ย้อนเวลากลับมาเป็นเทพยุทธ์ 226

Now you are reading ย้อนเวลากลับมาเป็นเทพยุทธ์ Chapter 226 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.
2 ยอดฝีมือยุคใหม่ ปะทะ ยอดฝีมือยุคก่อน

ในเวลานั้นเองบนท้องฟ้าที่มืดมิด ก็เกิดเมฆสีเทาจำนวนมากขยายปกคลุมครึ่งหนึ่งเหนือเมืองเทียนซู เสียงฟ้าร้องดังขึ้นแผ่วเบา ก่อนที่เม็ดฝนจะค่อยๆตกลงมาจากหนึ่งหยด กลายเป็นนับไม่ถ่วน

หลงเทียนหลานในชุดคลุมสีฟ้าเข้ม ในมือถือหอกสีเงินยาว 3.5 เมตร รัศมีหอกดุดันเหี้ยมหาญ ร่างของเขาค่อยๆตกลงมาอย่างช้าๆ ตรงกลางหน้าผากปรากฏรอยสักมังกรสีฟ้าเข้มส่องสว่าง ผมสีขาวเงินโบกสะบัดไปมา

ฝนที่ตกลงมาถูกพลังงานบางอย่างดึงดูด ให้มาหลอมรวมกัน และกลายเป็นมังกรเกล็ดสีฟ้าเข้มยาว 20 เมตร เท้าของหลงเทียนหลานตกลงบนหัวของมังกรพอดี

มังกรเกล็ดฟ้าบิดลำตัวลอยอยู่บนท้องฟ้า ร่างสีฟ้าส่องประกายท่ามกลางความมืดมิด รัศมีพลังอันน่าเกรงขามทำให้ผู้คนที่ได้เห็นต้องสั่นสะท้านด้วยความยำเกรง

ฮึมมม เสียงคำรามเบาๆ

สัตว์ยักษ์ที่กำลังต่อสู้อยู่ไม่ไกล หยุดการต่อสู้ลง พวกมันหันมามองร่างบนท้องฟ้าด้วยความหวาดกลัว แม้พวกมันจะเป็นสัตว์ที่เกิดจากการก่อตัวของพลังธาตุ แต่มันก็มีสัญชาตญาณของสัตว์อยู่บ้าง ทำให้เมื่อพบกับมังกรที่เป็นราชันแห่งสัตว์อสูร พวกมันก็ต้องรู้สึกเกรงกลัวตามสัญชาตญาณ

แม้ว่าร่างของมังกรฟ้าจะสั้นกว่างูดำยักษ์ถึง 5 เท่าก็ตาม

มังกรเกล็ดฟ้าเกิดจากเคล็ดบ่มเพาะพลัง ที่หล่อเลี้ยงสร้างตัวตน ทำให้มันมีชีวิต เลือดเนื้อและวิญญาณเหมือนกับสิ่งมีชีวิต แตกต่างจากสัตว์เวทย์อย่างงูดำยักษ์และสิงโตสายลม ที่เกิดจากการก่อตัวของพลังธาตุ แม้จะมีสัญชาตญาณของสัตว์อยู่เล็กน้อย แต่พวกมันไม่มีสติปัญญา เป็นแค่ร่างไร้ชีวิต

แม้ว่ามังกรเกล็ดฟ้าจะมีขนาดเล็กกว่า แต่ความแข็งแกร่งของมังกรเกล็ดฟ้าเหนือกว่าสัตว์เวทย์ยักษ์อย่างเทียบไม่ได้

หลงเทียนหลานสั่งให้มังกรเกล็ดฟ้าพุ่งทะยานลงมาอยู่เหนือร่างของซานคุนหมิง

ซานคุนหมิงที่ฟื้นฟูพลังได้บางส่วน เงยหน้าขึ้นไปมอง ก่อนจะกล่าวด้วยความเคารพ

“ท่านผู้บัญชาการสูงสุด”

หลงเทียนหลานก้มลงมองสำรวจร่างกายของซานคุงหมิง เมื่อเห็นว่าไม่มีอาการบาดเจ็บภายนอก แค่สูญเสียพลังไปจนเกือบหมด เขาก็พยักหน้าก่อนจะกล่าวขึ้น

“รีบพักฟื้นฟูพลัง แล้วคอยจับตาดูการต่อสู้ เพื่อเข้าช่วยเหลือเมื่อเกิดสถานการณ์คับขัน”จบคำหลงเทียนหลานก็สั่งให้มังกรเกล็ดฟ้าออกไปทันที

ซานคุงหมิงมองตามแผนหลัง ก่อนจะทิ้งตัวลงท่องเคล็ดบ่มเพาะพลัง เพื่อฟื้นฟูพลัง

จ้าวแห่งความมืดที่ลอยอยู่บนท้องฟ้า หรี่ดวงตาสีเลือดมองไปยังร่างของหลงเทียนหลาน ก่อนจะมองลงไปยังหอกสีเงินในมือ

หอกสังหารมังกร

ดวงตาสีเลือดไหววูบไปครู่หนึ่งก่อนจะเป็นประกาย

มังกรเกล็ดฟ้าลอยมาหยุดด้านข้างของดยุกเซราส หลงเทียนหลานมองไปยังจ้าวแห่งความมืดและดยุกเซราสที่ลอยอยู่กลางอากาศ เขาก็รูแสึกอิจฉาเล็กน้อย เพราะเขาไม่สามารถลอยได้ด้วยตัวเอง ถ้าไม่มีมังกรเกล็ดฟ้าเขาก็ไม่สามารถลอยได้

“มาช้าไปหน่อยนะ”ดยุกเซราสกล่าวทักทาย สายตาหันกลับไปจ้องมองที่จ้าวแห่งความมืด

“ฮ่าๆ ช่วยไม่ได้คนแก่อย่างฉัน กว่าจะเดินทางไปไหนมาไหน มันลำบากกว่าคนหนุ่มๆแบบเธอ”หลงเทียนหลานหัวเราะเบาๆ

ดยุกเซราสแค่นเสียงดูถูก เชื่อก็โง่เต็มทนแล้ว

หลงเทียนหลานยิ้มไม่สนใจท่าทางของดยุกเซราส หลังจากที่พวกเขาต่อสู้กันที่สำนักงานใหญ่ของหน่วยลับ แล้วยังไม่สามารถตัดสินผลแพ้ชนะได้ เขาก็ไล่ตามท้าต่อสู้กับดยุกเซราสเพื่อตัดสินผลแพ้ชนะ แม้จะถูกปฏิเสธไปหลายสิบครั้ง เขาก็ยังตามตื้อไม่หยุด สุดท้ายก็ได้ต่อสู้กันอีกครั้ง แต่ก็ยังไม่รู้ผลแพ้ชนะ เพราะต่างฝ่ายต่างก็ไม่ได้งัดพลังทั้งหมดออกมาต่อสู้

จนพวกเขาต้องหาวิธีอื่นเพื่อตัดสินผลแพ้ชนะ ซึ่งเขาก็สามารถเอาชนะดยุกเซราสไปได้ในที่สุด สร้างความเจ็บใจให้อีกฝ่ายไม่น้อย ภายหลังพวกเขาก็สนิทคุ้นเคย กลายเป็นคนรู้จักกัน

ดยุกเซราสเหลือบมองไปที่หอกยาว แววตาของเขาก็เป็นประกาย

“หอกสังหารมังกร”

หลงเทียนหลานเห็นสายตาของดยุกเซราส เขาก็ควงหอกในมือ จนเกิดเสียงฉีกอากาศคล้ายกับเสียงร้องของมังกร

“ไม่คิดเลยว่าจะมีคนรู้จักหอกเล่มนี้ด้วย ถ้าอย่างนั้นก็คงมีคนรู้ประวัติอยู่บ้างว่าหอกเล่มนี้ในอดีต นอกจากจะสังหารมังการมามากมาย แล้วยังสังหารแวมไฟร์มาจำนวนมากเช่นกัน”

พูดจบเขาก็เหลือบไปมองจ้าวแห่งความมืด สายตามองท้าทายอย่างชัดเจน

จ้าวแห่งความมืดอ่านสายตาของหลงเทียนหลาน เขาก็เข้าใจความหมายในแววตานั้นได้ทันที พลังงานสีดำก็โหมกระหน่ำออกจากร่างกาย ร่างก็ค่อยๆกลายเป็นสีน้ำหมึก อากาศในบริเวณนั้นหนาวเย็นขึ้นอย่างรวดเร็ว

“ที่แท้ก็ลูกหลานตระกูลหลง”น้ำเสียงของจ้าวแห่งความมืดมีร่องรอยของความโหดเหี้ยมอำมหิต

เจ้าอาวาสหงหมิงที่ท่องบทสวดอยู่ไกลออกไป ก็เพิ่มพลังลงไปในการท่อง พลังสีขาวทองที่ปกคลุมอยู่ก็ส่องแสงระยิบระยับ

หลงเทียนหลานสัมผัสได้ถึงความแข็งแกร่งของจ้าวแห่งความมืด เขาไม่ได้เป็นคนไม่ประมาณตน เขารู้ดีว่าพลังความแข็งแกร่งของเขาและดยุกเซราสใกล้เคียงกัน แม้จะใช้ทุกอย่างก็ตาม ถ้าต่อสู้กับจ้าวแห่งความมืดด้วยตัวคนเดียว เขาไม่มีทางเอาชนะได้แน่ เขาจึงส่งสายตามองไปยังดยุกเซราส

ดยุกเซราสก็เข้าใจ

เขาพยักหน้าตกลงร่วมมือกันทันที แม้จะรู้สึกขัดใจอยู่บ้างก็ตาม แต่เขาก็รู้ถึงความสามารถของตัวเอง

จ้าวแห่งความมือเห็นว่าทั้งสองตกลงร่วมมือกัน เขาก็ไม่มีท่าทางเกรงกลัว พลังงานสีดำหมุนวนอย่างรุนแรง ร่างสีดำเหมือนน้ำหมึกซึมลงไปในร่าง ใต้เสื้อคลุมสีเลือดไม่มีใครมองเห็น

ถ้าใครมองเห็นจะพบว่าผิวของจ้าวแห่งความมืดกลายเป็นสีขาวซีดไร้สีเลือด เส้นเอ็นทั่วร่างผุดออกเป็นเส้นเลือดสีดำ เขี้ยวสีขาวน้ำนมยาวเป็นสองเท่า รูม่านตาในดวงตาสีแดงเลือด หดลงกลายเป็นวงรี ปีกคางคาวสีดำแทงออกจากแผ่นหลังทะลุเสื้อคลุมสีแดง ปีกคางคาวทั้งสองข้างกลางออกขยายใหญ่กว่า 4 เมตร

พลังอันน่าสะพรึงกลัวขยายออกจากร่าง สะกดข่มผู้คนทั้งหมด ท้องฟ้าที่มืดมิดขยายใหญ่เกือบ 3 เท่า มองไม่เห็นขอบเขต ราวกับตกอยู่ในความมืดชั่วนิรันดร์

ดยุกเซราสสัมผัสได้ถึงอันตรายรายแรง เขาลงมือทันที มือขวาโบกไม้เท้าออกไป วงแหวนเวทย์ขนาด 10 เมตร 10 วง ปรากฏขึ้นเบื้องหน้า ก่อนจะกลายเป็นหอกสายลมยักษ์ที่มีลวดลายงดงามราวเทพสลัก

“ไป!”หอกทั้ง 10 พุ่งแหวกอากาศด้วยความเร็วแสง เพียงเสี้ยววินาทีก็ประชิดร่างกายของจ้าวแห่งความมืด

แต่ในชั่วเวลาที่หอกยักษ์ใกล้จะถึงตัว ร่างของจ้าวแห่งความมืดพลันเคลื่อนไหวด้วยความเร็วสูง แม้จะไม่เท่าความเร็วแสง แต่ก็ไม่ช้ากว่ามากนัก

จ้าวแห่งความมืดหมุนควงเคียวสีดำหมุนตัดฉีกอากาศทิ้งรอยดำ ฟันหอกยักษ์ 10 อย่างหมดจด ก่อนที่สายตาจะมองไปยังดยุกเซราส ก่อนจะพุ่งออกไป ความเร็วในการเคลื่อนไหวเร็วมาก แค่กระพริบตาเดียวก็เกือบจะถึงปรากฏอยู่เบื้องหน้าของอีกฝ่าย

ดยุกเซราส ใช้ความเร็วเสียงจะหลบหนี แต่จ้าวแห่งความมืดเหมือนจะขยับไปทันทีที่ดยุกเซราสขยับตัว

แม้จะไล่ตามไม่ทันแต่ก็สามารถตามไปติดๆ

ในชั่วเวลาไล่ล่าเสียงร้องก็ดังขึ้น

“มาหลบด้านหลัง!”

วูบบบ ร่างมังกรเกล็ดฟ้าเข้ามาข้างหน้าจ้าวแห่งความมืด เข้าโจมตีเต็มกำลัง จ้าวแห่งความมืด หยุดชะงักร่างก่อนจะใช้เคียวเฉือนไปที่มังกรเกล็ดฟ้า

ตูม! แรงปะทะกระจายออกโดยรอบ จนพื้นดินสั่นสะเทือน ร่างของจ้าวแห่งความมืดถอยมาหลายก้าว ร่างของมังกรเกล็ดฟ้าถอยไปด้านหลังเล็กน้อย บ่งบอกว่าพละกำลังของจ้าวแห่งความมืดไม่ธรรมดา

ในชั่วพริบตาที่จ้าวแห่งความมืดกระพือปีกค้าวคาวเพื่อพยุงตัว หลงเทียนหลานกระโดดออกจากหัวมังกร แทงหอกสังหารมังกรปกคลุมด้วยพลังสีฟ้าเข้ม เกิดเป็นกระแสสายน้ำฉีกเส้นทางตรงไปร่างที่ลอยอยู่

จ้าวแห่งความมืดสัมผัสได้ถึงพลังอันแหลมคม เหมือนกับว่าร่างของเขาถูกแทง ทั้งๆที่หอกยังไม่ถึงตัว

ความแข็งแกร่งของร่างกายอันทรงพลัง กฎแห่งธาตุน้ำอันอ่อนโยน หลอมรวมเข้ากับความแหลมคมของหอกสังหารมังกร กลายเป็นการโจมตีที่สามารถแทงทะลุได้ทุกสิ่ง

รับไม่ได้!

สัญชาตญาณร้องเตือนอย่างบ้าคลั่ง จ้าวแห่งความมืดใช้พลังทั้งหมดเบี่ยงร่างหลบ

ฉึก! แขนซ้ายขาดกระเด็นลอยขึ้นกลางอากาศ ปีกค้างคาวด้านซ้ายถูกแทงเป็นรู ก่อนจะถูกตัดเป็นแถวยาว

ใบหน้าของจ้าวแห่งความมืดแสดงออกถึงความประลาดใจ ร่างของเขาหายวับไปโผล่อีกด้าน ปีกค้างคาวและแขนซ้ายจะงอกใหม่ด้วยความเร็วสูง

ดยุกเซราสที่ลอยอยู่ด้านหลัง มองไปยังหอกสังหารมังกรด้วยความชื่นชม

“หอกที่ร้ายกาจ”

หลงเทียนหลานกลับมายืนบนหัวมังกรเกล็ดฟ้า เขาไม่สนใจคำชมสาย มองไปยังแขนซ้ายที่ถูกตัดสลายกลายเป็นขี้เถ้า และมองกับไปยังแขนซ้ายที่งอกใหม่ เขาครุ่นคิดเล็กน้อยก่อนจะกล่าวกับดยุกเซราส

“นายสนับสนุนอยู่ข้างหลัง! ฉันจะเป็นคนเผชิญหน้าเอง”จบคำหลงเทียนหลานก็สั่งมังกรเกล็ดฟ้าเข้าไปปะทะกับจ้าวแห่งความมืดโดยตรง

การโจมตีเมื่อครู่เขาใช้ทีเผลอ ทำให้เขาสามารถตัดแขนอีกฝ่ายได้ แต่ไม่คิดเลยว่าความเร็วในการฟื้นตัวจะแข็งแกร่งขนาดนั้น

เขาไม่มั่นใจว่าจะตัดแขนอีกฝ่ายได้อีก เขาจึงตัดสินใจเป็นแนวหน้า ให้ดยุกเซราสใช้เวทย์ที่รุนแรงโจมตีจากด้านหลัง

ดยุกเซราสเข้าใจที่หลงเทียนหลานต้องการ ไม่รอช้าวงแหวนเวทย์ 25 เมตร นับ 30 วง ปรากฏขึ้น ดยุกเซราสตั้งสมาธิรวบรวมพลัง การใช้เวทย์ทรงพลังต้องใช้เวลามากกว่าปกติ

หลงเทียนหลาน เขาไปพัวพัน หอกสังหารมังกรที่ห่อหุ้มกฎแห่งธาตุน้ำ แทงออกถี่ยิบ จากหลายทิศทางเหมือนไร้กฎเกณฑ์ แม้การออกกระบวนท่าจะแปลกประหลาด แต่มันไม่เสียพลังในการโจมตี และยังทรงพลัง เป็นหอกสังหารทุกการโจมตี ถ้าเป็นผู้บ่มเพาะพลังขั้นที่ 8 ชีพจร แค่หอกเดียวอาจบาดเจ็บสาหัสได้เลย

น่าเสียดายที่ความเร็วของจ้าวแห่งความมืดนั้นเหนือกว่ามาก ทำให้ทุกหอกไม่สามารถสัมผัสร่างของอีกฝ่ายได้

จ้าวแห่งความมืดหมุนควงเคียวสีดำเฉือนโจมตีหลงเทียนหลานหลายครั้ง แต่ก็ถูกหอกป้องกันเอาไว้ได้ แม้เขาจะเร็วกว่ามาก แต่วิถีหอกของหลงเทียนหลานก็ไม่ธรรมดา กฎแห่งธาตุน้ำทำให้การเคลื่อนไหวยืดหยุ่น ลื่นไหล เหมาะกับการตั้งรับที่สุด ไม่เผยจุดอ่อนให้สามารถโจมตีได้

ยังมีมังกรเกล็ดฟ้า ที่คอยรับการโจมตีที่รุนแรง และพลังธาตุน้ำบนร่างของมัน ยังมีส่วนช่วยให้ชำระความเหนื่อยล้า ทำให้หลงเทียนหลานสามารถใช้กระบวนท่าหอกได้โดยไม่รู้สึกเหน็ดเหนื่อย

จ้าวแห่งความมืดสัมผัสได้ถึงอันตรายจากร่างของดยุกเซราส เขาก็ยิ้มเยือกเย็น พลังสีดำระเบิดออกจากร่าง เคียวในมืดเฉือนออกไปอย่างรุนแรง คลื่นพลังเสี้ยวจันทร์สีดำพุ่งเข้าหามังกรเกล็ดฟ้า

ปัง! แรงปะทะทำให้ร่างของมังกรเกล็ดฟ้าสั่นสะเทือนไปทั้งร่าง

ด้านหลังจ้าวแห่งความมืดก่อเกิดวงแหวนยักษ์ 40 เมตร 1 วง บนท้องฟ้ามืออีกข้างโบกสะบัดเบาๆ

งูสีดำยักษ์ที่ต่อสู้กับสิงโตสายลมยักษ์ ก็เปลี่ยนการโจมตีเป็นบ้าคลั่งโร้จุดหมาย หางยาวกวาดทำลายไปทั่วบริเวณ

สิงโตสายลมยักษ์ได้แต่ค่อยขัดขวาง

หลงเทียนหลานเห็นท่าไม่ดี สั่งมังกรเกล็ดฟ้าโจมตีเต็มกำลัง

แต่ช้าไป วงแหวนเวทย์ระเบิดออกกลายเป็นลูกพลังสีดำยักษ์เส้นผ่าศูนย์กลาง 30 เมตร ลูกพลังสีดำยักษ์ตกลงไปหามังกรเกล็ดฟ้า แต่เมื่อถึงระยะ 150 เมตร มันก็แตกออกกลายเป็นฝนสีดำกระหน่ำโจมตี

หลงเทียนหลานเงยหน้ามองด้วยสีหน้าเรียบเฉย ควงหอกสังหารมังกรเกิดเป็นกำแพงน้ำห่อหุ้มการโจมตีทั้งหมด

แต่ในตอนนั้นเอง งูดำที่โจมตีอย่างบ้าคลั่ง ก็พุ่งขึ้นมาบนท้องฟ้าและใช้หางรัดที่ท้องของมังกรเกล็ดฟ้าและใช้กำลังทั้งหมดกระชากอย่างรุนแรง

มังกรเกล็ดฟ้าล่วงลงไปกระแทกกลับพื้นอย่างเสียงดังสนั่น แต่ไม่เกิดความเสียหายบนพื้น หลงเทียนหลานที่กำลังรับฝนพลังสีดำก็ร่วงลงมา แต่เขาก็ยังใช้เทคนิคหอกควบคุมฝนพลังสีดำได้ โดยไม่ปล่อยให้หลุดรอดไป

ในเวลาเดียวกันจ้าวแห่งความมืด ใช้การเคลื่อนที่ความเร็วสูงพุ่งเข้าหาดยุกเซราส เคียวในมือเหวี่ยงออกไป เป็นกงจักรสีดำฉีกอากาศออกไป

ฉัวะ! กงจักรสีดำตัดร่างของดยุกเซราสขาดครึ่ง คนธรรมดาที่ไม่มีสายเลือดอันแข็งแกร่ง ไม่มีทางที่จะรอดชีวิตไปได้

แต่ใบหน้าของจ้าวแห่งความมืดไม่มีรู้สึกดีใจ ยื่นมือออกไปรับเคียวที่หมุนวกกลับมา และกวาดตามองไปรอบๆ

ร่างของดยุกเซราสที่ถูกตัด ก็สลายกลายเป็นสายลม

วงแหวนเวทย์สีเขียวอ่อนที่ลอยอยู่บนฟ้าก็ระเบิดพลังออกมา หัวตรีศูลสามง่ามที่สลักลวดลายสลับซับซ้อนค่อยๆโผล่ออกมาจากวงแหวนเวทย์

ตรีศูล 30 เล่ม ยาว 15 เมตร ลอยอยู่บนท้องฟ้า พลังอันมหาศาลทำให้ผู้คนรู้สึกอัดอัดหายใจไม่ออก

ร่างของดยุกเซราสก็ปรากฏบนท้องฟ้าเหนือตรีศูล

ดยุกเซราสสะบัดมือไปที่จ้าวแห่งความมืด

“ไป!”

ตรีศูลเทพเจ้า!

ห่างจากการต่อสู้ไม่ไกลนัก จิวโมไป๋ลอบมาหยุดอยู่ด้านข้างแวมไพร์ลอร์ด โดยที่ไม่มีใครสังเกตเห็น ในตอนนี้จิวโมไป๋เปลี่ยนมาใส่ชุดคลุมสีน้ำเงินเข้ม

แวมไพร์ลอร์ดที่ถูกหนามสายลมรัดร่างจนขยับไม่ได้ สัมผัสได้ว่ามีคนเข้ามาใกล้ เขาหันไปเห็นคนที่ปกปิดตัวตนมืดชิด เขาก็อ้าปากกำลังจะร้องตะโกน ก็มีโอสถหนึ่งเม็ดโยนเข้าไปในปาก ดวงตาของเขาเบิกกว้าง พยายามจะคลายโอสถออกแต่ก็ทำไม่ได้ เมื่อโอสถละลายในท้อง เขาก็พึ่งรู้ตัวว่าเสียงของตัวเองหายไป

จิวโมไป๋ไม่สนท่าทางขัดขืนของอีกฝ่าย หยิบเข็มดูดเลือดจากแหวนมิติเก็ยของ และใช้เกล็ดมังกรทองปกคลุมเฉพาะแขนขวาและเรียกพลังมังกร

เขารีบจับแขนข้างขวาของแวมไพร์ลอร์ด อย่าแน่นหนาจนขยับไม่ได้ ก่อนจะแทงเข็มดูดเลือดไปที่เส้นเลือด และดูดเลือดสีดำออกมา

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด