ย้อนชีวิตพิชิตเซียน 13 : ประมือกับเจียงชาน

Now you are reading ย้อนชีวิตพิชิตเซียน Chapter 13 : ประมือกับเจียงชาน at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่  13 : ประมือกับเจียงชาน

ทั้งโจวไห่หวงและเจียงชานต่างก็ตกใจเมื่อได้ยินคำตอบ ทั้งคู่ต่างก็คิดอยู่ในใจเหมือนกันว่า เป็นซูอานคนเดียวกับที่พวกเขากำลังตามหาอยู่หรือไม่ ? หากใช่ .. เหตุใดๆจู่ๆเด็กหนุ่มผู้นี้จึงมาปรากฏตัวอยู่ที่หน้าประตูบ้านหลังนี้ได้ ?

อีกทั้งเมื่อครั้งที่เกิดเหตุโจวเทียนหัวลูกชายของเขาถูกทำร้ายร่างกายจนบาดเจ็บสาหัสนั้น โจวไห่หวงก็ได้ส่งคนไปสืบข้อมูลของซูอานมาให้ทันที และพบว่าเขาเป็นเพียงแค่เด็กนักเรียนธรรมดาๆคนหนึ่งเท่านั้น มิหนำซ้ำยังไม่มีทั้งพ่อและแม่ด้วย และได้อาศัยอยู่ลุงที่บ้าน

แต่เพราะเหตุการณ์ในครั้งนี้ ทำให้เขาถูกลูงแท้ๆของตัวเองขับไล่ออกจากบ้าน และตัดขาดความสัมพันธ์ในทันที

หากเป็นเช่นนี้ .. หรือศรีษะที่กองอยู่กับพื้นนั่นจะเป็นศรีษะของนักฆ่าที่เขาจ้างวานไป แต่ก็ไม่น่าจะเป็นไปได้ !

ความคิดสงสัยมากมายผุดขึ้นมาในหัวของโจวไห่หวง เขาจ้องมองไปทางร่างของซูอานที่ยืนอยู่อย่างไม่แน่ใจ ..

“แกคือซูอานจริงๆรึ ?!”

โจวไห่หวงนั้นอาศัยอยู่บนโลกนี้มานาน ผ่านเรื่องราวมาตั้งมากมาย แม้จะรู้สึกประหลาดใจและตกใจมากเพียงใด แต่ก็ยังคงสามารถรักษาสีหน้าและน้ำเสียงให้สงบนิ่งได้

“ถูกต้อง !”

ซูอานตอบกลับไปเพียงแค่นั้น แล้วจึงยืนจ้องมองชายทั้งสองคนตรงหน้าด้วยท่าทางสงบนิ่ง แต่สายตาของเขานั้นดูเหมือนจะสนใจและจับจ้องอยู่ที่ร่างบอดี้การ์ดของโจวไห่หวงเสียมากกว่า เขาสัมผัสได้ถึงพลังบางอย่างที่พวยพุ่งออกมาจากร่างของชายสูงอายุผู้นั้น และมันไม่ได้แข็งแกร่งน้อยไปกว่าเหล่าฮั๋วเลย

“นี่แกเป็นคนสังหารนักฆ่าผู้นี้งั้นรึ ?”

นี่คือความสงสัยใคร่รู้ที่สุดในตอนนี้ของโจวไห่หวง และแม้กระทั่งเจียงชานเองก็อยากรู้เช่นกัน ! พวกเขาใช้เงินไปกว่าครึ่งล้านในการจ้างวานนักฆ่าคนนี้ ทั้งคู่จึงไม่สามารถทำใจให้เชื่อได้ว่านักฆ่าผู้นี้จะถูกซูอานสังหารตายจริงๆ

“คนต่อไปก็คือเจ้า !”

ซูอานตอบพร้อมกับหันไปจ้องมองโจวไห่หวงด้วยแววตาที่เป็นประกายขึ้นมาวูบหนึ่ง และมันก็คือแววตาของเพชรฆาตที่เต็มไปด้วยรังสีสังหาร

เจียงชานซึ่งยืนอยู่ข้างโจวไห่หวงเห็นเช่นนั้น จึงรีบสาวขึ้นมายืนขวาหน้าระหว่างเขากับซูอานทันที ก่อนจะตอบซูอานกลับไปด้วยน้ำเสียงเย็นชา

“เจ้าหนู แกเองก็ไม่ธรรมดาเลยนี่ ฝึกกำลังภายในด้วยงั้นรึ ?”

โจวไห่หวงได้ยินเช่นนั้นก็ถึงกับหรี่ตาลงอย่างระมัดระวัง เขาได้แต่นึกดีใจว่ายังโชคดีที่ลูกชายของตนไม่ถูกซูอานฆ่าตายในทันที แต่ในขณะเดียวกันความโกรธก็พุ่งพล่านขึ้นมาเผาผลาญจิตใจของเขาอีกครั้ง

“หึ .. ในเมื่อแกมารนหาที่ตายถึงที่นี่ ฉันก็จะช่วยให้แกได้สมหวัง !”

“อาวุโสเจียง ฆ่ามันทิ้งซะ !”

เจียงชานพยักหน้าทันที เขากวาดขาก้าวไปทางด้านพร้อมกับผายมือออกในท่าเตรียมพร้อม ดวงตาจับจ้องอยูที่ร่างของซูอานพร้อมกับสูดลมหายใจเข้าลึก บ่งบอกว่าเตรียมพร้อมสำหรับจู่โจมได้ทุกเมื่อ

“หึ .. ในเมื่อข้ากล้ามาหาเจ้าถึงที่นี่ เจ้าคิดว่าข้าจะกลัวงั้นรึ ?”

ซูอานกำหมัดเดินตรงขึ้นไปด้านหน้าอย่างไม่เกรงกลัว พร้อมกับชกกำปั้นที่หนักหน่วงดั่งขุนเขาของตนเข้าใส่ร่างของเจียงชานอย่างแรง

ลูกนัยน์ตาของเจียงชานหรี่ลงบ่งบอกถึงอาการระมัดระวังตัวสูงสุด เด็กหนุ่มผู้นี้เพิ่งจะอายุเพียงแค่สิบแปดปี แต่กลับมีพลังหมัดที่รุนแรงถึงเพียงนี้ เขาคงไม่สามารถรับมือเด็กหนุ่มได้ง่ายดายนัก

เจียงชานไม่กล้าประมาทซูอานอีก เขาใช้แขนของตนเองขึ้นรับหมัดของซูอานที่ชกตรงเข้ามา จากนั้นร่างของทั้งคู่ต่างก็เซถอยหลังกลับไปคนละสองสามก้าว เวลานี้ทั้งสองคนต่างก็ยืนประจันหน้ากันราวกับเสือสองตัวที่กำลังต่อสู้

โจวไห่หวงรีบถอยร่นไปยืนอยู่บนบันไดพร้อมกับจ้องมองทั้งสองคนต่อสู้กันอย่างไม่ละสายตา การต่อสู้ของคนทั้งคู่นั้นนับว่าดุเดือดยิ่งกว่าการชกมวยที่เราเห็นกันในทีวีเสียอีก

“กำลังภายในของเจ้าแข็งแกร่งไม่เบาทีเดียว !”

ซูอานจ้องมองเจียงชานพร้อมกับพยักหน้าในขณะที่เอ่ยออกมา หากเทียบกับเหล่าฮั๋วแล้ว ชายสูงอายุผู้นี้เกือบจะแข็งแกร่งเท่าเหล่าฮั๋วเลยทีเดียว

เจียงชานเองก็ตอบกลับอย่างเปิดเผยเช่นกัน “เจ้าหนู ฉันเองก็ต้องยอมรับว่าแกหาที่หลบซ่อนตัวได้เก่งมากจริงๆ พวกเราค้นหาตัวแกแทบพลิกแผ่นดิน แต่กลับคิดไม่ถึงว่านอกจากจะหาตัวไม่พบแล้ว แกยังเป็นถึงผู้มีกำลังภายในที่แข็งแกร่งไม่น้อยทีเดียว !”

ซูอานฟังแล้วก็ได้แต่ยิ้ม และได้แต่คิดในใจว่า เด็กหนุ่มผู้นี้เพิ่งจะพ้นจากการเป็นแค่เศษฝุ่นเมื่อไม่กี่วันนี้เอง ส่วนความสามารถของเขาในเวลานี้น่ะหรือ ยังไม่มีอะไรน่าชื่นชมด้วยซ้ำไป !

ซูอานสังเกตเห็นว่าชายสูงอายุตรงหน้าเขาเวลานี้ ใช้ศิลปะการต่อสู้ที่เรียกว่าหวิงชุนซึ่งเป็นการต่อสู้รูปแบบหนึ่งของกังฟูเหมือนเช่นที่เหล่าฮั๋วใช้ต่อสู้กับตนก่อนหน้านี้ และฝีมือของเขาก็ไม่ได้ด้อยไปกว่าเหล่าฮั๋วมากนัก

ซูอานยังจำท่วงท่าการเคลื่อนไหวของหวิงชุนได้อย่างแม่นยำ เขาสามารถเรียนรู้มันได้อย่างรวดเร็ว แต่วิชาหวิงชุนของซูอานนั้นจะมีพลังที่แข็งแกร่งกว่า และเคลื่อนไหวได้รวดเร็วกว่า

เวลานี้เจียงชานทำได้เพียงแค่ตั้งรับ และตอนนี้เลือดลมภายในร่างกายของเขาก็สูบฉีดรุนแรงจนใบหน้าแดงก่ำ และเริ่มหายใจรุนแรงมากขึ้น

“เจ้าหนู นี่แกไปฝึกวิชาหวิงชุนมาจากที่ไหนกัน ? ใครเป็นอาจารย์ของแก ?”

“หึ .. คนอย่างข้าไม่จำเป็นต้องเรียนรู้จากผู้ใด จึงไม่จำเป็นต้องมีอาจารย์ ?” ซูอานตอบเจียงชานกลับไปด้วยน้ำเสียงเย้ยหยัน

เจียงชานร้องตะโกนตอบกลับด้วยความโมโห “เจ้าเด็กยะโส พูดจาโอหังนัก !”

ครั้งนี้เจียงชานเป็นฝ่ายบุกจู่โจมซูอาน มือของเขาเคลื่อนไหวได้รวดเร็วดั่งมังกร และกำลังภายในที่ส่งผ่านออกมานั้นก็รุนแรงน่ากลัวยิ่งกว่าเดิม

ซูอานรีบเดินพลังปราณในจุดตันเถียนของตนมาไว้ที่ฝ่ามือ และใช้ฝ่ามือปิดป้องจุดสำคัญบนร่างกายที่เจียงชานพยายามจู่โจมได้อย่างรวดเร็ว

จนกระทั่งสัมผัสได้ถึงท่อนแขนที่เริ่มเจ็บปวด ใบหน้าของซูอานจึงเปลี่ยนเป็นเย็นชายิ่งกว่าเดิม เขารวบรวมพลังปราณทั้งหมดส่งไปที่ฝ่ามืออีกครั้ง จากนั้นจึงกระโดดลอยตัวขึ้นพร้อมกับซัดพลังออกจากฝ่ามือของตนเข้าจู่โจมใส่เจียงชานไม่หยุด

เจียงชานกระโดดถอยหลังและหลบขึ้นไปเกาะอยู่บนโคมระย้าที่สูงกว่าสามเมตร แต่โคมระย้านั้นก็ถูกพลังของซูอานซัดใส่จนร่วงลงมากองกับพื้นเสียงดังสนั่นไปทั่วทั้งบ้าน

เจียงกุ้ยเฟิงได้ยินจึงรีบวิ่งออกมาดู และเมื่อเห็นภาพที่ทั้งสองคนกำลังต่อสู้กันอย่างดุเดือดนั้น เธอก็ถึงกับอ้าปากหวอด้วยความตกใจกลัว

แม้แต่โจวไห่หวงเองก็ตกใจจนแทบช็อคเช่นกัน แม้ว่าเขาจะเคยพบเห็นการต่อสู้เพื่อคัดเลือกบอดี้การ์ดมาก่อน แต่ภาพการต่อสู้ที่เห็นอยู่ตรงหน้าในเวลานี้ ก็ทำให้เขาทั้งรู้สึกหวาดกลัวและอิจฉาไปในพร้อมๆกัน

การต่อสู้ระหว่างซูอานกับเจียงชานนั้นยังคงดำเนินต่อไปเรื่อยๆ และต่างฝ่ายต่างก็ได้รับบาดเจ็บ แต่ก็ยังไม่มีผู้ใดมีทีท่าว่าจะอ่อนแรงลงเลยแม้แต่น้อย !

“เจ้าหนู เพียงแค่นี้แกก็ทำให้ฉันต้องอับอายมากแล้ว อายุของแกยังน้อยเพียงแค่นี้ แต่กลับสามารถรับมือฉันได้อย่างน่าเหลือเชื่อ !”

“หึ ! หยุดเรียกข้าว่าเจ้าหนูได้แล้ว เจ้าไม่คู่ควร .. หากจะเทียบกันแล้ว ข้าต่างหากที่แก่กว่าเจ้าไม่รู้กี่ปีต่อกี่ปี”

ซูอานไม่ได้พูดเกินจริงเลยแม้แต่น้อย เพราะหากเทียบกับชายสูงอายุผู้นี้ เขามีอายุมานานนับล้านปีด้วยซ้ำ เหตุใดชายแก่อย่างเจียงชานที่เพิ่งอยู่มาไม่ถึงร้อยปีจึงได้บังอาจเรียกเขาเช่นนั้น !

แต่เจียงชานกลับคิดว่าซูอานจงใจพูดจาดูถูกตน จึงยิ่งโกรธมากขึ้นและจู่โจมซูอานหนักหน่วงกว่าเดิม

“เจ้าหนู ฉันยอมรับว่าแกเก่งมากจริงๆ แต่ยังไงคืนนี้แกก็ต้องตายด้วยน้ำมือของฉันแน่ !”

แววตาของเจียงชานเป็นประกายเย็นชาขึ้นในระหว่างที่พูด สีหน้าของเขาฉาบด้วยรังสีสังหาร เพราะนี่เป็นครั้งแรกที่เขาได้พบกับคู่ต่อสู้ที่เก่งกาจเช่นซูอาน

สำหรับเจียงชานแล้ว การได้พบเจอกับคู่ต่อสู้ที่มีฝีมือเก่งกาจนั้น ทำให้เขาตื่นเต้นดีใจเสียยิ่งกว่าการได้พบกับสาวงามเสียอีก ..

เจียงชานจัดการถอดเสื้อออก แม้จะอยู่ในวัยสูงอายุเกินครึ่งร้อย แต่ร่างกายของเขานั้นกลับเต็มไปด้วยกล้ามเนื้อแข็งแกร่ง ไม่มีร่องรอยของความอ่อนย้วยตามร่างกายเลยแม้แต่น้อย และนั่นบ่งบอกว่าชายผู้นี้ผ่านการฝึกฝนวรยุทธมาเป็นเวลานานหลายปี

“นี่เจ้าคิดว่าถอดเสื้อผ้าแล้วจะสามารถเอาชนะข้าได้งั้นรึ ? ข้าหาใช่หญิงสาวที่จะต้องเขินอายต่อเรือนร่างของเจ้า !”

ซูอานยิ้มออกมาพร้อมกับพูดจาล้อเลียนเจียนชาง ก่อนที่สายตาจะเปลี่ยนเป็นเคร่งเครียดจริงจัง

เจียงชานไม่รอช้า เขาเป็นฝ่ายจู่โจมซูอานด้วยการกระโดดถีบเข้าที่จุดสำคัญบนร่างกาย และหากสามารถทำได้สำเร็จ ซูอานต้องได้รับบาดเจ็บสาหัส หรือไม่ก็ต้องสิ้นใจตายในทันทีเป็นแน่

ซูอานเห็นเช่นนั้นจึงรีบกระโดดหลบไปทางด้านข้างทันที ทำให้เจียงชานพลาดเป้าถีบเข้าที่โซฟาหนังแทน และโซฟาหนังก็ทะลุในทันที

เจียงกุ้ยเฟิงที่ยืนดูอยู่ชั้นสองถึงกับแทบใจสลาย เพราะโซฟาหนังชุดนี้มีราคาที่แพงมาก แม้ฐานะของโจวไห่หวงจะร่ำรวยมาก แต่เธอก็อดที่จะเสียดายไม่ได้

แต่โจวไห่หวงกลับไม่ได้สนใจโซฟาหนังเลยแม้แต่น้อย สายตาของเขาจับจ้องอยู่เพียงแค่ร่างของชายทั้งสองคนตรงหน้าเท่านั้น

“เอาล่ะ .. หมดเวลาที่จะเล่นประมือกับเจ้าแล้ว !”

แววตาของซูอานเย็นชายิ่งกว่าเดิม แล้วพลังปราณสายหนึ่งก็พุ่งออกนิ้วของซูอานอย่างรวดเร็ว นอกจากเร็วมากแล้วยังไร้เสียงอีกด้วย ..

ซูอานใช้วิธีเดียวกับที่เขาสังหารนักฆ่า เพียงแต่ครั้งนี้ไม่มีใบมีด มีเพียงพลังปราณที่พุ่งออกจากร่างของซูอานเท่านั้น และจากการสังหารนักฆ่าไปก่อนหน้านี้ ทำให้ซูอานรู้ว่าคนบนโลกใบนี้ไม่สามารถต้านทานพลังปราณเช่นนี้ของตนได้ !

และเขาก็เชื่อว่าเจียงชานจะไม่สามารถต้านทานได้เช่นกัน เพราะคนบนดาวเคราะห์ดวงนี้ไม่รู้จักวิธีการปลดปล่อยพลังปราณออกจากร่าง เว้นแต่ว่าคนผู้นั้นจะอยู่ในระดับขั้นปรมาจารย์เท่านั้น

แต่ดูเหมือนซูอานจะประเมินความแข็งแกร่งของเจียงชานต่ำไป…

เพราะทันทีที่เจียงชานถูกจู่โจมด้วยพลังปราณเช่นนั้น เขาก็รีบกระโดดถอยห่างและหยิบเอาน้ำเต้าออกมาต้านไว้ทันที !

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด