ย้อนชีวิตพิชิตเซียน 32 : จัดการเกายั่วเต๋อ

Now you are reading ย้อนชีวิตพิชิตเซียน Chapter 32 : จัดการเกายั่วเต๋อ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่  32 : จัดการเกายั่วเต๋อ

คำพูดว่า ‘ผมขอโทษและผู้มีพระคุณ’ ที่หลุดออกจากปากของฮั๋วเว่ยเฟิงนั้น ไม่เพียงเป็นการแสดงความซาบซึ้งต่อใจต่อซูอาน แต่ยังเป็นการตำหนิตัวเองไปในตัวด้วย

เวลานี้ภายในจิตใจของฮั๋วเว่ยเฟิงมีหลายความรู้สึกปะปนกันอยู่มากมาย แต่ลึกลงไปภายในใจนั้น กลับเต็มไปด้วยความซาบซึ้งใจ และสำนึกในบุญคุณของซูอาน

เพราะผลลัพธ์ที่ปรากฏขึ้นในเวลานี้ ได้พลิกวิกฤติที่หนักหนาให้กลับกลายเป็นความสงบสุขที่จะเกิดขึ้นกับหลายๆคน

ซูอานยืนเผชิญหน้ากับฮั๋วเว่ยเฟิงที่คุกเข่าลงต่อหน้าด้วยความรู้สึกที่ไม่ได้ประหลาดใจอะไรนัก เพราะฮั๋วเว่ยเฟิงเป็นผู้ประกาศกับเขาเองว่า หากซูอานสามารถช่วยฮั๋วว่านว่านให้พ้นขีดอันตรายได้จริง เขาจะยอมคุกเข่าขอโทษซูอาน !

แต่ถึงอย่างนั้น การที่ฮั๋วเว่ยเฟิงซึ่งเป็นถึงนักธุรกิจชื่อดังมีทรัพย์สินเงินทองกว่าหมื่นล้าน และเป็นที่นับหน้าถือตาของผู้คนมากมาย กลับต้องมาคุกเข่าต่อหน้าเขาท่ามกลางผู้คนมากมายเช่นนี้ ผู้คนย่อมต้องร่ำลือกันไปต่างๆนานา

ซูอานจึงรีบเดินตรงเข้าไปหาฮั๋วเว่ยเฟิง พร้อมกับโน้มตัวลงพยุงร่างของเขาให้ลุกข้น

“ไม่ใช่เรื่องยากเย็นอะไรนัก เจ้าลุกขึ้นได้แล้ว !”

ซูอานไม่ต้องการโอ้อวดอะไรมากนัก และไม่ได้คิดว่าเป็นบุญคุณอะไร ที่เขายื่นมือเข้าไปยุ่งเกี่ยวทั้งที่ไม่ใช่เรื่องของตนนั้น เพราะไม่ต้องการเห็นฮั๋วว่านว่านตายไปต่อหน้าต่อหน้าเท่านั้น

หลี่ตันนำร่างของฮั๋วว่านว่านเข้าไปในวอร์ดผู้ป่วยปลอดเชื้อ แม้ฮั๋วว่านว่านจะพ้นขีดอันตรายแล้ว แต่ร่างกายของเธอก็ยังอ่อนแออยู่มาก และต้องการการดูแลรักษา และเอาใจใส่เป็นพิเศษ

ในเวลานั้น ทั้งหมอและพยาบาลต่างก็มีสีหน้าประหลาดใจอย่างที่สุด !

ทุกคนต่างก็ไม่อยากจะเชื่อกับสิ่งที่เห็น เพราะพวกเขาต่างก็เห็นอาการของฮั๋วว่านว่านกับตาตัวเองว่า เธอเสียเลือดไปมาก และต้องให้เลือดไปมากมายหลายถุง เรียกได้ว่าเลือดในตัวฮั๋วว่านว่านนั้นไหลออกมาจนแทบจะหมดร่าง เช่นนี้แล้วเธอจะสามารถรอดชีวิตได้อย่างไรกัน ?

และตามหลักการแพทย์แล้ว เป็นไปไม่ได้เลยที่คนไข้ในลักษณะนี้จะสามารถรอดชีวิตได้ มีเพียงแค่รอประกาศกับญาติคนไข้ว่า คนไขเ้สียชีวิตแล้วเท่านั้น !

แต่ไม่น่าเชื่อว่าซูอานจะสามารถทำเรื่องที่มหัศจรรย์ได้ถึงเพียงนี้ เขาสามารถช่วยให้ฮั๋วว่านว่านมีชีวิตรอดได้ แม้ว่าพวกเขาจะไม่อยากเชื่อก็ตามที !

เกายั่วเต๋อยกมือทั้งสองข้างขึ้นกุมศรีษะไว้ พร้อมกับส่ายหน้าไปมาอย่างคนเสียสติ และพร่ำพูดแต่ว่า

“เป็นไปไม่ได้ ! เป็นไปไม่ได้ ! ยังไงก็ไม่มีทางเป็นไปได้ !”

เกายั่วเต๋อไม่มีทางเชื่อกับสิ่งที่เกิดขึ้น จะเป็นไปได้อย่างไรกันที่เด็กวัยรุ่นธรรมดาๆคนหนึ่งซึ่งไม่มีความรู้ด้านการแพทย์ จะสามารถดึงฮั๋วว่านว่านกลับมาจากความตายที่รออยู่ได้ !

“ไม่ .. เป็นไปไม่ได้ ! เด็กนี่ต้องเล่นตลกอะไรแน่ !”

เกายั่วเต๋อไม่อาจควบคุมอารมณ์ของตัวเองได้อีก เวลานี้อารมณ์ความรู้สึกมากมายและความสับสนต่างปะทุขึ้นในใจของเกายั่วเต๋อพร้อมๆกัน

อีกทั้งเมื่อครั้งที่ซูอานมีเรื่องกับโจวเทียนห่าวนั้น เกายั่วเต๋อเองก็อยู่ข้างโจวเทียนห่าว เขาจึงไม่ชอบซูอานเป็นทุนเดิม

และเมื่อไม่กี่ชั่วโมงก่อนหน้านี้ ซูอานก็ได้โยนเงินใส่หน้าเขา การกระทำของซูอานครั้งนี้ ทำให้เเกายั่วเต๋อซึ่งเป็นถึงประธานของโรงพยาบาลเจียงโจว รู้สึกเหมือนถูกเหยียดหยาม และไม่ให้เกียรติอย่างมาก

และที่สำคัญที่สุด การที่ซูอานสามารถช่วยฮั๋วว่านว่านให้มีชีวิตรอดได้นั้น ย่อมหมายถึงว่าคำพูดของเขาก่อนหน้านี้เชื่อถือไม่ได้เลยแม้แต่น้อย และเป็นการพิสูจน์ว่าเขาคือแพทย์ที่ไร้ความสามารถอย่างแท้จริง ทำให้เขาไม่อาจยอมรับความจริงที่เกิดขึ้นได้ !

“คุณฮั๋ว .. คุณต้องระมัดระวังให้ดี ระวังจะถูกเด็กคนนี้ต้มตุ๋มเอาได้ !”

เกายั่วเต๋อจ้องมองซูอานด้วยสายตาดุดัน ตอนนี้เขาอยากจะรีบไล่ซูอานออกไปให้เร็วที่สุด เพราะวันนี้ซูอานทำให้เขาเสียหน้า เสียเกียรติ และเสียความน่าเชื่อถือไปหมดแล้ว !

แววตาของฮั๋วเว่ยเฟิงเป็นประกายลุกวาวไปด้วยไฟโทสะ คำพูดของเกายั่วเต๋อไม่ต่างจากการผายลมในความรู้สึกของฮั๋วเว่ยเฟิง เขาไม่ได้เป็นโรคสมองเสื่อมที่จะไม่รู้ว่าใครที่เป็นคนช่วยชีวิตลูกสาวตนไว้ !

“เกายั่วเต๋อ !”

ฮั๋วเว่ยเฟิงร้องตะโกนเรียกชื่อของเขาออกมาเสียงดัง จนคนทั่วทั้งโรงพยาบาลได้ยิน และเวลานี้ทั้งหมอและพยาบาลต่างก็พากันยืนตัวสั่นด้วยความตกใจ

เกายั่วเต๋อได้ยินเช่นนั้นก็ถึงกับตัวสั่นด้วยความหวาดกลัวเช่นกัน เขาจ้องมองฮั๋วเว่ยเฟิงด้วยแววตาระล้าระลัง ก่อนจะพูดต่อด้วยน้ำเสียงอันเบา

“ท่านประธานฮั๋ว เด็กคนนั้นไม่ใช่หมอ เขาจะช่วยคุณหนูว่านว่านได้ยังไง ? คุณลองคิดดูให้ดีสิครับ !”

ฮั๋วเว่ยเฟิงหมดความอดทน เขาคว้าคอเสื้อของเกายั๋วเต๋อไว้ พร้อมกับจ้องมองด้วยแววตาเกรี้ยวกราด

“นี่แกกำลังจะบอกว่า .. ยังไงลูกของฉันก็สมควรตายใช่มั๊ย ?”

เกายั่วเต๋อถึงกับแข้งขาอ่อนแรง เขาไม่เคยพูดประโยคนี้ออกมาสักครั้ง และไม่กล้าแม้แต่จะคิดด้วยซ้ำไป แต่น้ำเสียงของฮั๋วเว่ยเฟิงเวลานี้ก็ทำให้เขาตกใจกลัวจนแทบลืมหายใจ

“ไม่ .. ไม่ใช่อย่างนั้นนะครับคุณฮั๋ว ! ผมจะกล้าคิดแบบนั้นได้ยังไงกัน ?”

ฮั๋วเว่ยเฟิงโยนร่างของเกายั่วเต๋อลงไปกับพื้นอย่างแรง และนั่นทำให้เขาถึงกับมึนงงจนเห็นดาวเต็มไปหมด !

ซูอานจ้องมองเกายั่วเต๋อด้วยแววตาเย้ยหยัน ..

ความจริงแล้วซูอานไม่ต้องการที่จะมีเรื่องกับเกายั่วเต๋ออีก และคิดว่าจะจบเรื่องทุกอย่างไว้เพียงเท่านี้ แต่เป็นเกายั่วเต๋อเองที่ไม่ยอมปล่อย เขาจึงต้องตอบแทนกลับไปอย่างสาสม ..

“คุณฮั๋ว .. ประธานแห่งโรงพยาบาลเจียวโจวผู้นี้ มองข้าไร้ค่ามาตั้งแต่แรกพบแล้ว !”

เมื่อได้ยินคำพูดของซูอาน ฮั๋วเว่ยเฟิงก็พูดขึ้นด้วยสีหน้าดุดันอีกครั้ง “มันต่างหากที่เป็นนักต้มตุ๋น !”

“หึ ! เขาไม่ใช่นักต้มตุ๋น แต่บุคลิกนิสัยของเขาต่างหากที่เป็นปัญหา !”

“หมายความว่ายังไง ?”

ฮั๋วเว่ยเฟิงจ้องหน้าซูอาน และกำลังรอคำอธิบายของเขา ..

“เจ้าก็เห็นแล้วไม่ใช่รึ .. ข้าเตือนเขาตั้งแต่แรกแล้วว่าไม่ควรผ่าตัดนาง เพราะบาดแผลของนางนั้นเกิดจากผู้มีวรุยทธ แต่เขาไม่เพียงไม่เชื่อข้า เมื่อเกิดปัญหาระหว่างผ่าตัด กลับอ้างว่าข้าทำให้ล่าช้า การผ่าตัดจึงมีปัญหา !”

ฮั๋วเว่ยเฟิงขมวดคิ้วเข้าหากัน .. แม้แต่เขาเองก็ไม่เชื่อซูอานตั้งแต่ต้น แต่ตอนนี้เขาไม่เพียงเชื่อ มิหนำซ้ำยังชื่นชมซูอานไม่น้อย และคิดว่าซูอานเป็นคนที่น่าอัศจรรย์อย่างมากคนหนึ่ง

“แต่เวลานี้ .. ทุกอย่างได้พิสูจน์แล้วว่าคำพูดของข้ากับเขา ผู้ใดน่าเชื่อถือมากกว่ากัน ?”

“และการรักษาของข้าก็ไม่เสียเวลาเปล่า .. เพราะมันได้พิสูจน์แล้วว่าที่เลือดของคนไข้ไหลไม่หยุดนั้นเป็นความผิดของเขา ไม่ใช่ของข้า !”

ซูอานพูดพร้อมกับยกมือขึ้นชี้ไปทางเกายั่วเต๋อด้วยสีหน้าเย็นชา แต่แววตานั้นกลับเต็มไปด้วยการเยาะเย้ยถากถาง

ใบหน้าของเกายั่วเต๋อบ่งบอกถึงความตกใจสุดขีด ใจของเขาเต้นแรงด้วยความหวาดกลัว เพราะรู้ว่าซูอานกำลังต้องการที่จะแก้แค้นเขาคืน เพียงแต่ตอนนี้เขานึกหาข้อแก้ตัวไม่ได้ !

“ท่านประธานฮั๋ว .. ได้ ..”

เกายั่วเต๋อกำลังจะอ้าปากร้องขอความเมตตาจากฮั๋วเว่ยเฟิง แต่กลับถูกฮั๋วเว่ยเฟิงร้องตะโกนขัดขึ้นมาเสียก่อน

“คำพูดของซูอานเป็นความจริงทั้งหมด เกายั่วเต๋อ .. ไอ้คนลวงโลก ไร้จรรยาบรรณ แกขึ้นมาเป็นประธานของโรงพยาบาลเจียงโจวได้ยังไงกัน ?”

เกายั่วเต๋อถึงกับหมดเรี่ยวแรงขึ้นมาทันที เวลานี้เขารู้สึกท้อแท้หมดหวังในใจ เพราะรู้ดีว่า ด้วยอำนาจบารมีของฮั๋วเว่ยเฟิงนั้น เพียงแค่ดีดนิ้วเขาก็สามารถหายไปจากโรงพยาบาลเจียงโจวได้ในทันที เวลานี้เกายั่วเต๋อจึงรู้สึกหวาดกลัวอย่างที่สุด ..

“ท่านประธานฮั๋วครับ .. ผมผิดไปแล้ว เรื่องทั้งหมดล้วนเป็นความผิดของผมเอง !”

เกายั่วเต๋อได้แต่ยอมรับความผิด และร้องขอความเมตตาจากฮั๋วเว่ยเฟิง เพราะไม่มีทางอื่นอีกแล้ว ..

ซูอานเห็นเช่นนั้นก็ได้แต่ยิ้มออกมา และได้แต่คิดในใจว่า ‘หากเจ้าไม่คิดที่จะเอาเรื่องข้าให้ได้ ข้าก็ไม่คิดที่จะเอาเรื่องกับเจ้าเช่นกัน แต่หากเจ้าคิดที่หาเรื่องข้าแล้วล่ะก็ ข้าก็จะทำให้เจ้าต้องเสียใจอย่างที่สุดเชียวล่ะ !’

ฮั๋วเว่ยเฟิงจ้องมองเกายั่วเต๋อที่มีใบหน้าซีดขาวด้วยสีหน้าเฉยชาและไม่ใส่ใจ เวลานี้เขากำลังโกรธเกายั่วเต๋ออย่างมาก เพราะลูกสาวของเขาเกือบต้องมาตายด้วยฝีมือของคนผู้นี้ !

เกายั่วเต๋อคลานเข่าเข้าไปกอดขาของฮั๋วเว่ยเฟิงไว้ทันที เขาดึงขากางเกงของฮั๋วเว่ยเฟิงไว้แน่น พร้อมกับร้องไห้น้ำหูน้ำตาไหล และอ้อนวอนขอความเมตตาไม่หยุด

ฮั๋วเว่ยเฟิงสะบัดขาออกพร้อมกับพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเย็นชา “คุณหมอ .. ไม่ว่ายังไงคุณก็ต้องรับผิดชอบในสิ่งที่คุณได้ทำลงไป !”

“ทั้งๆ ที่ตัวคุณเองก็เป็นศัลยแพทย์ที่มีชื่อเสียง แต่กลับพูดจากลับกลอกไม่รับผิดชอบ และเกือบทำให้ลูกสาวของผมต้องตาย !”

เกายั่วเต๋อรู้ดีว่าฮั๋วเว่ยเฟิงหมายความเช่นไร และเวลานี้ .. คนที่ฮั๋วเว่ยเฟิงเชื่อฟังที่สุดก็คือซูอาน และหากซูอานต้องการให้ฮั๋วเว่ยเฟิงทำอะไรกับตน ฮั๋วเว่ยเฟิงก็จะยินดีทำตามทันที !

เกายั่วเต๋อรีบคลานเข่าเข้าไปหาซูอานแทน พร้อมกับระล่ำระลักร้องขอความเมตตาจากซูอานแทน

“ซูอาน .. ได้โปรดอภัยให้ฉันด้วย เมตตาฉันด้วยสักครั้ง !”

“เมตตาเจ้างั้นรึ ? เจ้าโกรธแค้นแทนโจวเทียนห่าวมากไม่ใช่รึ ?” ซูอานถามขึ้นด้วยน้ำเสียงเย้ยหยัน

เกายั่วเต๋อรีบส่ายหน้าปฏิเสธทันที “ไม่ .. ไม่ .. ฉันจะเข้าข้างขยะอย่างโจวเทียนห่าวได้ยังไงกัน ? เธอเข้าใจผิดแล้ว !”

ซูอานจ้องมองเกายั่วเต๋อด้วยแววตาเย็นชา พร้อมกับเดินตรงเข้าไปหาฮั๋วเว่ยเฟิงและพูดขึ้นว่า

“คนเยี่ยงนี้ไม่ควรค่าแก่การเป็นหมอ เจ้าไล่เขาออกไปให้พ้นจากตำแหน่งจะดีกว่า ..”

ฮั๋วเว่ยเฟิงชะงักไปเล็กน้อยก่อนจะถามขึ้นว่า “แค่ไล่ออกงั้นเหรอ ?”

ซูอานส่ายหน้าพร้อมตอบกลับไปว่า “ขยะไร้ค่าเช่นนี้ เจ้าฆ่าไปก็ไร้ประโยชน์ สู้ปล่อยให้มันอับจนไปตลอดชีวิตจะดีกว่า !”

ฮั๋วเว่ยเฟิงพยักหน้าแทนคำตอบว่าเห็นด้วยกับซูอาน ..

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด