ย้อนชีวิตพิชิตเซียน 47 : แขกพิเศษ

Now you are reading ย้อนชีวิตพิชิตเซียน Chapter 47 : แขกพิเศษ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 47 : แขกพิเศษ

 

หลังจากที่จัดการกับเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยไปหนึ่งหมัด จนลงไปนอนร้องโหยหวนด้วยความเจ็บปวดอยู่กับพื้นแล้ว ซูอานก็กลับไปนั่งที่เก้าอี้ตัวเดิม

 

หลังจากที่เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยอีกคนเดินไปตรวจสอบอาการบาดเจ็บของเพื่อนร่วมงานแล้ว และพบว่าอีกฝ่ายกระดูกซี่โครงหัก ก็ทั้งตกใจและโมโหพร้อมกับจ้องหน้าซูอานด้วยความตกตะลึง

 

ทุกคนในที่นั้นต่างก็จ้องมองซูอานด้วยความตกตะลึงเช่นกัน หมัดของซูอานต้องมีพลังรุนแรงมากเพียงใด ถึงได้สามารถซัดร่างสูงใหญ่ของเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย จนลอยละลิ่วออกไปไกลถึงหกเจ็ดเมตรได้ภายในหมัดเดียว และที่สําคัญ.. รูปร่างของซูอานนั้นก็ผอมบางกว่ามาก!

 

บางคนถึงกับอ้าปากค้างจนกระทั่งไวน์ในปากไหลออกมายังไม่รู้ตัว ส่วนคนที่พูดจาดูถูกซูอานก่อนหน้านี้ก็รีบหลบหน้าทันที และแววตาของพวกเขาต่างก็เต็มไปด้วยความหวาดกลัว

 

มนุษย์หลายคนก็เป็นเช่นนี้ ชอบข่มเหงรังแกผู้อื่น ทั้งที่ตัวเองก็มีความหวาดกลัวอยู่โดยธรรมชาติ!

เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยที่ไม่ได้รับบาดเจ็บ รีบหยิบวิทยุสื่อสารข้างเอวออกมาทันที “นี่ ว.21 พูด เกิดเหตุที่สนามด้านทิศตะวันออกเฉียงเหนือของคฤหาสน์ ส่งกําลังมาเสริมด่วน!”

 

“ว.1 รับทราบ จะรีบส่งคนไปเพิ่มอีกห้าคน!”

 

จากนั้นเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยก็หันไปพูดกับซูอานด้วยน้ําเสียงโกรธแค้น “เจ้าเด็กฮั๋ว รอดูว่าฉันจะจัดการกับแกยังไง?”

 

“ข้าจะรอ!” ซูอานตอบกลับเสียงเบา ไม่มีท่าทีหวาดกลัวเลยเม้แต่น้อย

 

ไม่นานนัก พนักงานรักษาความปลอดภัยอีกห้าคนก็เดินเข้ามาพร้อมกับจ้องมองซูอานราวกับจะกินเลือดกินเนื้อ

 

ก่อนหน้าที่งานจะปาร์ตี้จะเริ่มขึ้นนั้น ฮั่วเว่ยเฟิงได้กําชับพนักงานรักษาความปลอดภัยทั้งหมด ให้ทําหน้าที่ดูแลรักษาการอย่างดี ไม่ให้เกิดเรื่องผิดพลาดแม้แต่น้อย ไม่เช่นนั้นพวกเขาจะต้องถูกทําโทษ

 

เวลานี้พนักงานรักษาความปลอดภัยทั้งหกคน ต่างก็ยีนถือกระบองไฟฟ้าล้อมร่างซูอานอยู่ แต่ซูอานกลับนั่งจิบไวน์อย่างไม่มีท่าที่หวาดกลัว

“ หมอนี่ยังนิ่งเฉยอยู่ได้ เขาคิดว่าจะสามารถเอาชนะการ์ดตั้งหกคนได้เหรอ?” สาวสวยคนหนึ่งพูดขึ้นด้วยความรู้สึกประหลาดใจ และจ้องมองด้วยแววตาเป็นห่วง

 

หลังจากที่ซูอานชกพนักงานรักษาความปลอดภัยจนลงไปกองกับพื้นคนหนึ่ง เขาก็ดูหล่อเหลาขึ้นในสายตาของผู้หญิงหลายคนทันที บางคนถึงกับนึกเป็นห่วงซูอาน.

 

“ฮื่ม! ครั้งนี้มันโดนการ์ดรุมกระทืบตายแน่!”

 

แต่ดูเหมือนผู้ชายกลับอยากเห็นซูอานโดนทําร้ายจนตายเสียมากกว่า

 

เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยทั้งหกคนเห็นซูอานนิ่งเฉยไม่รู้ร้อนรู้หนาวก็ยิ่งโกรธมาก และเปิดกระแสไฟฟ้าของกระบองไปที่ขีดสูงสุดทันที จากนั้นจึงฟาดกระบองเข้าใส่ร่างของซูอานพร้อมกัน หากพวกเขาพลาดพลั้งทําให้ซูอานต้องเสียชีวิต อย่างมากก็ติดคุกสักสองสามปีก็ได้ออกมาแล้ว

 

ยิ่งซูอานเห็นเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยทั้งหกคนพุ่งเข้าใส่ตนเองพร้อมกันเช่นนั้น แววตาของเขากลับยิ่งแสดงออกถึงความขบขันมากขึ้น

 

เพราะความเร็วของซูอานนั้นต้องบอกว่าเหนือกว่าคนเหล่านี้มากนัก เพียงแค่เคลื่อนไหวไม่กี่ครั้ง เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยทั้งหกคนก็ลงไปนอนกองกับพื้นแล้ว บางคนแขนหัก บางคนขาหัก ส่วนบางคนก็กระดูกซี่โครงหัก และบางคนถึงกับหน้าอกยุบลงไป

 

“หากผู้ใดไม่หาเรื่องข้าก่อน ข้าก็ไม่คิดที่จะมีเรื่องด้วยเช่นกัน!”

 

แต่เพียงแค่ซูอานพูดจบ เสียงของใครบางคนก็ดังขึ้นทันที

“เก่งนักรึ?”

 

เสือหัวโล้นเป็นผู้เอ่ยถามขึ้น ในขณะที่ซูอานก็หันไปมองตามเสียงนั่น และเมื่อเห็นว่าเป็นเสือหัวโล้น เขาก็ได้แต่ยิ้มออกมาพร้อมกับถามขึ้นด้วยความประหลาดใจเล็กน้อย

 

ชะตาของเราสองคน

 

“คิดไม่ถึงว่าจะได้พบเจ้าที่นี่! ดูเหมือนชะตาของเราสองคนจะต้องกันสินะ..”

 

ทันทีที่ซูอานหันหน้ามา สีหน้าของเสือหัวโล้นก็ถึงกับเปลี่ยนไปทันที เขาคิดไม่ถึงว่าจะพบซูอานที่บ้านของผู้เฒ่าฮั่วเช่น

 

เสือหัวโล้นได้รายงานเรื่องของซูอานให้คุณชายธุ์ทราบแล้ว และเขาก็กําลังสืบเรื่องของซูอานและวางแผนจัดการอยู่

 

“ครั้นนี้นับว่าแกโชคดีอีกครั้งแล้วที่คุณชายอู่ไม่ได้มาร่วมงานในคืนนี้ ไม่อย่างนั้นแกต้องถูกจับหักขาทิ้งแน่ๆ”

 

“ช่างน่ากลัวยิ่งนัก!”

 

ซูอานตอบกลับด้วยน้ําเสียงขบขัน เขาไม่ได้นึกหวั่นต่อคําขู่ของเสือหัวโล้นเลยแม้แต่น้อย เพระคนเหล่านี้ล้วนไม่ต่างจากมดปลวกในสายตาของเขา

 

เสือหัวโล้นรู้ดีว่าซูอานนั้นเก่งกาจมากเพียงใด เขาจึงไม่ต้องการเอาตัวเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับเรื่องนี้ เพราะรู้ตัวว่าตนเองก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของซูอาน จึงต้องการปล่อยเรื่องนี้ให้ตระกูลฮั่วเป็นผู้จัดการเอง

 

“ดูเหมือนผู้เฒ่าฮั๋วจะมานั่นแล้ว!”

 

“ไม่น่าเชื่อเลย.. ผู้เฒ่าฮั๋วอายุตั้งแปดสิบปีแล้ว แต่สีหน้ากลับยังมีเลือดฝาดราวกับหนุ่มๆ”

 

“ผู้เฒ่าฮั๋วมานั่นแล้ว หมอนี่ไม่รอดแน่!”

 

ทุกคนต่างก็หันไปมองผู้เฒ่าฮั๋วด้วยสีหน้าท่าทางเคารพยําเกรง พร้อมกับทักทายกันไม่หยุดปาก

 

สีหน้าของผู้เฒ่าฮั่วเวลานี้เปื้อนไปด้วยรอยยิ้ม และพยักหน้ารับการคาราวะจากผู้คนไม่หยุด ดูเหมือนว่าคืนนี้เขาจะมีความสุขมากเป็นพิเศษ

 

แต่ซูอานกลับไม่แม้แต่จะลุกขึ้นยืน และยังคงนั่งเอนกายพิงเก้าอื้อย่างเกียจคร้าน ในขณะเดียวกันนั้นเสือหัวโล้นก็ร้องตะโกนบอกซูอานเสียงดัง

 

“ซูอาน ผู้เฒ่าฮั๋วออกมาแล้ว แกยังไม่รีบคุกเข่าสารภาพผิดอีกรึ? คราวนี้แกตายแน่ๆ แต่หากจะโทษก็ต้องโทษตัวแกที่แส่หาเรื่องเอง”

 

ไม่เพียงเสือหัวโล้นที่อยากเห็นซูอานถูกผู้เฒ่าฮัวลงโทษ แม้แต่แขกในงานคนอื่นๆ ต่างก็พากันพูดทํานองเดียวกัน

 

ผู้เฒ่าฮัวเห็นซูอานยังคงนั่งเอนกายพิงเก้าอี้อย่างไม่สนใจใยดี อีกทั้งยังเห็นเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยหกเจ็ดคนที่นอนร้องโอดโอยอยู่ที่พื้น เพียงแค่นั้นเขาก็สามารถคาดเดาเรื่องราวทั้งหมดได้ในทันที รอยยิ้มเมื่อครู่หายไปจากใบหน้าและเปลี่ยนเป็นความเย็นชาขึ้นมาแทนที่

 

“ดูหน้าผู้เฒ่าตั๋วสิ! ดูเหมือนจะโกรธมากเลย เจ้าเด็กนั่นต้องตายแน่ๆ!”

 

“มันไม่รอดอยู่แล้ว กล้าเข้ามาป่วนในงานเลี้ยงของผู้เฒ่าฮั่วแบบนี้!”

 

ดูเหมือนทุกคนต่างก็คิดว่าซูอานต้องตายแน่ๆ เพราะจงใจเข้ามาสร้างความปั่นป่วนในงานเลี้ยงของผู้เฒ่าฮั่วคืนนี้

 

เหล่าฮัวก้าวเข้าไปหาซูอานอย่างช้าๆ แต่ละก้าวของเขานั้นหนักแน่นแต่กลับไม่มีเสียงเท้ากระทบพื้นเลยแม้แต่น้อย สีหน้าของเขาเย็นชายิ่งขึ้นเรื่อยๆ จนทําให้ผู้คนรอบข้างถึงกับหวาดกลัวจนขนหัวลุก

 

ทุกคนต่างก็กําลังนึกถึงจุดจบอันน่าเศร้าของซูอานว่า คงต้องตายอย่างทรมานแน่นอน!

 

เหล่าฮั่วเดินตรงเข้าไปหาซูอานที่ยังคงนั่งพิงเก้าอี้หลับตาอย่างสบายอารมณ์ เขาพยายามข่มอารมณ์ของตนเองให้สงบลง แล้วจึงพูดกับซูอานว่า

 

“ฉันรู้ว่าเธอไม่ได้หลับ.. ลุกขึ้นเดี๋ยวนี้!”

 

แต่ซูอานกลับยังคงนิ่งเฉย และไม่สนใจฟังคําสั่งของผู้เฒ่าฮั่วเลยแม้แต่น้อย

 

สีหน้าของเหล่าฮั่วเปลี่ยนเป็นกระอักกระอ่วนขึ้นมาทันที ทุกคนในงานที่เห็นเช่นนั้น ต่างก็ได้แต่แอบคิดในใจว่า เหล่าฮั่ว ไม่เพียงไม่จัดการกับซูอานอย่างที่พวกเขาคิด แต่กลับทําสีหน้ากระอักกระอ่วนใจด้วย

 

“ไม่น่าจะกลายเป็นแบบนี้ไปได้ ก่อนหน้านี้นักธุรกิจหนุ่มที่ทําให้เหล่าฮั่วไม่พอใจ วันรุ่งขึ้นยังหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย!”

 

“หรือนี่จะเป็นความสงบเงียบที่มาก่อนคลื่นลูกใหญ่!”

 

ทุกคนได้แต่แอบคิดกันไปต่างๆนานาอยู่ในใจ แต่ก็ไม่มีผู้ใดกล้าพูดออกมาแม้แต่คําเดียว แต่แล้วจู่ๆ ทุกคนก็ต้องตกใจหนักยิ่งกว่าเดิม เมื่อได้ยินผู้เฒ่าฮั่วพูดกับซูอานว่า

 

“เรื่องนี้เป็นความผิดของฉันเอง! ฉันควรจะต้องส่งคนออกไปรับเธอ”

 

ทุกคนในที่นั้นต่างก็สัมผัสได้ชัดเจนว่า น้ําเสียงของผู้เฒ่าฮั่วที่เอ่ยออกไปนั้นแฝงไว้ด้วยความรู้สึกผิด และต้องการขอโทษจริงๆ เวลานี้พวกเขาต่างก็พากันอ้าปากค้างด้วยความตกตะลึง

 

“เป็นไปได้ยังไง? ผู้เฒ่าฮั๋วขอโทษคนฐานะต่ําต้อยคนหนึ่งอย่างงั้นเหรอ?”

 

เจ้าของบริษัทใหญ่คนหนึ่งถึงกับทนไม่ได้ จึงได้เอ่ยถามออกไปว่า “ผู้เฒ่าฮั๋ว ทําไมท่านต้องพูดจานอบน้อมกับเด็กฐานะต่ําต้อยคนหนึ่งขนาดนี้ด้วย?”

 

สีหน้าของผู้เฒ่าฮั่วเปลี่ยนเป็นเดือดดาลอย่างมาก และตะโกนดุเจ้าของบริษัทคนนั้นอย่างไม่ไว้หน้า

 

“ใครบอกว่าเขาเป็นคนต่ําต้อย? เขาเป็นแขกพิเศษที่ฉันเชิญมาต่างหากล่ะ!”

 

เพียงแค่นั้น ภายในงานทั้งงานก็ตกอยู่ในความเงียบสงัด แม้แต่นักร้องก็ถึงกับตกใจจนหยุดร้องเพลงไป..

 

ทุกคนในงานต่างก็พากันตกใจ และพากันครุ่นคิดถึงฐานะที่แท้จริงของซูอานว่าเป็นใครกันแน่ เพราะการจะเป็นแขกพิเศษของผู้เฒ่าฮั๋วได้ แม้แต่นักการเมืองยังต้องดูว่าใหญ่โตเพียงใด หากเพียงแค่สามารถชกต่อยเอาชนะเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยไม่กี่คนได้ ก็คงจะเป็นเรื่องที่ไร้สาระจนเกินไป!

 

แต่ถึงแม้ทุกคนจะตกใจและสงสัยมากเพียงใด ก็ไม่มีใครกล้าเอ่ยอะไรออกมาอีกแม้แต่คําเดียว ส่วนคนที่เคยพูดจาดูถูกซูอานก่อนหน้านี้ต่างก็ทําหน้าไม่ถูก..

 

“ซูอาน ฉันขอโทษเธอต่อหน้าทุกคนแล้ว เธอยังไม่หายโกรธ และไม่ยกโทษให้ฉันอีกจริงๆรึ?”

 

เวลานี้ผู้เฒ่าฮั๋วกระวนกระวายใจอย่างมาก เขาเกรงว่าเรื่องนี้จะเป็นสาเหตุให้ซูอานปฏิเสธไม่ยอมเกี่ยวดองกับตระกูลฮั่วของเขา แต่เขาหารู้ไม่ว่าซูอานตัดเรื่องนี้ทิ้งไปตั้งแต่ที่ฮัวว่านว่านขับรถชนเขาเมื่อวันนั้นแล้ว!

 

ซูอานลืมตาขึ้นมองเหล่าฮั่วพร้อมกับหัวเราเสียงดัง “ฮ่าๆๆ เหตุใดเจ้าต้องจริงจังถึงเพียงนี้ด้วย? เจ้าก็เห็นไม่ใช่รีว่าข้ากําลังหลับอยู่”

 

“ซูอาน นี่เธอจงใจแกล้งให้ฉันขายหน้าผู้คนงั้นเรอะ? ฮ่าๆ

 

“ ข้านี่ร็จะกล้า! แต่คนของเจ้ากับแขกของเจ้าต่างหาก ที่พากันหัวเราะเยาะข้าจนข้าต้องแกล้งทําเป็นหลับกลบเกลื่อน ข้าเกือบจะถูกพวกเขาไล่ออกจากงานไปแล้ว!” 

เหล่าฮั่วหันใบหน้าดุดันของตนไปทางเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยที่นอนกองอยู่กับพื้น พร้อมกับร้องตะโกนเสียงดัง

 

“พวกแกไม่ได้เรื่องเลยสักคน! นี่พวกแกกล้าไล่แขกของฉันออกไปเชียวรึ?”

 

เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยทั้งหมดที่ยังคงนอนร้องครวญครางด้วยความเจ็บปวด ต่างก็หน้าซีดเผือดและร่างกายสั่นเทาไปด้วยความกลัว ซูอานเห็นเช่นนั้นจึงรีบโบกไม้โบกมือพร้อมกับพูดกับเหล่าฮัวว่า

 

“เจ้าไม่ต้องไปดุพวกเขา พวกเขาก็แค่ทําตามหน้าที่เท่านั้นเอง!”

 

ผู้เฒ่าชั่วพยักหน้าอย่างว่าง่าย และหยุดตําหนิเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยทั้งหมดทันที!

 

แต่แล้วซูอานกลับยกมือขึ้นชี้ไปทางเสี่ยวไป๋เหลียน และชายหนุ่มอีกสองสามคนที่พากันพูดดูถูกเหยียดหยามเขาเมื่อครู่นี้ พร้อมกับพูดขึ้นว่า

 

“แต่แมงหวี่แมงวันพวกนั้นบินตอมหูข้า ทําให้ข้าหงุดหงิดรําคาญยิ่งนัก!”

 

ผู้เฒ่าฮั่วหันมองไปทางชายหนุ่มหญิงสาวกลุ่มนั้นด้วยสีหน้าเคร่งเครียด และบอดี้การ์ดที่ยืนอยู่ด้านหลังของเขาจึง ได้จัดการลากคนพวกนั้นออกไปจากงานทันที!

 

“เหล่าฮั่ว.. หากเจ้าไม่บอกกับข้าว่าจะคุยเรื่องสถานที่แห่งนั้น ข้าก็ไม่มีทางมาที่นี่แน่!”

 

ผู้เฒ่าฮั่วหันไปยิ้มให้ซูอานพร้อมกับตอบกลับทันที “ที่นี่ไม่สะดวกคุย พวกเราเข้าไปคุยเรื่องนี้กันในบ้านจะดีกว่า!”

 

ซูอานไม่ปฏิเสธ และเดินตามผู้เฒ่าฮั่วเข้าไปในบ้านทันที ปล่อยให้ผู้ที่เห็นเหตุการณ์ต่างก็นั่งอ้าปากหวอด้วยความตกตะลึงต่อไป

 

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

ย้อนชีวิตพิชิตเซียน 47 : แขกพิเศษ

Now you are reading ย้อนชีวิตพิชิตเซียน Chapter 47 : แขกพิเศษ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 47 : แขกพิเศษ

 

หลังจากที่จัดการกับเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยไปหนึ่งหมัด จนลงไปนอนร้องโหยหวนด้วยความเจ็บปวดอยู่กับพื้นแล้ว ซูอานก็กลับไปนั่งที่เก้าอี้ตัวเดิม

 

หลังจากที่เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยอีกคนเดินไปตรวจสอบอาการบาดเจ็บของเพื่อนร่วมงานแล้ว และพบว่าอีกฝ่ายกระดูกซี่โครงหัก ก็ทั้งตกใจและโมโหพร้อมกับจ้องหน้าซูอานด้วยความตกตะลึง

 

ทุกคนในที่นั้นต่างก็จ้องมองซูอานด้วยความตกตะลึงเช่นกัน หมัดของซูอานต้องมีพลังรุนแรงมากเพียงใด ถึงได้สามารถซัดร่างสูงใหญ่ของเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย จนลอยละลิ่วออกไปไกลถึงหกเจ็ดเมตรได้ภายในหมัดเดียว และที่สําคัญ.. รูปร่างของซูอานนั้นก็ผอมบางกว่ามาก!

 

บางคนถึงกับอ้าปากค้างจนกระทั่งไวน์ในปากไหลออกมายังไม่รู้ตัว ส่วนคนที่พูดจาดูถูกซูอานก่อนหน้านี้ก็รีบหลบหน้าทันที และแววตาของพวกเขาต่างก็เต็มไปด้วยความหวาดกลัว

 

มนุษย์หลายคนก็เป็นเช่นนี้ ชอบข่มเหงรังแกผู้อื่น ทั้งที่ตัวเองก็มีความหวาดกลัวอยู่โดยธรรมชาติ!

เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยที่ไม่ได้รับบาดเจ็บ รีบหยิบวิทยุสื่อสารข้างเอวออกมาทันที “นี่ ว.21 พูด เกิดเหตุที่สนามด้านทิศตะวันออกเฉียงเหนือของคฤหาสน์ ส่งกําลังมาเสริมด่วน!”

 

“ว.1 รับทราบ จะรีบส่งคนไปเพิ่มอีกห้าคน!”

 

จากนั้นเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยก็หันไปพูดกับซูอานด้วยน้ําเสียงโกรธแค้น “เจ้าเด็กฮั๋ว รอดูว่าฉันจะจัดการกับแกยังไง?”

 

“ข้าจะรอ!” ซูอานตอบกลับเสียงเบา ไม่มีท่าทีหวาดกลัวเลยเม้แต่น้อย

 

ไม่นานนัก พนักงานรักษาความปลอดภัยอีกห้าคนก็เดินเข้ามาพร้อมกับจ้องมองซูอานราวกับจะกินเลือดกินเนื้อ

 

ก่อนหน้าที่งานจะปาร์ตี้จะเริ่มขึ้นนั้น ฮั่วเว่ยเฟิงได้กําชับพนักงานรักษาความปลอดภัยทั้งหมด ให้ทําหน้าที่ดูแลรักษาการอย่างดี ไม่ให้เกิดเรื่องผิดพลาดแม้แต่น้อย ไม่เช่นนั้นพวกเขาจะต้องถูกทําโทษ

 

เวลานี้พนักงานรักษาความปลอดภัยทั้งหกคน ต่างก็ยีนถือกระบองไฟฟ้าล้อมร่างซูอานอยู่ แต่ซูอานกลับนั่งจิบไวน์อย่างไม่มีท่าที่หวาดกลัว

“ หมอนี่ยังนิ่งเฉยอยู่ได้ เขาคิดว่าจะสามารถเอาชนะการ์ดตั้งหกคนได้เหรอ?” สาวสวยคนหนึ่งพูดขึ้นด้วยความรู้สึกประหลาดใจ และจ้องมองด้วยแววตาเป็นห่วง

 

หลังจากที่ซูอานชกพนักงานรักษาความปลอดภัยจนลงไปกองกับพื้นคนหนึ่ง เขาก็ดูหล่อเหลาขึ้นในสายตาของผู้หญิงหลายคนทันที บางคนถึงกับนึกเป็นห่วงซูอาน.

 

“ฮื่ม! ครั้งนี้มันโดนการ์ดรุมกระทืบตายแน่!”

 

แต่ดูเหมือนผู้ชายกลับอยากเห็นซูอานโดนทําร้ายจนตายเสียมากกว่า

 

เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยทั้งหกคนเห็นซูอานนิ่งเฉยไม่รู้ร้อนรู้หนาวก็ยิ่งโกรธมาก และเปิดกระแสไฟฟ้าของกระบองไปที่ขีดสูงสุดทันที จากนั้นจึงฟาดกระบองเข้าใส่ร่างของซูอานพร้อมกัน หากพวกเขาพลาดพลั้งทําให้ซูอานต้องเสียชีวิต อย่างมากก็ติดคุกสักสองสามปีก็ได้ออกมาแล้ว

 

ยิ่งซูอานเห็นเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยทั้งหกคนพุ่งเข้าใส่ตนเองพร้อมกันเช่นนั้น แววตาของเขากลับยิ่งแสดงออกถึงความขบขันมากขึ้น

 

เพราะความเร็วของซูอานนั้นต้องบอกว่าเหนือกว่าคนเหล่านี้มากนัก เพียงแค่เคลื่อนไหวไม่กี่ครั้ง เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยทั้งหกคนก็ลงไปนอนกองกับพื้นแล้ว บางคนแขนหัก บางคนขาหัก ส่วนบางคนก็กระดูกซี่โครงหัก และบางคนถึงกับหน้าอกยุบลงไป

 

“หากผู้ใดไม่หาเรื่องข้าก่อน ข้าก็ไม่คิดที่จะมีเรื่องด้วยเช่นกัน!”

 

แต่เพียงแค่ซูอานพูดจบ เสียงของใครบางคนก็ดังขึ้นทันที

“เก่งนักรึ?”

 

เสือหัวโล้นเป็นผู้เอ่ยถามขึ้น ในขณะที่ซูอานก็หันไปมองตามเสียงนั่น และเมื่อเห็นว่าเป็นเสือหัวโล้น เขาก็ได้แต่ยิ้มออกมาพร้อมกับถามขึ้นด้วยความประหลาดใจเล็กน้อย

 

ชะตาของเราสองคน

 

“คิดไม่ถึงว่าจะได้พบเจ้าที่นี่! ดูเหมือนชะตาของเราสองคนจะต้องกันสินะ..”

 

ทันทีที่ซูอานหันหน้ามา สีหน้าของเสือหัวโล้นก็ถึงกับเปลี่ยนไปทันที เขาคิดไม่ถึงว่าจะพบซูอานที่บ้านของผู้เฒ่าฮั่วเช่น

 

เสือหัวโล้นได้รายงานเรื่องของซูอานให้คุณชายธุ์ทราบแล้ว และเขาก็กําลังสืบเรื่องของซูอานและวางแผนจัดการอยู่

 

“ครั้นนี้นับว่าแกโชคดีอีกครั้งแล้วที่คุณชายอู่ไม่ได้มาร่วมงานในคืนนี้ ไม่อย่างนั้นแกต้องถูกจับหักขาทิ้งแน่ๆ”

 

“ช่างน่ากลัวยิ่งนัก!”

 

ซูอานตอบกลับด้วยน้ําเสียงขบขัน เขาไม่ได้นึกหวั่นต่อคําขู่ของเสือหัวโล้นเลยแม้แต่น้อย เพระคนเหล่านี้ล้วนไม่ต่างจากมดปลวกในสายตาของเขา

 

เสือหัวโล้นรู้ดีว่าซูอานนั้นเก่งกาจมากเพียงใด เขาจึงไม่ต้องการเอาตัวเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับเรื่องนี้ เพราะรู้ตัวว่าตนเองก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของซูอาน จึงต้องการปล่อยเรื่องนี้ให้ตระกูลฮั่วเป็นผู้จัดการเอง

 

“ดูเหมือนผู้เฒ่าฮั๋วจะมานั่นแล้ว!”

 

“ไม่น่าเชื่อเลย.. ผู้เฒ่าฮั๋วอายุตั้งแปดสิบปีแล้ว แต่สีหน้ากลับยังมีเลือดฝาดราวกับหนุ่มๆ”

 

“ผู้เฒ่าฮั๋วมานั่นแล้ว หมอนี่ไม่รอดแน่!”

 

ทุกคนต่างก็หันไปมองผู้เฒ่าฮั๋วด้วยสีหน้าท่าทางเคารพยําเกรง พร้อมกับทักทายกันไม่หยุดปาก

 

สีหน้าของผู้เฒ่าฮั่วเวลานี้เปื้อนไปด้วยรอยยิ้ม และพยักหน้ารับการคาราวะจากผู้คนไม่หยุด ดูเหมือนว่าคืนนี้เขาจะมีความสุขมากเป็นพิเศษ

 

แต่ซูอานกลับไม่แม้แต่จะลุกขึ้นยืน และยังคงนั่งเอนกายพิงเก้าอื้อย่างเกียจคร้าน ในขณะเดียวกันนั้นเสือหัวโล้นก็ร้องตะโกนบอกซูอานเสียงดัง

 

“ซูอาน ผู้เฒ่าฮั๋วออกมาแล้ว แกยังไม่รีบคุกเข่าสารภาพผิดอีกรึ? คราวนี้แกตายแน่ๆ แต่หากจะโทษก็ต้องโทษตัวแกที่แส่หาเรื่องเอง”

 

ไม่เพียงเสือหัวโล้นที่อยากเห็นซูอานถูกผู้เฒ่าฮัวลงโทษ แม้แต่แขกในงานคนอื่นๆ ต่างก็พากันพูดทํานองเดียวกัน

 

ผู้เฒ่าฮัวเห็นซูอานยังคงนั่งเอนกายพิงเก้าอี้อย่างไม่สนใจใยดี อีกทั้งยังเห็นเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยหกเจ็ดคนที่นอนร้องโอดโอยอยู่ที่พื้น เพียงแค่นั้นเขาก็สามารถคาดเดาเรื่องราวทั้งหมดได้ในทันที รอยยิ้มเมื่อครู่หายไปจากใบหน้าและเปลี่ยนเป็นความเย็นชาขึ้นมาแทนที่

 

“ดูหน้าผู้เฒ่าตั๋วสิ! ดูเหมือนจะโกรธมากเลย เจ้าเด็กนั่นต้องตายแน่ๆ!”

 

“มันไม่รอดอยู่แล้ว กล้าเข้ามาป่วนในงานเลี้ยงของผู้เฒ่าฮั่วแบบนี้!”

 

ดูเหมือนทุกคนต่างก็คิดว่าซูอานต้องตายแน่ๆ เพราะจงใจเข้ามาสร้างความปั่นป่วนในงานเลี้ยงของผู้เฒ่าฮั่วคืนนี้

 

เหล่าฮัวก้าวเข้าไปหาซูอานอย่างช้าๆ แต่ละก้าวของเขานั้นหนักแน่นแต่กลับไม่มีเสียงเท้ากระทบพื้นเลยแม้แต่น้อย สีหน้าของเขาเย็นชายิ่งขึ้นเรื่อยๆ จนทําให้ผู้คนรอบข้างถึงกับหวาดกลัวจนขนหัวลุก

 

ทุกคนต่างก็กําลังนึกถึงจุดจบอันน่าเศร้าของซูอานว่า คงต้องตายอย่างทรมานแน่นอน!

 

เหล่าฮั่วเดินตรงเข้าไปหาซูอานที่ยังคงนั่งพิงเก้าอี้หลับตาอย่างสบายอารมณ์ เขาพยายามข่มอารมณ์ของตนเองให้สงบลง แล้วจึงพูดกับซูอานว่า

 

“ฉันรู้ว่าเธอไม่ได้หลับ.. ลุกขึ้นเดี๋ยวนี้!”

 

แต่ซูอานกลับยังคงนิ่งเฉย และไม่สนใจฟังคําสั่งของผู้เฒ่าฮั่วเลยแม้แต่น้อย

 

สีหน้าของเหล่าฮั่วเปลี่ยนเป็นกระอักกระอ่วนขึ้นมาทันที ทุกคนในงานที่เห็นเช่นนั้น ต่างก็ได้แต่แอบคิดในใจว่า เหล่าฮั่ว ไม่เพียงไม่จัดการกับซูอานอย่างที่พวกเขาคิด แต่กลับทําสีหน้ากระอักกระอ่วนใจด้วย

 

“ไม่น่าจะกลายเป็นแบบนี้ไปได้ ก่อนหน้านี้นักธุรกิจหนุ่มที่ทําให้เหล่าฮั่วไม่พอใจ วันรุ่งขึ้นยังหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย!”

 

“หรือนี่จะเป็นความสงบเงียบที่มาก่อนคลื่นลูกใหญ่!”

 

ทุกคนได้แต่แอบคิดกันไปต่างๆนานาอยู่ในใจ แต่ก็ไม่มีผู้ใดกล้าพูดออกมาแม้แต่คําเดียว แต่แล้วจู่ๆ ทุกคนก็ต้องตกใจหนักยิ่งกว่าเดิม เมื่อได้ยินผู้เฒ่าฮั่วพูดกับซูอานว่า

 

“เรื่องนี้เป็นความผิดของฉันเอง! ฉันควรจะต้องส่งคนออกไปรับเธอ”

 

ทุกคนในที่นั้นต่างก็สัมผัสได้ชัดเจนว่า น้ําเสียงของผู้เฒ่าฮั่วที่เอ่ยออกไปนั้นแฝงไว้ด้วยความรู้สึกผิด และต้องการขอโทษจริงๆ เวลานี้พวกเขาต่างก็พากันอ้าปากค้างด้วยความตกตะลึง

 

“เป็นไปได้ยังไง? ผู้เฒ่าฮั๋วขอโทษคนฐานะต่ําต้อยคนหนึ่งอย่างงั้นเหรอ?”

 

เจ้าของบริษัทใหญ่คนหนึ่งถึงกับทนไม่ได้ จึงได้เอ่ยถามออกไปว่า “ผู้เฒ่าฮั๋ว ทําไมท่านต้องพูดจานอบน้อมกับเด็กฐานะต่ําต้อยคนหนึ่งขนาดนี้ด้วย?”

 

สีหน้าของผู้เฒ่าฮั่วเปลี่ยนเป็นเดือดดาลอย่างมาก และตะโกนดุเจ้าของบริษัทคนนั้นอย่างไม่ไว้หน้า

 

“ใครบอกว่าเขาเป็นคนต่ําต้อย? เขาเป็นแขกพิเศษที่ฉันเชิญมาต่างหากล่ะ!”

 

เพียงแค่นั้น ภายในงานทั้งงานก็ตกอยู่ในความเงียบสงัด แม้แต่นักร้องก็ถึงกับตกใจจนหยุดร้องเพลงไป..

 

ทุกคนในงานต่างก็พากันตกใจ และพากันครุ่นคิดถึงฐานะที่แท้จริงของซูอานว่าเป็นใครกันแน่ เพราะการจะเป็นแขกพิเศษของผู้เฒ่าฮั๋วได้ แม้แต่นักการเมืองยังต้องดูว่าใหญ่โตเพียงใด หากเพียงแค่สามารถชกต่อยเอาชนะเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยไม่กี่คนได้ ก็คงจะเป็นเรื่องที่ไร้สาระจนเกินไป!

 

แต่ถึงแม้ทุกคนจะตกใจและสงสัยมากเพียงใด ก็ไม่มีใครกล้าเอ่ยอะไรออกมาอีกแม้แต่คําเดียว ส่วนคนที่เคยพูดจาดูถูกซูอานก่อนหน้านี้ต่างก็ทําหน้าไม่ถูก..

 

“ซูอาน ฉันขอโทษเธอต่อหน้าทุกคนแล้ว เธอยังไม่หายโกรธ และไม่ยกโทษให้ฉันอีกจริงๆรึ?”

 

เวลานี้ผู้เฒ่าฮั๋วกระวนกระวายใจอย่างมาก เขาเกรงว่าเรื่องนี้จะเป็นสาเหตุให้ซูอานปฏิเสธไม่ยอมเกี่ยวดองกับตระกูลฮั่วของเขา แต่เขาหารู้ไม่ว่าซูอานตัดเรื่องนี้ทิ้งไปตั้งแต่ที่ฮัวว่านว่านขับรถชนเขาเมื่อวันนั้นแล้ว!

 

ซูอานลืมตาขึ้นมองเหล่าฮั่วพร้อมกับหัวเราเสียงดัง “ฮ่าๆๆ เหตุใดเจ้าต้องจริงจังถึงเพียงนี้ด้วย? เจ้าก็เห็นไม่ใช่รีว่าข้ากําลังหลับอยู่”

 

“ซูอาน นี่เธอจงใจแกล้งให้ฉันขายหน้าผู้คนงั้นเรอะ? ฮ่าๆ

 

“ ข้านี่ร็จะกล้า! แต่คนของเจ้ากับแขกของเจ้าต่างหาก ที่พากันหัวเราะเยาะข้าจนข้าต้องแกล้งทําเป็นหลับกลบเกลื่อน ข้าเกือบจะถูกพวกเขาไล่ออกจากงานไปแล้ว!” 

เหล่าฮั่วหันใบหน้าดุดันของตนไปทางเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยที่นอนกองอยู่กับพื้น พร้อมกับร้องตะโกนเสียงดัง

 

“พวกแกไม่ได้เรื่องเลยสักคน! นี่พวกแกกล้าไล่แขกของฉันออกไปเชียวรึ?”

 

เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยทั้งหมดที่ยังคงนอนร้องครวญครางด้วยความเจ็บปวด ต่างก็หน้าซีดเผือดและร่างกายสั่นเทาไปด้วยความกลัว ซูอานเห็นเช่นนั้นจึงรีบโบกไม้โบกมือพร้อมกับพูดกับเหล่าฮัวว่า

 

“เจ้าไม่ต้องไปดุพวกเขา พวกเขาก็แค่ทําตามหน้าที่เท่านั้นเอง!”

 

ผู้เฒ่าชั่วพยักหน้าอย่างว่าง่าย และหยุดตําหนิเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยทั้งหมดทันที!

 

แต่แล้วซูอานกลับยกมือขึ้นชี้ไปทางเสี่ยวไป๋เหลียน และชายหนุ่มอีกสองสามคนที่พากันพูดดูถูกเหยียดหยามเขาเมื่อครู่นี้ พร้อมกับพูดขึ้นว่า

 

“แต่แมงหวี่แมงวันพวกนั้นบินตอมหูข้า ทําให้ข้าหงุดหงิดรําคาญยิ่งนัก!”

 

ผู้เฒ่าฮั่วหันมองไปทางชายหนุ่มหญิงสาวกลุ่มนั้นด้วยสีหน้าเคร่งเครียด และบอดี้การ์ดที่ยืนอยู่ด้านหลังของเขาจึง ได้จัดการลากคนพวกนั้นออกไปจากงานทันที!

 

“เหล่าฮั่ว.. หากเจ้าไม่บอกกับข้าว่าจะคุยเรื่องสถานที่แห่งนั้น ข้าก็ไม่มีทางมาที่นี่แน่!”

 

ผู้เฒ่าฮั่วหันไปยิ้มให้ซูอานพร้อมกับตอบกลับทันที “ที่นี่ไม่สะดวกคุย พวกเราเข้าไปคุยเรื่องนี้กันในบ้านจะดีกว่า!”

 

ซูอานไม่ปฏิเสธ และเดินตามผู้เฒ่าฮั่วเข้าไปในบ้านทันที ปล่อยให้ผู้ที่เห็นเหตุการณ์ต่างก็นั่งอ้าปากหวอด้วยความตกตะลึงต่อไป

 

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+