มีแค่เราที่เป็นเนโครแมนเซอร์ 8 บอสมอนสเตอร์ในอาคารสังคมศาสตร์และมนุษยศาสตร์(2)

Now you are reading มีแค่เราที่เป็นเนโครแมนเซอร์ Chapter 8 บอสมอนสเตอร์ในอาคารสังคมศาสตร์และมนุษยศาสตร์(2) at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

“ชั้นต้องการคน มีใครจะมาด้วยกันไหม?”

 

แน่นอนว่าไม่มีทางที่จะมีคนอาสา

 

ใครจะเต็มใจต่อสู้กับซองอูเพื่อต่อสู้กับบอสมอนสเตอร์ทั้ง ๆ ที่ตัวเองยังมองซองอูเป็นฮีโร่เล่า?

 

ต้องขอบคุณการต่อสู้ก่อนหน้าที่ทำให้เขาชวนคนร่วมต่อสู้กับบอสมอนสเตอร์ได้อย่างเปิดเผย แต่เหล่าคนที่เลือกการ์ดอาชีพมากลับก้มหน้าและซ่อนอาวุธไว้ด้านหลังของตัวเอง

 

“ซองอู ชั้นขอแค่อยู่ตรงนี้…”

 

“ไม่ได้ นายต้องไปกับชั้น”

 

ซองอูดึงแขนฮันโฮที่คิดจะหลบหนีไปกับคนไม่เลือกการ์ดอาชีพ

 

“ต้องมีนายอยู่ด้วยจะได้บัฟให้โครงกระดูก”

 

เอฟเฟคผสาน <กลุ่มโจรมีด(5)> นั้นจะแสดงผลก็ต่อเมื่อซองอูมีมีดห้าเล่ม ซึ่งมันรวมของฮันโฮไปด้วย

 

“เอามีดชั้นไปเถอะ”

 

“ไม่อยากได้น่ะ”

 

ฮันโฮหมดคำพูดเมื่อซองอูปฏิเสธอย่างไม่ใยดี

 

“ต่อให้เราแห่กันไปหาบอสมอนสเตอร์ เราก็ทำอะไรไม่ได้มากหรอกนะ…”

 

ยุนจีซูที่เป็นผู้หญิงคนเดียวพูด เธอสวมชุดวอร์มสีแดง

 

เธอกล้า ๆ กลัว ๆ แต่ก็พยายามมองคนที่หลบสายตาซองอู

 

จีซูพูดต่อ

 

“เราอาจจะขัดแข้งขัดขากันเองในทางเดินก็ได้ น่ารำคาญชะมัด ดูคนพวกนั้นสิ! จะเอาไปด้วยทำไมในมือไร้ค่ายิ่งกว่าโครงกระดูกของซองอู?”

 

ซองอูคิดว่าจีซูนั้นบุ่มบ่ามเกินไปเพราะไม่มีใครรู้ว่าบอสมอนสเตอร์แข็งแกร่งแค่ไหน และเป็นไปไม่ได้ที่จะเอาตัวถ่วงไปสู้ เพราะคนเหล่านั้นจะช่วยอะไรไม่ได้

 

“ถูกของเธอ”

 

ซองอูมองจินซอกและถาม

 

“ว่าไงล่ะ?”

 

จินซอกก้มลงมองพื้น สายตามองซ้ายขวาด้วยความอับอาย

 

“ชั้นจะอยู่ที่นี่เพื่อปกป้องนักศึกษา นั่นคือหน้าที่สภา…”

“เข้าใจแล้ว”

 

“ขอบคุณ…”

 

“ปกป้องพวกนั้นให้ดีก็แล้วกัน”

 

“…”

 

จินซอกไม่ตอบอะไรราวกับความมั่นใจของเขาหายลับไปแล้ว

 

“ขึ้นลิฟท์คงไม่ดีเท่าไหร่ ขึ้นบันไดกันจะดีกว่า”

 

ถ้าหากพวกเขาใช้ลิฟท์ พวกเขาจะไปถึงดาดฟ้าในทันทีแต่ก็มีความเสี่ยงหลายอย่างเข้ามาด้วย พวกเขาไม่แน่ใจว่าจะเกิดอะไรขึ้นเมื่อประตูลิฟท์เปิดออกมา พวกเขาอาจถูกมอนสเตอร์จู่โจมโดยที่ทำอะไรไม่ได้เลยเพราะพื้นที่แคบของลิฟท์ก็ได้

 

เมื่อซองอูเริ่มเดินขึ้นบันได โครงกระดูกสี่ตัวเดินนำเขาอยู่ไม่ห่าง ฮันโฮตามมาติด ๆ พร้อมกับจีซู ผู้หญิงคนเดียวที่อาสาตามมาด้วย จีซูถือดาบโค้งเรียว จีซูบอกว่าเคยฆ่ากอบลินไปสองตัวตั้งแต่เกมเริ่ม

 

“ให้ตายเถอะ อาจจะเกิดเรื่องจริง ๆ เพราะนายก็ได้”

 

ฮันโฮบ่นอุบ

 

“ฮันโฮ…”

“อะไร?”

 

“ยังไม่อยากจะเข้ากรมอีกเหรอ?”

 

“เออ ตอนนี้อยากจะเข้าไปฝึกทหารแล้วผ่านวันนี้ไปเลย จำได้ไหมตอนที่บอกว่าเห็นข้อความแปลก ๆ ตอนเช้าน่ะ? ชั้นพูดถูก!”

 

“พูดถูกแล้วไง? คิดว่าตอนนี้จะเปลี่ยนอะไรได้เรอะ?”

 

ข้อความบนท้องฟ้าที่ฮันโฮพูดถึงตอนเช้าอาจเป็นการบ่งบอกถึงเรื่องในตอนนี้ แต่ไม่มีอะไรที่เปลี่ยนแปลงได้อีกแล้ว

 

“มีหนึ่งอย่างที่นายเปลี่ยนได้…”

 

ซองอูพูด

 

“อะไรล่ะ?”

 

“วันที่แกตายไง”

 

“บัดซบ…”

 

“ถ้าคิดหนีแบบโง่ ๆ จะตายเป็นคนแรก นายพลยีซุนชินยุคราชวงศ์โชซอนพูดถูกว่านายอยากจะรอ…”

 

แต่เขาเล่นมุกตลกไม่ได้อีกแล้ว

 

เคี๊ยก! เคี๊ยก!

 

มีกอบลินโผล่ขึ้นมาจากบันไดชั้นสอง

 

“สองคนต่อสู้จากด้านข้าง!”

 

เมื่อซองอูมองบันไดขึ้นชั้นสาม โครงกระดูกเริ่มเข้าต่อสู้กับกอบลิน แต่มีกอบลินสองตัวรีบวิ่งออกจากห้องบรรยายไปที่ชั้นสอง

 

“ซองอู ส่งโครงกระดูกมาให้ตัวนึงสิ!”

 

ฮันโฮแทบจะถือมีดในมือไม่ไหวเพราะความกลัว จีซูดึงดาบขึ้นมา ดาบของเธอยาวประมาณ 55 เซนติมเตร มันส่องแสงแวววับราวกับแสงไฟ

 

เคี๊ยก!

 

จีซูเดินไปข้างหน้าและแกว่งดาบใส่กอบลิน

 

ดาบของจีซูฟันตาซ้ายของกอบลินและซี่โครงขวาของมันในทีเดียว

 

ฟึ่บ!

 

จีซูฟันเพียงครั้งเดียวและเมินข้อความ ‘+10 ทอง’ ที่โผล่ขึ้นมา จากนั้นจึงปรับท่าต่อสู้และแทงกอบลินอีกตัวที่พุ่งเข้ามาทางด้านซ้าย

 

ฉั่วะ!

 

จีซูแสดงให้เห็นว่าเธอฆ่ากอบลินได้ง่าย ๆ ตราบเท่าที่ตั้งใจจะต่อสู้เพราะกอบลินคือมอนสเตอร์ที่อ่อนแอที่สุดที่ฆ่าได้ด้วยโต๊ะในห้องบรรยาย

 

ฮันโฮไม่ปิดบังความประทับใจ เขาอ้าปากค้างมองจีซู หน้าซีดขาวของเธอเปื้อนเลือดกอบลิน แต่เธอเช็ดเลือดด้วยชายเสื้อวอร์มสีแดง

 

“ว้าว ซองอู เธอเก่งชะมัด!”

 

เมื่อฮันโฮหันมาชมจีซู เขาก็เห็นร่างกอบลินหกตัวนอนเกลื่อนพื้น

 

“…หา?”

 

เขาเห็นการล้างบางอย่างทารุณ ซองอูดึงหอกออกจากร่างกอบลิน

 

ฮันโฮกระพริบตาพยักหน้า

 

“…ชั้นผิดไปแล้ว นายพลยีซุนชินพูดถูก”

 

อย่างที่นายพลพูด คนที่ตั้งใจจะต่อสู้เสี่ยงชีวิตย่อมมีชีวิตรอด แต่ถ้าหวังแต่จะเอาตัวรอดเพียงอย่างเดียว นั่นหมายถึงโอกาสตายที่สูงกว่าใคร

 

ทำไมกันล่ะ? เพราะเมื่อเลเวลเพิ่มสูงขึ้น คนที่ต่อสู้จะแข็งแกร่งขึ้นและมีโอกาสรอดมากขึ้นนั่นเอง

 

พวกเขาจัดยึดชั้นสองกลับมาได้สำเร็จและขึ้นไปยังชั้นสาม

 

เมื่อกำลังจะเดินขึ้นชั้นสี่ ฮันโฮเห็นอะไรบางอย่าง

 

“ซองอู นั่นศาสตราจารย์ฮวังไม่ใช่เหรอ?”

 

มีคนนอนอยู่บนมุมทางเดิน

 

“อ๊ะ ศาสตราจารย์? ศาสตราจารย์!”

 

เขาคือศาสตราจารย์ฮวังที่สอนคาบเรียนตอนเช้าของซองอู พอซองอูวิ่งไปดูก็เห็นว่าครึ่งนึงของเสื้อศาสตราจารย์ฮวังนั้นชุ่มโชกไปด้วยเลือก

 

“แค่ก! ซองอู?”

 

“ศาสตราจารย์ไม่เป็นไรใช่ไหม?”

 

สภาพศาสตราจารย์ฮวังนั้นห่างไกลจากคำว่าไม่เป็นไรอย่างมาก แขนขวาของเขาถูกฟันเหวอะเหมือนกับผ่านเครื่องบดมา เลือดไหลนองไปถึงก้นของเขา

 

“เกิดอะไรขึ้น ศาสตราจารย์…”

 

“ซองอู…ทุกคนตายเพราะชั้น…อ๊าาาากก!”

 

ศาตราจารย์กรีดร้องสติแตก

 

ซองอูพยายามทำให้เขาใจเย็นลงโดยกดไหล่เขาเบา ๆ

 

“ใจเย็นลงก่อน! เกิดอะไรขึ้น?”

 

“เพราะนาย พวกเราเลยหนีไปที่ห้องวิจัยได้ก่อน แค่ก! แต่อยู่ที่นั่นไม่ได้นานเพราะทำตามคู่มือว่าต้องไปดาดฟ้าในเวลาเร่งด่วน ชั้นยืนยันให้ทุกคนขึ้นไป”

 

โอ้พระเจ้า! ซองอูพึมพำ

 

“เราเจอมอนสเตอร์น่ากลัวที่นั่น คนที่เชื่อใจตามไป…”

 

ซองอูไม่อยากจะฟังไปมากกว่านี้ ทุกคนตายด้วยฝีมือบอสไปแล้ว

 

“ซองอู อย่าไปดาดฟ้านะ…นายควรรอด…”

 

นั่นคือคำพูดสุดท้ายของเขา ข้อความใหม่โผล่ขึ้นมา

 

<ภารกิจพิเศษ>

 

ชื่อ : แก้แค้นให้ศาสตราจารย์

 

ประเภท : ‘ช่วยเหลือ’ หรือ ‘ทอดทิ้ง’ ศาสตราจารย์ที่ตาย

 

เป้าหมาย : ฆ่าบอสมอนสเตอร์ในอาคาร

 

รางวัล : สกิลพิเศษ

 

การเห็นศาสตราจารย์ตายไปต่อหน้าต่อตาทำให้รู้สึกผิดอย่างมาก เมื่อเป็นคนที่พบผู้ตาย คุณสามารถแก้แค้นโดยการฆ่าศัตรูหรือปล่อยศาสตราจารย์ธรรมดาที่อ่อนแอให้ตาย ทางเลือกเป็นของคุณ

 

*คุณต้องทำตามเวลาที่กำหนดเอาไว้

 

*ทางเลือกจะส่งผลต่อ ‘ชะตา’

 

***

 

‘ชะตา? ที่เกี่ยวกับจุดเปลี่ยนอย่างนั้นหรือ?’

 

ดูเหมือนว่าทางที่เขาเลือกจะส่งผลต่อสกิลในอนาคต

 

ซองอูไม่มีเวลาคิดมากนัก ไม่ใช่เพราะเขาเสียใจที่ศาสตราจารย์ตาย แต่อย่างไรเขาก็ต้องจัดการบอสมอนสเตอร์ให้ได้อยู่ดี

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด