ย้อนชีวิตพิชิตเซียน 53 : หญิงสกปรก

Now you are reading ย้อนชีวิตพิชิตเซียน Chapter 53 : หญิงสกปรก at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ย้อนชีวิตพิชิตเซียน ย้อนชีวิตพิชิตเซียน – บทที่ 53 : หญิงสกปรก

 

บทที่ 53 : หญิงสกปรก

 

ซูอานรีบก้าวถอยหนีออกไปทันที ซือเหวินเจียนรีบรุดตามไปทันที และไม่ยอมปล่อยให้ซูอานหลุดรอดไปได้ง่ายๆ ซูอานถูกซื้อเหวินเจียนต้อนไปจนติดกําแพง และไม่สามารถถอยหนีต่อไปได้อีก

 

ซูอานจึงหันไปจ้องหน้าชื่อเหวินเจียนพร้อมกับถามขึ้นด้วยน้ําเสียงเย็นชา “เป็นเพราะข้าทําให้เจ้าไม่พอใจงั้นรึ เจ้าจึงต้องทําเช่นนี้?”

 

“ซูอาน นายเองก็เคยยากจนไม่มีเงินเหมือนฉันมาก่อน แต่ตอนนี้นายกลับร่ํารวยมีเงินมีทองมีฐานะทางสังคมที่สูงส่งกว่าฉัน นายจะให้ฉันยอมรับเรื่องนี้ได้ยังไง?”

 

ในที่สุดซื้อเหวินเจียนก็ระเบิดความในใจของตนเองออกมา..

 

เมื่อครั้งที่ซื้อเหวินเจียนและซูอานต่างก็ยังอยู่ในช่วงมัธยมต้นนั้น ทั้งคู่มักจะเดินกลับบ้านด้วยกันเสมอๆ ครั้งนั้นซูอานต้องพึ่งพาเธอทั้งเรื่องการเรียนและเรื่องชีวิตในด้านอื่นๆ เพราะซูอานนั้นยากจนกว่าซือเหวินเจียน

 

แต่เมื่อทั้งคู่เข้าสู่มัธยมปลาย ทั้งซูอานและซือเหวินเจีย นต่างก็ค่อยๆห่างเหินกันไปจนกระทั่งซื้อเหวินเจียนมาคบกับ โจวเทียนห่าว ทั้งเธอและเขาจึงแทบไม่กลับมาใกล้ชิดกันอีกเลย

 

ซูอานยังคงยืนฟังอย่างสงบนิ่ง

 

ซื้อเหวินเจียนจ้องมองซูอานด้วยแววตาเย็นชา พร้อมกับพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเคียดแค้น “นายรอคอยความตายได้เลย!”

 

“ช่วยด้วย! ช่วยด้วย! ฉันถูกลวนลาม”

 

ซือเหวินเจียนยังคงร้องตะโกนไม่หยุด แต่ซูอานก็ยังคงหลบหลีกไม่ให้เธอเข้าใกล้ตัวได้เช่นกัน จนชื่อเหวินเจียนโมโหยิ่งกว่าเดิม

 

“ซูอาน นายไม่มีทางหลบหนีไปไหนได้ ตอนนี้ห้องน้ําชายมีแค่นายกับฉันสองคนเท่านั้น เว้นแต่นายจะกระโดดหนีไปทางชักโครกเท่านั้น!

 

“เจ้าแน่ใจว่าข้าจะไม่สามารถออกไปจากที่นี่ได้?”

 

ซูอานเอ่ยถามด้วยน้ําเสียงนิ่งเรียบ ไม่มีอาการตกอกตกใจเลยแม้แต่น้อย ตรงข้าม…สีหน้าและน้ำเสียง ของเขากลับยิ่งสงบเยือกเย็น แววตาที่จ้องมองซื้อเหวินเจียนล้วนเต็มไปด้วยความรู้สึกเหยียดหยัน

 

ทั้งสีหน้าและแววตาของซูอานที่บ่งบอกถึงความรังเกียจอย่างชัดเจนเช่นนี้ มีหรือที่ซูเหวินเจียนจะสามารถทนยอมรับได้?

 

ซูอานถูกซูเหวินเจียนไล่ตามไปจนชนเข้ากับกําแพงอีกครั้งทําให้เขาไม่มีหนทางหนีไปไหนได้อีก ซือเหวินเจียนจึงรีบกระ โจนเข้าใส่หมายกอดร่างของซูอานไว้ดังใจ แต่เขากลับกระโดดตีลังกาม้วนตัวไปยืนอยู่ด้านหลังของซือเหวินเจียนแทน

 

ทําให้ร่างของซื้อเหวินเจียนที่พลาดท่านั้น พุ่งเข้าใส่โถปัสสาวะของผู้ชายแทน เมื่อซูอานหันไปมองก็เห็นร่างของซือเหวินเจียนกําลังเซถลาพร้อมกับศรีษะของเธอก็ทิมลงไปในโถปัสสาวะ และผมของเธอก็เปียกชุ่มไปด้วยปัสสาวะจนเหม็นไปทั้งตัว

 

“ข้าไม่อยู่เล่นด้วยกับเจ้าแล้ว!”

 

ซูอานพูดจบก็เดินตรงออกไปที่ทางออกทันที แต่ปรากฏว่าด้านหน้าทางออกนั้นมีคนกลุ่มหนึ่งยืนขวางทางเขาไว้ และทั้งหมดนั้นก็เป็นเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของสถานบันเทิงแห่งนี้ แต่ในกลุ่มนั้นมีชายสวมแว่นกันแดดแต่งตัวดีคนหนึ่งยืนอยู่ด้วย

 

ชายสวมแว่นกันแดดรีบวิ่งตรงเข้าไปหาซือเหวินเจียนที่อยู่ ใน

 

สภาพเหม็นไปทั้งตัว จากนั้นจึงรีบยกมือขึ้นชี้ไปทางซูอานพร้อมกับร้องตะโกนออกมาด้วยความโมโห

 

“นี่แกกล้าลวนลามผู้หญิงของฉันเหรอ?”

 

ซูอานจ้องมองชายหนุ่มผู้นี้อยู่ครู่หนึ่ง เขาสัมผัสได้ถึงพลังปราณภายในร่างของชายผู้นี้ และรู้ได้ทันทีว่าเขาคือผู้ฝึกยุทธคนหนึ่ง จึงได้แต่ระมัดระวังตัวในขณะที่ถามกลับไปว่า

 

“ผู้หญิงของเจ้างั้นรึ?”

 

ซือเหวินเจียนเดินเข้ามาหาด้วยสีหน้าโกรธเกรี้ยว แม้เธอจะพยายามใช้น้ําล้างคราบปัสสาวะแล้ว แต่กลิ่นก็ยังคงติดตัวอยู่ ทําให้เธอโมโหจนแทบคลุ้มคลั่ง

 

หลิวเหลียงหันไปถามซื้อเหวินเจียนพร้อมกับทําจมูกฟุดฟิด “ทําไมเธอถึงมีสภาพแบบนี้? แล้วทําไมตัวถึงมีกลิ่นเหม็นไปหมด?”

 

ซื้อเหวินเจียนโมโหจนถึงกับร้องไห้ออกมา พร้อมกับยกมือชี้ไปทางซูอาน “เขา…เขาเป็นคนทําฉัน!”

 

“หมอนี่พยายามที่จะลวนลามฉัน แต่ฉันต่อสู้ดิ้นรนมันก็เลยผลักฉันกระเด็น แล้วก็กดหัวฉันไปที่โถนั่น!”

 

ซือเหวินเจียนแสดงละครได้ดี เธอร้องห่มร้องไห้ราวกับดาราที่ได้รางวัลออสการ์เลยทีเดียว

 

หลิวเหลียงถึงกับอึ้งไป และหันไปถามว่า “นี่เขาจับหัวของคุณกดลงไปที่โถฉีจริงๆเหรอ?”

 

ซือเหวินเจียนหันกลับไปจ้องตาหลิวเหลียงเป็นการส่งสัญญาณให้เขาจัดการกับซูอานได้แล้ว หลิวเหลียงเองก็เข้าใจสัญญาณนั้นดีจึงหันไปจ้องมองซูอานด้วยแววตาเกรี้ยวกราด

 

หลิวเหลียงนั้นเป็นทายาทรุ่นที่สองของตระกูลหลิว ซึ่งเป็นตระกูลผู้ฝึกยุทธที่หลายคนในเจียงโจวต่างก็รู้จักเป็นอย่างดี

 

หลิวเหลียงถอดแว่นตากันแดดของตนเองออก เขาจ้องมองซูอานนิ่งพร้อมกับพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงดุดัน

 

“แกกล้าลวนลามผู้หญิงของฉัน เท่ากับรนหาที่ตาย!”

 

“ข้านี่นะลวนลามนาง?”

 

“เขาพยายามจะลวนลามฉัน แล้วยังฉีกเสื้อผ้าของฉันจนขาดด้วย!” ซือเหวินเจียนร้องบอกด้วยน้ําเสียง และร่างกายสั่นเทิ้มราวกับลูกนก และน้ำตาก็ไหลอาบแก้ม

 

ซูอานถึงกับพูดไม่ออก และหันไปมองซื้อเหวินเจียนอย่างนึกรังเกียจ ในขณะเดียวกันก็พูดขึ้นว่า

 

“หญิงสกปรกเช่นเจ้า เหตุใดข้าจึงต้องลวนลามด้วยเล่า?”

 

ซือเหวินเจียนได้ยินคําตอบของซูอานก็ยิ่งโกรธแค้น และคําพูดของซูอานนั้นก็ไม่ผิดนัก เพราะเวลานี้ซื้อเหวินเจียนไม่เพียงร่างกายสกปรกและเหม็นไปทั้งตัว แต่จิตใจของเธอยังสกปรกมากอีกด้วย

 

“เหตุใดข้ายังต้องลวนลามหญิงเช่นเจ้าด้วย?”

 

ซูอานร้องตะโกนถามด้วยเสียงที่ดุดันยิ่งกว่าเดิม สายตาที่จ้องมองไปทางซือเหวินเจียนนั้นไม่เพียงเย็นชา แต่ยังมีประกายสังหารแผ่ซ่านออกมาด้วย

 

ซือเหวินเจียนถึงกับผวาตกใจ และรีบโผไปยืนหลบอยู่ด้านหลังของหลิวเหลียงทันที ตอนนี้ร่างกายที่สั่นเทิ้มของเธอนั้น ไม่ใช่การเสแสร้งอีกต่อไป แต่เป็นการสั่นสะท้านด้วยความหวาดกลัวอย่างแท้จริง

 

“พวกแกยังยืนงงอะไรอยู่อีก? ยังไม่รีบมาจับตัวมันไปส่งตํารวจอีก?” หลิวเหลียงร้องตะโกนบอกเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยที่ยืนดูอยู่ให้เข้ามาช่วยทันที

 

เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยทั้งหมดวิ่งกรูกันเข้ามาล้อมร่างของซูอานไว้ทันที

 

“พวกเจ้ากล้ารึ?”

 

เสียงร้องคํารามของซูอานนั้น ทําให้เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยทั้งหมดต่างก็พากันชะงัก เพราะน้ำเสียงและท่าทางของซูอานนั้นดูน่าเกรงขามอย่างมาก

 

“ถ้าพวกแกไม่อยากตกงานก็รีบเข้าไปจับตัวมันไว้ แล้วก็ซ้อมมันให้หนัก!”

 

เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยไม่กล้านิ่งเฉยอีก ทุกคนต่างก็รู้จักหลิวเหลียงดีเพราะเขาเป็นลูกค้าขาประจําของที่นี่ อีกทั้งยังรู้จักกับเจ้านายของพวกเขาเป็นอย่างดีด้วย

 

เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยต่างก็พุ่งเข้ามาหาซูอาน และทุกคนต่างก็ซัดหมัดเข้าใส่ร่างของเขาอย่างไม่ยั้ง

 

ซูอานที่ยืนรออยู่แล้วนั้นได้แต่แสยะยิ้มหยันออกมา แล้วจัดการเตะพวกมันกลับไปทีละคนอย่างใจเย็น และเพียงไม่นาน เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยทั้งหมดก็ลอยละลิ่วออกไปกองอยู่กับพื้น

 

ตอนนี้ผู้คนที่พากันมายืนมุงดูอยู่นั้น ต่างก็พากันชี้มือไม้ มาทางซูอานพร้อมกับส่งเสียงฮือฮาไม่หยุด พวกเขาคิดไม่ถึงว่าซูอานจะแข็งแกร่งถึงเพียงนี้ และจะสามารถจัดการกับเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยมากมายได้ในเวลาเพียงแค่ประเดี๋ยวเดียว

 

สีหน้าของหลิวเหลียงเองก็เปลี่ยนไปเช่นกัน และได้แต่แอบคิดว่าเด็กนี่ไม่ธรรมดาเลย แต่นั่นกลับทําให้เขายิ่งนึกสนใจ และนึกสนุกมากยิ่งขึ้น!

 

เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยต่างก็นอนร้องครวญครางอยู่ที่พื้น หนึ่งในนั้นได้หยิบวิทยุสื่อสารออกมาพร้อมกับร้องขอความช่วยเหลือ

 

“รีบส่งกําลังมาช่วยเร็วเข้า มีคนเข้ามาสร้างปัญหาที่ห้องน้ําชั้นหก!”

 

ความจริงแล้วหลิวเหลียงตั้งใจที่จะลงมือเอง แต่เมื่อเห็นว่าเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยเรียกคนมาช่วยแล้ว เขาจึงเลือกที่จะนิ่งดูอยู่เงียบๆ และรอว่าเมื่อไหร่ที่ซูอานถูกจับตัว เขาจึงค่อยทําการเยาะเย้ยถากถาง

 

หลังจากนั้นไม่นาน เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยอีกราวสิบกว่าคนก็มาถึง และโชคดีที่ห้องน้ําที่นี่ค่อนข้างกว้างขวางใหญ่โต ไม่อย่างนั้นคงไม่สามารถจุคนได้มากมายเช่นนี้แน่

 

เมื่อเห็นเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยนอนกองอยู่กับพื้นเกลื่อนกลาดไปหมด เจ้าหน้าที่กลุ่มใหม่ก็ถึงกับโมโห หัวหน้าที่ดูแข็งแกร่งที่สุดเป็นฝ่ายยกมือขึ้นชี้หน้าซูอานพร้อมกับร้องตะโกนใส่หน้าเขา

 

“นี่แกกล้ามาหาเรื่องในนี้เชียวเหรอ?”

 

“ข้าไม่ใช่คนหาเรื่อง!”

 

ซูอานยังคงตอบกลับด้วยสีหน้าท่าทางนิ่งเฉยเช่นเคย เขาคร้านที่จะใส่ใจกับคนพวกนี้ และไม่คิดที่จะอธิบายอะไรมากไปกว่านี้ เพราะรู้ดีว่าพูดอะไรไปก็คงไร้ประโยชน์

 

และเมื่อหัวหน้าเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยเข้ามาแล้ว ซูอานก็เห็นเขาสบตากับหลิวเหลียง…

 

“จัดการกับมัน!”

 

หลังจากที่หัวหน้าพนักงานรักษาความปลอดภัยร้องตะโกนสั่ง เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยทั้งหมดก็กรูเข้าหาซูอานพร้อมกัน

 

แต่ซูอานก็ยังคงเตะพวกมันออกไปที่ละคนอย่างใจเย็นเช่นเคย และเพียงไม่นานภายในห้องน้ําชายก็มีแต่เสียงร้องคร่ำครวญดังระงมไปหมด

 

มีเพียงหัวหน้าเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยที่ถูกซูอานเตะแต่กลับยังสามารถยืนหยัดอยู่ได้โดยไม่ล้มลงไปกองเหมือนเช่นคนอื่นๆ และนั่นทําให้ซูอานถึงกับประหลาดใจไม่น้อย

 

“ไม่เลวทีเดียว! ที่เจ้ายังสามารถยืนหยัดอยู่ได้เ”

 

หัวหน้าทีมรักษาความปลอดภัยถึงกับเหงื่อไหลออกมาเต็มหน้าผาก เห็นชัดว่าเขากําลังเจ็บปวดอย่างมากแต่กําลังอดกลั้นไว้อยู่ เพราะซูอานเตะเข้าที่ซี่โครงของเขา และ คาดว่าน่าจะซี่โครงหักถึงสามชิ้นทีเดียว

 

“แกกล้าเข้ามาสร้างความวุ่นวายที่นี่ รู้มั้ยว่าเจ้าของสถานบันเทิงแห่งนี้เป็นใคร?”

 

“ข้าไม่รู้ และหาได้สนใจไม่! หากเจ้าไม่ยุ่งกับข้า ข้าก็จะไม่ยุ่งกับเจ้าเช่นกัน!”

 

หลิวเหลียงได้ฟังคําตอบถึงกับปรบมือเสียงดังพร้อมกับ เอ่ยชมด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม “พูดได้ดี พูดได้ดีมาก ฉันจะให้โอกาสแก!”

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

ย้อนชีวิตพิชิตเซียน 53 : หญิงสกปรก

Now you are reading ย้อนชีวิตพิชิตเซียน Chapter 53 : หญิงสกปรก at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ย้อนชีวิตพิชิตเซียน ย้อนชีวิตพิชิตเซียน – บทที่ 53 : หญิงสกปรก

 

บทที่ 53 : หญิงสกปรก

 

ซูอานรีบก้าวถอยหนีออกไปทันที ซือเหวินเจียนรีบรุดตามไปทันที และไม่ยอมปล่อยให้ซูอานหลุดรอดไปได้ง่ายๆ ซูอานถูกซื้อเหวินเจียนต้อนไปจนติดกําแพง และไม่สามารถถอยหนีต่อไปได้อีก

 

ซูอานจึงหันไปจ้องหน้าชื่อเหวินเจียนพร้อมกับถามขึ้นด้วยน้ําเสียงเย็นชา “เป็นเพราะข้าทําให้เจ้าไม่พอใจงั้นรึ เจ้าจึงต้องทําเช่นนี้?”

 

“ซูอาน นายเองก็เคยยากจนไม่มีเงินเหมือนฉันมาก่อน แต่ตอนนี้นายกลับร่ํารวยมีเงินมีทองมีฐานะทางสังคมที่สูงส่งกว่าฉัน นายจะให้ฉันยอมรับเรื่องนี้ได้ยังไง?”

 

ในที่สุดซื้อเหวินเจียนก็ระเบิดความในใจของตนเองออกมา..

 

เมื่อครั้งที่ซื้อเหวินเจียนและซูอานต่างก็ยังอยู่ในช่วงมัธยมต้นนั้น ทั้งคู่มักจะเดินกลับบ้านด้วยกันเสมอๆ ครั้งนั้นซูอานต้องพึ่งพาเธอทั้งเรื่องการเรียนและเรื่องชีวิตในด้านอื่นๆ เพราะซูอานนั้นยากจนกว่าซือเหวินเจียน

 

แต่เมื่อทั้งคู่เข้าสู่มัธยมปลาย ทั้งซูอานและซือเหวินเจีย นต่างก็ค่อยๆห่างเหินกันไปจนกระทั่งซื้อเหวินเจียนมาคบกับ โจวเทียนห่าว ทั้งเธอและเขาจึงแทบไม่กลับมาใกล้ชิดกันอีกเลย

 

ซูอานยังคงยืนฟังอย่างสงบนิ่ง

 

ซื้อเหวินเจียนจ้องมองซูอานด้วยแววตาเย็นชา พร้อมกับพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเคียดแค้น “นายรอคอยความตายได้เลย!”

 

“ช่วยด้วย! ช่วยด้วย! ฉันถูกลวนลาม”

 

ซือเหวินเจียนยังคงร้องตะโกนไม่หยุด แต่ซูอานก็ยังคงหลบหลีกไม่ให้เธอเข้าใกล้ตัวได้เช่นกัน จนชื่อเหวินเจียนโมโหยิ่งกว่าเดิม

 

“ซูอาน นายไม่มีทางหลบหนีไปไหนได้ ตอนนี้ห้องน้ําชายมีแค่นายกับฉันสองคนเท่านั้น เว้นแต่นายจะกระโดดหนีไปทางชักโครกเท่านั้น!

 

“เจ้าแน่ใจว่าข้าจะไม่สามารถออกไปจากที่นี่ได้?”

 

ซูอานเอ่ยถามด้วยน้ําเสียงนิ่งเรียบ ไม่มีอาการตกอกตกใจเลยแม้แต่น้อย ตรงข้าม…สีหน้าและน้ำเสียง ของเขากลับยิ่งสงบเยือกเย็น แววตาที่จ้องมองซื้อเหวินเจียนล้วนเต็มไปด้วยความรู้สึกเหยียดหยัน

 

ทั้งสีหน้าและแววตาของซูอานที่บ่งบอกถึงความรังเกียจอย่างชัดเจนเช่นนี้ มีหรือที่ซูเหวินเจียนจะสามารถทนยอมรับได้?

 

ซูอานถูกซูเหวินเจียนไล่ตามไปจนชนเข้ากับกําแพงอีกครั้งทําให้เขาไม่มีหนทางหนีไปไหนได้อีก ซือเหวินเจียนจึงรีบกระ โจนเข้าใส่หมายกอดร่างของซูอานไว้ดังใจ แต่เขากลับกระโดดตีลังกาม้วนตัวไปยืนอยู่ด้านหลังของซือเหวินเจียนแทน

 

ทําให้ร่างของซื้อเหวินเจียนที่พลาดท่านั้น พุ่งเข้าใส่โถปัสสาวะของผู้ชายแทน เมื่อซูอานหันไปมองก็เห็นร่างของซือเหวินเจียนกําลังเซถลาพร้อมกับศรีษะของเธอก็ทิมลงไปในโถปัสสาวะ และผมของเธอก็เปียกชุ่มไปด้วยปัสสาวะจนเหม็นไปทั้งตัว

 

“ข้าไม่อยู่เล่นด้วยกับเจ้าแล้ว!”

 

ซูอานพูดจบก็เดินตรงออกไปที่ทางออกทันที แต่ปรากฏว่าด้านหน้าทางออกนั้นมีคนกลุ่มหนึ่งยืนขวางทางเขาไว้ และทั้งหมดนั้นก็เป็นเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของสถานบันเทิงแห่งนี้ แต่ในกลุ่มนั้นมีชายสวมแว่นกันแดดแต่งตัวดีคนหนึ่งยืนอยู่ด้วย

 

ชายสวมแว่นกันแดดรีบวิ่งตรงเข้าไปหาซือเหวินเจียนที่อยู่ ใน

 

สภาพเหม็นไปทั้งตัว จากนั้นจึงรีบยกมือขึ้นชี้ไปทางซูอานพร้อมกับร้องตะโกนออกมาด้วยความโมโห

 

“นี่แกกล้าลวนลามผู้หญิงของฉันเหรอ?”

 

ซูอานจ้องมองชายหนุ่มผู้นี้อยู่ครู่หนึ่ง เขาสัมผัสได้ถึงพลังปราณภายในร่างของชายผู้นี้ และรู้ได้ทันทีว่าเขาคือผู้ฝึกยุทธคนหนึ่ง จึงได้แต่ระมัดระวังตัวในขณะที่ถามกลับไปว่า

 

“ผู้หญิงของเจ้างั้นรึ?”

 

ซือเหวินเจียนเดินเข้ามาหาด้วยสีหน้าโกรธเกรี้ยว แม้เธอจะพยายามใช้น้ําล้างคราบปัสสาวะแล้ว แต่กลิ่นก็ยังคงติดตัวอยู่ ทําให้เธอโมโหจนแทบคลุ้มคลั่ง

 

หลิวเหลียงหันไปถามซื้อเหวินเจียนพร้อมกับทําจมูกฟุดฟิด “ทําไมเธอถึงมีสภาพแบบนี้? แล้วทําไมตัวถึงมีกลิ่นเหม็นไปหมด?”

 

ซื้อเหวินเจียนโมโหจนถึงกับร้องไห้ออกมา พร้อมกับยกมือชี้ไปทางซูอาน “เขา…เขาเป็นคนทําฉัน!”

 

“หมอนี่พยายามที่จะลวนลามฉัน แต่ฉันต่อสู้ดิ้นรนมันก็เลยผลักฉันกระเด็น แล้วก็กดหัวฉันไปที่โถนั่น!”

 

ซือเหวินเจียนแสดงละครได้ดี เธอร้องห่มร้องไห้ราวกับดาราที่ได้รางวัลออสการ์เลยทีเดียว

 

หลิวเหลียงถึงกับอึ้งไป และหันไปถามว่า “นี่เขาจับหัวของคุณกดลงไปที่โถฉีจริงๆเหรอ?”

 

ซือเหวินเจียนหันกลับไปจ้องตาหลิวเหลียงเป็นการส่งสัญญาณให้เขาจัดการกับซูอานได้แล้ว หลิวเหลียงเองก็เข้าใจสัญญาณนั้นดีจึงหันไปจ้องมองซูอานด้วยแววตาเกรี้ยวกราด

 

หลิวเหลียงนั้นเป็นทายาทรุ่นที่สองของตระกูลหลิว ซึ่งเป็นตระกูลผู้ฝึกยุทธที่หลายคนในเจียงโจวต่างก็รู้จักเป็นอย่างดี

 

หลิวเหลียงถอดแว่นตากันแดดของตนเองออก เขาจ้องมองซูอานนิ่งพร้อมกับพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงดุดัน

 

“แกกล้าลวนลามผู้หญิงของฉัน เท่ากับรนหาที่ตาย!”

 

“ข้านี่นะลวนลามนาง?”

 

“เขาพยายามจะลวนลามฉัน แล้วยังฉีกเสื้อผ้าของฉันจนขาดด้วย!” ซือเหวินเจียนร้องบอกด้วยน้ําเสียง และร่างกายสั่นเทิ้มราวกับลูกนก และน้ำตาก็ไหลอาบแก้ม

 

ซูอานถึงกับพูดไม่ออก และหันไปมองซื้อเหวินเจียนอย่างนึกรังเกียจ ในขณะเดียวกันก็พูดขึ้นว่า

 

“หญิงสกปรกเช่นเจ้า เหตุใดข้าจึงต้องลวนลามด้วยเล่า?”

 

ซือเหวินเจียนได้ยินคําตอบของซูอานก็ยิ่งโกรธแค้น และคําพูดของซูอานนั้นก็ไม่ผิดนัก เพราะเวลานี้ซื้อเหวินเจียนไม่เพียงร่างกายสกปรกและเหม็นไปทั้งตัว แต่จิตใจของเธอยังสกปรกมากอีกด้วย

 

“เหตุใดข้ายังต้องลวนลามหญิงเช่นเจ้าด้วย?”

 

ซูอานร้องตะโกนถามด้วยเสียงที่ดุดันยิ่งกว่าเดิม สายตาที่จ้องมองไปทางซือเหวินเจียนนั้นไม่เพียงเย็นชา แต่ยังมีประกายสังหารแผ่ซ่านออกมาด้วย

 

ซือเหวินเจียนถึงกับผวาตกใจ และรีบโผไปยืนหลบอยู่ด้านหลังของหลิวเหลียงทันที ตอนนี้ร่างกายที่สั่นเทิ้มของเธอนั้น ไม่ใช่การเสแสร้งอีกต่อไป แต่เป็นการสั่นสะท้านด้วยความหวาดกลัวอย่างแท้จริง

 

“พวกแกยังยืนงงอะไรอยู่อีก? ยังไม่รีบมาจับตัวมันไปส่งตํารวจอีก?” หลิวเหลียงร้องตะโกนบอกเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยที่ยืนดูอยู่ให้เข้ามาช่วยทันที

 

เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยทั้งหมดวิ่งกรูกันเข้ามาล้อมร่างของซูอานไว้ทันที

 

“พวกเจ้ากล้ารึ?”

 

เสียงร้องคํารามของซูอานนั้น ทําให้เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยทั้งหมดต่างก็พากันชะงัก เพราะน้ำเสียงและท่าทางของซูอานนั้นดูน่าเกรงขามอย่างมาก

 

“ถ้าพวกแกไม่อยากตกงานก็รีบเข้าไปจับตัวมันไว้ แล้วก็ซ้อมมันให้หนัก!”

 

เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยไม่กล้านิ่งเฉยอีก ทุกคนต่างก็รู้จักหลิวเหลียงดีเพราะเขาเป็นลูกค้าขาประจําของที่นี่ อีกทั้งยังรู้จักกับเจ้านายของพวกเขาเป็นอย่างดีด้วย

 

เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยต่างก็พุ่งเข้ามาหาซูอาน และทุกคนต่างก็ซัดหมัดเข้าใส่ร่างของเขาอย่างไม่ยั้ง

 

ซูอานที่ยืนรออยู่แล้วนั้นได้แต่แสยะยิ้มหยันออกมา แล้วจัดการเตะพวกมันกลับไปทีละคนอย่างใจเย็น และเพียงไม่นาน เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยทั้งหมดก็ลอยละลิ่วออกไปกองอยู่กับพื้น

 

ตอนนี้ผู้คนที่พากันมายืนมุงดูอยู่นั้น ต่างก็พากันชี้มือไม้ มาทางซูอานพร้อมกับส่งเสียงฮือฮาไม่หยุด พวกเขาคิดไม่ถึงว่าซูอานจะแข็งแกร่งถึงเพียงนี้ และจะสามารถจัดการกับเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยมากมายได้ในเวลาเพียงแค่ประเดี๋ยวเดียว

 

สีหน้าของหลิวเหลียงเองก็เปลี่ยนไปเช่นกัน และได้แต่แอบคิดว่าเด็กนี่ไม่ธรรมดาเลย แต่นั่นกลับทําให้เขายิ่งนึกสนใจ และนึกสนุกมากยิ่งขึ้น!

 

เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยต่างก็นอนร้องครวญครางอยู่ที่พื้น หนึ่งในนั้นได้หยิบวิทยุสื่อสารออกมาพร้อมกับร้องขอความช่วยเหลือ

 

“รีบส่งกําลังมาช่วยเร็วเข้า มีคนเข้ามาสร้างปัญหาที่ห้องน้ําชั้นหก!”

 

ความจริงแล้วหลิวเหลียงตั้งใจที่จะลงมือเอง แต่เมื่อเห็นว่าเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยเรียกคนมาช่วยแล้ว เขาจึงเลือกที่จะนิ่งดูอยู่เงียบๆ และรอว่าเมื่อไหร่ที่ซูอานถูกจับตัว เขาจึงค่อยทําการเยาะเย้ยถากถาง

 

หลังจากนั้นไม่นาน เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยอีกราวสิบกว่าคนก็มาถึง และโชคดีที่ห้องน้ําที่นี่ค่อนข้างกว้างขวางใหญ่โต ไม่อย่างนั้นคงไม่สามารถจุคนได้มากมายเช่นนี้แน่

 

เมื่อเห็นเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยนอนกองอยู่กับพื้นเกลื่อนกลาดไปหมด เจ้าหน้าที่กลุ่มใหม่ก็ถึงกับโมโห หัวหน้าที่ดูแข็งแกร่งที่สุดเป็นฝ่ายยกมือขึ้นชี้หน้าซูอานพร้อมกับร้องตะโกนใส่หน้าเขา

 

“นี่แกกล้ามาหาเรื่องในนี้เชียวเหรอ?”

 

“ข้าไม่ใช่คนหาเรื่อง!”

 

ซูอานยังคงตอบกลับด้วยสีหน้าท่าทางนิ่งเฉยเช่นเคย เขาคร้านที่จะใส่ใจกับคนพวกนี้ และไม่คิดที่จะอธิบายอะไรมากไปกว่านี้ เพราะรู้ดีว่าพูดอะไรไปก็คงไร้ประโยชน์

 

และเมื่อหัวหน้าเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยเข้ามาแล้ว ซูอานก็เห็นเขาสบตากับหลิวเหลียง…

 

“จัดการกับมัน!”

 

หลังจากที่หัวหน้าพนักงานรักษาความปลอดภัยร้องตะโกนสั่ง เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยทั้งหมดก็กรูเข้าหาซูอานพร้อมกัน

 

แต่ซูอานก็ยังคงเตะพวกมันออกไปที่ละคนอย่างใจเย็นเช่นเคย และเพียงไม่นานภายในห้องน้ําชายก็มีแต่เสียงร้องคร่ำครวญดังระงมไปหมด

 

มีเพียงหัวหน้าเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยที่ถูกซูอานเตะแต่กลับยังสามารถยืนหยัดอยู่ได้โดยไม่ล้มลงไปกองเหมือนเช่นคนอื่นๆ และนั่นทําให้ซูอานถึงกับประหลาดใจไม่น้อย

 

“ไม่เลวทีเดียว! ที่เจ้ายังสามารถยืนหยัดอยู่ได้เ”

 

หัวหน้าทีมรักษาความปลอดภัยถึงกับเหงื่อไหลออกมาเต็มหน้าผาก เห็นชัดว่าเขากําลังเจ็บปวดอย่างมากแต่กําลังอดกลั้นไว้อยู่ เพราะซูอานเตะเข้าที่ซี่โครงของเขา และ คาดว่าน่าจะซี่โครงหักถึงสามชิ้นทีเดียว

 

“แกกล้าเข้ามาสร้างความวุ่นวายที่นี่ รู้มั้ยว่าเจ้าของสถานบันเทิงแห่งนี้เป็นใคร?”

 

“ข้าไม่รู้ และหาได้สนใจไม่! หากเจ้าไม่ยุ่งกับข้า ข้าก็จะไม่ยุ่งกับเจ้าเช่นกัน!”

 

หลิวเหลียงได้ฟังคําตอบถึงกับปรบมือเสียงดังพร้อมกับ เอ่ยชมด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม “พูดได้ดี พูดได้ดีมาก ฉันจะให้โอกาสแก!”

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+