ย้อนชีวิตพิชิตเซียน 65 : ไถ่ชีวิต

Now you are reading ย้อนชีวิตพิชิตเซียน Chapter 65 : ไถ่ชีวิต at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ย้อนชีวิตพิชิตเซียน ย้อนชีวิตพิชิตเซียน – บทที่ 65 : ไถ่ชีวิต

บทที่ 65 : ไถ่ชีวิต

 

หลิวเตารู้ดีว่าวันนี้ของตนจะต้องมาถึงไม่วันใดก็วันหนึ่ง นับตั้งแต่ที่เขาก้าวเท้าเข้ามาในเส้นทางผู้ฝึกยุทธแล้ว เขาก็รู้ตัวว่าไม่ช้าก็เร็วเขาจะต้องตายด้วยน้ํามือของผู้ที่แข็งแกร่งกว่าตนเอง!

 

“ พ่อหนุ่ม.. ฉันอยากจะขอร้องเธอสักเรื่องจะได้มั้ย?”

 

หลิวเตาต้องการอาศัยโอกาสสุดท้ายของชีวิตนี้ อ้อนวอนให้ซูอานไว้ชีวิตลูกชายของตน เพราะตระกูลหลิวของเขาเหลือทายาทที่จะสืบสกุลอยู่เพียงแค่คนเดียวเท่านั้น!

 

หลิวเหลียงที่ยืนดูการต่อสู้อยู่ก็ถึงกับตกใจจนแทบช็อค เมื่อเห็นว่าพ่อของเขาเป็นฝ่ายพ่ายแพ้ให้กับซุอาน เขาไม่อยากจะเชื่อกับสิ่งที่ได้เห็นจึงได้แต่กรีดร้องออกมาราวกับคนคลุ้มคลั่ง!

“ไม่นะ! ไม่… พ่อ.. พ่อแพ้มันได้ยังไง?”

หลิวเหลียงกรีดร้องออกมาด้วยความโกรธแค้น และวิ่งตรงเข้าหาซูอานอย่างคลุ้มคลั่ง แต่ซูอานกลับยกเท้าเตะเข้าที่ร่างของหลิวเหลียงจนสลบไป..

“อย่า.. อย่าฆ่าลูกชายของฉันเลย!”

 

ซูอานเพียงแค่ยิ้มออกมา และเอ่ยปากตอบ เพราะสําหรับเขาแล้วคําขอร้องของหลิวเตานับว่าเป็นเรื่องที่น่าขบขันยิ่งนัก

หลิวเตาจะรู้สึกท้อแท้หมดหวัง แม้เขาจะรู้ดีว่าผลลัพธ์ของการเป็นผู้แพ้ย่อมต้องเป็นเช่นนี้ แต่เขาก็ไม่อาจทนเห็นลูกชายคนเดียวของตนเองถูกฆ่าตายได้

 

“ข้ารับปากเจ้าจะไม่ฆ่าเขา!”

 

แต่กลับคิดไม่ถึงว่าในที่สุดซูอานจะเอ่ยออกมาและคําพูดของเขาก็ทําให้หลิวเตาดีอกดีใจอย่างมาก ใบหน้าเละเทะจนน่ากลัวของหลิวเตาผงกขึ้นลงพร้อมกับเอ่ยออกไปด้วยเสียงที่ไร้เรี่ยวแรง

“ขอบคุณ.. ขอบคุณ!”

“เจ้าไม่จําเป็นต้องขอบคุณข้า! เพราะข้าจะให้เจ้านําทรัพย์สินทั้งหมดของตนเอง มาแลกกับชีวิตของลูกชายเจ้า ข้าขอย้ําว่า.. ทั้งหมดคือไม่เหลืออะไรเลย!”

หลิวเตาเข้าใจดี และเพื่อรักษาชีวิตของลูกชายคนเดียวไว้ เขายอมต้องตกลง!

 

“แต่ความจริงแล้วเจ้าจะตกลง หรือไม่ตกลง ทรัพย์สินของเจ้าก็ย่อมต้องตกเป็นของข้าอยู่ดี!”

หลิวเตายิ้มอย่างเข้าใจดี เพราะหากซูอานบุกไปบ้านสกุลหลิวมีใครบ้างที่จะสามารถต้านทานเขาได้..

 

ซูอานพูดเพียงแค่นั้นก็เดินตรงเข้าไปหาหลิวเตา เขาเหลือบมองเพียงแค่เล็กน้อย ก่อนจะเอื้อมมือไปกําที่ลําคอของหลิวเตาไว้พร้อมกับบิดอย่างแรงและในที่สุดร่างของหลิวเตาก็สิ้นใจตายทันที!

 

ผู้คนที่อยู่ในบิรเวณนั้นต่างก็ร่างกายสั่นเทิ้มด้วยความหวาดกลัวอีกครั้งและครั้งนี้บางคนถึงกับฉ่ราดกางเกง และกลัวจนขนหัวลุกชัน..

 

พวกเขาพูดจาเยาะเย้ยถากถางซูอานถึงสองครั้งสองคราจึงคิดว่าซูอานจะไม่ยอมปล่อยพวกตนไปแน่ๆด้วยเหตุนี้หนึ่งในนั้นจึงรีบร้องตะโกนออกไปว่า

“ พ่อหนุ่ม อํานาจอิทธิพลของพวกเราทั้งหมดในที่นี้รวมกันก็เกินครึ่งเมืองแล้วถ้าเธอฆ่าพวกเราตายหมดพร้อมกันไม่เพียงตํารวจจะปล่อยเธอไว้แต่วงการผู้ฝึกยุทธยังจะต้องสั่นคลอนมากอี กด้วย”

ซูอานยิ้มหยันพร้อมกับถามขึ้นว่า “งั้นรึ?”

ซูอานพูดได้เพียงแค่นั้น ก็พุ่งฝ่าเท้าของตนเข้าใส่ร่างของชายสูงอายุที่พูดโพล่งขึ้นมานั้นจนล้มลงไปทันทีและไม่รู้ว่าเป็นหรือตายกันแน่!

จากนั้นก็ไม่มีใครกล้าพูดอะไรออกมาอีกเลยแม้แต่คําเดียวเวลานี้ทุกคนทําได้เพียงแค่คุกเข่าลงกับพื้น เป็นการอ้อนวอนขอความเมตตาจากซูอานให้ไว้ชีวิตพวกตน..

ซูอานจ้องมองกลุ่มคนสูงอายุเหล่านั้น แววตาสังหารได้อันตธานหายไปทันทีเขาไม่ต้องการสังหารคนเหล่านี้ เพราะเมื่อครู่เขาจําเป็นต้องเชือดไก่ให้ลิงดูและในเมื่อคนที่สมควรฆ่าก็ฆ่าแล้วเขาจึงไม่ต้องการฆ่าใครอีก..

 

แต่เมื่อคิดอะไรขึ้นมาได้ เขาก็ยิ้มออกมา และถามทุกคนว่า..

 

“พวกเจ้าต้องการมีชีวิตอยู่ต่อ หรือต้องการที่จะตาย?”

 

หลิวเหลียงที่ยืนดูการต่อสู้อยู่ก็ถึงกับตกใจจนแทบช็อคเมื่อเห็นว่าพ่อของเขาเป็นฝ่ายพ่ายแพ้ให้กับซูอาน เขาไม่อยากจะเชื่อกับสิ่งที่ได้เห็นจึงได้แต่กรีดร้องออกมาราวกับคนคลุ้มคลั่ง!

“ไม่นะ! ไม่.. พ่อ พ่อแพ้มันได้ยังไง?”

“ฉันอยากมีชีวิต ฉันไม่อยากตาย!”

 

แต่ละคนในที่นี้ล้วนแล้วแต่เป็นคนที่มีฐานะร่ํารวย และมีหน้ามีตาในสังคม นอกจากจะมีเงินทอง มีกินมีใช้อย่างสบายไม่อดไม่อยากแล้วรอบกายยังมีผู้หญิงมากมาย แล้วพวกเขาจะอยากตายได้ยังไงกันเล่า?

 

“แต่พวกเจ้าทําให้ข้าไม่พอใจ บอกมาว่าจะทําเช่นใด?”

เมื่อได้ยินเช่นนั้น ทุกคนต่างก็พากันก้มลงโขกศรีษะขอโทษซูอานแต่เขากลับตอบไปอย่างไม่แยแส

 

“โขกศรีษะก็ช่วยอะไรไม่ได้ พวกเจ้าควรต้องใช้การขอโทษที่จับต้องได้!”

 

ทุกคนได้แต่งนงง และไม่เข้าใจว่าอะไรคือการขอโทษที่จับต้องได้.. ตัดแขนตัดขาพวกเขาอย่างนั้นหรือ?

แต่แล้วชายสูงอายุคนหนึ่งก็ถามขึ้นว่า “เธอหมายถึงเงินใช่มั้ย?แล้วต้องการเท่าไหร่ล่ะ?”

ระหว่างนั้นหลิวเหลียงก็ฟื้นขึ้นจากอาการสลบเหมือดเมื่อครู่ซูอานจึงหันไปโบกมือไล่พร้อมย้ํากับเขาว่า

 

“เจ้าไปได้แล้ว! แต่อย่าลืมโอนทรัพย์สินทั้งหมดของเจ้ามาให้ข้าภายในหนึ่งเดือน แล้วก็โทรบอกข้าที่เบอร์…”

 

เมื่อสามารถมีชีวิตรอดกลับไปได้อีกครั้ง หลิวเหลียที่เพิ่งได้สติจึงรบวิ่งหนีออกไปทันที โดยไม่สนใจศพของผู้เป็นพ่อเลยแม้แต่

น้อย..

“เห็นหรือไม่ พวกเจ้าสามารถใช้เงินซื้อชีวิตของตนเองได้เ”

 

“แต่ข้าขอเตือนไว้ก่อน พวกเจ้าต้องคิดให้ดีว่าชีวิตของตนเองควรจะมีราคาสักเท่าใด?”

 

ซูอานปรายตามองพร้อมกับพูดต่อว่า “เพราะพวกเจ้าจะมีโอกาสเสนอราคาชีวิตเพียงแค่ครั้งเดียวเท่านั้น และไม่มีโอกาสแก้ตัวเป็นครั้งที่สอง..”

ทุกคนต่างก็พากันนั่งเหงื่อตก เพราะคําพูดของซูอานนั้นไม่ต่างจากคําสาบ ที่สามารคร่าชีวิตของพวกเขาไปได้ทุกเมื่อ

และเวลานี้ทุกคนต่างก็พากันครุ่นคิดอย่างหนักถึงราคาชีวิตของตนเอง!

 

และในระหว่างนั้นเอง ผู้เฒ่าหย่งก็เป็นคนแรกคลานเข่าเข้าไปหาซูอานพร้อมกับพูดเสียงสั่น “ฉัน.. ฉันขอซื้อชีวิตตัวเองด้วยเงินหนึ่งร้อยล้าน!”

ซูอานยิ้มออกมาเล็กน้อยพร้อมกับถามขึ้นว่า “หนึ่งร้อยล้าน?!เจ้าคิดว่าชีวิตของเจ้ามีค่าหนึ่งร้อยล้านงั้นรึ?”

ผู้เฒ่าฉีหย่งถึงกับเหงื่อตก เพราะนั่นเป็นจํานวนเงินที่ครอบครัวเขาสามารถจ่ายได้แล้ว หากเสนอกมากไปกว่านี้ครอบครัวของเขาคงต้องล้มละลายอย่างแน่นอน!

 

ซูอานนิ่งไปครู่หนึ่งจึงตอบกลับไปว่า “ตกลงที่หนึ่งร้อยล้าน!ภายในหนึ่งเดือนเจ้าต้องจัดการโอนเงินให้กับข้า หากล่าช้า ข้าจะ ให้เจ้าจ่ายทั้งต้นทั้งดอก!”

 

ผู้เฒ่าฉีหย่งยิ้มออกมาอย่างดีใจพร้อมตอบกลับไปทันที “ฉันจะรีบจัดการทันที!”

 

“งั้นเจ้าก็ไปได้แล้ว!”

 

ทันทีที่ซูอานอนุญาต ชายชราก็รีบลุกขึ้น และหายไปภายในเวลาอันรวดเร็ว!

 

หลังจากนั้นคนอื่นๆ ก็พากันเสนอราคาชีวิตของตนเอง

“พวกเจ้ากลับไปได้ แต่อย่าลืมว่าต้องโอนเงินทั้งหมดให้กับข้าภายในหนึ่งเดือน และหากผู้ใดกล้าบิดพริ้ว ข้าจะให้มันจ่ายดอกเบี้ยย้อนหลัง!”

หลังจากนั้นทุกคนต่างก็พากันหนีกลับออกไปอย่างรวดเร็ว ไม่มีใครอยากจะอยู่บนเขาอีกแม้แต่วินาทีเดียว..

 

ซูอานได้แต่พยักหน้ายิ้มๆ เพราะเงินจํานวนนี้มากพอที่จะให้เขานําไปซื้อบ้านและรถได้อย่างสบายๆ

 

และเวลานี้ก็เหลือเพียงซูอานกับซันกเท่านั้น ซันกูได้แต่เอ่ยถามออกไปว่า “คุณชายซู แล้วถ้าพวกเขาเบี้ยวท่านล่ะ?”

ซูอานแสยะยิ้มอย่างน่ากลัว และตอบเพียงแค่ว่า “ถ้าพวกมันกล้า ก็ต้องจ่ายดอกเบี้ยยังไงล่ะ และข้าจะเป็นคนไปเก็บดอกเบี้ยด้วยตัวเองเชียวล่ะ!”

ซันกูเห็นสีหน้าและน้ําเสียงที่น่ากลัวของซันกู ก็ไม่กล้าเอ่ยถามอะไรอีก และได้แต่คิดในใจว่า หากคนพวกนั้นกล้าบิดพริ้วจริงๆ พวกเขาคงต้องจ่ายหนักกว่าเดิมแน่!

 

“เอาล่ะ! พวกเราไปยังบ่อโลหิตมังกรได้แล้ว”

 

ระยะทางเพียงแค่สามกิโลเมตร ทั้งสองคนออกเดินทางอีกเพียงแค่ครู่เดียวก็ถึงแล้ว และเวลานี้ทั้งคู่ก็กําลังยืนอยู่บนหน้าผาที่มีต้นสนถูกเผาเหลือแต่ตออยู่มากมาย

“คุณชายซู ทางเข้าดูเหมือนจะถูกคนปิดล้อมไว้หมด!”

ซันกร้องบอกพร้อมกับยกมือขึ้นชี้ไปทางด้านหน้า ซึ่งเวลานี้มีชายฉกรรจ์นับสิบคนยืนขวางทางไว้

 

“ข้าต้องการเข้าไปยังบ่อโลหิตมังกร ผู้ใดก็ขวางข้าไม่ได้!”

 

ซูอานเดินตรงไปด้านหน้าพร้อมกับร้องตะโกนออกมาโดยไม่ใส่ใจกับกลุ่มชายฉกรรจ์ที่อยู่ตรงหน้าเลยแม้แต่น้อย

ซันกูลังเลเล็กน้อย แต่แล้วก็คิดในใจว่า “ยังจะต้องกลัวอะไรกันอีกด้านหน้าเป็นคุณชายซู ใครจะกล้าทําอะไร?

ซันกูยืดอกพร้อมกับเดินตามซูอานไปทันที..

 

ชายสวมชุดดําและแว่นกันแดดเดินสายอาดๆเข้ามาหาซูอานพร้อมกับพูดขึ้นว่า “ถ้ายังไม่อยากตายก็รีบออกไปจากที่นี่ซะ!”

 

ซูอานหันไปทางซันกู และสายตาของเขาก็บอกชัดว่าไม่ต้องการเสียเวลากับมดปลวกพวกนี้

ซันกูเห็นโอกาสที่จะได้แสดงความจงรักภักดีให้ซูอานเห็นจึงรีบก้าวเดินไปข้างหน้าทันที เขาจ้องมองบอดี้การ์คนนั้นพร้อมตอบโต้กลับไปทันที “บ่อโลหิตมังกรเป็นของพวกแกตั้งแต่เมื่อไหร่กัน? ทําไมพวกเราจะเข้าไปไม่ได้?”

 

แต่ซูอานกลับไม่สนใจบอดี้การ์ดกลุ่มนี้เลยแม้แต่น้อย เขาหันไปบอกกับซันกว่า “ซันกู เจ้าติดตามข้ามาตั้งนาน ยังไม่เรียนรู้อีกว่าความสําคัญอีกหนึ่งเรื่องคือต้องรู้จักไม่แยแสกับเรื่องไร้สาระ!”

 

และยังไม่ทันที่ซันกูจะตอบอะไร ซูอานที่อยู่ห่างถึงสามหรือสี่เมตา ก็กระโดดเตะเข้าที่ใบหน้าของบอดี้การ์ดคนนั้นจนเลือดอาบเต็มหน้าและล้มไปกองกับพื้นทันที

ขันกูถึงกับเหงื่อตกในขณะที่ซูอานถามขึ้นว่า “เจ้าเรียนรู้บ้างหรือยัง?”

 

“ครับ.. ครับ…” ซันกูได้แต่พยักหน้าหงักๆ

ส่วนบอดี้การ์ดคนอื่นๆ ที่เห็นซูอานทําร้ายเพื่อนของตนเช่นนั้นจึงรีบกรูกันเข้ามาล้อมซูอานไว้ทันที แต่ละคนล้วนเป็นชายฉกรรจ์รู ปร่างแข็งแกร่งและสักรูปงูดําไว้ที่ลําคอ ใบหน้าของแต่ละคนดูดร้ายทั้งสิ้น

“น่ารําคาญชะมัด! จัดการฆ่าพวกมันสองคน?”

สิ้นเสียงออกคําสั่งของผู้ที่เป็นหัวหน้า คนอื่นๆก็พากันหยิบมีดออกมาเพื่อหมายที่จะสังหารซูอานก่อน

 

ซูอานหันไปบอกซันกว่า “ครั้งนี้อย่าให้ข้าผิดหวังล่ะ!”

 

ซันกพุ่งเข้าจัดการกับบอดี้การ์กลุ่มนี้โดยไม่เสียเวลาพูดจาอีกและเพียงประเดี๋ยวเดียว ก็สามารถจัดการพวกมันจนแขนหักไปตามๆกันได้

ซูอานพยักหน้าอย่างพอใจ ก่อนจะส่งกําปั้นของตนเองเข้ากับร่างของบอดี้การ์ดอีกสองคนที่พุ่งเข้ามา จนลอยละลิ่วออกไปก่อนจะร่วงลงพื้น

และเพียงแค่ประเดี๋ยวเดียว บอดี้การ์ดสิบกว่าคนก็ถูกซูอานกับซันกูจัดการจนลงไปนอนเกลือกกลิ้ง และร้องครวญครางด้วยความ เจ็บปวด

 

แต่แล้วบอดี้การ์คนหนึ่งก็หยิบปืนพกออกมา และเล็งไปทางซูอานและหากเขาลั่นไกซูอานต้องตายอย่างแน่นอน!

 

ต่อให้จะมีวรยุทธสูงส่งมากเพียงใด แต่ก็ยากที่จะชนะลูกปืนได้ซันกูถึงกับตกตะลึง เขาเองยังไม่อยากตาย จึงได้แต่ยกมือทั้งสองข้างชูขึ้นฟ้า

“แกก็ยกมือขึ้นด้วย!” ชายฉกรรจ์ที่ถือปืนร้องตะโกนบอกซูอานด้วยความโมโห

 

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

ย้อนชีวิตพิชิตเซียน 65 : ไถ่ชีวิต

Now you are reading ย้อนชีวิตพิชิตเซียน Chapter 65 : ไถ่ชีวิต at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ย้อนชีวิตพิชิตเซียน ย้อนชีวิตพิชิตเซียน – บทที่ 65 : ไถ่ชีวิต

บทที่ 65 : ไถ่ชีวิต

 

หลิวเตารู้ดีว่าวันนี้ของตนจะต้องมาถึงไม่วันใดก็วันหนึ่ง นับตั้งแต่ที่เขาก้าวเท้าเข้ามาในเส้นทางผู้ฝึกยุทธแล้ว เขาก็รู้ตัวว่าไม่ช้าก็เร็วเขาจะต้องตายด้วยน้ํามือของผู้ที่แข็งแกร่งกว่าตนเอง!

 

“ พ่อหนุ่ม.. ฉันอยากจะขอร้องเธอสักเรื่องจะได้มั้ย?”

 

หลิวเตาต้องการอาศัยโอกาสสุดท้ายของชีวิตนี้ อ้อนวอนให้ซูอานไว้ชีวิตลูกชายของตน เพราะตระกูลหลิวของเขาเหลือทายาทที่จะสืบสกุลอยู่เพียงแค่คนเดียวเท่านั้น!

 

หลิวเหลียงที่ยืนดูการต่อสู้อยู่ก็ถึงกับตกใจจนแทบช็อค เมื่อเห็นว่าพ่อของเขาเป็นฝ่ายพ่ายแพ้ให้กับซุอาน เขาไม่อยากจะเชื่อกับสิ่งที่ได้เห็นจึงได้แต่กรีดร้องออกมาราวกับคนคลุ้มคลั่ง!

“ไม่นะ! ไม่… พ่อ.. พ่อแพ้มันได้ยังไง?”

หลิวเหลียงกรีดร้องออกมาด้วยความโกรธแค้น และวิ่งตรงเข้าหาซูอานอย่างคลุ้มคลั่ง แต่ซูอานกลับยกเท้าเตะเข้าที่ร่างของหลิวเหลียงจนสลบไป..

“อย่า.. อย่าฆ่าลูกชายของฉันเลย!”

 

ซูอานเพียงแค่ยิ้มออกมา และเอ่ยปากตอบ เพราะสําหรับเขาแล้วคําขอร้องของหลิวเตานับว่าเป็นเรื่องที่น่าขบขันยิ่งนัก

หลิวเตาจะรู้สึกท้อแท้หมดหวัง แม้เขาจะรู้ดีว่าผลลัพธ์ของการเป็นผู้แพ้ย่อมต้องเป็นเช่นนี้ แต่เขาก็ไม่อาจทนเห็นลูกชายคนเดียวของตนเองถูกฆ่าตายได้

 

“ข้ารับปากเจ้าจะไม่ฆ่าเขา!”

 

แต่กลับคิดไม่ถึงว่าในที่สุดซูอานจะเอ่ยออกมาและคําพูดของเขาก็ทําให้หลิวเตาดีอกดีใจอย่างมาก ใบหน้าเละเทะจนน่ากลัวของหลิวเตาผงกขึ้นลงพร้อมกับเอ่ยออกไปด้วยเสียงที่ไร้เรี่ยวแรง

“ขอบคุณ.. ขอบคุณ!”

“เจ้าไม่จําเป็นต้องขอบคุณข้า! เพราะข้าจะให้เจ้านําทรัพย์สินทั้งหมดของตนเอง มาแลกกับชีวิตของลูกชายเจ้า ข้าขอย้ําว่า.. ทั้งหมดคือไม่เหลืออะไรเลย!”

หลิวเตาเข้าใจดี และเพื่อรักษาชีวิตของลูกชายคนเดียวไว้ เขายอมต้องตกลง!

 

“แต่ความจริงแล้วเจ้าจะตกลง หรือไม่ตกลง ทรัพย์สินของเจ้าก็ย่อมต้องตกเป็นของข้าอยู่ดี!”

หลิวเตายิ้มอย่างเข้าใจดี เพราะหากซูอานบุกไปบ้านสกุลหลิวมีใครบ้างที่จะสามารถต้านทานเขาได้..

 

ซูอานพูดเพียงแค่นั้นก็เดินตรงเข้าไปหาหลิวเตา เขาเหลือบมองเพียงแค่เล็กน้อย ก่อนจะเอื้อมมือไปกําที่ลําคอของหลิวเตาไว้พร้อมกับบิดอย่างแรงและในที่สุดร่างของหลิวเตาก็สิ้นใจตายทันที!

 

ผู้คนที่อยู่ในบิรเวณนั้นต่างก็ร่างกายสั่นเทิ้มด้วยความหวาดกลัวอีกครั้งและครั้งนี้บางคนถึงกับฉ่ราดกางเกง และกลัวจนขนหัวลุกชัน..

 

พวกเขาพูดจาเยาะเย้ยถากถางซูอานถึงสองครั้งสองคราจึงคิดว่าซูอานจะไม่ยอมปล่อยพวกตนไปแน่ๆด้วยเหตุนี้หนึ่งในนั้นจึงรีบร้องตะโกนออกไปว่า

“ พ่อหนุ่ม อํานาจอิทธิพลของพวกเราทั้งหมดในที่นี้รวมกันก็เกินครึ่งเมืองแล้วถ้าเธอฆ่าพวกเราตายหมดพร้อมกันไม่เพียงตํารวจจะปล่อยเธอไว้แต่วงการผู้ฝึกยุทธยังจะต้องสั่นคลอนมากอี กด้วย”

ซูอานยิ้มหยันพร้อมกับถามขึ้นว่า “งั้นรึ?”

ซูอานพูดได้เพียงแค่นั้น ก็พุ่งฝ่าเท้าของตนเข้าใส่ร่างของชายสูงอายุที่พูดโพล่งขึ้นมานั้นจนล้มลงไปทันทีและไม่รู้ว่าเป็นหรือตายกันแน่!

จากนั้นก็ไม่มีใครกล้าพูดอะไรออกมาอีกเลยแม้แต่คําเดียวเวลานี้ทุกคนทําได้เพียงแค่คุกเข่าลงกับพื้น เป็นการอ้อนวอนขอความเมตตาจากซูอานให้ไว้ชีวิตพวกตน..

ซูอานจ้องมองกลุ่มคนสูงอายุเหล่านั้น แววตาสังหารได้อันตธานหายไปทันทีเขาไม่ต้องการสังหารคนเหล่านี้ เพราะเมื่อครู่เขาจําเป็นต้องเชือดไก่ให้ลิงดูและในเมื่อคนที่สมควรฆ่าก็ฆ่าแล้วเขาจึงไม่ต้องการฆ่าใครอีก..

 

แต่เมื่อคิดอะไรขึ้นมาได้ เขาก็ยิ้มออกมา และถามทุกคนว่า..

 

“พวกเจ้าต้องการมีชีวิตอยู่ต่อ หรือต้องการที่จะตาย?”

 

หลิวเหลียงที่ยืนดูการต่อสู้อยู่ก็ถึงกับตกใจจนแทบช็อคเมื่อเห็นว่าพ่อของเขาเป็นฝ่ายพ่ายแพ้ให้กับซูอาน เขาไม่อยากจะเชื่อกับสิ่งที่ได้เห็นจึงได้แต่กรีดร้องออกมาราวกับคนคลุ้มคลั่ง!

“ไม่นะ! ไม่.. พ่อ พ่อแพ้มันได้ยังไง?”

“ฉันอยากมีชีวิต ฉันไม่อยากตาย!”

 

แต่ละคนในที่นี้ล้วนแล้วแต่เป็นคนที่มีฐานะร่ํารวย และมีหน้ามีตาในสังคม นอกจากจะมีเงินทอง มีกินมีใช้อย่างสบายไม่อดไม่อยากแล้วรอบกายยังมีผู้หญิงมากมาย แล้วพวกเขาจะอยากตายได้ยังไงกันเล่า?

 

“แต่พวกเจ้าทําให้ข้าไม่พอใจ บอกมาว่าจะทําเช่นใด?”

เมื่อได้ยินเช่นนั้น ทุกคนต่างก็พากันก้มลงโขกศรีษะขอโทษซูอานแต่เขากลับตอบไปอย่างไม่แยแส

 

“โขกศรีษะก็ช่วยอะไรไม่ได้ พวกเจ้าควรต้องใช้การขอโทษที่จับต้องได้!”

 

ทุกคนได้แต่งนงง และไม่เข้าใจว่าอะไรคือการขอโทษที่จับต้องได้.. ตัดแขนตัดขาพวกเขาอย่างนั้นหรือ?

แต่แล้วชายสูงอายุคนหนึ่งก็ถามขึ้นว่า “เธอหมายถึงเงินใช่มั้ย?แล้วต้องการเท่าไหร่ล่ะ?”

ระหว่างนั้นหลิวเหลียงก็ฟื้นขึ้นจากอาการสลบเหมือดเมื่อครู่ซูอานจึงหันไปโบกมือไล่พร้อมย้ํากับเขาว่า

 

“เจ้าไปได้แล้ว! แต่อย่าลืมโอนทรัพย์สินทั้งหมดของเจ้ามาให้ข้าภายในหนึ่งเดือน แล้วก็โทรบอกข้าที่เบอร์…”

 

เมื่อสามารถมีชีวิตรอดกลับไปได้อีกครั้ง หลิวเหลียที่เพิ่งได้สติจึงรบวิ่งหนีออกไปทันที โดยไม่สนใจศพของผู้เป็นพ่อเลยแม้แต่

น้อย..

“เห็นหรือไม่ พวกเจ้าสามารถใช้เงินซื้อชีวิตของตนเองได้เ”

 

“แต่ข้าขอเตือนไว้ก่อน พวกเจ้าต้องคิดให้ดีว่าชีวิตของตนเองควรจะมีราคาสักเท่าใด?”

 

ซูอานปรายตามองพร้อมกับพูดต่อว่า “เพราะพวกเจ้าจะมีโอกาสเสนอราคาชีวิตเพียงแค่ครั้งเดียวเท่านั้น และไม่มีโอกาสแก้ตัวเป็นครั้งที่สอง..”

ทุกคนต่างก็พากันนั่งเหงื่อตก เพราะคําพูดของซูอานนั้นไม่ต่างจากคําสาบ ที่สามารคร่าชีวิตของพวกเขาไปได้ทุกเมื่อ

และเวลานี้ทุกคนต่างก็พากันครุ่นคิดอย่างหนักถึงราคาชีวิตของตนเอง!

 

และในระหว่างนั้นเอง ผู้เฒ่าหย่งก็เป็นคนแรกคลานเข่าเข้าไปหาซูอานพร้อมกับพูดเสียงสั่น “ฉัน.. ฉันขอซื้อชีวิตตัวเองด้วยเงินหนึ่งร้อยล้าน!”

ซูอานยิ้มออกมาเล็กน้อยพร้อมกับถามขึ้นว่า “หนึ่งร้อยล้าน?!เจ้าคิดว่าชีวิตของเจ้ามีค่าหนึ่งร้อยล้านงั้นรึ?”

ผู้เฒ่าฉีหย่งถึงกับเหงื่อตก เพราะนั่นเป็นจํานวนเงินที่ครอบครัวเขาสามารถจ่ายได้แล้ว หากเสนอกมากไปกว่านี้ครอบครัวของเขาคงต้องล้มละลายอย่างแน่นอน!

 

ซูอานนิ่งไปครู่หนึ่งจึงตอบกลับไปว่า “ตกลงที่หนึ่งร้อยล้าน!ภายในหนึ่งเดือนเจ้าต้องจัดการโอนเงินให้กับข้า หากล่าช้า ข้าจะ ให้เจ้าจ่ายทั้งต้นทั้งดอก!”

 

ผู้เฒ่าฉีหย่งยิ้มออกมาอย่างดีใจพร้อมตอบกลับไปทันที “ฉันจะรีบจัดการทันที!”

 

“งั้นเจ้าก็ไปได้แล้ว!”

 

ทันทีที่ซูอานอนุญาต ชายชราก็รีบลุกขึ้น และหายไปภายในเวลาอันรวดเร็ว!

 

หลังจากนั้นคนอื่นๆ ก็พากันเสนอราคาชีวิตของตนเอง

“พวกเจ้ากลับไปได้ แต่อย่าลืมว่าต้องโอนเงินทั้งหมดให้กับข้าภายในหนึ่งเดือน และหากผู้ใดกล้าบิดพริ้ว ข้าจะให้มันจ่ายดอกเบี้ยย้อนหลัง!”

หลังจากนั้นทุกคนต่างก็พากันหนีกลับออกไปอย่างรวดเร็ว ไม่มีใครอยากจะอยู่บนเขาอีกแม้แต่วินาทีเดียว..

 

ซูอานได้แต่พยักหน้ายิ้มๆ เพราะเงินจํานวนนี้มากพอที่จะให้เขานําไปซื้อบ้านและรถได้อย่างสบายๆ

 

และเวลานี้ก็เหลือเพียงซูอานกับซันกเท่านั้น ซันกูได้แต่เอ่ยถามออกไปว่า “คุณชายซู แล้วถ้าพวกเขาเบี้ยวท่านล่ะ?”

ซูอานแสยะยิ้มอย่างน่ากลัว และตอบเพียงแค่ว่า “ถ้าพวกมันกล้า ก็ต้องจ่ายดอกเบี้ยยังไงล่ะ และข้าจะเป็นคนไปเก็บดอกเบี้ยด้วยตัวเองเชียวล่ะ!”

ซันกูเห็นสีหน้าและน้ําเสียงที่น่ากลัวของซันกู ก็ไม่กล้าเอ่ยถามอะไรอีก และได้แต่คิดในใจว่า หากคนพวกนั้นกล้าบิดพริ้วจริงๆ พวกเขาคงต้องจ่ายหนักกว่าเดิมแน่!

 

“เอาล่ะ! พวกเราไปยังบ่อโลหิตมังกรได้แล้ว”

 

ระยะทางเพียงแค่สามกิโลเมตร ทั้งสองคนออกเดินทางอีกเพียงแค่ครู่เดียวก็ถึงแล้ว และเวลานี้ทั้งคู่ก็กําลังยืนอยู่บนหน้าผาที่มีต้นสนถูกเผาเหลือแต่ตออยู่มากมาย

“คุณชายซู ทางเข้าดูเหมือนจะถูกคนปิดล้อมไว้หมด!”

ซันกร้องบอกพร้อมกับยกมือขึ้นชี้ไปทางด้านหน้า ซึ่งเวลานี้มีชายฉกรรจ์นับสิบคนยืนขวางทางไว้

 

“ข้าต้องการเข้าไปยังบ่อโลหิตมังกร ผู้ใดก็ขวางข้าไม่ได้!”

 

ซูอานเดินตรงไปด้านหน้าพร้อมกับร้องตะโกนออกมาโดยไม่ใส่ใจกับกลุ่มชายฉกรรจ์ที่อยู่ตรงหน้าเลยแม้แต่น้อย

ซันกูลังเลเล็กน้อย แต่แล้วก็คิดในใจว่า “ยังจะต้องกลัวอะไรกันอีกด้านหน้าเป็นคุณชายซู ใครจะกล้าทําอะไร?

ซันกูยืดอกพร้อมกับเดินตามซูอานไปทันที..

 

ชายสวมชุดดําและแว่นกันแดดเดินสายอาดๆเข้ามาหาซูอานพร้อมกับพูดขึ้นว่า “ถ้ายังไม่อยากตายก็รีบออกไปจากที่นี่ซะ!”

 

ซูอานหันไปทางซันกู และสายตาของเขาก็บอกชัดว่าไม่ต้องการเสียเวลากับมดปลวกพวกนี้

ซันกูเห็นโอกาสที่จะได้แสดงความจงรักภักดีให้ซูอานเห็นจึงรีบก้าวเดินไปข้างหน้าทันที เขาจ้องมองบอดี้การ์คนนั้นพร้อมตอบโต้กลับไปทันที “บ่อโลหิตมังกรเป็นของพวกแกตั้งแต่เมื่อไหร่กัน? ทําไมพวกเราจะเข้าไปไม่ได้?”

 

แต่ซูอานกลับไม่สนใจบอดี้การ์ดกลุ่มนี้เลยแม้แต่น้อย เขาหันไปบอกกับซันกว่า “ซันกู เจ้าติดตามข้ามาตั้งนาน ยังไม่เรียนรู้อีกว่าความสําคัญอีกหนึ่งเรื่องคือต้องรู้จักไม่แยแสกับเรื่องไร้สาระ!”

 

และยังไม่ทันที่ซันกูจะตอบอะไร ซูอานที่อยู่ห่างถึงสามหรือสี่เมตา ก็กระโดดเตะเข้าที่ใบหน้าของบอดี้การ์ดคนนั้นจนเลือดอาบเต็มหน้าและล้มไปกองกับพื้นทันที

ขันกูถึงกับเหงื่อตกในขณะที่ซูอานถามขึ้นว่า “เจ้าเรียนรู้บ้างหรือยัง?”

 

“ครับ.. ครับ…” ซันกูได้แต่พยักหน้าหงักๆ

ส่วนบอดี้การ์ดคนอื่นๆ ที่เห็นซูอานทําร้ายเพื่อนของตนเช่นนั้นจึงรีบกรูกันเข้ามาล้อมซูอานไว้ทันที แต่ละคนล้วนเป็นชายฉกรรจ์รู ปร่างแข็งแกร่งและสักรูปงูดําไว้ที่ลําคอ ใบหน้าของแต่ละคนดูดร้ายทั้งสิ้น

“น่ารําคาญชะมัด! จัดการฆ่าพวกมันสองคน?”

สิ้นเสียงออกคําสั่งของผู้ที่เป็นหัวหน้า คนอื่นๆก็พากันหยิบมีดออกมาเพื่อหมายที่จะสังหารซูอานก่อน

 

ซูอานหันไปบอกซันกว่า “ครั้งนี้อย่าให้ข้าผิดหวังล่ะ!”

 

ซันกพุ่งเข้าจัดการกับบอดี้การ์กลุ่มนี้โดยไม่เสียเวลาพูดจาอีกและเพียงประเดี๋ยวเดียว ก็สามารถจัดการพวกมันจนแขนหักไปตามๆกันได้

ซูอานพยักหน้าอย่างพอใจ ก่อนจะส่งกําปั้นของตนเองเข้ากับร่างของบอดี้การ์ดอีกสองคนที่พุ่งเข้ามา จนลอยละลิ่วออกไปก่อนจะร่วงลงพื้น

และเพียงแค่ประเดี๋ยวเดียว บอดี้การ์ดสิบกว่าคนก็ถูกซูอานกับซันกูจัดการจนลงไปนอนเกลือกกลิ้ง และร้องครวญครางด้วยความ เจ็บปวด

 

แต่แล้วบอดี้การ์คนหนึ่งก็หยิบปืนพกออกมา และเล็งไปทางซูอานและหากเขาลั่นไกซูอานต้องตายอย่างแน่นอน!

 

ต่อให้จะมีวรยุทธสูงส่งมากเพียงใด แต่ก็ยากที่จะชนะลูกปืนได้ซันกูถึงกับตกตะลึง เขาเองยังไม่อยากตาย จึงได้แต่ยกมือทั้งสองข้างชูขึ้นฟ้า

“แกก็ยกมือขึ้นด้วย!” ชายฉกรรจ์ที่ถือปืนร้องตะโกนบอกซูอานด้วยความโมโห

 

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+