ยอดนักรบจอมราชัน 88 ความทรงจำ

Now you are reading ยอดนักรบจอมราชัน Chapter 88 ความทรงจำ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

“บางครั้งการเติบโตมาในครอบครัวแบบนี้มันก็น่าเศร้าใจจริงๆ ถ้าฉันเลือกได้ฉันอยากเกิดมาเป็นลูกสาวของพลเมืองธรรมดาๆดีกว่า ด้วยเหตุผลนี้ฉันจะได้ไม่ต้องแบกรับความรับผิดชอบของครอบครัว” หลินโรวโร่วมีสีหน้าที่ดูเศร้าๆ และพูดต่ออีกว่า “ฉันมีข้อตกลงกับพ่อและแม่ของฉันเอาไว้ว่าฉันจะไม่แต่งงานกับคนที่ฉันไม่ได้รักได้ แต่พวกเขาจะให้เวลาฉันสองปีและให้ใช้อย่างคุ้มค่าเพื่อให้ฉันมีชีวิตเป็นของตัวเอง..สองปี..ถึงแม้มันจะไม่ได้นานก็ตาม แต่มันจะกลายเป็นความทรงจำที่สำคัญที่สุดในชีวิตของฉัน และฉันก็สัญญากับตัวฉันเองเอาไว้ว่าฉันจะไม่ตกหลุมรักใครทั้งนั้นเพราะหลังจากนั้นสองปีฉันก็ต้องทำตามสิ่งที่ครอบครัวของฉันจัดการเตรียมเอาไว้ให้ฉันและแต่งงานกับลูกชายคนโตของผู้ว่าการคนนั้นและจากนั้นฉันก็จะต้องรับบทเป็นภรรยาที่สมบูรณ์แบบให้กับครอบครัวของฉันและใช้ชีวิตไปทั้งชีวิตแบบนั้น..แต่ฉันไม่เคยคิดเลยว่าครั้งแรกที่ฉันได้พบกับคุณในโรงพยาบาลในช่วงเวลาสั้นๆนั้นที่ฉันเห็นคุณที่เป็นผู้ชายแต่กลับร้องไห้ด้วยความตื้นตันเหมือนกับเด็กตัวเล็กๆในตอนนั้นมันเหมือนกับว่าหัวใจของฉันถูกแทงไปด้วยหนามนับพัน และพอฉันรู้ตัวอีกทีฉันก็ตกหลุมรักคุณอย่างหมดหัวใจแต่ฉันได้แต่ตกหลุมรักคุณอย่างสิ้นหวังและหมดหนทางจริงๆ..และในแบบที่ฉันเป็นอยู่ตอนนี้..ฉันไม่สมควรจะรักคุณใช่มั้ย”

 

ดวงตาของหลินโรวโร่วเริ่มวาววับไปด้วยน้ำตาที่คลอเบ้า เธอที่ได้รับความกดดันอย่างหนักหน่วงและต่อเนื่องเช่นนี้และเธอก็ไม่สามารถอดกลั้นได้อีกต่อไปเธอก้มหัวลงและสะอึกสะอื้นอย่างขมขื่น แม้จะกล่าวได้ว่าในช่วงสองปีที่ผ่านมานี้เธอจะได้รับอิสระและเสรีภาพของเธอแต่ก็ต้องแลกมาด้วยความสุขที่ถูกแทนที่ไปด้วยความทุกข์ไปตลอดทั้งชีวิตของเธอ

 

เย่เชียนกอดเธอไว้ในอ้อมแขนของเขาเบาๆและโอบเธอมาซบหน้าอกของเขาและเธอก็สะอึกสะอื้นอย่างหนัก หัวใจของเย่เชียนเจ็บปวดมากราวกับว่าเขาถูกใครบางคนแทงอย่างโหดเหี้ยมเข้าไปกลางใจ เขาไม่เคยคิดมาก่อนว่าหลินโรวโร่วนั้นจะมีเรื่องราวเช่นนี้โดยไม่คาดคิดและเธอยังได้รับความกดดันที่คนที่เป็นลูกสาวไม่สมควรแบกรับมันเอาไว้ และเมื่อเปรียบเทียบกับจ้าวหยาและฉินหยูแล้ว พวกเธอนั้นไม่อาจรู้ได้ว่าพวกเธอนั้นโชคดีมากเพียงใด

 

หลังจากนั้นไม่นานหลินโรวโร่วก็ค่อยๆเงยหน้าขึ้นและในขณะที่เธอจ้องเข้าไปในดวงตาของเย่เชียนเธอก็พูดว่า “เย่เชียน..โปรดยกโทษให้กับความเห็นแก่ตัวของฉัน..แต่ฉันไม่สามารถควบคุมตัวเองให้ไม่รักคุณได้จริงๆ สัญญากับฉันนะ..สัญญากับฉันได้มั้ย..ถ้าหากว่าในอนาคตฉันต้องจากคุณไป คุณจะต้องไม่เสียใจและอกหักนะ..เพราะไม่ว่าฉันจะอยู่ที่ไหนหัวใจของฉันจะเป็นของคุณตลอดไป..และฉันเชื่อว่าครึ่งปีที่เหลืออยู่นี้จะกลายเป็นความทรงจำที่ดีและมีความสุขที่สุดในชีวิตของฉันอย่างแน่นอนใช่มั้ย..ฉันรู้ว่าคุณจะไม่ทำให้ฉันผิดหวังอย่างแน่นอน”

 

“คนโง่..ผมจะไม่ปล่อยให้คุณไปไหนทั้งนั้น..ผมไม่มีทางปล่อยให้คุณทิ้งผมไปตลอดชีวิตหรอก” เย่เชียนพูดอย่างเด็ดเดี่ยวและแน่วแน่

 

หลินโรวโร่วยิ้มอย่างมีความสุขและพูดว่า “ฉันรู้ว่าคุณรักฉันมากเหมือนที่ฉันรักคุณ..แต่ฉันก็อดไม่ได้ที่จะนึกถึงครอบครัวของตัวเอง จะด้วยความทุกข์ทรมานหรืออะไรก็ตามแต่มันไม่มีทางเลือกอื่นเลย บางสิ่งบางอย่างมันก็เกินกว่าที่พวกเราจะสามารถควบคุมได้ เย่เชียนอย่าให้ฉันทำให้คุณทุกข์ใจเลย..เย่เชียนที่ฉันรู้จักไม่ใช่คนที่ไม่เด็ดขาดที่จะปล่อยสิ่งเหล่านั้นไปได้ เพราะไม่ว่าฉันจะทำอะไรหรืออยู่ที่ไหนความรู้สึกเหล่านี้ก็จะยังคงอยู่ตลอดไปและเราต้องมีความสุขถึงแม้จะมีเวลาแค่ครึ่งปีนี้มันก็เพียงพอแล้ว..เย่เชียน..ได้โปรดรักฉันอย่างถูกต้อง..ฉันอยากจะจดจำคุณในทุกๆส่วนของคุณเพื่อเก็บคุณไว้ในความทรงจำของฉัน

 

เมื่อหลินโรวโร่วพูดเสร็จเธอก็ลุกขึ้นนั่งจากนั้นเธอก็ค่อยๆถอดเสื้อผ้าของเธอออก

 

เย่เชียนส่ายหัวเบาๆลุกขึ้นและหยุดการกระทำของหลินโรวโร่วจากนั้นก็พูดว่า “ใส่เสื้อผ้าของคุณกลับไป!”

 

หลินโรวโร่วชะงักไปชั่วครู่จากนั้นก็ส่งเสียงร่ำไห้และสะอึกสะอื้นอย่างหนักหน่วง

 

เย่เชียนค่อยๆกอดเธอไว้ในอ้อมแขนของเขาและพูดว่า “โรวโร่ว..ผมไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าหัวใจของคุณจะบอบช้ำและได้รับความกดดันแบบนี้มาตลอด..นั่นก็เป็นเพราะผมที่ไม่ใช่แฟนที่มีความสามารถมากพอ บางทีคุณอาจจะเรียกผมว่าคนโง่เลยก็ได้..แต่ผมไม่อยากให้คุณมอบใจมอบกายให้ผมภายใต้สถานการณ์แบบนี้..และหลังจากนี้ไปผมทำให้คุณมีความสุขโดยไม่ต้องกังวลอะไรอีกเลย..เมื่อถึงเวลานั้นแล้วคุณก็จะสามารถมอบใจและมอบกายให้กับผมได้อย่างมีความสุข..ตอนนี้ที่ผมพูดไปดูเหมือนว่าผมจะไม่เคยเล่าเรื่องของผมให้คุณฟังเลยสินะ..คุณอยากฟังไหม”

 

หลินโรวโร่วพยักหน้าเล็กน้อย จากนั้นเย่เชียนก็ยิ้มและพูดว่า “ผมสูบบุหรี่ได้ไหม? ฮ่าๆ ถ้าผมไม่สูบบุหรี่ดูเหมือนว่ามันจะไม่มีอารมณ์และความรู้สึกนั้นๆน่ะ” หลังจากพูดเช่นนั้นเย่เชียนก็ควักบุหรี่และจุดไฟแล้วก็คาบเอาไว้

 

“ผมเชื่อว่าคุณก็รู้เช่นกันว่าผมได้ออกจากเมืองเซี่ยงไฮ้ไปเมื่อแปดปีที่แล้ว คุณรู้ไหมว่าทำไม? ก็เพราะว่าตอนนั้นผมยังเป็นเด็กเลือดร้อนและดันมีมาเฟียคนนึงที่ทำร้ายร่างกายน้องสามของผม..ผมจึงไม่สามารถทนอยู่เฉยๆได้ ดังนั้นผมจึงใช้เวลาสามวันสามคืนเต็มแอบซุ่มอยู่หน้าประตูบ้านของเขาและในที่สุดเมื่อผมพบโอกาสที่เหมาะผมก็ได้ใช้มีดแทงเขาไปสองครั้ง แต่เขาโชคดีเขาไม่ตายและถ้ามีดของผมแฉลบเข้าไปอีกนิดเขาก็จะไปพบกับยมบาลและราชาแห่งนรกอยู่แล้ว และเพราะเขาไม่ตายเขาจึงออกตามล่าตัวผมและที่ผมไม่อยากอยู่อีกต่อไปก็เพราะว่าผมอาจจะทำให้พ่อและพี่น้องของผมและคนอื่นๆที่เกี่ยวข้องได้รับอันตรายไปด้วย ดังนั้นผมจึงแอบหนีออกจากเมืองเซี่ยงไฮ้อย่างลับๆและตอนนั้นผมเองก็ยังเด็กมากผมไม่มีเงินเลยแดงเดียวผมจึงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากจะต้องนอนบนถนนและใต้สะพานและเก็บอาหารที่เหลือเศษจากถังขยะหน้าประตูร้านอาหารประทังชีวิตไปวันๆเพื่อขจัดความหิวโหยผม..และได้รับการปฏิบัติเยี่ยงสุนัขจรจัดโดยผู้คนและถูกไล่อย่างกับหมูกับหมาไปแบบเดียวกัน พอนึกถึงช่วงเวลานั้นสิ่งที่ผมต้องเผชิญคือชีวิตที่น่าอับอายและมีหลายครั้งที่แม้แต่หัวใจของผมมันก็ได้ตายด้านไปแล้ว

 

“บางทีมันอาจจะเป็นโชคชะตาของผมก็ได้ที่ผมได้รับความช่วยเหลือจากใครบางคน..เขาคนนั้นเป็นคนที่เปลี่ยนผมไปโดยสิ้นเชิงจากหน้ามือเป็นหลังมือ เขาคนนั้นเดิมทีเขาเป็นผู้นำของกองกำลังทหารพิเศษเขี้ยวหมาป่าของประเทศจีนแต่เขาละเมิดกฏและถูกไล่ออกจากทะเบียนทหาร จากนั้นเขาก็พาผมไปแถบทวีปตะวันออกกลางและพาผมเข้าไปอยู่ในกลุ่มทหารรับจ้างที่ก่อตั้งโดยตัวของเขาเอง ตอนนั้นผมอายุสิบเจ็ดปีและอาศัยอยู่ร่วมกับเหล่าทหารจากกองทัพนานาประเทศที่ถูกไล่ออกจากราชการทหารและผมก็ได้รับการฝึกฝนร่วมกับพวกเขา ในมุมมองของคนนอกบางทีพวกเขาอาจเป็นเพียงอาชญากรกลุ่มหนึ่งที่สามารถฆ่าคนโดยไม่สำนึกผิดแต่ในสายตาของผมแล้วพวกเขาเป็นคนที่น่ารักที่สุดในโลกพวกเขาดีกับผมมากเลยพวกเขาช่วยสอนศิลปะการป้องกันตัวและสอนข้อเท็จจริงเกี่ยวกับอาวุธปืนและสอนภาษาของประเทศต่างๆและให้ผมแบบเดียวกันกับพวกเขาและยังสอนวิธีฆ่าคนให้อีกด้วย ครั้งแรกที่ผมฆ่าใครสักคนตอนนั้นผมอายุสิบแปด ผมจำไม่ได้ว่าสถานการณ์ในช่วงนั้นเป็นอย่างไรหรือมันอาจจะเป็นสถานการณ์ที่ตึงเครียดมากในแปดปีที่ผ่านมาผมได้เห็นการพรากจากกันมามากมายไม่ว่าจะเป็นด้วยชีวิตหรือความตายล้วนแล้วมือของผมก็อาบไปด้วยเลือดเช่นกัน อย่างไรก็ตามมันทำให้ผมตระหนักถึงหลักการที่ว่า ‘โลกนี้เป็นโลกที่มนุษย์กินคนด้วยกันเอง..ผู้อ่อนแอตกเป็นเหยื่อของผู้ที่แข็งแกร่งเท่านั้น’ มันเป็นหลักการที่ไม่เคยเปลี่ยนแปลงนับชั่วนิรันดร์กาล

 

“และเมื่อสองปีก่อนหัวหน้าคนนั้นที่เขาเปลี่ยนชีวิตของผมเขาถูกฆ่าตายโดยศัตรูระหว่างปฏิบัติภารกิจที่ร่างของเขามีบาดแผลจากกระสุนอย่างน้อยสี่สิบแผลและตอนที่ผมอุ้มร่างอันไรวิญญาณของเขานั้นผมคิดว่าผมจะต้องร้องไห้แต่ผมกลับไม่ทำ..บางทีคุณอาจจะคิดว่าผมใจจืดใจดำหัวใจด้านชาหรือเปล่า เพราะในตอนนั้นผมไม่ได้หลั่งน้ำตาเลยแม้แต่หยดเดียวทั้งหมดก็เพราะว่าผมจำสิ่งที่เขาบอกผมเอาไว้ว่าลูกผู้ชายหลั่งเลือดได้แต่พวกเขาจะไม่หลั่งน้ำตา หลั่งเลือดไม่หลั่งน้ำตา? ผมไม่ใช่มนุษย์ที่ทำจากเหล็กผมก็มีความรู้สึกเหมือนกันนะเพราะหลังจากที่ผมกวาดล้างศัตรูได้ทั้งหมดแล้วในที่สุดผมก็ร้องไห้ออกมาจนได้ และคุณรู้ไหมว่ากองกำลังทหารรับจ้างของเราถูกเรียกว่าอะไร? เขี้ยวหมาป่า! อาจเป็นเพราะผู้นำเคยอยู่กับกองกำลังพิเศษของกองทัพหมาป่าของจีนดังนั้นเขาจึงมีความผูกพันธ์จึงตั้งชื่อองค์กรว่า ‘เขี้ยวหมาป่า’ แต่จากมุมมองของพวกเราเขี้ยวหมาป่าเป็นเพียงตัวแทนของจิตวิญญาณพวกพวกเราซึ่งเป็นความสามัคคีที่หลอมลวมจิตวิญญาณที่คล้ายกับกันเขี้ยวแหลมๆของหมาป่าที่สามารถสบั้นศัตรูออกจากกันได้ และในท้ายที่สุดผมก็ได้รับเลือกให้เป็นผู้นำขององค์กร! ผมรู้ว่าความรับผิดชอบที่ผมจะต้องแบกรับนั้นมากมายและยิ่งใหญ่มาก และผมก็ต้องทำภารกิจของช่วงชีวิตของผู้นำคนก่อนให้สำเร็จเพื่อให้เขี้ยวหมาป่าได้เบ่งบานอย่างสดใสและเปล่งประกายอย่าสง่าผ่าเผยบนโลกใบนี้…

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

ยอดนักรบจอมราชัน 88 ความทรงจำ

Now you are reading ยอดนักรบจอมราชัน Chapter 88 ความทรงจำ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

“บางครั้งการเติบโตมาในครอบครัวแบบนี้มันก็น่าเศร้าใจจริงๆ ถ้าฉันเลือกได้ฉันอยากเกิดมาเป็นลูกสาวของพลเมืองธรรมดาๆดีกว่า ด้วยเหตุผลนี้ฉันจะได้ไม่ต้องแบกรับความรับผิดชอบของครอบครัว” หลินโรวโร่วมีสีหน้าที่ดูเศร้าๆ และพูดต่ออีกว่า “ฉันมีข้อตกลงกับพ่อและแม่ของฉันเอาไว้ว่าฉันจะไม่แต่งงานกับคนที่ฉันไม่ได้รักได้ แต่พวกเขาจะให้เวลาฉันสองปีและให้ใช้อย่างคุ้มค่าเพื่อให้ฉันมีชีวิตเป็นของตัวเอง..สองปี..ถึงแม้มันจะไม่ได้นานก็ตาม แต่มันจะกลายเป็นความทรงจำที่สำคัญที่สุดในชีวิตของฉัน และฉันก็สัญญากับตัวฉันเองเอาไว้ว่าฉันจะไม่ตกหลุมรักใครทั้งนั้นเพราะหลังจากนั้นสองปีฉันก็ต้องทำตามสิ่งที่ครอบครัวของฉันจัดการเตรียมเอาไว้ให้ฉันและแต่งงานกับลูกชายคนโตของผู้ว่าการคนนั้นและจากนั้นฉันก็จะต้องรับบทเป็นภรรยาที่สมบูรณ์แบบให้กับครอบครัวของฉันและใช้ชีวิตไปทั้งชีวิตแบบนั้น..แต่ฉันไม่เคยคิดเลยว่าครั้งแรกที่ฉันได้พบกับคุณในโรงพยาบาลในช่วงเวลาสั้นๆนั้นที่ฉันเห็นคุณที่เป็นผู้ชายแต่กลับร้องไห้ด้วยความตื้นตันเหมือนกับเด็กตัวเล็กๆในตอนนั้นมันเหมือนกับว่าหัวใจของฉันถูกแทงไปด้วยหนามนับพัน และพอฉันรู้ตัวอีกทีฉันก็ตกหลุมรักคุณอย่างหมดหัวใจแต่ฉันได้แต่ตกหลุมรักคุณอย่างสิ้นหวังและหมดหนทางจริงๆ..และในแบบที่ฉันเป็นอยู่ตอนนี้..ฉันไม่สมควรจะรักคุณใช่มั้ย”

 

ดวงตาของหลินโรวโร่วเริ่มวาววับไปด้วยน้ำตาที่คลอเบ้า เธอที่ได้รับความกดดันอย่างหนักหน่วงและต่อเนื่องเช่นนี้และเธอก็ไม่สามารถอดกลั้นได้อีกต่อไปเธอก้มหัวลงและสะอึกสะอื้นอย่างขมขื่น แม้จะกล่าวได้ว่าในช่วงสองปีที่ผ่านมานี้เธอจะได้รับอิสระและเสรีภาพของเธอแต่ก็ต้องแลกมาด้วยความสุขที่ถูกแทนที่ไปด้วยความทุกข์ไปตลอดทั้งชีวิตของเธอ

 

เย่เชียนกอดเธอไว้ในอ้อมแขนของเขาเบาๆและโอบเธอมาซบหน้าอกของเขาและเธอก็สะอึกสะอื้นอย่างหนัก หัวใจของเย่เชียนเจ็บปวดมากราวกับว่าเขาถูกใครบางคนแทงอย่างโหดเหี้ยมเข้าไปกลางใจ เขาไม่เคยคิดมาก่อนว่าหลินโรวโร่วนั้นจะมีเรื่องราวเช่นนี้โดยไม่คาดคิดและเธอยังได้รับความกดดันที่คนที่เป็นลูกสาวไม่สมควรแบกรับมันเอาไว้ และเมื่อเปรียบเทียบกับจ้าวหยาและฉินหยูแล้ว พวกเธอนั้นไม่อาจรู้ได้ว่าพวกเธอนั้นโชคดีมากเพียงใด

 

หลังจากนั้นไม่นานหลินโรวโร่วก็ค่อยๆเงยหน้าขึ้นและในขณะที่เธอจ้องเข้าไปในดวงตาของเย่เชียนเธอก็พูดว่า “เย่เชียน..โปรดยกโทษให้กับความเห็นแก่ตัวของฉัน..แต่ฉันไม่สามารถควบคุมตัวเองให้ไม่รักคุณได้จริงๆ สัญญากับฉันนะ..สัญญากับฉันได้มั้ย..ถ้าหากว่าในอนาคตฉันต้องจากคุณไป คุณจะต้องไม่เสียใจและอกหักนะ..เพราะไม่ว่าฉันจะอยู่ที่ไหนหัวใจของฉันจะเป็นของคุณตลอดไป..และฉันเชื่อว่าครึ่งปีที่เหลืออยู่นี้จะกลายเป็นความทรงจำที่ดีและมีความสุขที่สุดในชีวิตของฉันอย่างแน่นอนใช่มั้ย..ฉันรู้ว่าคุณจะไม่ทำให้ฉันผิดหวังอย่างแน่นอน”

 

“คนโง่..ผมจะไม่ปล่อยให้คุณไปไหนทั้งนั้น..ผมไม่มีทางปล่อยให้คุณทิ้งผมไปตลอดชีวิตหรอก” เย่เชียนพูดอย่างเด็ดเดี่ยวและแน่วแน่

 

หลินโรวโร่วยิ้มอย่างมีความสุขและพูดว่า “ฉันรู้ว่าคุณรักฉันมากเหมือนที่ฉันรักคุณ..แต่ฉันก็อดไม่ได้ที่จะนึกถึงครอบครัวของตัวเอง จะด้วยความทุกข์ทรมานหรืออะไรก็ตามแต่มันไม่มีทางเลือกอื่นเลย บางสิ่งบางอย่างมันก็เกินกว่าที่พวกเราจะสามารถควบคุมได้ เย่เชียนอย่าให้ฉันทำให้คุณทุกข์ใจเลย..เย่เชียนที่ฉันรู้จักไม่ใช่คนที่ไม่เด็ดขาดที่จะปล่อยสิ่งเหล่านั้นไปได้ เพราะไม่ว่าฉันจะทำอะไรหรืออยู่ที่ไหนความรู้สึกเหล่านี้ก็จะยังคงอยู่ตลอดไปและเราต้องมีความสุขถึงแม้จะมีเวลาแค่ครึ่งปีนี้มันก็เพียงพอแล้ว..เย่เชียน..ได้โปรดรักฉันอย่างถูกต้อง..ฉันอยากจะจดจำคุณในทุกๆส่วนของคุณเพื่อเก็บคุณไว้ในความทรงจำของฉัน

 

เมื่อหลินโรวโร่วพูดเสร็จเธอก็ลุกขึ้นนั่งจากนั้นเธอก็ค่อยๆถอดเสื้อผ้าของเธอออก

 

เย่เชียนส่ายหัวเบาๆลุกขึ้นและหยุดการกระทำของหลินโรวโร่วจากนั้นก็พูดว่า “ใส่เสื้อผ้าของคุณกลับไป!”

 

หลินโรวโร่วชะงักไปชั่วครู่จากนั้นก็ส่งเสียงร่ำไห้และสะอึกสะอื้นอย่างหนักหน่วง

 

เย่เชียนค่อยๆกอดเธอไว้ในอ้อมแขนของเขาและพูดว่า “โรวโร่ว..ผมไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าหัวใจของคุณจะบอบช้ำและได้รับความกดดันแบบนี้มาตลอด..นั่นก็เป็นเพราะผมที่ไม่ใช่แฟนที่มีความสามารถมากพอ บางทีคุณอาจจะเรียกผมว่าคนโง่เลยก็ได้..แต่ผมไม่อยากให้คุณมอบใจมอบกายให้ผมภายใต้สถานการณ์แบบนี้..และหลังจากนี้ไปผมทำให้คุณมีความสุขโดยไม่ต้องกังวลอะไรอีกเลย..เมื่อถึงเวลานั้นแล้วคุณก็จะสามารถมอบใจและมอบกายให้กับผมได้อย่างมีความสุข..ตอนนี้ที่ผมพูดไปดูเหมือนว่าผมจะไม่เคยเล่าเรื่องของผมให้คุณฟังเลยสินะ..คุณอยากฟังไหม”

 

หลินโรวโร่วพยักหน้าเล็กน้อย จากนั้นเย่เชียนก็ยิ้มและพูดว่า “ผมสูบบุหรี่ได้ไหม? ฮ่าๆ ถ้าผมไม่สูบบุหรี่ดูเหมือนว่ามันจะไม่มีอารมณ์และความรู้สึกนั้นๆน่ะ” หลังจากพูดเช่นนั้นเย่เชียนก็ควักบุหรี่และจุดไฟแล้วก็คาบเอาไว้

 

“ผมเชื่อว่าคุณก็รู้เช่นกันว่าผมได้ออกจากเมืองเซี่ยงไฮ้ไปเมื่อแปดปีที่แล้ว คุณรู้ไหมว่าทำไม? ก็เพราะว่าตอนนั้นผมยังเป็นเด็กเลือดร้อนและดันมีมาเฟียคนนึงที่ทำร้ายร่างกายน้องสามของผม..ผมจึงไม่สามารถทนอยู่เฉยๆได้ ดังนั้นผมจึงใช้เวลาสามวันสามคืนเต็มแอบซุ่มอยู่หน้าประตูบ้านของเขาและในที่สุดเมื่อผมพบโอกาสที่เหมาะผมก็ได้ใช้มีดแทงเขาไปสองครั้ง แต่เขาโชคดีเขาไม่ตายและถ้ามีดของผมแฉลบเข้าไปอีกนิดเขาก็จะไปพบกับยมบาลและราชาแห่งนรกอยู่แล้ว และเพราะเขาไม่ตายเขาจึงออกตามล่าตัวผมและที่ผมไม่อยากอยู่อีกต่อไปก็เพราะว่าผมอาจจะทำให้พ่อและพี่น้องของผมและคนอื่นๆที่เกี่ยวข้องได้รับอันตรายไปด้วย ดังนั้นผมจึงแอบหนีออกจากเมืองเซี่ยงไฮ้อย่างลับๆและตอนนั้นผมเองก็ยังเด็กมากผมไม่มีเงินเลยแดงเดียวผมจึงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากจะต้องนอนบนถนนและใต้สะพานและเก็บอาหารที่เหลือเศษจากถังขยะหน้าประตูร้านอาหารประทังชีวิตไปวันๆเพื่อขจัดความหิวโหยผม..และได้รับการปฏิบัติเยี่ยงสุนัขจรจัดโดยผู้คนและถูกไล่อย่างกับหมูกับหมาไปแบบเดียวกัน พอนึกถึงช่วงเวลานั้นสิ่งที่ผมต้องเผชิญคือชีวิตที่น่าอับอายและมีหลายครั้งที่แม้แต่หัวใจของผมมันก็ได้ตายด้านไปแล้ว

 

“บางทีมันอาจจะเป็นโชคชะตาของผมก็ได้ที่ผมได้รับความช่วยเหลือจากใครบางคน..เขาคนนั้นเป็นคนที่เปลี่ยนผมไปโดยสิ้นเชิงจากหน้ามือเป็นหลังมือ เขาคนนั้นเดิมทีเขาเป็นผู้นำของกองกำลังทหารพิเศษเขี้ยวหมาป่าของประเทศจีนแต่เขาละเมิดกฏและถูกไล่ออกจากทะเบียนทหาร จากนั้นเขาก็พาผมไปแถบทวีปตะวันออกกลางและพาผมเข้าไปอยู่ในกลุ่มทหารรับจ้างที่ก่อตั้งโดยตัวของเขาเอง ตอนนั้นผมอายุสิบเจ็ดปีและอาศัยอยู่ร่วมกับเหล่าทหารจากกองทัพนานาประเทศที่ถูกไล่ออกจากราชการทหารและผมก็ได้รับการฝึกฝนร่วมกับพวกเขา ในมุมมองของคนนอกบางทีพวกเขาอาจเป็นเพียงอาชญากรกลุ่มหนึ่งที่สามารถฆ่าคนโดยไม่สำนึกผิดแต่ในสายตาของผมแล้วพวกเขาเป็นคนที่น่ารักที่สุดในโลกพวกเขาดีกับผมมากเลยพวกเขาช่วยสอนศิลปะการป้องกันตัวและสอนข้อเท็จจริงเกี่ยวกับอาวุธปืนและสอนภาษาของประเทศต่างๆและให้ผมแบบเดียวกันกับพวกเขาและยังสอนวิธีฆ่าคนให้อีกด้วย ครั้งแรกที่ผมฆ่าใครสักคนตอนนั้นผมอายุสิบแปด ผมจำไม่ได้ว่าสถานการณ์ในช่วงนั้นเป็นอย่างไรหรือมันอาจจะเป็นสถานการณ์ที่ตึงเครียดมากในแปดปีที่ผ่านมาผมได้เห็นการพรากจากกันมามากมายไม่ว่าจะเป็นด้วยชีวิตหรือความตายล้วนแล้วมือของผมก็อาบไปด้วยเลือดเช่นกัน อย่างไรก็ตามมันทำให้ผมตระหนักถึงหลักการที่ว่า ‘โลกนี้เป็นโลกที่มนุษย์กินคนด้วยกันเอง..ผู้อ่อนแอตกเป็นเหยื่อของผู้ที่แข็งแกร่งเท่านั้น’ มันเป็นหลักการที่ไม่เคยเปลี่ยนแปลงนับชั่วนิรันดร์กาล

 

“และเมื่อสองปีก่อนหัวหน้าคนนั้นที่เขาเปลี่ยนชีวิตของผมเขาถูกฆ่าตายโดยศัตรูระหว่างปฏิบัติภารกิจที่ร่างของเขามีบาดแผลจากกระสุนอย่างน้อยสี่สิบแผลและตอนที่ผมอุ้มร่างอันไรวิญญาณของเขานั้นผมคิดว่าผมจะต้องร้องไห้แต่ผมกลับไม่ทำ..บางทีคุณอาจจะคิดว่าผมใจจืดใจดำหัวใจด้านชาหรือเปล่า เพราะในตอนนั้นผมไม่ได้หลั่งน้ำตาเลยแม้แต่หยดเดียวทั้งหมดก็เพราะว่าผมจำสิ่งที่เขาบอกผมเอาไว้ว่าลูกผู้ชายหลั่งเลือดได้แต่พวกเขาจะไม่หลั่งน้ำตา หลั่งเลือดไม่หลั่งน้ำตา? ผมไม่ใช่มนุษย์ที่ทำจากเหล็กผมก็มีความรู้สึกเหมือนกันนะเพราะหลังจากที่ผมกวาดล้างศัตรูได้ทั้งหมดแล้วในที่สุดผมก็ร้องไห้ออกมาจนได้ และคุณรู้ไหมว่ากองกำลังทหารรับจ้างของเราถูกเรียกว่าอะไร? เขี้ยวหมาป่า! อาจเป็นเพราะผู้นำเคยอยู่กับกองกำลังพิเศษของกองทัพหมาป่าของจีนดังนั้นเขาจึงมีความผูกพันธ์จึงตั้งชื่อองค์กรว่า ‘เขี้ยวหมาป่า’ แต่จากมุมมองของพวกเราเขี้ยวหมาป่าเป็นเพียงตัวแทนของจิตวิญญาณพวกพวกเราซึ่งเป็นความสามัคคีที่หลอมลวมจิตวิญญาณที่คล้ายกับกันเขี้ยวแหลมๆของหมาป่าที่สามารถสบั้นศัตรูออกจากกันได้ และในท้ายที่สุดผมก็ได้รับเลือกให้เป็นผู้นำขององค์กร! ผมรู้ว่าความรับผิดชอบที่ผมจะต้องแบกรับนั้นมากมายและยิ่งใหญ่มาก และผมก็ต้องทำภารกิจของช่วงชีวิตของผู้นำคนก่อนให้สำเร็จเพื่อให้เขี้ยวหมาป่าได้เบ่งบานอย่างสดใสและเปล่งประกายอย่าสง่าผ่าเผยบนโลกใบนี้…

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+