ย้อนเวลากลับมาเป็นเทพยุทธ์ 109

Now you are reading ย้อนเวลากลับมาเป็นเทพยุทธ์ Chapter 109 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.
วัวเหลือง

จิวโมไป๋และพี่น้องทั้งสาม มารวมตัวกันก่อนจะออกเดินหา วัวขั้นที่ 2 ปลาย ที่ตอนนี้ไม่รู้ว่าหายไปไหน ตั้งแต่เริ่มการประลอง

เดินมาไม่นานพวกเขาก็เห็น วัวสีเหลืองขั้นที่ 2 ปลาย กำลังยืนมองมาทางพวกเขานิ่ง ไม่มีท่าทางดุร้ายอีกต่อไป

อูเหวินยกธนูเขียวขจีขึ้น แต่ถูกจิวโมไป๋ยกมือขึ้นห้าม อูเหวินจึงลดธนูลง

จิวโมไป๋มองดวงตาของวัว เขาสังเกตเห็นร่องรอยของสติปัญญา

ต้องรู้ก่อนว่าเมื่อพลังธรรมชาติเพิ่มขึ้นสัตว์ก็แข็งแกร่งขึ้น แต่พวกมันก็ยังเป็นสัตว์อยู่ แต่ในหมู่สัตว์เหล่านี้มีแค่จำนวนน้อยนิดเท่านั้นที่เปิดปัญญากลายเป็นสิ่งมีชีวิตที่มีสติปัญญาสามารถเรียนรู้สิ่งต่างๆได้ ยกตัวอย่างก็คือเสี่ยวไป๋ ที่เขายอมรับมันก็เป็นเพราะมันได้เปิดปัญญาแล้ว เขาสามารถสอนมันได้ ไม่ต้องกลัวว่าในวันหนึ่งมันจะบ้าคลั่งกลายเป็นสัตว์ร้ายขึ้นมา

เมื่อเห็นวัวเหลืองที่ได้เปิดปัญญา เขาไม่อยากจะฆ่ามัน แต่การประลองโครลอสเซียมเทียนหลงจะจบลงต้องมีฝ่ายหนึ่งตาย เขาปล่อยมันไม่ได้

จิวโมไป๋ลังเลอยู่ครู่หนึ่ง ดวงตาของเขาก็เป็นประกาย ไม่รอช้าเขาเดินไปหาวัวเหลือง ซึ่งมันก็ยืนนิ่งไม่ขยับไปไหน เหมือนมันรู้ว่ายังไงมันก็ตาย มันจึงยืนอยู่เฉยๆไม่ดิ้นรนให้ได้รับความเจ็บปวดเพิ่ม

จิวโมไป๋ยืนอยู่หน้าวัวเหลืองที่ส่วนหัวของมันสูงตรงกับใบหน้าของเขาพอดี เขาใช้จิตสัมผัสแผ่กระจายออกไปเล็กน้อยก่อนจะทำการสั่นสะเทือนอากาศโดยรอบปิดผนึกเสียงไม่ให้ออกไป

“แกอยากจะตามฉันมา หรือว่าตายอยู่ที่นี่”เสียงของจิวโมไป๋ลอดออกจากหน้ากาก ทำให้วัวเหลืองตกใจ มันไม่คิดว่าจะมีคนมาพูดกับมัน

“อยู่เฉยๆอย่าขยับ”จิวโมไป๋พูดเตือน”ถ้าแกอยากตามฉันมาพยักหน้า ถ้าไม่ก็หลับตาซะฉันจะฆ่าแกไม่ให้แกได้เจ็บปวด”

วัวเหลืองพยักหน้าทันที โดยไม่ต้องคิด เพราะสติปัญญาของมันยังน้อย มันจึงเลือกที่จะมีชีวิตอยู่อย่างรวดเร็ว

“ดี ฉันจะทำให้แกสลบ จำไว้เมื่อได้สติอย่าขยับตัวเด็ดขาด”จิวโมไป๋สั่งอีกครั้งก่อนที่เขาจะทำมือเป็นชกอย่างแรงเข้าไปที่หัวของวัวเหลือง แต่ที่จริงแล้วเขาใช้จิตสัมผัสลบสัญญานชีวิตของมันไม่ให้แผ่ออกมา

ภาพที่เห็นคือ จิวโมไป๋ชกหมัดไปที่วัวหมัดเดียวก่อนที่มันจะค่อยๆล้มลง

“ฝ่ายผู้ท้าชิงเป็นฝ่ายชนะ”

เสียงประกาศดังขึ้นพร้อมกับประตูเหล็กค่อยๆยกขึ้น

จิวโมไป๋หันไปทางทั้งสามคน”รีบไปเอาร่างของสัตว์ทั้งสามแล้วไปที่ห้องรอ”

พูดจบเขาก็ก้มอุ้มร่างของวัวเหลืองที่สูงเกือบสองเมตรขึ้น หวังเสี่ยวเปาและพวก ไม่มีท่าทางลังเลพวกเขาแยกตัวกันไปยกร่างของสัตว์ทั้งสามแล้วตามจิวโมไป๋ไปที่ห้องรอ

เมื่อเขาไปในห้องจิวโมไป๋ ก็ใช้จิตสัมผัสตรวจสอบโดดรอบ เมื่อไม่พบกล้องวงจรปิดเขาก็ลวงไปในเสื้อคลุมก่อนจะหยิบชุดคลุมตัวใหม่สามชุดออกมา

“เปลี่ยนชุดเร็ว”จิวโมไป๋พูดขึ้น

ก่อนประลองจิวโมไป๋อธิบายคร่าวๆให้พวกเขาฟังแล้ว พวกเขาจึงเปลี่ยนชุดคลุมอย่างรวดเร็วก่อนจะส่งชุดคลุมตัวเดิมและอาวุธมาให้จิวโมไป๋

“ดูแลตัวเองด้วยพวกเราไปก่อน”หวังเสี่ยวเปาลังเลเล็กน้อยในขณะพูด แต่ก็ต้องทำใจ เขาเดินนำเฉินหูและอูเหวิน ออกจากห้องพักก่อนจะแยกย้ายกันหนีออกจากโคลอสเซียม

เมื่อในห้องไม่มีใครจิวโมไป๋ก็โบกมือเสื้อคลุม อาวุธและศพของสัตว์หายเข้าไปในแหวนมิติเก็บของเหลือแต่ร่างของวัวเหลืองที่ไม่ได้สติ

จิวโมไป๋หยิบโอสถฟื้นพลังออกมา 3 ขวด พร้อมกับกระดาษ พู้กันและเศษหยกออกมา ก่อนจะกัดนิ้วมือจนเลือดสีแดงปนทองจางๆไหลออกมา ไม่เสียเวลาเขาโบกพู้กันกลางอากาศ เลือดของเขาและเศษหยกเลียงตัวกันบนแผ่นกระดาษในเวลา 5 วินาที ใบหน้าของจิวโมไป๋ซีดทันที แต่เขายังไม่ปล่อยมือ เวลาผ่านไปอีก 10 วินาที บนแผ่นกระดาษก็ปรากฏลวดลายงดงาม

จิวโมไป๋ถอนหายใจยาวก่อนจะดื่มโอสถฟื้นพลังทั้ง 3 ขวด

เมื่อฟื้นพลังแล้ว จิวโมไป๋ก็โบกกระดาษไปที่ร่างของวัวเหลือง ทันทีที่กระดาษไหม้ ร่างของวัวสูงเกือบสองเมตรหดลง 10 เท่า เหลือแค่ 19 ซ.ม. จิวโมไป๋อุ้มวัวขึ้นซุกมันใต้เสื้อคลุม เขาก็ออกจากห้องรับรองทันที เวลาที่เขาเข้ามาและออกไป 1 นาที พอดิบพอดี

10 วินาที หลังจากจิวโมไป๋ออกไปก็มีคนในชุดสูทสีดำเข้ามาหลายคน…

บนที่นั่งคนดูรอบล้านประลอง ผู้คนพูดคุยเสียงดังด้วยความเสียใจ เพราะพวกเขาแพ้เดิมพันจำนวนมหาศาล โดยเฉพาะเจ้าหน้าที่โคลอสเซียมเทียนหลงที่ตอนนี้ใบหน้าซีดเผือก

“เร็วเข้า! ส่งคนไปตรวจสอบว่าทั้ง 4 คือใคร”หัวหน้าพูดอย่างรวดเร็ว พลางชี้หน้าไปทางพนักงานที่นังอยู่ด้านข้าง”ถ้าหาตัวไม่ได้ พวกแกจะต้องเป็นคนรับผิดชอบที่สะเพร่าปล่อยให้เกิดเรื่องแบบนี้!”

พนักงานคนนั้นหน้าเสียทันที

“แต่หัวหน้าครับ ตามกฏของรัฐบาล กล้องวงจรปิดที่เราติดตั้งได้มีแค่ส่วนสนามประลองและที่นั่งคนดูเท่านั้น นอกจากนั้นไม่มีกล้องวงจรปิดในสถานที่อื่นของโคลอสเซียมเลยนะครับ แค่พวกเขาออกจากลานประลองแล้วเปลี่ยนชุด พวกเราก็ไม่สามารถตามหาพวกเขาได้แล้ว”

“ทำไมแกโง่แบบนี้! ส่งคนไปที่ทางเข้าโคลอสเซียม แล้วตรวจสอบ…”พูดไม่ทันจบ หัวหน้าก็หยุดพูด เพราะเขารู้ด๊ว่าไม่สามารถทำได้ การประลองใต้ดินในโคลอสเซียม รัฐบาลยอมปิดตาข้างหนึ่งยอมปล่อยให้มีการประลอง แต่กฏข้อบังคับก็มากมาย เช่น ห้ามติดตั้งกล้องวงจรติดตรงตัวอาคารโคลอสเซียม ยกเว้นให้แค่ลานประลองและที่นั่งคนดู เพื่อป้องกันความปลอดภัยของผู้คนและการโกงทำผิดกติกา แต่ภาพวงจรปิดต้องลบภายใน 15 นาที

และทุกครั้งที่ได้รับเงินจากการเดิมพัน จะไม่มีหลักฐานการโอนเงิน เพื่อป้องกันการตรวจสอบตัวตนของผู้ได้รับเงิน

และมีกฏห้ามกักขัง หรือตรวจสอบ ผู้ที่เข้าออกโคลอสเซียม นอกจากว่าคนๆนั้นสร้างความเสียหายแก่บุคคลอื่น

ที่รัฐบาลทำแบบนี้ นอกจากจะป้องกันไม่ให้ภาพที่รุนแรงหลุดออกไปยังประชาชนทั่วไป และยังป้องกันผู้ที่ชนะการประลองและชนะการเดิมพัน ไม่ให้ถูกเจ้าของโคลอสเซียมตามตัวได้

ทำให้การประลองและการเดิมพันในโคลอสเซียม ศักดิ์สิทธิ์และเป็นที่นิยมอย่างมาก

เมื่อเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ ทางโคลอสเซียม เท่ากับการสูญเสียครั้งใหญ่ ไม่สามารถเอาเงินกลับมาได้…

หัวหน้าสูดหายใจช้าๆ อารมณ์ค่อยๆเย็นลง”ส่งคนตรวจสอบกล้องวงจรติดของพื้นที่รอบนอกโคลอสเซียมทั้งหมด หาให้ได้ว่าทั้ง 4 คนมาที่นี่ตอนไหน…”

“พี่สาม พี่เปลี่ยนเสื้อคลุมที่ไหน”

ทันทีที่ออกมาจิวโมไป๋ก็ส่งข้อความถามอูเหวินทันที ไม่นานก็มีข้อความตอบกลับมา เขาก็ไปที่โรงแรมที่อูเหวินเคยพัก

แต่ยังไม่ทันที่เขาจะได้ลอบเข้าไป ก็มีคนในชุดสูทสีดำหลายคนกำลังเข้าโรงแรม

“สมกับที่เป็นตระกูลโบราณ”จิวโมไป๋วางร่างตัวเล็กของวัวเหลืองไว้ที่พุ่มไม้ด้านข้าง เปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นชุดสูท จากนั้นเขาก็ค่อยๆบีบใบหน้าอย่างช้าๆ แค่30วินาที ใบหน้าของเขากลายเป็นชายหนุ่มที่ดูธรรมดา เขาหยิบแว่นตาสีดำออกมาจากแหวนมิติเก็บ

เคล็ดเปลี่ยนใบหน้าที่เขาใช้ อยู่ได้แค่ 10 นาที ถ้าช้าอยู่จะไม่ทันเวลา จิวโมไป๋วิ่งเข้าโรงแรมตามคนอื่นๆไปทันที

เขาใช้จิตสัมผัสทำให้ตามตัวกลุ่มคนที่นำไปได้ เขาค่อยเดินตามคนหลังสุด จนมาถึงห้องที่มีภาพวงจรติดนับร้อย ในขณะที่คนในชุดดำที่เป็นหัวหน้ากำลังพูดกับคนที่เป็นดูแล จิวโมไป๋ก็แอบกดกำไลข้อมือ เชื่อมต่อกับสัญญาณของโรมแรมอย่างรวดเร็ว

สำหรับคนที่มีความรู้จากอนาคต มันง่ายมากที่จะแฮ็คเข้าระบบโรงแรม

ทันทีที่เชื่อมต่อเขาระบบ เขาก็เข้าไปเปลี่ยนชื่อของอูเหวินเป็นอันดับแรก ก่อนจะลบรายการชำระการเช่าห้องของอูเหวินออก ก่อนจะเปลี่ยนเป็นห้องว่าง จากนั้นเขาก็ลบวีดีโอวงจรปิด 7 วันออก และแกล้งเปลี่ยนเลขวันเลื่อนมาเป็นวันนี้ เพื่อทำให้สับสนกว่าเดิม

โชคดีที่ไม่ใช่แค่อูเหวินคนเดียวที่ปลอมตัว โรมแรมรอบโคลอสเซียมส่วนมากจะถูกใช้เป็นที่ปลอมตัวของคนที่เข้าโคลอสเซียมเทียนหลง ทำให้มันยิ่งสับสนมากขึ้นไปอีก

เขาแอบออกมาอย่างรวดเร็ว จนมาถึงร่างของวัวเหลืองที่ยังไม่ได้สติ เขาก็ดูเวลาตอนนี้ 4 ทุ่ม เขาส่งข้อความไปบอกพี่น้องทั้งสาม ก่อนจะกลับไปที่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าเพื่อไปรับหนิงหานเป๋ย

แต่ในขณะที่เขากำลังจะข้ามถนน จิตสัมผัสของเขาก็ตรวจพบว่า ในรถตู้คันหนึ่งมีร่างไร้สติของเด็กสาวที่ถูกมัดมือมัดเท้า กำลังผ่านหน้าไป…

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด