ย้อนชีวิตพิชิตเซียน 70 : บุหงาห้าสี

Now you are reading ย้อนชีวิตพิชิตเซียน Chapter 70 : บุหงาห้าสี at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

นิยายย้อนชีวิตพิชิตเซียนย้อนชีวิตพิชิตเซียน – บทที่ 70 : บุหงาห้าสี

บทที่ 70 : บุหงาห้าสี

ในระหว่างที่จ้องมองภาพของซูอานที่ถูกเปลวเพลิงลุกท่วมตัวนั้น เหอหลิงซีได้แต่คิดใคร่ครวญอย่างหนักหากปู่ของเธอเสียชีวิตลงจริงๆตระกูลเหอคงต้องแตกแยกไม่เป็นปึกแผ่นเหมือนที่ผ่านมา และตัวเธอเองก็ไม่รู้ว่าจะถูกเฉดหัวออกมาหรือไม่?

แต่ในเมื่อเธอไม่สามารถเปลี่ยนแปลงอะไรได้การรักษาชีวิตไว้ก็น่าจะดีกว่าต้องเอาชีวิตมาทิ้งที่นี่!

เหอหลิงซีจ้องมองเปลวไฟที่พวยพุ่งออกจากปากใหญ่ของงูมังกร ในที่สุดก็โบกมือให้ทุกคนรีบอพยพหนีไปทันที!

แต่ในระหว่างที่เหอหลิงซีกับบอดี้การ์ดทั้งสองกําลังอพยพหนีเอาตัวรอดไปนั้นร่างของซูอานก็พุ่งออกมาจากเปลวเพลิงที่ลุกโชน ซันกร้องอุทานออกมาด้วยความตื่นเต้นดีใจ

“คุณชายซู นี่คุณยังไม่ตายอีกเหรอ?”

“.. เปลวไฟแค่นี้ทําอะไรข้าไม่ได้หรอก!”

ซูอานที่ถูกเปลวไฟแผดเผาเสื้อผ้าจนมอดไหม้เหลือเพียงร่างเปลือยเปล่าร้องตะโกนออกมาแต่เขาหาได้ใส่ใจกับสภาพของตนเองไม่เพราะสิ่งสําคัญที่สุดเวลานี้ก็คือการจัดการกับเจ้างูยักษ์ ตนนี้ต่างหาก..

“นี่เจ้าสัตว์แสนซน ข้าปล่อยให้เจ้าระบายความโกรธมามากพอแล้ว คราวนี้เป็นที่ของข้าบ้าง!”

ซูอานพุ่งตรงเข้าใส่ร่างของงูมังกรอีกครั้งฝ่ามือขวาของเขาที่มีแสงสีทองสุกสว่างออกมานั้นพุ่งเข้าใส่ร่างของเจ้างูยักษ์ราวกับมีดที่แหลมคม

“ฝ่ามือลมปราณ..”

ฝ่ามือขวาเปล่งประกายสีทองของซูอานนั้นไม่ต่างจากใบมีดคมกริบที่ฟันเข้าใส่ลําตัวของเจ้างูยักษ์อย่างรุนแรง

งูมังกรนั้นมั่นใจว่าเกล็ดที่แข็งแกร่งของมันจะสามารถต้านทานได้ จึงไม่ทันได้หลบฝ่ามือของซูอาน..

แต่ครั้งนี้นับว่าเจ้างูยักษ์คิดผิดอย่างมากเพราะประเมินพลังฝ่ามือลมปราณของซูอานต่ําจนเกินไปครั้งนี้ซูอานระดมพลังชีวิตทั้งหมดในร่างของตนไปไว้ ที่ฝ่ามือต่อให้เกล็ดของมันแกร่งดั่งเพชรซูอานก็สามารถตัดขาดได้อย่างง่ายดาย

ร่างของงูมังกรที่ถูกฝ่ามือของซูอานฟันจนเกือบจะขาดครึ่งนั้น ค่อยๆอ่อนยวบลงไปใต้ผิวน้ําซูอานกระโดดขึ้นไปยืนบนพื้นพร้อมกับจ้องมองไปยังบ่อโลหิตมังกรด้วยแววตาดุดัน

และเวลานี้ บ่อโลหิตมังกรได้เกิดคลื่นขนาดใหญ่ขึ้นอีกหลายระรอกและน้ําในบ่อก็กลายเป็นสีแดงที่เข้มขึ้นยิ่งกว่าเดิมและนี่คือการดิ้นเฮือกสุดท้ายของเจ้าอสูรยักษ์ก่อนจะสิ้นใจตายในที่สุด..

หลังจากที่บ่อโลหิตมังกรกลับคืนสู่ความสงบนิ่งอีกครั้งซูอานจึงหันไปบอกกับซันกว่า“เจ้ารอข้าอยู่ที่นี่ข้าจะลงไปสํารวจดูด้านล่าง..”

ซันกูพยักหน้าพร้อมกับร้องตะโกนบอกซูอาน“ระวังตัวด้วยล่ะ!”

นั่นเพราะชะตากรรมของซูอานก็เป็นเรียบเสมือนชะตากรรมของเขาเองหากซูอานตายไปเขาจะหายาแก้พิษได้จากที่ไหนกันเล่า?

ซูอานดําดิ่งลงไปใต้บ่อมังกรและพบเลือดที่พวยพุ่งราวกับน้ําพุออกมาจากร่างของเจ้างูยักษ์อีกสองามครั้งก่อนที่มันจะสงบแน่นิ่งไป..

เวลานี้ภายในบ่อโลหิตมังกรแดงเถือกไปด้วยเลือดของอสูรยักษ์ และกลิ่นคาวเลือดก็คละคลุ้งไปทั่วท้องน้ําแต่นั่นไม่สามารถหยุดซูอานได้..

ลมหายใจเฮือกใหญ่ที่ซูอานสูดเข้าปอดไปก่อนที่จะดําลงไปใต้น้ํานั้นสามารถทําให้เขาอยู่ด้านล่างได้นานราวครึ่งชั่วโมงโดยที่ไม่ต้องโผล่ขึ้นมาหายใจเอาอากาศด้านบนเข้าไปอีก

แต่บ่อโลหิตมังกรแห่งนี้ก็นับว่าลึกมากซูอานเองก็ไม่มั่นใจว่าเขาจะสามารถดําไปถึงกันบ่อได้ในคราวเดียวหรือไม่?

ระหว่างทางที่ดําดิ่งลงไปนั้นแรงดันน้ําไม่ใช่ปัญหาสําหรับซูอานเลยแม้แต่น้อยเพราะร่างกายของเขาเวลานี้เหนือกว่าคนธรรมดาหลายเท่านักแต่ถึงกระนั้นร่างกายของเขาก็ไม่ได้แข็งแกร่งเช่นเดียวกับเกล็ดของเจ้างูยักษ์ตนนี้กระสุนยังสามารถทะลุเนื้อเข้าไปในร่างได้..

ซูอานดําดิ่งลงไปนานราวห้านาทีในที่สุดเขาก็พบร่างของเจ้างูยักษ์นอนพาดอยู่บนหินใหญ่โตก้อนหนึ่งเขาจึงว่ายตรงไปยังศรีษะของมันและใช้ฝ่ามือที่คม ราวกับมีดของตนเองนั้นตัดศรีษะของมันออกจากนั้นจึงล้วงเอาแกนอสูรที่มีขนาดเท่าไข่ห่านออกมา..

นับว่าเป็นความโชคดีอย่างมากของซูอานสัตว์อสูรทุกตัวที่จําศีลมาเป็นระยะเวลานานระดับหนึ่งภายในร่างของมันจะมีแกนอสูรปรากฏขึ้น

ลักษณะของแกนอสูรนั้นจะมีลักษณะคล้ายผลึกใสและมีประกายสี แดงเจิดจ้าซูอานตั้งใจว่าจะใช้แกนอสูรนี้สร้างค่ายกลกักเก็บพลัง..

หลังจากได้แกนอสูรมาแล้วซูอานยังคงดําดิ่งลงไปอีกราวสิบนาที แต่ก็ยังไม่ถึงกันบ่อเสียที่ซูอานยังคงดําลงไปต่ออีกราวห้านาทีก็พบว่าน้ําบริเวณนั้นเริ่มขู่มมากและมีทรายลอยอยู่เต็มไปหมดทําให้เขารู้ว่าเวลานี้ตนเองอยู่ห่างจากนสระไม่ไกลนักแล้ว

ซูอานเร่งความเร็วในการดําเพิ่มขึ้นและเวลานี้เท้าของเขาก็เหยียบเข้ากับผืนทรายด้านล่างและร่างก็จมลงไปในนั้นเกือบครึ่งตัว

ซูอานเร่งระดมพลังชีวิตภายในร่างเพื่อสํารวจดูรอบๆกันบ่อและด้วยอานุภาพของพลังชีวิตทําให้ประสาทสัมผัสทั้งห้าของเขาขยายการรับรู้ไปได้ไกลถึงหนึ่งกิโลเมตรแต่ในระหว่างที่สํารวจอยู่ นั้น และใกล้ถึงจุดที่ซูอานไม่สามารถกลั้นหายใจได้อีกต่อไปแล้ว เขาก็พบกับบางสิ่งบางอย่างที่ปลดปล่อยพลังชีวิตออกมาอย่างหนาแน่นซูอานจึงรีบว่ายตรงเข้าไปหาและพบว่ามันคือพืชชนิด หนึ่งที่มีขนาดเท่าฝ่ามือของตน

พืชชนิดนี้มีหน้าลักษณะกับกล้วยไม้แต่ก็ดูเหมือนจะไม่ใช่กล้วยไม้ เพราะภายในหนึ่งต้นกลับมีดอกที่แตกต่างกันถึงห้ารูปแบบและแต่ละดอกก็มีสีที่แตกต่างกันถึงห้าสีอีกด้วย..

เวลานี้ลมหายใจของซูอานเหลือน้อยเต็มที่แล้วและเขาก็รู้ได้ว่าพืชนี้คือสมบัติล้ําค่าอย่างมาก!

“บุหงาห้าสีหรอก??!คิดไม่ถึงจริงๆว่าจะสามารถพบบุหงาห้าสีบนโลกใบนี้ได้!”

ดวงตาของซูอานที่จ้องมองบุหงาห้าสีนั้นเปี่ยมไปด้วยความสุขอย่างยิ่งเขาดีรู้ว่าบุหงาห้าสีนี้มีค่ามากกว่ากล้วยไม้หวายเพียงใด?

ซูอานค่อยๆเอื้อมมือไปถอนต้นบุหงาห้าสีมาอย่างระมัดระวังและเสียบไว้ในกระเป๋าเสื้อก่อนจะรีบว่ายขึ้นไปยังผิวน้ําทันที!

ทางด้านซันกที่ยืนคอยซูอานอยู่ริมฝั่งนั้นเมื่อเห็นผิวน้ําที่สงบนิ่งเริ่มกระเพื่อมขึ้นลงเขาก็ถึงกับถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก เพราะรู้ว่าซูอานกําลังว่ายกลับขึ้นสู่ผิวน้ําแล้ว

หลังจากที่ขึ้นฝั่งมาได้แล้วซูอานกหยิบเอาน้ําเปล่าที่อยู่ในชามขึ้นมาล้างหน้าล้างตาแล้วจึงหันไปบอกกับซันกว่า“พวกเรากลับกันดีกว่า!”

“คุณชายซูท่านได้อะไรมาบ้างมั้ย?”

ซันกูเอ่ยถามขึ้นด้วยแววตาเป็นประกายและสีหน้าของเขาก็บ่งบอกถึงความอยากรู้อยากเห็น..

ซูอานเพียงแค่พยักหน้าขณะที่เดินไป

ตามทาง.ซูอานไม่สามารถพูดอะไรออกมาได้มากนักเพราะสิ่งที่เขาได้มานั้นหากแพร่สะพรัดออกไปก็จะเป็นอันตรายต่อตัวเขาเองด้วย

ตอนนี้ซูอานเข้าใจแล้วว่าเหตุใดเจ้างมังกรจึงเอาแต่ซ่อนตัวอยู่ใต้บ่อและขึ้นมาผิวน้ําเป็นบางครั้งบางคราวเท่านั้นหรือเมื่อขึ้นมาก็จะรีบกลับลงไปกันบ่อทันที

นั่นเพราะเมื่อใดก็ตามที่บุหงาห้าสีนี้เบ่งบานเต็มที่เมื่อนั้นพลังชีวิตของมันก็จะแข็งแกร่งอย่างที่สุดหากงมังกรตนนี้ได้กลืนกินบุหงาห้าสีที่เบ่งบานเต็มที่นี้เข้าไปในร่างมันก็จะได้รับประโยชน์อย่างมากมายมหาศาลเลยทีเดียว

แต่น่าเสียดายที่งมังกรไม่มีโอกาสนั้นเสียแล้วเพราะซูอานได้ฉกฉวยโอกาสนั้นมาให้กับตนเองเขาเชื่อว่าบุหงาห้าสีนี้จะช่วยให้การบ่มเพาะพลังของเขาก้าวหน้าขึ้นอย่างน่าอัศจรรย์และจะต้องสามารถเข้าสู่ขั้นโฮ่วเทียนได้ในเวลาอันรวดเร็ว!

อีกทั้งในการสร้างค่ายกลกักเก็บพลังนั้นบุหงาห้าสีนี้ยังจะเป็นแหล่งพลังชีวิตที่สําคัญของค่ายกลนี้อีกด้วย

ซันกูไม่อาจสะกดกั้นความอยากรู้อยากเห็นของตนเองไว้ได้อีกจึงได้แต่ร้องถามซูอานออกมาทันที

“คุณชายซู สมบัติที่ว่ามันคืออะไรเหรอครับ?”

ซูอานตอบกลับเสียงเบา “มันก็เป็นแค่สมุนไพรพลังชีวิตชนิดหนึ่ง ที่สามารถช่วยให้การบ่มเพาะพลังเป็นก้าวหน้าได้รวดเร็วขึ้น..”

ซันกูถึงกับหายใจถี่ด้วยความตื่นเต้นถึงแม้ว่าซูอานจะพูดราวกับว่าสิ่งนี้ไม่ใช่ของล้ําค่าอะไรนักแต่เขากลับไม่เชื่อเช่นนั้นและรู้ว่ามันจะต้องสมบัติที่ล้ําค่ามากอย่างแน่นอน!

“คุณชายซู.. คือว่า.. คือ..”

ซันกลังเลเล็กน้อย และพยายามที่จะถามถึงเรื่องส่วนแบ่งแต่ก็ไม่กล้าที่จะถามออกไปตรงๆจึงได้แต่อําๆอึ้งๆอยู่เช่นนั้น

ซูอานหันไปมองซันกูอย่างรู้ใจเขายิ้มออกมาเล็กน้อยก่อนจะพูดขึ้นว่า “เจ้าอย่าได้กังวลใจไปเลยเจ้าติดตามข้าเช่นนี้ย่อมไม่เสียเปล่าแน่ ข้าไม่ลืมเรื่องส่วนแบ่งของเจ้าหรอกน่า..”

ซันกพยักหน้าหงักๆทันที และยิ่งรู้สึกเคารพซูอานมากกว่าเดิม การติดตามซู อานมีแต่ได้กับได้เช่นนี้มีหรือที่เขาจะไม่ต้องการ
ทั้งคู่เดินตามทางขึ้นมาบนหน้าผาแต่ก็พบว่าเหอหลิงซีและคนอื่นๆไม่อยู่ที่นั่นแล้วซันกจึงได้แต่ร้องออกมาด้วยความโมโห

“คุณชายซูคนพวกนั้นหนีเอาตัวรอดไปก่อนแล้ว!”

“พวกเขาหนีไปก็ยิ่งดีพวกเราก็จะได้หนีพวกเขาไปบ้างรีบๆเดินทางเร็วเข้า!”

“ครับคุณชาย!”

ซูอานหาได้สนใจเหอหลิงซีอีกเวลานี้เขาห่วงแต่บุหงาห้าสีในกระเป๋าเป้ของตนเองเท่านั้นเขาจําเป็นต้องเร่งฝีเท้าในการเดินทางเพราะเหลือเวลาอีกไม่มากนักที่บุเหงาห้าสีจะเบ่งบานเต็มที่ และเมื่อใดที่มันเบ่งบานก็จะต้องเร่งกลั่นให้เป็นของเหลว..

ก่อนนําบุหงาห้าสีเก็บเข้าไปในกระเป๋าเป้ของตนเองนั้นอานได้จัดการถ่ายเทพลังชีวิตในร่างห่อหุ้มมันไว้ก่อนแล้วเพราะบุหงาห้าสีที่ถูกถอนมาเช่นนี้หากไร้ซึ่งพลังชีวิตห่อหุ้มมันก็จะเหี่ยวเฉาใน ทันที

เวลานี้ซูอานจึงเร่งฝีเท้าเดินออกจากป่าเร็วกว่าเมื่อครั้งเดินทางเข้ามาเสียอีกทําให้ซันกเหน็ดเหนื่อยจนแทบหมดเรี่ยวแรง
แต่พวกเขาทั้งคู่ก็ไม่สามารถไปได้ไกลกว่านั้นเพราะเหอหลิงซีกําลังยืนรออยู่พอดี..

เหอหลิงซีกับบอดี้การ์ดทั้งสองหนี ออกมาจากบ่อโลหิตมังกรเพียงแค่สามกิ โลเมตรเท่านั้น ทั้งสามคนตั้งใจว่าจะรอ อยู่ที่นั่นต่ออีกสักครู่ แล้วจึงค่อยเดินทางกลับออกไป แต่คิดไม่ถึงว่าซูอานจะสา มารถเอาชีวิตรอดกลับมาได้..

เหอหลิงซีเห็นหน้าซูอานก็ถึงกับร้อง อุทานออกมาด้วยความตกใจ “นี่คุณยัง ไม่ตายเหรอนี่?!”

“ไฟแค่นั้นจะทําอะไรข้าได้!” ซูอานตอบกลับด้วยสีหน้าเรียบเฉย
ดวงตากลมโตของเหอหลิงซีกรอกไปมาและกําลังสงสัยว่าซูอานน่าจะฆ่างูยักษ์ตัวนั้นได้แล้วหากเขาสามารถฆ่างูนั่นได้จริงก็หมายความว่าเขาจะต้องได้สมบัติล้ําค่าที่อยู่ใต้บ่อโลหิตมังกรกลับ มาด้วย

“คุณชายซู คุณเป็นยอดฝีมือที่เก่งกาจ มากจริงๆคุณคงจะฆ่าเจ้างูยักษ์ตัวนั้นตายแล้วสินะถึงได้กลับออกมาอย่างปลอดภัยแบบนี้!”

ซันกูอยากจะโกหกไปว่า พวกเขาหนีเอาตัวรอดออกมาต่างหาก แต่เมื่อเห็นสไนเปอร์ในมือของบอดี้การ์ดเขาจึงไม่กล้าพูดออกไป

ซูอานหรี่ตาอย่างระมัดระวังตัวก่อนจะตอบกลับไปยิ้มๆ“ถูกต้อง! งูมังกรตนนั้นถูกข้าฆ่าตายแล้ว!”

ซันกหันไปมองซูอานด้วยความตกใจในขณะเดียวกันก็พยายามขยิบตาให้อานหยุดพูดแต่ซูอานไม่สนใจ..

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

ย้อนชีวิตพิชิตเซียน 70 : บุหงาห้าสี

Now you are reading ย้อนชีวิตพิชิตเซียน Chapter 70 : บุหงาห้าสี at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

นิยายย้อนชีวิตพิชิตเซียนย้อนชีวิตพิชิตเซียน – บทที่ 70 : บุหงาห้าสี

บทที่ 70 : บุหงาห้าสี

ในระหว่างที่จ้องมองภาพของซูอานที่ถูกเปลวเพลิงลุกท่วมตัวนั้น เหอหลิงซีได้แต่คิดใคร่ครวญอย่างหนักหากปู่ของเธอเสียชีวิตลงจริงๆตระกูลเหอคงต้องแตกแยกไม่เป็นปึกแผ่นเหมือนที่ผ่านมา และตัวเธอเองก็ไม่รู้ว่าจะถูกเฉดหัวออกมาหรือไม่?

แต่ในเมื่อเธอไม่สามารถเปลี่ยนแปลงอะไรได้การรักษาชีวิตไว้ก็น่าจะดีกว่าต้องเอาชีวิตมาทิ้งที่นี่!

เหอหลิงซีจ้องมองเปลวไฟที่พวยพุ่งออกจากปากใหญ่ของงูมังกร ในที่สุดก็โบกมือให้ทุกคนรีบอพยพหนีไปทันที!

แต่ในระหว่างที่เหอหลิงซีกับบอดี้การ์ดทั้งสองกําลังอพยพหนีเอาตัวรอดไปนั้นร่างของซูอานก็พุ่งออกมาจากเปลวเพลิงที่ลุกโชน ซันกร้องอุทานออกมาด้วยความตื่นเต้นดีใจ

“คุณชายซู นี่คุณยังไม่ตายอีกเหรอ?”

“.. เปลวไฟแค่นี้ทําอะไรข้าไม่ได้หรอก!”

ซูอานที่ถูกเปลวไฟแผดเผาเสื้อผ้าจนมอดไหม้เหลือเพียงร่างเปลือยเปล่าร้องตะโกนออกมาแต่เขาหาได้ใส่ใจกับสภาพของตนเองไม่เพราะสิ่งสําคัญที่สุดเวลานี้ก็คือการจัดการกับเจ้างูยักษ์ ตนนี้ต่างหาก..

“นี่เจ้าสัตว์แสนซน ข้าปล่อยให้เจ้าระบายความโกรธมามากพอแล้ว คราวนี้เป็นที่ของข้าบ้าง!”

ซูอานพุ่งตรงเข้าใส่ร่างของงูมังกรอีกครั้งฝ่ามือขวาของเขาที่มีแสงสีทองสุกสว่างออกมานั้นพุ่งเข้าใส่ร่างของเจ้างูยักษ์ราวกับมีดที่แหลมคม

“ฝ่ามือลมปราณ..”

ฝ่ามือขวาเปล่งประกายสีทองของซูอานนั้นไม่ต่างจากใบมีดคมกริบที่ฟันเข้าใส่ลําตัวของเจ้างูยักษ์อย่างรุนแรง

งูมังกรนั้นมั่นใจว่าเกล็ดที่แข็งแกร่งของมันจะสามารถต้านทานได้ จึงไม่ทันได้หลบฝ่ามือของซูอาน..

แต่ครั้งนี้นับว่าเจ้างูยักษ์คิดผิดอย่างมากเพราะประเมินพลังฝ่ามือลมปราณของซูอานต่ําจนเกินไปครั้งนี้ซูอานระดมพลังชีวิตทั้งหมดในร่างของตนไปไว้ ที่ฝ่ามือต่อให้เกล็ดของมันแกร่งดั่งเพชรซูอานก็สามารถตัดขาดได้อย่างง่ายดาย

ร่างของงูมังกรที่ถูกฝ่ามือของซูอานฟันจนเกือบจะขาดครึ่งนั้น ค่อยๆอ่อนยวบลงไปใต้ผิวน้ําซูอานกระโดดขึ้นไปยืนบนพื้นพร้อมกับจ้องมองไปยังบ่อโลหิตมังกรด้วยแววตาดุดัน

และเวลานี้ บ่อโลหิตมังกรได้เกิดคลื่นขนาดใหญ่ขึ้นอีกหลายระรอกและน้ําในบ่อก็กลายเป็นสีแดงที่เข้มขึ้นยิ่งกว่าเดิมและนี่คือการดิ้นเฮือกสุดท้ายของเจ้าอสูรยักษ์ก่อนจะสิ้นใจตายในที่สุด..

หลังจากที่บ่อโลหิตมังกรกลับคืนสู่ความสงบนิ่งอีกครั้งซูอานจึงหันไปบอกกับซันกว่า“เจ้ารอข้าอยู่ที่นี่ข้าจะลงไปสํารวจดูด้านล่าง..”

ซันกูพยักหน้าพร้อมกับร้องตะโกนบอกซูอาน“ระวังตัวด้วยล่ะ!”

นั่นเพราะชะตากรรมของซูอานก็เป็นเรียบเสมือนชะตากรรมของเขาเองหากซูอานตายไปเขาจะหายาแก้พิษได้จากที่ไหนกันเล่า?

ซูอานดําดิ่งลงไปใต้บ่อมังกรและพบเลือดที่พวยพุ่งราวกับน้ําพุออกมาจากร่างของเจ้างูยักษ์อีกสองามครั้งก่อนที่มันจะสงบแน่นิ่งไป..

เวลานี้ภายในบ่อโลหิตมังกรแดงเถือกไปด้วยเลือดของอสูรยักษ์ และกลิ่นคาวเลือดก็คละคลุ้งไปทั่วท้องน้ําแต่นั่นไม่สามารถหยุดซูอานได้..

ลมหายใจเฮือกใหญ่ที่ซูอานสูดเข้าปอดไปก่อนที่จะดําลงไปใต้น้ํานั้นสามารถทําให้เขาอยู่ด้านล่างได้นานราวครึ่งชั่วโมงโดยที่ไม่ต้องโผล่ขึ้นมาหายใจเอาอากาศด้านบนเข้าไปอีก

แต่บ่อโลหิตมังกรแห่งนี้ก็นับว่าลึกมากซูอานเองก็ไม่มั่นใจว่าเขาจะสามารถดําไปถึงกันบ่อได้ในคราวเดียวหรือไม่?

ระหว่างทางที่ดําดิ่งลงไปนั้นแรงดันน้ําไม่ใช่ปัญหาสําหรับซูอานเลยแม้แต่น้อยเพราะร่างกายของเขาเวลานี้เหนือกว่าคนธรรมดาหลายเท่านักแต่ถึงกระนั้นร่างกายของเขาก็ไม่ได้แข็งแกร่งเช่นเดียวกับเกล็ดของเจ้างูยักษ์ตนนี้กระสุนยังสามารถทะลุเนื้อเข้าไปในร่างได้..

ซูอานดําดิ่งลงไปนานราวห้านาทีในที่สุดเขาก็พบร่างของเจ้างูยักษ์นอนพาดอยู่บนหินใหญ่โตก้อนหนึ่งเขาจึงว่ายตรงไปยังศรีษะของมันและใช้ฝ่ามือที่คม ราวกับมีดของตนเองนั้นตัดศรีษะของมันออกจากนั้นจึงล้วงเอาแกนอสูรที่มีขนาดเท่าไข่ห่านออกมา..

นับว่าเป็นความโชคดีอย่างมากของซูอานสัตว์อสูรทุกตัวที่จําศีลมาเป็นระยะเวลานานระดับหนึ่งภายในร่างของมันจะมีแกนอสูรปรากฏขึ้น

ลักษณะของแกนอสูรนั้นจะมีลักษณะคล้ายผลึกใสและมีประกายสี แดงเจิดจ้าซูอานตั้งใจว่าจะใช้แกนอสูรนี้สร้างค่ายกลกักเก็บพลัง..

หลังจากได้แกนอสูรมาแล้วซูอานยังคงดําดิ่งลงไปอีกราวสิบนาที แต่ก็ยังไม่ถึงกันบ่อเสียที่ซูอานยังคงดําลงไปต่ออีกราวห้านาทีก็พบว่าน้ําบริเวณนั้นเริ่มขู่มมากและมีทรายลอยอยู่เต็มไปหมดทําให้เขารู้ว่าเวลานี้ตนเองอยู่ห่างจากนสระไม่ไกลนักแล้ว

ซูอานเร่งความเร็วในการดําเพิ่มขึ้นและเวลานี้เท้าของเขาก็เหยียบเข้ากับผืนทรายด้านล่างและร่างก็จมลงไปในนั้นเกือบครึ่งตัว

ซูอานเร่งระดมพลังชีวิตภายในร่างเพื่อสํารวจดูรอบๆกันบ่อและด้วยอานุภาพของพลังชีวิตทําให้ประสาทสัมผัสทั้งห้าของเขาขยายการรับรู้ไปได้ไกลถึงหนึ่งกิโลเมตรแต่ในระหว่างที่สํารวจอยู่ นั้น และใกล้ถึงจุดที่ซูอานไม่สามารถกลั้นหายใจได้อีกต่อไปแล้ว เขาก็พบกับบางสิ่งบางอย่างที่ปลดปล่อยพลังชีวิตออกมาอย่างหนาแน่นซูอานจึงรีบว่ายตรงเข้าไปหาและพบว่ามันคือพืชชนิด หนึ่งที่มีขนาดเท่าฝ่ามือของตน

พืชชนิดนี้มีหน้าลักษณะกับกล้วยไม้แต่ก็ดูเหมือนจะไม่ใช่กล้วยไม้ เพราะภายในหนึ่งต้นกลับมีดอกที่แตกต่างกันถึงห้ารูปแบบและแต่ละดอกก็มีสีที่แตกต่างกันถึงห้าสีอีกด้วย..

เวลานี้ลมหายใจของซูอานเหลือน้อยเต็มที่แล้วและเขาก็รู้ได้ว่าพืชนี้คือสมบัติล้ําค่าอย่างมาก!

“บุหงาห้าสีหรอก??!คิดไม่ถึงจริงๆว่าจะสามารถพบบุหงาห้าสีบนโลกใบนี้ได้!”

ดวงตาของซูอานที่จ้องมองบุหงาห้าสีนั้นเปี่ยมไปด้วยความสุขอย่างยิ่งเขาดีรู้ว่าบุหงาห้าสีนี้มีค่ามากกว่ากล้วยไม้หวายเพียงใด?

ซูอานค่อยๆเอื้อมมือไปถอนต้นบุหงาห้าสีมาอย่างระมัดระวังและเสียบไว้ในกระเป๋าเสื้อก่อนจะรีบว่ายขึ้นไปยังผิวน้ําทันที!

ทางด้านซันกที่ยืนคอยซูอานอยู่ริมฝั่งนั้นเมื่อเห็นผิวน้ําที่สงบนิ่งเริ่มกระเพื่อมขึ้นลงเขาก็ถึงกับถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก เพราะรู้ว่าซูอานกําลังว่ายกลับขึ้นสู่ผิวน้ําแล้ว

หลังจากที่ขึ้นฝั่งมาได้แล้วซูอานกหยิบเอาน้ําเปล่าที่อยู่ในชามขึ้นมาล้างหน้าล้างตาแล้วจึงหันไปบอกกับซันกว่า“พวกเรากลับกันดีกว่า!”

“คุณชายซูท่านได้อะไรมาบ้างมั้ย?”

ซันกูเอ่ยถามขึ้นด้วยแววตาเป็นประกายและสีหน้าของเขาก็บ่งบอกถึงความอยากรู้อยากเห็น..

ซูอานเพียงแค่พยักหน้าขณะที่เดินไป

ตามทาง.ซูอานไม่สามารถพูดอะไรออกมาได้มากนักเพราะสิ่งที่เขาได้มานั้นหากแพร่สะพรัดออกไปก็จะเป็นอันตรายต่อตัวเขาเองด้วย

ตอนนี้ซูอานเข้าใจแล้วว่าเหตุใดเจ้างมังกรจึงเอาแต่ซ่อนตัวอยู่ใต้บ่อและขึ้นมาผิวน้ําเป็นบางครั้งบางคราวเท่านั้นหรือเมื่อขึ้นมาก็จะรีบกลับลงไปกันบ่อทันที

นั่นเพราะเมื่อใดก็ตามที่บุหงาห้าสีนี้เบ่งบานเต็มที่เมื่อนั้นพลังชีวิตของมันก็จะแข็งแกร่งอย่างที่สุดหากงมังกรตนนี้ได้กลืนกินบุหงาห้าสีที่เบ่งบานเต็มที่นี้เข้าไปในร่างมันก็จะได้รับประโยชน์อย่างมากมายมหาศาลเลยทีเดียว

แต่น่าเสียดายที่งมังกรไม่มีโอกาสนั้นเสียแล้วเพราะซูอานได้ฉกฉวยโอกาสนั้นมาให้กับตนเองเขาเชื่อว่าบุหงาห้าสีนี้จะช่วยให้การบ่มเพาะพลังของเขาก้าวหน้าขึ้นอย่างน่าอัศจรรย์และจะต้องสามารถเข้าสู่ขั้นโฮ่วเทียนได้ในเวลาอันรวดเร็ว!

อีกทั้งในการสร้างค่ายกลกักเก็บพลังนั้นบุหงาห้าสีนี้ยังจะเป็นแหล่งพลังชีวิตที่สําคัญของค่ายกลนี้อีกด้วย

ซันกูไม่อาจสะกดกั้นความอยากรู้อยากเห็นของตนเองไว้ได้อีกจึงได้แต่ร้องถามซูอานออกมาทันที

“คุณชายซู สมบัติที่ว่ามันคืออะไรเหรอครับ?”

ซูอานตอบกลับเสียงเบา “มันก็เป็นแค่สมุนไพรพลังชีวิตชนิดหนึ่ง ที่สามารถช่วยให้การบ่มเพาะพลังเป็นก้าวหน้าได้รวดเร็วขึ้น..”

ซันกูถึงกับหายใจถี่ด้วยความตื่นเต้นถึงแม้ว่าซูอานจะพูดราวกับว่าสิ่งนี้ไม่ใช่ของล้ําค่าอะไรนักแต่เขากลับไม่เชื่อเช่นนั้นและรู้ว่ามันจะต้องสมบัติที่ล้ําค่ามากอย่างแน่นอน!

“คุณชายซู.. คือว่า.. คือ..”

ซันกลังเลเล็กน้อย และพยายามที่จะถามถึงเรื่องส่วนแบ่งแต่ก็ไม่กล้าที่จะถามออกไปตรงๆจึงได้แต่อําๆอึ้งๆอยู่เช่นนั้น

ซูอานหันไปมองซันกูอย่างรู้ใจเขายิ้มออกมาเล็กน้อยก่อนจะพูดขึ้นว่า “เจ้าอย่าได้กังวลใจไปเลยเจ้าติดตามข้าเช่นนี้ย่อมไม่เสียเปล่าแน่ ข้าไม่ลืมเรื่องส่วนแบ่งของเจ้าหรอกน่า..”

ซันกพยักหน้าหงักๆทันที และยิ่งรู้สึกเคารพซูอานมากกว่าเดิม การติดตามซู อานมีแต่ได้กับได้เช่นนี้มีหรือที่เขาจะไม่ต้องการ
ทั้งคู่เดินตามทางขึ้นมาบนหน้าผาแต่ก็พบว่าเหอหลิงซีและคนอื่นๆไม่อยู่ที่นั่นแล้วซันกจึงได้แต่ร้องออกมาด้วยความโมโห

“คุณชายซูคนพวกนั้นหนีเอาตัวรอดไปก่อนแล้ว!”

“พวกเขาหนีไปก็ยิ่งดีพวกเราก็จะได้หนีพวกเขาไปบ้างรีบๆเดินทางเร็วเข้า!”

“ครับคุณชาย!”

ซูอานหาได้สนใจเหอหลิงซีอีกเวลานี้เขาห่วงแต่บุหงาห้าสีในกระเป๋าเป้ของตนเองเท่านั้นเขาจําเป็นต้องเร่งฝีเท้าในการเดินทางเพราะเหลือเวลาอีกไม่มากนักที่บุเหงาห้าสีจะเบ่งบานเต็มที่ และเมื่อใดที่มันเบ่งบานก็จะต้องเร่งกลั่นให้เป็นของเหลว..

ก่อนนําบุหงาห้าสีเก็บเข้าไปในกระเป๋าเป้ของตนเองนั้นอานได้จัดการถ่ายเทพลังชีวิตในร่างห่อหุ้มมันไว้ก่อนแล้วเพราะบุหงาห้าสีที่ถูกถอนมาเช่นนี้หากไร้ซึ่งพลังชีวิตห่อหุ้มมันก็จะเหี่ยวเฉาใน ทันที

เวลานี้ซูอานจึงเร่งฝีเท้าเดินออกจากป่าเร็วกว่าเมื่อครั้งเดินทางเข้ามาเสียอีกทําให้ซันกเหน็ดเหนื่อยจนแทบหมดเรี่ยวแรง
แต่พวกเขาทั้งคู่ก็ไม่สามารถไปได้ไกลกว่านั้นเพราะเหอหลิงซีกําลังยืนรออยู่พอดี..

เหอหลิงซีกับบอดี้การ์ดทั้งสองหนี ออกมาจากบ่อโลหิตมังกรเพียงแค่สามกิ โลเมตรเท่านั้น ทั้งสามคนตั้งใจว่าจะรอ อยู่ที่นั่นต่ออีกสักครู่ แล้วจึงค่อยเดินทางกลับออกไป แต่คิดไม่ถึงว่าซูอานจะสา มารถเอาชีวิตรอดกลับมาได้..

เหอหลิงซีเห็นหน้าซูอานก็ถึงกับร้อง อุทานออกมาด้วยความตกใจ “นี่คุณยัง ไม่ตายเหรอนี่?!”

“ไฟแค่นั้นจะทําอะไรข้าได้!” ซูอานตอบกลับด้วยสีหน้าเรียบเฉย
ดวงตากลมโตของเหอหลิงซีกรอกไปมาและกําลังสงสัยว่าซูอานน่าจะฆ่างูยักษ์ตัวนั้นได้แล้วหากเขาสามารถฆ่างูนั่นได้จริงก็หมายความว่าเขาจะต้องได้สมบัติล้ําค่าที่อยู่ใต้บ่อโลหิตมังกรกลับ มาด้วย

“คุณชายซู คุณเป็นยอดฝีมือที่เก่งกาจ มากจริงๆคุณคงจะฆ่าเจ้างูยักษ์ตัวนั้นตายแล้วสินะถึงได้กลับออกมาอย่างปลอดภัยแบบนี้!”

ซันกูอยากจะโกหกไปว่า พวกเขาหนีเอาตัวรอดออกมาต่างหาก แต่เมื่อเห็นสไนเปอร์ในมือของบอดี้การ์ดเขาจึงไม่กล้าพูดออกไป

ซูอานหรี่ตาอย่างระมัดระวังตัวก่อนจะตอบกลับไปยิ้มๆ“ถูกต้อง! งูมังกรตนนั้นถูกข้าฆ่าตายแล้ว!”

ซันกหันไปมองซูอานด้วยความตกใจในขณะเดียวกันก็พยายามขยิบตาให้อานหยุดพูดแต่ซูอานไม่สนใจ..

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+