ย้อนชีวิตพิชิตเซียน 63 : สั่งสอนชายชรา

Now you are reading ย้อนชีวิตพิชิตเซียน Chapter 63 : สั่งสอนชายชรา at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ย้อนชีวิตพิชิตเซียน ย้อนชีวิตพิชิตเซียน – บทที่ 63 : สั่งสอนชายชรา

บทที่ 63 : สั่งสอนชายชรา

ซันกูได้ยินเช่นนั้นก็ร้องตะโกนตอบกลับไปทันที “นี่! หุบปากให้ หมดทุกคน คุณชายซูไม่ใช่บอดี้การ์ดของผม แล้วผมก็ขอเตือนพวก คุณทุกคนว่าอย่ายุ่งกับคุณชายซูจะดีกว่า!”

สิ่งที่ซันกูพูดนั้นไม่ได้เกินจริงเลยแม้แต่น้อย ด้วยความสามารถของซูอานเวลานี้ เขาสามารถจัดการกับคนกลุ่มนี้ได้ไม่ยากนัก และหากทั้งหมดทําให้ซูอานโกรธแล้วล่ะก็ ผลที่ตามมาคงจะมีเพียงความหายนะเท่านั้น!

 

เมื่อได้ยินคําเตือนของซันกู กลุ่มชายสูงอายุต่างก็นึกประหลาดใจ แต่หลังจากใคร่ครวญด้วยเหตุและผลแล้ว พวกเขากลับคิดว่า ซันกูน่าจะโอ้อวดเกินไปมาก แต่เมื่อคิดอีกที ซันกูก็ดูให้ความเคารพเด็กหนุ่มนี้อย่างมาก

 

หรือว่าจะเป็น

 

หลังจากนั้นทุกคนก็หันไปมองหน้ากันอย่างไม่อยากจะเชื่อว่า ซูอานจะแข็งแกร่งกว่าซันกู!

แต่เมื่อคิดว่าไม่มีทางเป็นไปได้ที่เด็กหนุ่มคนนี้จะมีวรยุทธที่เหนือกว่าซันกู พวกเขาจึงได้แต่สะบัดหน้าไล่ความคิดที่น่าตลกนี้ออกไป จากหัวของตนทันที และหนึ่งในนั้นก็ต้องการที่จะทดสอบซูอาน จึงได้หันไปพูดกับเขาว่า

“ดูจากลักษณะท่าทางที่ไม่เหมือนเด็กหนุ่มทั่วไป และแววตาดุดันของเธอ ฉันคิดว่าเธอเองก็น่าจะเป็นผู้ที่มีวรยุทธคนหนึ่งสินะ?”

 

แต่ซูอานเพียงแค่พยักหน้าแทนคําตอบ..

“นี่พ่อหนุ่ม อย่าได้แสดงท่าทางอวดดีขนาดนั้น อย่างน้อยก็น่าจะตอบ ไม่ใช่แค่พยักหน้า!”

 

ชายสูงอายุอีกหนึ่งคนร้องบอกซูอานด้วยน้ําเสียงที่ไม่พอใจนัก และดูเหมือนเขาจะเป็นผู้ที่มีวรยุทธสูงส่งและแข็งแกร่งที่สุดในกลุ่ม

“นี่เจ้าต้องการอะไรจากข้า?” ซูอานเอ่ยถามด้วยน้ําเสียงนิ่งเรียบ

“อย่างน้อยผู้ใหญ่ถามไถ่ เธอก็ควรที่จะตอบอย่างมีมารยาท ไม่ใช่แค่พยักหน้าแบบนี้!

: ชายสูงอายุผู้นั้นตอบกลับมา

แต่ซูอานกลับเพียงแค่จ้องมองชายชราด้วยแววตาดูถูก เขากวาดสายตามองทุกคนในที่นั้นแล้วจึงพูดขึ้นว่า

 

“จะให้ข้าพูดกับพวกเจ้าด้วยความเคารพนอบน้อมงั้นรึ? น่าขันสิ้นดี!”

 

ชายสูงอายุอีกคนในกลุ่มร้องตะโกนออกมาด้วยความเดือดดาล “ในเมื่อเธอไม่รู้จักเคารพผู้ที่อาวุโสกว่า ฉันก็จะอบรมมารยาทให้กับเธอเอง!”

 

ชายสูงอายุที่มีรูปร่างใหญ่โตและสูงกว่าสองเมตรพูดจบ ก็กระโดดออกมาจากกลุ่มของตนเองทันที ดวงตาดุดันภายใต้คิ้วดกหนาของเขาจับจ้องอยู่ที่ร่างของซูอานแน่นิ่ง..

 

“ฉงซานลงมือเองแบบนี้ เด็กนั่นต้องตายแต่แน่ๆ!”

“เฮ้อ. พ่อหนุ่ม! เธอไม่น่าทําให้ฉงซานโมโหเลย ตอนนี้ใครก็ช่วยเธอไม่ได้!”

“ตอนนี้นอกเหนือจากท่านผู้เฒ่า ก็ไม่มีใครที่เก่งกว่าฉงซานอีกแล้วล่ะ!”

“น่าสงสารจริงๆ ยังหนุ่มยังแน่นแท้ๆ พ่อแม่ของเขาคงต้องเสียใจแย่!”

“ห์ ใครใช้ให้มันไร้มารยาทแบบนั้นล่ะ สมควรแล้ว!”

 

“ใช่แล้ว! ในโลกของผู้ฝึกยุทธ มารยาทและความเคารพต่อผู้ที่อาวุโสกว่านับว่าเป็นเรื่องสําคัญมาก!”

เวลานี้ผู้เฒ่าที่ทุกคนพูดถึงยังคงยืนสงบนิ่ง และไม่มีทีท่าว่าจะห้ามฉงซานเลยแม้แต่น้อย ในใจของเขากําลังคิดว่า ในเมื่อเด็กหนุ่มคนนี้กล้าทําให้เขาขุ่นเคืองใจ ก็ต้องถูกลงโทษชดเชยความผิดของตัวเอง!

 

ชายชราผู้นี้ก็หาใช่คนดีนัก คนที่เคยมีเรื่องมีราวกับเขาก็ล้วนแล้วแต่มีจุดจบที่ไม่ดีนัก

ในระหว่างนั้น ซันกูที่ยืนอยู่ข้างซูอานไม่เพียงไม่มีท่าทางขุ่นเคืองใจ แต่กลับร้องบอกกลุ่มของชายชราด้วยความหวังดี

“ผมเพิ่งจะเตือนทุกคนไม่ใช่เหรอว่า ไม่ให้มีเรื่องกับคุณชายซู!”

 

แต่ฝ่ายนั้นกลับพูดจาดูถูกซันกูแทน “เฒ่าซัน นี่คุณยังจะปกป้องเด็กนั่นอีกเหรอ?”

“ไม่ต้องห่วงหรอกเฒ่าซัน เป็นไปไม่ได้ที่เด็กนั้นจะเอาชนะฉงซานได้!”

ทุกคนในกลุ่มต่างก็พากันหัวเราะเยาะซันกูพร้อมกับทําสีหน้าเหยียดหยัน ซันกูโกรธมากและได้แต่คิดในใจว่า ในเมื่อเขาเตือนทุกคนแล้วแต่ไม่มีใครฟัง ก็ปล่อยให้คนพวกนี้ได้รับบทเรียนก็แล้วกัน..

 

“ความจริงควรต้องชื่นชมเด็กนั่น ดูสีหน้าของเขาสิ ยังคงสงบนิ่ง ไม่มีท่าที่หวาดกลัวเลยแม้แต่น้อย!”

 

“พี่ฉง ท่านรีบจัดการเด็กนี่เร็วๆเข้า พวกเรายังต้องปรึกษากันต่อว่าจะเข้าไปที่นั่นได้ยังไง?”

“นั่นสิ! ผู้หญิงคนนั้นเฝ้าไม่ให้ใครเข้าไปได้เลย ขึ้นชักช้าพวกมันจะขนสมบัติหนีไปจนหมดเสียก่อน..”

 

ฉงซานพยักหน้า ดวงตาภายใต้คิ้วดกหนาจ้องมองซูอาน พร้อมกับพูดขึ้นด้วยน้ําเสียงเยือกเย็น “อย่าหาว่าฉันรังแกเด็กเลยนะ ในเมื่อเธอรนหาที่เอง!”

แววตาของซูอานจ้องมองอีกฝ่ายด้วยความเย้ยหยันมากขึ้น และได้แต่คิดอยู่ในใจว่า “ดูท่าหากไม่ให้บทเรียนกับชายสูงอายุกลุ่มนี้ดูบ้าง พวกมันคงจะไม่เห็นหัวข้าสินะ!”

 

“เข้ามาได้เลย! ข้าสามารถจัดการเจ้าได้ภายในหมัดเดียว!”

“ไอ้หนู ฉงซานต่างหากที่จะจัดการเธอภายในหมัดเดียว ”

 

“ฉงซาน จัดการฆ่ามันทิ้งซะ! เด็กนั่นยะโสโอหังเกินไปแล้ว”

แม้กระทั่งชายชราที่อาวุโสที่สุดยังโกรธมากที่เห็นซูอานแสร้งทําเป็นเก่ง และพูดจาโอหังแบบนี้ และเขาก็ไม่ต้องการเห็นหน้าเด็กหนุ่มคนนี้อีก

 

ซูอานจ้องหน้าฉงซานพร้อมกับพิมพ์ออกมา “เจ้าต่างหากที่รนหาที่!”

 

ฉงซานเห็นซูอานอวดดีเช่นนี้ จึงได้พุ่งปลายเท้าของตนเข้าใส่ร่างของซูอานด้วยพละกําลังที่หมายจะเอาชีวิตในคราเดียว ในระหว่างที่ปลายเท้าของฉงซานเข้าใกล้ร่างของซูอานในระยะกระชั้นชิดนั้น ซูอานก็ได้รวบรวมพลังปราณภายในจุดตันเถียน ให้เคลื่อนไปรวมอยู่ที่หมัดของตนเอง

กําปั้นอันทรงพลังของซูอาน ซัดเข้าที่ฝ่าเท้าของฉงซานอย่างเต็มกําลัง และพลังหมัดของเขาก็ได้สร้างความตื่นตกใจให้กับทุกคนในที่นั้น

 

ร่างของซูอานยังคงยืนนิ่งดั่งเสาที่แข็งแกร่ง ในขณะที่ร่างของฉง ซานกลับลอยละลิ่วถอยหลังไปไกล แล้วกระแทกเข้ากับต้นไม้ ใหญ่ด้านหลังอย่างรุนแรง ก่อนจะร่วงลงไปกองกับพื้นในที่สุด

ฝ่าเท้าของฉงซานถึงกับเกิดเป็นบาดแผลใหญ่ และมีเลือดไหลออกมาไม่หยุด ไม่เพียงฝ่าเท้าเท่านั้นที่มีเลือดไหลออกมา แต่ทวารทั้งเจ็ดคือตาสอง หูสอง จมูกสอง และปากหนึ่ง ต่างก็มีเลือดไหลอออกมาเต็มไปหมดเช่นกัน และเส้นลมปราณทั่วร่างของฉงซานก็ถูกทําลายเสียหายในทันที

ทุกคนในที่นั้นถึงกับดวงตาเบิกโพลงด้วยความตกใจสุดขีด และแทบไม่อยากจะเชื่อว่าภาพที่เกิดขึ้นต่อหน้าพวกเขานั้นคือเรื่องจริง!

ใบหน้าของชายชราที่อาวุโสที่สุดเปลี่ยนเป็นเคร่งเครียด และโกรธเกรี้ยวมากยิ่งขึ้น!

ฉงซานดินขลุกขลักอยู่ราวสองสามครั้ง แต่ในที่สุดก็แน่นิ่งไป!

 

“กลายเป็นฉงซานถูกฆ่าตายได้ยังไง?”

“ไม่อยากจะเชื่อเลย! เด็กหนุ่มคนนี้สามารถฆ่าฉงซานได้เพียงแค่หมัดเดียวจริงๆ!”

“นั่นสิเฉงซานจัดว่าเป็นผู้ฝึกยุทธระดับสูงสุดไม่ใช่เหรอ? ทําไมถึงได้กลายเป็นแบบนี้ไปได้?”

 

เวลานี้ทุกคนต่างก็จ้องมองซูอานราวกับพบเห็นเทพเจ้าแห่งความตาย ร่างของพวกเขาสั่นเทิ้มไปด้วยความหวาดกลัว

 

ส่วนคนที่พูดจาเหยียดหยามซูอานไว้ก่อนหน้านี้ กลับยิ่งตกอกตกใจ และขวัญผวามากกว่าคนอื่นๆ

สายตาของซูอานที่จ้องมองไปยังคนเหล่านั้นล้วนเต็มไปด้วยความเหยียดหยัน ราวกับว่ากําลังมองมดปลวกตัวเล็กตัวน้อยที่ไร้ค่า และไม่คะนามือตนเอง

 

แม้ซันกูจะรู้อยู่แล้วว่าซูอานต้องเป็นฝ่ายชนะฉงซานแน่ แต่เขาก็คิดไม่ถึงว่าซูอานจะสามารถเอาชนะได้ภายในเพียงแค่หมัดเดียว มิหนําซ้ํายังสามารถสังหารฉงซานได้ในทันทีเช่นนี้

 

เขายังคิดว่าซูอานจะเพียงแค่สั่งสอนฉงซานให้ได้รับบทเรียนบ้างเท่านั้น ไม่เคยคิดว่าซูอานจะสังหารฉงซานเช่นนี้ ซันกูอดคิดไม่ได้ว่า จิตใจของซูอานนั้นลึกล้ําเกินกว่าที่เขาจะคาดเดาได้จริงๆ!

 

อีกทั้งการที่จะฆ่าผู้อื่นตายต่อหน้าคนมากมายเช่นนี้ นั่นหมายความว่าซูอานจะต้องมีผู้ที่มีอํานาจอิทธิพลอย่างมากอยู่เบื้องหลังด้วย..

ซันกูหันไปมองชายสูงอายุที่เหลือ และได้แต่พูดขึ้นด้วยน้ําเสียงดูถูกดูแคลน “ผมเตือนพวกคุณแล้ว แต่พวกคุณกลับไม่เชื่อ…”

เวลานี้ คนกลุ่มนี้เพิ่งจะเข้าใจว่า เพราะเหตุใดชันกูจึงดูเคารพนบนอบต่อเด็กหนุ่มคนนี้มากนัก นั่นเพราะวรยุทธที่สูงส่งของเขานั้นควรค่าแก่การได้รับความเคารพยิ่งนัก!

ชายชราที่อาวุโสที่สุดพูดขึ้นด้วยน้ําเสียงเย็นชาหลังจากที่นิ่งเงียบไปครู่ใหญ่ “นับว่าน่าตกตะลึงและน่าตกใจไม่น้อย ที่คนคนหนึ่งจะสามารถบ่มเพาะพลังภายในได้แข็งแกร่งถึงขนาดนี้ด้วยวัยเพียงแค่นี้!”

ซูอานไม่ใส่ใจกับคําชมของชายชรา และเขาไม่ได้ทําลงไปเพราะต้องการให้ผู้ใดชื่นชม!

 

จากนั้นชายชราก็พูดต่อว่า “ในโลกของผู้ฝึกยุทธ การสู้ให้รู้แพ้รู้ชนะก็นับว่าเพียงพอแล้ว แต่การที่เธอลงมือฆ่าคนแบบนี้ ไม่คิดว่าทําเกินไปหน่อยรึ?”

 

“เกินไปงั้นรึ?” ซูอานถามขึ้นด้วยน้ําเสียงเย้ยหยันพร้อมกับพูดต่อทันที “เมื่อครู่เจ้าก็จะให้เขาฆ่าข้าไม่ใช่รึ? ผู้ใดที่คิดจะสังหาร ข้ามันผู้นั้นมีโทษสถานเดียวคือตาย!”

เสียงของซูอานดังไปทั่วทั้งบริเวณ และทุกคนที่พากันส่งเสียงเชียร์ให้ฆ่าซูอานนั้น ต่างก็พากันเย็นสันหลังไปตามๆกัน และยิ่งหวาดกลัวซูอานมากขึ้น

 

“ได้! ฉันเองก็อยากจะลองประมือกับเด็กหนุ่มมีพรสวรรค์อย่างเธอดูเหมือนกัน!”

 

“เจ้ายังไม่คู่ควร แต่ถ้าเจ้าต้องการ ข้าก็ยินดี!” น้ําเสียงของซูอานนิ่งเรียบ และไม่มีท่าที่หวาดกลัวเลยแม้แต่น้อย

 

ชายชราใบหน้าทิ้งตึงด้วยความโกรธเกรี้ยว เขากระโดดเข้าไปหาซูอานพร้อมกับชุดคลุมยาวสีขาวที่สะบัดไปมาด้วยแรงลม ทําให้เขาดูน่าเกรงขามราวกับเซียนก็ไม่ปาน

ฝ่ามือของชายชราฟุ่มเป็นกรงเล็บ และนี่คือกรงเล็บพยัคฆ์ที่ชายชราใช้ในยามที่ต้องการจู่โจมศัตรูที่หมายเอาชีวิต

 

ซูอานแสยะยิ้มหยันมุมปาก ครั้งนี้เขายังไม่เดินลมปราณภายในร่าง แต่ต้องการใช้เพลงหมัดที่ฝึกฝนมาประมือกับชายชราเท่านั้น

 

กรงเล็บปะทะกําปั้นไปมา เสียงกําปั้นและกรงเล็บที่พุ่งทะลุผ่านอากาศดังฟีบๆอยู่ไม่หยุดหย่อน ทั้งสองฝ่ายต่างก็ไม่มีใครพ่ายแพ้ให้ใคร และในการประมือนี้ หากฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งประมาทแม้เพียง แค่เล็กน้อยก็อาจมีอันตรายถึงชีวิตได้

ทุกคนในที่นั้นต่างก็จ้องมองการต่อสู้อย่างไม่ให้คลาดสายตา ไม่มีใครกล้าแม้แต่จะกระพริบตาเพราะเกรงว่าจะพลาดช็อตเด็ดไป พวกเขาจ้องมองการต่อสู้ราวกับกําลังมองดูการประมือของผู้ฝึกยุทธระดับปรมาจารย์สองคน..

 

“ถ้าเธอไม่ลงมือเต็มที่ ฉันจะถือว่าเธอดูถูกฉัน!”

 

ชายชราเอ่ยขึ้นในขณะที่พุ่งกรงเล็บพยัคฆ์ของตนเข้าใส่ร่างของซูอาน แต่ซูอานก็สามารถหลบได้อย่างง่ายดาย ทําให้เขายิ่งโมโหมากขึ้น

 

“น่าขัน! ที่ข้าไม่ลงมือเต็มที่ เพราะเจ้าไม่คู่ควรต่างหากเล่า?”

คําตอบที่จองหองอวดดีของซูอานทําให้ชายชราแทบกระอักเลือด..

 

“นี่เธอดูถูกฉันถึงเพียงนี้เชียวรึ?”

 

ชายชราร้องตะโกนออกมาด้วยความโมโห จากนั้นเขาก็รวบพลัง ในร่างทั้งหมดระเบิดออกมาด้านนอก แสงสว่างกระจายไปทั่วทั้งร่างของเขา ก่อนจะหมุนเวียนรอบตัวอย่างรวดเร็วจนในที่สุดก็เกิดเป็นภาพซ้อนคล้ายคนที่กําลังวิ่งด้วยความเร็วสูง

 

แต่ในสายตาของซูอาน มันไม่ต่างจากภาพที่เคลื่อนไหวด้วยความเชื่องช้า

“นี่เรียกว่าเร็วแล้วรี?! ข้าจะแสดงให้เจ้าดูว่าความเร็วที่แท้จริงเป็นเช่นใด?”

ทันทีที่พูดจบ. ร่างของซูอานก็หายวับไปกับตาไม่ต่างจากภูติผีวิญญาณที่หายตัวได้ ทุกคนในที่นั้นได้แต่ตกตะลึงและตกใจ พวกเขาหันมองไปรอบตัว แต่ก็ไม่พบร่องรอยของซูอานเลยแม้แต่น้อย

 

“เขาหายไปไหนแล้วล่ะ?”

“อยู่บนท้องฟ้า.. เขาอยู่บนท้องฟ้า!”

ใครบางคนร้องตะโกนออกมาเสียงดังทันทีที่เห็นซูอานกระโดดขึ้นไปบนท้องฟ้าสูงกว่าสิบเมตร ก่อนจะพุ่งลงมาพร้อมกับจู่โจมเข้าใส่ร่างของชายชราอย่างรวดเร็ว

ทุกคนต่างพากันกรีดร้องออกมาด้วยความตกใจพร้อมกับร้องตะโกนเสียงดัง “ท่านผู้เฒ่า.. ระวัง!!”

 

แต่น่าเสียดายที่เสียงร้องตะโกนนั้นช้ากว่าความเร็วของซูอาน..

ปลายเท้าของซูอานพุ่งเข้าใส่ไหล่ทั้งสองข้างของชายชราอย่างรุนแรง จนร่างของเขาทรุดลงไปกองกับพื้น ใบหน้าซีดขาว และเหงื่อไหลออกมาเต็มหน้าผาก..

 

“เห็นแก่เจ้าที่จะมีอายุได้อีกแค่สิบปี ข้าจะไว้ชีวิตเจ้า!”

หลังจากประกาศกร้าว ซูอานก็กระโดดหายเข้าไปในป่าด้านหน้าทันที โดยมีซันกูวิ่งตามไปติดๆ

 

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

ย้อนชีวิตพิชิตเซียน 63 : สั่งสอนชายชรา

Now you are reading ย้อนชีวิตพิชิตเซียน Chapter 63 : สั่งสอนชายชรา at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ย้อนชีวิตพิชิตเซียน ย้อนชีวิตพิชิตเซียน – บทที่ 63 : สั่งสอนชายชรา

บทที่ 63 : สั่งสอนชายชรา

ซันกูได้ยินเช่นนั้นก็ร้องตะโกนตอบกลับไปทันที “นี่! หุบปากให้ หมดทุกคน คุณชายซูไม่ใช่บอดี้การ์ดของผม แล้วผมก็ขอเตือนพวก คุณทุกคนว่าอย่ายุ่งกับคุณชายซูจะดีกว่า!”

สิ่งที่ซันกูพูดนั้นไม่ได้เกินจริงเลยแม้แต่น้อย ด้วยความสามารถของซูอานเวลานี้ เขาสามารถจัดการกับคนกลุ่มนี้ได้ไม่ยากนัก และหากทั้งหมดทําให้ซูอานโกรธแล้วล่ะก็ ผลที่ตามมาคงจะมีเพียงความหายนะเท่านั้น!

 

เมื่อได้ยินคําเตือนของซันกู กลุ่มชายสูงอายุต่างก็นึกประหลาดใจ แต่หลังจากใคร่ครวญด้วยเหตุและผลแล้ว พวกเขากลับคิดว่า ซันกูน่าจะโอ้อวดเกินไปมาก แต่เมื่อคิดอีกที ซันกูก็ดูให้ความเคารพเด็กหนุ่มนี้อย่างมาก

 

หรือว่าจะเป็น

 

หลังจากนั้นทุกคนก็หันไปมองหน้ากันอย่างไม่อยากจะเชื่อว่า ซูอานจะแข็งแกร่งกว่าซันกู!

แต่เมื่อคิดว่าไม่มีทางเป็นไปได้ที่เด็กหนุ่มคนนี้จะมีวรยุทธที่เหนือกว่าซันกู พวกเขาจึงได้แต่สะบัดหน้าไล่ความคิดที่น่าตลกนี้ออกไป จากหัวของตนทันที และหนึ่งในนั้นก็ต้องการที่จะทดสอบซูอาน จึงได้หันไปพูดกับเขาว่า

“ดูจากลักษณะท่าทางที่ไม่เหมือนเด็กหนุ่มทั่วไป และแววตาดุดันของเธอ ฉันคิดว่าเธอเองก็น่าจะเป็นผู้ที่มีวรยุทธคนหนึ่งสินะ?”

 

แต่ซูอานเพียงแค่พยักหน้าแทนคําตอบ..

“นี่พ่อหนุ่ม อย่าได้แสดงท่าทางอวดดีขนาดนั้น อย่างน้อยก็น่าจะตอบ ไม่ใช่แค่พยักหน้า!”

 

ชายสูงอายุอีกหนึ่งคนร้องบอกซูอานด้วยน้ําเสียงที่ไม่พอใจนัก และดูเหมือนเขาจะเป็นผู้ที่มีวรยุทธสูงส่งและแข็งแกร่งที่สุดในกลุ่ม

“นี่เจ้าต้องการอะไรจากข้า?” ซูอานเอ่ยถามด้วยน้ําเสียงนิ่งเรียบ

“อย่างน้อยผู้ใหญ่ถามไถ่ เธอก็ควรที่จะตอบอย่างมีมารยาท ไม่ใช่แค่พยักหน้าแบบนี้!

: ชายสูงอายุผู้นั้นตอบกลับมา

แต่ซูอานกลับเพียงแค่จ้องมองชายชราด้วยแววตาดูถูก เขากวาดสายตามองทุกคนในที่นั้นแล้วจึงพูดขึ้นว่า

 

“จะให้ข้าพูดกับพวกเจ้าด้วยความเคารพนอบน้อมงั้นรึ? น่าขันสิ้นดี!”

 

ชายสูงอายุอีกคนในกลุ่มร้องตะโกนออกมาด้วยความเดือดดาล “ในเมื่อเธอไม่รู้จักเคารพผู้ที่อาวุโสกว่า ฉันก็จะอบรมมารยาทให้กับเธอเอง!”

 

ชายสูงอายุที่มีรูปร่างใหญ่โตและสูงกว่าสองเมตรพูดจบ ก็กระโดดออกมาจากกลุ่มของตนเองทันที ดวงตาดุดันภายใต้คิ้วดกหนาของเขาจับจ้องอยู่ที่ร่างของซูอานแน่นิ่ง..

 

“ฉงซานลงมือเองแบบนี้ เด็กนั่นต้องตายแต่แน่ๆ!”

“เฮ้อ. พ่อหนุ่ม! เธอไม่น่าทําให้ฉงซานโมโหเลย ตอนนี้ใครก็ช่วยเธอไม่ได้!”

“ตอนนี้นอกเหนือจากท่านผู้เฒ่า ก็ไม่มีใครที่เก่งกว่าฉงซานอีกแล้วล่ะ!”

“น่าสงสารจริงๆ ยังหนุ่มยังแน่นแท้ๆ พ่อแม่ของเขาคงต้องเสียใจแย่!”

“ห์ ใครใช้ให้มันไร้มารยาทแบบนั้นล่ะ สมควรแล้ว!”

 

“ใช่แล้ว! ในโลกของผู้ฝึกยุทธ มารยาทและความเคารพต่อผู้ที่อาวุโสกว่านับว่าเป็นเรื่องสําคัญมาก!”

เวลานี้ผู้เฒ่าที่ทุกคนพูดถึงยังคงยืนสงบนิ่ง และไม่มีทีท่าว่าจะห้ามฉงซานเลยแม้แต่น้อย ในใจของเขากําลังคิดว่า ในเมื่อเด็กหนุ่มคนนี้กล้าทําให้เขาขุ่นเคืองใจ ก็ต้องถูกลงโทษชดเชยความผิดของตัวเอง!

 

ชายชราผู้นี้ก็หาใช่คนดีนัก คนที่เคยมีเรื่องมีราวกับเขาก็ล้วนแล้วแต่มีจุดจบที่ไม่ดีนัก

ในระหว่างนั้น ซันกูที่ยืนอยู่ข้างซูอานไม่เพียงไม่มีท่าทางขุ่นเคืองใจ แต่กลับร้องบอกกลุ่มของชายชราด้วยความหวังดี

“ผมเพิ่งจะเตือนทุกคนไม่ใช่เหรอว่า ไม่ให้มีเรื่องกับคุณชายซู!”

 

แต่ฝ่ายนั้นกลับพูดจาดูถูกซันกูแทน “เฒ่าซัน นี่คุณยังจะปกป้องเด็กนั่นอีกเหรอ?”

“ไม่ต้องห่วงหรอกเฒ่าซัน เป็นไปไม่ได้ที่เด็กนั้นจะเอาชนะฉงซานได้!”

ทุกคนในกลุ่มต่างก็พากันหัวเราะเยาะซันกูพร้อมกับทําสีหน้าเหยียดหยัน ซันกูโกรธมากและได้แต่คิดในใจว่า ในเมื่อเขาเตือนทุกคนแล้วแต่ไม่มีใครฟัง ก็ปล่อยให้คนพวกนี้ได้รับบทเรียนก็แล้วกัน..

 

“ความจริงควรต้องชื่นชมเด็กนั่น ดูสีหน้าของเขาสิ ยังคงสงบนิ่ง ไม่มีท่าที่หวาดกลัวเลยแม้แต่น้อย!”

 

“พี่ฉง ท่านรีบจัดการเด็กนี่เร็วๆเข้า พวกเรายังต้องปรึกษากันต่อว่าจะเข้าไปที่นั่นได้ยังไง?”

“นั่นสิ! ผู้หญิงคนนั้นเฝ้าไม่ให้ใครเข้าไปได้เลย ขึ้นชักช้าพวกมันจะขนสมบัติหนีไปจนหมดเสียก่อน..”

 

ฉงซานพยักหน้า ดวงตาภายใต้คิ้วดกหนาจ้องมองซูอาน พร้อมกับพูดขึ้นด้วยน้ําเสียงเยือกเย็น “อย่าหาว่าฉันรังแกเด็กเลยนะ ในเมื่อเธอรนหาที่เอง!”

แววตาของซูอานจ้องมองอีกฝ่ายด้วยความเย้ยหยันมากขึ้น และได้แต่คิดอยู่ในใจว่า “ดูท่าหากไม่ให้บทเรียนกับชายสูงอายุกลุ่มนี้ดูบ้าง พวกมันคงจะไม่เห็นหัวข้าสินะ!”

 

“เข้ามาได้เลย! ข้าสามารถจัดการเจ้าได้ภายในหมัดเดียว!”

“ไอ้หนู ฉงซานต่างหากที่จะจัดการเธอภายในหมัดเดียว ”

 

“ฉงซาน จัดการฆ่ามันทิ้งซะ! เด็กนั่นยะโสโอหังเกินไปแล้ว”

แม้กระทั่งชายชราที่อาวุโสที่สุดยังโกรธมากที่เห็นซูอานแสร้งทําเป็นเก่ง และพูดจาโอหังแบบนี้ และเขาก็ไม่ต้องการเห็นหน้าเด็กหนุ่มคนนี้อีก

 

ซูอานจ้องหน้าฉงซานพร้อมกับพิมพ์ออกมา “เจ้าต่างหากที่รนหาที่!”

 

ฉงซานเห็นซูอานอวดดีเช่นนี้ จึงได้พุ่งปลายเท้าของตนเข้าใส่ร่างของซูอานด้วยพละกําลังที่หมายจะเอาชีวิตในคราเดียว ในระหว่างที่ปลายเท้าของฉงซานเข้าใกล้ร่างของซูอานในระยะกระชั้นชิดนั้น ซูอานก็ได้รวบรวมพลังปราณภายในจุดตันเถียน ให้เคลื่อนไปรวมอยู่ที่หมัดของตนเอง

กําปั้นอันทรงพลังของซูอาน ซัดเข้าที่ฝ่าเท้าของฉงซานอย่างเต็มกําลัง และพลังหมัดของเขาก็ได้สร้างความตื่นตกใจให้กับทุกคนในที่นั้น

 

ร่างของซูอานยังคงยืนนิ่งดั่งเสาที่แข็งแกร่ง ในขณะที่ร่างของฉง ซานกลับลอยละลิ่วถอยหลังไปไกล แล้วกระแทกเข้ากับต้นไม้ ใหญ่ด้านหลังอย่างรุนแรง ก่อนจะร่วงลงไปกองกับพื้นในที่สุด

ฝ่าเท้าของฉงซานถึงกับเกิดเป็นบาดแผลใหญ่ และมีเลือดไหลออกมาไม่หยุด ไม่เพียงฝ่าเท้าเท่านั้นที่มีเลือดไหลออกมา แต่ทวารทั้งเจ็ดคือตาสอง หูสอง จมูกสอง และปากหนึ่ง ต่างก็มีเลือดไหลอออกมาเต็มไปหมดเช่นกัน และเส้นลมปราณทั่วร่างของฉงซานก็ถูกทําลายเสียหายในทันที

ทุกคนในที่นั้นถึงกับดวงตาเบิกโพลงด้วยความตกใจสุดขีด และแทบไม่อยากจะเชื่อว่าภาพที่เกิดขึ้นต่อหน้าพวกเขานั้นคือเรื่องจริง!

ใบหน้าของชายชราที่อาวุโสที่สุดเปลี่ยนเป็นเคร่งเครียด และโกรธเกรี้ยวมากยิ่งขึ้น!

ฉงซานดินขลุกขลักอยู่ราวสองสามครั้ง แต่ในที่สุดก็แน่นิ่งไป!

 

“กลายเป็นฉงซานถูกฆ่าตายได้ยังไง?”

“ไม่อยากจะเชื่อเลย! เด็กหนุ่มคนนี้สามารถฆ่าฉงซานได้เพียงแค่หมัดเดียวจริงๆ!”

“นั่นสิเฉงซานจัดว่าเป็นผู้ฝึกยุทธระดับสูงสุดไม่ใช่เหรอ? ทําไมถึงได้กลายเป็นแบบนี้ไปได้?”

 

เวลานี้ทุกคนต่างก็จ้องมองซูอานราวกับพบเห็นเทพเจ้าแห่งความตาย ร่างของพวกเขาสั่นเทิ้มไปด้วยความหวาดกลัว

 

ส่วนคนที่พูดจาเหยียดหยามซูอานไว้ก่อนหน้านี้ กลับยิ่งตกอกตกใจ และขวัญผวามากกว่าคนอื่นๆ

สายตาของซูอานที่จ้องมองไปยังคนเหล่านั้นล้วนเต็มไปด้วยความเหยียดหยัน ราวกับว่ากําลังมองมดปลวกตัวเล็กตัวน้อยที่ไร้ค่า และไม่คะนามือตนเอง

 

แม้ซันกูจะรู้อยู่แล้วว่าซูอานต้องเป็นฝ่ายชนะฉงซานแน่ แต่เขาก็คิดไม่ถึงว่าซูอานจะสามารถเอาชนะได้ภายในเพียงแค่หมัดเดียว มิหนําซ้ํายังสามารถสังหารฉงซานได้ในทันทีเช่นนี้

 

เขายังคิดว่าซูอานจะเพียงแค่สั่งสอนฉงซานให้ได้รับบทเรียนบ้างเท่านั้น ไม่เคยคิดว่าซูอานจะสังหารฉงซานเช่นนี้ ซันกูอดคิดไม่ได้ว่า จิตใจของซูอานนั้นลึกล้ําเกินกว่าที่เขาจะคาดเดาได้จริงๆ!

 

อีกทั้งการที่จะฆ่าผู้อื่นตายต่อหน้าคนมากมายเช่นนี้ นั่นหมายความว่าซูอานจะต้องมีผู้ที่มีอํานาจอิทธิพลอย่างมากอยู่เบื้องหลังด้วย..

ซันกูหันไปมองชายสูงอายุที่เหลือ และได้แต่พูดขึ้นด้วยน้ําเสียงดูถูกดูแคลน “ผมเตือนพวกคุณแล้ว แต่พวกคุณกลับไม่เชื่อ…”

เวลานี้ คนกลุ่มนี้เพิ่งจะเข้าใจว่า เพราะเหตุใดชันกูจึงดูเคารพนบนอบต่อเด็กหนุ่มคนนี้มากนัก นั่นเพราะวรยุทธที่สูงส่งของเขานั้นควรค่าแก่การได้รับความเคารพยิ่งนัก!

ชายชราที่อาวุโสที่สุดพูดขึ้นด้วยน้ําเสียงเย็นชาหลังจากที่นิ่งเงียบไปครู่ใหญ่ “นับว่าน่าตกตะลึงและน่าตกใจไม่น้อย ที่คนคนหนึ่งจะสามารถบ่มเพาะพลังภายในได้แข็งแกร่งถึงขนาดนี้ด้วยวัยเพียงแค่นี้!”

ซูอานไม่ใส่ใจกับคําชมของชายชรา และเขาไม่ได้ทําลงไปเพราะต้องการให้ผู้ใดชื่นชม!

 

จากนั้นชายชราก็พูดต่อว่า “ในโลกของผู้ฝึกยุทธ การสู้ให้รู้แพ้รู้ชนะก็นับว่าเพียงพอแล้ว แต่การที่เธอลงมือฆ่าคนแบบนี้ ไม่คิดว่าทําเกินไปหน่อยรึ?”

 

“เกินไปงั้นรึ?” ซูอานถามขึ้นด้วยน้ําเสียงเย้ยหยันพร้อมกับพูดต่อทันที “เมื่อครู่เจ้าก็จะให้เขาฆ่าข้าไม่ใช่รึ? ผู้ใดที่คิดจะสังหาร ข้ามันผู้นั้นมีโทษสถานเดียวคือตาย!”

เสียงของซูอานดังไปทั่วทั้งบริเวณ และทุกคนที่พากันส่งเสียงเชียร์ให้ฆ่าซูอานนั้น ต่างก็พากันเย็นสันหลังไปตามๆกัน และยิ่งหวาดกลัวซูอานมากขึ้น

 

“ได้! ฉันเองก็อยากจะลองประมือกับเด็กหนุ่มมีพรสวรรค์อย่างเธอดูเหมือนกัน!”

 

“เจ้ายังไม่คู่ควร แต่ถ้าเจ้าต้องการ ข้าก็ยินดี!” น้ําเสียงของซูอานนิ่งเรียบ และไม่มีท่าที่หวาดกลัวเลยแม้แต่น้อย

 

ชายชราใบหน้าทิ้งตึงด้วยความโกรธเกรี้ยว เขากระโดดเข้าไปหาซูอานพร้อมกับชุดคลุมยาวสีขาวที่สะบัดไปมาด้วยแรงลม ทําให้เขาดูน่าเกรงขามราวกับเซียนก็ไม่ปาน

ฝ่ามือของชายชราฟุ่มเป็นกรงเล็บ และนี่คือกรงเล็บพยัคฆ์ที่ชายชราใช้ในยามที่ต้องการจู่โจมศัตรูที่หมายเอาชีวิต

 

ซูอานแสยะยิ้มหยันมุมปาก ครั้งนี้เขายังไม่เดินลมปราณภายในร่าง แต่ต้องการใช้เพลงหมัดที่ฝึกฝนมาประมือกับชายชราเท่านั้น

 

กรงเล็บปะทะกําปั้นไปมา เสียงกําปั้นและกรงเล็บที่พุ่งทะลุผ่านอากาศดังฟีบๆอยู่ไม่หยุดหย่อน ทั้งสองฝ่ายต่างก็ไม่มีใครพ่ายแพ้ให้ใคร และในการประมือนี้ หากฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งประมาทแม้เพียง แค่เล็กน้อยก็อาจมีอันตรายถึงชีวิตได้

ทุกคนในที่นั้นต่างก็จ้องมองการต่อสู้อย่างไม่ให้คลาดสายตา ไม่มีใครกล้าแม้แต่จะกระพริบตาเพราะเกรงว่าจะพลาดช็อตเด็ดไป พวกเขาจ้องมองการต่อสู้ราวกับกําลังมองดูการประมือของผู้ฝึกยุทธระดับปรมาจารย์สองคน..

 

“ถ้าเธอไม่ลงมือเต็มที่ ฉันจะถือว่าเธอดูถูกฉัน!”

 

ชายชราเอ่ยขึ้นในขณะที่พุ่งกรงเล็บพยัคฆ์ของตนเข้าใส่ร่างของซูอาน แต่ซูอานก็สามารถหลบได้อย่างง่ายดาย ทําให้เขายิ่งโมโหมากขึ้น

 

“น่าขัน! ที่ข้าไม่ลงมือเต็มที่ เพราะเจ้าไม่คู่ควรต่างหากเล่า?”

คําตอบที่จองหองอวดดีของซูอานทําให้ชายชราแทบกระอักเลือด..

 

“นี่เธอดูถูกฉันถึงเพียงนี้เชียวรึ?”

 

ชายชราร้องตะโกนออกมาด้วยความโมโห จากนั้นเขาก็รวบพลัง ในร่างทั้งหมดระเบิดออกมาด้านนอก แสงสว่างกระจายไปทั่วทั้งร่างของเขา ก่อนจะหมุนเวียนรอบตัวอย่างรวดเร็วจนในที่สุดก็เกิดเป็นภาพซ้อนคล้ายคนที่กําลังวิ่งด้วยความเร็วสูง

 

แต่ในสายตาของซูอาน มันไม่ต่างจากภาพที่เคลื่อนไหวด้วยความเชื่องช้า

“นี่เรียกว่าเร็วแล้วรี?! ข้าจะแสดงให้เจ้าดูว่าความเร็วที่แท้จริงเป็นเช่นใด?”

ทันทีที่พูดจบ. ร่างของซูอานก็หายวับไปกับตาไม่ต่างจากภูติผีวิญญาณที่หายตัวได้ ทุกคนในที่นั้นได้แต่ตกตะลึงและตกใจ พวกเขาหันมองไปรอบตัว แต่ก็ไม่พบร่องรอยของซูอานเลยแม้แต่น้อย

 

“เขาหายไปไหนแล้วล่ะ?”

“อยู่บนท้องฟ้า.. เขาอยู่บนท้องฟ้า!”

ใครบางคนร้องตะโกนออกมาเสียงดังทันทีที่เห็นซูอานกระโดดขึ้นไปบนท้องฟ้าสูงกว่าสิบเมตร ก่อนจะพุ่งลงมาพร้อมกับจู่โจมเข้าใส่ร่างของชายชราอย่างรวดเร็ว

ทุกคนต่างพากันกรีดร้องออกมาด้วยความตกใจพร้อมกับร้องตะโกนเสียงดัง “ท่านผู้เฒ่า.. ระวัง!!”

 

แต่น่าเสียดายที่เสียงร้องตะโกนนั้นช้ากว่าความเร็วของซูอาน..

ปลายเท้าของซูอานพุ่งเข้าใส่ไหล่ทั้งสองข้างของชายชราอย่างรุนแรง จนร่างของเขาทรุดลงไปกองกับพื้น ใบหน้าซีดขาว และเหงื่อไหลออกมาเต็มหน้าผาก..

 

“เห็นแก่เจ้าที่จะมีอายุได้อีกแค่สิบปี ข้าจะไว้ชีวิตเจ้า!”

หลังจากประกาศกร้าว ซูอานก็กระโดดหายเข้าไปในป่าด้านหน้าทันที โดยมีซันกูวิ่งตามไปติดๆ

 

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+