มีแค่เราที่เป็นเนโครแมนเซอร์ 4 ห้องเรียนที่กลายเป็นนรก(4)

Now you are reading มีแค่เราที่เป็นเนโครแมนเซอร์ Chapter 4 ห้องเรียนที่กลายเป็นนรก(4) at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ในด้านตัวเลข โครงกระดูกนั้นมีจำนวนที่มากกว่า แม้หนึ่งในโครงกระดูกจะตายไปแล้ว แต่กอบลินอีกสองตัวก็ตายไปเช่นกัน

 

<คุณได้รับสิบทองจากการล่ากอบลิน>

 

<คุณได้รับสิบทองจากการล่ากอบลิน>

 

“โอ้ว! ดีมาก…”

 

ซองอูตะโกนด้วยความดีใจ จากนั้นก็มีข้อความที่อาจเป็นสัญญาณจากเกมจริง ๆ

 

<คุณเลเวลอัพ (เลเวล 2)>

 

“เลเวล?”

 

คำว่า ‘เลเวล’ นั้นหมายถึงการพัฒนาในเกม

 

ซองอูยืนยันได้แล้วว่าเมื่อเขาต่อสู้ เขาจะแข็งแกร่งขึ้น เขาท่องในใจเงียบ ๆ ราวกับว่ายังไม่เชื่อ

 

“…แถบสเตตัส?”

 

หน้าต่างลอยขึ้นมาให้เขาเห็นในระดับสายตา

 

<โปรไฟล์ผู้เล่น>

 

ชื่อ : ยูซองอู

 

เลเวล : 2

 

อาชีพ : เนโครแมนเซอร์

 

ความสามารถ : พลังกล้ามเนื้อ (5), ความคล่องแคล่ว (5), ความแข็งแกร่ง (5)

 

ทองที่ได้รับ : 50

 

แต่ไม่มีสิ่งที่เหมือนกับสเตตัสในเกมเลย ผู้เล่นไม่ได้สเตตัสในตอนที่เลเวลอัพหรือ? แต่คำถามของเขาก็ได้รับคำตอบด้วยหน้าต่างระบบ

 

<เลือกการ์ดเลเวลอัพของคุณ>

 

สเตตัส (สุ่ม)

 

สกิล ( สุ่ม)

 

ไอเทม (สุ่ม)

 

อื่น ๆ (สุ่ม)

 

เพิ่มพลังกล้ามเนื้อ (ยืนยัน)

 

การ์ดห้าโผล่ขึ้นมา ทุกใบยกเว้บใบที่ 5 นั้นพลิกกลับหลังอยู่ ถ้าเขาเลือกการ์ดเล่านี้ เขาจะเลือกเพิ่มสเตตัส เรียนรู้สกิล หรือได้รับไอเทม

 

“อา สุ่ม…”

 

แต่ส่วนใหญ่นั้นเป็นแบบสุ่ม ใบสุดท้ายนั้นเป็นสเตตัสแบบแน่นอน แต่มันก็ต้องใช้ดวงเป็นอย่างมากตั้งแต่ครั้งแรก

 

หลังจากครุ่นคิด ซองอูเลือก ‘สกิล’ การ์ดใบที่สอง สกิลนั้นคือหนึ่งในองค์ประกอบที่สำคัญที่สุดในเกมส่วนใหญ่ เขาจึงเลือกสกิลเพราะเขาไม่แน่ใจว่าจะได้อะไรมา

 

<จำนวนสมุนสูงสุดของคุณเพิ่มขึ้นหนึ่ง>

 

จากนั้นโครงกระดูกก็เริ่มประกอบกันขึ้นมาใหม่ ครั้งนี้มีโครงกระดูกเพิ่มขึ้นอีกตัว

 

พรึ่บ!

 

<คุณมานาเกือบหมดแล้ว>

 

“…มานา?”

 

ดูเหมือนว่าเขาต้องการมานาในการใช้สกิลอัญเชิญโครงกระดูก เมื่อซองอูคิดถึงมานา เขาเห็นเกจโผล่ขึ้นมา

 

<มานา (3/30)>

 

จากนั้นมานาได้เพิ่มขึ้นเป็น 4 ดูเหมือนว่าเขาจะไม่ต้องใช้มานามากนักในการอัญเชิญโครงกระดูกตัวเดียว

 

“พวกนายได้มาไม่ยากใช่ไหม?”

 

เมื่อเขาพูด กอบลินโครงกระดูกสี่ตัวหันมามองเขาพร้อมกัน

 

“ให้ตายสิ บ้าที่สุด! ขอโทษทีนะ แต่พวกแกก้มลงไปได้ไหม?”

 

เหล่ากอบลินก้มลงตามคำขอ

 

“ดีมาก”

 

***

 

หลังจากผ่านการต่อสู้กับเหล่ากอบลิน ซองอูถูกทิ้งไว้เพียงลำพัง พูดให้ถูกคืออยู่กับโครงกระดูกสี่ตัว

 

เขาแนบหัวกับประตูเหล็กที่เย็นเฉียบเพื่อทำให้หัวเย็นลง แต่มันไ่ช่วยอะไร เขาต้องตื่นตัวอยู่ตลอดเวลา

 

“เอาล่ะ เราต้องตื่นตัวเพื่อเอาตัวรอด ถ้าประมาทตรงนี้จะต้องพลาดแน่ ไม่รู้ว่าตอนนี้เกิดอะไรขึ้น แต่ตอนนี้ยังดีอยู่ใช่ไหม?”

 

ซองอูปลอบใจตัวเองอย่างนั้น

 

สำหรับคนที่เพิ่งออกมาจากกรม เขารู้ดีว่าต้องปรับตัวให้รวดเร็วกับสภาพแวดล้อมประหลาดที่เปลี่ยนไปเพื่อการอยู่รอด

 

ตอนที่เขาอยู่ในกองทัพ มีสองหน่วยที่ถูกพาไปสู่สภาพแวดล้อมที่แตกต่างกัน พวกที่ปรับตัวได้ง่ายกว่าจะได้รับความเชื่อใจจากผู้บังคับบัญชา และพวกที่ไม่ได้รับความสนใจนั้นคือพวกที่ปรับตัวไม่เก่งนัก

 

“…ยังไงก็ตาม เราต้องรอด ต้องคิดแค่เรื่องนี้เท่านั้น”

 

เขาตบแก้มตัวเองเมื่อได้ยินเสียงกรีดร้องแปลก ๆ จากทางเดินข้างล่าง เขาสูดหายใจเข้าลึกสามครั้ง

 

“ฟู่ว! ขอออกไปจากที่นี่ก่อน”

 

ห้องบรรยายอยู่บนชั้นสี่ของตึกสังคมศาสตร์และมนุษยศาสตร์ ซองอูมองดูสถานการณ์ผ่านหน้าต่าง

 

ที่ใต้ตึกนั้นเต็มไปด้วยซากคนตายและกอบลินหลายสิบตัวที่วิ่งส่งเสียงไปมา

 

“บัดซบ อยู่ตรงนี้ปลอดภัยกว่า ลงไปข้างล่างไม่ดีแน่…”

 

แต่เขาอยู่ในตึกไม่ได้ตลอดไป เขาให้โครงกระดูกนำหน้าเขาลงไปข้างล่างหนึ่งชั้น

 

“ย๊ากก!”

 

มีคนถือมีดเดินออกมาจากชั้นสาม มีดฟันไปที่กะโหลกของโครงกระดูกแต่ไม่มีอะไรเกิดขึ้น

 

“…หา? ซองอู!”

 

“อ๊ะ ฮันโฮ!”

 

คนที่เดินถือมีดออกมานั้นคือฮันโฮ ซองอูรู้สึกโล่งใจเมื่อได้พบคนคุ้นหน้า แต่ฮันโฮนั้นกำลังกระวนกระวาย

 

“พวกนั้นมันตัวอะไรน่ะ?”

 

ฮันโฮถาม

 

“อ๋อ ไม่ต้องห่วง จะว่าไงล่ะ? บอดี้การ์ดชั้นล่ะมั้ง?”

 

“…นายแน่ใจนะ?”

 

หลังจากคิดหาวิธีอธิบาย เขาเริ่มพูด

 

“ฮันโฮ นายเลือกการ์ดอาชีพด้วยใช่ไหม?”

 

“การ์ดเหรอ? ใช่แล้ว…ชั้นเลือกการ์ดโจรออกมา”

 

“ทำไมเลือกของแบบนั้นมาเล่า? การ์ดนายมีกี่ดาว?”

 

ฮันโฮตัวสั่น

 

“ดาวเหรอ? มีแค่ดาวเดียวเอง หนึ่งดาวคือนายพลจัตวาใช่ไหมเล่า? มันคือของดีใช่ไหม?”

 

ซองอูถอนหายใจ เข้ารู้ว่าฮันโฮนั้นเป็นเด็กไม่รู้อะไรและออกจะทึ่มหน่อย ๆ ซองอูคิดว่านิสัยของฮันโฮค่อนข้างจะมีปัญหากับเหตุการณ์แบบนี้

 

“อืม…คิดแบบนั้นก็ได้ ลงไปหาที่ปลอดภัยกันเถอะ เราจะปลอดภัยถ้ามีโครงกระดูกพวกนี้นำหน้าเรา”

 

โครงกระดูกเดินลงบันไดไป ซองอูกับฮันโฮเดินตาม เมื่อมาถึงชั้นสอง พวกเห็นข้อความโผล่ขึ้นมา

 

<จากนี้ไปการต่อสู้แบบทีมของคุณจะได้รับเอฟเฟคผสาน>

 

รายการผสาน

 

กลุ่มโจรมีด (ขั้นแรก)

 

คลาส : ผสานอาวุธ

 

เงื่อนไข : พกมีด 5 เล่ม

 

เอฟเฟค : โอกาสโจมตีรุนแรง (+10%), สะสมทอง (+10%)

 

“หืม? นายก็เห็นใช่ไหม?”

 

“อืม ผสานสินะ?”

 

ความหมายนั้นชัดเจน ดูเหมือนว่าพวกเขาจะได้รับบัฟเมื่อรวมตัวกันในรูปแบบที่คล้ายกัน หรือก็คือยิ่งมีคนมากเท่าไหร่ พวกเขาก็จะยิ่งได้บัฟเพิ่มขึ้นเท่านั้น

 

“แต่เจ้าพวกโครงกระดูกนี่มันไม่ใช่คนน่ะสิ”

มีดสี่เล่มที่สร้างการผสานของ <กลุ่มโจรมีด (5)> นั้นเกิดจากเหล่าโครงกระดูกที่ใช้มีด

 

‘เรายังไม่แน่ใจ แต่พวกมันมีประโยชน์ ต่อให้ทำอะไรคนเดียวก็ได้บัฟจากการมีคนหลายคนด้วยสินะ? เราเลือกอาชีพดี ๆ มาแล้ว’

 

เขารู้แน่ชัดแล้วว่าสเตตัสจะได้แบบสุ่ม ปัจจัยสำคัญที่สุดในการเอาตัวรอดคือ ‘ดวง’ ซองอูคิดว่าเขาโชคดีมากมาตั้งแต่แรก แต่ในทันใดนั้นเองเขาก็ได้เจอกลุ่มกอบลินที่ขึ้นมาจากชั้นหนึ่ง พวกมันมากันเจ็ดตัว

 

เคี๊ยก!

 

กอบลินตัวที่อยู่หลังสุดนั้นตัวใหญ่กว่ากอบลินตัวอื่นเป็นสองเท่า มันสวมลูกประคำรอบคอ และมันยังถือหอกยาวอีกด้วย

 

“ไอ้เวรนั่นคือตัวหัวหน้าสินะ?”

 

ฮันโฮก้าวถอยหลัง ซองอูพร้อมที่จะหนีอยู่แล้วหากเกิดเรื่องผิดปกติ ไม่ว่าเขาจะคิดเท่าไหร่ เขาก็เอาชนะฝูงกอบลินเจ็ดตัวไม่ไหว

 

แต่การอยู่รอดไม่ได้ตัดสินด้วยดวงหรอกหรือ?

 

<ฝูงกอบลินอ่อนแอลงหลังจากได้กลิ่น ‘กลิ่นมรณะ(ขั้นแรก)’ สเตตัสลดลง 30%! เกิดขึ้นเมื่อเจอโครงกระดูกมากกว่าสี่ตัวขึ้นไป>

 

ฝูงกอบลินลังเล พวกมันเริ่มถอยหนี ใบหน้าโมโหของพวกมันจางหายไป พวกมันเริ่มหวาดกลัว

 

“หืมมมม…เราดวงดีไม่ใช่เหรอ?”

 

โครงกระดูกสี่ตัวเริ่มเดินลงบันไดตามไป

 

***

 

ทันทีที่เหล่ากอบลินตกอยู่ภายใต้คำสาปลดสเตตัสและซองอูมันใจขึ้น เหล่าโครงกระดูกก็ได้พุ่งเข้าใส่ฝูงกอบลิน

 

แกร๊ง แกร๊ง

 

พวกมันวิ่งลงบันไดไปอย่างไม่ลังเล

 

เคี๊ยก! เคี๊ยก!

 

กอบลินที่โดน ‘กลิ่นมรณะ’ นั้นตอบสนองได้เชื่องช้าราวกับร่างถูกแช่แข็ง เหล่าโครงกระดูกตามทันและแทงมีดใส่พวกมัน หนึ่งตัวกลิ้งตกบันไดเมื่อถูกแทง

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด