ย้อนเวลากลับมาเป็นเทพยุทธ์ 246

Now you are reading ย้อนเวลากลับมาเป็นเทพยุทธ์ Chapter 246 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.
ความรู้สึกของอัจฉริยะฟ้าประทาน

“ท่านเป็นใคร”จิวโมไป๋กล่าวถามด้วยท่าทางระมัดระวัง เขาไม่สามารถสัมผัสถึงความแข็งแกร่งจากร่างของชายซอมซ่อตรงหน้าได้เลย เหมือนกับว่าอีกฝ่ายเป็นแค่คนธรรมดาสามัญ ไม่ได้เป็นผู้บ่มเพาะพลัง

แต่กลิ่นอายเก่าแก่โบราณที่แผ่ออกมาจากร่างของอีกฝ่าย เขาไม่คิดว่าอีกฝ่ายเป็นแค่คนธรรมดา ในอดีตเขาเคยได้พบกลิ่นอายเช่นนี้จากร่างของยอดฝีมือระดับเทพยุทธ์!

สีหน้าของจิวโมไป๋เปลี่ยนเป็นตึงเครียด เหงื่อเม็ดใสผุดเต็มแผนหลัง

ตัวตนระดับเทพยุทธ์มาอยู่ที่นี่ได้ยังไง!

หัวสมองของจิวโมไป๋หมุนเร็วจี๋จนเกือบไหม้ กระบี่เลือนเร้นในตำหนักยุทธหมุนวนไปรอบด้วยความรวดเร็ว มันไม่ได้รุนแรงเหมือนตอนพบกับความชั่วร้าย แต่เหมือนกำลังดีใจที่พบกับคนที่มีคุณธรรมสูงส่ง

จิวโมไป๋สูดหายใจช้าๆ สงบสติอารมณ์และเก็บกระบี่เลือนเร้นในแหวนมิติเก็บของ ก่อนจะเดินมาอย่างช้าๆ และประสานมือทำความเคารพอย่างสุภาพ

ชายซอมซ่อเห็นท่าทางของจิวโมไป๋เขาก็ประหลาดใจเล็กน้อย เขาแค่จะทดสอบดูว่าจิวโมไป๋จะแสดงท่าทียังไง เมื่อพบกับเขาที่กดพลังเอาไว้จนเหมือนคนธรรมดา เขาคาดเดาเอาไว้มากมาย แต่ไม่คิดเลยว่าจิวโมไป๋จะสงบลงได้อย่างรวดเร็วและวิเคาะห์ความแข็งแกร่งของเขาได้ทันที

มีประกายวูบหนึ่งในแววตาของชายซอมซ่อก่อนจะหายไปทันที จากนั้นเขาก็เหยียดตัวขึ้น ก่อนจะกล่าวด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย

“ข้าเป็นผู้ดูแลศาลาคัมภีร์แห่งนี้”จบคำ ร่างของเขาก็แผ่กระจายพลังกดดันออกไปโดยรอบ บรรยากาศครอบงำทำให้ผู้คนในห้องต้องรู้สึกถูกกดทับด้วยพลังอันมหาศาล มันมากกว่าการขึ้นบันไดหลายเท่า

แต่จิวโมไป๋ยังยืนตัวตรงอยู่ได้ โดยที่ใบหน้าซีดลงเล็กน้อย เหงื่อไหลลงมาจากขมับสองข้าง

ชายซอมซ่อรู้สึกพอใจ เขาลดพลังกดดันอย่างช้าๆจนสงบลง

“เจ้าเป็นผู้ผ่านหอทดสอบ ตามกฎที่ระบุไว้ เจ้าผ่านหอทดสอบ 3 ชั้น เจ้าสามารถเลือกคัมภีร์จากชั้นที่ 1 ถึง 3 ได้ชั้นละ 1 เล่ม”ชายซอมซ่อกล่าวเข้าประเด็น เขาไม่ถามหรือแนะนำตัว เหมือนไม่อยากจะสนใจ

จิวโมไป๋ลอบถอนหายใจ ความหวาดกลัวถูกสลายหายไป อีกฝ่ายเป็นถึงผู้ดูแลศาลาคัมภีร์ เขาไม่มีทางนอกกฎแน่

ชายซอมซ่อเห็นท่าทางของจิวโมไป๋ เขาก็คาดเดาความคิดของจิวโมไป๋ได้ทันที แต่เขาก็ไม่สนใจ

“ส่งคัมภีร์ในมือของเจ้ามา”พูดจบชายซอมซ่อก็ยื่นมือออกมา

จิวโมไป๋ยื่นคัมภีร์’บันทึกคมกระบี่ เล่มที่ 1’ไปให้ทันที

ชายซอมซ่อยื่นมือออกมาคัมภีร์ก็พุ่งไปที่มือทันที เขาดูที่หน้าปกคัมภีร์ ก่อนจะพยักหน้าเบาๆ สายตาเหลือบขึ้นมามองจิวโมไป๋ด้วยแววตาลึกล้ำ

“เจ้าช่างใจกล้าจริงๆที่เลือกคัมภีร์เล่มนี้ ทั้งที่มีคัมภีร์ที่ดีกว่าอีกมากมาย”ชายซอมซ่อกล่าวขึ้นเหมือนจะเตือน

จิวโมไป๋สงสัย แต่เขาไม่กล้าถาม

“คัมภีร์’บันทึกคมกระบี่’มีทั้งหมด 4 เล่ม แค่ละเล่มถูกแยกออกจากกัน และเก็บเอาไว้ทุกๆชั้นของศาลาคัมภีร์”ชายซอมซ่อพูดอย่างช้าๆ

จิวโมไป๋นิ่งไม่แสดงท่าทางประหลาดใจอะไร

“คัมภีร์’บันทึกคมกระบี่’ทั้ง 4 เล่ม ไม่ได้เป็นเคล็ดวิชา มันเป็นเพียงบันทึกของสุดยอดฝีมือกระบี่ อันดับ 1 ของยุคสมัยหนึ่ง ก่อนที่เขาจะเสียชีวิต เขาได้ใช้เคล็ดวิชาต้องห้าม บันทึกการใช้กระบี่ของเขา ตั้งแต่การใช้กระบี่ครั้งแรก จนถึงการใช้กระบี่ครั้งสุดท้ายก่อนเสียชีวิต”ชายซอมซ่อหยุดพูดและเหลือบตามองจิวโมไป๋ที่ยังสงบอยู่ เขาก็ยิ้มแผ่วเบา

“เจ้าอาจจะคิดว่าเป็นบันทึกการต่อสู้ หรือบันทึกประสบการณ์บางอย่าง แต่ทุกอย่างที่เจ้าคิดมันผิดหมด บันทึกคมกระบี่ทั้ง 4 เล่ม พวกมันบันทึกคมกระบี่ หรือก็คือบันทึกการฟัน แทง การใช้กระบี่ทั้งหมดที่สุดยอดฝีมือกระบี่คนนั้นเคยใช้”

จิวโมไป๋ประหลาดใจที่ได้ยิน เขาไม่คิดเลยว่าจะมีบันทึกแบบนี้อยู่ด้วย เขาคิดว่าบันทึกคมกระบี่จะเป็นประสบการณ์ใช้กระบี่ของสุดยอดฝีมือกระบี่เท่านั้น

ชายซอมซ่อพอใจกับท่าทางของจิวโมไป๋ เขากล่าวต่อ

“บันทึกคมกระบี่แต่ละเล่ม จะแบ่งเป็น 4 ช่วงชีวิต ที่สุดยอดฝีมือกระบี่เคยไปถึงจุดสูงสุดของชีวิตในช่วงเวลานั้น

เล่มที่ 1 เป็นเล่มที่ สุดยอดฝีมือกระบี่ เริ่มบันทึกตั้งแต่เขาใช้กระบี่ครั้งแรก ในช่วงเวลานี้ เขาเป็นเหมือนดอกไม้ไฟอันงดงามตระการตาที่ส่องสว่างไปทั่วหมู่ดาว ด้วยพรสวรรค์อันสุดยอด เขาได้ผจญภัยไปทั่วหมู่ดาว สร้างชื่อเสียง สร้างบุญคุณความแค้น คบหามิตรสหายกับสุดยอดฝีมือนับไม่ถ้วน เป็นวีรบุรุษในหมู่วีรบุรุษ จนกระทั้งเขาได้เป็นถึงเทพยุทธ์ราชา อีกเพียงก้าวเดียวเขาก็จะได้เป็น เทพยุทธ์จักรพรรดิ์

ชายซอมซ่อถอนหายใจ แววตาดำมืดขึ้นเล็กน้อย เขาตบไปที่ปกคัมภีร์เบาๆ

จิวโมไป๋ยืนนิ่งด้วยความตกใจ เขาไม่คิดเลยว่าคัมภีร์ที่เขาหยิบมาจะมีความเป็นมาอันยิ่งใหญ่เช่นนี้

เขาเคยได้ยินถึงระดับความแข็งแกร่งของเทพยุทธ์มาก่อน แต่เขามีระดับการบ่มเพาะพลังน้อยเกินไปที่จะไปสนใจ ให้ตัวเองรู้สึกอ่อนแอ เขาจึงไม่ทำความเข้าใจกับมัน

ชายซอมซ่อมองไปยังจิวโมไป๋ ก่อนจะกล่าว

“ในขณะที่สุดยอดฝีมือกระบี่ได้รับของวิเศษล้ำค่า เขาได้ถูกคนรัก มิตรสหาย และคนที่เขาเคยช่วยเหลือทรยศหักหลัง ทำลายร่างเทพยุทธ์ ขโมยเต๋าและสายเลือด และถูกกักขังวิญญาณ เพื่อไม่ให้เข้าไปในวัฏจักรแห่งการกำเนิด”

จิวโมไป๋หน้าเปลี่ยนสี เขาเคยเป็นคนพิการโร้ค่าและครอบครัวถูกทำลายย่อยยับมาก่อน ทำให้เขารู้ดีถึงจุดต่ำสุดชีวิตเป็นอย่างดี ยิ่งผูกพันยิ่งเจ็บปวด ยิ่งมีมากยิ่งโหดร้าย เขาไม่อาจรู้ถึงความรู้สึกของสุดยอดฝีมือกระบี่ แต่เขาคาดว่าความโศกเศร้าที่ได้รับต้องไม่ธรรมดาอย่างแน่นอน

“‘บันทึกคมกระบี่เล่มที่ 1’ จะบันทึกการใช้กระบี่ของสุดยอดฝีมือกระบี่ ในช่วงเวลานี้”

ชายซอมซ่อยิ้มออกมา ก่อนจะกล่าวต่อไป

“การอ่าน’บันทึกคมกระบี่’จะได้รับโจมตีทางวิญญาณ จากคมกระบี่ของสุดยอดฝีมือกระบี่ ที่บันทึกเอาไว้ การโจมตีจะยิ่งรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ ตามพัฒนาของสุดยอดฝีมือกระบี่”ชายซอมซ่อพูดอย่างช้าๆ นัยน์ตาลึกซึ้งมองสบตากับจิวโมไป๋

“ในอดีตมีผู้คนนับไม่ถ้วนที่มาชั้นที่ 1 ของ ศาลาคัมภีร์เพื่อได้รับ’บันทึกคมกระบี่’สุดท้ายพวกเขาอ่านไปไม่ถึง 1 ใน 100 ส่วนของบันทึก วิญญาณก็ถูกโจมตีจนแตกสลาย กลายเป็นร่างไร้วิญญาณ หรือเสียชีวิต โชคดีอาจรักษาชีวิตไว้ได้ แต่ก็กลายเป็นคนวิปลาสจิตไม่ปกติ”

ใบหน้าของจิวโมไป๋เปลี่ยนไปทันที การโจมตีวิญญาณ เป็นการโจมตีที่ยากจะรับมือ ถ้าวิญญาณได้รับความเสียหาย การจะฟื้นฟูจะต้องใช้เวลานานมากจนอาจจะไม่สามารถฟื้นฟูได้

แม้ว่าจะสามารถฟื้นฟูได้ แต่มันอาจจะส่งผลต่อการฝึกฝนในอนาคตได้

มีผู้บ่มเพาะพลังจำนวนมากที่มีการบาดเจ็บทางวิญญาณ จนไม่สามารถก้าวหน้าจำนวนมาก

ทำให้ผู้บ่มเพาะพลังจะหลีกเลี่ยงการกระทำทุกอย่าง ที่จะส่งผลถึงวิญญาณ

ชายซอมซ่อรอเวลาเล็กน้อยก่อนพูดต่อ

“แม้ข้อเสียของคัมภีร์เล่มนี้จะมีมากมาย แต่มันก็ยังมีข้อดีอยู่บาง และมันยังเป็นข้อดีที่ทำให้ผู้บ่มเพาะทุกคนกล้าที่จะเสี่ยงชีวิต”ชายซอมซ่อกล่าวถึงตรงนี้ เขาก็บางคัมภีร์บนโต๊ะด้านหน้าและเลื่อนไปยังจิวโมไป๋

“การถูกโจมตีด้วยคมกระบี่ในคัมภีร์ มันจะส่งผ่านประสบการณ์การใช้กระบี่ของสุดสุดยอดฝีมือกระบี่ ถ้าสามารถทนการโจมตีได้ แม้แต่ผู้ไร้พรสวรรค์ ก็เป็นสุดยอดฝีมือกระบี่ได้”

จิวโมไป๋ก้มลงมองไปยังคัมภีร์ เสียงของชายซอมซ่อดังขึ้น

“คิดให้ดีๆ ว่าเจ้าจะรับคัมภีร์เล่มนี้ไปหรือไม่ ถ้าเจ้ารับไปจะไม่มีโอกาสเปลี่ยนอีก”

จิวโมไป๋ตกอยู่ในห้วงความคิด แต่ไม่นานดวงตาของเขาก็เปล่งประกาย

ทำไมเขาถึงลืมไปได้!

วิญญาณและทะเลปราณของเขา ถูกห่อหุ้มด้วยหัวใจพฤกษาบรรพกาล มันช่วยเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับวิญญาณและเพิ่มความสามารถในการฟื้นฟูวิญญาณ และเขายังเป็นถึงปรมาจารย์ม่วง ความแข็งแกร่งของวิญญาณเหนือกว่าคนทั่วไปมาก

และเขายังเป็นผู้ใช้กฎแห่งธาตุไม้ ที่สามารถสนับสนุนหัวใขพฤกษาบรรพกาล

แม้จะไม่สามารถปกป้องความเสียหายได้ทั้งหมด แต่อย่างน้อยก็ลดความเสียหายลงไปได้มาก ด้วยความสามารถในการฟื้นฟู มันจะไม่ส่งผลกระทบต่ออนาคตของเขา

จิวโมไป๋ตัดสินใจทันที

“ผมจะรับคัมภีร์’บันทึกคมกระบี่เล่มที่ 1′”จิวโมไป๋กล่าวด้วยแววตามุงมั่น

ชายซอมซ่อยกริมฝีปากขึ้น ก่อนจะกล่าวถามอีกครั้ง

“เจ้าแน่ใจ ว่าจะเลือกคัมภีร์เล่มนี้”

“ผมมั่นใจ”จิวโมไป๋ตอบ

ชายซอมซ่อส่ายหัวเบาๆ นัยน์ตาลุ่มลึกเหมือนกำลังคิดอะไรบางอย่าง มือของเขาก็กดไปที่คัมภีร์’บันทึกคมกระบี่เล่มที่ 1′ ก่อนจะเกิดประกายแสง คัมภีร์แยกออกเป็นสองเล่ม ก่อนที่เล่มหนึ่งจะพุ่งไปที่หัวของจิวโมไป๋

จิวโมไป๋หลับตาเพ่งสมาธิไปที่ทะเลสติ เขาก็เห็นคัมภีร์’บันทึกกระบี่เล่มที่ 1′ สีเหลืองอ่อน ลอยอยู่ตรงกลาง เขาเพ่งไปที่หน้าปกคัมภีร์ แต่ในขณะที่เขาจะทดลองเปิด เสียงของชายซอมซ่อก็ดังขึ้น

“ข้าแนะนำให้เจ้าไปเปิดคัมภีร์ที่หอทดสอบ ในห้องรอระหว่างขึ้นไปชั้นต่อไป เพราะมันมีพลังคุ้มครอง ทำให้ลดผลกระทบการบาดเจ็บทางวิญญาณครึ่งหนึ่ง”

จิวโมไป๋ออกจากทะเลสติ และก้มหัวขอบคุณ

“ขอบคุณผู้อาวุโสที่ชี้แนะ”

ชายซอมซ่อพยักหน้าก่อนจะชี้มือไปทางออก

จิวโมไป๋ก็เข้าใจ ก้มหัวอีกครั้ง ก่อนจะเดินจากไป

ชายซอมซ่อรอจนจิวโมไป๋ออกจากศาลาคัมภีร์ เขาก็ถอนหายใจ มือลูบลงไปที่คัมภีร์’บันทึกคมกระบี่เล่มที่ 1’อย่างแผ่วเบาราวกับเป็นสิ่งล้ำค่า

“นานแล้วนะที่มีคนสนใจคัมภีร์ที่เจ้าทิ้งเอาไว้ หลังจากที่มีผู้คนเสียชีวิตมากมายจากการศึกษาคัมภีร์ของเจ้า มันก็กลายเป็นคัมภีร์ต้องห้าม ไม่มีใครกล้าแตะต้องอีก”

สายตาของชายซอมซ่อเปลี่ยนเป็นอบอุ่นอ่อนโยน

“แล้วเจ้าจะยังจำสัญญาที่ให้ไว้กับข้าได้ไหม ว่าเจ้าจะกลับมาหาข้าที่นี่”

จิวโมไป๋เดินออกจากศาลาคัมภีร์ แล้วถอนหายใจโล่งอก แม้อีกฝ่ายจะไม่ทำอะไร แต่กลิ่นอายที่แผ่กระจายออกมา ทำให้เขาไม่กล้าแม้แต่จะหายใจ

จิวโมไป๋ก็เห็นว่าเสี่ยวหวงกำลังหลับตานอนใต้ต้นไม้ด้วยท่าทางเหนื่อยล้า เสี่ยวจินบินไปรอบๆ แต่มันไม่ผ่านเข้าไปชั้น 2 ของวัด มันสัมผัสได้อะไรบางอย่าง ทำให้มันไม่กล้าบินผ่านเข้าไป

เสี่ยวไป๋และเสี่ยวเหมย ทั้งสองแยกเขี้ยวใส่กันอยู่ห่างออกไป พวกมันไม่อยากรบกวนเสี่ยวหวง

ทั้งๆทั้งสองที่ไม่ถูกกัน แต่ก็ชอบไปไหนมาไหนด้วยกันตลอด

จิวโมไป๋ยิ้มเล้กน้อย ก่อนจะเดินไปยังหอทดสอบ

เมื่อเข้าไปในหอทดสอบ มันก็เป็นห้องโล่ง และมีบันไดขึ้นไปชั้นต่อไป

‘ท่านจะเข้าทดสอบชั้นที่ 1 หรือไม่’เสียงดังขึ้นภายในจิตใจ

จิวโมไป๋ไม่ตอบ เขาเดินไปชั้นที่ 2 เสียงก็ดังขึ้นอีกครั้ง

‘ท่านจะเข้าทดสอบชั้นที่ 2 หรือไม่’

จิวโมไป๋ยังคงเดินขึ้นไปชั้นต่อไป จนมาถึงหน้าทางขึ้นชั้นที่ 4 ก่อนที่เขาจะนั่งลง และหลับตาทำสมาธิ

เมื่อจิตใจสงบ เขาก็เพ่งสมาธิไปที่ บันทึกคมกระบี่เล่มที่ 1 ที่ลอยอยู่กลางทะเลสติ

หน้าปกคัมภีร์ก็เปิดออกทันที จากนั้นจิตสำนึกของเขาก็ถูกดูดเข้าไปในคัมภีร์ทันที

จิวโมไป๋เข้ามาในคัมภีร์ เขาก็พบว่ากำลังอยู่ในห้องโถงสร้างจากไม้สีน้ำตาล กว้างสุดสายตาจนเข้าไม่สามารถเห็นจุดสิ้นสุด

จิวโมไป๋พยายามขยับ ก็ไม่สามารถขยับร่างกายได้เลย ได้แต่อยู่นิ่งๆ เหมือนกับว่าเขาไม่มีตัวตน จิวโมไป๋สงบสติเพ่งสมาธิดูดีๆ เขาสามารถสัมผัสได้ถึงบันทึกคมกระบี่เล่มที่ 1 อยู่

แต่ยังไม่ทันทีเขาจะได้ทำความเข้าใจ หน้าแรกของบันทึกคมกระบี่เล่มที่ 1ก็เปิดออก

วูบ

เงาสีดำรูปร่างเหมือนมนุษย์สูงประมาณ 1.7 เมตร ก็ก่อตัวขึ้นเบื้องหน้า บนมือขวาของมันถือเงาสีดำที่เหมือนกระบี่ ก่อนที่เงาสีดำจะแทงกระบี่ออกมา

ฉึก! เงากระบี่สำดำ แทงเขาที่กลางวิญญาณของเขา

อึก ความเจ็บปวดแปล๊บ แต่เพราะความแข็งแกร่งของวิญญาณ ทำให้จิวโมไป๋ไม่ได้เจ็บปวดมากนัก

อยู่ๆเขาก็รู้สึกถึงอะไรบางอย่าง เขารู้ว่าการแทงเมื่อครู่ เป็นเพียงการแทงกระบี่ธรรมดาของมือใหม่ที่พึ่งจับกระบี่ครั้งแรก

จิวโมไป๋ก็เข้าใจในสิ่งที่ชายซอมซ่อบอก ยอมรับการโจมตี เพื่อรับประสบการณ์

วูบ เงาสีดำแรกหายไปก่อนที่ บันทึกคมกระบี่เล่มที่ 1 จะเปิดไปอีกหน้า

วูบเงาสีดำปรากฎขึ้นมาอีกครั้ง ก่อนจะฟัน คัดผ่าครึ่ง

อึก จิวโมไป๋รู้สึกเจ็บปวดเล็กน้อย แต่เขาก็ทนได้ จนการโจมตีต่อๆมา เขาก็รู้ว่าอีกฝ่ายใช้วิชากระบี่พื้นฐาน และยังเป็นวิชากระบี่พื้นฐานที่ลึกซึ้งกว่ากระบี่พื้นฐานที่เขาฝึก

จิวโมไป๋ปล่อยใจให้สงบซึมซับการโจมตีและประสบการณ์

จนกระทั้งมาถึงหน้าที่ 5 ของคัมภีร์

ฉึก! อัก ความเจ็บปวดที่ได้รับอยู่ๆก็เพิ่มขึ้นหลายเท่า จิวโมไป๋มองร่างสีดำค่อยๆหายไปด้วยความตกตะลึง

กระบี่พื้นฐานระดับความสำเร็จขนาดเล็ก!

เพียงแค่การใช้กระบี่ครั้งที่ 5 ก็สามารถ พัฒนาวิชากระบี่ถึงความสำเร็จขนาดเล็กได้แล้ว

ในระหว่างที่จิวโมไป๋กำลังตกตะลึงกับการพัฒนาอันรวดเร็วของเงาสีดำ

การโจมตีครั้งต่อมาก็ตามมาติดๆ

จนไปถึงหน้าที่ 50 ความรุนแรงของการโจมตีก็เพิ่มขึ้นอีกครั้ง

กระบี่พื้นฐานระดับเชี่ยวชาญ!

การโจมตีหน้าที่ 500

ฉัวะ! อัก! ความเจ็บปวดทำให้วิญญาณของเขาเริ่มสั่นไหว จิวโมไป๋มองไปอย่างการโจมตีด้วยความเลื่อนลอย

กระบี่พื้นฐานระดับเข้าใจ!

เงาสีดำหายไปและปรากฎขึ้นมาอย่างรวดเร็วและโจมตีออกมาอีก จนถึงหน้าที่ 5,000

เงาสีดำแทงกระบี่ออกมาอย่างไร้ที่ติ เงากระบี่ไหววูบเพียงพริบตาก่อนที่ จะแทงเขาที่วิญญาณของจิวโมไป๋

กระบี่พื้นฐานระดับตระหนักรู้!

ฉึก! อัก! ความเจ็บปวดทางวิญญาณเพิ่มขึ้นอีกครั้ง หัวใจพฤกษาบรรพกาลที่ปกคลุมดวงวิญญาณสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง แต่ก็ยังประคองเอาไว้ได้ แต่ความเจ็บปวดที่ได้รับ มันทำให้ใบหน้าของจิวโมไป๋ภายนอกซีดขาวอย่างน่ากลัว

แต่เขาก็ยังทนได้ เขายังอยากรู้ว่า ความเร็วในการทำความเข้าใจของสุดยอดฝีมือจะมีมากขนาดไหน

เส้นแบ่ง ระดับตระหนักรู้และระดับเข้าใจ ไม่ได้เส้นแบ่งเล็กๆที่แค่ฝึกก็สามารถผ่านไปได้ มันต้องผ่านประสบการณ์ต่อสู้ แม้แต่สุดยอดอัจฉริยะ การฝึกวิชากระบี่พื้นฐานซ้ำๆ เพียงอย่างเดียว มันไม่สามารถทำให้ผ่านขั้นเจตจำนงได้แน่

แต่การโจมตีครั้งที่ 50,000 ของเงาสีดำ ก็ได้ทำลายความคาดหวังของจิวโมไป๋ทันที

กระบี่พื้นฐานระดับเจตจำนง!

ฉึก!

ความเจ็บปวดอันมหาศาล ทำให้หัวใจพฤกษาบรรพกาลที่ปกคลุมดวงวิญญาณของจิวโมไป๋สั่นไหวอย่างน่ากลัว

บัดซบ พรสวรรค์น่ารังเกียจเกินไปแล้ว!

จิวโมไป๋กรีดร้องก่อนจะถอนตัวออกจากบันทึกคมกระบี่เล่มที่ 1 อย่างรวดเร็ว

จิวโมไป๋ถอนตัวออกมา อยู่ที่ทะเลสติ เขาท่องเคล็ดบ่มเพาะพลังหัวใจพิสุทธิ์ด้วยความรวดเร็วเพื่อฟื้นฟูวิญญาณ

เวลาผ่านไปพักใหญ่ หัวใจพฤกษาบรรพกาลก็สงบลง แต่ความเสียหายทางวิญญาณที่ได้รับ ต้องใช้เวลาหลายวันในการฟื้นฟู

เขาไม่สามารถเข้าไปในคัมภีร์ได้พักใหญ่

จิวโมไป๋ถอนหายใจ จิตใจของเขาในตอนนี้เศร้าหมองอย่างมาก การที่ได้เห็นอัจฉริยะฟ้าประทานระดับนี้ ไม่แปลกเลยที่จะทำให้ผู้คนท้อแท้

ปกติแล้ว ภายในเวลา 1 วัน ผู้บ่มเพาะจะต้องใช้กระบวนท่าวิชาต่อสู้ซ้ำๆ ไม่ต่ำกว่า 1,000 ครั้ง คนที่ขยันอาจจะถึง 10,000 ครั้งด้วยซ้ำ

แต่สุดยอดฝีมือกระบี่ ฝึกวิชากระบี่พื้นฐานเพียง 50,000 ครั้งเท่านั้น!

ฝึกขั้นต่ำวันละ 1,000 ครั้งต่อวัน 50 วัน ก็สามารถเข้าถึงระดับเจตจำนงได้

ถ้าขยันฝึกฝน 10,000 ครั้งต่อวัน เพียง 5 วัน ก็เข้าถึงระดับเจตจำนง!

มันไม่สามารถเรียกได้ว่าอัจฉริยะอีกต่อไปแล้ว!

จิวโมไป๋นึกถึงตัวเองที่ใช้เวลากว่าหลายสิบปี ถึงจะทะลวงผ่านระดับเจตจำนงได้ และยังเป็นเจตจำนงที่อ่อนแอ มันยิ่งทำให้เขายิ่งท้อมากขึ้นไปอีก

เวลาผ่านไป จิวโมไป๋ก็ถอนหายใจ อย่างน้อยเขาก็มีความสามารถในการสร้างและปรับปรุงเคล็ดวิชาที่แข็งแกร่ง จิวโมไป๋ปลอบใจตัวเอง จนฟื้นฟูความมั่นใจกลับมาได้ เขาก็มองไปเหนือบันทึกคมกระบี่เล่มที่ 1 มีกระบี่ยาวที่เลือนรางลอยอยู่อย่างเงียบสงบ

รัศมีอันละเอียดอ่อนทำให้จิวโมไป๋ต้องตาเบิกกว้าง

กฎแห่งกระบี่!

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด