไปในร้านขายรองเท้าที่เขาได้เข้าไปมาก่อนหน้านี้ เขาได้ค้นทุกซอกทุกมุมเพื่อที่จะหารองเท้าในชั้นเก็บของและเขาก็ไม่ผิดหวัง

 

เมื่อมองดูไปรอบๆและเปิดกล่องรองเท้าต่อหลายกล่อง เขาก็เจอกล่องรองเท้าที่เป็นชนิดที่เขาตามหาซึ่งคือรองเท้าบูททหาร เขาเจออยู่คู่หนึ่งและเป็นไซส์ที่พอดีกับเขา ทันใดนั้นเขาก็ได้เปลี่ยนใส่รองเท้าเป็นรองเท้าบูทและเก็บรองเท้าคอนเวิร์ส Chuck Taylor ลงไปในกล่องแทนรองเท้าบูท ในชั้นร้องเท้ามีแบบและวัสดุที่แตกต่างกันของรองเท้าบู๊ท แต่คู่ที่มาร์คเลือกมานั้นเป็นรองเท้าบูททหารหนังสังเคราะห์ที่มีเชือกรัด เขาเลือกคู่นี้มาเพราะว่ามันสวมใส่ง่ายและง่ายต่อการทําความสะอา

 

จากนั้นเขาก็เจอคู่เล็กอีกคู่หนึ่ง เมื่อตอนนั้นเองก็มีคนเข้ามาหาเขาพอดี แต่เขาก็ไม่ได้ยกมือขึ้นมาป้องกันตัวแต่อย่างใด เพราะรู้อยู่แล้วว่าคือใคร

 

เมื่อมาร์คหันไป เขาเจอเหมยซึ่งยืนอยู่ตรงประตูและนักเรียนสาวอีกสองคนที่อยู่ข้างหลังเธอซึ่งก็ได้กําลังสวมรอยยิ้มอันขมขึ้นด้วยเหตุผลบางอย่าง

 

เมื่อมองไปที่เหมย เขาสามารถรู้สึกได้อยู่สองอย่างคือความประหลาดใจและความเศร้าโศกเสียใจ ตอนนี้เหมยได้สวมใส่เสื้อสู้ดสีเทาแขนยาวแล้วทับด้วยเสื้อกักยีนที่มีช่องกระเปาอยู่บนเสื้อหลายๆช่อง และเธอได้สวมถุงเท้ายาวสีดําเหนือขึ้นมา เกือบถึงเข่า เท้าของเธอก็ได้สวมรองเท้าแตะรัดส้น แถมยังมีพลาสเตอร์เจลที่ติดอยู่บนแก้มของเธอ เขาประหลาดใจที่ลุคนี้เหมาะกับเธอมาก และเขาเศร้าใจเพราะว่าเธอเป็นผู้หญิงที่สวยที่สุดที่ต้องเจอกับเรื่องราวเลวร้ายและทุกข์ทรมานในหายนะ

ครั้งนี้

 

ผู้หญิงที่งดงามก็คือผู้หญิงที่งดงามอยู่วันยังค่ําไม่ว่าเธอจะสวมใส่อะไร

 

นักเรียนหญิงสองคนนั้นก็ได้เปลี่ยนชุดของตัวเองจากเครื่องแบบชุดที่เปอะเปื้อนเต็มไปด้วยเลือด พอลลาได้สวมใส่เสื้อแจ็คเก็ตยีนแขนยาวพร้อมกับเสื้อสู้ดสีแดงและกระโปรงยีน ดูเข้ากันกับเสื้อฮูดสีแดงของเธอ เธอได้สวมกางเกงเลกกิ้งที่อยู่ภายใต้กระโปรงของเธอและถุงเท้าสีดํา

ในขณะที่แองเจนั้นสวมเสื้อแจ็คเก็ตสีเทาทับเสื้อกล้ามสีดํา ที่เธอสวมอยู่และใส่กางเกงคาร์โกสีเขียวเข้ม ทั้งพอลลาและแองเจดูดีมากบนเสื้อผ้าชิ้นใหม่ของพวกเธอ แต่สิ่งเดียวที่ไม่เข้ากันเลยก็คือพวกเธอยังสวมใส่รองเท้านักเรียนอยู่

 

มาร์คว่าน่าจะพอมีรองเท้าที่ดูทันสมัยของผู้หญิงในร้านขายรองเท้าอยู่บ้าง ดังนั้นเขาจึงขอให้พวกเธอสามคนเข้ามาดูในร้าน จากนั้นเขาก็ได้ให้รองเท้าบูททหารที่เขาเจอกับเหมยและช่วยเธอสวมมัน แองเจและพอลลาก็ได้ค้นหารองเท้าที่อยู่ในกล่องและเจอคู่ที่พวกเธอถูกใจ แองเจเลือกรองเท้าบูททหารสีน้ําตาล ในขณะที่พอลลาเลือกรองเท้าบูทยาวหนังสีเทา

 

เมื่อพวกเธอทั้งสามคนได้ไปแต่งตัวใหม่ มาร์คหยุดไม่ได้ที่จะคิดว่าพวกเธอคิดว่าจะไปเดินแฟชั่นโชว์หรือจะไปต่อสู้กับหายนะซอมบี้กันแน่

 

มาร์คต้องการจะกลับไปยังโซนขายสินค้าไอทีและเตรียมตัว แต่แองเจก็ได้ยุยงให้มาร์คพาเธอไปยังร้านขายสินค้าทางกีฬาซึ่งเป็นที่ที่มาร์คได้นําเสื้อเกราะมาให้เธอ มาร์คชี้ไปที่กระเป๋าที่แองเจกําลังสะพายอยู่ เขารู้ว่าในกระเป๋านั้นคือเสื้อเกราะที่เธอสวมใส่มาก่อนหน้านี้ แต่แองเจกลับบอกมาร์คไปว่าเธอต้องการอีกชุดเพื่อให้พอลลาและมาร์คก็ทําอะไรไม่ได้นอกจากต้องพาพวกเธอไปอย่างไม่เต็มใจ

 

โชคร้ายสําหรับแองเจ มันไม่มีเสื้อเกราะตัวอื่นแล้วที่เหมือนของที่เธอมีตัวเดียวที่พวกเขาเจอคือเสื้อเกราะมอเตอร์ไซซี่งมันก็ไม่ได้เป็นที่สนใจสําหรับเธอเท่าไหร่

 

สิ่งที่พวกเขาเจอคือบางสิ่งบางอย่างที่พอลลานั้นให้ความสนใจ มันคือคันธนู มาร์ครู้มาจากแองเจว่าพอลลานั้นได้เรียนวิชายิงธนูมาเมื่อช่วงระหว่างมัธยมปลาย

 

มาร์คเริ่มประหลาดใจกับพื้นหลังความเป็นมาของเด็กสาวสองคนนี้แล้ว อีกคนนึ่งก็มีประสบการณ์การต่อสู้ในขณะที่อีกคนนึงก็เคยได้เรียนยิงธนูมาก่อน สิ่งเหล่านั้นไม่ได้หาได้จากนักเรียนหญิงที่กําลังจะเข้ามหาลัยได้หรอกในประเทศนี้

 

ก่อนที่จะออกไปจากร้าน พอลลาก็ได้เอาคันธนูและลูกธนูออกมาหลายชุด ในขณะที่แองเจนั้นได้เอาไม้ตีเบสบอลอันใหม่ แทนอันที่มาร์คได้ให้เธอ ในขณะที่มาร์คก็เจอหอกโลหะซึ่งเขา ก็นํามันออกมาเพราะมันเป็นสิ่งที่ดึงดูดความสนใจกับมาร์คมาก

 

มาร์คมองไปที่เหมยซึ่งดูเหมือนว่าไม่ได้อะไรออกมาเลย ของพวกนั้นไม่มีอะไรที่เหมาะกับเธอที่จะนําไปใช้เป็นอาวุธ ด้วยความที่ก่อให้เกิดจุดประกายความคิดในใจของมาร์ค เขาจําได้ว่ามีเครื่องมืออุปกรณ์ที่อยู่ที่ดาดฟ้า จากนั้นเขาก็เริ่มบรรจุของหลายๆอย่างใส่ถุงภายใต้สายตาอันสับสนของเหล่าผู้หญิง

 

เมื่อมาร์คได้เสียเวลาไปเยอะแล้ว ตอนนี้เขาก็ต้องการดําเนินแผนต่อไป เขากลับไปยังข้างในโซนขายสินค้าไอทีกับเหล่าสาวๆที่ตามเขาไป

 

เมื่อมาร์คได้กลับเข้ามาเขาเห็นว่ามีการแบ่งแยกกลุ่มที่ชัดเจนภายในผู้รอดชีวิตด้วยกัน แต่ในเมื่อเขาคิดว่ามันก็ไม่ได้มีผลกระทบอะไรกับเขามากมาย เขาเลยตัดสินใจที่จะเพิกเฉยไป เขากังวลเรื่องการที่กลุ่มของเขาเป็นที่สนใจต่อคนอื่นๆมากกว่า ผู้รอดชีวิตเกือบจะทุกคนก็ได้กําลังมองไปที่กลุ่มของมาร์ค สายตาของความประหลาดใจและตัณหาจับจ้องไปที่สมาชิกผู้หญิงและสายตาที่เต็มไปด้วยทั้งความอิจฉาและความเคารพจับจ้องไปที่มาร์ค

 

“คนพวกนี้คิดอะไรกันได้บ้าง?” เขาคิดออกมาในเวลานั้น

 

มาร์คได้ทําตามขั้นตอนของแผนต่อไป เขาบอกแองเจและพอลลาให้ถามรหัสของ wi-fi ที่ยังใช้ได้และเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตบนโทรศัพท์ของเขา

 

จากนั้นมาร์คก็พาเหมยไปยังร้าน PC ที่ใหญ่ที่สุดในโซนยสินค้าไอทีและยึดเอา PC มา เมื่อเขาไม่เห็นว่ามีพนักงานที่รอดชีวิตเหลืออยู่

 

เขาเอาแล็ปท็อปที่ดีสุดในร้านค้าและตั้งค่าทุกอย่างเสร็จสรรพให้เขาพร้อมใช้งาน เหมยช่วยมาร์คจัดการกับสิ่งที่เขากําลังทํา แม้ว่ามันจะไม่มากอะไร แต่อย่างน้อยมาร์คก็ไม่ต้องทําอะไร เพราะเหมยได้จัดการให้เสร็จสรรพหมดแล้ว

 

มาร์คก็ได้รวบรวมแฟลชไดรฟ์และ external hardives ที่สามารถบรรจุความจําได้เยอะมากที่สุดและวางลงบนโต๊ะที่เขากําลังจะใช้งาน จากนั้นเขามองหาโทรศัพท์เครื่องที่ดีที่สุด รวมถึงแท็บแล็ต กล้องถ่ายวิดีโอ

 

ก่อนที่เขาจะสามารถตั้งค่าเสร็จ แองเจและพอลลาก็ได้เข้ามาในร้านสินค้าพร้อมกับเบอนาร์ดที่ตามพวกเขาเข้ามา แองเจและพอลลาก็ได้ให้รหัส wifi ไว้และได้ปล่อยเบอนาร์ดไว้ตรงนั้น

 

เห็นได้ชัดว่าเบอนาร์ดนั้นต้องการที่จะขอโทษถึงการกระทําของลูกชายของเขาซึ่งเกือบทําให้พวกเขาต้องเจอกับอันตราย มาร์คยอมรับคําขอโทษนั้นเพราะว่าก็ไม่มีใครได้รับความเสียหาย ถึงอย่างนั้นมาร์คก็ตัดสินใจว่าเขาจะไม่ทําอะไรกับโจเซฟทั้งนั้น ถ้าหากโจเซฟปรับตัวไม่ได้ถึงความอันตรายที่อยู่รอบๆตัวเขา มันมีความเป็นไปได้ว่าโจเซฟนั้นอาจจะพาใครสักคนพบกับอันตรายจนถึงขั้นเสียชีวิต และมาร์คไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์แบบนั้นขึ้นมา

 

หลังจากการตั้งค่าอุปกรณ์ต่างๆ เขาเห็นว่าเหมยนั้นผลอยหลับไปบนเก้าอี้ที่อยู่หลังเคาเตอร์ เธอพยายามมากที่สุดแล้ว เพื่อให้ตัวเองยังตื่นได้ มาร์คไม่สามารถโทษเธอได้หากเธอเหน็ดเหนื่อยเมื่อทั้งวันนี้เป็นวันที่แย่สําหรับเธอ มาร์คมองดูรอบๆหาร้านค้าหรือบางสิ่งที่เธอสามารถใช้หลับได้อย่างสบาย และเขาเจอเตียงพับได้ที่อยู่ข้างในห้องเก็บของ

 

เขาเห็นมีบางห้องเก็บของที่มีเตียงพับได้อยู่ข้างในมาก่อน ดังนั้นมันจึงไม่ยากสําหรับเขาถ้าจะหามันและเขาก็ยังเข้าใจ ด้วยว่าทําไมถึงมีเตียงพับอยู่ในนั้น เหมือนว่าพนักงานหลายๆคนใช้มันเพื่องีบหลับอยู่ข้างในห้องเก็บของระหว่างเวลาพัก มาร์คจึงปล่อยให้เหมยหลับอยู่ข้างหลังเคาเตอร์ที่ไม่น่าจะมีคนอื่นมาเห็น

 

ทุกอย่างนั้นก็ได้จัดแจงเรียบร้อยเสร็จสรรพแล้ว และในที่สุดมาร์คก็เริ่มทําในสิ่งที่เขาต้องการทํา เขานั่งลงบนเก้าอี้ตรงหน้าเขามีแลปทอปที่เขาเซ็ทไว้และมันก็เริ่มทํางาน เขานั่งอยู่ตรงนั้นเป็นเวลานาน และลุกขึ้นไปอยู่สองสามนาทีก็เพื่อตรวจดูเหมยและเหยียดขาของเขาที่กําลังจะเริ่มเหน็บกินขึ้นทุกที

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+