ย้อนเวลากลับมาเป็นเทพยุทธ์ 180

Now you are reading ย้อนเวลากลับมาเป็นเทพยุทธ์ Chapter 180 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.
ร่วมงานประมูลอีกครั้ง

ในห้องต่อสู้ด้านข้างคฤหาสน์

กลางสนามต่อสู้ มีคนสองคนกำลังต่อสู้กันอย่างรุนแรง ไม่มีใครยอมอ่อนข้อให้กับใคร

เปรี้ยง! จิวโมไป๋ยกแขนป้องกันหมัดของเฉินหู พลังโจมตีอันรุนแรงทำให้ร่างของเขาถอยไปสองก้าว จิวโมไป๋ตั้งหลักได้ เขาก็เตะสูงเข้าใส่ใบหน้าด้านขวาของเฉินหู ที่กำลังวิ่งเข้ามาอย่างรุนแรง

ปึก! เฉินหูยกแขนขวาป้องกัน มือซ้ายทำท่าฟันฉับไปที่อกของจิวโมไป๋ แต่จิวโมไป๋ก็ยกแขนป้องกันได้ ทั้งสองต่อสู้อย่างรวดเร็วและรุนแรง ใช้พลังกายและสัญชาตญาณในการต่อสู้ล้วนๆ ไม่ใช้พลังหรือวิชาต่อสู้

จิวโมไป๋ต่อสู้ไปพลางตรวจสอบร่างกายของเฉินหูไปพร้อมกัน เขาก็ยิ่งค้นพบอะไรที่น่าตกใจ ร่างกายของเฉินหูเหมือนจะพัฒนาขึ้นจนแข็งแกร่งทนทาน พลังความแข็งแกร่งของเฉินหูเพิ่มขึ้นเกือบ 3 เท่า ทั้งๆที่เฉินหูอยู่ขั้นที่ 3 อวัยวะภายในต้นแล้ว เขาไม่มีทางที่จะเพิ่มความแข็งแกร่งได้ขนาดนี้ นอกจากเลื่อนขั้นการบ่มเพาะ

แต่ระดับการบ่มเพาะพลังเฉนหูยังอยู่ขั้นที่ 3 อวัยวะภายในต้นเหมือนเดิม

แม้การตระหนักกฎแห่งธาตุทอง จะทำให้พละกำลังของเฉินหูเพิ่มขึ้น ในเวลาที่เขาไม่ใช้พลังธาตุทอง ความแข็งแกร่งของร่างกายจะเพิ่มขึ้นเพียงหนึ่งหรือสองขั้น ไม่ได้มีทางที่จะเพิ่มขึ้นเกือบ 3 เท่าได้

เหมือนอูเหวินที่ตระหนักกฏแห่งธาตุลม ความเร็วของเขาเพิ่มขึ้น2 ใน 10 เท่า ในขณะที่เขาไม่ใช้พลังธาตุลม

หรือว่าเฉินหูสามารถทะลวงผ่านไปขั้นกล้ามเนื้อสูงสุด?

เป็นไปไม่ได้

จิวโมไปตัดความคิดนั้นออกไปทันที เพราะกฎของการบ่มเพาะพลัง ไม่สามารถบ่มเพาะพลังย้อนหลังได้ นอกจากทำลายระดับการบ่มเพาะพลังเดิม และเริ่มบ่มเพาะพลังใหม่

ความแข็งแกร่งที่เพิ่มขึ้นเกือบ 3 เท่าของเฉินหู ทำให้จิวโมไป๋มองเห็นเส้นทางใหม่ในการบ่มเพาะ แต่เขาไม่รู้ว่ามันเกิดขึ้นได้ยังไง เขาต้องตรวจสอบในภายหลัง

หวังเสี่ยวเปาและอูเหวิน นั่งพักเหนื่อยมองทั้งสองต่อสู้กันอยู่นอกสนามต่อสู้ มู่คังที่ตอนนี้เริ่มอาการดีขึ้น เดินเข้ามาพร้อมกับขวดน้ำเกลือแร่ขวดใหญ่ เขาเดินไปนั่งข้างหวังเสี่ยวเปา

“ฉันอิจฉาคนที่ฝึกกายเนื้อจริงๆ ฉันอยากจะฝึกบ้าง”มู่คังบ่นให้หวังเสี่ยวเปาได้ยิน สายตามองการต่อสู้ที่รุนแรงเบื้องหน้าด้วยความอิจฉา ตั้งแต่กลับจากการต่อสู้ เขาเห็นข้อดีของความแข็งแกร่งของร่างกายมากขึ้น ปีศาจที่เขาเจอ มันมีร่างกายที่แข็งแกร่งคงกะพันและฟื้นฟูได้อย่างรวดเร็ว ใช้แค่พลังเพียงอย่างเดียวเอาชนะคู่ต่อสู้ได้ทั้งหมด

เขาอดไม่ได้ที่จะมองสำรวจทั้งจิวโฒไป๋และคนอื่นๆ พวกเขาฝึกร่างกายเช่นกัน ทำให้ร่างกายแข็งแกร่งเหนือกว่าผู้บ่มเพาะระดับเดียวกัน เมื่อต่อสู้กับคนที่อยู่ระดับเดียวกันหรือเหนือกว่าไม่กี่ขั้น พวกเขาสามารถเอาชนะได้

“ถ้านายอยากฝึกก็รอถามน้องเล็กดูสิ เขามีวิธีฝึกอยู่ ฉันช่วยอะไรนายไม่ได้”หวังเสี่ยวเปาพูด เขาไม่สามารถสอนวิชากลั่นร่างกายได้ เพราะเป็นวิชาที่น้องเล็กเป็นคนถ่ายทอดให้ และน้องเล็กได้รับถ่ายทอดจากอาจารย์ยอดฝีมืออีกต่อหนึ่ง ถ้าเขาทำอะไรผิดไป น้องเล็กจะเดือดร้อนได้

มู่คังพยักหน้าเบาๆ

จิวโมไป๋และเฉินหูต่อสู้กันเสร็จอีก 10 นาที พวกเขาพัก

“เที่ยงแล้วพวกเราไปหาอะไรกินกันก่อน”หวังเสี่ยวเปาพูดขึ้น เขาเป็นคนกินอาหารเยอะ แต่มื้อเช้าเขากินแค่ผักผลไม้ เมื่อออกกำลัง เขาก็รู้สึกหิวขึ้นมา

“เปลี่ยนเสื้อผ้าก่อน เดี๋ยวฉันจะพาไปร้านอาหารชื่อดัง พวกเขาเปิดฟาร์มเนื้อสัตว์ของตัวเอง…”มู่คังพูดขึ้น ใบหน้าของเขาแสดงออกถึงความไม่พอใจเล็กน้อย เขายังฝังใจกับโรงชำแหละอยู่

ตกลงกันเรียบร้อย พวกเขาก็อาบน้ำชำระล้างร่างกาย เปลี่ยนเสื้อผ้า

เสี่ยวไป๋และเสี่ยวเหมยนอนหลับไม่ยอมลุกขึ้น จิวโมไป๋ลูบตัวพวกมันเรียกไปกินอาหาร แต่พวกมันไม่สน จิวโมไป๋ได้แต่ยิ้มและออกไป

พวกเขาไปที่ภัตตาคารชื่อดังที่มู่คังบอก แต่เมื่อไปถึงหน้าร้าน ก็พบว่าร้านปิด หยุดกิจการ 1 วัน

ใบหน้าของมู่คังเปลี่ยนไปทันที

“บัดซบร้านหลอกลวง!”มู่คังร้องตระโกนเสียงดังหน้าร้าน ทำให้คนแถวนั้นหันมามอง เฉินหูเดินไปล็อคแขนมู่คังขึ้นรถ เมื่อสงบสติอารมณ์ได้แล้ว พวกเขาก็ไปร้านอาหารอื่น แต่ก็พบว่าปิดหมด พวกเขาหยุดกิจการ 1 วันเหมือนกัน

ใบหน้าของมู่คังซีดจนขาว เขาไม่คิดเลยว่าอิทธิพลคู่ค้าของโรงชำแหละจะใหญ่ขนาดนี้

ทุกคนเปิดกำไลข้อมือเพื่ออ่านข่าว ไม่ต้องค้นหาอะไร 10 หัวข้อที่มีการค้นหามากที่สุด เต็มไปด้วยเรื่องของโรงชำแหละ และมีข่าวคนจำนวนมากไปตรวจสอบร่างกายที่โรงพยาบาล

“ถึงว่าทำไมคนน้อย”อูเหวินพูดขึ้น สายตามองไปนอกรถยนต์ เห็นได้ชัดว่าถนนมีรถขับขี่บางตามาก

พวกเขาอ่านข่าวโรงชำแหละ ก็ไม่ได้อะไรมาก เพราะมีการปิดไม่ให้ใครเข้าไปดูโรงชำแหละ หัวข้อที่ติดอันดับเป็นของผู้ถูกจับไป พวกเขาเขียนและโพสรูปภาพของโรงงานชำแหละและศพจำนวนมาก ทำให้หัวข้อถูกดันขึ้น มีการพูดคุยกันอย่างถล่มทลายกว่า 2 ล้านความเห็น

แต่ก็ยังไม่มีการออกข่าวอย่างเป็นทางการ

สุดท้ายพวกเขาก็จำใจ เข้าร้านสะดวกซื้อ หาเส้นบะหมี่และผักสดกลับไปทำที่คฤหาสน์ของมู่คัง

ตอนเย็น

ฉินซือหลัน และผู้คุ้มกันสาวมารับพวกเขาไปที่โรงประมูลหมีหิมะ ใบหน้าของฉินซือหลันขาวซีดเล็กน้อย เธอก็ตกอยู่ในอาการซ๊อคกับโรงงานชำแหละเหมือนกัน

จิวโมไป๋ขึ้นไปหยิบเสี่ยวไป๋และเสี่ยวเหมย พวกมันบิดไปมาไม่พอใจ แต่จิวโมไป๋กอดพวกมันไว้ในอ้อมแขน พวกมันร้องเบาๆก่อนจะหลับไป

มู่คังพูดแนะนำหวังเสี่ยวเปา เฉินหู และอูเหวินให้กับฉินซือหลัน เมื่อจิวโมไป๋ลงมา พวกเขาตรงไปยังโรงประมูลหมีหิมะ เมื่อไปถึงก็พบคนจำนวนมากกำลังจะเข้าไป

พวกเขาเดินตามหลังเข้าไป ตามไปจนถึงชั้นประมูล ที่ซ่อมแซมจนเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น

พนักงานโรงประมูลสาว เดินมานำพวกเขาไปชั้นพิเศษ ในตอนที่พวกเขาจะขึ้นไปชั้นพิเศษ

“นั้นมันปลิง ที่อยากจะเกาะดูดเลือดของตระกูลฉันไม่ใช่เหนอ?”เสียงเหยียดหยามดังขึ้น เรียกสายตาจากผู้คนที่อยู่แถวนั้นให้หันไปมอง

จิวโมไป๋สัมผัสถึงความรู้สึกไม่เป็นมิตรได้ เขารู้ว่าเจ้าของเสียงหมายถึงตัวเขาเอง เขาหันไปเห็นถังหยุนหมิง กำลังเดินขึ้นมา ด้านหลังตามมาด้วยผู้อาวุโสกู่ พวกเขามองจิวโมไป๋ด้วยแววตารังเกียจอย่างไม่ปกปิด

“ตอนนี้กำลังเกาะตระกูลฉินและตระกูลมู่ อยู่สินะ หึหึสมแล้วที่เป็นคนชั้นต่ำ”ถังหมินหยุนพูดดูถูกดูแคลนจิวโมไป๋ ตั้งตัวเป็นศัตรูอย่างเต็มที่

ใบหน้าของทุกคนเปลี่ยนไปทันที สำหรับหวังเสี่ยวเปา เฉินหู และอูเหวิน พวกเขาไม่พอใจที่อีกฝ่ายต่อว่าน้องเล็กของพวกเขา ส่วนมู่คังและฉินซือหลัน พวกเขาไม่พอใจที่หังหมิงหยุนพูดเหมือนไม่ให้เกียรติตระกูลของพวกเขา

“แกพูดแบบนี้อยากเจ็บตัวใช่ไหม ห๊า!”เฉินหูได้ยินคนดูถูกน้องเล็กของตัวเอง สายตาแข็งกร้าวมองไปยังถังหมิงหยุน ขาของเขาเดินเข้าไปหาถังหมินหยุน แต่จิวโมไป๋ยกมือห้าม

“ห้ามก่อเรื่องที่นี่ ไม่อย่างนั้นพวกเราจะถูกขับไล่ออกไปทันที”จิวโมไป๋พูดเตือน สายตามองไปยังถังหมินหยุน ก่อนจะยิ้มออกมา

แววตาของจิวโมไป๋เป็นประกายสีดำมืด ก่อนจะกลับมาเป็นปกติในชั่วพริบตา โดยที่ไม่มีใครมองเห็น

“นายเป็นใคร?”จิวโมไป๋ถามเสียงราบเรียบ

“แก!”ถังหมินหยุนที่เชิดหน้าเย่อหยิ่ง ก็เปลี่ยนเป็นบิดเบี้ยวทันที พลังกดดันแผ่ออกจากร่างของเขาอย่างรุนแรง

เป็นแค่ชนชั้นต่ำ แต่กล้าลืมนายน้อยคนนี้!

“ที่นี่เป็นโรงประมูลหมีหิมะ แขกห้องพิเศษโปรดหยุดมือลงด้วย ไม่อย่างนั้นเราจะต้องทำตามกฎขับคุณออกจากงานประมูล”พนักงานสาวพูดห้ามการต่อสู้ ใบหน้าของเธอไม่แสดงอาการอะไรออกมา

“หึ! เป็นแค่พนักงานสวะ! กล้าพูดกับฉัน ด้วยน้ำเสียงแบบนี้เหรอ!”ถังหมินหยุนอยู่ๆก็ขึ้นเสียงดัง เขาต่อว่าเอาเรื่องพนักงานสาว

เธอตกใจถอยไปหนึ่งก้าวก่อนจะตั้งสติ

“คุณ โปรดหยุดการกระทำคุกคามทางเราด้วย ไม่อย่างนั้นฉันจะเรียกคนมาเชิญคุณออกไป”พนักงานสาวพูดเสียงปกติ มือของเธอกดไปที่กำไลข้อมือ

“แก! ฮ่าๆ ไม่คิดเลยว่าฉันจะถูกพวกชั้นต่ำดูแคลน”ถังหมินหยุนมองพนักงานสาวด้วยความประสงค์ร้าย เหมือนมีอะไรดลใจ ให้เขาเดินไปหาพนักงานสาวและยกมือขึ้น เพื่อจะตบหน้าเธอ แต่ผู้อาวุโสกู่พุ่งเข้ามาจับมือเอาไว้ได้ก่อน

“แก! หยุดฉันทำไม”ถังหมินหยุนหันมาต่อว่าผู้อาวุโสกู่เสียงดัง ใบหน้าของผู่อาวุโสกู่แดงก่ำด้วยความอับอาย บัดซบ!กลับไปก่อนฉันจะจัดการแก

ผู้อาวุโสกู่จับแขนถังหมิงหยุน หันมาขออภัยพนักงานสาว ก่อนจะดึงถังหมินหยุนจากไปโดยไม่มองกลุ่มจิวโมไป๋แม้แต่น้อย

การแสดงออกของผู้อาวุโสกู่ มันทำให้พวกเขารู้สึกขุ่นเคืองอยากจะอ้าปากพูด แต่ก็ต้องหยุดลงเพราะเห็นว่ามียามรักษาความปลอดภัย วิ่งมาทางนี้

พนักงานสาวบอกยามรักษาความปลอดภัย ก่อนที่พวกเขาจะจากไป เธอหันมาเชิญพวกเขาไปที่ห้องพิเศษหมายเลข 4

ถังหมิงหยุนเข้าไปที่ห้อง 10

เมื่อเข้าไปในห้อง ก็พบผู้อาวุโส 3 กำลังนั่งหลับตาไม่สนโลกอยู่ เสียงจากนอกห้องไม่ทะลุผ่านเข้ามา พวกเขาก็ไปนั่งประจำที่

ในตอนนั้นเองจิวโมไป๋พบผู้บ่มเพาะพลังขั้นที่ 7 หลายสิบคนอยู่ในงาน

ตรงเวทีประมูลมีผู้บ่มเพาะพลังขั้นที่ 7 ปลาย 4 คนยืนคุ้มกันอยู่ 4 มุมเวทีประมูล

การบุกโจมตีของดยุกเซราส ทำให้หลายๆคน เป็นห่วงความปลอดภัยของตัวเองมากขึ้น

ในระหว่างที่กำลังรอการประมูลอยู่ๆ ผู้ประมูลชั้นล่างก็หยุดพูด จนเกิดความเงียบสนิทเหมือนไม่มีใครอยู่ คนที่อยู่ในห้องพิเศษ หันไปทางเข้า

พวกเขาก็พบ ดยุกเซราสเดินเข้ามาอย่างเงียบเชียบ ใบหน้าไร้ความรู้สึก ด้านข้างของเขามีหญิงสาวอายุ 16-17 ปี ผมสีทองสว่างเงางามใบหน้ารูปไข่หน้ารักเหมือนตุ๊กตา ดวงตาสีเขียวมรกตเป็นประกายแวววาว ทำให้ไม่มีใครอยากละสายตา แต่เมื่อสัมผัสได้ถึงรังสีอำมหิต ของดยุกเซราสที่เดินอยู่ด้านข้าง ก็ไม่มีใครกล้าหันมามองเธออีก

ด้านหลังของทั้งสองมีชายกำยำ 2 คนเดินคุ้มกันอยู่ด้านหลัง

พนักงานโรงประมูลเข้าไปทักทายและพาพวกเขาขึ้นไปห้องพิเศษ

เซเรีย

อููเหวินเผลอยืนขึ้นมองไปยังหญิงสาว เขามองเธอไม่คาดสายตา เมื่อหญิงสาวเดินไปที่บันไดขึ้นไปห้องพิเศษ เป็นมุมปิดสายตา อูเหวินก็ไม่สามารถมองเธอได้อีก

อูเหวินหันหลังวิ่งไปที่ประตู เปิดออกจากห้องพิเศษไปทันที

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด