ย้อนชีวิตพิชิตเซียน 64 : หลิวเตา

Now you are reading ย้อนชีวิตพิชิตเซียน Chapter 64 : หลิวเตา at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ย้อนชีวิตพิชิตเซียน ย้อนชีวิตพิชิตเซียน – บทที่ 64 : หลิวเตา

บทที่ 64 : หลิวเตา

ทุกสายตาจับจ้องไปทางร่างของซูอานที่กระโดดหายเข้าไปในปาด้วยความอิจฉา และหวาดกลัว..

ชายชราที่ฝึกยุทธมานานหลายสิบปี และผู้คนต่างเรียกขานว่าอาจารย์กลับต้องพ่ายแพ้ให้แก่ซูอานซึ่งเป็นเพียงแค่เด็กหนุ่ม!

แต่หลังจากที่ซูอานเดินทางต่อไปได้อีกไม่นานนักเขาก็พบเข้ากับคนอีกกลุ่มหนึ่งที่มีอยู่ราวสิบกว่าคน ทุกคนต่างก็ดูไม่ต่างจากคนธรรมดาทั่วไปและหนึ่งในนั้นก็ยังดูหนุ่มแน่น อีกทั้งซูอานยังรู้สึกนตายิ่งนัก

“นั่นมันหลิวเหลียงไม่ใช่รึ? ดูเหมือนชะตาของข้ากับเจ้าคงจะต้องกันยิ่งนัก..”

หลิวเหลียงก็คือผู้ฝึกยุทธที่มีเรื่องกับซูอานที่สถานบันเทิงในเฉินหนานนั่นเองและแน่นอนว่าหลิวเหลียงเองก็จดจําซูอานได้แม่นอําเช่นกันใบหน้าของผู้ที่ทําให้เขาต้องคุกเข่าโขกศรีษะด้วย ความอัปยศมีหรือที่เขาจะลืมเลือนไปได้!

“ซูป่าเซียน แกหยุดอยู่ตรงนั้นเลย!”

หลิวเหลียงกระโดดเข้ามาขวางหน้าซูอานไว้ทันที พร้อมกับร้องตะโกนสั่งด้วยน้ําเสียงที่โกรธเกรี้ยว แววตาและท่าทางของเขานั้นเต็มไปด้วยกลิ่นอายสังหาร

ซูอานจ้องมองหลิวเหลียงด้วยสีหน้าเรียบเฉย พร้อมกับเอ่ยถามเสียงเบา “แทนที่เจ้าจะนึกขอบคุณที่ข้าไว้ชีวิตเจ้า แต่เจ้ากลับคิดที่จะมาแก้แค้นข้างั้นรึ?”

“แกทําให้ฉันต้องอับอายขายหน้าจนแทบแทรกแผ่นดินหนี แต่ยังไงวันนี้แกก็หนีไม่พ้นความตายแน่!”

ซูอานแสยะยิ้มราวกับว่าคําพูดข่มขู่ของหลิวเหลียงเป็นเรื่อง

ตลก..

“ข้าต่อให้เจ้าใช้ขาที่สามของเจ้าด้วย เจ้าก็ยังหาใช่คู่ต่อสู้ของข้า

ไม่!”

ซันกขมวดคิ้วพร้อมกับพึมพําด้วยความสงสัย “ขาที่สามงั้นรึ?!”

 

แต่เมื่อคิดได้ว่าคืออะไรเขาก็ถึงกับยิ้มออกมา จากนั้ นซันกูก็หันไปทางหลิวเหลียงพร้อมกับพูดขึ้นว่า

“นี่หลิวเหลียง. ขาที่สามน้อยๆของเธอจะทําอะไรคุณชายซู ได้?”

 

แต่หลิวเหลียงซึ่งรู้จักกับซันกูก็ไม่วายที่จะตอบโต้กลับมาทันทีเช่นกัน “ซันกู นี่แกกลายเป็นขี้ข้าของซูป่าเซียนไปตั้งแต่เมื่อไหร่กัน? วันนี้แกก็อย่าหวังรอดชีวิตไปได้เหมือนกัน!”

 

ซันกิโมโหอย่างมากที่ถูกหลิวเหลียงดูถูกเช่นนั้น จึงได้แต่พูดจาเย้ยกลับไปว่า “แม้แต่ผู้เฒ่าฉีหย่งยังไม่สามารถเอาชนะคุณชายซูได้เลยแล้วคนอย่างเธอจะมีปัญญาเรอะ?”

 

“คิดว่าฉันมาคนเดียวรึยังไง?”

หลิวเหลียงทําสีหน้ากระหยิ่มยิ้มย่อง แล้วหันมองไปทางชายวัยกลางคนผู้หนึ่ง พร้อมกับร้องตะโกนเสียงดัง

 

“ พ่อครับ. หมอนี่ล่ะที่ทําร้ายผม พ่อจัดการฆ่ามันทิ้งได้เลย!”

 

ซันกูถึงกับตกใจ แววตาของเขาเปลี่ยนเป็นตื่นตระหนกทันที เพราะหลิวเตานั้นนับเป็นผู้เยี่ยมยุทธที่ผ่านระดับกลางไปแล้วและหากเทียบกับผู้เฒ่าฉีหย่งแล้ว หลิวเตานั้นนับว่าเหนือกว่ามาก

 

ซันกูรีบหันไปกระซิบกับซูอานทันที “คุณชายซู หลิวเตาเหนือกว่าผู้เฒ่าฉีหย่งเมื่อครู่มาก!”

 

ซูอานพยักหน้า และพอจะได้ยินคําร่ําลือเกี่ยวกับหลิวเตามาบ้างว่าด้วยวรยุทธของเขานั้น ไม่มีผู้ฝึกยุทธใดในเจียงโจวที่จะสา มารถรับมือเขาได้แม้กระทั่งผู้เฒ่าชั่วยังไม่อยู่ในสายตาของเขา

 

แม้กระทั่งในคืนงานเลี้ยงที่สําคัญยิ่งของตระกูลถั่ว หลิวเตายังไม่มาร่วมงานและเพียงแค่ส่งของขวัญมาแทนเท่านั้น!

 

หลิวเตาจ้องมองมาทางซูอานด้วยสายตาที่คมกริบราวกับมีดซึ่งไม่ต่างจากแววตาของซูอานนัก เพียงแต่ต่างกันที่สายตาของหลิวเตานั้นดูล้ําลึกและสง่างามกว่า

หลิวเตาจ้องมองซูอานด้วยสีหน้าและแววตาดุดันพร้อมหันไปบอกกับหลิวเหลียงลูกชายว่า “ลูกเหลียง ไม่ต้องกังวลใจไปพ่อจะฆ่ามันด้วยมือของพ่อเอง!”

น้ําเสียงของหลิวเตานั้นดังกังวาน และมีพลังอํานาจราวกับจักรพรรดิ หากผู้ใดได้ฟัง ย่อมรับรู้ได้ถึงพลังอํานาจที่ซ่อนอยู่

เวลานี้กลุ่มชายสูงอายุที่มีเรื่องกับซูอานก่อนหน้านี้ก็ได้ตามมาถึงพอดีพวกเขาคิดไม่ถึงว่าซูอานจะกล้ามีเรื่องกับคนระดับหลิวเตาจึงได้แต่ยืนมองด้วยแววตาที่เปี่ยมไปด้วยความสุขและกําลังรอดูจุดจบของเขา

 

“คนอวดดีแบบนี้ สุดท้ายก็ต้องเจอดีจนได้!”

“นั่นสิ! คราวนี้กล้ามีเรื่องกับอาจารย์หลิวเชียวเหรอเด็กนั่นไม่ใช่คู่ต่อสู้ของอาจารย์หลิวแน่!”

กลุ่มผู้ฝึกยุทธที่อยู่ในวัยสูงอายุ ต่างก็พากันพูดจาดูถูกซูอานอีกครั้งและพากันยกย่องสรรเสริญหลิวเตากันไม่หยุด

แต่ซูอานกลับร้องตะโกนเสียงดัง “หนวกหูนัก! พวกเจ้าหุบปากกันได้หรือยัง? ผู้ใดเก่งนักก็ออกมาสู้กับข้าได้เลย!”

สายตาของซูอานจับจ้องไปที่ใบหน้าของกลุ่มผู้สูงอายุที่ละคนๆ แต่ก็ไม่มีผู้ใดกล้าในขณะที่ผู้เฒ่าฉีหย่งร้องตะโกนออกมาด้วยความคับแค้นใจ

“ท่านอาจารย์หลิว เชิญท่านลงมือได้เลย!”

หลิวเตาเพียงแค่พยักหน้า ในขณะที่สายตาของเขาที่จับจ้องอยู่ที่ร่างของซูอานแน่นิ่งนั้น กลับทอประกายดุดันยิ่งกว่าเดิม

“วันนี้พวกเรามาสู้กันจนกว่าจะรู้แพ้รู้ชนะ!”

“เจ้างั้นรึ?” ซูอานแสยะยิ้มพร้อมกับพูดเย้ยหยัน “ยังไม่คู่ควร!”

หลิวเตาได้ฟังถึงกับไม่สามารถนิ่งเฉยได้อีกต่อไป เขาคิดที่จะใช้วิชาเบญจสังหารจัดการกับซูอาน

จากข่าวลือที่เล่าต่อๆกันมานั้น ว่ากันว่าบรรพบุรุษของหลิวเตาเป็นผู้ค้นพบวิชาเบญจสังหารนี้ และวิชานี้จะถ่ายทอดให้กับเฉพาะทายาทสกุลหลิวเท่านั้น

 

วิชาเบญจสังหารนี้นับเป็นสุดยอดของวิชากังฟูที่ดุดันและโหดเหี้ยมที่สุด!

และเวลานี้หลิวเตาก็ใช้กระบวนท่าที่รุนแรงที่สุด และรวดเร็วที่สุดในการจู่โจมเข้าใส่ซูอาน

ซูอานสังเกตเห็นว่า คู่ต่อสู้ของเขาเวลานี้อยู่ในขั้นเดียวกับตนเองจึงไม่ได้ทําให้เขาเป็นฝ่ายได้เปรียบแต่อย่างใด จึงได้แต่ต้องใช้พละกําลังทั้งหมดของตนที่มีออกมา

ซูอานรวบรวมลมปราณทั้งหมดภายในร่าง และพร้อมที่จะใช้คลื่นลมปราณของตนพุ่งเข้าใส่หลิวเตาอย่างไม่นึกเกรงกลัวเช่นกัน

 

แววตาเย็นชาของหลิวเตาเป็นประกายขึ้นมาทันทีและได้แต่ร้องตะโกนถามซูอานด้วยความประหลาดใจ

“นี่เธอเป็นผู้ฝึกยุทธขั้นกลางเชียวเรอะ?”

ประกายสังหารในแววตาของหลิวเตาทวีความรุนแรงมากขึ้นกว่าเดิมและได้แต่คิดในใจว่า เด็กหนุ่มคนนี้อายุยังน้อยเพียงแค่นี้ แต่กลับมีกําลังภายในสูงส่งขนาดนี้หากเขาปล่อยเอาไว้ วันข้างหน้า อมต้องเป็นภัยต่อตัวเองแน่!

เมื่อคนอื่นๆด้ยิน ต่างก็พากันตกใจ..

“อายุยังไม่น่าจะถึงยี่สิบปีด้วยซ้ํา! ฉันไม่เคยเห็นใครที่อายุต่ํากว่ายี่สิบปีแต่สามารถเป็นผู้ฝึกยุทธขั้นกลางได้เลย!”

“นั่นสิ! ที่เห็นมาก็ยี่สิบปีขึ้นไปทั้งนั้น บางคนสามสิบปีด้วยซ้ํา

ไป!”

“นี่มันปีศาจชัดๆ! อาจารย์หลิวครับ อย่าปล่อยเด็กปีศาจนี้เอาไว้อีกต่อไปเลยไม่อย่างนั้นวงการผู้ฝึกยุทธของเราคงต้องปั่นปวนเพราะเขาแน่!”

“ใช่แล้ว! เด็กคนนี้ไม่ควรมีชีวิตอยู่ต่อไป..”

“สวรรค์คุ้มครองด้วยเถิด!”

หลายคนต่างพากันตกอกตกใจ และรู้ว่าหากซูอานไม่ตายพวกเขาจะต้องมีปัญหาแน่ๆ หรือไม่ก็อาจถูกซูอานฆ่าตายแทน

 

ซันกูได้แต่หวังว่าซูอานจะสามารถเอาชนะหลิวเตาได้เพราะหากซูอานถูกฆ่าตาย เขาคงถูกคนพวกนี้ฆ่าตายแน่!

การต่อสู้ดําเนินขึ้น. สองฝ่ายต่างก็แข็งแกร่งไม่น้อยไปกว่ากันต่างฝ่ายต่างก็เผยให้เห็นกําลังภายในที่ทรงพลังของตนในแต่ละ กระบวนท่าหากใครประมาทแม้เพียงแค่เล็กน้อย ก็อาจจบชีวิตได้ ในทันที

 

“พ่อหนุ่ม เธอช่างเป็นคนที่มีพรสวรรค์ยิ่งนัก! ถ้าเธอได้ฝึกต่อไปอีกเรื่อยๆ เธอจะต้องกลายเป็นมังกรแน่! แต่น่าเสียดายที่เธอไม่รู้จักเก็บซ่อนความแข็งแกร่งของตัวเองไว้ การโอ้อวดเช่นนี้ ทําให้เธอต้องพบจุดจบอย่างน่าเสียดาย…”

 

ในขณะที่พูด หลิวเตาก็พุ่งหมัดของตนเข้าใส่ตําแหน่งหัวใจของซูอานอย่างรวดเร็ว!

 

ซูอานฟังคําพูดของหลิวเตาแล้วก็ได้แต่นึกขัน เขามีชีวิตยืนยาวมานานไม่รู้กี่ร้อยกี่พันปี เกิดใหม่มาไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้ง มีหรือที่อสูรเฒ่าอย่างเขาจะหวาดกลัวคําว่าความตาย!

 

“เจ้ามดปลวก อย่าได้รอาจมาสั่งสอนข้า เจ้าระมัดระวังลําคอของเจ้าไว้ให้ดีก็แล้วกัน

“นี่เรียกว่ากรงเล็บสยบมังกร!”

 

หลิวเตาไม่รอช้า เขาใช้กรงเล็บสยบมังกรซึ่งเป็นหนึ่งในห้าของวิชาเบญจสังหารเข้าจู่โจมซูอาน เพื่อหมายฆ่าเขาให้ตายในคราเดียว

แต่ซูอานก็ได้ใช้คลื่นลมปราณของตน สกัดกั้นกรงเล็บอันทรงพลังของหลิวเตาไว้ได้ทันท่วงที

แต่ถึงกระนั้น พละกําลังของคลื่นลมปราณที่ซูอานซัดเข้าใส่กรงเล็บสยบมังกรของหลิวเตานั้น ก็ไม่อาจต้านทานกรงเล็บที่ทรงพลังของเขาไว้ได้และกรงเล็บสยบมังกรก็ได้พุ่งทะลุคลื่นลมปราณเข้ากระแทกกับอกของซูอานอย่างแรง..

 

เล็บทั้งห้าของหลิวเตาจิกทะลุเนื้อที่หน้าอกของซูอานจนเลือดสีแดงพุ่งกระฉุดออกมาทันที และบาดแผลก็เปลี่ยนเป็นสีดํา คล้ําในทันทีเช่นกันนั่นเพราะกรงเล็บของหลิวเตานั้นมีพิษเคลือบอ ยู่ด้วย..

ซูอานโกรธมาก และรีบเดินพลังปราณต้านทานพิษภายในร่างไว้เวลานี้แววตาของเขาปรากฏรังสีอํามหิตขึ้นยิ่งกว่าเดิมมาก

 

“ฝ่าเท้าลมปราณ!”

ตั้งแต่ซูอานมาอยู่บนโลกใบนี้ เขายังไม่เคยทดลองใช้กระบวนท่านี้ที่อยู่ในความทรงจํามาก่อนเลย และนี่เป็นครั้งแรกที่เขาทดลองใช้ดูร่างของซูอานพุ่งทะยานขนานไปกับพื้น และหมุนเป็นเกียวด้วย ความเร็วสูงฝ่าเท้าของเขาทั้งสองข้างพุ่งเข้าใส่ร่างของหลิวเตาอย่างแรงและในที่สุดเขาก็กระอักเลือดออกมา!

 

สีหน้าของหลิวเตาเปลี่ยนไปทันที เขาคิดไม่ถึงว่าเท้าทั้งสองข้างของซูอานจะพุ่งเข้ามาด้วยความเร็วมากมายถึงเพียงนี้ อีกทั้งยังสัมผัสได้ถึงพลังภายในที่พวยพุ่งออกมาพร้อมกับฝ่าเท้าทั้งสองข้าง..

หลังจากนั้น ฝ่าเท้าของซูอานก็ยังคงกระหน่ําเข้าใส่ที่ใบหน้าของหลิวเตาไม่หยุดหย่อย จนกระทั่งเวลานี้ใบหน้าของหลิวเตายับเยินและจนแทบดูไม่เป็นผู้เป็นคนอีก

 

หลิวเตาล้มลงและหงายตึงลงไปกับพื้นทันที เลือดสีแดงสดพุ่งออกจากปากของเขาอีกครั้ง และกระจายเต็มพื้นไปหมด เวลานี้สายตาของเขาที่จ้องมองซูอานนั้นบ่งบอกถึงความหวาดผวา และสะ พรึงกลัวอย่างมาก

“เธอ… นี่เธอสามารถควบคุมกําลังภายใน ให้พุ่งออกด้านนอกได้ด้วยหรือนี่?”

หลิวเตาแทบไม่อยากจะเชื่อ เขาเป็นอาจารย์ที่สอนเรื่องการฝึกกําลังภายใน และความแข็งแกร่งภายนอกมาตลอดชีวิต แต่ซูอานดู เหมือนจะเป็นเพียงแค่ผู้ฝึกยุทธเท่านั้น จะสามารถควบคุมลมปราณได้แก่กล้าถึงเพียงนี้เชียวหรือ?

ซูอานจ้องมองหลิวเตาพร้อมกับยิ้มเย้ยก่อนจะตอบไปว่า “เจ้าผิดแล้ว! สิ่งนี้เรียกว่าพลังชีวิต!”

 

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

ย้อนชีวิตพิชิตเซียน 64 : หลิวเตา

Now you are reading ย้อนชีวิตพิชิตเซียน Chapter 64 : หลิวเตา at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ย้อนชีวิตพิชิตเซียน ย้อนชีวิตพิชิตเซียน – บทที่ 64 : หลิวเตา

บทที่ 64 : หลิวเตา

ทุกสายตาจับจ้องไปทางร่างของซูอานที่กระโดดหายเข้าไปในปาด้วยความอิจฉา และหวาดกลัว..

ชายชราที่ฝึกยุทธมานานหลายสิบปี และผู้คนต่างเรียกขานว่าอาจารย์กลับต้องพ่ายแพ้ให้แก่ซูอานซึ่งเป็นเพียงแค่เด็กหนุ่ม!

แต่หลังจากที่ซูอานเดินทางต่อไปได้อีกไม่นานนักเขาก็พบเข้ากับคนอีกกลุ่มหนึ่งที่มีอยู่ราวสิบกว่าคน ทุกคนต่างก็ดูไม่ต่างจากคนธรรมดาทั่วไปและหนึ่งในนั้นก็ยังดูหนุ่มแน่น อีกทั้งซูอานยังรู้สึกนตายิ่งนัก

“นั่นมันหลิวเหลียงไม่ใช่รึ? ดูเหมือนชะตาของข้ากับเจ้าคงจะต้องกันยิ่งนัก..”

หลิวเหลียงก็คือผู้ฝึกยุทธที่มีเรื่องกับซูอานที่สถานบันเทิงในเฉินหนานนั่นเองและแน่นอนว่าหลิวเหลียงเองก็จดจําซูอานได้แม่นอําเช่นกันใบหน้าของผู้ที่ทําให้เขาต้องคุกเข่าโขกศรีษะด้วย ความอัปยศมีหรือที่เขาจะลืมเลือนไปได้!

“ซูป่าเซียน แกหยุดอยู่ตรงนั้นเลย!”

หลิวเหลียงกระโดดเข้ามาขวางหน้าซูอานไว้ทันที พร้อมกับร้องตะโกนสั่งด้วยน้ําเสียงที่โกรธเกรี้ยว แววตาและท่าทางของเขานั้นเต็มไปด้วยกลิ่นอายสังหาร

ซูอานจ้องมองหลิวเหลียงด้วยสีหน้าเรียบเฉย พร้อมกับเอ่ยถามเสียงเบา “แทนที่เจ้าจะนึกขอบคุณที่ข้าไว้ชีวิตเจ้า แต่เจ้ากลับคิดที่จะมาแก้แค้นข้างั้นรึ?”

“แกทําให้ฉันต้องอับอายขายหน้าจนแทบแทรกแผ่นดินหนี แต่ยังไงวันนี้แกก็หนีไม่พ้นความตายแน่!”

ซูอานแสยะยิ้มราวกับว่าคําพูดข่มขู่ของหลิวเหลียงเป็นเรื่อง

ตลก..

“ข้าต่อให้เจ้าใช้ขาที่สามของเจ้าด้วย เจ้าก็ยังหาใช่คู่ต่อสู้ของข้า

ไม่!”

ซันกขมวดคิ้วพร้อมกับพึมพําด้วยความสงสัย “ขาที่สามงั้นรึ?!”

 

แต่เมื่อคิดได้ว่าคืออะไรเขาก็ถึงกับยิ้มออกมา จากนั้ นซันกูก็หันไปทางหลิวเหลียงพร้อมกับพูดขึ้นว่า

“นี่หลิวเหลียง. ขาที่สามน้อยๆของเธอจะทําอะไรคุณชายซู ได้?”

 

แต่หลิวเหลียงซึ่งรู้จักกับซันกูก็ไม่วายที่จะตอบโต้กลับมาทันทีเช่นกัน “ซันกู นี่แกกลายเป็นขี้ข้าของซูป่าเซียนไปตั้งแต่เมื่อไหร่กัน? วันนี้แกก็อย่าหวังรอดชีวิตไปได้เหมือนกัน!”

 

ซันกิโมโหอย่างมากที่ถูกหลิวเหลียงดูถูกเช่นนั้น จึงได้แต่พูดจาเย้ยกลับไปว่า “แม้แต่ผู้เฒ่าฉีหย่งยังไม่สามารถเอาชนะคุณชายซูได้เลยแล้วคนอย่างเธอจะมีปัญญาเรอะ?”

 

“คิดว่าฉันมาคนเดียวรึยังไง?”

หลิวเหลียงทําสีหน้ากระหยิ่มยิ้มย่อง แล้วหันมองไปทางชายวัยกลางคนผู้หนึ่ง พร้อมกับร้องตะโกนเสียงดัง

 

“ พ่อครับ. หมอนี่ล่ะที่ทําร้ายผม พ่อจัดการฆ่ามันทิ้งได้เลย!”

 

ซันกูถึงกับตกใจ แววตาของเขาเปลี่ยนเป็นตื่นตระหนกทันที เพราะหลิวเตานั้นนับเป็นผู้เยี่ยมยุทธที่ผ่านระดับกลางไปแล้วและหากเทียบกับผู้เฒ่าฉีหย่งแล้ว หลิวเตานั้นนับว่าเหนือกว่ามาก

 

ซันกูรีบหันไปกระซิบกับซูอานทันที “คุณชายซู หลิวเตาเหนือกว่าผู้เฒ่าฉีหย่งเมื่อครู่มาก!”

 

ซูอานพยักหน้า และพอจะได้ยินคําร่ําลือเกี่ยวกับหลิวเตามาบ้างว่าด้วยวรยุทธของเขานั้น ไม่มีผู้ฝึกยุทธใดในเจียงโจวที่จะสา มารถรับมือเขาได้แม้กระทั่งผู้เฒ่าชั่วยังไม่อยู่ในสายตาของเขา

 

แม้กระทั่งในคืนงานเลี้ยงที่สําคัญยิ่งของตระกูลถั่ว หลิวเตายังไม่มาร่วมงานและเพียงแค่ส่งของขวัญมาแทนเท่านั้น!

 

หลิวเตาจ้องมองมาทางซูอานด้วยสายตาที่คมกริบราวกับมีดซึ่งไม่ต่างจากแววตาของซูอานนัก เพียงแต่ต่างกันที่สายตาของหลิวเตานั้นดูล้ําลึกและสง่างามกว่า

หลิวเตาจ้องมองซูอานด้วยสีหน้าและแววตาดุดันพร้อมหันไปบอกกับหลิวเหลียงลูกชายว่า “ลูกเหลียง ไม่ต้องกังวลใจไปพ่อจะฆ่ามันด้วยมือของพ่อเอง!”

น้ําเสียงของหลิวเตานั้นดังกังวาน และมีพลังอํานาจราวกับจักรพรรดิ หากผู้ใดได้ฟัง ย่อมรับรู้ได้ถึงพลังอํานาจที่ซ่อนอยู่

เวลานี้กลุ่มชายสูงอายุที่มีเรื่องกับซูอานก่อนหน้านี้ก็ได้ตามมาถึงพอดีพวกเขาคิดไม่ถึงว่าซูอานจะกล้ามีเรื่องกับคนระดับหลิวเตาจึงได้แต่ยืนมองด้วยแววตาที่เปี่ยมไปด้วยความสุขและกําลังรอดูจุดจบของเขา

 

“คนอวดดีแบบนี้ สุดท้ายก็ต้องเจอดีจนได้!”

“นั่นสิ! คราวนี้กล้ามีเรื่องกับอาจารย์หลิวเชียวเหรอเด็กนั่นไม่ใช่คู่ต่อสู้ของอาจารย์หลิวแน่!”

กลุ่มผู้ฝึกยุทธที่อยู่ในวัยสูงอายุ ต่างก็พากันพูดจาดูถูกซูอานอีกครั้งและพากันยกย่องสรรเสริญหลิวเตากันไม่หยุด

แต่ซูอานกลับร้องตะโกนเสียงดัง “หนวกหูนัก! พวกเจ้าหุบปากกันได้หรือยัง? ผู้ใดเก่งนักก็ออกมาสู้กับข้าได้เลย!”

สายตาของซูอานจับจ้องไปที่ใบหน้าของกลุ่มผู้สูงอายุที่ละคนๆ แต่ก็ไม่มีผู้ใดกล้าในขณะที่ผู้เฒ่าฉีหย่งร้องตะโกนออกมาด้วยความคับแค้นใจ

“ท่านอาจารย์หลิว เชิญท่านลงมือได้เลย!”

หลิวเตาเพียงแค่พยักหน้า ในขณะที่สายตาของเขาที่จับจ้องอยู่ที่ร่างของซูอานแน่นิ่งนั้น กลับทอประกายดุดันยิ่งกว่าเดิม

“วันนี้พวกเรามาสู้กันจนกว่าจะรู้แพ้รู้ชนะ!”

“เจ้างั้นรึ?” ซูอานแสยะยิ้มพร้อมกับพูดเย้ยหยัน “ยังไม่คู่ควร!”

หลิวเตาได้ฟังถึงกับไม่สามารถนิ่งเฉยได้อีกต่อไป เขาคิดที่จะใช้วิชาเบญจสังหารจัดการกับซูอาน

จากข่าวลือที่เล่าต่อๆกันมานั้น ว่ากันว่าบรรพบุรุษของหลิวเตาเป็นผู้ค้นพบวิชาเบญจสังหารนี้ และวิชานี้จะถ่ายทอดให้กับเฉพาะทายาทสกุลหลิวเท่านั้น

 

วิชาเบญจสังหารนี้นับเป็นสุดยอดของวิชากังฟูที่ดุดันและโหดเหี้ยมที่สุด!

และเวลานี้หลิวเตาก็ใช้กระบวนท่าที่รุนแรงที่สุด และรวดเร็วที่สุดในการจู่โจมเข้าใส่ซูอาน

ซูอานสังเกตเห็นว่า คู่ต่อสู้ของเขาเวลานี้อยู่ในขั้นเดียวกับตนเองจึงไม่ได้ทําให้เขาเป็นฝ่ายได้เปรียบแต่อย่างใด จึงได้แต่ต้องใช้พละกําลังทั้งหมดของตนที่มีออกมา

ซูอานรวบรวมลมปราณทั้งหมดภายในร่าง และพร้อมที่จะใช้คลื่นลมปราณของตนพุ่งเข้าใส่หลิวเตาอย่างไม่นึกเกรงกลัวเช่นกัน

 

แววตาเย็นชาของหลิวเตาเป็นประกายขึ้นมาทันทีและได้แต่ร้องตะโกนถามซูอานด้วยความประหลาดใจ

“นี่เธอเป็นผู้ฝึกยุทธขั้นกลางเชียวเรอะ?”

ประกายสังหารในแววตาของหลิวเตาทวีความรุนแรงมากขึ้นกว่าเดิมและได้แต่คิดในใจว่า เด็กหนุ่มคนนี้อายุยังน้อยเพียงแค่นี้ แต่กลับมีกําลังภายในสูงส่งขนาดนี้หากเขาปล่อยเอาไว้ วันข้างหน้า อมต้องเป็นภัยต่อตัวเองแน่!

เมื่อคนอื่นๆด้ยิน ต่างก็พากันตกใจ..

“อายุยังไม่น่าจะถึงยี่สิบปีด้วยซ้ํา! ฉันไม่เคยเห็นใครที่อายุต่ํากว่ายี่สิบปีแต่สามารถเป็นผู้ฝึกยุทธขั้นกลางได้เลย!”

“นั่นสิ! ที่เห็นมาก็ยี่สิบปีขึ้นไปทั้งนั้น บางคนสามสิบปีด้วยซ้ํา

ไป!”

“นี่มันปีศาจชัดๆ! อาจารย์หลิวครับ อย่าปล่อยเด็กปีศาจนี้เอาไว้อีกต่อไปเลยไม่อย่างนั้นวงการผู้ฝึกยุทธของเราคงต้องปั่นปวนเพราะเขาแน่!”

“ใช่แล้ว! เด็กคนนี้ไม่ควรมีชีวิตอยู่ต่อไป..”

“สวรรค์คุ้มครองด้วยเถิด!”

หลายคนต่างพากันตกอกตกใจ และรู้ว่าหากซูอานไม่ตายพวกเขาจะต้องมีปัญหาแน่ๆ หรือไม่ก็อาจถูกซูอานฆ่าตายแทน

 

ซันกูได้แต่หวังว่าซูอานจะสามารถเอาชนะหลิวเตาได้เพราะหากซูอานถูกฆ่าตาย เขาคงถูกคนพวกนี้ฆ่าตายแน่!

การต่อสู้ดําเนินขึ้น. สองฝ่ายต่างก็แข็งแกร่งไม่น้อยไปกว่ากันต่างฝ่ายต่างก็เผยให้เห็นกําลังภายในที่ทรงพลังของตนในแต่ละ กระบวนท่าหากใครประมาทแม้เพียงแค่เล็กน้อย ก็อาจจบชีวิตได้ ในทันที

 

“พ่อหนุ่ม เธอช่างเป็นคนที่มีพรสวรรค์ยิ่งนัก! ถ้าเธอได้ฝึกต่อไปอีกเรื่อยๆ เธอจะต้องกลายเป็นมังกรแน่! แต่น่าเสียดายที่เธอไม่รู้จักเก็บซ่อนความแข็งแกร่งของตัวเองไว้ การโอ้อวดเช่นนี้ ทําให้เธอต้องพบจุดจบอย่างน่าเสียดาย…”

 

ในขณะที่พูด หลิวเตาก็พุ่งหมัดของตนเข้าใส่ตําแหน่งหัวใจของซูอานอย่างรวดเร็ว!

 

ซูอานฟังคําพูดของหลิวเตาแล้วก็ได้แต่นึกขัน เขามีชีวิตยืนยาวมานานไม่รู้กี่ร้อยกี่พันปี เกิดใหม่มาไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้ง มีหรือที่อสูรเฒ่าอย่างเขาจะหวาดกลัวคําว่าความตาย!

 

“เจ้ามดปลวก อย่าได้รอาจมาสั่งสอนข้า เจ้าระมัดระวังลําคอของเจ้าไว้ให้ดีก็แล้วกัน

“นี่เรียกว่ากรงเล็บสยบมังกร!”

 

หลิวเตาไม่รอช้า เขาใช้กรงเล็บสยบมังกรซึ่งเป็นหนึ่งในห้าของวิชาเบญจสังหารเข้าจู่โจมซูอาน เพื่อหมายฆ่าเขาให้ตายในคราเดียว

แต่ซูอานก็ได้ใช้คลื่นลมปราณของตน สกัดกั้นกรงเล็บอันทรงพลังของหลิวเตาไว้ได้ทันท่วงที

แต่ถึงกระนั้น พละกําลังของคลื่นลมปราณที่ซูอานซัดเข้าใส่กรงเล็บสยบมังกรของหลิวเตานั้น ก็ไม่อาจต้านทานกรงเล็บที่ทรงพลังของเขาไว้ได้และกรงเล็บสยบมังกรก็ได้พุ่งทะลุคลื่นลมปราณเข้ากระแทกกับอกของซูอานอย่างแรง..

 

เล็บทั้งห้าของหลิวเตาจิกทะลุเนื้อที่หน้าอกของซูอานจนเลือดสีแดงพุ่งกระฉุดออกมาทันที และบาดแผลก็เปลี่ยนเป็นสีดํา คล้ําในทันทีเช่นกันนั่นเพราะกรงเล็บของหลิวเตานั้นมีพิษเคลือบอ ยู่ด้วย..

ซูอานโกรธมาก และรีบเดินพลังปราณต้านทานพิษภายในร่างไว้เวลานี้แววตาของเขาปรากฏรังสีอํามหิตขึ้นยิ่งกว่าเดิมมาก

 

“ฝ่าเท้าลมปราณ!”

ตั้งแต่ซูอานมาอยู่บนโลกใบนี้ เขายังไม่เคยทดลองใช้กระบวนท่านี้ที่อยู่ในความทรงจํามาก่อนเลย และนี่เป็นครั้งแรกที่เขาทดลองใช้ดูร่างของซูอานพุ่งทะยานขนานไปกับพื้น และหมุนเป็นเกียวด้วย ความเร็วสูงฝ่าเท้าของเขาทั้งสองข้างพุ่งเข้าใส่ร่างของหลิวเตาอย่างแรงและในที่สุดเขาก็กระอักเลือดออกมา!

 

สีหน้าของหลิวเตาเปลี่ยนไปทันที เขาคิดไม่ถึงว่าเท้าทั้งสองข้างของซูอานจะพุ่งเข้ามาด้วยความเร็วมากมายถึงเพียงนี้ อีกทั้งยังสัมผัสได้ถึงพลังภายในที่พวยพุ่งออกมาพร้อมกับฝ่าเท้าทั้งสองข้าง..

หลังจากนั้น ฝ่าเท้าของซูอานก็ยังคงกระหน่ําเข้าใส่ที่ใบหน้าของหลิวเตาไม่หยุดหย่อย จนกระทั่งเวลานี้ใบหน้าของหลิวเตายับเยินและจนแทบดูไม่เป็นผู้เป็นคนอีก

 

หลิวเตาล้มลงและหงายตึงลงไปกับพื้นทันที เลือดสีแดงสดพุ่งออกจากปากของเขาอีกครั้ง และกระจายเต็มพื้นไปหมด เวลานี้สายตาของเขาที่จ้องมองซูอานนั้นบ่งบอกถึงความหวาดผวา และสะ พรึงกลัวอย่างมาก

“เธอ… นี่เธอสามารถควบคุมกําลังภายใน ให้พุ่งออกด้านนอกได้ด้วยหรือนี่?”

หลิวเตาแทบไม่อยากจะเชื่อ เขาเป็นอาจารย์ที่สอนเรื่องการฝึกกําลังภายใน และความแข็งแกร่งภายนอกมาตลอดชีวิต แต่ซูอานดู เหมือนจะเป็นเพียงแค่ผู้ฝึกยุทธเท่านั้น จะสามารถควบคุมลมปราณได้แก่กล้าถึงเพียงนี้เชียวหรือ?

ซูอานจ้องมองหลิวเตาพร้อมกับยิ้มเย้ยก่อนจะตอบไปว่า “เจ้าผิดแล้ว! สิ่งนี้เรียกว่าพลังชีวิต!”

 

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+