มหาวิบัติสงครามการกลายพันธุ์ (Mutagen) 58 : นักกลายพันธุ์หุ้มเกราะ กระดูก

Now you are reading มหาวิบัติสงครามการกลายพันธุ์ (Mutagen) Chapter 58 : นักกลายพันธุ์หุ้มเกราะ กระดูก at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 58 : นักกลายพันธุ์หุ้มเกราะ กระดูก เวลา 21.06 นาฬิกา – ห้างสรรพสินค้า บาคัวร์, พื้นที่ส่วนกลาง, ลานจอดรถชั้น ใต้ดิน มาร์คและแองเจเข้าไปยังส่วนพื้นที่ของลานจอดรถชั้นใต้ดินซึ่งอยู่ข้างล่างพื้นที่ส่วนกลางของห้างพร้อมกับถือปีนด้วยมือทั้งสองข้างของพวกเขาเพื่อพร้อมที่จะยิงอะไรก็ตามที่จะมาพิฆาตพวก เขา เมื่อเข้าก้าวเข้าไปในพื้นที่มีพลังงานความกดดันที่ไม่ทราบสาเหตุที่ห่อหุ้มตามร่างกายของพวกเขามันไม่ใช่ความรู้สึกที่ถูกเฝ้าหรือถูกจ้องลงมาโดยสัตว์ร้ายแต่ราวกับเป็นการก้าวย่างเข้าสู่ ดินแดนของสัตว์ประหลาดที่น่ากลัว พวกเขาอยู่ห่างจากทางเข้าที่จอดรถชั้นใต้ดินไม่ถึงสามสิบเมตร แต่ความกดดันที่พวกเขารู้สึกทําให้พวกเขารู้สึกว่าระ ยะทางไกลกว่านั้น มาร์คมองไปยังทางตรงข้ามของทางเข้าและพูดกับแองเจซึ่งอยู่ข้างหลังเขาด้วยน้ําเสียงเบาต่ํา “แองเจไลน์ ไปที่ทางเข้าและหาแผงควบคุมประตู บอกพวกเขาด้วยว่าอย่า เข้ามากับผู้รอดชีวิตที่พวกเขาพามา วกเขาอาจจะกลายเป็นอุปสรรคของแผนการได้ “แล้วนายล่ะ” “ฉันจะอยู่ที่นี่และเพื่อล่ออะไรก็ตามให้ห่างออกไป ถ้ามันพยายามที่จะจู่โจมเข้ามา” “ก็ได้ ระวังตัวด้วยนะ” แองเจได้หันไปมองมาร์คอีกครั้งและรีบตรงเข้าไปยังทางเข้าโดยไม่ให้เกิดเสียงที่ดังเกินไปมากนัก มาร์คก็ยังจ้องมองทางตรงหน้าเขาต่อไปและพยายามที่จะตรวจจับการเคลื่อนไหวของสิ่งต่างๆ ความผันผวนทางอา รมณ์ที่รุนแรงเพิ่มขึ้นเมื่อพวกเขาเข้ามาในพื้นที่นี้แต่มาร์คนั้นไม่สามารถระบุตํา แหน่งที่แน่นอนได้เนื่องจากภายในพื้นที่จอดรถนั้นมีแสงไฟค่อนข้างที่จะสลัวอย่างมากดูเหมือนว่าไฟหลายดวงถูกเอาไปหรืออาจจะถูกทําลายอย่างจงใจเนื่องจากเขาเจอไฟ LED ที่แตกหลาย ชิ้นอยู่บนพื้น จากนั้นเขาได้เอื้อมไปแตะข้างขวาที่หมวกป้องกันของเขาและเปิดปุ่มที่เขาติดไว้อยู่ที่หมวก มันคือกล้องบลูทูธเล็กๆที่เชื่อมต่อกับโทรศัพท์ของเขาเอาไว้เขาเจอมั่นในกล่องร้านขายสินค้าเขาเริ่มบันทึกกล้องด้วยเหตุผลหลายสาเหตุหนึ่งคือเพื่อวัตถุประสงค์ในการวิจัยค้นคว้าการติดเชื้อและอีกประการหนึ่งคือเป็นหลักฐานเอกสารประกอบว่าเขาเสียชีวิตอย่างไรหากว่ามันได้เกิดขึ้นจริงๆแบละ! หลังจากที่แองเจนั้นจากไปไม่นานศพของชายคนหนึ่งถูกโยนทิ้งไปไม่ไกลจากตําแหน่งของเขาในขณะที่มาร์คกําลังรอการเคลื่อนไหวใดๆอยู่แล้วเขาก็ ไม่ได้สะดุ้งตื่นตกใจจากการปรากฏตัวของซากศพ และมันยังทําให้เขากําหนด ตําแหน่งของสิ่งมีชีวิตที่เขากําลังมองหาเขาสามารถเห็นเงาของผู้หญิงคนหนึ่งกําลังเดินอยู่ในด้านมืดของที่จอดรถตรงกลางระหว่างรถสองคัน สิ่งมีชีวิตนั้นเดินออกมาอยู่ในที่ที่มีแสง ไฟอย่างเชื่องช้า และในที่สุดมาร์คก็เห็นมัน มันเป็นเพศหญิงที่อายุน่าจะห่างกับเขาอยู่หลายปีซึ่งสวมใส่เพียงแค่ชุดชั้นในเธอมีผมยาวสีดําและใบหน้าที่ดูดีแต่ตอนนี้ใบหน้าครึ่งซ้ายของเธอเป็นส่วนเดียวที่ดูดี ที่ครึ่งขวาของร่างกายเธอตั้งแต่เท้าจนถึงใบหน้าเหมือนมีชุดเกราะสีเทาซึ่งมีพื้นผิวคล้ายกับกระดูกมนุษย์ห่อหุ้มตัวเธออยู่มีกระดูกแหลมสีดําหลายชิ้นยื่นออกมาจากข้อต่อบางส่วนทางด้านขวาของร่างกายเช่นหัวเข่าขวาข้อศอกขวาและไหล่ขวานอกจากนี้ยังมีกระดูกแหลมหลายชิ้นที่ยื่นออกมาจากหน้าอกของเธอและยังทะลุผ่านหน้าอกขวาของเธอซึ่งดูเหมือนส่วนของกรงซี่โครงของเธอด้วยตาขวาของเธอก็ส่องสว่างเป็นสีเหลืองและจ้องตรงมาที่มาร์คราวกับว่าเขาง่ายที่จะกําจัดร่างของเธอและเกราะนั่นก็เต็มกระจายไปด้วยเลือดที่ปลายนิ้วของเธอยังมีกรงเล็บสีดงอกขึ้นที่เล็บของเธออีกด้วย เธอเดินลากเท้าซ้ายและเอียงศีรษะไปทางด้านซ้ายหยดเลือดหล่นลงจากคางและกรงเล็บของเธอไปที่พื้น บนส่วนที่ไม่มีการปกปิดของร่างกายเธอเผยให้เห็นชุดชั้นในสีดําทั้งบนและล่างและผิวหนังของเธอก็เปื้อนและมีเลือดไหลออกมาแม้แต่ใบหน้าซีกซ้ายของเธอก็ยังเปรอะไปด้วยหยดเลือ มาร์คก็ได้แต่ตะลึงงันใบหน้าของเธอ ไม่ได้เปรอะเปื้อนไปด้วยเลือกที่มาจากคนอื่นๆแต่รวมถึงเลือดของเธอไปด้วยเช่ นกัน ดวงตาข้างซ้ายของเธอยังคงมีน้ําตาร่วงหล่นออกมาเป็นสายน้ําตาแห่งเลือดนอกจากนี้ยังมีร่องรอยของเลือดที่ไหลออกมาจากปากของเธอ เขาเอื้อมไปแตะคอเสื้อของเขาจากนั้นก็เล่นเพลงจากโทรศัพท์ของเขาขึ้นมาเขาสร้างความแน่ใจว่าระดับเสียงนั้นพอที่จะได้ยินเสียงเพลงในขณะที่ก็ได้ยินเสียงตามรอบๆตัวของเขาด้วยดังนั้นเขา จะต้องสามารถได้ยินเสียงเมื่อประตูทางเข้าถูกเปิดออก เพลงได้เริ่มบรรเลงเล่นขึ้นจากนั้นดวงตาของมาร์คก็ได้ขยายออกและเขาก็กระโดดและกลิ้งไปทางขวาทันที
ในทันทีที่เขากลิ้งออกไปมีแสงสีดําหลายดวงปรากฏขึ้นในที่เขาได้ยืนก่อนหน้านี้เร็วมาก! ทันทีที่เขาเล่นเพลง ผู้หญิงที่มีเกราะกระดูกก็เดินผ่านไปประมาณสิบเมตรในพริบตา! แม้ว่าซอมบี้หญิงตัวนี้จะมีความว่องไว้ แต่อย่างไรแอ็บบีเกลนั้นก็ว่องไวกว่ามาร์คมองเห็นเพียงเงาสีแดงก่อนหน้านี้ แต่เขายังต้องตอบสนองต่อการเคลื่อนไหวของซอมบี้หญิงคนนี้ให้ได้ หลังจากม้วนตัวไปกับพื้น มาร์คก็ยืน ขึ้นและกระโดดไปข้างหลังก่อนที่จะยิงปืนลูกซองไปหาซอมบี้หญิงตัวนั้น ปัง! “โธ่เว้ย!” มาร์คบ่นด่าอยู่ในใจ ซอมบี้หญิงกลายพันธุ์ตัวนี้มีสัญชาต ญาณที่ดีกว่าเมื่อเทียบกับซอมบี้กลายพันธุ์ที่เขาเจอมาก่อน! เมื่อมาร์คยิงปืนลูกซองออกไป มันได้กระโดดขึ้นโดยใช้เท้าหุ้มเกราะขวาของมันและขับเคลื่อนตัวเองไปยังเพดาน มันมีระยะห่างที่สูงราวๆเจ็ดเมตร ซอมบี้หญิงนั้นใช้กรงเล็บของมันยึดกับเพดานเอาไว้มันหมุนร่างของตัวเองไปข้างหน้าและเตะเพดานผลักร่างของมันเข้าหามาร์ค
มาร์คต้องการยิงใส่มันอีกครั้งเมื่อต้องหลบไปทางซ้ายเพราะเขาไม่กล้าเผชิญหน้ากับการโจมตีของมันถ้าเขาเผชิญหน้ากับมันแม้แต่ครั้งเดียวเขาก็จะกลายเป็นเนื้อสับชิ้นดีให้มัน!เกราะป้องกันของเขานั้นไม่สามารถที่จะป้องป้องเขาจากสิ่งที่สามารถแทงทะลุเพดานคอนกรีตได้อย่างง่ายดายเช่นเดียวกับกรงเล็บของซอมบี้หญิงตัวนี้! ขอหลังจากที่เขาหลบถอย เขาก็หันหน้า ไปทางด้านข้างของหุ้มเกราะของซอมบี้หญิงตัวนั้น ซอมบี้หญิงล้มลงบนพื้นพร้อมกับที่มันกวาดกรงเล็บของเธอไปในกลางอากาศ ปัง! ซอมบี้หญิงกลายพันธุ์พยายามโดดอีก ครั้งเพื่อนถอยหนีกระสุนปืนที่พุ่งเป้ามา ที่ศรีษะของมัน แต่เมื่อมันได้อยู่ในระยะ ประชิด มันจึงไม่สามารถที่จะถอยหลบไปได้อย่างเต็มที่ เม็ดกระสุนจากปืนกระ ทบที่ไหล่ขวาของมันทําให้มันเด็นถอยหลังไป ต้องล้อกันเล่นแน่ๆ! มาร์คจ้องมองด้วยความเหลือเชื่อ เมื่อ เขาเห็นจุดที่โดนยิงมีเพียงแค่รอยบุบบนเกราะที่คลุมไหล่ของมันแต่ส่วนใหญ่ นั้นก็ไม่เสื่อมเสียบุบสลายไป! ซอมบี้หญิงหันมาทางเขา จ้องมองเป็นระยะพร้อมกับดวงตาเบิกโตที่เปล่งประกายและพุ่งพรวดเข้าหามาร์ค การระเบิดอารมณ์ที่มาจากซอมบี้หญิง ตัวนั้นอย่างกะทันหันทําให้ดวงตาของมาร์คพร่ามัวในเวลาไม่ถึงวินาทีถึงแม้ว่าจะเป็นช่วงเวลาสั้นๆที่เขาสูญเสียโฟกัสทําให้ก็ได้ทําให้เขาเสียโอกาสที่จะหลบซอมบี้หญิงตัวนั้นอย่างเต็มที่ มาร์คกระโดดและม้วนตัวไปทางด้าน ขวา แต่กรงเล็บของมันเกี่ยวกับหมวกป้องกันเพื่อปัดกระจกที่ปิดหมวกของ เขา ตอนนี้หน้าหมวกของเขาก็แตกออกโชคดีที่ฝากระจกของหมวกกันน็อคทํา ด้วยอะคลิลิค ไม่เช่นนั้นใบหน้าของเขาอาจจะมีบาดแผลจากเศษกระจกที่ แตกหลายออกพันชิ้น เขาเกือบตายจากการจู่โจม เขา ควรรั้งตัวเองจากความผันผวนทางอารมณ์ที่รุนแรงดั่งสัตว์ป่าของซอมบี้หญิง ตัวนี้หรือความสามารถของเขาในฐานะที่เป็นโรคซึมซับอารมณ์จากผู้อื่นได้ ความ สามารถนั่นจะเป็นตัวดึงเขาเข้าไปสู่ความตาย ปัง! ปัง+ มาร์คยิงไปอีกสองครั้งด้วยความสําเร็จ นัดที่หนึ่งโดนไปที่หุ้มเกราะที่เอวของมันแต่มันสามารถหลบกระสุนนัดที่สองได้ในขณะที่มันได้กระโดดหนี้อย่างไรก็ตามนั่นคือสิ่งเขาต้องการเขาไม่ต้อง การฆ่ามันด้วยกระสุนเหล่านั้นแต่เขาต้องการให้มันหนีไปไกลๆ เขากระโดดถอยหลังไปหลังจากการยิงครั้งที่สองและวิ่งไปหลบหลังรถเก๋งที่อยู่ใกล้ๆเขาตัดสินใจที่จะถอดหมวกออกซึ่งมันคงไม่มีประโยชน์ใดๆแล้วในสนามรบตอนนี้และแถมยังเป็นอุปสรรคใน การต่อสู้ของเขาด้วยเนื่องจากเศษกระจกที่แตกอยู่ มาร์คถอดกล้องบลูทูธบนหมวกออกและเกี่ยวติดมันไว้ที่คอเสื้อของเขา จากนั้นเขาก็ได้วิ่งหนีออกไปจากรถเมื่อเขาได้ยินเสียงหลังคารถทุ่มลงไปเพ ราะซอมบี้หญิงตัวนั้นกระโดดขึ้นไปบนหลังคารถปัง! มาร์คยิงไปที่ซอมบี้หญิงที่อยู่บนหลังคารถทําให้มาร์คกระโดดขึ้นไปสู่เพดานจากนั้นมันก็ได้เตะเพดานอีกครั้งและขับเคลื่อนพุ่งตัวเข้าไปหามาร์คเพียงเพื่อที่จะได้รับการโจมตีแบบที่ไม่ได้คาดหมายของเขา มาร์คโยนหมวกป้องกันใส่ซอมบี้หญิงที่กําลังพุ่งตัวมาหาเขามันก็ได้ฉีกนั่น หมวกกันน็อคออกเป็นชิ้นๆแต่มันนั้นก็ได้เสียโอกาสที่จะเข้าไปโจมตีมาร์คที่ได้รออยู่ตรงหน้ามัน ปัง! ร่างของมันหมุนไปข้างหลังเมื่อถูกยิง ไปที่ใบหน้ามาร์คไม่ได้ปลื้มยินดีนักอย่างไรก็ตามซอมบหญิงตัวนี้หันใบหน้าครึ่งหนึ่งที่ไม่มีการป้องกันหนีออกไปในช่วงสุดท้ายทําให้กระสุนโดนไปที่แก้มที่มีหุ้มเกราะด้านขวาของมัน ซอมบี้หญิงล้มลงไปกับพื้นคอนกรีต แต่มาร์คไม่ได้พุ่งโจมตีลีลาต่อไปเขาได้วิ่งหนีไปหลบอยู่ข้างหลังรถอีกคันในขณะที่มือขวาของเขาเอื้อมไปหยิบล้วงของในกระเป๋าเข็มขัดของเขา เขาต้องโหลดกระสุนใหม่! แปลกมาก เขาโหลดกระสุนเสร็จและ ไม่ได้รับการจู่โจมใดๆ “อ่าาาาาาาาห์!!!!” มาร์คได้ยินซอมบี้หญิงกลายพันธุ์ร้อง ตะโกน มันไม่ใช่เสียงตะโกนเตือนให้สัญญานกับศัตรูของมัน และไม่ใช่เสียง ตะโกนเพื่อเรียกซอมบี้ตัวอื่นๆเข้ามามันคือเสียงตะโกนร้องแห่งความเจ็บปวด มาร์คแอบมองจากทางด้านหลังรถและเห็นซอมบี้หญิงนั้นยืนอย่างโซเซขณะที่กอดอกไปด้วยเธอพยายามเดินหน้าไปยังทิศทางของมาร์คแต่เขาได้สังเกตเห็นว่าส่วนร่างกายของเธอที่ไม่มีหุ้มเกราะนั้นกําลังรั้งเธอเอาไว้ “วิ่ง…” มาร์คก็ได้ตกใจซอมบี้หญิงกลายพันธุ์นั้นพูดออกมา!เสียงของเธอนั้นอ่อนแอและสั่นไหว “วิ่ง!” เธอตะโกนในขณะที่ตาข้างซ้ายของเธอจ้องไปที่มาร์ค แสงที่ตาซ้ายของซอมบี้หญิงเริ่มหรี่ลงอีกครั้งและมันก็ได้หยุดพูด หุ้มเกราะกระดูกบนร่างกายของมันเริ่มเติบโตขึ้นจน เหลือเพียงเศษเสี้ยวของเนื้อตามร่างกายกรงเล็บยาวขึ้นและดวงตาสีเหลืองที่ถูกกลายพันธุ์ของเธอก็สว่างไสวขึ้นตาซ้ายของเธอก็ถูกกลนกินไปด้วยสีแล้วครึ่งหนึ่ง จากนั้นเธอก็เคลื่อนไหวการโจมตีอีก ครั้ง เป็นการโจมตีที่ดุร้ายทรงพลังและรวดเร็วยิ่งขึ้นกว่าเดิมหลายเท่า มาร์คกระโดดหนีออกไปจากรถ และ การโจมตีของซอมบี้หญิงก็ชนรถทําให้รถน้ําหนัก 2.9 ตันไถลชนไปยังรถอีกคัน ที่จอดอยู่ข้างๆ ตอนนี้มาร์ครู้แล้วว่าช่วงเวลานั้นคือจุด สําคัญในการเอาชีวิตรอด อาจเป็นไปได้ว่าแองเจสามารถจัดการปล่อยให้ทหาร เข้าไปข้างในให้เร็วที่สุดและฆ่ามนุษย์กลายพันธุ์นี้ก่อนที่ร่างกายของเธอจะถูกปกคลุมด้วยหุ้มเกราะกระดูก มาร์ครู้ว่าเมื่อเป็นเช่นนั้น หากมันได้เกิดขึ้นจริงๆ ผู้หญิงคนนี้จะอยู่ในร่างที่แข็งแกร่งที่สุดของเธอ

ตอนที่ 58 : นักกลายพันธุ์หุ้มเกราะ กระดูก

เวลา 21.06 นาฬิกา – ห้างสรรพสินค้า บาคัวร์, พื้นที่ส่วนกลาง, ลานจอดรถชั้น ใต้ดิน

มาร์คและแองเจเข้าไปยังส่วนพื้นที่ของลานจอดรถชั้นใต้ดินซึ่งอยู่ข้างล่างพื้นที่ส่วนกลางของห้างพร้อมกับถือปีนด้วยมือทั้งสองข้างของพวกเขาเพื่อพร้อมที่จะยิงอะไรก็ตามที่จะมาพิฆาตพวก เขา เมื่อเข้าก้าวเข้าไปในพื้นที่มีพลังงานความกดดันที่ไม่ทราบสาเหตุที่ห่อหุ้มตามร่างกายของพวกเขามันไม่ใช่ความรู้สึกที่ถูกเฝ้าหรือถูกจ้องลงมาโดยสัตว์ร้ายแต่ราวกับเป็นการก้าวย่างเข้าสู่ ดินแดนของสัตว์ประหลาดที่น่ากลัว

พวกเขาอยู่ห่างจากทางเข้าที่จอดรถชั้นใต้ดินไม่ถึงสามสิบเมตร แต่ความกดดันที่พวกเขารู้สึกทําให้พวกเขารู้สึกว่าระ ยะทางไกลกว่านั้น

มาร์คมองไปยังทางตรงข้ามของทางเข้าและพูดกับแองเจซึ่งอยู่ข้างหลังเขาด้วยน้ําเสียงเบาต่ํา

“แองเจไลน์ ไปที่ทางเข้าและหาแผงควบคุมประตู บอกพวกเขาด้วยว่าอย่า เข้ามากับผู้รอดชีวิตที่พวกเขาพามา วกเขาอาจจะกลายเป็นอุปสรรคของแผนการได้

“แล้วนายล่ะ”

“ฉันจะอยู่ที่นี่และเพื่อล่ออะไรก็ตามให้ห่างออกไป ถ้ามันพยายามที่จะจู่โจมเข้ามา”

“ก็ได้ ระวังตัวด้วยนะ”

แองเจได้หันไปมองมาร์คอีกครั้งและรีบตรงเข้าไปยังทางเข้าโดยไม่ให้เกิดเสียงที่ดังเกินไปมากนัก

มาร์คก็ยังจ้องมองทางตรงหน้าเขาต่อไปและพยายามที่จะตรวจจับการเคลื่อนไหวของสิ่งต่างๆ ความผันผวนทางอา รมณ์ที่รุนแรงเพิ่มขึ้นเมื่อพวกเขาเข้ามาในพื้นที่นี้แต่มาร์คนั้นไม่สามารถระบุตํา แหน่งที่แน่นอนได้เนื่องจากภายในพื้นที่จอดรถนั้นมีแสงไฟค่อนข้างที่จะสลัวอย่างมากดูเหมือนว่าไฟหลายดวงถูกเอาไปหรืออาจจะถูกทําลายอย่างจงใจเนื่องจากเขาเจอไฟ LED ที่แตกหลาย ชิ้นอยู่บนพื้น

จากนั้นเขาได้เอื้อมไปแตะข้างขวาที่หมวกป้องกันของเขาและเปิดปุ่มที่เขาติดไว้อยู่ที่หมวก มันคือกล้องบลูทูธเล็กๆที่เชื่อมต่อกับโทรศัพท์ของเขาเอาไว้เขาเจอมั่นในกล่องร้านขายสินค้าเขาเริ่มบันทึกกล้องด้วยเหตุผลหลายสาเหตุหนึ่งคือเพื่อวัตถุประสงค์ในการวิจัยค้นคว้าการติดเชื้อและอีกประการหนึ่งคือเป็นหลักฐานเอกสารประกอบว่าเขาเสียชีวิตอย่างไรหากว่ามันได้เกิดขึ้นจริงๆแบละ!

หลังจากที่แองเจนั้นจากไปไม่นานศพของชายคนหนึ่งถูกโยนทิ้งไปไม่ไกลจากตําแหน่งของเขาในขณะที่มาร์คกําลังรอการเคลื่อนไหวใดๆอยู่แล้วเขาก็ ไม่ได้สะดุ้งตื่นตกใจจากการปรากฏตัวของซากศพ และมันยังทําให้เขากําหนด ตําแหน่งของสิ่งมีชีวิตที่เขากําลังมองหาเขาสามารถเห็นเงาของผู้หญิงคนหนึ่งกําลังเดินอยู่ในด้านมืดของที่จอดรถตรงกลางระหว่างรถสองคัน

สิ่งมีชีวิตนั้นเดินออกมาอยู่ในที่ที่มีแสง ไฟอย่างเชื่องช้า และในที่สุดมาร์คก็เห็นมัน

มันเป็นเพศหญิงที่อายุน่าจะห่างกับเขาอยู่หลายปีซึ่งสวมใส่เพียงแค่ชุดชั้นในเธอมีผมยาวสีดําและใบหน้าที่ดูดีแต่ตอนนี้ใบหน้าครึ่งซ้ายของเธอเป็นส่วนเดียวที่ดูดี

ที่ครึ่งขวาของร่างกายเธอตั้งแต่เท้าจนถึงใบหน้าเหมือนมีชุดเกราะสีเทาซึ่งมีพื้นผิวคล้ายกับกระดูกมนุษย์ห่อหุ้มตัวเธออยู่มีกระดูกแหลมสีดําหลายชิ้นยื่นออกมาจากข้อต่อบางส่วนทางด้านขวาของร่างกายเช่นหัวเข่าขวาข้อศอกขวาและไหล่ขวานอกจากนี้ยังมีกระดูกแหลมหลายชิ้นที่ยื่นออกมาจากหน้าอกของเธอและยังทะลุผ่านหน้าอกขวาของเธอซึ่งดูเหมือนส่วนของกรงซี่โครงของเธอด้วยตาขวาของเธอก็ส่องสว่างเป็นสีเหลืองและจ้องตรงมาที่มาร์คราวกับว่าเขาง่ายที่จะกําจัดร่างของเธอและเกราะนั่นก็เต็มกระจายไปด้วยเลือดที่ปลายนิ้วของเธอยังมีกรงเล็บสีดงอกขึ้นที่เล็บของเธออีกด้วย

เธอเดินลากเท้าซ้ายและเอียงศีรษะไปทางด้านซ้ายหยดเลือดหล่นลงจากคางและกรงเล็บของเธอไปที่พื้น

บนส่วนที่ไม่มีการปกปิดของร่างกายเธอเผยให้เห็นชุดชั้นในสีดําทั้งบนและล่างและผิวหนังของเธอก็เปื้อนและมีเลือดไหลออกมาแม้แต่ใบหน้าซีกซ้ายของเธอก็ยังเปรอะไปด้วยหยดเลือ

มาร์คก็ได้แต่ตะลึงงันใบหน้าของเธอ ไม่ได้เปรอะเปื้อนไปด้วยเลือกที่มาจากคนอื่นๆแต่รวมถึงเลือดของเธอไปด้วยเช่ นกัน ดวงตาข้างซ้ายของเธอยังคงมีน้ําตาร่วงหล่นออกมาเป็นสายน้ําตาแห่งเลือดนอกจากนี้ยังมีร่องรอยของเลือดที่ไหลออกมาจากปากของเธอ

เขาเอื้อมไปแตะคอเสื้อของเขาจากนั้นก็เล่นเพลงจากโทรศัพท์ของเขาขึ้นมาเขาสร้างความแน่ใจว่าระดับเสียงนั้นพอที่จะได้ยินเสียงเพลงในขณะที่ก็ได้ยินเสียงตามรอบๆตัวของเขาด้วยดังนั้นเขา จะต้องสามารถได้ยินเสียงเมื่อประตูทางเข้าถูกเปิดออก

เพลงได้เริ่มบรรเลงเล่นขึ้นจากนั้นดวงตาของมาร์คก็ได้ขยายออกและเขาก็กระโดดและกลิ้งไปทางขวาทันที
ในทันทีที่เขากลิ้งออกไปมีแสงสีดําหลายดวงปรากฏขึ้นในที่เขาได้ยืนก่อนหน้านี้เร็วมาก!

ทันทีที่เขาเล่นเพลง ผู้หญิงที่มีเกราะกระดูกก็เดินผ่านไปประมาณสิบเมตรในพริบตา!

แม้ว่าซอมบี้หญิงตัวนี้จะมีความว่องไว้ แต่อย่างไรแอ็บบีเกลนั้นก็ว่องไวกว่ามาร์คมองเห็นเพียงเงาสีแดงก่อนหน้านี้ แต่เขายังต้องตอบสนองต่อการเคลื่อนไหวของซอมบี้หญิงคนนี้ให้ได้

หลังจากม้วนตัวไปกับพื้น มาร์คก็ยืน ขึ้นและกระโดดไปข้างหลังก่อนที่จะยิงปืนลูกซองไปหาซอมบี้หญิงตัวนั้น

ปัง!

“โธ่เว้ย!”

มาร์คบ่นด่าอยู่ในใจ

ซอมบี้หญิงกลายพันธุ์ตัวนี้มีสัญชาต ญาณที่ดีกว่าเมื่อเทียบกับซอมบี้กลายพันธุ์ที่เขาเจอมาก่อน! เมื่อมาร์คยิงปืนลูกซองออกไป มันได้กระโดดขึ้นโดยใช้เท้าหุ้มเกราะขวาของมันและขับเคลื่อนตัวเองไปยังเพดาน

มันมีระยะห่างที่สูงราวๆเจ็ดเมตร

ซอมบี้หญิงนั้นใช้กรงเล็บของมันยึดกับเพดานเอาไว้มันหมุนร่างของตัวเองไปข้างหน้าและเตะเพดานผลักร่างของมันเข้าหามาร์ค
มาร์คต้องการยิงใส่มันอีกครั้งเมื่อต้องหลบไปทางซ้ายเพราะเขาไม่กล้าเผชิญหน้ากับการโจมตีของมันถ้าเขาเผชิญหน้ากับมันแม้แต่ครั้งเดียวเขาก็จะกลายเป็นเนื้อสับชิ้นดีให้มัน!เกราะป้องกันของเขานั้นไม่สามารถที่จะป้องป้องเขาจากสิ่งที่สามารถแทงทะลุเพดานคอนกรีตได้อย่างง่ายดายเช่นเดียวกับกรงเล็บของซอมบี้หญิงตัวนี้!

ขอหลังจากที่เขาหลบถอย เขาก็หันหน้า ไปทางด้านข้างของหุ้มเกราะของซอมบี้หญิงตัวนั้น ซอมบี้หญิงล้มลงบนพื้นพร้อมกับที่มันกวาดกรงเล็บของเธอไปในกลางอากาศ

ปัง!

ซอมบี้หญิงกลายพันธุ์พยายามโดดอีก ครั้งเพื่อนถอยหนีกระสุนปืนที่พุ่งเป้ามา ที่ศรีษะของมัน แต่เมื่อมันได้อยู่ในระยะ ประชิด มันจึงไม่สามารถที่จะถอยหลบไปได้อย่างเต็มที่ เม็ดกระสุนจากปืนกระ ทบที่ไหล่ขวาของมันทําให้มันเด็นถอยหลังไป

ต้องล้อกันเล่นแน่ๆ!

มาร์คจ้องมองด้วยความเหลือเชื่อ เมื่อ เขาเห็นจุดที่โดนยิงมีเพียงแค่รอยบุบบนเกราะที่คลุมไหล่ของมันแต่ส่วนใหญ่ นั้นก็ไม่เสื่อมเสียบุบสลายไป!

ซอมบี้หญิงหันมาทางเขา จ้องมองเป็นระยะพร้อมกับดวงตาเบิกโตที่เปล่งประกายและพุ่งพรวดเข้าหามาร์ค

การระเบิดอารมณ์ที่มาจากซอมบี้หญิง ตัวนั้นอย่างกะทันหันทําให้ดวงตาของมาร์คพร่ามัวในเวลาไม่ถึงวินาทีถึงแม้ว่าจะเป็นช่วงเวลาสั้นๆที่เขาสูญเสียโฟกัสทําให้ก็ได้ทําให้เขาเสียโอกาสที่จะหลบซอมบี้หญิงตัวนั้นอย่างเต็มที่

มาร์คกระโดดและม้วนตัวไปทางด้าน ขวา แต่กรงเล็บของมันเกี่ยวกับหมวกป้องกันเพื่อปัดกระจกที่ปิดหมวกของ เขา ตอนนี้หน้าหมวกของเขาก็แตกออกโชคดีที่ฝากระจกของหมวกกันน็อคทํา ด้วยอะคลิลิค ไม่เช่นนั้นใบหน้าของเขาอาจจะมีบาดแผลจากเศษกระจกที่ แตกหลายออกพันชิ้น

เขาเกือบตายจากการจู่โจม เขา ควรรั้งตัวเองจากความผันผวนทางอารมณ์ที่รุนแรงดั่งสัตว์ป่าของซอมบี้หญิง ตัวนี้หรือความสามารถของเขาในฐานะที่เป็นโรคซึมซับอารมณ์จากผู้อื่นได้ ความ สามารถนั่นจะเป็นตัวดึงเขาเข้าไปสู่ความตาย

ปัง! ปัง+

มาร์คยิงไปอีกสองครั้งด้วยความสําเร็จ นัดที่หนึ่งโดนไปที่หุ้มเกราะที่เอวของมันแต่มันสามารถหลบกระสุนนัดที่สองได้ในขณะที่มันได้กระโดดหนี้อย่างไรก็ตามนั่นคือสิ่งเขาต้องการเขาไม่ต้อง การฆ่ามันด้วยกระสุนเหล่านั้นแต่เขาต้องการให้มันหนีไปไกลๆ

เขากระโดดถอยหลังไปหลังจากการยิงครั้งที่สองและวิ่งไปหลบหลังรถเก๋งที่อยู่ใกล้ๆเขาตัดสินใจที่จะถอดหมวกออกซึ่งมันคงไม่มีประโยชน์ใดๆแล้วในสนามรบตอนนี้และแถมยังเป็นอุปสรรคใน การต่อสู้ของเขาด้วยเนื่องจากเศษกระจกที่แตกอยู่

มาร์คถอดกล้องบลูทูธบนหมวกออกและเกี่ยวติดมันไว้ที่คอเสื้อของเขา

จากนั้นเขาก็ได้วิ่งหนีออกไปจากรถเมื่อเขาได้ยินเสียงหลังคารถทุ่มลงไปเพ ราะซอมบี้หญิงตัวนั้นกระโดดขึ้นไปบนหลังคารถปัง!

มาร์คยิงไปที่ซอมบี้หญิงที่อยู่บนหลังคารถทําให้มาร์คกระโดดขึ้นไปสู่เพดานจากนั้นมันก็ได้เตะเพดานอีกครั้งและขับเคลื่อนพุ่งตัวเข้าไปหามาร์คเพียงเพื่อที่จะได้รับการโจมตีแบบที่ไม่ได้คาดหมายของเขา

มาร์คโยนหมวกป้องกันใส่ซอมบี้หญิงที่กําลังพุ่งตัวมาหาเขามันก็ได้ฉีกนั่น หมวกกันน็อคออกเป็นชิ้นๆแต่มันนั้นก็ได้เสียโอกาสที่จะเข้าไปโจมตีมาร์คที่ได้รออยู่ตรงหน้ามัน

ปัง!

ร่างของมันหมุนไปข้างหลังเมื่อถูกยิง ไปที่ใบหน้ามาร์คไม่ได้ปลื้มยินดีนักอย่างไรก็ตามซอมบหญิงตัวนี้หันใบหน้าครึ่งหนึ่งที่ไม่มีการป้องกันหนีออกไปในช่วงสุดท้ายทําให้กระสุนโดนไปที่แก้มที่มีหุ้มเกราะด้านขวาของมัน

ซอมบี้หญิงล้มลงไปกับพื้นคอนกรีต แต่มาร์คไม่ได้พุ่งโจมตีลีลาต่อไปเขาได้วิ่งหนีไปหลบอยู่ข้างหลังรถอีกคันในขณะที่มือขวาของเขาเอื้อมไปหยิบล้วงของในกระเป๋าเข็มขัดของเขา

เขาต้องโหลดกระสุนใหม่!

แปลกมาก เขาโหลดกระสุนเสร็จและ ไม่ได้รับการจู่โจมใดๆ

“อ่าาาาาาาาห์!!!!”

มาร์คได้ยินซอมบี้หญิงกลายพันธุ์ร้อง ตะโกน มันไม่ใช่เสียงตะโกนเตือนให้สัญญานกับศัตรูของมัน และไม่ใช่เสียง ตะโกนเพื่อเรียกซอมบี้ตัวอื่นๆเข้ามามันคือเสียงตะโกนร้องแห่งความเจ็บปวด

มาร์คแอบมองจากทางด้านหลังรถและเห็นซอมบี้หญิงนั้นยืนอย่างโซเซขณะที่กอดอกไปด้วยเธอพยายามเดินหน้าไปยังทิศทางของมาร์คแต่เขาได้สังเกตเห็นว่าส่วนร่างกายของเธอที่ไม่มีหุ้มเกราะนั้นกําลังรั้งเธอเอาไว้

“วิ่ง…”

มาร์คก็ได้ตกใจซอมบี้หญิงกลายพันธุ์นั้นพูดออกมา!เสียงของเธอนั้นอ่อนแอและสั่นไหว

“วิ่ง!”

เธอตะโกนในขณะที่ตาข้างซ้ายของเธอจ้องไปที่มาร์ค

แสงที่ตาซ้ายของซอมบี้หญิงเริ่มหรี่ลงอีกครั้งและมันก็ได้หยุดพูด หุ้มเกราะกระดูกบนร่างกายของมันเริ่มเติบโตขึ้นจน เหลือเพียงเศษเสี้ยวของเนื้อตามร่างกายกรงเล็บยาวขึ้นและดวงตาสีเหลืองที่ถูกกลายพันธุ์ของเธอก็สว่างไสวขึ้นตาซ้ายของเธอก็ถูกกลนกินไปด้วยสีแล้วครึ่งหนึ่ง

จากนั้นเธอก็เคลื่อนไหวการโจมตีอีก ครั้ง เป็นการโจมตีที่ดุร้ายทรงพลังและรวดเร็วยิ่งขึ้นกว่าเดิมหลายเท่า

มาร์คกระโดดหนีออกไปจากรถ และ การโจมตีของซอมบี้หญิงก็ชนรถทําให้รถน้ําหนัก 2.9 ตันไถลชนไปยังรถอีกคัน ที่จอดอยู่ข้างๆ

ตอนนี้มาร์ครู้แล้วว่าช่วงเวลานั้นคือจุด สําคัญในการเอาชีวิตรอด อาจเป็นไปได้ว่าแองเจสามารถจัดการปล่อยให้ทหาร เข้าไปข้างในให้เร็วที่สุดและฆ่ามนุษย์กลายพันธุ์นี้ก่อนที่ร่างกายของเธอจะถูกปกคลุมด้วยหุ้มเกราะกระดูก

มาร์ครู้ว่าเมื่อเป็นเช่นนั้น หากมันได้เกิดขึ้นจริงๆ ผู้หญิงคนนี้จะอยู่ในร่างที่แข็งแกร่งที่สุดของเธอ

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

มหาวิบัติสงครามการกลายพันธุ์ (Mutagen) 58 : นักกลายพันธุ์หุ้มเกราะ กระดูก

Now you are reading มหาวิบัติสงครามการกลายพันธุ์ (Mutagen) Chapter 58 : นักกลายพันธุ์หุ้มเกราะ กระดูก at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 58 : นักกลายพันธุ์หุ้มเกราะ กระดูก เวลา 21.06 นาฬิกา – ห้างสรรพสินค้า บาคัวร์, พื้นที่ส่วนกลาง, ลานจอดรถชั้น ใต้ดิน มาร์คและแองเจเข้าไปยังส่วนพื้นที่ของลานจอดรถชั้นใต้ดินซึ่งอยู่ข้างล่างพื้นที่ส่วนกลางของห้างพร้อมกับถือปีนด้วยมือทั้งสองข้างของพวกเขาเพื่อพร้อมที่จะยิงอะไรก็ตามที่จะมาพิฆาตพวก เขา เมื่อเข้าก้าวเข้าไปในพื้นที่มีพลังงานความกดดันที่ไม่ทราบสาเหตุที่ห่อหุ้มตามร่างกายของพวกเขามันไม่ใช่ความรู้สึกที่ถูกเฝ้าหรือถูกจ้องลงมาโดยสัตว์ร้ายแต่ราวกับเป็นการก้าวย่างเข้าสู่ ดินแดนของสัตว์ประหลาดที่น่ากลัว พวกเขาอยู่ห่างจากทางเข้าที่จอดรถชั้นใต้ดินไม่ถึงสามสิบเมตร แต่ความกดดันที่พวกเขารู้สึกทําให้พวกเขารู้สึกว่าระ ยะทางไกลกว่านั้น มาร์คมองไปยังทางตรงข้ามของทางเข้าและพูดกับแองเจซึ่งอยู่ข้างหลังเขาด้วยน้ําเสียงเบาต่ํา “แองเจไลน์ ไปที่ทางเข้าและหาแผงควบคุมประตู บอกพวกเขาด้วยว่าอย่า เข้ามากับผู้รอดชีวิตที่พวกเขาพามา วกเขาอาจจะกลายเป็นอุปสรรคของแผนการได้ “แล้วนายล่ะ” “ฉันจะอยู่ที่นี่และเพื่อล่ออะไรก็ตามให้ห่างออกไป ถ้ามันพยายามที่จะจู่โจมเข้ามา” “ก็ได้ ระวังตัวด้วยนะ” แองเจได้หันไปมองมาร์คอีกครั้งและรีบตรงเข้าไปยังทางเข้าโดยไม่ให้เกิดเสียงที่ดังเกินไปมากนัก มาร์คก็ยังจ้องมองทางตรงหน้าเขาต่อไปและพยายามที่จะตรวจจับการเคลื่อนไหวของสิ่งต่างๆ ความผันผวนทางอา รมณ์ที่รุนแรงเพิ่มขึ้นเมื่อพวกเขาเข้ามาในพื้นที่นี้แต่มาร์คนั้นไม่สามารถระบุตํา แหน่งที่แน่นอนได้เนื่องจากภายในพื้นที่จอดรถนั้นมีแสงไฟค่อนข้างที่จะสลัวอย่างมากดูเหมือนว่าไฟหลายดวงถูกเอาไปหรืออาจจะถูกทําลายอย่างจงใจเนื่องจากเขาเจอไฟ LED ที่แตกหลาย ชิ้นอยู่บนพื้น จากนั้นเขาได้เอื้อมไปแตะข้างขวาที่หมวกป้องกันของเขาและเปิดปุ่มที่เขาติดไว้อยู่ที่หมวก มันคือกล้องบลูทูธเล็กๆที่เชื่อมต่อกับโทรศัพท์ของเขาเอาไว้เขาเจอมั่นในกล่องร้านขายสินค้าเขาเริ่มบันทึกกล้องด้วยเหตุผลหลายสาเหตุหนึ่งคือเพื่อวัตถุประสงค์ในการวิจัยค้นคว้าการติดเชื้อและอีกประการหนึ่งคือเป็นหลักฐานเอกสารประกอบว่าเขาเสียชีวิตอย่างไรหากว่ามันได้เกิดขึ้นจริงๆแบละ! หลังจากที่แองเจนั้นจากไปไม่นานศพของชายคนหนึ่งถูกโยนทิ้งไปไม่ไกลจากตําแหน่งของเขาในขณะที่มาร์คกําลังรอการเคลื่อนไหวใดๆอยู่แล้วเขาก็ ไม่ได้สะดุ้งตื่นตกใจจากการปรากฏตัวของซากศพ และมันยังทําให้เขากําหนด ตําแหน่งของสิ่งมีชีวิตที่เขากําลังมองหาเขาสามารถเห็นเงาของผู้หญิงคนหนึ่งกําลังเดินอยู่ในด้านมืดของที่จอดรถตรงกลางระหว่างรถสองคัน สิ่งมีชีวิตนั้นเดินออกมาอยู่ในที่ที่มีแสง ไฟอย่างเชื่องช้า และในที่สุดมาร์คก็เห็นมัน มันเป็นเพศหญิงที่อายุน่าจะห่างกับเขาอยู่หลายปีซึ่งสวมใส่เพียงแค่ชุดชั้นในเธอมีผมยาวสีดําและใบหน้าที่ดูดีแต่ตอนนี้ใบหน้าครึ่งซ้ายของเธอเป็นส่วนเดียวที่ดูดี ที่ครึ่งขวาของร่างกายเธอตั้งแต่เท้าจนถึงใบหน้าเหมือนมีชุดเกราะสีเทาซึ่งมีพื้นผิวคล้ายกับกระดูกมนุษย์ห่อหุ้มตัวเธออยู่มีกระดูกแหลมสีดําหลายชิ้นยื่นออกมาจากข้อต่อบางส่วนทางด้านขวาของร่างกายเช่นหัวเข่าขวาข้อศอกขวาและไหล่ขวานอกจากนี้ยังมีกระดูกแหลมหลายชิ้นที่ยื่นออกมาจากหน้าอกของเธอและยังทะลุผ่านหน้าอกขวาของเธอซึ่งดูเหมือนส่วนของกรงซี่โครงของเธอด้วยตาขวาของเธอก็ส่องสว่างเป็นสีเหลืองและจ้องตรงมาที่มาร์คราวกับว่าเขาง่ายที่จะกําจัดร่างของเธอและเกราะนั่นก็เต็มกระจายไปด้วยเลือดที่ปลายนิ้วของเธอยังมีกรงเล็บสีดงอกขึ้นที่เล็บของเธออีกด้วย เธอเดินลากเท้าซ้ายและเอียงศีรษะไปทางด้านซ้ายหยดเลือดหล่นลงจากคางและกรงเล็บของเธอไปที่พื้น บนส่วนที่ไม่มีการปกปิดของร่างกายเธอเผยให้เห็นชุดชั้นในสีดําทั้งบนและล่างและผิวหนังของเธอก็เปื้อนและมีเลือดไหลออกมาแม้แต่ใบหน้าซีกซ้ายของเธอก็ยังเปรอะไปด้วยหยดเลือ มาร์คก็ได้แต่ตะลึงงันใบหน้าของเธอ ไม่ได้เปรอะเปื้อนไปด้วยเลือกที่มาจากคนอื่นๆแต่รวมถึงเลือดของเธอไปด้วยเช่ นกัน ดวงตาข้างซ้ายของเธอยังคงมีน้ําตาร่วงหล่นออกมาเป็นสายน้ําตาแห่งเลือดนอกจากนี้ยังมีร่องรอยของเลือดที่ไหลออกมาจากปากของเธอ เขาเอื้อมไปแตะคอเสื้อของเขาจากนั้นก็เล่นเพลงจากโทรศัพท์ของเขาขึ้นมาเขาสร้างความแน่ใจว่าระดับเสียงนั้นพอที่จะได้ยินเสียงเพลงในขณะที่ก็ได้ยินเสียงตามรอบๆตัวของเขาด้วยดังนั้นเขา จะต้องสามารถได้ยินเสียงเมื่อประตูทางเข้าถูกเปิดออก เพลงได้เริ่มบรรเลงเล่นขึ้นจากนั้นดวงตาของมาร์คก็ได้ขยายออกและเขาก็กระโดดและกลิ้งไปทางขวาทันที
ในทันทีที่เขากลิ้งออกไปมีแสงสีดําหลายดวงปรากฏขึ้นในที่เขาได้ยืนก่อนหน้านี้เร็วมาก! ทันทีที่เขาเล่นเพลง ผู้หญิงที่มีเกราะกระดูกก็เดินผ่านไปประมาณสิบเมตรในพริบตา! แม้ว่าซอมบี้หญิงตัวนี้จะมีความว่องไว้ แต่อย่างไรแอ็บบีเกลนั้นก็ว่องไวกว่ามาร์คมองเห็นเพียงเงาสีแดงก่อนหน้านี้ แต่เขายังต้องตอบสนองต่อการเคลื่อนไหวของซอมบี้หญิงคนนี้ให้ได้ หลังจากม้วนตัวไปกับพื้น มาร์คก็ยืน ขึ้นและกระโดดไปข้างหลังก่อนที่จะยิงปืนลูกซองไปหาซอมบี้หญิงตัวนั้น ปัง! “โธ่เว้ย!” มาร์คบ่นด่าอยู่ในใจ ซอมบี้หญิงกลายพันธุ์ตัวนี้มีสัญชาต ญาณที่ดีกว่าเมื่อเทียบกับซอมบี้กลายพันธุ์ที่เขาเจอมาก่อน! เมื่อมาร์คยิงปืนลูกซองออกไป มันได้กระโดดขึ้นโดยใช้เท้าหุ้มเกราะขวาของมันและขับเคลื่อนตัวเองไปยังเพดาน มันมีระยะห่างที่สูงราวๆเจ็ดเมตร ซอมบี้หญิงนั้นใช้กรงเล็บของมันยึดกับเพดานเอาไว้มันหมุนร่างของตัวเองไปข้างหน้าและเตะเพดานผลักร่างของมันเข้าหามาร์ค
มาร์คต้องการยิงใส่มันอีกครั้งเมื่อต้องหลบไปทางซ้ายเพราะเขาไม่กล้าเผชิญหน้ากับการโจมตีของมันถ้าเขาเผชิญหน้ากับมันแม้แต่ครั้งเดียวเขาก็จะกลายเป็นเนื้อสับชิ้นดีให้มัน!เกราะป้องกันของเขานั้นไม่สามารถที่จะป้องป้องเขาจากสิ่งที่สามารถแทงทะลุเพดานคอนกรีตได้อย่างง่ายดายเช่นเดียวกับกรงเล็บของซอมบี้หญิงตัวนี้! ขอหลังจากที่เขาหลบถอย เขาก็หันหน้า ไปทางด้านข้างของหุ้มเกราะของซอมบี้หญิงตัวนั้น ซอมบี้หญิงล้มลงบนพื้นพร้อมกับที่มันกวาดกรงเล็บของเธอไปในกลางอากาศ ปัง! ซอมบี้หญิงกลายพันธุ์พยายามโดดอีก ครั้งเพื่อนถอยหนีกระสุนปืนที่พุ่งเป้ามา ที่ศรีษะของมัน แต่เมื่อมันได้อยู่ในระยะ ประชิด มันจึงไม่สามารถที่จะถอยหลบไปได้อย่างเต็มที่ เม็ดกระสุนจากปืนกระ ทบที่ไหล่ขวาของมันทําให้มันเด็นถอยหลังไป ต้องล้อกันเล่นแน่ๆ! มาร์คจ้องมองด้วยความเหลือเชื่อ เมื่อ เขาเห็นจุดที่โดนยิงมีเพียงแค่รอยบุบบนเกราะที่คลุมไหล่ของมันแต่ส่วนใหญ่ นั้นก็ไม่เสื่อมเสียบุบสลายไป! ซอมบี้หญิงหันมาทางเขา จ้องมองเป็นระยะพร้อมกับดวงตาเบิกโตที่เปล่งประกายและพุ่งพรวดเข้าหามาร์ค การระเบิดอารมณ์ที่มาจากซอมบี้หญิง ตัวนั้นอย่างกะทันหันทําให้ดวงตาของมาร์คพร่ามัวในเวลาไม่ถึงวินาทีถึงแม้ว่าจะเป็นช่วงเวลาสั้นๆที่เขาสูญเสียโฟกัสทําให้ก็ได้ทําให้เขาเสียโอกาสที่จะหลบซอมบี้หญิงตัวนั้นอย่างเต็มที่ มาร์คกระโดดและม้วนตัวไปทางด้าน ขวา แต่กรงเล็บของมันเกี่ยวกับหมวกป้องกันเพื่อปัดกระจกที่ปิดหมวกของ เขา ตอนนี้หน้าหมวกของเขาก็แตกออกโชคดีที่ฝากระจกของหมวกกันน็อคทํา ด้วยอะคลิลิค ไม่เช่นนั้นใบหน้าของเขาอาจจะมีบาดแผลจากเศษกระจกที่ แตกหลายออกพันชิ้น เขาเกือบตายจากการจู่โจม เขา ควรรั้งตัวเองจากความผันผวนทางอารมณ์ที่รุนแรงดั่งสัตว์ป่าของซอมบี้หญิง ตัวนี้หรือความสามารถของเขาในฐานะที่เป็นโรคซึมซับอารมณ์จากผู้อื่นได้ ความ สามารถนั่นจะเป็นตัวดึงเขาเข้าไปสู่ความตาย ปัง! ปัง+ มาร์คยิงไปอีกสองครั้งด้วยความสําเร็จ นัดที่หนึ่งโดนไปที่หุ้มเกราะที่เอวของมันแต่มันสามารถหลบกระสุนนัดที่สองได้ในขณะที่มันได้กระโดดหนี้อย่างไรก็ตามนั่นคือสิ่งเขาต้องการเขาไม่ต้อง การฆ่ามันด้วยกระสุนเหล่านั้นแต่เขาต้องการให้มันหนีไปไกลๆ เขากระโดดถอยหลังไปหลังจากการยิงครั้งที่สองและวิ่งไปหลบหลังรถเก๋งที่อยู่ใกล้ๆเขาตัดสินใจที่จะถอดหมวกออกซึ่งมันคงไม่มีประโยชน์ใดๆแล้วในสนามรบตอนนี้และแถมยังเป็นอุปสรรคใน การต่อสู้ของเขาด้วยเนื่องจากเศษกระจกที่แตกอยู่ มาร์คถอดกล้องบลูทูธบนหมวกออกและเกี่ยวติดมันไว้ที่คอเสื้อของเขา จากนั้นเขาก็ได้วิ่งหนีออกไปจากรถเมื่อเขาได้ยินเสียงหลังคารถทุ่มลงไปเพ ราะซอมบี้หญิงตัวนั้นกระโดดขึ้นไปบนหลังคารถปัง! มาร์คยิงไปที่ซอมบี้หญิงที่อยู่บนหลังคารถทําให้มาร์คกระโดดขึ้นไปสู่เพดานจากนั้นมันก็ได้เตะเพดานอีกครั้งและขับเคลื่อนพุ่งตัวเข้าไปหามาร์คเพียงเพื่อที่จะได้รับการโจมตีแบบที่ไม่ได้คาดหมายของเขา มาร์คโยนหมวกป้องกันใส่ซอมบี้หญิงที่กําลังพุ่งตัวมาหาเขามันก็ได้ฉีกนั่น หมวกกันน็อคออกเป็นชิ้นๆแต่มันนั้นก็ได้เสียโอกาสที่จะเข้าไปโจมตีมาร์คที่ได้รออยู่ตรงหน้ามัน ปัง! ร่างของมันหมุนไปข้างหลังเมื่อถูกยิง ไปที่ใบหน้ามาร์คไม่ได้ปลื้มยินดีนักอย่างไรก็ตามซอมบหญิงตัวนี้หันใบหน้าครึ่งหนึ่งที่ไม่มีการป้องกันหนีออกไปในช่วงสุดท้ายทําให้กระสุนโดนไปที่แก้มที่มีหุ้มเกราะด้านขวาของมัน ซอมบี้หญิงล้มลงไปกับพื้นคอนกรีต แต่มาร์คไม่ได้พุ่งโจมตีลีลาต่อไปเขาได้วิ่งหนีไปหลบอยู่ข้างหลังรถอีกคันในขณะที่มือขวาของเขาเอื้อมไปหยิบล้วงของในกระเป๋าเข็มขัดของเขา เขาต้องโหลดกระสุนใหม่! แปลกมาก เขาโหลดกระสุนเสร็จและ ไม่ได้รับการจู่โจมใดๆ “อ่าาาาาาาาห์!!!!” มาร์คได้ยินซอมบี้หญิงกลายพันธุ์ร้อง ตะโกน มันไม่ใช่เสียงตะโกนเตือนให้สัญญานกับศัตรูของมัน และไม่ใช่เสียง ตะโกนเพื่อเรียกซอมบี้ตัวอื่นๆเข้ามามันคือเสียงตะโกนร้องแห่งความเจ็บปวด มาร์คแอบมองจากทางด้านหลังรถและเห็นซอมบี้หญิงนั้นยืนอย่างโซเซขณะที่กอดอกไปด้วยเธอพยายามเดินหน้าไปยังทิศทางของมาร์คแต่เขาได้สังเกตเห็นว่าส่วนร่างกายของเธอที่ไม่มีหุ้มเกราะนั้นกําลังรั้งเธอเอาไว้ “วิ่ง…” มาร์คก็ได้ตกใจซอมบี้หญิงกลายพันธุ์นั้นพูดออกมา!เสียงของเธอนั้นอ่อนแอและสั่นไหว “วิ่ง!” เธอตะโกนในขณะที่ตาข้างซ้ายของเธอจ้องไปที่มาร์ค แสงที่ตาซ้ายของซอมบี้หญิงเริ่มหรี่ลงอีกครั้งและมันก็ได้หยุดพูด หุ้มเกราะกระดูกบนร่างกายของมันเริ่มเติบโตขึ้นจน เหลือเพียงเศษเสี้ยวของเนื้อตามร่างกายกรงเล็บยาวขึ้นและดวงตาสีเหลืองที่ถูกกลายพันธุ์ของเธอก็สว่างไสวขึ้นตาซ้ายของเธอก็ถูกกลนกินไปด้วยสีแล้วครึ่งหนึ่ง จากนั้นเธอก็เคลื่อนไหวการโจมตีอีก ครั้ง เป็นการโจมตีที่ดุร้ายทรงพลังและรวดเร็วยิ่งขึ้นกว่าเดิมหลายเท่า มาร์คกระโดดหนีออกไปจากรถ และ การโจมตีของซอมบี้หญิงก็ชนรถทําให้รถน้ําหนัก 2.9 ตันไถลชนไปยังรถอีกคัน ที่จอดอยู่ข้างๆ ตอนนี้มาร์ครู้แล้วว่าช่วงเวลานั้นคือจุด สําคัญในการเอาชีวิตรอด อาจเป็นไปได้ว่าแองเจสามารถจัดการปล่อยให้ทหาร เข้าไปข้างในให้เร็วที่สุดและฆ่ามนุษย์กลายพันธุ์นี้ก่อนที่ร่างกายของเธอจะถูกปกคลุมด้วยหุ้มเกราะกระดูก มาร์ครู้ว่าเมื่อเป็นเช่นนั้น หากมันได้เกิดขึ้นจริงๆ ผู้หญิงคนนี้จะอยู่ในร่างที่แข็งแกร่งที่สุดของเธอ

ตอนที่ 58 : นักกลายพันธุ์หุ้มเกราะ กระดูก

เวลา 21.06 นาฬิกา – ห้างสรรพสินค้า บาคัวร์, พื้นที่ส่วนกลาง, ลานจอดรถชั้น ใต้ดิน

มาร์คและแองเจเข้าไปยังส่วนพื้นที่ของลานจอดรถชั้นใต้ดินซึ่งอยู่ข้างล่างพื้นที่ส่วนกลางของห้างพร้อมกับถือปีนด้วยมือทั้งสองข้างของพวกเขาเพื่อพร้อมที่จะยิงอะไรก็ตามที่จะมาพิฆาตพวก เขา เมื่อเข้าก้าวเข้าไปในพื้นที่มีพลังงานความกดดันที่ไม่ทราบสาเหตุที่ห่อหุ้มตามร่างกายของพวกเขามันไม่ใช่ความรู้สึกที่ถูกเฝ้าหรือถูกจ้องลงมาโดยสัตว์ร้ายแต่ราวกับเป็นการก้าวย่างเข้าสู่ ดินแดนของสัตว์ประหลาดที่น่ากลัว

พวกเขาอยู่ห่างจากทางเข้าที่จอดรถชั้นใต้ดินไม่ถึงสามสิบเมตร แต่ความกดดันที่พวกเขารู้สึกทําให้พวกเขารู้สึกว่าระ ยะทางไกลกว่านั้น

มาร์คมองไปยังทางตรงข้ามของทางเข้าและพูดกับแองเจซึ่งอยู่ข้างหลังเขาด้วยน้ําเสียงเบาต่ํา

“แองเจไลน์ ไปที่ทางเข้าและหาแผงควบคุมประตู บอกพวกเขาด้วยว่าอย่า เข้ามากับผู้รอดชีวิตที่พวกเขาพามา วกเขาอาจจะกลายเป็นอุปสรรคของแผนการได้

“แล้วนายล่ะ”

“ฉันจะอยู่ที่นี่และเพื่อล่ออะไรก็ตามให้ห่างออกไป ถ้ามันพยายามที่จะจู่โจมเข้ามา”

“ก็ได้ ระวังตัวด้วยนะ”

แองเจได้หันไปมองมาร์คอีกครั้งและรีบตรงเข้าไปยังทางเข้าโดยไม่ให้เกิดเสียงที่ดังเกินไปมากนัก

มาร์คก็ยังจ้องมองทางตรงหน้าเขาต่อไปและพยายามที่จะตรวจจับการเคลื่อนไหวของสิ่งต่างๆ ความผันผวนทางอา รมณ์ที่รุนแรงเพิ่มขึ้นเมื่อพวกเขาเข้ามาในพื้นที่นี้แต่มาร์คนั้นไม่สามารถระบุตํา แหน่งที่แน่นอนได้เนื่องจากภายในพื้นที่จอดรถนั้นมีแสงไฟค่อนข้างที่จะสลัวอย่างมากดูเหมือนว่าไฟหลายดวงถูกเอาไปหรืออาจจะถูกทําลายอย่างจงใจเนื่องจากเขาเจอไฟ LED ที่แตกหลาย ชิ้นอยู่บนพื้น

จากนั้นเขาได้เอื้อมไปแตะข้างขวาที่หมวกป้องกันของเขาและเปิดปุ่มที่เขาติดไว้อยู่ที่หมวก มันคือกล้องบลูทูธเล็กๆที่เชื่อมต่อกับโทรศัพท์ของเขาเอาไว้เขาเจอมั่นในกล่องร้านขายสินค้าเขาเริ่มบันทึกกล้องด้วยเหตุผลหลายสาเหตุหนึ่งคือเพื่อวัตถุประสงค์ในการวิจัยค้นคว้าการติดเชื้อและอีกประการหนึ่งคือเป็นหลักฐานเอกสารประกอบว่าเขาเสียชีวิตอย่างไรหากว่ามันได้เกิดขึ้นจริงๆแบละ!

หลังจากที่แองเจนั้นจากไปไม่นานศพของชายคนหนึ่งถูกโยนทิ้งไปไม่ไกลจากตําแหน่งของเขาในขณะที่มาร์คกําลังรอการเคลื่อนไหวใดๆอยู่แล้วเขาก็ ไม่ได้สะดุ้งตื่นตกใจจากการปรากฏตัวของซากศพ และมันยังทําให้เขากําหนด ตําแหน่งของสิ่งมีชีวิตที่เขากําลังมองหาเขาสามารถเห็นเงาของผู้หญิงคนหนึ่งกําลังเดินอยู่ในด้านมืดของที่จอดรถตรงกลางระหว่างรถสองคัน

สิ่งมีชีวิตนั้นเดินออกมาอยู่ในที่ที่มีแสง ไฟอย่างเชื่องช้า และในที่สุดมาร์คก็เห็นมัน

มันเป็นเพศหญิงที่อายุน่าจะห่างกับเขาอยู่หลายปีซึ่งสวมใส่เพียงแค่ชุดชั้นในเธอมีผมยาวสีดําและใบหน้าที่ดูดีแต่ตอนนี้ใบหน้าครึ่งซ้ายของเธอเป็นส่วนเดียวที่ดูดี

ที่ครึ่งขวาของร่างกายเธอตั้งแต่เท้าจนถึงใบหน้าเหมือนมีชุดเกราะสีเทาซึ่งมีพื้นผิวคล้ายกับกระดูกมนุษย์ห่อหุ้มตัวเธออยู่มีกระดูกแหลมสีดําหลายชิ้นยื่นออกมาจากข้อต่อบางส่วนทางด้านขวาของร่างกายเช่นหัวเข่าขวาข้อศอกขวาและไหล่ขวานอกจากนี้ยังมีกระดูกแหลมหลายชิ้นที่ยื่นออกมาจากหน้าอกของเธอและยังทะลุผ่านหน้าอกขวาของเธอซึ่งดูเหมือนส่วนของกรงซี่โครงของเธอด้วยตาขวาของเธอก็ส่องสว่างเป็นสีเหลืองและจ้องตรงมาที่มาร์คราวกับว่าเขาง่ายที่จะกําจัดร่างของเธอและเกราะนั่นก็เต็มกระจายไปด้วยเลือดที่ปลายนิ้วของเธอยังมีกรงเล็บสีดงอกขึ้นที่เล็บของเธออีกด้วย

เธอเดินลากเท้าซ้ายและเอียงศีรษะไปทางด้านซ้ายหยดเลือดหล่นลงจากคางและกรงเล็บของเธอไปที่พื้น

บนส่วนที่ไม่มีการปกปิดของร่างกายเธอเผยให้เห็นชุดชั้นในสีดําทั้งบนและล่างและผิวหนังของเธอก็เปื้อนและมีเลือดไหลออกมาแม้แต่ใบหน้าซีกซ้ายของเธอก็ยังเปรอะไปด้วยหยดเลือ

มาร์คก็ได้แต่ตะลึงงันใบหน้าของเธอ ไม่ได้เปรอะเปื้อนไปด้วยเลือกที่มาจากคนอื่นๆแต่รวมถึงเลือดของเธอไปด้วยเช่ นกัน ดวงตาข้างซ้ายของเธอยังคงมีน้ําตาร่วงหล่นออกมาเป็นสายน้ําตาแห่งเลือดนอกจากนี้ยังมีร่องรอยของเลือดที่ไหลออกมาจากปากของเธอ

เขาเอื้อมไปแตะคอเสื้อของเขาจากนั้นก็เล่นเพลงจากโทรศัพท์ของเขาขึ้นมาเขาสร้างความแน่ใจว่าระดับเสียงนั้นพอที่จะได้ยินเสียงเพลงในขณะที่ก็ได้ยินเสียงตามรอบๆตัวของเขาด้วยดังนั้นเขา จะต้องสามารถได้ยินเสียงเมื่อประตูทางเข้าถูกเปิดออก

เพลงได้เริ่มบรรเลงเล่นขึ้นจากนั้นดวงตาของมาร์คก็ได้ขยายออกและเขาก็กระโดดและกลิ้งไปทางขวาทันที
ในทันทีที่เขากลิ้งออกไปมีแสงสีดําหลายดวงปรากฏขึ้นในที่เขาได้ยืนก่อนหน้านี้เร็วมาก!

ทันทีที่เขาเล่นเพลง ผู้หญิงที่มีเกราะกระดูกก็เดินผ่านไปประมาณสิบเมตรในพริบตา!

แม้ว่าซอมบี้หญิงตัวนี้จะมีความว่องไว้ แต่อย่างไรแอ็บบีเกลนั้นก็ว่องไวกว่ามาร์คมองเห็นเพียงเงาสีแดงก่อนหน้านี้ แต่เขายังต้องตอบสนองต่อการเคลื่อนไหวของซอมบี้หญิงคนนี้ให้ได้

หลังจากม้วนตัวไปกับพื้น มาร์คก็ยืน ขึ้นและกระโดดไปข้างหลังก่อนที่จะยิงปืนลูกซองไปหาซอมบี้หญิงตัวนั้น

ปัง!

“โธ่เว้ย!”

มาร์คบ่นด่าอยู่ในใจ

ซอมบี้หญิงกลายพันธุ์ตัวนี้มีสัญชาต ญาณที่ดีกว่าเมื่อเทียบกับซอมบี้กลายพันธุ์ที่เขาเจอมาก่อน! เมื่อมาร์คยิงปืนลูกซองออกไป มันได้กระโดดขึ้นโดยใช้เท้าหุ้มเกราะขวาของมันและขับเคลื่อนตัวเองไปยังเพดาน

มันมีระยะห่างที่สูงราวๆเจ็ดเมตร

ซอมบี้หญิงนั้นใช้กรงเล็บของมันยึดกับเพดานเอาไว้มันหมุนร่างของตัวเองไปข้างหน้าและเตะเพดานผลักร่างของมันเข้าหามาร์ค
มาร์คต้องการยิงใส่มันอีกครั้งเมื่อต้องหลบไปทางซ้ายเพราะเขาไม่กล้าเผชิญหน้ากับการโจมตีของมันถ้าเขาเผชิญหน้ากับมันแม้แต่ครั้งเดียวเขาก็จะกลายเป็นเนื้อสับชิ้นดีให้มัน!เกราะป้องกันของเขานั้นไม่สามารถที่จะป้องป้องเขาจากสิ่งที่สามารถแทงทะลุเพดานคอนกรีตได้อย่างง่ายดายเช่นเดียวกับกรงเล็บของซอมบี้หญิงตัวนี้!

ขอหลังจากที่เขาหลบถอย เขาก็หันหน้า ไปทางด้านข้างของหุ้มเกราะของซอมบี้หญิงตัวนั้น ซอมบี้หญิงล้มลงบนพื้นพร้อมกับที่มันกวาดกรงเล็บของเธอไปในกลางอากาศ

ปัง!

ซอมบี้หญิงกลายพันธุ์พยายามโดดอีก ครั้งเพื่อนถอยหนีกระสุนปืนที่พุ่งเป้ามา ที่ศรีษะของมัน แต่เมื่อมันได้อยู่ในระยะ ประชิด มันจึงไม่สามารถที่จะถอยหลบไปได้อย่างเต็มที่ เม็ดกระสุนจากปืนกระ ทบที่ไหล่ขวาของมันทําให้มันเด็นถอยหลังไป

ต้องล้อกันเล่นแน่ๆ!

มาร์คจ้องมองด้วยความเหลือเชื่อ เมื่อ เขาเห็นจุดที่โดนยิงมีเพียงแค่รอยบุบบนเกราะที่คลุมไหล่ของมันแต่ส่วนใหญ่ นั้นก็ไม่เสื่อมเสียบุบสลายไป!

ซอมบี้หญิงหันมาทางเขา จ้องมองเป็นระยะพร้อมกับดวงตาเบิกโตที่เปล่งประกายและพุ่งพรวดเข้าหามาร์ค

การระเบิดอารมณ์ที่มาจากซอมบี้หญิง ตัวนั้นอย่างกะทันหันทําให้ดวงตาของมาร์คพร่ามัวในเวลาไม่ถึงวินาทีถึงแม้ว่าจะเป็นช่วงเวลาสั้นๆที่เขาสูญเสียโฟกัสทําให้ก็ได้ทําให้เขาเสียโอกาสที่จะหลบซอมบี้หญิงตัวนั้นอย่างเต็มที่

มาร์คกระโดดและม้วนตัวไปทางด้าน ขวา แต่กรงเล็บของมันเกี่ยวกับหมวกป้องกันเพื่อปัดกระจกที่ปิดหมวกของ เขา ตอนนี้หน้าหมวกของเขาก็แตกออกโชคดีที่ฝากระจกของหมวกกันน็อคทํา ด้วยอะคลิลิค ไม่เช่นนั้นใบหน้าของเขาอาจจะมีบาดแผลจากเศษกระจกที่ แตกหลายออกพันชิ้น

เขาเกือบตายจากการจู่โจม เขา ควรรั้งตัวเองจากความผันผวนทางอารมณ์ที่รุนแรงดั่งสัตว์ป่าของซอมบี้หญิง ตัวนี้หรือความสามารถของเขาในฐานะที่เป็นโรคซึมซับอารมณ์จากผู้อื่นได้ ความ สามารถนั่นจะเป็นตัวดึงเขาเข้าไปสู่ความตาย

ปัง! ปัง+

มาร์คยิงไปอีกสองครั้งด้วยความสําเร็จ นัดที่หนึ่งโดนไปที่หุ้มเกราะที่เอวของมันแต่มันสามารถหลบกระสุนนัดที่สองได้ในขณะที่มันได้กระโดดหนี้อย่างไรก็ตามนั่นคือสิ่งเขาต้องการเขาไม่ต้อง การฆ่ามันด้วยกระสุนเหล่านั้นแต่เขาต้องการให้มันหนีไปไกลๆ

เขากระโดดถอยหลังไปหลังจากการยิงครั้งที่สองและวิ่งไปหลบหลังรถเก๋งที่อยู่ใกล้ๆเขาตัดสินใจที่จะถอดหมวกออกซึ่งมันคงไม่มีประโยชน์ใดๆแล้วในสนามรบตอนนี้และแถมยังเป็นอุปสรรคใน การต่อสู้ของเขาด้วยเนื่องจากเศษกระจกที่แตกอยู่

มาร์คถอดกล้องบลูทูธบนหมวกออกและเกี่ยวติดมันไว้ที่คอเสื้อของเขา

จากนั้นเขาก็ได้วิ่งหนีออกไปจากรถเมื่อเขาได้ยินเสียงหลังคารถทุ่มลงไปเพ ราะซอมบี้หญิงตัวนั้นกระโดดขึ้นไปบนหลังคารถปัง!

มาร์คยิงไปที่ซอมบี้หญิงที่อยู่บนหลังคารถทําให้มาร์คกระโดดขึ้นไปสู่เพดานจากนั้นมันก็ได้เตะเพดานอีกครั้งและขับเคลื่อนพุ่งตัวเข้าไปหามาร์คเพียงเพื่อที่จะได้รับการโจมตีแบบที่ไม่ได้คาดหมายของเขา

มาร์คโยนหมวกป้องกันใส่ซอมบี้หญิงที่กําลังพุ่งตัวมาหาเขามันก็ได้ฉีกนั่น หมวกกันน็อคออกเป็นชิ้นๆแต่มันนั้นก็ได้เสียโอกาสที่จะเข้าไปโจมตีมาร์คที่ได้รออยู่ตรงหน้ามัน

ปัง!

ร่างของมันหมุนไปข้างหลังเมื่อถูกยิง ไปที่ใบหน้ามาร์คไม่ได้ปลื้มยินดีนักอย่างไรก็ตามซอมบหญิงตัวนี้หันใบหน้าครึ่งหนึ่งที่ไม่มีการป้องกันหนีออกไปในช่วงสุดท้ายทําให้กระสุนโดนไปที่แก้มที่มีหุ้มเกราะด้านขวาของมัน

ซอมบี้หญิงล้มลงไปกับพื้นคอนกรีต แต่มาร์คไม่ได้พุ่งโจมตีลีลาต่อไปเขาได้วิ่งหนีไปหลบอยู่ข้างหลังรถอีกคันในขณะที่มือขวาของเขาเอื้อมไปหยิบล้วงของในกระเป๋าเข็มขัดของเขา

เขาต้องโหลดกระสุนใหม่!

แปลกมาก เขาโหลดกระสุนเสร็จและ ไม่ได้รับการจู่โจมใดๆ

“อ่าาาาาาาาห์!!!!”

มาร์คได้ยินซอมบี้หญิงกลายพันธุ์ร้อง ตะโกน มันไม่ใช่เสียงตะโกนเตือนให้สัญญานกับศัตรูของมัน และไม่ใช่เสียง ตะโกนเพื่อเรียกซอมบี้ตัวอื่นๆเข้ามามันคือเสียงตะโกนร้องแห่งความเจ็บปวด

มาร์คแอบมองจากทางด้านหลังรถและเห็นซอมบี้หญิงนั้นยืนอย่างโซเซขณะที่กอดอกไปด้วยเธอพยายามเดินหน้าไปยังทิศทางของมาร์คแต่เขาได้สังเกตเห็นว่าส่วนร่างกายของเธอที่ไม่มีหุ้มเกราะนั้นกําลังรั้งเธอเอาไว้

“วิ่ง…”

มาร์คก็ได้ตกใจซอมบี้หญิงกลายพันธุ์นั้นพูดออกมา!เสียงของเธอนั้นอ่อนแอและสั่นไหว

“วิ่ง!”

เธอตะโกนในขณะที่ตาข้างซ้ายของเธอจ้องไปที่มาร์ค

แสงที่ตาซ้ายของซอมบี้หญิงเริ่มหรี่ลงอีกครั้งและมันก็ได้หยุดพูด หุ้มเกราะกระดูกบนร่างกายของมันเริ่มเติบโตขึ้นจน เหลือเพียงเศษเสี้ยวของเนื้อตามร่างกายกรงเล็บยาวขึ้นและดวงตาสีเหลืองที่ถูกกลายพันธุ์ของเธอก็สว่างไสวขึ้นตาซ้ายของเธอก็ถูกกลนกินไปด้วยสีแล้วครึ่งหนึ่ง

จากนั้นเธอก็เคลื่อนไหวการโจมตีอีก ครั้ง เป็นการโจมตีที่ดุร้ายทรงพลังและรวดเร็วยิ่งขึ้นกว่าเดิมหลายเท่า

มาร์คกระโดดหนีออกไปจากรถ และ การโจมตีของซอมบี้หญิงก็ชนรถทําให้รถน้ําหนัก 2.9 ตันไถลชนไปยังรถอีกคัน ที่จอดอยู่ข้างๆ

ตอนนี้มาร์ครู้แล้วว่าช่วงเวลานั้นคือจุด สําคัญในการเอาชีวิตรอด อาจเป็นไปได้ว่าแองเจสามารถจัดการปล่อยให้ทหาร เข้าไปข้างในให้เร็วที่สุดและฆ่ามนุษย์กลายพันธุ์นี้ก่อนที่ร่างกายของเธอจะถูกปกคลุมด้วยหุ้มเกราะกระดูก

มาร์ครู้ว่าเมื่อเป็นเช่นนั้น หากมันได้เกิดขึ้นจริงๆ ผู้หญิงคนนี้จะอยู่ในร่างที่แข็งแกร่งที่สุดของเธอ

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+