มีแค่เราที่เป็นเนโครแมนเซอร์ 12 หน่วยออคล่าผู้รอดชีวิต(1)

Now you are reading มีแค่เราที่เป็นเนโครแมนเซอร์ Chapter 12 หน่วยออคล่าผู้รอดชีวิต(1) at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

เห็นได้ชัดว่าฮันโฮอิจฉาจีซู เขาก้มลงมองผ้าคลุมของตัวเองและเก็บมันไป

 

ส่วนซองอูนัะ้นไม่ได้ทดลองสกิลใหม่ <สร้างอาวุธกระดูก (พื้นฐาน)> เพราะเขาใช้มานาจนหมดแล้วในการคืนชีพโครงกระดูก 5 ตัว

 

‘ค่อยไปทดสอบคราวหลัง…ตอนนี้ต้องออกจากที่นี่ก่อน’

 

หลังจากสังหารบอส พวกเขาเดินกลับไปที่ชั้นหนึ่ง

 

***

 

ชั้นหนึ่งถูกความเงียบปกคลุม ถึงประตูหลักจะเปิดแล้วหลังจากฆ่าบอสก็ไม่มีใครรู้ข่าวคราว

 

และจินซอกยังเดินไปเดินมาที่ชั้นหนึ่ง แม้จะพูดว่าจะปกป้องคนที่เหลือ เขาพร้อมหนีเต็มที่ในทุกเวลา

 

“เอ่อ…จินซอก…”

 

มินซูที่หน้าซีดขาวเดินถือดาบออกมาอย่างกล้า ๆ กลัว ๆ

 

“หา มีอะไร?”

 

“ดีแล้วเหรอที่พวกเราจะอยู่ที่นี่?”

 

“…”

 

จินซอกขมวดคิ้วเพราะเขาฟังคำบ่นทุกรูปแบบจากคนที่ซ่อนตัวอยู่มาแล้ว

 

“คนไม่พอใจ พวกเขาพูดว่าน่าจะตามซองอูไปฆ่าบอสมอนสเตอร์ พวกเขาพูดว่าน่าจะฟังซองอูจนถึงตอนนี้…ฟังแล้วรู้สึกว่า…”

“อา ให้ตายเถอะ!”

 

มินซูหุบปากทันทีที่จินซอกสบถ จินซอกหน้าแดงก่ำ เขารับมือกับอะไรไม่ได้เลย

 

“ให้พวกเฮงซวย! ไอ้พวกเวรนั่นพูดเหลวไหลตอนที่ชั้นพยายามปกป้องพวกมัน”

 

ซึ่งที่จริงแล้วจินซอกกำลังคิดหาทางหนีในยามที่มีเรื่องเลวร้ายเกิดขึ้น แต่เขาไม่คิดถึงการหนีอีกแล้วเพราะความหงุดหงิด

 

เขายังคิดว่าคนอื่นนั้นเป็นพวกไม่รู้สำนึกที่ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น เขาอดกลั้นความโกรธไม่ไหวและกลับไปยังที่ซ่อน เขาระเบิดความโกรธใส่คนอื่นทันที

 

“ไอ้เวร! ใครกันที่พวกแกเอาแต่บ่นน่ะ?”

 

ทุกคนตกใจกับความโกรธของเขาและก้มหน้า

 

“ไอ้บัดซบเอ้ย ชั้นเสี่ยงชีวิตปกป้องพวกแกไม่ได้อีกแล้ว อยากจะไปไหนก็ไป!”

 

ชายตัวสูงคนหนึ่งยืนขึ้น

 

“พูดอะไรของแก? ให้ไปที่ไหนนะ?”

 

“ถ้าอยู่ที่นี่ไม่ได้ก็ไปที่อื่นซะ ไปดาดฟ้าแล้วไปตายกับไอ้เวรซองอูนั่น”

 

“…คิดว่าที่นี่เป็นของแกเรอะ?”

 

“ชั้นกำลังปกป้องพวกแกอยู่นะ!”

 

“ปกป้องพวกเราเหรอ? คนที่ไปดาดฟ้าต่างหากที่ปกป้องเรา ไม่ใช่แก!”

“มาโกรธพวกเราทำไม? แกทำอะไรให้พวกเรานักหนา?”

 

“เบาหน่อย…ไม่รู้เหรอว่าพวกมันจะตามมาได้?”

 

จินซอกเก็บอารมณ์ไม่ไหวอีกแล้ว

 

“ให้ตายเถอะ เก็บกดมาตั้งแต่สมัยม.ปลายแล้ว แต่เพราะพวกโง่อย่างแก…”

 

“อะไรนะ? โง่เรอะ?”

 

“ใช่ ไอ้พวกโง่! พูดออกมาสิ อะไรนะ? ยูซองอู? ไอ้เวรนั่นปกป้องพวกแกเรอะ? ไอ้เวรนั่นตายบนดาดฟ้าไปแล้ว! มันตายเพราะอยากอวดเก่งยังไงล่ะ!”

 

“…”

 

“เงียบทำไมล่ะ? กลัวสินะ? เข้ามาพูดกับชั้นสิ! ทำไมหุบปากกันแล้วล่ะ?”

 

ตอนนี้ทุกคนกำลังมองคนที่อยู่ด้านหลังจินซอก

 

“ทำไมถึงพูดว่าชั้นตายแล้วล่ะ?”

 

จินซอกหันไปข้างหลังและเห็นสิ่งที่ทำให้เขาลืมหายใจ

 

“โอ้พระเจ้า!”

 

โครงกระดูกห้าตัวเงยหน้ามองเขา ซองอูยืนอยู่ด้านหลังโครงกระดูก

 

“แกอยากให้ชั้นตายสินะ?”

 

“…”

 

“เกะกะลูกตาจริง!”

 

ซองอูเดินไปทางประตูหลักและเปิดมัน

 

ประตูที่ไม่ขยับเขยื้อนเลยกลับเปิดออกได้อย่างไหลลื่น

 

ซองอูที่อยู่หน้าประตูหันไปมองจินซอก

 

“มีอะไรจะพูดอีกไหม? เข้ามาสิ”

 

***

 

บรรยากาศนั้นเย็นยะเยือก สายตาทุกคู่เพ่งมองซองอู

 

“จะไม่พูดอะไรหน่อยเหรอ? เข้ามาพูดอีกทีสิ”

 

จินซอกยืนนิ่งไม่พูดอะไร เขายืนนิ่งอยู่กับที่

 

“อะไรของมัน? เจ้านั่นทำอวดเบ่งต่อหน้าเรา…”

 

“มันไม่มีประโยชน์อะไรมาตั้งแต่แรก มันก็แค่อวดเก่งไปเอง”

 

ถึงจินซอกจะโกรธจัดจนถึงเมื่อครู่ก่อน เขาในตอนนี้สงบนิ่งอย่างประหลาด ถึงจะได้ยินคนนินทาตัวเองก็ไม่โกรธ

 

“ถ้าไม่มีอะไรจะพูดก็ออกไปซะ ต่อไปก็ระวังปากแกด้วย”

 

“…”

 

ซองอูพูดและเดินออกจากอาคารสังคมศาสตร์และมนุษยศาสตร์

 

กรอบ กรอบ

 

เหล่าโครงกระดูกทั้งห้าเดินนำเขาไปและมองรอบ ๆ จีซูกับฮันโฮเดินมาด้วยกัน

 

“ซองอู แถวนี้ดูเงียบ ๆ นะ”

 

“ไม่เห็นพวกมอนสเตอร์เหมือนกัน”

 

ซองอูพยักหน้า เขาพูดกับคนในอาคาร

 

“ตรงนี้ปลอดภัย ออกมาได้แล้ว”

 

เหล่านักศึกษาพากันออกมาอย่างระมัดระวัง จินซอกกับมินซูเองก็ตามพวกเขาไปด้วยความกระอักกระอ่วน สองคนนั้นมองสีหน้าซองอูด้วยใบหน้าเศร้าและซีดเซียวของตัวเอง

 

‘พวกกอบลินอยู่กันเป็นฝูงจริง ๆ ด้วย’

 

ตอนที่ซองอูมองออกมาจากนอกหน้าต่างชั้นสี่ เขาเห็นกอบลินมากกว่าสิบตัวรวมตัวอยู่ด้วยกัน พวกมันจะต้องยังซ่อนตัวอยู่ในมหาลัย

 

“มีศพอยู่ตรงนั้นด้วย”

 

“ทำไงดี…”

 

ศพคนถูกมอนสเตอร์ฆ่าตายนอนเกลื่อนมหาลัย มีที่กลางสวน ที่จอดรถ ตามดงต้นไม้ มีศพมอนสเตอร์เช่นกันแต่ไม่มากนัก

 

มันแสดงให้เห็นว่ามีคนที่ปรับตัวได้ ถ้าพวกเขาไม่หวาดกลัวจนเกินไป พวกเขาจะเอาชนะกอบลินได้

 

“ซองอู เห็นคนตรงนั้นไหม?”

 

พวกเขาเห็นกลุ่มคนในสนามราว 20 คน มีคนโบกมือให้พวกซองอูเช่นกัน

 

‘ส่วนใหญ่มีอาวุธติดตัวแฮะ’

 

เขาเห็นราว 15 คนที่ถืออาวุธอยู่ ต่อให้ไม่ใช่อาวุธจากอาชีพที่เลือกมา พวกเขาก็พกอาวุธที่พอใช้งานได้

 

‘คนพวกนี้รอดชีวิตในการต่อสู้กับกอบลิน’

 

ซองอูเดินไป จินซอกที่หุบปากมาโดยตลอดวิ่งไปหาคนในนั้น เขาทำเป็นรู้จัก

 

“เฮ้ ไม่คิดเลยว่าจะได้เจอนาย!”

 

คนที่จินซอกเข้าไปทักนั้นตัวใหญ่กำยำ เขาสวมชุดนภานักศึกษาเหมือนกับจินซอก ที่แปลกกว่าใครคือเขาสวมชุดเกราะที่เป็นโซ่ข้างในเสื้อของเขา แล้วเขายังแบกดาบปลายปืนไว้บนหลัง เขาน่าจะเลเวลอัพแล้ว

 

“โอ้ จินซอก! นายยังไม่ตาย!”

 

“รู้อยู่แล้วว่านายจะต้องรอด! โชคดีจริง ๆ ที่ได้เจอกันที่นี่!”

 

จินซอกทำเป็นพูดจาใหญ่โตและวิ่งเข้าไปกอดชายคนนั้น ดูเหมือนว่าจินซอกคิดจะเอาใจเขาและพูดเรื่องไร้สาระกับคนที่ไม่รู้เรื่องจินซอกในอาคารสังคมศาสตร์และมนุษยศาสตร์

 

“…เขาเป็นประธานสภานักศึกษา”

 

จีซูพูดด้วยสีหน้าไม่สู้ดี

 

จินซอกกระซิบบางอย่างขณะที่กอดประธานสภานักศึคกษา จากนั้นชายคนนั้นก็หันไปมองซองอู

 

“จินซอกกำลังพูดถึงนาย”

 

“ใช่ เห็น ๆ อยู่”

 

จินซอกไม่ได้พูดถึงซองอูในแง่ดีแน่ ๆ แต่สีหน้าซองอูไม่เปลี่ยนไป ประธานสภานักศึกษาเดินมาหาซองอูด้วยความใจเย็นและพูดกับเขาและนักศึกษาคนอื่น

 

“ชั้นพัคแดซอง ประธานสภานักศึกษา พวกนายคงจะลำบากมามาก พวกเราเจอแบบเดียวกันและรอดชีวิตจากมอนสเตอร์มาได้”

 

เขาไม่ได้โกหกเพราะมีนักศึกษาราว 20 คนที่พกอาวุธยืนอยู่ข้างหลังเขา

 

“พวกนายจะปลอดภัยถ้าอยู่กับเรา”

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด