ย้อนเวลากลับมาเป็นเทพยุทธ์ 189

Now you are reading ย้อนเวลากลับมาเป็นเทพยุทธ์ Chapter 189 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.
แร่คุณสมบัติธาตุ

ทั้งสองเป็นแร่ชนิดเดียวกัน กับสมบัติที่เกิดจากเหตุการณ์เหนือธรรมชาติ ที่เนี่ยฟูหานได้รับในเหตุการณ์สังหารหมู่

แร่ประเภทนี้เรียกรวมๆ ว่า แร่คุณสมบัติธาตุ

แร่คุณสมบัติธาตุเกิดจากการบีบอัดของพลังธาตุที่หนาแน่น จนกลายเป็นรูปลักษณ์คล้ายก้อนหินสี แร่คุณสมบัติธาตุจะไม่มีสิ่งใดเจือปนนอกจากพลังธาตุ แต่จะมีแร่คุณสมบัติธาตุที่เหนือกว่าคือ แร่คุณสมบัติธาตุที่มีมากกว่า 2 ธาตุในก้อนเดียว จะเรียกรวมๆ ตามจำนวนสีว่า แร่สองสี แร่สามสี ตามจำนวนคุณสมบัติธาตุที่อยู่ภายในก้อนเดียว

แร่สามสี ที่เนี่ยฟูหานได้รับ ก็มีคุณสมบัติธาตุ 3 ธาตุ ไฟฟ้า ไฟ และไม้

แร่คุณสมบัติธาตุ เป็นสมบัติชั้นเลิศที่หายาก แม้แต่ในมิติระดับสูง ก็เป็นของหายากที่ล้ำค่า

ไม่ต้องพูดถึงแร่คุณสมบัติธาตุ ที่มี 2 ธาตุขึ้นไป พวกมันหายากยิ่งกว่าสมบัติล้ำค่า

ประโยชน์ของแร่คุณสมบัติธาตุ คือนำไปหลอมรวมกับตำหนักยุทธ์ ทำให้เคล็ดบ่มเพาะพลังระดับต่ำที่ไม่มีพลังธาตุแฝง เปลี่ยนเป็นเคล็ดบ่มเพาะพลังที่มีคุณสมบัติธาตุแฝงได้ สำหรับเคล็ดบ่มเพาะพลังที่มีพลังธาตุแฝงอยู่แล้ว สามารถใส่คุณสมบัติอีกธาตุลงไป ทำให้เคล็ดบ่มเพาะพลังมีธาตุแฝง 2 หรือ 3 ธาตุได้

แต่โอกาสในการหลอมธาตุที่ 2 น้อยมาก โอกาสสำเร็จประมาณ หนึ่ง ใน ร้อย

ถ้าหลอมแร่คุณสมบัติธาตุสำเร็จ 1 ครั้ง โอกาสในการหลอมครั้งที่ 2 นั้นยากขึ้นหลายเท่า ไม่ต้องพูดถึงครั้งที่ 3 ที่แทบไม่มีใครสามารถหลอมได้

เหตุผลที่แร่สองสี และแร่สามสี กลายเป็นของล้ำค่าก็เพราะ แร่ทั้งสอง สามารถหลอมครั้งเดียว ได้คุณสมบัติธาตุแฝงมากกว่า 1 ธาตุ ลดความยากในการหลอมธาตุต่อไปอย่างมาก

การหลอมแร่คุณสมบัติธาตุ ถ้าเกิดความผิดพลาด ตำหนักยุทธ์จะได้รับความเสียหายบางส่วน ต้องใช้เวลาในการฟื้นฟู เมื่อหลอมแร่คุณสมบัติธาตุอีกครั้ง โอกาสในการหลอมจะยากขึ้น

การหลอมแร่คุณสมบัติธาตุ ลงไปในตำหนักยุทธ์ ยังสามารถเพิ่มความแข็งแกร่งของธาตุให้มากขึ้น ทำให้ดูดซับพลังธาตุเพื่อส่งเสริมกฎแห่งธาตุได้เร็วขึ้น พลังธาตุที่ใช้จะแข็งแกร่งกว่าพลังธาตุปกติ

ผู้บ่มเพาะพลังจะมีเคล็ดบ่มเพาะพลังเพียงเคล็ดเดียว และเคล็ดบ่มเพาะพลังโดยส่วนมากที่อยู่ในมือคนธรรมดา จะไม่มีพลังธาตุแฝง เพราะการสร้างเคล็ดบ่มเพาะพลังระดับล่างหรือระดับกลาง ต้องผ่านการวิเคราะห์และสร้างอย่างยากลำบาก การสร้างเคล็ดบ่มเพาะเหล่านี้อาจทำให้ตระกูลระดับสูงล่มจมเลยก็ได้

ไม่ต้องพูดถึงเคล็ดบ่มเพาะพลังระดับสูง ที่มีพลังธาตุแฝง ในตอนนี้มันแทบเป็นไปไม่ได้ที่จะมีคนสร้างได้

เคล็ดบ่มเพาะพลังที่มีธาตุแฝง ในปัจจุบัน จะเป็นเคล็ดบ่มเพาะพลังที่ตระกูลราชวงศ์และตระกูลโบราณสืบทอดต่อกันมาหลายพันปี หรือเคล็ดบ่มเพาะพลังของสำนักดั้งเดิม

แม้แต่ในอนาคต ก็มีน้อยมากที่คนธรรมดา จะสามารถสร้างเคล็ดบ่มเพาะระดับสูงที่มีพลังธาตุแฝงได้

สำหรับจิวโมไป๋ เพราะเขาเป็นผู้เชี่ยวชาญในการสร้างเคล็ดบ่มเพาะพลัง ไม่แปลกที่เขาจะมีเคล็ดบ่มเพาะพลังระดับสูงที่มีพลังธาตุแฝง

ในตอนที่จิวโมไป๋ ถ่ายทอดเคล็ดบ่มเพาะพลังให้กับสามพี่น้อง ที่พวกเขาตกใจก็เพราะเรื่องนี้…

เนี่ยฟูหานที่ได้รับ แร่สามสี ธาตุ ไฟฟ้า ไฟ และไม้ ทำให้เคล็ดบ่มเพาะพลังของเขาได้รับการส่งเสริม ให้มีคุณสมบัติแฝง 3 ธาตุ

ถ้าเขาโชคดี สามารถตระหนักกฎแห่งธาตุที่ 2 เป็น ธาตุไฟ หรือ ธาตุไม้ ความแข็งแกร่งของเขาจะเพิ่มอย่างก้าวกระโดดขึ้นไปอีกขั้น

แต่ถ้าธาตุที่ตระหนักไม่ตรงตาม ที่หลอมลงไปในตำหนักยุทธ์ มันจะกลายเป็นเสียเปล่าทันที

คนปกติตระหนักกฎแห่งธาตุได้ 1 ธาตุ

การที่จะตระหนักกฎแห่งธาตุที่ 2 จะยากเป็นทวีคูณ แม้แต่ผู้บ่มเพาะพลังที่แข็งแกร่งอาจตระหนักกฎแห่งธาตุได้ 1 ธาตุด้วยซ้ำ

ถ้าธาตุที่ 2 ไม่ตรงกับ ธาตุแฝงในเคล็ดบ่มเพาะ จะทำให้ความสามารถของกฏแห่งธาตุด้อยกว่าปกติ เป็นการเสียเปล่าอย่างแท้จริง

เมื่อเห็นเนี่ยฟูหาน หลอมแร่สามสี จิวโมไป๋รู้สึกอดไม่ได้ที่จะอิจฉา เพราะร่างกายของเขาสามารถตระหนักกฎแห่งธาตุได้ 4 ธาตุ สายฟ้า ลม ไฟ ไม้ ถ้าเขาได้แร่สามสีมา เขาไม่ต้องรอลุ้น ว่าจะตระหนักกฎแห่งธาตุตรงหรือไม่ เหมือนเนี่ยฟูหาน เพราะเขารู้อยู่แล้วว่ากฎแห่งธาตุ ที่เขาจะได้รับในอนาคตเป็นอะไร เขาแค่รอเวลาเท่านั้น

จิวโมไป๋ถอนหายใจ

ของชิ้นนั้นไม่ได้เป็นของเขา เสียดายไปก็ไม่ได้อะไรขึ้นมา เขามองแร่แดงไฟ และแร่เขียวไม้ ด้วยความตื่นเต้น อย่างน้อยเขาก็สามารถหลอมแร่ทั้งสองลงไปใน เคล็ดบ่มเพาะพลังเตาหลอม 9 สุริยัน ที่มีคุณสมบัติธาตุไฟ และ ไม้ ตรงกับแร่คุณสมบัติธาตุทั้งสองพอดี มันจะส่งเสริมเคล็ดบ่มเพาะพลังของเขาให้แข็งขึ้นอย่างน่ากลัว

ปลอบใจตัวเองแล้ว จิวโมไป๋ก็เก็บแร่คุณสมบัติธาตุทั้งสองลงในแหวนมิติเก็บของ

จิวโมไป๋เดินเก็บของทั้งหมดลงในแหวนมิติเก็บของ รวมถึงภาพวาดธรรมบนผนัง

จิตสัมผัสของเขาก็พบช่องลับใต้โต๊ะกลางห้อง เขาเปิดออกและดึงกล่องขนาดกลางออกมา จิตสัมผัสของเขามองเห็นก้อนหินสีเหลืองอ่อน วางอยู่ในกล่องปิดผนึกอย่างดี จิวโมไป๋ชะงักเล็กน้อย ก่อนเปิดกล่องออกอย่างง่ายดาย เพราะมันไม่ได้ล็อคอะไรเลย

เขาก้มหยิบหินสีเหลืองอ่อนขึ้นมาอย่างแปลกใจ เพราะก้อนหินในมือของเขาคือหินกำเนิดปราณ

จิวโมไป๋ตรวจสอบหินกำเนิดปราณในมือ เขาก็พยักหน้าเบาๆ เขาคาดหวังมากเกินไป

หินกำเนิดปราณในมือของเขาเป็น ระดับต่ำ

เขาไม่คิดเลยว่าตอนนี้ โลกจะมีเหมืองหินกำเนิดปราณแล้ว ไม่แปลกเลยที่ทำไมระดับการบ่มเพาะพลังของตระกูลชั้นสูงและสำนักดั้งเดิมจะรวดเร็วขนาดนี้

หินกำเนิดปราณ เป็นหน่วยเงินในมิติต่างๆ ที่ใช้กันอย่างแพร่หลาย

นอกจากใช้เป็นตัวกลางแลกเปลี่ยนแล้ว หินกำเนิดปราณสามารถนำมาดูดซับปราณที่อยู่ภายในหิน เพื่อบ่มเพาะพลัง ปราณที่ดูดซับจากหินกำเนิดปราณ ไม่มีผลกระทบต่อร่างกาย

แต่หินกำเนิดปราณใช้แล้วหมดไป ไม่สามารถฟื้นฟูได้ ทำให้มันเป็นที่ต้องการเสมอ แม้จะเป็นเพียงหินกำเนิดปราณระดับต่ำ ก็มีคนต่อสู้แย่งชิง

หินกำเนิดปราณระดับต่ำ พบได้ง่ายในมิติโลกและมิติระดับต่ำ

หินกำเนิดปราณระดับกลาง พบได้ในมิติระดับกลางขึ้นไป ที่มิติระดับต่ำมีโอกาสพบได้เล็กน้อย ถ้ามิติระดับต่ำมีเหมืองหินกำเนิดปราณระดับกลาง จะเกิดการต่อสู้กันอย่างรุนแรง

หินกำเนิดปราณระดับสูง และหินกำเนิดปราณสูงสุด มีอยู่เฉพาะมิติชั้นสูง อาจมีเหมืองขนาดเล็ก ในมิติระดับกลางที่เคยเป็นมิติชั้นสูง

จิวโมไป๋นับหินกำเนิดปราณระดับต่ำทั้งหมด 250 ก้อน ถือว่าเป็นจำนวนมหาศาล สามารถช่วยให้เขาและพี่น้องทั้งสาม ลดเวลาบ่มเพาะพลังไปถึงขั้นที่ 6 ได้หลายเท่า

จิวโมไป๋ปิดกล่อง และเก็บลงไปในแหวนมิติเก็บของ ตรวจสอบห้องอีกหนึ่งรอบ เมื่อไม่เหลืออะไรแล้ว

เขามาที่นี่ไม่เสียเปล่าแล้ว

จิวโมไป๋มองทางลงไปด้านล่างกลิ่นเลือดหนาแน่นพัดขึ้นมา เขาค่อยๆ เดินลงตามทางลงไป จิตสัมผัสตรวจจับได้ว่าถังฉีหลง กำลังลงมือทรมานหญิงสาวคนหนึ่งอย่างสนุกสนามบ้าคลั่ง ในห้องด้านใน

“ร้องสิ ทำไมไม่ร้อง วันนี้เป็นวันสุดท้ายแล้วของแกแล้วนะ ทำให้เต็มที่หน่อย ถ้าฉันพอใจ ฉันอาจเชิญญาติๆ ของแกมาร่วมสนุกด้วยก็ได้นะ”ถังฉีหลงถือไม้มีปุ่มเล็กๆ ค่อยๆ กดลงไปบนผิวหนังของหญิงสาว

แต่ร่างชุ่มไปด้วยเลือดแห้งกรังของหญิงสาวนิ่งไร้เรี่ยวแรง ดวงตาสีดำเบิกกว้างไร้ประกาย

ถังฉีหลงทำเสียงไม่พอใจ พูดพึมพำหาสาระไม่ได้ ตอนนี้จิตของเขาโลดแล่นไปไกลแล้ว

ไอ้โรคจิต

จิวโมไป๋ดวงตาเต็มไปด้วยจิตสังหาร เขาต้องสูดลมหายใจสงบอารมณ์ เขาค่อยๆ ลอบเข้าไปอย่างช้าๆ เขาตรวจสอบห้องทั้งหมด มีร่างของชายหญิง เด็กและคน แก่รวมๆ 14 คน ถูกทรมานอย่างโหดเหี้ยม เครื่องมือทรมานที่แขวนไว้เต็มไปด้วยคราบเลือด

จิวโมไป๋กดกำไลข้อมือ บันทึกวีดีโอ ถ่ายทั้งหมด และไปยังห้องที่ถังฉีหลงกำลังทรมานหญิงสาว เขาถ่ายอยู่เกือบ 20 วินาที เขาก็ทนไม่ไหว กดหยุด

และค่อยๆ ลอบเข้าไปใกล้

กระบี่เลือนเร้นในร่างสั่นไหวอย่างรุนแรง ให้เขาจัดการขั้นเด็ดขาด

แต่เขาทำไม่ได้ ถ้าเขาฆ่าถังฉีหลงในตอนนี้ เรื่องจะไม่จบแค่นี้ แม้เขาจะสามารถปลอมตัวซ่อนหลักฐานได้ แต่ถ้า Nuwa ลงมือสืบ มันสามารถตรวจสอบในรายละเอียดยิบย่อยและสาวมาถึงตัวเขาได้แน่ๆ เพราะเขาเคยอยู่ในหน่วยลับมาก่อน ทำให้เขารู้ถึงความสามารถของระบบNuwa เป็นอย่างดี

ผิวหนังใต้เสื้อคลุมกลายเป็นเกล็ดมังกรทองทั่วร่าง จิวโมไป๋ย่องไปถึงด้านหลังถังฉีหลง เขาต้องสงบใจให้ถึงที่สุด ถังฉีหลงเป็นผู้บ่มเพาะพลังขั้นที่ 7 ต้น ระดับการบ่มเพาะพลัง เหนือกว่าเขาเกือบ 5 ขั้นใหญ่

เมื่อเข้าลอบเข้าใกล้ได้สำเร็จ จิวโมไป๋ไม่รอช้าชกหมัดเต็มกำลัง ไปที่ด้านหลังของถังฉีหลง

ถังฉีหลงที่สนุกสนามกับการทรมานเหยื่อ สัมผัสได้ถึงอันตราย เอนตัวหลบไปด้านข้างอย่างรวดเร็ว แต่ช้าไป หมัดอันรุนแรงชกเข้าที่แขนขวาเต็มๆ

ปัง! ร่างของถังฉีหลงกระเด็นไปกระแทกกับกำแพงด้านข้างอย่างแรง แต่เขาก็พยุงตัวยืนอยู่ได้ แขนขวาของเขาห้อยลง มีเลือดไหลลงมาตามแขน

“อั๊ก! แกไม่ใช้ถังหมิงหยุน แกเป็นใคร!”ถังฉีหลงยกแขนซ้ายจับแขนขวาที่ถูกชกจนไหลหัก แววตาที่บ้าคลั่งกลับมามีสติ พลังกดดันอันน่าหวาดกลัวแผ่กระจาย พุ่งเข้าหาร่างที่มีใบหน้าเหมือนถังหมิงหยุนราวกับฝาแฝด

“ไม่ต้องสนใจหรอกว่าฉันเป็นใคร สนใจว่าแกจะเป็นยังไงหลังจากนี้ดีกว่าไหม”ใบหน้าที่เหมือนถังหมิงหยุนยิ้มเย็นชา พลังกดดันเหมือนจะไม่สามารถทำอะไรเขาได้

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด