ย้อนเวลากลับมาเป็นเทพยุทธ์ 176

Now you are reading ย้อนเวลากลับมาเป็นเทพยุทธ์ Chapter 176 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.
การต่อสู้ที่ตึงมือ

หมอกสีเลือดหนาแน่นขึ้น ทำให้ระยะการมองเห็นของคนในหมอกลดลง กลิ่นคาวเลือดเหม็นอบอวลไปทั่วห้องชำแหละ วิญญาณสีเลือดหันหัวล้านที่มีใบหน้าน่าเกลียดเหมือนถูกเย็บ ด้วยชิ้นส่วนของใบหน้าของคนหลายสิบคนมาผสมกัน มันมองไปทางจิวโมไป๋ แววตาสีดำพลันดำมืดยิ่งขึ้นไปอีก

“แกรู้ไหมว่า การกระทำของแก ทำให้ข้าเสียเวลามากขนาดไหน?”วิญญาณสีเลือดกล่าวด้วยเสียงแหบแห้ง

จิวโมไป๋เงียบไม่ตอบ กระบี่เลือนเร้นชี้ไปทางวิญญาณสีเลือด ตั้งท่าพร้อมต่อสู้

“ฮืมมม”วิญญาณสีเลือดไม่สนใจที่จะฟังคำตอบอยู่แล้ว มันแยกเขี้ยวเป็นซี่แหลมคมไม่เหมือนมนุษย์ มันใช้ความเร็วที่ไม่สมกับขนาดร่างกายที่ใหญ่โต เพียงเสี้ยววินาที มันก็มาถึงหน้าของจิวโมไป๋และชกหมัดทรงพลังเข้าใส่ร่างของจิวโมไป๋

จิวโมไป๋ไหวตัวทัน เขาใช้ย่างก้าวประกายภูตหลบมาได้ หมัดอันรุนแรงชกเข้าที่โต๊ะโลหะที่วางถาดใส่เครื่องในกองอยู่พังทลาย เครื่องในกระจัดกระจายกระเด็นไปทั่ว

ร่างของจิวโมไป๋โผล่ขึ้นด้านหลัง เขาแทงกระบี่เลือนเร้นแทงเข้าใส่ร่างกำยำ แต่เมื่อกระบี่แทงเข้าที่หลังคอ คมกระบี่แทงลึกเข้าไปได้เพียงเล็กน้อย เหมือนหมอกสีแดงเลือดที่อยู่รอบร่างของวิญญาณสีเลือดจะบั่นทอนพลังความแหลมคมของกระบี่ เมื่อรวมเข้ากับผิวหนังที่เหนียวทนทาน ทำให้เกิดรอยกระบี่เพียงเล็กน้อยเท่านั้น ก่อนที่บาดแผลจะสมานหายไปอย่างรวดเร็ว

จิวโมไป๋ขมวดคิ้วเล็กน้อย วิญญาณสีเลือดเป็นวิญญาณร้ายที่พัฒนาความแข็งแกร่งของร่างกายโดยเฉพาะ ระดับการบ่มเพาะของวิญญาณสีเลือดอยู่ขั้นที่ 6 ปลาย แต่ความแข็งแกร่งของร่างกายเหนือว่าระดับการบ่มเพาะของมันไปมาก

สมแล้วที่ในอดีต มันเป็นปีศาจที่สามารถทำให้องค์กรลับสูญเสียกำลังคนไปจำนวนมาก

“พวกนายรีบกำจัดพวกนี้ ฉันจะไปช่วยน้องเล็ก”หวังเสี่ยวเปาเห็นว่าจิวโมไป๋ไม่สามารถสร้างความเสียหายให้กับวิญญาณสีเลือดได้ เขารีบเข้าไปช่วยอย่างน้อยก็เป็นตัวล่อ ให้จิวโมไป๋ลงมือได้ง่ายขึ้น

อูเหวิน มู่คัง เสี่ยวไป๋และเสี่ยวเหมย รีบจัดการคนงานโรงชำแหละที่ยังขยับตัวไม่ได้

“ฉันอยู่ตรงนี้ก็ไม่ช่วยอะไร ฉันจะไปช่วยน้องเล็ก”เฉินหูเข้ามาช่วยจิวโมไป๋ เพราะเขารู้ตัวว่าเขาช่วยกำจัดคนงานโรงชำแหละไม่ได้

“อย่าเข้าปะทะตรงๆ ระดับการบ่มเพาะของมันอยู่ขั้นที่ 6 ปลาย และมันเป็นวิญญาณร้ายที่มีร่างกายแข็งแกร่งมาก ถ้าไม่โจมตีสุดแรง ก็ไม่สามารถทำให้มันบาดเจ็บได้”จิวโมไป๋พูดบอกทั้งสองที่เข้ามาช่วย เขาไม่หยิ่งที่จะจัดการวิญญาณสีเลือดคนเดียว เขารู้ขีดจำกัดของตัวเองดี เขาให้ทั้งสองช่วยสนับสนุน

จิวโมไป๋แทงกระบี่เข้าใส่ร่างวิญญาณสีเลือด แต่มันหันตัวกลับมาฟันมีดชำแหละปะทะกับคมกระบี่จนกระเด็นออกไป

จิวโมไป๋ถอยร่างออกมา เพื่อสลายแรงปะทะ

ร่างกายของมันแข็งแกร่งจริงๆ

หวังเสี่ยวเปาอ้อมไปด้านหลังใช้หอกแทงเพื่อดึงความสนใจ แต่วิญญาณสีเลือดไม่สนใจกับการโจมตีแม้แต่น้อย มันจับถังเหล็กหนักหลายกิโลกรัมด้านข้าง ขึ้นมาโยนใส่จิวโมไป๋

มันจ้องจะจัดการจิวโฒไป๋ก่อน

เฉินหูเข้าพุ่งเข้ามาช่วย เขาชกถังเหล็กจะบุบลงไป ร่างของเขากระเด็นจากแรงปะทะออกมาเล็กน้อย

“ตายยย!”เฉินหูร้องคำรามเหวี่ยงถังเหล็กกลับไป แต่ในตอนนั้นเองวิญญาณสีเลือดก็พุ่งเข้ามา ตบถังเหล็กพร้อมร่างของเฉินหู กระเด็นไปออกไปชนชั้นว่างอวัยวะที่ชำแหละด้านข้าง

เฉินหูที่บ่มเพาะร่างกายจนแข็งแกร่ง บาดเจ็บหนักทันทีในการโจมตีครั้งเดียว

จิวโมไป๋มาช้าไปเล็กน้อย จิตสัมผัสของเขาตรวจสอบว่าเฉินหูไม่เป็นอะไร เขาก็เบาใจ แทงกระบี่เข้าใส่วิญญาณสีเลือด แต่วิญญาณสีเลือดอาศัยร่างกายที่ทนทาน และความแข็งแกร่งที่เหนือกว่า ป้องกันเฉพาะการโจมตีที่อันตราย การโจมตีธรรมดามันไม่สนใจ วิญญาณสีเลือดอาศัยพละกำลังที่แข็งแกร่งตอบโต้กลับมาได้ทุกครั้ง

จิวโมไป๋ได้แต่ใช้ท่าร่างย่างก้าวประกายภูตหลบไปมา

หวังเสี่ยวเปาเข้ามาช่วย แต่เหมือนเขาเป็นอากาศ วิญญาณสีเลือดไม่แม้แต่จะเหลียวมอง หอกที่เขาแทงแม้จะแทงเข้าไปในกล้ามเนื้อได้ แต่ไม่นานมันก็สมานแผลหายไป

การโจมตีของเขาไร้ประโยชน์โดยสิ้นเชิง

“บัดซบ!”หวังเสี่ยวเปาร้องคำราม หอกเหล็กหมุนควงก่อนจะแทงลงด้วยพลังทั้งหมดที่เขามี

ฉึก! คมหอกแทงเข้าไปที่คอลึกเข้าไปหนึ่งในสาม

“อ๊าากก!”วิญญาณสีเลือดร้องคำราม มันหันดวงตาสีดำมืดมองหวังเสี่ยวเปา มันไม่คิดว่ามดแมลงจะสามารถทำให้ร่างกายของมันบาดเจ็บได้ วิญญาณสีเลือดหันมีดชำแหละฟันไปที่หวังเสี่ยวเปา

“พี่ใหญ่หมอบ”จิวโมไป๋ร้องเตือน

หวังเสี่ยวเปาที่ใช้แรงทั้งหมดโจมตีออกไป รู้สึกหน้ามืดเล็กน้อย เมื่อได้ยินเสียงจิวโมไป๋ เขาก็ก้มหัวลงทันที กลิ่นอายน่าสะพรึงกลัวผ่านหัวของเขาไป หวังเสี่ยวเปาได้สติหน้าของเขาซีดเล็กน้อย เพราะเมื่อครู่เหมือนเขาเหยียบเข้าไปที่ประตูนรกไปครึ่งก้าว

จิวโมไป่พุ่งเข้ามาด้วยความเร็วทั้งหมด ฟันกระบี่ออกไป 7 กระบี่ ทุกกระบี่ที่ฟันลงไป พลังและความเหลมคมของกระบี่เพิ่มขึ้นเรืี่อยๆ ทิ้งแผลลึกที่ลำคอตรงจุดที่หวังเสี่ยวเปาแทงหอกเข้าไป

ตูม! คมมีดฟันเข้ากำแพงห้องชำแหละ จนพังทลายลง ร่างของวิญญาณสีเลือด ที่ชุ่มไปด้วยเลือดหันมาหาพวกเขา ดวงตาสีดำแตกออกเป็นเส้นเลือดทั่วใบหน้าที่ถูกเย็บ รังสีอำมหิตโหมกระหน่ำเข้าหาจิวโมไป๋และหวังเสี่ยวเปา จนพวกเขารู้สึกเย็นยะเยือก โดยเฉพาะหวังเสี่ยวเปาที่ยืนนิ่งค้างไป

หมอกสีแดงกลายเป็นหยดเลือดตกลงบนพื้นจนชุ่มไปด้วยเลือด ข่ายอาคมที่จับร่างของคนงานนักชำแหละพลันแตกสลาย พวกมันที่เหลือ 5 ตัวร้องคำรามเสียงดัง ก่อนจะพุ่งเข้าหาคนที่อยู่ใกล้ๆ

มีคนงานโรงชำแหละตัวหนึ่งพุ่งเข้าหาหวังเสี่ยวเปาที่กำลังยืนนิ่งอยู่

“พี่ใหญ่!”จิวโมไป๋เคลื่อนตัว เข้าไประหว่างหวังเสี่ยวเปาและคนงานโรงชำแหละ กระบี่เลือนเร้นแทงเข้าไปที่คอและตัดหัวออกมาอย่างรวดเร็ว

แต่ในตอนนั้นเอง มีดชำแหละของวิญญาณสีเลือดก็ฟันไปที่ร่างของหวังเสี่ยวเปาอีกด้าน ความเร็วของวิญญาณสีเลือด เร็วมากจนจิวโมไป๋ตอบสนองเกือบไม่ทัน เขายกมือขึ้นก่อนที่ข่ายอาคมสีทองจะหยุดร่างของวิญญาณสีเลือด แต่หยุดได้เพียงเล็กน้อย ก่อนที่ข่ายอาคมจะพังทลายลง

ใบหน้าของจิวโมไป๋เปลี่ยนไปทันที พละกำลังของมันแข็งแกร่งจริงๆ

หวังเสี่ยวเปาตั้งสติได้รีบยกหอกขึ้นมาป้องกัน แต่ความรุนแรงของมีดชำแหละ แม้จะลดลงไป แต่มันยังคงมีความรุนแรงอยู่มาก

เคร้ง! ร่างของหวังเสี่ยวเปากระเด็นไปชนร่างจิวโมไป๋ ทั้งสองเสียหลักชนเข้ากับถังใส่เนื้อมนุษย์จนล้มไม่เป็นท่า

เสี่ยวไป๋ที่จัดการคนงานโรงชำแหละหนึ่งตัวได้ เห็นทางด้านจิวโมไป๋ไม่ดี มันพุ่งเข้าไปช่วย

เสี่ยวเหมยแยกเขี้ยวไม่พอใจเล็กน้อย หมอกสีขาวแผ่กระจายไปทั่วห้อง เหมือนกำลังทำลายหมอกสีเลือด แต่ไม่นานหมอกสีขาวก็ถูกกดดันจนเหลือเพียงพื้นที่แคบๆ เสี่ยวเหมยร้องคำรามไม่พอใจ ดอกเหมยสีแดงบนหน้าผากขยายใหญ่ขึ้นเล็กน้อย หมอกสีขาวพลันกลืนกินหมอกสีเลือดทั้งหมด

วิญญาณสีเลือดชะงักหันไปทางเสี่ยวเหมย แต่ก่อนที่จะได้ทำอะไร เสี่ยวไป๋ก็พุ่งเข้ามา ตะปบกรงเล็บใส่ที่คอของวิญญาณสีเลือด แต่มันยกมือข้างหนึ่งขึ้นมากัน ก่อนจะฟันมีดชำแหละเข้าใส่ร่าง

เสี่ยวไป๋แยกเขี้ยวและกัดเข้าที่ข้อมือที่กำลังฟันลงมา และใช้พละกำลังเหยียบไปบนตัวของวิญญาณสีเลือดจนล้มลง

“อ๊าาากกก! แก เจ้าสัตว์ร้าย!”วิญญาณสีเลือดร้องคำรามราวสัตว์ร้าย ร่างของมันเลือดขยายใหญ่ขึ้นอย่างน่ากลัว เส้นเลือดสีดำผุดขึ้นทั่วร่าง พละกำลังของมันพุ่งสูงขึ้นอย่างน่ากลัว มันเหวี่ยงร่างเล็กๆของเสี่ยวไป๋กระเด็นออกไปอย่างแรง แต่เสี่ยวไป๋หมุนตัวกลางอากาศ ก่อนจะปะทะเขากับกำแพง มันเหยียบกำแพงและพุ่งกลับมาต่อสู้อีกครั้ง

จิวโมไป๋และหวังเสี่ยวเปาที่ปัดเศษเนื้ออกไป ใบหน้าบิดเบี้ยวเล็กน้อย พวกเขารีบเข้าไปช่วยเสี่ยวไป๋

ร่างของวิญญาณสีเลือดถูกหมอกสีขาวล้อมรอบ เหลือเพียงหมอกสีแดงที่ยังคงมีอยู่บนร่าง วิญญาณสีเลือดร้องคำรามมองไปรอบๆด้วยความสับสน มันต่อสู้กับเสี่ยวไป๋ จิวโมไป๋ และหวังเสี่ยวเปา เหมือนไม่ได้โจมตีใส่อะไร เหมือนมันกำลังฝันอยู่ การตอบสนองของมันช้าลงอย่างมาก

ทำให้มันถูกโจมตีอย่างหนัก เพียงไม่นานร่างของมันเต็มไปด้วยบาดแผลน้อยใหญ่

วิญญาณสีเลือดมองมือตัวเอง ก่อนจะยกมีดชำแหละปาดไปที่มือของตัวเอง เลือดสีดำไหลออกมา แต่ไม่นานบาดแผลก็สมานหายไป

ใบหน้าที่ถูกเย็บบิดเบี้ยวเต็มไปด้วยความสับสน สุดท้ายวิญญาณสีเลือดหันไปทางเสี่ยวไป๋ ก่อนที่หมอกสีแดงจะหลอมรวมเป็นมีดชำแหละอีกข้าง

“ตายยย!”วิญญาณสีเลือดร้องคำเดียว แต่ทำให้ร่างกายของทุกคนสั่นไหว ราวกับตกอยู่ในใจกลางความหวาดกลัว

หมอกสีเลือดทั่วร่างขยายใหญ่ขึ้น ทำลายหมอกสีขาวจนหมด ภายในหมอกสีเลือดเริ่มมีสีดำมืดผสมเข้ามา

เสี่ยวเหมยชะงักไปครู่หนึ่ง มันและอูเหวิน มู่คังกำจัดคนงานโรงชำแหละจนหมด พวกเขาก็มาช่วยคนอื่นต่อสู้กับวิญญาณสีเลือด

โครม! ยังไม่ทันที่พวกเขาจะได้ขยับ ร่างของเสี่ยวไป๋ก็กระเด็นไปชนโต๊ะโลหะยุบลงไปอย่างรุนแรง

“เสี่ยวไป๋!”จิวโมไป๋ร้องเสียงดัง เขาหยิบเศษหยกออกมาเทบนพื้น มือวาดข่ายอาคมสีทอง เกิดเป็นกรงแสงสีทองล้อมรอบร่างของวิญญาณสีเลือด แต่มันแสยะยิ้ม ก่อนจะชก 3 หมัดทำลายข่ายอาคมลง

“ฮ่าๆ ขอบใจพวกแกมาก ที่ทำให้ข้าเข้าใจพลังมากยิ่งขึ้น”วิญญาณสีเลือดหัวเราะด้วยเสียงแหบแห้ง หมอกสีเลือดขยายใหญ่ขึ้นปกคลุมพื้นที่ชั้นล่างทั้งหมด

ทุกคนตกอยู่ในห่วงความกลัวไร้สิ้นสุด เสี่ยวเหมยแยกเขี้ยวไม่พอใจ ร่างของมันขยายใหญ่ขึ้นสูงเกือบ 2 เมตร หมอกสีขาวปกคลุมทั่วร่างของมัน คนที่มองผ่านร่างของเสี่ยวเหมยเหมือนอยู่ในความห่วงความฝัน คล้ายจริงคล้ายไม่จริง

จิวโมไป๋สูดหายใจเรียกสติ หยิบแผ่นยันต์ออกมา 3 ใบ

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด