ยอดคุณหมอสกุลเฉิน 35 คลื่นถาโถม (2)

Now you are reading ยอดคุณหมอสกุลเฉิน Chapter 35 คลื่นถาโถม (2) at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ยอดคุณหมอสกุลเฉิน ยอดคุณหมอสกุลเงิน – ตอนที่ 35 คลื่นถาโถม (2)

 

ความจริงฉีเล่ยเป็นชายหนุ่มที่สุภาพ แต่เมื่อเห็นว่าเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยคนนี้ ไม่เพียงพูดจาหยิ่งจองหองอวดดียังก้าวร้าวมากอีกด้วย ฉีเลยจึงไม่สามารถอดทนต่อไปได้อีกเขาหันไปบอกกับเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย คนนั้นว่า

 

“ทําไมผมจะต้องลงทะเบียนด้วย? ในเมื่อผมไม่ใช่คนนอกที่มาติดต่อธุระผมมาที่นี่เพื่อรายงานตัวเป็นเจ้าหน้าที่ในกรมอนามัย!ยังจําเป็นต้องลงทะเบียนด้วยเหรอครับ?”

 

“โอ้โห! เดี๋ยวนี้กระทั่งตําแหน่งภารโรงยังต้องมีการรายงานตัวด้วยเหรอ?”

 

เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยจ้องมองฉีเลยตั้งหัวจรดเท้าพร้อมตอบกลับไปด้วยน้ําเสียงเย้ยหยัน เขาเคยพบเจอเหตุการณ์ลักษณะนี้มามากมาย เพราะมีคนพยายามที่จะ แอบเข้าไปข้างในอยู่บ่อยๆ แล้วก็แอบอ้างว่ามารายงานตัวแบบนี้

 

“ต่อให้มารายงานตัวเป็นภารโรงคนใหม่ก็ต้องลงทะเบียน!”

 

เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยจ้องมองฉีเล่ยด้วยสายตาดูถูกเหยียดหยาม และในใจก็ได้แต่คิดว่า

 

“หึ! แกอย่ามาหลอกฉันให้ยากเลย ฉันเจอคนอย่างแกมาเยอะแล้วชอบอ้างว่ามารายงานตัว จะได้ไม่ต้องลงทะเบียน..

 

ยิ่งไปกว่านั้น เขาไม่เชื่อว่าฉีเลยจะมารายงานตัวเพื่อเข้าทํางานที่นี่จริงเพราะเขาสังเกตเห็นชายหนุ่มตั้งแต่ก้าวลงมาจากรถแท็กซี่แล้วหากเป็นเจ้าหน้าที่ที่มีตําแหน่งในระดับสูงขึ้นไปหน่อยส่วนใหญ่จะมีรถขับกันทุกคน

 

แต่นี่เลยกลับเดินทางมาด้วยรถแท็กซี่สภาพแบบนี้แน่นอนว่าถ้ามารายงานตัวจริงก็คงจะเป็นตําแหน่งที่ ต่ําต้อยอย่างแน่นอน

 

“ผมมีจดหมายจากกรมอนามัยมาด้วย!”

 

ฉีเลยเริ่มรู้สึกหงุดหงิดใจไม่น้อย เขาหยิบจดหมายที่เลขานุการของหลิวเฟิงเจิ้นออกมาพร้อมกับคลี่ออกให้เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยอ่านดู

 

“ไหน? จดหมายอะไรกัน?”

 

เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยเดินเข้าไปใกล้หลงเฉินมากขึ้นพร้อมกับจ้องมองรายละเอียดในจดหมายที่ฉีเลยถืออยู่และสิ่งแรกที่เขาสังเกตเห็นก็คือ ตราประทับสี แดงของกรมอนามัยมณฑลหนานเจียงแต่ภายในจดหมายก ลับไม่ได้ระบุตําแหน่งหน้าที่ชัดเจนมีเพียงแค่ประโยคกว้างๆสองสามประโยคเท่านั้น

 

“หืมม 

 

จากสีหน้าท่าทางของเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยเวลานี้ ฉีเล่ยถึงกับต้องถามออกมาด้วยสีหน้าผิดหวังเล็กน้อย

 

“ยังต้องลงทะเบียนอีกงั้นเหรอ?”

 

“ยังไงก็ต้องลงทะเบียนก่อน!”

 

เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยตวาดใส่หน้าฉีเลยด้วยความโมโหก่อนจะเชิดหน้าพูดกับชายหนุ่มต่อทันที

 

“ฉันเคยเจอคนมารายงานตัวแบบนี้เยอะแยะ จะเป็นใครก็ต้องลงทะเบียนที่นี่ก่อนทั้งนั้น ถึงจะเข้าไปข้างในได้!”

 

เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยคนนี้ มีพี่เขยเป็นถึงผู้อํานวยการฝ่ายทรัพยากรบุคคลของที่นี่ จึงได้มีนิสัยจองหองอวดดีและกร่างกับผู้คนไปทั่ว แม้แต่เจ้าหน้าที่ระดับล่าง ไปจนถึงระดับกลางของที่นี่ยังต้องยิ้มทักทายเขาระหว่าง เข้าออก แล้วชายหนุ่มคนนี้ เพียงแค่มารายงานตัวเป็นเจ้าหน้าที่ธุรการเล็กๆ เขาจําเป็นต้องเกรงใจด้วยอย่างนั้นหรือ?

 

ฉีเล่ยค่อยๆพับจดหมายฉบับนั้นเก็บเข้ากระเป๋าไปตามเดิม แล้วจึงหันไปจ้องหน้าพนักงานรักษาความปลอดภัยคนนั้นพร้อมกับถามขึ้นว่า

 

“แล้วตอนที่หัวหน้าหลิวมารับตําแหน่งเธอต้องลงทะเบียนกับคุณก่อน ถึงจะสามารถเข้าไปทํางานด้วยมั้ย?”

 

หลังจากพูดจบ ฉีเล่ยก็เดินตรงเข้าไปด้านในทันทีโดยไม่สนใจพนักงานรักษาความปลอดภัยอีก..

 

เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยอยากจะไล่ตามไปและจับชายหนุ่มโยนออกไปด้านนอกแต่ในจดหมายฉบับนั้นก็ยืนยันได้ว่าเขาเข้ามารายงานตัวเพื่อทํางานที่นี่ จริง เพียงแต่ไม่รู้ว่าตําแหน่งใดเท่านั้นเองเพราะฉะนั้นเขาซึ่งเป็นเพียงเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยจึงไม่สามารถห้ามไม่ให้ฉีเลยเข้าไปได้ทําได้เพียงแค่ยืนกัดฟันกรอดด้วยความโมโห..

 

“นี่นายมัวแต่ยืนทําอะไรอยู่? ทําไมยังไม่รีบไปเปิดประตูอีก?”

 

เสียงมีอํานาจคุ้นหูดังขึ้นจากด้านหลังของพนักงานรักษาความปลอดภัยเขาจึงรีบหันไปร้องบอกคนผู้นั้นทันที

 

“พี่เขย พี่เขยมาได้เวลาเหมาะเจาะพอดี ผู้ชายที่เพิ่งเดิน เข้าไปเมื่อครู่ไม่ยอมลงทะเบียนตามกฎระเบียบแต่อ้างว่ามารายงานตัวเข้าทํางานแล้วก็เดินเข้าไปเลย..”

 

“แต่เป็นเพราะเขาถือจดหมายที่ออกโดยกรมมาด้วยฉันก็เลยไม่สามารถห้ามเขาไม่ให้เข้าไปได้! ไม่ว่าฉันจะพยายามอธิบายให้ฟังยังไงหมอนั้นก็ไม่ยอมท่าเดียว!”

 

เวลานี้เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยได้แต่กระหยิ่มยิ้มองอยู่ในใจ และได้แต่คิดว่า ฉันอาจจะทําอะไรแกไม่ได้แต่พี่เขยของฉันจัดการกับแกได้แน่? เขามีตําแหน่งเป็นถึงผู้ อํานวยการฝ่ายทรัพยากรบุคคลให้มันรู้ไปว่าจะจัดการกับเจ้าหน้าที่ ที่เพิ่งจะมารายงานตัวไม่ถึงวันอย่างแกได้

 

ผู้อํานวยการฝ่ายทรัพยากรบุคคลถึงกับขมวดคิ้ว พร้อมกับร้องถามออกไปว่า “เขามารายงานตัวเข้าทํางานหน่วย ไหน?”

 

“ในหนังสือฉบับนั้นไม่ได้ระบุรายละเอียดพวกนี้เพียงแค่เขียนประโยคสั้นๆว่า ทีมแพทย์พิเศษ!”

 

เห็นได้ชัดว่าเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยจะไม่เข้าใจความสําคัญของคําว่าทีมแพทย์พิเศษดีนัก!

 

ผู้อํานวยการฝ่ายทรัพยากรบุคคลถึงกับต้องถามย้ําอีกครั้ง “นี่นายแน่ใจนะว่าอ่านไม่ผิด?”

 

“ไม่ผิดแน่นอนครับพี่เขย ฉันเห็นชัดเจน!”

 

ในฐานะที่เป็นถึงผู้อํานวยการฝ่ายทรัพยากรบุคคล มีหรือที่เขาจะไม่เข้าใจตําแหน่งต่างๆ ในองค์การของตนเองเป็นอย่างดีและคําว่า “ทีมแพทย์พิเศษ” นั้น ย่อมบ่งบอกว่ามีฐานะที่พิเศษไม่ธรรมดา

 

“ปกติแล้ว แพทย์พิเศษจะต้องมารายงานตัวพร้อมกับคณะกรรมการของกรมอนามัยประจํามณฑลนี่!แต่ทําไมครั้งนี้ถึงได้มารายงานตัวคนเดียวล่ะ?”

 

ผู้อํานวยการฝ่ายทรัพยากรบุคคลได้แต่ครุ่นคิดด้วยสีหน้างุนงงสงสัย และที่สําคัญ แพทย์ที่จะมาอยู่ในทีม แพทย์พิเศษนั้นล้วนแล้วแต่ต้องเป็นหมอที่มีอายุมาก และ ผ่านประสบการณ์มาหลายปีที่อายุน้อยที่สุดก็ยังสี่ สิบปีขึ้นไป แต่ทําไมแพทย์พิเศษคนนี้ถึงได้ยังดูหนุ่มแน่นขนาดนี้!

 

หลังจากใคร่ครวญดูครู่หนึ่งแล้ว จู่ๆ สีหน้าของผู้อํานวยการฝ่ายทรัพยากรบุคคล ก็เริ่มเปลี่ยนเป็นไม่สู้ดีนักเขาจึงรีบสั่งเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยคนเดิมว่า

 

“รีบไปตามเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยมาอีกสักสองสามคนแล้วรีบตามฉันเข้าไป!”

 

แผนกรักษาความปลอดภัยนั้น อยู่ในความรับผิดชอบของฝ่ายทรัพยากรบุคคลด้วย ผู้อํานวยการจึงมีหน้าที่สั่งการได้อย่างเต็มที่

 

เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยนายนั้นยิ้มกว้างออกมาอย่างมีความสุข และได้แต่คิดในใจว่า ดูท่าพี่เขยของเขาคงจะช่วยจัดการหมอนั่นแทนเขาแน่เขาจึงไม่รอช้ารีบวิ่งเข้าไป ตามเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยที่อยู่ในห้องให้ตามไปด้วยทันที

 

ฉีเลยเดินเข้าไปในอาคาร และจากป้ายที่ติดอยู่ด้านนอกทําให้เขารู้ว่าที่ที่เขาจะต้องไปรายงานตัวนั้นอยู่ชั้นสาม

 

หลังจากขึ้นไปถึง ชายหนุ่มก็ได้ยกมือขึ้นเคาะประตูห้องและจากประตูที่เปิดอ้าไว้ครึ่งหนึ่งนั้น ทําให้เขาได้ เห็นชายหนุ่มแต่งตัวสะอาดสะอ้านคนหนึ่งกําลังนั่งเขียนอะไรบางอย่างอยู่บนโต๊ะทํางาน

 

ก๊อกๆ

 

ฉีเล่ยเคาะประตูอย่างมีมารยาท ชายหนุ่มที่อยู่ด้านในเงยหน้าขึ้นมองพร้อมกับร้องถามออกไปว่า

 

“คุณมาพบใคร?”

 

“สวัสดีครับ คือผมมารายงาน…”

 

ระหว่างที่พูด ฉีเลยก็ได้หยิบจดหมายฉบับเดิมออกมาอีกครั้งและเตรียมตัวที่จะอธิบายเหตุผลให้กับชายหนุ่มตรงหน้าฟังแต่เขากลับยกมือขึ้นห้าม พร้อมกับพูดแทรกขึ้นทันที

 

“คุณรอประเดี๋ยวก่อน ตอนนี้ผมยุ่งมาก!”

 

จากนั้น ชายหนุ่มก็ก้มหน้าก้มตาเขียนต่อโดยไม่สนใจฉีเล่ยเลยแม้แต่น้อย

 

ฉีเล่ยยังคงรอคอยอย่างอดทนอีกราวสองสามนาที แต่ดูเหมือนว่าชายหนุ่มคงจะยังไม่เขียนเสร็จง่ายๆแน่ ทําให้ฉีเลยได้แต่ยืนเก้ๆกังๆพร้อมกับยกมือขึ้นเกาศรีษะด้วยความกระ อักกระอ่วนใจอยู่เป็นครั้งคราวและได้แต่แอบบ่นพึมพําอยู่ในใจ

 

“เฮ้อ.. นี่จะหยุดเขียนสักครู่ไม่ได้จริงๆน่ะเหรอ? มันเสียเวลาของเขาขนาดนั้นเลยหรือยังไง? กระทั่งเก้าอี้ให้นั่งรอก็ยังไม่มี!”

 

หลังจากยืนรออยู่ครู่ใหญ่ และไม่มีท่าทีว่าชายหนุ่มจะหยุดเขียนเสียทีฉีเล่ยจึงรวบรวมความกล้าเดินเข้าไปในห้องพร้อมกับยื่นจดหมายในมือให้ชายหนุ่มและพูดขึ้นว่า

 

“ขอโทษนะครับ! รบกวนช่วยจัดการเรื่องของผมก่อนจะได้มั้ยครับ?”

 

ชายหนุ่มร้องตอบฉีเลย โดยไม่แม้แต่จะเงยหน้าขึ้นมอง“คุณจะรีบร้อนไปไหนกัน? ไม่เห็นหรือยังไงว่า ผมกําลังเร่ งทํางานที่หัวหน้าหลิวสั่งอยู่?ธุระของคุณสําคัญกว่าธุระขอ งหัวหน้าหลิวหรือยังไง?ไหนลองตอบผมที่สิ?”

 

ฉีเลยได้แต่ขมวดคิ้วด้วยความงุนงงสงสัย “นี่คุณนายหลิวไม่ได้กลับไปพักผ่อนที่บ้านงั้นเหรอ? หรือว่าจะมีหัวหน้าหลิวหลายคน?”

 

ฉีเล่ยจึงได้เอ่ยปากถามชายหนุ่มออกไปว่า “ขอโทษนะครับ ไม่ทราบว่าที่นี่มีหัวหน้าหลิวกี่คนครับ?”

 

ชายหนุ่มขมวดคิ้วเข้าหากันแน่น เขายกมือขึ้นตบโต๊ะ พร้อมกับลุกขึ้นยืนตวาดใส่หน้าฉีเลยทันที

 

“กลับไปยืนรออยู่หน้าประตูเดี๋ยวนี้! ถามอยู่ได้ รู้มั้ยว่าคุณกําลังรบกวนสมาธิในการทํางานของผมอยู่? นี่ถ้าผม ส่งงานให้หัวหน้าหลิวล่าช้าคุณจะรับผิดชอบไหวเหเรอ?”

 

หลังจากนั้นด้วยความโมโห ชายหนุ่มจึงได้กระชากจดหมายในมือของฉีเลยมา และเตรียมที่จะขยําทิ้งขยะไป แต่ ในระหว่างนั้นบังเอิญสายตาของเขาได้เหลือบไปเห็นคําว่า “ทีมแพทย์พิเศษ”ที่อยู่ในจดหมายเข้า

 

“ห้ะ?!”

 

ชายหนุ่มร้องอุทานออกมาด้วยความตกใจ และรีบยกจดหมายในมือขึ้นมาดูชัดๆอีกครั้ง และเมื่อได้เห็นข้อความทั้งหมดอย่างชัดเจนเขาก็ถึงกับต้องเงยหน้าขึ้นมองฉีเลยด้วย ความตกตะลึงก่อนจะถามขึ้นด้วยน้ําเสียงที่ค่อนข้างสั่น

 

“เอ่อ.. นี่คุณมารายงานตัวในฐานะแพทย์พิเศษเหรอครับ?”

 

“ครับ!” ฉีเลยพยักหน้า และตอบกลับเพียงแค่สั้นๆ

 

“ขอโทษครับ! กรุณายกโทษให้ผมด้วย!”

 

ชายหนุ่มรีบโค้งคํานับเล่ยด้วยใบหน้าที่แดง พร้อมกับเอ่ยขอโทษทันทีก่อนจะถามร้องถามฉีเล่ยต่อว่า

 

“คุณ.. คุณคงจะเป็นคุณหมอฉีสินะครับ? ผมต้องขอโทษคุณหมอฉีที่เสียมารยาทเมื่อครู่นี้! ผมคิดไม่ถึงว่าคุณจะเป็นหนึ่งในทีมแพทย์พิเศษจริงๆครับ!”

 

หลังจากนั้น ชายหนุ่มก็รีบกระวีกระวาดยกเก้าอี้มาให้ฉีเล่ยนั่งพร้อมกับพูดขึ้นด้วยสีหน้าท่าทางนอบน้อม

 

“เชิญคุณหมอฉีนั่งก่อนครับ และนี่น้ําดื่ม ผมจะรีบไปรายงานหัวหน้าเกาให้ทราบก่อนนะครับ!”

 

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

ยอดคุณหมอสกุลเฉิน 35 คลื่นถาโถม (2)

Now you are reading ยอดคุณหมอสกุลเฉิน Chapter 35 คลื่นถาโถม (2) at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ยอดคุณหมอสกุลเฉิน ยอดคุณหมอสกุลเงิน – ตอนที่ 35 คลื่นถาโถม (2)

 

ความจริงฉีเล่ยเป็นชายหนุ่มที่สุภาพ แต่เมื่อเห็นว่าเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยคนนี้ ไม่เพียงพูดจาหยิ่งจองหองอวดดียังก้าวร้าวมากอีกด้วย ฉีเลยจึงไม่สามารถอดทนต่อไปได้อีกเขาหันไปบอกกับเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย คนนั้นว่า

 

“ทําไมผมจะต้องลงทะเบียนด้วย? ในเมื่อผมไม่ใช่คนนอกที่มาติดต่อธุระผมมาที่นี่เพื่อรายงานตัวเป็นเจ้าหน้าที่ในกรมอนามัย!ยังจําเป็นต้องลงทะเบียนด้วยเหรอครับ?”

 

“โอ้โห! เดี๋ยวนี้กระทั่งตําแหน่งภารโรงยังต้องมีการรายงานตัวด้วยเหรอ?”

 

เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยจ้องมองฉีเลยตั้งหัวจรดเท้าพร้อมตอบกลับไปด้วยน้ําเสียงเย้ยหยัน เขาเคยพบเจอเหตุการณ์ลักษณะนี้มามากมาย เพราะมีคนพยายามที่จะ แอบเข้าไปข้างในอยู่บ่อยๆ แล้วก็แอบอ้างว่ามารายงานตัวแบบนี้

 

“ต่อให้มารายงานตัวเป็นภารโรงคนใหม่ก็ต้องลงทะเบียน!”

 

เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยจ้องมองฉีเล่ยด้วยสายตาดูถูกเหยียดหยาม และในใจก็ได้แต่คิดว่า

 

“หึ! แกอย่ามาหลอกฉันให้ยากเลย ฉันเจอคนอย่างแกมาเยอะแล้วชอบอ้างว่ามารายงานตัว จะได้ไม่ต้องลงทะเบียน..

 

ยิ่งไปกว่านั้น เขาไม่เชื่อว่าฉีเลยจะมารายงานตัวเพื่อเข้าทํางานที่นี่จริงเพราะเขาสังเกตเห็นชายหนุ่มตั้งแต่ก้าวลงมาจากรถแท็กซี่แล้วหากเป็นเจ้าหน้าที่ที่มีตําแหน่งในระดับสูงขึ้นไปหน่อยส่วนใหญ่จะมีรถขับกันทุกคน

 

แต่นี่เลยกลับเดินทางมาด้วยรถแท็กซี่สภาพแบบนี้แน่นอนว่าถ้ามารายงานตัวจริงก็คงจะเป็นตําแหน่งที่ ต่ําต้อยอย่างแน่นอน

 

“ผมมีจดหมายจากกรมอนามัยมาด้วย!”

 

ฉีเลยเริ่มรู้สึกหงุดหงิดใจไม่น้อย เขาหยิบจดหมายที่เลขานุการของหลิวเฟิงเจิ้นออกมาพร้อมกับคลี่ออกให้เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยอ่านดู

 

“ไหน? จดหมายอะไรกัน?”

 

เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยเดินเข้าไปใกล้หลงเฉินมากขึ้นพร้อมกับจ้องมองรายละเอียดในจดหมายที่ฉีเลยถืออยู่และสิ่งแรกที่เขาสังเกตเห็นก็คือ ตราประทับสี แดงของกรมอนามัยมณฑลหนานเจียงแต่ภายในจดหมายก ลับไม่ได้ระบุตําแหน่งหน้าที่ชัดเจนมีเพียงแค่ประโยคกว้างๆสองสามประโยคเท่านั้น

 

“หืมม 

 

จากสีหน้าท่าทางของเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยเวลานี้ ฉีเล่ยถึงกับต้องถามออกมาด้วยสีหน้าผิดหวังเล็กน้อย

 

“ยังต้องลงทะเบียนอีกงั้นเหรอ?”

 

“ยังไงก็ต้องลงทะเบียนก่อน!”

 

เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยตวาดใส่หน้าฉีเลยด้วยความโมโหก่อนจะเชิดหน้าพูดกับชายหนุ่มต่อทันที

 

“ฉันเคยเจอคนมารายงานตัวแบบนี้เยอะแยะ จะเป็นใครก็ต้องลงทะเบียนที่นี่ก่อนทั้งนั้น ถึงจะเข้าไปข้างในได้!”

 

เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยคนนี้ มีพี่เขยเป็นถึงผู้อํานวยการฝ่ายทรัพยากรบุคคลของที่นี่ จึงได้มีนิสัยจองหองอวดดีและกร่างกับผู้คนไปทั่ว แม้แต่เจ้าหน้าที่ระดับล่าง ไปจนถึงระดับกลางของที่นี่ยังต้องยิ้มทักทายเขาระหว่าง เข้าออก แล้วชายหนุ่มคนนี้ เพียงแค่มารายงานตัวเป็นเจ้าหน้าที่ธุรการเล็กๆ เขาจําเป็นต้องเกรงใจด้วยอย่างนั้นหรือ?

 

ฉีเล่ยค่อยๆพับจดหมายฉบับนั้นเก็บเข้ากระเป๋าไปตามเดิม แล้วจึงหันไปจ้องหน้าพนักงานรักษาความปลอดภัยคนนั้นพร้อมกับถามขึ้นว่า

 

“แล้วตอนที่หัวหน้าหลิวมารับตําแหน่งเธอต้องลงทะเบียนกับคุณก่อน ถึงจะสามารถเข้าไปทํางานด้วยมั้ย?”

 

หลังจากพูดจบ ฉีเล่ยก็เดินตรงเข้าไปด้านในทันทีโดยไม่สนใจพนักงานรักษาความปลอดภัยอีก..

 

เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยอยากจะไล่ตามไปและจับชายหนุ่มโยนออกไปด้านนอกแต่ในจดหมายฉบับนั้นก็ยืนยันได้ว่าเขาเข้ามารายงานตัวเพื่อทํางานที่นี่ จริง เพียงแต่ไม่รู้ว่าตําแหน่งใดเท่านั้นเองเพราะฉะนั้นเขาซึ่งเป็นเพียงเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยจึงไม่สามารถห้ามไม่ให้ฉีเลยเข้าไปได้ทําได้เพียงแค่ยืนกัดฟันกรอดด้วยความโมโห..

 

“นี่นายมัวแต่ยืนทําอะไรอยู่? ทําไมยังไม่รีบไปเปิดประตูอีก?”

 

เสียงมีอํานาจคุ้นหูดังขึ้นจากด้านหลังของพนักงานรักษาความปลอดภัยเขาจึงรีบหันไปร้องบอกคนผู้นั้นทันที

 

“พี่เขย พี่เขยมาได้เวลาเหมาะเจาะพอดี ผู้ชายที่เพิ่งเดิน เข้าไปเมื่อครู่ไม่ยอมลงทะเบียนตามกฎระเบียบแต่อ้างว่ามารายงานตัวเข้าทํางานแล้วก็เดินเข้าไปเลย..”

 

“แต่เป็นเพราะเขาถือจดหมายที่ออกโดยกรมมาด้วยฉันก็เลยไม่สามารถห้ามเขาไม่ให้เข้าไปได้! ไม่ว่าฉันจะพยายามอธิบายให้ฟังยังไงหมอนั้นก็ไม่ยอมท่าเดียว!”

 

เวลานี้เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยได้แต่กระหยิ่มยิ้มองอยู่ในใจ และได้แต่คิดว่า ฉันอาจจะทําอะไรแกไม่ได้แต่พี่เขยของฉันจัดการกับแกได้แน่? เขามีตําแหน่งเป็นถึงผู้ อํานวยการฝ่ายทรัพยากรบุคคลให้มันรู้ไปว่าจะจัดการกับเจ้าหน้าที่ ที่เพิ่งจะมารายงานตัวไม่ถึงวันอย่างแกได้

 

ผู้อํานวยการฝ่ายทรัพยากรบุคคลถึงกับขมวดคิ้ว พร้อมกับร้องถามออกไปว่า “เขามารายงานตัวเข้าทํางานหน่วย ไหน?”

 

“ในหนังสือฉบับนั้นไม่ได้ระบุรายละเอียดพวกนี้เพียงแค่เขียนประโยคสั้นๆว่า ทีมแพทย์พิเศษ!”

 

เห็นได้ชัดว่าเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยจะไม่เข้าใจความสําคัญของคําว่าทีมแพทย์พิเศษดีนัก!

 

ผู้อํานวยการฝ่ายทรัพยากรบุคคลถึงกับต้องถามย้ําอีกครั้ง “นี่นายแน่ใจนะว่าอ่านไม่ผิด?”

 

“ไม่ผิดแน่นอนครับพี่เขย ฉันเห็นชัดเจน!”

 

ในฐานะที่เป็นถึงผู้อํานวยการฝ่ายทรัพยากรบุคคล มีหรือที่เขาจะไม่เข้าใจตําแหน่งต่างๆ ในองค์การของตนเองเป็นอย่างดีและคําว่า “ทีมแพทย์พิเศษ” นั้น ย่อมบ่งบอกว่ามีฐานะที่พิเศษไม่ธรรมดา

 

“ปกติแล้ว แพทย์พิเศษจะต้องมารายงานตัวพร้อมกับคณะกรรมการของกรมอนามัยประจํามณฑลนี่!แต่ทําไมครั้งนี้ถึงได้มารายงานตัวคนเดียวล่ะ?”

 

ผู้อํานวยการฝ่ายทรัพยากรบุคคลได้แต่ครุ่นคิดด้วยสีหน้างุนงงสงสัย และที่สําคัญ แพทย์ที่จะมาอยู่ในทีม แพทย์พิเศษนั้นล้วนแล้วแต่ต้องเป็นหมอที่มีอายุมาก และ ผ่านประสบการณ์มาหลายปีที่อายุน้อยที่สุดก็ยังสี่ สิบปีขึ้นไป แต่ทําไมแพทย์พิเศษคนนี้ถึงได้ยังดูหนุ่มแน่นขนาดนี้!

 

หลังจากใคร่ครวญดูครู่หนึ่งแล้ว จู่ๆ สีหน้าของผู้อํานวยการฝ่ายทรัพยากรบุคคล ก็เริ่มเปลี่ยนเป็นไม่สู้ดีนักเขาจึงรีบสั่งเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยคนเดิมว่า

 

“รีบไปตามเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยมาอีกสักสองสามคนแล้วรีบตามฉันเข้าไป!”

 

แผนกรักษาความปลอดภัยนั้น อยู่ในความรับผิดชอบของฝ่ายทรัพยากรบุคคลด้วย ผู้อํานวยการจึงมีหน้าที่สั่งการได้อย่างเต็มที่

 

เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยนายนั้นยิ้มกว้างออกมาอย่างมีความสุข และได้แต่คิดในใจว่า ดูท่าพี่เขยของเขาคงจะช่วยจัดการหมอนั่นแทนเขาแน่เขาจึงไม่รอช้ารีบวิ่งเข้าไป ตามเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยที่อยู่ในห้องให้ตามไปด้วยทันที

 

ฉีเลยเดินเข้าไปในอาคาร และจากป้ายที่ติดอยู่ด้านนอกทําให้เขารู้ว่าที่ที่เขาจะต้องไปรายงานตัวนั้นอยู่ชั้นสาม

 

หลังจากขึ้นไปถึง ชายหนุ่มก็ได้ยกมือขึ้นเคาะประตูห้องและจากประตูที่เปิดอ้าไว้ครึ่งหนึ่งนั้น ทําให้เขาได้ เห็นชายหนุ่มแต่งตัวสะอาดสะอ้านคนหนึ่งกําลังนั่งเขียนอะไรบางอย่างอยู่บนโต๊ะทํางาน

 

ก๊อกๆ

 

ฉีเล่ยเคาะประตูอย่างมีมารยาท ชายหนุ่มที่อยู่ด้านในเงยหน้าขึ้นมองพร้อมกับร้องถามออกไปว่า

 

“คุณมาพบใคร?”

 

“สวัสดีครับ คือผมมารายงาน…”

 

ระหว่างที่พูด ฉีเลยก็ได้หยิบจดหมายฉบับเดิมออกมาอีกครั้งและเตรียมตัวที่จะอธิบายเหตุผลให้กับชายหนุ่มตรงหน้าฟังแต่เขากลับยกมือขึ้นห้าม พร้อมกับพูดแทรกขึ้นทันที

 

“คุณรอประเดี๋ยวก่อน ตอนนี้ผมยุ่งมาก!”

 

จากนั้น ชายหนุ่มก็ก้มหน้าก้มตาเขียนต่อโดยไม่สนใจฉีเล่ยเลยแม้แต่น้อย

 

ฉีเล่ยยังคงรอคอยอย่างอดทนอีกราวสองสามนาที แต่ดูเหมือนว่าชายหนุ่มคงจะยังไม่เขียนเสร็จง่ายๆแน่ ทําให้ฉีเลยได้แต่ยืนเก้ๆกังๆพร้อมกับยกมือขึ้นเกาศรีษะด้วยความกระ อักกระอ่วนใจอยู่เป็นครั้งคราวและได้แต่แอบบ่นพึมพําอยู่ในใจ

 

“เฮ้อ.. นี่จะหยุดเขียนสักครู่ไม่ได้จริงๆน่ะเหรอ? มันเสียเวลาของเขาขนาดนั้นเลยหรือยังไง? กระทั่งเก้าอี้ให้นั่งรอก็ยังไม่มี!”

 

หลังจากยืนรออยู่ครู่ใหญ่ และไม่มีท่าทีว่าชายหนุ่มจะหยุดเขียนเสียทีฉีเล่ยจึงรวบรวมความกล้าเดินเข้าไปในห้องพร้อมกับยื่นจดหมายในมือให้ชายหนุ่มและพูดขึ้นว่า

 

“ขอโทษนะครับ! รบกวนช่วยจัดการเรื่องของผมก่อนจะได้มั้ยครับ?”

 

ชายหนุ่มร้องตอบฉีเลย โดยไม่แม้แต่จะเงยหน้าขึ้นมอง“คุณจะรีบร้อนไปไหนกัน? ไม่เห็นหรือยังไงว่า ผมกําลังเร่ งทํางานที่หัวหน้าหลิวสั่งอยู่?ธุระของคุณสําคัญกว่าธุระขอ งหัวหน้าหลิวหรือยังไง?ไหนลองตอบผมที่สิ?”

 

ฉีเลยได้แต่ขมวดคิ้วด้วยความงุนงงสงสัย “นี่คุณนายหลิวไม่ได้กลับไปพักผ่อนที่บ้านงั้นเหรอ? หรือว่าจะมีหัวหน้าหลิวหลายคน?”

 

ฉีเล่ยจึงได้เอ่ยปากถามชายหนุ่มออกไปว่า “ขอโทษนะครับ ไม่ทราบว่าที่นี่มีหัวหน้าหลิวกี่คนครับ?”

 

ชายหนุ่มขมวดคิ้วเข้าหากันแน่น เขายกมือขึ้นตบโต๊ะ พร้อมกับลุกขึ้นยืนตวาดใส่หน้าฉีเลยทันที

 

“กลับไปยืนรออยู่หน้าประตูเดี๋ยวนี้! ถามอยู่ได้ รู้มั้ยว่าคุณกําลังรบกวนสมาธิในการทํางานของผมอยู่? นี่ถ้าผม ส่งงานให้หัวหน้าหลิวล่าช้าคุณจะรับผิดชอบไหวเหเรอ?”

 

หลังจากนั้นด้วยความโมโห ชายหนุ่มจึงได้กระชากจดหมายในมือของฉีเลยมา และเตรียมที่จะขยําทิ้งขยะไป แต่ ในระหว่างนั้นบังเอิญสายตาของเขาได้เหลือบไปเห็นคําว่า “ทีมแพทย์พิเศษ”ที่อยู่ในจดหมายเข้า

 

“ห้ะ?!”

 

ชายหนุ่มร้องอุทานออกมาด้วยความตกใจ และรีบยกจดหมายในมือขึ้นมาดูชัดๆอีกครั้ง และเมื่อได้เห็นข้อความทั้งหมดอย่างชัดเจนเขาก็ถึงกับต้องเงยหน้าขึ้นมองฉีเลยด้วย ความตกตะลึงก่อนจะถามขึ้นด้วยน้ําเสียงที่ค่อนข้างสั่น

 

“เอ่อ.. นี่คุณมารายงานตัวในฐานะแพทย์พิเศษเหรอครับ?”

 

“ครับ!” ฉีเลยพยักหน้า และตอบกลับเพียงแค่สั้นๆ

 

“ขอโทษครับ! กรุณายกโทษให้ผมด้วย!”

 

ชายหนุ่มรีบโค้งคํานับเล่ยด้วยใบหน้าที่แดง พร้อมกับเอ่ยขอโทษทันทีก่อนจะถามร้องถามฉีเล่ยต่อว่า

 

“คุณ.. คุณคงจะเป็นคุณหมอฉีสินะครับ? ผมต้องขอโทษคุณหมอฉีที่เสียมารยาทเมื่อครู่นี้! ผมคิดไม่ถึงว่าคุณจะเป็นหนึ่งในทีมแพทย์พิเศษจริงๆครับ!”

 

หลังจากนั้น ชายหนุ่มก็รีบกระวีกระวาดยกเก้าอี้มาให้ฉีเล่ยนั่งพร้อมกับพูดขึ้นด้วยสีหน้าท่าทางนอบน้อม

 

“เชิญคุณหมอฉีนั่งก่อนครับ และนี่น้ําดื่ม ผมจะรีบไปรายงานหัวหน้าเกาให้ทราบก่อนนะครับ!”

 

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+