มีแค่เราที่เป็นเนโครแมนเซอร์ 2 ห้องเรียนที่กลายเป็นนรก(2)

Now you are reading มีแค่เราที่เป็นเนโครแมนเซอร์ Chapter 2 ห้องเรียนที่กลายเป็นนรก(2) at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

แม้ซองอูจะไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น เขาก็มีเวลาเหลือแค่ห้าวินาทีเท่านั้น

‘เดี๋ยวสิ! ก่อนหน้านี้มันบอกว่าต้องเลือกการ์ดที่ดีเพื่อที่จะเอาชีวิตรอดในโลกที่ล่มสลายสินะ?’

ซองอูยื่นมือออกไปโดยไม่รู้ตัว เขาหยิบการ์ดที่มีดาวสูงที่สุด แม้จะไม่มีเหตุผลในการเลือก เขาก็รู้สึกว่าเขาจะต้องเลือกมันอยู่ดีถ้าต้องทำในตอนสุดท้าย

การ์ดที่เขาหยิบออกมานั้นดูแปลกตา มันมีพื้นหลังสีดำและเป็นภาพวาดของชายชุดขาวที่ถือเคียวยาว

<คุณเลือกการ์ดอาชีพ เนโครแมนเซอร์(5 ดาว)>

“…เนโครแมนเซอร์?”

เนโครแมนเซอร์คือจอมเวทที่ควบคุมโครงกระดูกหรือพวกซากศพในโลกแฟนตาซีไม่ใช่หรือ?

<หน้าต่างเลือกอาชีพแรกปิดแล้ว คนที่ล้มเหลวในการเลือก โปรดรอโอกาสถัดไป>

การเลือกการ์ดจบลงด้วยข้อความนี้และทุกข้อความได้หายไป

จากนั้นห้องบรรยายก็กลับมาสว่างอีกครั้ง ไฟฟ้ากลับมาใช้งานได้

ซึบ…

ผู้ชายข้างหน้าซองอูลองดึงดาบขึ้นจากโต๊ะเบา ๆ คมดาบส่องสะท้อนแสงแวววับ

“…”

ทั้งห้องบรรยายเงียบกริบ ทุกสายตาจ้องมองดาบของเขา มันตกมาจากไหนกัน?

“เมื่อกี๊มันเกิดอะไรขึ้นน่ะ?”

“รู้สึกเหมือนโดนอะไรสิงเลย แล้ว…ดาบนั่นมันบ้าอะไรกัน?”

“ดาบของจริงใช่ไหม? ให้ตายเถอะ! ชั้นกลัว…”

ห้องบรรยายเริ่มมีเสียงดังหลังจากเงียบได้ไม่นาน แม้แต่ศาสตราจารย์ก็มองออกไปนอกหน้าต่างเมื่อได้เจอกับปรากฏการณ์ปริศนา

ซองอูไม่สนใจใครอื่น เขายังคิดถึงข้อความลอยที่บอกว่า ‘ให้เข้ากับการอยู่รอดในโลกที่ล่มสลาย’ ข้อความนั้นยังถาโถมอยู่ในใจของเขา

“ดาบตกลงมาตอนที่เลือกการ์ดนักสู้…”

ชายด้านหน้าซองอูชูดาบขึ้น ซองอูมองเพดาน

‘บัดซบ! นี่เราเป็นเนโครแมนเซอร์จริง ๆ ใช่ไหม? ทำไมไม่มีอะไรออกมาเลยล่ะ?’

ทันใดนั้นเองประตูหลังห้องบรรยายก็เปิดออก มีบางอย่างเข้ามาพร้อมกับเสียงดังเอะอะ

ทั้งตัวของเขาเต็มไปด้วยเลือด

“อ๊ากกก! อ๊าาาา! ออกไปให้พ้น!”

เลือดพุ่งออกมาจากคอของเขาและกระจายไปทั่วเสื้อเชิ้ต มีบางอย่างติดอยู่ที่หลังของเขา…

สัตว์ตัวเล็กผิวสีเขียวกำลังถืออาวุธอันตรายในมือขวาและดึงผมของเขาด้วยมือซ้าย

ฉั่วะ! ฉั่วะ! ฉั่วะ! ฉั่วะ!

มีดเล่มเล็กแทงแผ่นหลังและคอของชายคนนั้น เขาพยายามจะต่อต้านทุกวิถีทางแต่ก็ทำอะไรไม่ได้เพราะเสียเลือดมากเกินไป

“โอ้พระเจ้า!”

“นี่มันเรื่องบ้าอะไรกัน?”

“อ๊ากก!”

ห้องบรรยายจมสู่ความยุ่งเหยิง นักศึกษาทุกคนเริ่มผลักโต๊ะแหวกทางหนีไปที่หน้าห้องบรรยายด้วยความสะพรึงกลัว

มันคือความโกลาหล

“อั้ก…”

ชายร่างเปื้อนเลือดล้มลง

ซองอูกลั้นหายใจและลุกขึ้นจากเก้าอี้ช้า ๆ

“บัดซบ…”

เพราะเขานั้นนั่งอยู่บนเก้าอี้หน้าประตูหลัง เขาจึงขยับตัวได้ยากเพราะรู้สึกว่าถ้าขยับตัวแล้วจะเป็นการดึงดูดความสนใจของมอนสเตอร์

มอนสเตอร์ตัวเขียวกู่ร้องบนร่างชายเปื้อนเลือด มันรีบหันหน้ากลอกตาสีเหลืองหาเหยื่อรายต่อไป

“อ๊าาา! ดาบ! เฮ้ย มินซู! ใช้ดาบสิ!”

“มินซู ทำอะไรซักอย่างทีเถอะ! ขอร้องล่ะ!”

พวกเขาเริ่มมองหามินซูผู้ถือดาบแต่เพียงผู้เดียวท่ามกลางความวุ่นวาย ทุกคนไปหลบหลังเขา ซองอูเองก็ยืนขึ้นมองเขาด้วยความกระวนกระวาย ซองอูในตอนนี้คือคนที่ใกล้กับมอนสเตอร์ตัวเขียวมากที่สุด

“ชั้นจะไป…”

“นายมีดาบ!”

แต่ดูเหมือนว่ามินซูไม่มีความคิดที่จะท้าทายกับมอนสเตอร์แม้แต่นิดเดียว เขาถือดาบด้วยสองมือ แต่มือทั้งสองของเขาสั่นแรง

“นี่มินซู จำชั้นได้ใช่ไหม?”

ซองอูเรียกชื่อเขาด้วยน้ำเสียงเยือกเย็น ถึงทั้งสองจะไม่สนิทกัน แต่อย่างน้อยพวกเขาก็รู้จักกัน

“ให้ตายเถอะ! อยากจะให้ชั้นทำอะไร?”

“อ๊าาา…”

เขาตอบสนองอย่างคนบ้า ซองอูรู้ในทันทีว่าเป็นไปไม่ได้ที่จะพึ่งพาเขา

เพราะมอนสเตอร์หันมาหาซองอูแล้ว มันกำลังวิ่งเข้าใส่เขา

ซองอูอยากจะรีบหนีแต่สายเกินไป มอนสเตอร์ตัวเขียวหันปากและกระโจนมาทางเขา

“อ๊าห์!”

ซองอูร้องเสียงแหลม แต่เขาตัดสินใจสู้กับมอนสเตอร์แทนที่จะหนีเพราะคิดถึงชายที่ล้มลงไปเมื่อครู่ที่ถูกแทงจากข้างหลัง

‘หันหลังให้ไอ้มอนสเตอร์นี่มามากพอแล้ว!’

และการเลือกเผชิญหน้าของเขานั้นให้ผลอย่างดี

ปั้ง!

มอนสเตอร์ตัวน้อยที่น้ำหนักราว 15 กิโลกรัมถูกเตะล้มลงไป

มันยืนขึ้นด้วยท่าทางร้อนรนโดยใช้มือยันพื้นขึ้นมา แต่ซองอูก็ลงมือต่อไป

“ออกไปให้พ้น ไอ้สารเลว!”

เขากำลังจะยกเก้าอี้พร้อมกับตะโกน แต่เขาเจอปัญหาใหญ่แล้ว

“หา?”

เก้า่อี้ที่เขายกนั้นคือเก้าอี้สำเร็จรูปที่ออกแบบมาพร้อมกับโต๊ะ มันคือศัตรูหมายเลข 1 ของนักศึกษาและสิ่งประดิษฐ์ที่เลวร้ายที่สุด และมันยังหนักกว่าที่เขาคิดไว้มาก

ซองอูที่จับเก้าอี้ยกมันขึ้นมาไม่ได้ในทีแรก

“อ๊ะ?”

มอนสเตอร์ไม่ทิ้งโอกาส มันก้มลงต่ำและยื่นมือที่ถือมีดออกมา มันไม่คิดจะถูกเตะเป็นครั้งที่สอง

“ให้ตายเถอะ!”

เขายกส่วนล่างของโต๊ะอย่างง่ายดายราวกับนักยกน้ำหนัก ในสถานการณ์ปกติอาจทำไม่ได้ แต่เขาแสดงพลังเหนือมนุษย์ออกมาได้ยามที่เผชิญกับความเป็นความตาย

จากนั้นเขาซัดโต๊ะเก้าอี้สำเร็จรูปใส่หัวของมันแทนที่จะทุ่มใส่มัน

มอนสเตอร์เข้าใกล้เขาพอดี มันยื่นมีดออกมาแต่ทำอะไรไม่ได้เพราะน้ำหนักที่เหนือกว่ามันหลายเท่าของโต๊ะเก้าอี้สำเร็จรูป

สัตว์ประหลาดตัวเขียวแลบลิ้นออกมาพร้อมกับกะโหลกที่แตก แค่มองก็รู้ว่ามันตายคาที่

<คุณได้สิบทองจากการล้มกอบลิน>

“เฮ้อ…”

ซองอูถอนหายใจเฮือกสั้น ๆ เขาเดินถอยกลับหันไปมองเหล่าคนที่กำลังกลัวที่มองเขา

“กอบลิน? สิบทอง? ไม่มีทาง!”

มอนสเตอร์ตัวเขียวนั้นเหมือนกับ ‘กอบลิน’ ระดับต่ำที่มักจะปรากฏตัวในโลกแฟนตาซี ทองรึ? ถึงเขาจะไม่รู้ว่ามันคืออะไร แต่ก็เห็นได้ชัดว่าโลกรอบตัวเขาได้เปลี่ยนไปราวกับเกมแฟนตาซี

ข้อความปรากฏขึ้นมาอีกครั้ง

<มอนสเตอร์ที่ตายได้กลายเป็นสมุนของคุณ>

รายการสมุน (1 ใน 3)

กอบลินโครงกระดูก (เลเวล 1)

*อาวุธ : มีด

*สายพันธุ์ : กอบลิน

*ลักษณะ : อันเดด

“…หา? สมุน?”

นี่มันเรื่องบ้าอะไรกัน? แต่ใบหน้าของเหล่านักศึกษาที่รวมตัวกันหน้าห้องบรรยายเริ่มบิดเบี้ยวด้วยความกลัว

“อ๊าาาย! ไม่นะ!”

“อ๊ะ? ข้างหลัง!”

ซองอูหันไปมองเหมือนกับพวกเขา

ครืด~

กอบลืนตัวหนึ่งยืนขึ้นหลังจากผลักโต๊ะเก้าอี้สำเร็จรูปไป พูดให้ชัดก็คือโครงกระดูกที่ผิวหนังกับลำไส้กลายเป็นเถ้าถ่านไปแล้ว

มันเดินอย่างเชื่องช้ามาหาซองอูและคุกเข่าต่อหน้าเขา

“หา?”

มันเป็นสถานการณ์อันยากลำบากสำหรับเขา ขมนึกย้อนกลับไปถึงอาชีพที่เขาเลือก

‘เนโครแมนเซอร์…’

เนโครแมนเซอร์ที่ควบคุมคนตาย และลูกน้องที่เขาชุบชีวิตขึ้นมาจะฟังคำสั่งเขาอย่างเป็นที่สุด

นี่คือเรื่องปกติที่มักจะเห็นในโลกแฟนตาซี

‘ไม่มีทางน่า!’

เคี๊ยก!

ในตอนนั้นเอง กอบลินอีกสองตัวได้เข้ามาทางประตูหลัง

“มันมาอีกแล้ว!”

“รอบนี้มันมาสองตัว!”

ขณะที่ในห้องบรรยายกำลังสับสนวุ่ยวายไปด้วยเสียงร้องของคน ซองอูมองโครงกระดูกสลับกับกอบลินสองตัว จากนั้นข้อความใหม่ได้ปรากฏขึ้นมา

<สมุนของคุณกำลังรอคำสั่ง>

ซองอูคิดจะสั่งให้ ‘สู้!’ แต่ก่อนที่เขาจะเปิดปาก โครงกระดูกก็เริ่มเดินไปทางกอบลินสองตัวแล้ว

กอบลินสองตัวลังเลเมื่อเห็นโครงกระดูกเพราะความคล้ายคลึงกันของพวกมัน…

แต่โครงกระดูกแทงหัวของมันทั้งสองตัวด้วยดาบ

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด