ย้อนชีวิตพิชิตเซียน 55 : โขกศรีษะขอโทษ

Now you are reading ย้อนชีวิตพิชิตเซียน Chapter 55 : โขกศรีษะขอโทษ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

 

บทที่ 55 : โขกศรีษะขอโทษ

 

“เอ่อ.. นาย นายต้องการซื้อเหวินเจียนใช่มั้ย? ถ้านายต้องการตัวเธอ นายก็เอาไปได้เลย ฉันยกให้!”

หลิวเหลียงคิดว่าซูอานชื่นชอบซื้อเหวินเจียน อีกทั้งผู้หญิงที่เสมือนรองเท้าเก่าๆเช่นซื้อเหวินเจียนก็ไม่อาจเทียบได้กับชะตาชีวิตของเขาเวลานี้ และเขาเองก็ได้ลองสวมรองเท้าเก่าๆคู่นี้แล้วด้วย

ซื้อเหวินเจียนได้ยินหลิวเหลียงพูดเช่นนั้นก็ถึงกับตกใจ เธอนิ่งอึ้งไปครู่หนึ่งจึงร้องตะโกนออกไปด้วยความโมโห

“หลิวเหลียง.. นี่แก แก..”

 

“ทําไม? เธอเองก็ไม่ต่างอะไรจากรองเท้าเก่าๆที่คนเขาใส่ แล้วก็ถอดทิ้ง จะสามารถเทียบอะไรได้กับชะตาชีวิตของฉันในตอนนี้!”

ใบหน้าของหลิวเหลียงเต็มไปด้วยความดูถูกเหยียดหยาม เขาเองก็ไม่ได้คิดที่จะจริงจังอะไรกับซื้อเหวินเจียนนัก และเพียงแค่ต้องการเชยชมดอกไม้ริมทางเช่นเธอเท่านั้น

ชื่อเหวินเจียถึงกับตกตะลึง และใบหน้าของเธอก็ซีดเผือด ตอนนี้เธอถูกหลิวเหลียงถีบหัวส่ง และชีวิตของคนที่เธอต้องการให้มาช่วย กลับตกอยู่ในน้ํามือของคนที่เธอโกรธแค้น ช่างน่าอับอายขายหน้าสิ้นดี!

ใบหน้าของซูอานแสดงความรังเกียจออกมาอย่างชัดเจนพร้อมกับตอบไปว่า “ข้าเพิ่งจะบอกเจ้าว่านางเป็นหญิงสกปรก เจ้าคิดว่าข้ายังต้องการนางอีกงั้นรึ?”

ซูอานตอบหลิวเหลียงยิ้มๆ โดยไม่หันไปมองซื้อเหวินเจียนเลยแม้แต่น้อย..

 

“ใช่ๆ ก็แค่รองเท้าเก่าๆคู่หนึ่ง ไม่คู่ควรกับนาย..”

เวลานี้หลิวเหลียงทําได้เพียงแค่สรรเสริญเยินยอซูอาน เพื่อให้ตนสามารถรอดชีวิตกลับไปได้ เขาจําเป็นต้องมีชีวิตเพื่ออยู่ รับมรดกมากมายที่พ่อแม่ของเขาสร้างไว้ให้ ส่วนผู้หญิงนั้นต่อให้ไม่มีซื้อเหวินเจียน เขาก็ยังมีผู้หญิงรายล้อมอีกมากมาย

 

“เอาล่ะ.. ตอนนี้ชีวิตของเจ้าอยู่ในมือของข้าแล้ว ข้าจะลงโทษเจ้าเช่นใดดี?”

หลิวเหลียงรีบชี้ไปทางซื้อเหวินเจียนทันทีพร้อมกับโยนความผิดทั้งหมดให้เธอ “เรื่องทั้งหมดเป็นเพราะนางแพศยานั่นคนเดียวเลย ถ้าไม่ใช่เพราะมัน ฉันกับนายจะมีปัญหากันได้ยังไง?”

 

ใบหน้าของซื้อเหวินเจียนยิ่งซีดเผือดมากกว่าเดิม เธอมองหลิวเหลียงด้วยความโกรธแค้น ผู้ชายคนนี้ทําให้เธอรู้สึกผิดหวังอย่างที่สุด!

“ไร้ประโยชน์ที่จะพูดถึงสาเหตุ! ในเมื่อเกิดข้อบาดหมางระหว่างเจ้ากับข้าขึ้นแล้ว พวกเรามาช่วยกันหาทางออกจะดีกว่า..”

 

“ได้ๆ พวกเรามาเจรจากันดีๆ!”

หลิวเหลียงกัดฟันอดกลั้นต่อความเจ็บปวดที่เกิดขึ้น แต่อย่างน้อยก็รู้สึกโล่งใจขึ้นมากที่ซูอานยอมเจรจาเช่นนี้

 

ระหว่างนั้นผู้จัดการของทางสถานบันเทิงที่เพิ่งได้ข่าว ก็รีบรุดมายังที่เกิดเหตุทันที ระหว่างวิ่งเข้ามานั้นก็ร้องตะโกนไป

ด้วย

“คุณเหลียงครับ คิดไม่ถึงว่าคุณเหลียงจะมาวันนี้ ทําไมไม่โทรบอกผมก่อนล่ะครับ!”

“ไอ้สารเลวที่ไหนกัน.. กล้าหาเรื่องกับคุณเหลียง ผมว่ามันคงไม่อยากมีชีวิตอยู่ต่อแล้วล่ะ”

 

น้ําเสียงที่เต็มไปด้วยความโกรธเกรี้ยวของผู้จัดการดังขึ้น

สีหน้าของหลิวเหลียงบิดเบี้ยวขึ้นในทันที เพราะการมาของผู้จัดการกลับยิ่งจะทําให้เขาตกอยู่ในสถานการณ์ที่เลวร้ายมากขึ้น

 

ซูอานหันไปมองผู้จัดการอย่างสนอกสนใจพร้อมกับถามขี้นว่า “เจ้าเรียกข้าว่าไอ้สารเลวงั้นรึ?”

เมื่อผู้จัดการเห็นภาพที่อยู่ตรงหน้า สีหน้าของเขาก็ยิ่งเดือดดาลมากขึ้น เขายกมือขึ้นชี้หน้าซูอานพร้อมกับตอบไปว่า

“ใช่! นี่แกรู้มั้ยว่าผลของการมีเรื่องกับคุณเหลียงจะต้องมีจุดจบยังไง?”

“ยังไง?!”

“ฉันว่าแกเป็นคนประเภทไม่เห็นโลงศพไม่หลั่งน้ําตา…”

 

ผู้จัดการหันไปทางหลิวเหลียงพร้อมกับพูดจาโอ้อวดเสียงดัง “คุณเหลียงครับ เรื่องนี้ปล่ยอให้เป็นหน้าที่ผมเอง เดี๋ยวผมจะจัดการทําให้มันสํานักเอง!”

 

เวลานี้หลิวเหลียงแทบอยากจะยกมือขึ้นชกหน้าหน้าผู้จัดการให้หงาย แต่เสียดายที่กระดูกมือของเขาแตกละเอียดอยู่

ในเวลานั้นเอง ซูอานก็สั่งหลิวเหลียงเสียงดัง “คุกเข่าลง!”

เมื่อเห็นสายตาที่ดุดันของซูอาน หลิวเหลียงก็ไม่กล้าขัดขืน และรีบคุกเข่าลงอย่างเชื่อฟังทันที!

 

ผู้จัดการถึงกับงุนงง และตกตะลึงไปพร้อมๆกัน! เขาไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่

“คุณเหลียง… คุณคุกเข่าทําไมกันครับ? คุณคุกเข่าให้มันได้ ยังไง”

ผู้จัดการรีบเดินมาช่วยพยุงหลิวเหลียงให้ลุกขึ้น แต่หลิวเหลียงเอาแต่นั่งนิ่งไม่พูดไม่จา และไม่สนใจท่าที่ของผู้จัดการเลยแม้แต่น้อย

ต่อให้เป็นคนโง่ขนาดไหนก็ต้องรับรู้ได้ถึงความผิดปกติที่เกิดขึ้น และในที่สุดผู้จัดการก็ตระหนักรู้ได้

 

การที่เด็กหนุ่มคนนี้ตะโกนสั่งให้หลิวเหลียงคุกเข่า และหลิวเหลียงก็ยอมคุกเข่าแต่โดยดีนั้น ย่อมหมายความเป็นอื่นใดไม่ได้ นอกจากว่าเด็กหนุ่มคนนี้เหนือกว่าหลิวเหลียงนั่นเอง!

 

และจู่ๆเหงื่อก็ไหลออกมาเต็มหน้าผากของผู้จัดการ และเสื้อของเขาก็เปียกชุ่มไปด้วยเหงื่อเช่นกัน แล้วความกลัวก็พุ่งขึ้นกลางจิตใจ เพราะเมื่อครู่เขาเพิ่งตะคอกใส่หน้าซูอาน และเรียกเขาว่าไอ้สารเลว!

แต่ซูอานคร้านที่จะใส่ใจกับมดปลวกเช่นนั้น และหันไปพูดกับหลิวเหลียงต่อ “เจ้าชื่อหลิวเหลียงสินะ? เอาล่ะ..เจ้าโขกศรีษะขอโทษและยอมรับผิดต่อข้า แล้วเรื่องระหว่างเราเป็นอันจบสิ้น!”

ไม่มีการกระทําใดที่จะสามารถสร้างความอับอาย และความอัปยศให้กับผู้คนมากกว่าการให้เขาคุกเข่าโขกศรีษะให้อีกแล้ว!

แต่เพื่อต้องการรักษาชีวิตของตนเองไว้ หลิวเหลียงจึงต้องยอมเสียเกียรติคุกเข่าให้กับซูอาน และนั่นก็มาเกินไปสําหรับเขาแล้ว แล้วเขาจะยอมโขกศรีษะให้กับซูอานอีกได้อย่างไรกันเล่า?

“อย่าลืมว่าพวกเราอาจได้พบเจอกันอีกในวันข้างหน้า”

 

หลิวเหลียงตอบกลับด้วยใยหน้าเคียดแค้น และเวลานี้ร่างกายของเขาก็สันสะท้านอย่างรุนแรงเพราะความโกรธ

“เจ้าผิดแล้ว! หากเป็นเช่นนั้น ข้ายังอยู่ แต่เจ้าต้องตาย แล้วพวกเราจะยังสามารถพบเจอกันอีกได้อย่างไรกันเล่า?” ซูอานตอบกลับด้วยแววตาขบขัน

“พ่อของข้าคือหลิวเตา!”

เวลานี้หลิวเหลียงจําเป็นต้องอ้างชื่อพ่อของตนเอง ซึ่งปกติเขามักจะไม่เคยอ้าง แต่ครั้งนี้จําเป็นมากจริงๆ

 

“หลิวเตาพ่อของเจ้าเป็นเซียนงั้นรึ? ข้าต้องหวาดกลัวจนไม่ให้เจ้าโขกศรีษะขอโทษข้าหรือไม่?” ซูอานตอบกลับโดยไม่มีท่าทีหวาดกลัวแม้แต่น้อย แต่ใบหน้าของเขากลับดุดันมากยิ่งขึ้น

ใบหน้าของหลิวเหลียงซีดเผือดยิ่งกว่าเดิม เขาคิดไม่ถึงว่าซูอานจะกล้าอวดดีขนาดนี้ และไม่มีท่าที่หวาดกลัวพ่อของเขาเลยแม้แต่น้อย!

ผู้จัดการรีบร้องตะโกนออกมาเสียงดัง “อย่าได้เสียมารยาท. ท่านหลิวเตาเป็นผู้ฝึกยุทธที่มีชื่อเสียงมากในเจียงซู”

“สําหรับข้า คนพวกนี้ไม่ต่างจากมดปลวก!” จากนั้นซูอานก็หันไปบีบคอหลิวเหลียงพร้อมกับย้ําว่า

“หากเจ้ายังไม่โขกศรีษะขอโทษข้า ข้าจะฆ่าเจ้าทิ้งซะ!”

หลิวเหลียงถึงกับตกใจอย่างมาก และจากแววตาของซูอานนั้น ประกายสังหารที่เปล่งออกมาล้วนไม่ใช่การล้อเล่น

ระหว่างชีวิตกับความตาย หลิวเหลียงหมดทางเลือก และต้องเลือกที่จะมีชีวิตอยู่ต่อเท่านั้น!

หลิวเหลียงกล้ํากลืนความอัปยศอดสูใจไว้ พร้อมกับค่อยๆ โขกศรีษะลงกับพื้น ในขณะที่ปากก็เอ่ยออกไปว่า

364

“ฉัน.. หลิวเหลียง มีตาหามีแววไม่ถึงกับกล้าล่วงเกินท่านป่าเซียน หวังว่าท่านป่าเซียนจะยกโทษให้ฉันด้วย!”

“ไปให้พ้น!”

 

ระหว่างที่หลิวเหลียงเดินจากไปนั้น เขาได้แต่เหลือบมองซูอานด้วยแววตาเคียดแค้น และเรื่องนี้จะไม่จบลงเพียงแค่นี้เท่านั้น เขาจะต้องกลับมาเอาคืนให้หนักกว่าที่ได้รับเป็นร้อยเป็นพันเท่า!

ผู้จัดการเองก็คุกเข่าลงต่อหน้าซูอานโดยที่เขาไม่ได้สั่งทันทีเช่นกัน พร้อมกับนั่งตัวสั่นสะท้านอยู่แบบนั้น และไม่กล้าแม้แต่จะเงยหน้าขึ้นมองซูอานอีก

 

ซูอานยกมือขึ้นบัดฝุ่นตามร่างกาย แล้วก้าวเดินออกไปจากห้องน้ําโดยที่ไม่สนใจแม้แต่จะปรายตามองไปทางซื้อเหวินเจียน หรือผู้จัดการอีกเลย

 

ซื้อเหวินเจียนที่ใบหน้าซีดเผือดนั้นก็ถึงกับทรุดลงไปกองกับพื้นทันที เธอคิดว่าอย่างน้อยซูอานฆ่าเธอทิ้งเสียยังจะดีเสียกว่า แต่ซูอานกลับไม่แยแสแม้แต่จะปรายตามอง..

เพราะนั่นทําให้เธอรู้สึกเจ็บปวดใจมากยิ่งกว่า และรู้ว่านับจากนี้ไปเธอจะไม่มีทางอยู่ในสายตาของซูอานอีกเลย และไม่หลงเหลือคุณสมบัติใดๆที่จะสามารถเอาชนะเขาได้อีก!

ซื้อเหวินเจียนรู้สึกเสียใจอย่างที่สุด แต่เรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้นล้วนเป็นเพราะตัวเธอเองทั้งสิ้น วันนี้เธอกับซูอานเสมือนอยู่กันคนละโลก และยากที่จะโคจรมาบรรจบกันได้อีกครั้ง!

ซูอานเดินกลับไปที่ห้องคาราโอเกะต่อ..

เหตุการณ์ระหว่างเขากับหลิวเหลียงนั้น มีเพียงกลุ่มคนหน้าห้องน้ําเท่านั้นที่เห็นเหตุการณ์ และภายในสถานบันเทิงก็มีเสียงเพลงดังกึกก้อง คนอื่นๆที่อยู่ด้านนอกจึงไม่ได้รับรู้ถึงเหตุการณ์ที่เพิ่งเกิดขึ้น

หลังจากจัดการกับหลิวเหลียงไปแล้ว ซูอานก็ไม่สนใจที่จะอยู่ต่ออีก และเตรียมตัวที่จะกลับ แต่ในระหว่างนั้นเขาก็เห็นเจียงเชาวิ่งหน้าตื่นมา และใบหน้าก็มีเลือดไหลอยู่เต็มไปหมด

 

“เจียงเขา เกิดอะไรขึ้นกับเจ้างั้นรึ?”

ซูอานถามขึ้นด้วยความโมโห เพราะเวลานี้นอกจากใบหน้าของเจียงเขาจะอาบไปด้วยเลือดแล้ว เสื้อผ้าของเขายังฉีกขาด เห็นได้ชัดว่าเพิ่งถูกคนทําร้ายร่างกายมา

เจียงเชาเห็นซูอานก็ถึงกับน้ําหูน้ําตาไหล และรีบร้องตะโกนบอกไปว่า “ลูกพี่ซู รีบไปช่วยซูซูกับเฟยเฟยก่อนเร็วเข้า!”

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

ย้อนชีวิตพิชิตเซียน 55 : โขกศรีษะขอโทษ

Now you are reading ย้อนชีวิตพิชิตเซียน Chapter 55 : โขกศรีษะขอโทษ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

 

บทที่ 55 : โขกศรีษะขอโทษ

 

“เอ่อ.. นาย นายต้องการซื้อเหวินเจียนใช่มั้ย? ถ้านายต้องการตัวเธอ นายก็เอาไปได้เลย ฉันยกให้!”

หลิวเหลียงคิดว่าซูอานชื่นชอบซื้อเหวินเจียน อีกทั้งผู้หญิงที่เสมือนรองเท้าเก่าๆเช่นซื้อเหวินเจียนก็ไม่อาจเทียบได้กับชะตาชีวิตของเขาเวลานี้ และเขาเองก็ได้ลองสวมรองเท้าเก่าๆคู่นี้แล้วด้วย

ซื้อเหวินเจียนได้ยินหลิวเหลียงพูดเช่นนั้นก็ถึงกับตกใจ เธอนิ่งอึ้งไปครู่หนึ่งจึงร้องตะโกนออกไปด้วยความโมโห

“หลิวเหลียง.. นี่แก แก..”

 

“ทําไม? เธอเองก็ไม่ต่างอะไรจากรองเท้าเก่าๆที่คนเขาใส่ แล้วก็ถอดทิ้ง จะสามารถเทียบอะไรได้กับชะตาชีวิตของฉันในตอนนี้!”

ใบหน้าของหลิวเหลียงเต็มไปด้วยความดูถูกเหยียดหยาม เขาเองก็ไม่ได้คิดที่จะจริงจังอะไรกับซื้อเหวินเจียนนัก และเพียงแค่ต้องการเชยชมดอกไม้ริมทางเช่นเธอเท่านั้น

ชื่อเหวินเจียถึงกับตกตะลึง และใบหน้าของเธอก็ซีดเผือด ตอนนี้เธอถูกหลิวเหลียงถีบหัวส่ง และชีวิตของคนที่เธอต้องการให้มาช่วย กลับตกอยู่ในน้ํามือของคนที่เธอโกรธแค้น ช่างน่าอับอายขายหน้าสิ้นดี!

ใบหน้าของซูอานแสดงความรังเกียจออกมาอย่างชัดเจนพร้อมกับตอบไปว่า “ข้าเพิ่งจะบอกเจ้าว่านางเป็นหญิงสกปรก เจ้าคิดว่าข้ายังต้องการนางอีกงั้นรึ?”

ซูอานตอบหลิวเหลียงยิ้มๆ โดยไม่หันไปมองซื้อเหวินเจียนเลยแม้แต่น้อย..

 

“ใช่ๆ ก็แค่รองเท้าเก่าๆคู่หนึ่ง ไม่คู่ควรกับนาย..”

เวลานี้หลิวเหลียงทําได้เพียงแค่สรรเสริญเยินยอซูอาน เพื่อให้ตนสามารถรอดชีวิตกลับไปได้ เขาจําเป็นต้องมีชีวิตเพื่ออยู่ รับมรดกมากมายที่พ่อแม่ของเขาสร้างไว้ให้ ส่วนผู้หญิงนั้นต่อให้ไม่มีซื้อเหวินเจียน เขาก็ยังมีผู้หญิงรายล้อมอีกมากมาย

 

“เอาล่ะ.. ตอนนี้ชีวิตของเจ้าอยู่ในมือของข้าแล้ว ข้าจะลงโทษเจ้าเช่นใดดี?”

หลิวเหลียงรีบชี้ไปทางซื้อเหวินเจียนทันทีพร้อมกับโยนความผิดทั้งหมดให้เธอ “เรื่องทั้งหมดเป็นเพราะนางแพศยานั่นคนเดียวเลย ถ้าไม่ใช่เพราะมัน ฉันกับนายจะมีปัญหากันได้ยังไง?”

 

ใบหน้าของซื้อเหวินเจียนยิ่งซีดเผือดมากกว่าเดิม เธอมองหลิวเหลียงด้วยความโกรธแค้น ผู้ชายคนนี้ทําให้เธอรู้สึกผิดหวังอย่างที่สุด!

“ไร้ประโยชน์ที่จะพูดถึงสาเหตุ! ในเมื่อเกิดข้อบาดหมางระหว่างเจ้ากับข้าขึ้นแล้ว พวกเรามาช่วยกันหาทางออกจะดีกว่า..”

 

“ได้ๆ พวกเรามาเจรจากันดีๆ!”

หลิวเหลียงกัดฟันอดกลั้นต่อความเจ็บปวดที่เกิดขึ้น แต่อย่างน้อยก็รู้สึกโล่งใจขึ้นมากที่ซูอานยอมเจรจาเช่นนี้

 

ระหว่างนั้นผู้จัดการของทางสถานบันเทิงที่เพิ่งได้ข่าว ก็รีบรุดมายังที่เกิดเหตุทันที ระหว่างวิ่งเข้ามานั้นก็ร้องตะโกนไป

ด้วย

“คุณเหลียงครับ คิดไม่ถึงว่าคุณเหลียงจะมาวันนี้ ทําไมไม่โทรบอกผมก่อนล่ะครับ!”

“ไอ้สารเลวที่ไหนกัน.. กล้าหาเรื่องกับคุณเหลียง ผมว่ามันคงไม่อยากมีชีวิตอยู่ต่อแล้วล่ะ”

 

น้ําเสียงที่เต็มไปด้วยความโกรธเกรี้ยวของผู้จัดการดังขึ้น

สีหน้าของหลิวเหลียงบิดเบี้ยวขึ้นในทันที เพราะการมาของผู้จัดการกลับยิ่งจะทําให้เขาตกอยู่ในสถานการณ์ที่เลวร้ายมากขึ้น

 

ซูอานหันไปมองผู้จัดการอย่างสนอกสนใจพร้อมกับถามขี้นว่า “เจ้าเรียกข้าว่าไอ้สารเลวงั้นรึ?”

เมื่อผู้จัดการเห็นภาพที่อยู่ตรงหน้า สีหน้าของเขาก็ยิ่งเดือดดาลมากขึ้น เขายกมือขึ้นชี้หน้าซูอานพร้อมกับตอบไปว่า

“ใช่! นี่แกรู้มั้ยว่าผลของการมีเรื่องกับคุณเหลียงจะต้องมีจุดจบยังไง?”

“ยังไง?!”

“ฉันว่าแกเป็นคนประเภทไม่เห็นโลงศพไม่หลั่งน้ําตา…”

 

ผู้จัดการหันไปทางหลิวเหลียงพร้อมกับพูดจาโอ้อวดเสียงดัง “คุณเหลียงครับ เรื่องนี้ปล่ยอให้เป็นหน้าที่ผมเอง เดี๋ยวผมจะจัดการทําให้มันสํานักเอง!”

 

เวลานี้หลิวเหลียงแทบอยากจะยกมือขึ้นชกหน้าหน้าผู้จัดการให้หงาย แต่เสียดายที่กระดูกมือของเขาแตกละเอียดอยู่

ในเวลานั้นเอง ซูอานก็สั่งหลิวเหลียงเสียงดัง “คุกเข่าลง!”

เมื่อเห็นสายตาที่ดุดันของซูอาน หลิวเหลียงก็ไม่กล้าขัดขืน และรีบคุกเข่าลงอย่างเชื่อฟังทันที!

 

ผู้จัดการถึงกับงุนงง และตกตะลึงไปพร้อมๆกัน! เขาไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่

“คุณเหลียง… คุณคุกเข่าทําไมกันครับ? คุณคุกเข่าให้มันได้ ยังไง”

ผู้จัดการรีบเดินมาช่วยพยุงหลิวเหลียงให้ลุกขึ้น แต่หลิวเหลียงเอาแต่นั่งนิ่งไม่พูดไม่จา และไม่สนใจท่าที่ของผู้จัดการเลยแม้แต่น้อย

ต่อให้เป็นคนโง่ขนาดไหนก็ต้องรับรู้ได้ถึงความผิดปกติที่เกิดขึ้น และในที่สุดผู้จัดการก็ตระหนักรู้ได้

 

การที่เด็กหนุ่มคนนี้ตะโกนสั่งให้หลิวเหลียงคุกเข่า และหลิวเหลียงก็ยอมคุกเข่าแต่โดยดีนั้น ย่อมหมายความเป็นอื่นใดไม่ได้ นอกจากว่าเด็กหนุ่มคนนี้เหนือกว่าหลิวเหลียงนั่นเอง!

 

และจู่ๆเหงื่อก็ไหลออกมาเต็มหน้าผากของผู้จัดการ และเสื้อของเขาก็เปียกชุ่มไปด้วยเหงื่อเช่นกัน แล้วความกลัวก็พุ่งขึ้นกลางจิตใจ เพราะเมื่อครู่เขาเพิ่งตะคอกใส่หน้าซูอาน และเรียกเขาว่าไอ้สารเลว!

แต่ซูอานคร้านที่จะใส่ใจกับมดปลวกเช่นนั้น และหันไปพูดกับหลิวเหลียงต่อ “เจ้าชื่อหลิวเหลียงสินะ? เอาล่ะ..เจ้าโขกศรีษะขอโทษและยอมรับผิดต่อข้า แล้วเรื่องระหว่างเราเป็นอันจบสิ้น!”

ไม่มีการกระทําใดที่จะสามารถสร้างความอับอาย และความอัปยศให้กับผู้คนมากกว่าการให้เขาคุกเข่าโขกศรีษะให้อีกแล้ว!

แต่เพื่อต้องการรักษาชีวิตของตนเองไว้ หลิวเหลียงจึงต้องยอมเสียเกียรติคุกเข่าให้กับซูอาน และนั่นก็มาเกินไปสําหรับเขาแล้ว แล้วเขาจะยอมโขกศรีษะให้กับซูอานอีกได้อย่างไรกันเล่า?

“อย่าลืมว่าพวกเราอาจได้พบเจอกันอีกในวันข้างหน้า”

 

หลิวเหลียงตอบกลับด้วยใยหน้าเคียดแค้น และเวลานี้ร่างกายของเขาก็สันสะท้านอย่างรุนแรงเพราะความโกรธ

“เจ้าผิดแล้ว! หากเป็นเช่นนั้น ข้ายังอยู่ แต่เจ้าต้องตาย แล้วพวกเราจะยังสามารถพบเจอกันอีกได้อย่างไรกันเล่า?” ซูอานตอบกลับด้วยแววตาขบขัน

“พ่อของข้าคือหลิวเตา!”

เวลานี้หลิวเหลียงจําเป็นต้องอ้างชื่อพ่อของตนเอง ซึ่งปกติเขามักจะไม่เคยอ้าง แต่ครั้งนี้จําเป็นมากจริงๆ

 

“หลิวเตาพ่อของเจ้าเป็นเซียนงั้นรึ? ข้าต้องหวาดกลัวจนไม่ให้เจ้าโขกศรีษะขอโทษข้าหรือไม่?” ซูอานตอบกลับโดยไม่มีท่าทีหวาดกลัวแม้แต่น้อย แต่ใบหน้าของเขากลับดุดันมากยิ่งขึ้น

ใบหน้าของหลิวเหลียงซีดเผือดยิ่งกว่าเดิม เขาคิดไม่ถึงว่าซูอานจะกล้าอวดดีขนาดนี้ และไม่มีท่าที่หวาดกลัวพ่อของเขาเลยแม้แต่น้อย!

ผู้จัดการรีบร้องตะโกนออกมาเสียงดัง “อย่าได้เสียมารยาท. ท่านหลิวเตาเป็นผู้ฝึกยุทธที่มีชื่อเสียงมากในเจียงซู”

“สําหรับข้า คนพวกนี้ไม่ต่างจากมดปลวก!” จากนั้นซูอานก็หันไปบีบคอหลิวเหลียงพร้อมกับย้ําว่า

“หากเจ้ายังไม่โขกศรีษะขอโทษข้า ข้าจะฆ่าเจ้าทิ้งซะ!”

หลิวเหลียงถึงกับตกใจอย่างมาก และจากแววตาของซูอานนั้น ประกายสังหารที่เปล่งออกมาล้วนไม่ใช่การล้อเล่น

ระหว่างชีวิตกับความตาย หลิวเหลียงหมดทางเลือก และต้องเลือกที่จะมีชีวิตอยู่ต่อเท่านั้น!

หลิวเหลียงกล้ํากลืนความอัปยศอดสูใจไว้ พร้อมกับค่อยๆ โขกศรีษะลงกับพื้น ในขณะที่ปากก็เอ่ยออกไปว่า

364

“ฉัน.. หลิวเหลียง มีตาหามีแววไม่ถึงกับกล้าล่วงเกินท่านป่าเซียน หวังว่าท่านป่าเซียนจะยกโทษให้ฉันด้วย!”

“ไปให้พ้น!”

 

ระหว่างที่หลิวเหลียงเดินจากไปนั้น เขาได้แต่เหลือบมองซูอานด้วยแววตาเคียดแค้น และเรื่องนี้จะไม่จบลงเพียงแค่นี้เท่านั้น เขาจะต้องกลับมาเอาคืนให้หนักกว่าที่ได้รับเป็นร้อยเป็นพันเท่า!

ผู้จัดการเองก็คุกเข่าลงต่อหน้าซูอานโดยที่เขาไม่ได้สั่งทันทีเช่นกัน พร้อมกับนั่งตัวสั่นสะท้านอยู่แบบนั้น และไม่กล้าแม้แต่จะเงยหน้าขึ้นมองซูอานอีก

 

ซูอานยกมือขึ้นบัดฝุ่นตามร่างกาย แล้วก้าวเดินออกไปจากห้องน้ําโดยที่ไม่สนใจแม้แต่จะปรายตามองไปทางซื้อเหวินเจียน หรือผู้จัดการอีกเลย

 

ซื้อเหวินเจียนที่ใบหน้าซีดเผือดนั้นก็ถึงกับทรุดลงไปกองกับพื้นทันที เธอคิดว่าอย่างน้อยซูอานฆ่าเธอทิ้งเสียยังจะดีเสียกว่า แต่ซูอานกลับไม่แยแสแม้แต่จะปรายตามอง..

เพราะนั่นทําให้เธอรู้สึกเจ็บปวดใจมากยิ่งกว่า และรู้ว่านับจากนี้ไปเธอจะไม่มีทางอยู่ในสายตาของซูอานอีกเลย และไม่หลงเหลือคุณสมบัติใดๆที่จะสามารถเอาชนะเขาได้อีก!

ซื้อเหวินเจียนรู้สึกเสียใจอย่างที่สุด แต่เรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้นล้วนเป็นเพราะตัวเธอเองทั้งสิ้น วันนี้เธอกับซูอานเสมือนอยู่กันคนละโลก และยากที่จะโคจรมาบรรจบกันได้อีกครั้ง!

ซูอานเดินกลับไปที่ห้องคาราโอเกะต่อ..

เหตุการณ์ระหว่างเขากับหลิวเหลียงนั้น มีเพียงกลุ่มคนหน้าห้องน้ําเท่านั้นที่เห็นเหตุการณ์ และภายในสถานบันเทิงก็มีเสียงเพลงดังกึกก้อง คนอื่นๆที่อยู่ด้านนอกจึงไม่ได้รับรู้ถึงเหตุการณ์ที่เพิ่งเกิดขึ้น

หลังจากจัดการกับหลิวเหลียงไปแล้ว ซูอานก็ไม่สนใจที่จะอยู่ต่ออีก และเตรียมตัวที่จะกลับ แต่ในระหว่างนั้นเขาก็เห็นเจียงเชาวิ่งหน้าตื่นมา และใบหน้าก็มีเลือดไหลอยู่เต็มไปหมด

 

“เจียงเขา เกิดอะไรขึ้นกับเจ้างั้นรึ?”

ซูอานถามขึ้นด้วยความโมโห เพราะเวลานี้นอกจากใบหน้าของเจียงเขาจะอาบไปด้วยเลือดแล้ว เสื้อผ้าของเขายังฉีกขาด เห็นได้ชัดว่าเพิ่งถูกคนทําร้ายร่างกายมา

เจียงเชาเห็นซูอานก็ถึงกับน้ําหูน้ําตาไหล และรีบร้องตะโกนบอกไปว่า “ลูกพี่ซู รีบไปช่วยซูซูกับเฟยเฟยก่อนเร็วเข้า!”

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+