ยอดนักรบจอมราชัน 105 โทสะและความโกรธเกรี้ยวของเขี้ยวหมาป่า 2

Now you are reading ยอดนักรบจอมราชัน Chapter 105 โทสะและความโกรธเกรี้ยวของเขี้ยวหมาป่า 2 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ภูเขาลูกนี้ไม่ได้ชันมากนักแต่เต็มไปด้วยหนามและพุ่มไม้หนาทึบซึ่งทำให้การเดินทางจึงยากลำบากและหลงทางได้ง่าย แต่ด้วยเฟิงหลานซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญในการทำสงครามในป่าเป็นผู้นำทางจึงทำให้ทุกอย่างดำเนินไปด้วยดีไม่มีปัญหาใดๆ แต่เนื่องจากพวกเขาอยู่ในดินแดนของกองกำลังติดอาวุธพวกเขาจึงต้องระมัดระวังเป็นอย่างมาก เย่เชียนหันไปมองหน้าม่อหลงและส่งสัญญาณมือให้เขาจากนั้นม่อหลงก็พยักหน้าและแยกตัวออกจากกลุ่มไป

 

ม่อหลงเป็นสไนเปอร์พลซุ่มยิงที่เก่งที่สุดในเขี้ยวหมาป่าทักษะการพรางตัวของเขาก็สมบูรณ์แบบที่สุด การที่จะให้เขาไปกำจัดทหารเฝ้ายามรักษาการณ์ของกองกำลังติดอาวุธคือกลยุทธ์ที่ดีที่สุด

 

ในขณะที่พวกเขากำลังเคลื่อนพลอยู่นั้นเจมส์ก็ได้ทิ้งสัญลักษณ์พิเศษของเขี้ยวหมาป่าเอาไว้เพื่อทำสัญลักษณ์ระบุเส้นทางและประการแรกก็เพื่อป้องกันการหลงทางในป่าและประการที่สองก็เพื่อให้หลี่เหว่ยสามารถตามมาสมทบและเข้าร่วมกลุ่มกับพวกเขาให้เร็วที่สุดเมื่อเขาได้รับข้อมูลใหม่ๆเกี่ยวกับศัตรู เนื่องจากภูมิประเทศมีความหนาแน่นและซับซ้อนจึงทำการพรางตัวได้ง่ายมาก ดังนั้นทุกคนจึงสื่อสารกันผ่านภาษามือพิเศษทางทหารเพื่อป้องกันไม่ให้ศัตรูไหวตัวและรู้ตัวได้

 

ในป่านั้นเต็มไปด้วยงูและแมลงแต่ถึงแม้ว่ามันจะไม่มีพิษก็ตาม แต่การถูกพวกมันกัดก็ยังคงเจ็บหรือแสบคันเช่นกัน ทุกคนพรางตัวอยู่ในป่าลึกและพวกเขาก็ยังทาสีพิเศษบนใบหน้าเพื่อความกลมกลืนไปกับธรรมชาติ ทุกคนไม่ได้เคลื่อนที่ด้วยความเร็วเพราะมันเป็นสิ่งต้องห้ามที่จะเคลื่อนที่อย่างรวดเร็วในป่าเพราะพวกเขาต้องรักษาความเงียบงันและความกลมกลืนที่สุดเท่านั้น มีเครื่องหมายที่ม่อหลงทำทิ้งเอาไว้ตามสองข้างทางและศพของทหารยามที่เขากำจัดก็ถูกซ่อนไว้ด้วยเช่นกัน ซึ่งพวกเขานั้นพรางตัวได้เป็นอย่างดีดังนั้นจึงยากสำหรับคนทั่วไปที่จะตรวจจับหรือค้นพบพวกเขาได้

 

เวลาประมาณเที่ยงคืนทุกคนก็สามารถรวมกลุ่มกับหลี่เหว่ยและม่อหลงแล้ว และหลังจากนั่งล้อมกันเป็นวงกลมเย่เชียนก็ดึงแผนที่ของฐานที่มั่นของกองกำลังติดอาวุธจากกระเป๋าที่หวังเต๋อเซินมอบให้เขามา และเห็นได้ชัดว่าหวังเต๋อเซินมีความตั้งใจที่ต้องการจะกำจัดตี่ลุนมานานแล้ว “ทุกคนดู..จุดนี้คือฐานที่มั่นของกองกำลังติดอาวุธของตี่ลุน..มันถูกล้อมรอบด้วยรั้วไม้ทั้งสี่ด้าน..ทิศเหนือใต้..ตะวันตกและตะวันออก แต่ละทิศจะมีหอสังเกตการณ์อยู่และภารกิจของเราในตอนนี้คือการแทรกซึมเข้าไปและค้นหาว่าเทียนเฉิงถูกจับอยู่หรือไม่และก็ถ้าไม่จำเป็นก็อย่าเข้าปะทะเข้าใจมั้ย?” เย่เชียนพูดด้วยเสียงกระซิบเบาๆ และถึงแม้ว่าม่อหลงจะเคลียร์ทหารยามโดยรอบไปหมดแล้วแต่ถึงยังไงก็ต้องเคลื่อนพลด้วยความระมัดระวังเพราะในกรณีที่ปลาหลุดเข้าไปในอวนแล้วความพยายามก่อนหน้าจะได้ไม่เสียเปล่าและถึงแม้ว่าความเป็นไปได้จะน้อยมากก็ตามแต่ก็ต้องเคลื่อนไหวอย่างเงียบๆอยู่ดี

 

“หลี่เหว่ย..รายงานข้อมูลมาทุกอย่างที่นายได้มาให้เราทราบที” เย่เชียนกระซิบเบาๆ

 

หลี่เหว่ยพยักหน้าจากนั้นก็ชี้ไปที่แผนที่และพูดเบาๆว่า “มีทหารสองนายประจำการณ์อยู่ทุกๆหอสังเกตการณ์และแต่ละคนก็เฝ้าประจำจุดปืนกลหนัก W95 ลำกล้อง 12.7  มม. และพิกัดนี้น่าจะเป็นคลังแสงของพวกมันและมีทหารเฝ้ากะละสิบคนผลัดกันเฝ้าและเปลี่ยนกะทุกๆสองชั่วโมง..ส่วนประตูทางทิศเหนือมีทหารรักษาการณ์ประมาณยี่สิบคนไม่ทราบชนิดของอาวุธ…ส่วนทางทิศตะวันออก..ทิศตะวันตกและทิศใต้เป็นรั้วทั้งหมดสูงราวๆสองเมตรและมีทหารเพียงสิบคนที่รับผิดชอบในการลาดตระเวนตรวจไปรอบๆบริเวณนั้นและไม่มีทางออกอื่นนอกจากทิศเหนือ..และพิกัดนี้เป็นที่คุมขังของพวกมันโดยมีคนประมาณห้าคนรักษาการณ์อยู่ ถ้าพี่เทียนเฉินอยู่ในนั้นนี้จริงๆเขาก็น่าจะถูกขังไว้ในคุกใต้ดิน”

 

เย่เชียนพยักหน้าและพูดเบาๆว่า “ผมจะมอบหมายหน้าที่ให้พวกคุณ!..เจมส์คุณไปทางทิศใต้..วิลเลียมคุณไปทางทิศตะวันออก..ม่อหลงคุณสแตนด์บายอยู่ที่นี่..เราจะพยายามแทรกซึมเข้าไปให้เงียบที่สุดแต่ถ้าหากในกรณีที่เราถูกศัตรูพบล่ะก็ผมอนุญาติให้คุณใช้เครื่องยิงจรวดเพื่อคุ้มกันพวกเราได้ ชิงเฟิงนายและพี่เฟิงหลานพวกคุณลอบเข้าไปทางทิศใต้และเป้าหมายของพวกคุณคือการทำลายคลังแสงและถ้าหลี่เหว่ยกับผมสามารถช่วยเทียนเฉิงได้แล้วหรือถ้าเราถูกศัตรูค้นพบให้พวกคุณระเบิดคลังแสงทิ้งทันที หลี่เหว่ยกับผมจะเข้าจากทางทิศตะวันตกและลอบเข้าไปที่ห้องขังและจำไว้ว่าอย่ายิ่งถ้าไม่จำเป็นก็อย่าปะทะจะดีที่สุดและพยายามอย่างเต็มที่เพื่อหลีกเลี่ยงจากสายตาของศัตรูเข้าใจมั้ย?”

 

ทุกคนพยักหน้าพร้อมกันจากนั้นเย่เชียนก็ยื่นมือออกไปและทุกคนก็วางมือทับบนมือของเขาและทุกคนก็มองตากันแล้วก็พูดขึ้น “เขี้ยวหมาป่า..พิฆาตลงทัณฑ์!”

 

หลังจากนั้นเย่เชียนก็ชูมือขึ้นแล้วพวกเขาทั้งหมดก็แยกย้ายกันไปยังสถานที่ที่กำหนดไว้

 

ตีนเขาด้านล่างนั้นเป็นที่ตั้งฐานที่มั่นของกองกำลังติดอาวุธของตี่ลุนและในตอนกลางคืนนั้นไฟทุกดวงดับสนิทและมีแค่แสงไฟจากสปอร์ตไลท์บนหอสังเกตการณ์แต่ละแห่งที่ส่องไปมารอบๆอยู่ตลอดเวลา

 

เย่เชียนและหลี่เหว่ยก็มาถึงทางทิศตะวันตกตามแผนที่วางเอาไว้อย่างรวดเร็ว ในขณะที่แสงไฟสปอร์ตไลท์กำลังจะส่องมาทางพวกเขาทั้งสองคนก็รีบมุดตัวลงและไม่นานนักแสงไฟสปอร์ตไลท์ก็ส่องเลยไปซึ่งมันใช้เวลาอย่างน้อยสิบนาทีก่อนที่มันจะวนกลับมาส่องยังตำแหน่งนี้อีกที เย่เชียนส่งสัญญาณมือให้หลี่เหว่ยและหลี่เหว่ยก็เข้าใจได้ทันทีว่าในครั้งต่อไปที่แสงไฟสปอร์ตไลท์ส่องผ่านตำแหน่งของพวกเขาทั้งสองคนอีกครั้งพวกเขาจะต้องรีบลุกขึ้นและปีนขึ้นไปบนรั้วให้เร็วที่สุดเท่าที่ทำได้ แต่ท้ายที่สุดแล้วรั้วสูงแค่สองเมตรสำหรับพวกเขานั้นมันก็เป็นเพียงแค่ของเด็กเล่น

 

เป็นไปตามแผนเย่เชียนและหลี่เหว่ยก้มตัวลงหมอบคลานอย่างรวดเร็วไปยังตำแหน่งของคุกใต้ดินขณะที่คอยเฝ้าระวังหลังของกันและกันและเมื่อหลบเลี่ยงจากการลาดตระเวนของทหารยามระหว่างทางได้พวกเขาก็มาถึงหน้าคุกได้อย่างราบรื่น

 

ข้างๆคุกมีทหารยามอยู่ห้าคนนั่งอยู่บนพื้นอย่างเกียจคร้านและพูดภาษาเมียนมาร์ดังนั้นเย่เชียนและหลี่เหว่ยจึงไม่รู้ถึงความหมายของการสนทนาของพวกเขา เย่เชียนส่งสัญญาณมือให้หลี่เหว่ยซึ่งสื่อว่าจะให้เขาย่องเข้าไปหาทหารยามทั้งห้าจากตำแหน่งนี้ในขณะที่เย่เชียนจะอ้อมไปหาพวกเขาจากอีกด้านหนึ่งจากนั้นทั้งสองก็เข้าไปใกล้ทหารยามทั้งห้าอย่างช้าๆและเมื่ออยู่ห่างประมาณหนึ่งเมตรเย่เชียนก็พุ่งเข้าใส่พร้อมด้วยมีดโลหิตหมาป่าในมือและเชือดคอของทหารยามอย่างแม่นยำและหลังจากที่เย่เชียนกำจัดไปหนึ่งคนเขาก็หมุนตัวพร้อมเหวี่ยงมือที่ถือมีดโลหิตหมาป่าเฉือนคอของทหารยามอีกคน

 

ภายในเวลาห้าวินาทีสั้นๆเย่เชียนและหลี่เหว่ยส่งทหารยามทั้งห้าคนไปยมโลกอย่างง่ายดาย หลังจากนั้นพวกเขาก็ลากศพไปซ่อนอยู่ที่มุมมืดๆสักมุมหนึ่งและกำลังจะเข้าไปในคุกจู่ๆทหารยามอีกคนก็เดินมาและก้มหัวอยู่ขณะที่เขาดึงกางเกงของเขาในขณะที่เขาเดินมาดูเหมือนว่าเพิ่งจะไปเข้าห้องน้ำเสร็จ พวกเขาสองคนก็อดไม่ได้ที่จะปามีดที่อยู่ในมือใส่ เย่เชียนปามีดโลหิตหมาป่าตรงไปที่ลำคอของททหารยามอย่างรวดเร็วในเวลาเดียวกันกับมีด M9 ของหลี่เหว่ยพุ่งทะลุไปที่หน้าอกของทหารยามคนนั้นอย่างแรง ทหารยามคนนั้นตาเหลือกขึ้นมาขณะที่เขากำลังจะตายและในช่วงเวลาสุดท้ายของเขาก็โอดครวญขึ้นมาในใจว่า ‘นายท่าน!’

 

และหลังจากซ่อนศพเอาไว้อย่างดีทั้งสองก็เข้าไปในคุกและเนื่องจากมันเป็นคุกใต้ดินสภาพจึงเหมือนสระน้ำมากๆและตรงกลางก็มีเสาไม้แนวตั้งซึ่งเหล่านักโทษและเฉลยถูกมัดติดกับเสาและมีเพียงหัวเท่านั้นที่โผล่อยู่เหนือน้ำ

 

คุกแห่งนี้มีนักโทษเฉลยศึกอยู่เพียงคนเดียว ศีรษะที่ห้อยต่ำด้วยความอ่อนล้าและใบหน้ามีรอยฟกช้ำมากมาย เนื่องจากคุกแห่งนี้ค่อนข้างมืดจึงทำให้เย่เชียนและหลี่เหว่ยไม่สามารถมองเห็นใบหน้าของเขาได้อย่างชัดเจนแต่พวกเขาก็ยังอดไม่ได้ที่จะตื่นเต้นอย่างมากจากนั้นพวกเขาก็ก้าวลงไปในน้ำอย่างระมัดระวังและเดินไปข้างหน้าอย่างช้าๆ

 

นักโทษเฉลยศึกรับรู้ได้ถึงการเคลื่อนไหวและถึงแม้ว่าเขาจะต้องเผชิญกับสิ่งที่เลวร้ายก็ตามแต่ดวงตาของเขาก็ยังคงเต็มไปด้วยความโกรธแค้นและความเกรี้ยวกราด แต่เมื่อเขาเห็นว่าคนที่อยู่ตรงหน้าของเขาเป็นเย่เชียนและหลี่เหว่ยแล้วนักโทษเฉลยศึกคนนั้นก็ตกตะลึงและอดไม่ได้ที่จะสั่นสะท้านไปทั้งตัว

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

ยอดนักรบจอมราชัน 105 โทสะและความโกรธเกรี้ยวของเขี้ยวหมาป่า 2

Now you are reading ยอดนักรบจอมราชัน Chapter 105 โทสะและความโกรธเกรี้ยวของเขี้ยวหมาป่า 2 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ภูเขาลูกนี้ไม่ได้ชันมากนักแต่เต็มไปด้วยหนามและพุ่มไม้หนาทึบซึ่งทำให้การเดินทางจึงยากลำบากและหลงทางได้ง่าย แต่ด้วยเฟิงหลานซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญในการทำสงครามในป่าเป็นผู้นำทางจึงทำให้ทุกอย่างดำเนินไปด้วยดีไม่มีปัญหาใดๆ แต่เนื่องจากพวกเขาอยู่ในดินแดนของกองกำลังติดอาวุธพวกเขาจึงต้องระมัดระวังเป็นอย่างมาก เย่เชียนหันไปมองหน้าม่อหลงและส่งสัญญาณมือให้เขาจากนั้นม่อหลงก็พยักหน้าและแยกตัวออกจากกลุ่มไป

 

ม่อหลงเป็นสไนเปอร์พลซุ่มยิงที่เก่งที่สุดในเขี้ยวหมาป่าทักษะการพรางตัวของเขาก็สมบูรณ์แบบที่สุด การที่จะให้เขาไปกำจัดทหารเฝ้ายามรักษาการณ์ของกองกำลังติดอาวุธคือกลยุทธ์ที่ดีที่สุด

 

ในขณะที่พวกเขากำลังเคลื่อนพลอยู่นั้นเจมส์ก็ได้ทิ้งสัญลักษณ์พิเศษของเขี้ยวหมาป่าเอาไว้เพื่อทำสัญลักษณ์ระบุเส้นทางและประการแรกก็เพื่อป้องกันการหลงทางในป่าและประการที่สองก็เพื่อให้หลี่เหว่ยสามารถตามมาสมทบและเข้าร่วมกลุ่มกับพวกเขาให้เร็วที่สุดเมื่อเขาได้รับข้อมูลใหม่ๆเกี่ยวกับศัตรู เนื่องจากภูมิประเทศมีความหนาแน่นและซับซ้อนจึงทำการพรางตัวได้ง่ายมาก ดังนั้นทุกคนจึงสื่อสารกันผ่านภาษามือพิเศษทางทหารเพื่อป้องกันไม่ให้ศัตรูไหวตัวและรู้ตัวได้

 

ในป่านั้นเต็มไปด้วยงูและแมลงแต่ถึงแม้ว่ามันจะไม่มีพิษก็ตาม แต่การถูกพวกมันกัดก็ยังคงเจ็บหรือแสบคันเช่นกัน ทุกคนพรางตัวอยู่ในป่าลึกและพวกเขาก็ยังทาสีพิเศษบนใบหน้าเพื่อความกลมกลืนไปกับธรรมชาติ ทุกคนไม่ได้เคลื่อนที่ด้วยความเร็วเพราะมันเป็นสิ่งต้องห้ามที่จะเคลื่อนที่อย่างรวดเร็วในป่าเพราะพวกเขาต้องรักษาความเงียบงันและความกลมกลืนที่สุดเท่านั้น มีเครื่องหมายที่ม่อหลงทำทิ้งเอาไว้ตามสองข้างทางและศพของทหารยามที่เขากำจัดก็ถูกซ่อนไว้ด้วยเช่นกัน ซึ่งพวกเขานั้นพรางตัวได้เป็นอย่างดีดังนั้นจึงยากสำหรับคนทั่วไปที่จะตรวจจับหรือค้นพบพวกเขาได้

 

เวลาประมาณเที่ยงคืนทุกคนก็สามารถรวมกลุ่มกับหลี่เหว่ยและม่อหลงแล้ว และหลังจากนั่งล้อมกันเป็นวงกลมเย่เชียนก็ดึงแผนที่ของฐานที่มั่นของกองกำลังติดอาวุธจากกระเป๋าที่หวังเต๋อเซินมอบให้เขามา และเห็นได้ชัดว่าหวังเต๋อเซินมีความตั้งใจที่ต้องการจะกำจัดตี่ลุนมานานแล้ว “ทุกคนดู..จุดนี้คือฐานที่มั่นของกองกำลังติดอาวุธของตี่ลุน..มันถูกล้อมรอบด้วยรั้วไม้ทั้งสี่ด้าน..ทิศเหนือใต้..ตะวันตกและตะวันออก แต่ละทิศจะมีหอสังเกตการณ์อยู่และภารกิจของเราในตอนนี้คือการแทรกซึมเข้าไปและค้นหาว่าเทียนเฉิงถูกจับอยู่หรือไม่และก็ถ้าไม่จำเป็นก็อย่าเข้าปะทะเข้าใจมั้ย?” เย่เชียนพูดด้วยเสียงกระซิบเบาๆ และถึงแม้ว่าม่อหลงจะเคลียร์ทหารยามโดยรอบไปหมดแล้วแต่ถึงยังไงก็ต้องเคลื่อนพลด้วยความระมัดระวังเพราะในกรณีที่ปลาหลุดเข้าไปในอวนแล้วความพยายามก่อนหน้าจะได้ไม่เสียเปล่าและถึงแม้ว่าความเป็นไปได้จะน้อยมากก็ตามแต่ก็ต้องเคลื่อนไหวอย่างเงียบๆอยู่ดี

 

“หลี่เหว่ย..รายงานข้อมูลมาทุกอย่างที่นายได้มาให้เราทราบที” เย่เชียนกระซิบเบาๆ

 

หลี่เหว่ยพยักหน้าจากนั้นก็ชี้ไปที่แผนที่และพูดเบาๆว่า “มีทหารสองนายประจำการณ์อยู่ทุกๆหอสังเกตการณ์และแต่ละคนก็เฝ้าประจำจุดปืนกลหนัก W95 ลำกล้อง 12.7  มม. และพิกัดนี้น่าจะเป็นคลังแสงของพวกมันและมีทหารเฝ้ากะละสิบคนผลัดกันเฝ้าและเปลี่ยนกะทุกๆสองชั่วโมง..ส่วนประตูทางทิศเหนือมีทหารรักษาการณ์ประมาณยี่สิบคนไม่ทราบชนิดของอาวุธ…ส่วนทางทิศตะวันออก..ทิศตะวันตกและทิศใต้เป็นรั้วทั้งหมดสูงราวๆสองเมตรและมีทหารเพียงสิบคนที่รับผิดชอบในการลาดตระเวนตรวจไปรอบๆบริเวณนั้นและไม่มีทางออกอื่นนอกจากทิศเหนือ..และพิกัดนี้เป็นที่คุมขังของพวกมันโดยมีคนประมาณห้าคนรักษาการณ์อยู่ ถ้าพี่เทียนเฉินอยู่ในนั้นนี้จริงๆเขาก็น่าจะถูกขังไว้ในคุกใต้ดิน”

 

เย่เชียนพยักหน้าและพูดเบาๆว่า “ผมจะมอบหมายหน้าที่ให้พวกคุณ!..เจมส์คุณไปทางทิศใต้..วิลเลียมคุณไปทางทิศตะวันออก..ม่อหลงคุณสแตนด์บายอยู่ที่นี่..เราจะพยายามแทรกซึมเข้าไปให้เงียบที่สุดแต่ถ้าหากในกรณีที่เราถูกศัตรูพบล่ะก็ผมอนุญาติให้คุณใช้เครื่องยิงจรวดเพื่อคุ้มกันพวกเราได้ ชิงเฟิงนายและพี่เฟิงหลานพวกคุณลอบเข้าไปทางทิศใต้และเป้าหมายของพวกคุณคือการทำลายคลังแสงและถ้าหลี่เหว่ยกับผมสามารถช่วยเทียนเฉิงได้แล้วหรือถ้าเราถูกศัตรูค้นพบให้พวกคุณระเบิดคลังแสงทิ้งทันที หลี่เหว่ยกับผมจะเข้าจากทางทิศตะวันตกและลอบเข้าไปที่ห้องขังและจำไว้ว่าอย่ายิ่งถ้าไม่จำเป็นก็อย่าปะทะจะดีที่สุดและพยายามอย่างเต็มที่เพื่อหลีกเลี่ยงจากสายตาของศัตรูเข้าใจมั้ย?”

 

ทุกคนพยักหน้าพร้อมกันจากนั้นเย่เชียนก็ยื่นมือออกไปและทุกคนก็วางมือทับบนมือของเขาและทุกคนก็มองตากันแล้วก็พูดขึ้น “เขี้ยวหมาป่า..พิฆาตลงทัณฑ์!”

 

หลังจากนั้นเย่เชียนก็ชูมือขึ้นแล้วพวกเขาทั้งหมดก็แยกย้ายกันไปยังสถานที่ที่กำหนดไว้

 

ตีนเขาด้านล่างนั้นเป็นที่ตั้งฐานที่มั่นของกองกำลังติดอาวุธของตี่ลุนและในตอนกลางคืนนั้นไฟทุกดวงดับสนิทและมีแค่แสงไฟจากสปอร์ตไลท์บนหอสังเกตการณ์แต่ละแห่งที่ส่องไปมารอบๆอยู่ตลอดเวลา

 

เย่เชียนและหลี่เหว่ยก็มาถึงทางทิศตะวันตกตามแผนที่วางเอาไว้อย่างรวดเร็ว ในขณะที่แสงไฟสปอร์ตไลท์กำลังจะส่องมาทางพวกเขาทั้งสองคนก็รีบมุดตัวลงและไม่นานนักแสงไฟสปอร์ตไลท์ก็ส่องเลยไปซึ่งมันใช้เวลาอย่างน้อยสิบนาทีก่อนที่มันจะวนกลับมาส่องยังตำแหน่งนี้อีกที เย่เชียนส่งสัญญาณมือให้หลี่เหว่ยและหลี่เหว่ยก็เข้าใจได้ทันทีว่าในครั้งต่อไปที่แสงไฟสปอร์ตไลท์ส่องผ่านตำแหน่งของพวกเขาทั้งสองคนอีกครั้งพวกเขาจะต้องรีบลุกขึ้นและปีนขึ้นไปบนรั้วให้เร็วที่สุดเท่าที่ทำได้ แต่ท้ายที่สุดแล้วรั้วสูงแค่สองเมตรสำหรับพวกเขานั้นมันก็เป็นเพียงแค่ของเด็กเล่น

 

เป็นไปตามแผนเย่เชียนและหลี่เหว่ยก้มตัวลงหมอบคลานอย่างรวดเร็วไปยังตำแหน่งของคุกใต้ดินขณะที่คอยเฝ้าระวังหลังของกันและกันและเมื่อหลบเลี่ยงจากการลาดตระเวนของทหารยามระหว่างทางได้พวกเขาก็มาถึงหน้าคุกได้อย่างราบรื่น

 

ข้างๆคุกมีทหารยามอยู่ห้าคนนั่งอยู่บนพื้นอย่างเกียจคร้านและพูดภาษาเมียนมาร์ดังนั้นเย่เชียนและหลี่เหว่ยจึงไม่รู้ถึงความหมายของการสนทนาของพวกเขา เย่เชียนส่งสัญญาณมือให้หลี่เหว่ยซึ่งสื่อว่าจะให้เขาย่องเข้าไปหาทหารยามทั้งห้าจากตำแหน่งนี้ในขณะที่เย่เชียนจะอ้อมไปหาพวกเขาจากอีกด้านหนึ่งจากนั้นทั้งสองก็เข้าไปใกล้ทหารยามทั้งห้าอย่างช้าๆและเมื่ออยู่ห่างประมาณหนึ่งเมตรเย่เชียนก็พุ่งเข้าใส่พร้อมด้วยมีดโลหิตหมาป่าในมือและเชือดคอของทหารยามอย่างแม่นยำและหลังจากที่เย่เชียนกำจัดไปหนึ่งคนเขาก็หมุนตัวพร้อมเหวี่ยงมือที่ถือมีดโลหิตหมาป่าเฉือนคอของทหารยามอีกคน

 

ภายในเวลาห้าวินาทีสั้นๆเย่เชียนและหลี่เหว่ยส่งทหารยามทั้งห้าคนไปยมโลกอย่างง่ายดาย หลังจากนั้นพวกเขาก็ลากศพไปซ่อนอยู่ที่มุมมืดๆสักมุมหนึ่งและกำลังจะเข้าไปในคุกจู่ๆทหารยามอีกคนก็เดินมาและก้มหัวอยู่ขณะที่เขาดึงกางเกงของเขาในขณะที่เขาเดินมาดูเหมือนว่าเพิ่งจะไปเข้าห้องน้ำเสร็จ พวกเขาสองคนก็อดไม่ได้ที่จะปามีดที่อยู่ในมือใส่ เย่เชียนปามีดโลหิตหมาป่าตรงไปที่ลำคอของททหารยามอย่างรวดเร็วในเวลาเดียวกันกับมีด M9 ของหลี่เหว่ยพุ่งทะลุไปที่หน้าอกของทหารยามคนนั้นอย่างแรง ทหารยามคนนั้นตาเหลือกขึ้นมาขณะที่เขากำลังจะตายและในช่วงเวลาสุดท้ายของเขาก็โอดครวญขึ้นมาในใจว่า ‘นายท่าน!’

 

และหลังจากซ่อนศพเอาไว้อย่างดีทั้งสองก็เข้าไปในคุกและเนื่องจากมันเป็นคุกใต้ดินสภาพจึงเหมือนสระน้ำมากๆและตรงกลางก็มีเสาไม้แนวตั้งซึ่งเหล่านักโทษและเฉลยถูกมัดติดกับเสาและมีเพียงหัวเท่านั้นที่โผล่อยู่เหนือน้ำ

 

คุกแห่งนี้มีนักโทษเฉลยศึกอยู่เพียงคนเดียว ศีรษะที่ห้อยต่ำด้วยความอ่อนล้าและใบหน้ามีรอยฟกช้ำมากมาย เนื่องจากคุกแห่งนี้ค่อนข้างมืดจึงทำให้เย่เชียนและหลี่เหว่ยไม่สามารถมองเห็นใบหน้าของเขาได้อย่างชัดเจนแต่พวกเขาก็ยังอดไม่ได้ที่จะตื่นเต้นอย่างมากจากนั้นพวกเขาก็ก้าวลงไปในน้ำอย่างระมัดระวังและเดินไปข้างหน้าอย่างช้าๆ

 

นักโทษเฉลยศึกรับรู้ได้ถึงการเคลื่อนไหวและถึงแม้ว่าเขาจะต้องเผชิญกับสิ่งที่เลวร้ายก็ตามแต่ดวงตาของเขาก็ยังคงเต็มไปด้วยความโกรธแค้นและความเกรี้ยวกราด แต่เมื่อเขาเห็นว่าคนที่อยู่ตรงหน้าของเขาเป็นเย่เชียนและหลี่เหว่ยแล้วนักโทษเฉลยศึกคนนั้นก็ตกตะลึงและอดไม่ได้ที่จะสั่นสะท้านไปทั้งตัว

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+