ยอดนักรบจอมราชัน 85 พบญาติผู้ใหญ่

Now you are reading ยอดนักรบจอมราชัน Chapter 85 พบญาติผู้ใหญ่ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

เย่เชียนส่งมอบเรื่องของสำนักงานกองกำลังป้องกันตนเองหรือบริษัทรักษาความปลอดภัยเฉพาะกิจให้กับแจ็คทั้งหมดเพราะไอคิวของเจ้าหนูคนนี้นั้นค่อนข้างสูงเลยทีเดียวและเขาก็เป็นคนที่ตั้งใจทำงานอย่างมากนอกจากนี้เขายังดูแลธุรกิจต่างๆให้จึงทำให้เย่เชียนรู้สึกสบายใจเป็นอย่างมาก

 

หลังจากที่คุยกับแจ็คและหลี่เหว่ยอย่างเต็มอิ่มแล้วเย่เชียนก็ออกจากสำนักงานชั่วคราวของกลุ่มน่านฟ้าไปและหลังจากออกมาแล้วเย่เชียนก็รู้สึกเบื่อหน่ายเพราะทุกอย่างเป็นไปอย่างราบรื่นและเขาก็ไม่จำเป็นที่จะต้องไปที่บริษัทเทียนหยากรุ๊ปอีกต่อไปแล้วเพราะท้ายที่สุดเขาก็เป็นผู้คุ้มกันของจ้าวหยาเพราะฉะนั้นหัวหน้าแผนกรักษาความปลอดภัยของบริษัทเทียนหยากรุ๊ปจะไม่กล้าพูดอะไรเกี่ยวกับเรื่องนี้อย่างแน่นอน

 

ทันใดนั้นจู่ๆโทรศัพท์ของเย่เชียนก็ดังขึ้นเขาหยิบโทรศัพท์มือถือออกมาดูทันทีและเห็นว่าเป็นหลินโรวโร่วที่โทรเข้ามา

 

“เย่เชียนคืนนี้คุณว่างไหม” เมื่อรับสายแล้วเสียงของหลินโรวโร่วก็ยังดูคงอบอุ่นอยู่เหมือนเดิม

 

ถ้าจะต้องเลือกใครสักคนมาเป็นภรรยาแล้วล่ะก็หลินโรวโร่วคนนี้แหละดีที่สุดอย่างไม่ต้องสงสัย แต่เมื่อนึกถึงวันที่อยู่ในห้างสรรพสินค้าที่เห็นหลินโรวโร่วควงแขนชายวัยกลางคนและดูสนิทสนมกันอย่างมากจึงทำให้เย่เชียนไม่สบอารมณ์เป็นอย่างมากจึงทำให้น้ำเสียงของเขาเย็นชาลงและถามอย่างเย็นชาว่า “คุณมีอะไร?”

 

หลินโรวโร่วเธอดูเหมือนว่าจะรับรู้ได้ถึงพฤติกรรมที่เปลี่ยนไปของเย่เชียนและเธอก็รู้สึกว้าวุ่นใจเล็กน้อยในขณะนั้นจึงรีบพูดว่า “ลุงกับป้าของฉันเพิ่งมาถึงเมืองเซี่ยงไฮ้และพวกเขาอยากพบคุณ”

 

พบผู้ใหญ่? เย่เชียนอดไม่ได้ที่จะฟุ้งซ่านในทันที ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าเขาไม่ต้องการพบผู้หลักผู้ใหญ่ แต่เนื่องจากพวกเขามาถึงกันแล้วเย่เชียนจึงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากจะต้องพบกับพวกเขามิฉะนั้นหลินโรวโร่วจะเสียหน้า และนอกจากนี้เขายังอยากถามและเคลียร์เกี่ยวกับเรื่องวันนั้นที่ห้างอีกด้วย “กี่โมง..ที่ไหน?” เย่เชียนถามห้วนๆอย่างไม่สบอารมณ์เท่าไหร่นัก

 

“หกโมงเย็นคืนนี้ที่ศาลาเซียงเฟย” หลินโรวโร่วตอบ

 

“ได้” เย่เชียนตอบตกลงง่ายๆ

 

เมื่อได้ยินเย่เชียนตกลงที่จะพบครอบครัวของเธอหลินโรวโร่วก็มีความสุขมากเธอยิ้มเล็กยิ้มน้อยและพูดว่า “แล้วเจอกันคืนนี้นะ แต่ว่าป้าของฉันอาจจะรับมือได้ยากหน่อยนะ..คุณต้องเตรียมพร้อมให้ดีล่ะ”

 

เย่เชียนตกตะลึงเล็กน้อยและก็พูดว่า “ไม่ต้องกังวลต่อให้เป็นถึงราชานรกผมก็ไม่กลัว”

 

หลินโรวโร่วถอนหายใจและพูดอย่างเคร่งขรึมว่า “ฉันไม่ได้พูดเล่นนะ คืนนี้คุณจะต้องมั่นใจมากกว่าร้อยเปอร์เซ็นนะ มันอาจจะลำบากสักหน่อย แต่ถ้าคุณข้ามภูเขาลูกนี้ไปได้ทุกอย่างมันก็จะง่ายสำหรับเรา”

 

เย่เชียนปลอบโยนเธอย่างนุ่มนวลว่า “คุณมั่นใจได้เลยเพราะคืนนี้ผมสัญญากับคุณว่าผมจะทำทุกสิ่งทุกอย่างเพื่อให้ลุงกับป้าของคุณชื่นชมและยอมรับในตัวผม”

 

หลังจากวางสายไปแล้วเย่เชียนรู้สึกว่าจำเป็นต้องไปแต่งตัวใหม่ หลังจากนี้จะเป็นครั้งแรกที่เขาจะได้พบกับครอบครัวของหลินโรวโร่วและเขาก็ไม่ได้ขาดคุณสมบัติของสุภาพบุรษที่ดีเช่นกัน นี่จะเป็นครั้งแรกที่เขาเคยอยู่ในสถานการณ์เช่นนี้ อดไม่ได้ที่หัวใจของเขาก็กระวนกระวายอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

 

เกี่ยวกับเสื้อผ้าของเขานั้นเย่เชียนมักจะสวมอะไรก็ได้ที่เขารู้สึกสบายใจ แต่เพื่อจุดประสงค์ในการพบปะกับลุงและป้าของหลินโรวโร่วในครั้งนี้เขาจึงต้องไปที่ห้างสรรพสินค้าและซื้อเสื้อผ้า ถึงแม้ว่าเย่เชียนจะค่อนข้างงุนงงไปกับการเลือกซื้อชุดก็ตาม แต่เพราะความพยายามของเขามันก็ไม่สูญเปล่า ในที่สุดเขาก็พบชุดที่ถูกใจเขาเสียที

 

ณ เวลาหกโมงเย็นเย่เชียนก็มาถึงศาลาเซียงเฟยตรงเวลา และระหว่างทางที่เขามาที่นี่เย่เชียนรู้สึกได้ว่าเขาดูสะดุดตามากเกินไปผู้คนต่างก็จ้องมองและยิ้มอย่างอ่อนโยนให้เขา แต่เย่เชียนก็ไม่รู้สึกว่ามันมีอะไรผิดปกติกับเขาและเขาก็ค่อนข้างพอใจที่คนอื่นชื่นชมรูปลักษณ์ของเขาเช่นนี้

 

และเมื่อหลินโรวโร่วเห็นเย่เชียนเธอไล่มองตั้งแต่หัวจรดเท้า หลินโรวโร่วไม่รู้ว่าจะหัวเราะหรือร้องไห้เธอดีก้าวไปข้างหน้าแล้วจับมือเขาพร้อมพูดว่า “คุณไปเอาเสื้อผ้าพวกนี้มาจากไหน?”

 

“ผมเพิ่งจะซื้อมา..เป็นไงหล่อมั้ย” เย่เชียนพูดอย่างภาคภูมิใจ

 

หลินโรวโร่วมองเย่เชียนอย่างอ่อนโยนและพูดว่า “คุณดูไม่เหมือนใครจริงๆ ถ้าฉันหรือคนอื่นที่ไม่รู้จักคุณเห็นคุณต่างก็คิดกันว่าคุณกำลังอยู่ในกองถ่ายทำภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์อยู่”

 

ในความเป็นจริงนั้นการแต่งกายของเย่เชียนดูค่อนข้างเว่อวังอลังการมากเกินไปเขาชวมชุดสูทสีดำเรียบเนียบและสวมแว่นกันแดดสีดำสุดหรูและทรงผมของเขาถูกหวีอย่างเรียบร้อยดูหล่อเนียบราวกับสายลับจากเมืองผู้ดีอังกฤษ

 

“มาเถอะลุงกับป้ากำลังรอเราอยู่” หลินโรวโร่วพูดพร้อมกับควงเย่เชียนเข้าไปข้างใน

 

เย่เชียนดูค่อนข้างประหม่าแต่เขาก็ไม่ได้ใส่ใจกับเรื่องนี้มากเกินไปเพราสำหรับเย่เชียนแล้วถึงแม้ว่าลุงกับป้าหรือพ่อและแม่หรือเครือญาติของหลินโรวโร่วจะเป็นนักธุรกิจเพื่อแสวงหาผลกำไรและต้องการคู่ครองที่เหมาะสมกับหลินโรวโร่วก็ตาม แต่สิ่งที่เลวร้ายที่สุดที่พวกเขาจะสามารถทำได้ในตอนนี้ก็ทำได้เพียงแค่การขับไสไล่ส่งเย่เชียนออกไปจากที่แห่งนี้เพียงเท่านั้น เพราะตราบใดที่หลินโรวโร่วยังไม่ทิ้งเขาล่ะก็ จะไม่มีใครสามารถขั้นกลางระหว่างเขาทั้งสองคนได้

 

การจัดเตรียมอาหารมื้อค่ำครั้งนี้ไม่ได้ธรรมดาเลยแต่ถึงอย่างไรมันก็ไม่ได้ดูฉูดฉาดหรือหรูหราเกินไป สำหรับลุงซูไห่และป้าเฉิงเฟิงเจิ้นของหลินโรวโร่วนั้นเมื่พวกเขาเห็นเย่เชียนในขณะนั้นลุงซูและป้าเฉิงต่างก็อดไม่ได้ที่จะจ้องมองอย่างว่างเปล่า แต่อย่างไรก็ตามพวกเขาคุ้นเคยกับผู้คนมาทุกประเภทเพราะพวกเขาทำงานให้กับรัฐบาลมานานและคุ้นเคยกับการปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์เป็นอย่างดี พวกเขาไม่ได้ถามอะไรเย่เชียนมากเพียงแค่ยิ้มและจับมือที่ล็อบบี้ของโรงแรม ป้าเฉิงเฟิงเจิ้นไม่ได้มีความวิตกกังวลมากนักแต่เธอคอยสังเกตุเย่เชียนอย่างถี่ถ้วน แต่ถึงแม้ว่าพวกเขาจะเข้าไปในส่วนของห้องรับประทานอาหารส่วนตัวและนั่งลงป้าเฉิงเฟิงเจิ้นก็ดูเหมือนว่าจะไม่พบสิ่งใดที่อาจเป็นจุดอ่อนของเย่เชียนได้ ยิ่งไปกว่านั้นไม่ว่าเขาจะเดินหรือนั่งหรือมีปฏิกิริยาอย่างไรล้วนแล้วเต็มเปี่ยมไปด้วยพลังของลูกผู้ชาย และที่สำคัญกว่านั้นเย่เชียนได้แสดงออกถึงความประหม่าเล็กน้อย พวกเขาคิดว่าอาจเป็นเพราะเย่เชียนเขินอายเกินไปและผลที่ตามมาก็คือบรรยากาศที่ดูคลุมเครือเล็กน้อย

 

และเมื่อมองไปที่ลุงซูไห่ทุกอย่างก็ชัดเจนสำหรับเย่เชียนแล้วเขาตัดสินหลินโรวโร่วผิดไปในวันนั้นที่ห้างสรรพสินค้าเพราะคนที่หลินโรวโร่วเดินด้วยก็คือลุงซูไฮ่นี่เอง เย่เชียนจึงรู้สึกผิดเล็กน้อยเขาไม่ควรสงสัยในหลินโรวโร่วเลย แต่ตอนนี้เขารู้สึกมีความสุขที่เข้าใจทุกอย่างได้อย่างชัดเจน ท้ายที่สุดแล้วหลินโรวโร่วก็ยังคงเป็นหลินโรวโร่วที่เขารู้จัก เธอที่อ่อนโยนและใจดีและเข้าใจความรู้สึกของคนอื่นเป็นอย่างดี

 

บางทีอาจเป็นเพราะเรื่องที่เขากังวลมาหลายวันได้รับการแก้ไขอย่างกระจ่างแจ้งแล้วอารมณ์ของเย่เชียนก็ดีขึ้นมากและเขาก็สามารถผ่อนคลายได้ในที่สุด เขาไม่ได้อยู่ด้วยกันกับหลินโรวโร่วมานาน แต่ถึงยังไงเธอก็ยังคงเป็นแฟนของเขาอยู่  แต่อย่างไรก็ตามสำหรับเย่เชียนที่ไม่รู้ถึงภูมิหลังครอบครัวของหลินโรวโร่วเลยแม้แต่น้อย แต่หลังจากที่ได้พบลุงซูไฮ่และป้าเฉิงเฟิงเจิ้นแล้วเย่เชียนก็ขมวดคิ้วเพราะว่าเขาเองก็มีเพื่อนที่เป็นมหาเศรษฐีมากมายและเจ้าหน้าที่ระดับสูงต่างๆ เขาจึงสัมผัสได้จากลุงซูไฮ่และป้าเฉิงเฟิงเจิ้นถึงความลับที่ซับซ้อนที่มีอยู่ในหมู่คนประเภทเหล่านั้น จึงเห็นได้ชัดว่าภูมิหลังครอบครัวของหลินโรวโร่วไม่ได้เรียบง่ายและธรรมดาอย่างนั้น เย่เชียนแอบคิดอยู่ในใจ

 

ถึงแม้ว่าภูมิหลังครอบครัวของหลินโรวโร่วอาจจะยอดเยี่ยมมากแค่ไหนก็ตามพวกเขาก็ไม่สามารถขัดขวางหรือขวางกั้นการแต่งงานของเย่เชียนกับผู้หญิงคนนี้ได้! และเมื่อตระหนักถึงการเข้าใจผิดที่เขามีต่อหลินโรวโร่วแล้วเย่เชียนก็ยิ่งเชื่อมั่นมากขึ้นว่าในอนาคตหลินโรวโร่วจะต้องเป็นภรรยาที่ดีของเขาได้อย่างแน่นอน

 

“ครั้งนี้ที่เรามาที่เซี่ยงไฮ้ก็เพราะเรื่องธุรกิจจึงแวะมาหาหลานโรวโรว่และเราก็เพิ่งจะรู้ว่าเธอมีแฟน เราก็เลยอยากจะเจอพวกเธอทั้งสองพร้อมกันเธอคงจะไม่ขุ่นเคืองใช่ไหม?” ลุงซูไห่พูดขึ้นมา

.

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

ยอดนักรบจอมราชัน 85 พบญาติผู้ใหญ่

Now you are reading ยอดนักรบจอมราชัน Chapter 85 พบญาติผู้ใหญ่ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

เย่เชียนส่งมอบเรื่องของสำนักงานกองกำลังป้องกันตนเองหรือบริษัทรักษาความปลอดภัยเฉพาะกิจให้กับแจ็คทั้งหมดเพราะไอคิวของเจ้าหนูคนนี้นั้นค่อนข้างสูงเลยทีเดียวและเขาก็เป็นคนที่ตั้งใจทำงานอย่างมากนอกจากนี้เขายังดูแลธุรกิจต่างๆให้จึงทำให้เย่เชียนรู้สึกสบายใจเป็นอย่างมาก

 

หลังจากที่คุยกับแจ็คและหลี่เหว่ยอย่างเต็มอิ่มแล้วเย่เชียนก็ออกจากสำนักงานชั่วคราวของกลุ่มน่านฟ้าไปและหลังจากออกมาแล้วเย่เชียนก็รู้สึกเบื่อหน่ายเพราะทุกอย่างเป็นไปอย่างราบรื่นและเขาก็ไม่จำเป็นที่จะต้องไปที่บริษัทเทียนหยากรุ๊ปอีกต่อไปแล้วเพราะท้ายที่สุดเขาก็เป็นผู้คุ้มกันของจ้าวหยาเพราะฉะนั้นหัวหน้าแผนกรักษาความปลอดภัยของบริษัทเทียนหยากรุ๊ปจะไม่กล้าพูดอะไรเกี่ยวกับเรื่องนี้อย่างแน่นอน

 

ทันใดนั้นจู่ๆโทรศัพท์ของเย่เชียนก็ดังขึ้นเขาหยิบโทรศัพท์มือถือออกมาดูทันทีและเห็นว่าเป็นหลินโรวโร่วที่โทรเข้ามา

 

“เย่เชียนคืนนี้คุณว่างไหม” เมื่อรับสายแล้วเสียงของหลินโรวโร่วก็ยังดูคงอบอุ่นอยู่เหมือนเดิม

 

ถ้าจะต้องเลือกใครสักคนมาเป็นภรรยาแล้วล่ะก็หลินโรวโร่วคนนี้แหละดีที่สุดอย่างไม่ต้องสงสัย แต่เมื่อนึกถึงวันที่อยู่ในห้างสรรพสินค้าที่เห็นหลินโรวโร่วควงแขนชายวัยกลางคนและดูสนิทสนมกันอย่างมากจึงทำให้เย่เชียนไม่สบอารมณ์เป็นอย่างมากจึงทำให้น้ำเสียงของเขาเย็นชาลงและถามอย่างเย็นชาว่า “คุณมีอะไร?”

 

หลินโรวโร่วเธอดูเหมือนว่าจะรับรู้ได้ถึงพฤติกรรมที่เปลี่ยนไปของเย่เชียนและเธอก็รู้สึกว้าวุ่นใจเล็กน้อยในขณะนั้นจึงรีบพูดว่า “ลุงกับป้าของฉันเพิ่งมาถึงเมืองเซี่ยงไฮ้และพวกเขาอยากพบคุณ”

 

พบผู้ใหญ่? เย่เชียนอดไม่ได้ที่จะฟุ้งซ่านในทันที ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าเขาไม่ต้องการพบผู้หลักผู้ใหญ่ แต่เนื่องจากพวกเขามาถึงกันแล้วเย่เชียนจึงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากจะต้องพบกับพวกเขามิฉะนั้นหลินโรวโร่วจะเสียหน้า และนอกจากนี้เขายังอยากถามและเคลียร์เกี่ยวกับเรื่องวันนั้นที่ห้างอีกด้วย “กี่โมง..ที่ไหน?” เย่เชียนถามห้วนๆอย่างไม่สบอารมณ์เท่าไหร่นัก

 

“หกโมงเย็นคืนนี้ที่ศาลาเซียงเฟย” หลินโรวโร่วตอบ

 

“ได้” เย่เชียนตอบตกลงง่ายๆ

 

เมื่อได้ยินเย่เชียนตกลงที่จะพบครอบครัวของเธอหลินโรวโร่วก็มีความสุขมากเธอยิ้มเล็กยิ้มน้อยและพูดว่า “แล้วเจอกันคืนนี้นะ แต่ว่าป้าของฉันอาจจะรับมือได้ยากหน่อยนะ..คุณต้องเตรียมพร้อมให้ดีล่ะ”

 

เย่เชียนตกตะลึงเล็กน้อยและก็พูดว่า “ไม่ต้องกังวลต่อให้เป็นถึงราชานรกผมก็ไม่กลัว”

 

หลินโรวโร่วถอนหายใจและพูดอย่างเคร่งขรึมว่า “ฉันไม่ได้พูดเล่นนะ คืนนี้คุณจะต้องมั่นใจมากกว่าร้อยเปอร์เซ็นนะ มันอาจจะลำบากสักหน่อย แต่ถ้าคุณข้ามภูเขาลูกนี้ไปได้ทุกอย่างมันก็จะง่ายสำหรับเรา”

 

เย่เชียนปลอบโยนเธอย่างนุ่มนวลว่า “คุณมั่นใจได้เลยเพราะคืนนี้ผมสัญญากับคุณว่าผมจะทำทุกสิ่งทุกอย่างเพื่อให้ลุงกับป้าของคุณชื่นชมและยอมรับในตัวผม”

 

หลังจากวางสายไปแล้วเย่เชียนรู้สึกว่าจำเป็นต้องไปแต่งตัวใหม่ หลังจากนี้จะเป็นครั้งแรกที่เขาจะได้พบกับครอบครัวของหลินโรวโร่วและเขาก็ไม่ได้ขาดคุณสมบัติของสุภาพบุรษที่ดีเช่นกัน นี่จะเป็นครั้งแรกที่เขาเคยอยู่ในสถานการณ์เช่นนี้ อดไม่ได้ที่หัวใจของเขาก็กระวนกระวายอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

 

เกี่ยวกับเสื้อผ้าของเขานั้นเย่เชียนมักจะสวมอะไรก็ได้ที่เขารู้สึกสบายใจ แต่เพื่อจุดประสงค์ในการพบปะกับลุงและป้าของหลินโรวโร่วในครั้งนี้เขาจึงต้องไปที่ห้างสรรพสินค้าและซื้อเสื้อผ้า ถึงแม้ว่าเย่เชียนจะค่อนข้างงุนงงไปกับการเลือกซื้อชุดก็ตาม แต่เพราะความพยายามของเขามันก็ไม่สูญเปล่า ในที่สุดเขาก็พบชุดที่ถูกใจเขาเสียที

 

ณ เวลาหกโมงเย็นเย่เชียนก็มาถึงศาลาเซียงเฟยตรงเวลา และระหว่างทางที่เขามาที่นี่เย่เชียนรู้สึกได้ว่าเขาดูสะดุดตามากเกินไปผู้คนต่างก็จ้องมองและยิ้มอย่างอ่อนโยนให้เขา แต่เย่เชียนก็ไม่รู้สึกว่ามันมีอะไรผิดปกติกับเขาและเขาก็ค่อนข้างพอใจที่คนอื่นชื่นชมรูปลักษณ์ของเขาเช่นนี้

 

และเมื่อหลินโรวโร่วเห็นเย่เชียนเธอไล่มองตั้งแต่หัวจรดเท้า หลินโรวโร่วไม่รู้ว่าจะหัวเราะหรือร้องไห้เธอดีก้าวไปข้างหน้าแล้วจับมือเขาพร้อมพูดว่า “คุณไปเอาเสื้อผ้าพวกนี้มาจากไหน?”

 

“ผมเพิ่งจะซื้อมา..เป็นไงหล่อมั้ย” เย่เชียนพูดอย่างภาคภูมิใจ

 

หลินโรวโร่วมองเย่เชียนอย่างอ่อนโยนและพูดว่า “คุณดูไม่เหมือนใครจริงๆ ถ้าฉันหรือคนอื่นที่ไม่รู้จักคุณเห็นคุณต่างก็คิดกันว่าคุณกำลังอยู่ในกองถ่ายทำภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์อยู่”

 

ในความเป็นจริงนั้นการแต่งกายของเย่เชียนดูค่อนข้างเว่อวังอลังการมากเกินไปเขาชวมชุดสูทสีดำเรียบเนียบและสวมแว่นกันแดดสีดำสุดหรูและทรงผมของเขาถูกหวีอย่างเรียบร้อยดูหล่อเนียบราวกับสายลับจากเมืองผู้ดีอังกฤษ

 

“มาเถอะลุงกับป้ากำลังรอเราอยู่” หลินโรวโร่วพูดพร้อมกับควงเย่เชียนเข้าไปข้างใน

 

เย่เชียนดูค่อนข้างประหม่าแต่เขาก็ไม่ได้ใส่ใจกับเรื่องนี้มากเกินไปเพราสำหรับเย่เชียนแล้วถึงแม้ว่าลุงกับป้าหรือพ่อและแม่หรือเครือญาติของหลินโรวโร่วจะเป็นนักธุรกิจเพื่อแสวงหาผลกำไรและต้องการคู่ครองที่เหมาะสมกับหลินโรวโร่วก็ตาม แต่สิ่งที่เลวร้ายที่สุดที่พวกเขาจะสามารถทำได้ในตอนนี้ก็ทำได้เพียงแค่การขับไสไล่ส่งเย่เชียนออกไปจากที่แห่งนี้เพียงเท่านั้น เพราะตราบใดที่หลินโรวโร่วยังไม่ทิ้งเขาล่ะก็ จะไม่มีใครสามารถขั้นกลางระหว่างเขาทั้งสองคนได้

 

การจัดเตรียมอาหารมื้อค่ำครั้งนี้ไม่ได้ธรรมดาเลยแต่ถึงอย่างไรมันก็ไม่ได้ดูฉูดฉาดหรือหรูหราเกินไป สำหรับลุงซูไห่และป้าเฉิงเฟิงเจิ้นของหลินโรวโร่วนั้นเมื่พวกเขาเห็นเย่เชียนในขณะนั้นลุงซูและป้าเฉิงต่างก็อดไม่ได้ที่จะจ้องมองอย่างว่างเปล่า แต่อย่างไรก็ตามพวกเขาคุ้นเคยกับผู้คนมาทุกประเภทเพราะพวกเขาทำงานให้กับรัฐบาลมานานและคุ้นเคยกับการปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์เป็นอย่างดี พวกเขาไม่ได้ถามอะไรเย่เชียนมากเพียงแค่ยิ้มและจับมือที่ล็อบบี้ของโรงแรม ป้าเฉิงเฟิงเจิ้นไม่ได้มีความวิตกกังวลมากนักแต่เธอคอยสังเกตุเย่เชียนอย่างถี่ถ้วน แต่ถึงแม้ว่าพวกเขาจะเข้าไปในส่วนของห้องรับประทานอาหารส่วนตัวและนั่งลงป้าเฉิงเฟิงเจิ้นก็ดูเหมือนว่าจะไม่พบสิ่งใดที่อาจเป็นจุดอ่อนของเย่เชียนได้ ยิ่งไปกว่านั้นไม่ว่าเขาจะเดินหรือนั่งหรือมีปฏิกิริยาอย่างไรล้วนแล้วเต็มเปี่ยมไปด้วยพลังของลูกผู้ชาย และที่สำคัญกว่านั้นเย่เชียนได้แสดงออกถึงความประหม่าเล็กน้อย พวกเขาคิดว่าอาจเป็นเพราะเย่เชียนเขินอายเกินไปและผลที่ตามมาก็คือบรรยากาศที่ดูคลุมเครือเล็กน้อย

 

และเมื่อมองไปที่ลุงซูไห่ทุกอย่างก็ชัดเจนสำหรับเย่เชียนแล้วเขาตัดสินหลินโรวโร่วผิดไปในวันนั้นที่ห้างสรรพสินค้าเพราะคนที่หลินโรวโร่วเดินด้วยก็คือลุงซูไฮ่นี่เอง เย่เชียนจึงรู้สึกผิดเล็กน้อยเขาไม่ควรสงสัยในหลินโรวโร่วเลย แต่ตอนนี้เขารู้สึกมีความสุขที่เข้าใจทุกอย่างได้อย่างชัดเจน ท้ายที่สุดแล้วหลินโรวโร่วก็ยังคงเป็นหลินโรวโร่วที่เขารู้จัก เธอที่อ่อนโยนและใจดีและเข้าใจความรู้สึกของคนอื่นเป็นอย่างดี

 

บางทีอาจเป็นเพราะเรื่องที่เขากังวลมาหลายวันได้รับการแก้ไขอย่างกระจ่างแจ้งแล้วอารมณ์ของเย่เชียนก็ดีขึ้นมากและเขาก็สามารถผ่อนคลายได้ในที่สุด เขาไม่ได้อยู่ด้วยกันกับหลินโรวโร่วมานาน แต่ถึงยังไงเธอก็ยังคงเป็นแฟนของเขาอยู่  แต่อย่างไรก็ตามสำหรับเย่เชียนที่ไม่รู้ถึงภูมิหลังครอบครัวของหลินโรวโร่วเลยแม้แต่น้อย แต่หลังจากที่ได้พบลุงซูไฮ่และป้าเฉิงเฟิงเจิ้นแล้วเย่เชียนก็ขมวดคิ้วเพราะว่าเขาเองก็มีเพื่อนที่เป็นมหาเศรษฐีมากมายและเจ้าหน้าที่ระดับสูงต่างๆ เขาจึงสัมผัสได้จากลุงซูไฮ่และป้าเฉิงเฟิงเจิ้นถึงความลับที่ซับซ้อนที่มีอยู่ในหมู่คนประเภทเหล่านั้น จึงเห็นได้ชัดว่าภูมิหลังครอบครัวของหลินโรวโร่วไม่ได้เรียบง่ายและธรรมดาอย่างนั้น เย่เชียนแอบคิดอยู่ในใจ

 

ถึงแม้ว่าภูมิหลังครอบครัวของหลินโรวโร่วอาจจะยอดเยี่ยมมากแค่ไหนก็ตามพวกเขาก็ไม่สามารถขัดขวางหรือขวางกั้นการแต่งงานของเย่เชียนกับผู้หญิงคนนี้ได้! และเมื่อตระหนักถึงการเข้าใจผิดที่เขามีต่อหลินโรวโร่วแล้วเย่เชียนก็ยิ่งเชื่อมั่นมากขึ้นว่าในอนาคตหลินโรวโร่วจะต้องเป็นภรรยาที่ดีของเขาได้อย่างแน่นอน

 

“ครั้งนี้ที่เรามาที่เซี่ยงไฮ้ก็เพราะเรื่องธุรกิจจึงแวะมาหาหลานโรวโรว่และเราก็เพิ่งจะรู้ว่าเธอมีแฟน เราก็เลยอยากจะเจอพวกเธอทั้งสองพร้อมกันเธอคงจะไม่ขุ่นเคืองใช่ไหม?” ลุงซูไห่พูดขึ้นมา

.

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+