ย้อนเวลากลับมาเป็นเทพยุทธ์ 306

Now you are reading ย้อนเวลากลับมาเป็นเทพยุทธ์ Chapter 306 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.
อิวะ โซตะ และ นาคามูระ อิโทซะ

วูบ!

คนทั้งแปดเคลื่อนไหวพร้อมกัน พวกเขาพุ่งเข้าหาจิวโมไป๋ที่อยู่ตรงกลางจากรอบทิศทาง หมัด เท้า แหวกอากาศ ส่งเสียงกรีดร้องดังน่าสะพรึงกลัว กระบวนท่าผสานโจมตีจากรอบทิศปิดทางหลบหนีทั้งหมด

จิวโมไป๋ยืนนิ่งไม่ขยับ ราวกับกำลังเกรงกลัวการโจมตีที่กำลังเข้ามา

ผู้คนที่เห็นต่างก็มีใบหน้ามืดมิด พวกเขาต่างก็ลงพนันว่าจิวโมไป๋จะสามารถต้านการโจมตีอย่างน้อยก็ 10 วินาที ไม่คิดเลยว่าจิวโมไป๋จะกลัวยืนเฉยๆไม่หลบไม่ตอบโต้

ในเวลาเดียวกัน ภายในห้องอาหารส่วนตัวที่อยู่ด้านในของห้องอาหาร ชายสองคนกำลังมองการต่อสู้ของจิวโมไป๋ขณะที่ทานอาหาร ราวกับว่ากำลังชมการแสดงอยู่

“นายว่าคนของประเทศมังกรคนนั้น จะทนได้กี่วินาที”อิวะ โซตะใช้ตะเกียบคีบเนื้อและข้าวขึ้นมาและก้มหน้าทานอย่างใจเย็น เขาไม่คิดว่าจิวโมไป๋จะอ่อนแอจนถูกกำจัดง่ายๆ

นาคามูระ อิโทซะไม่ตอบ เขาหยุดมือวางตะเกียบลงบนโต๊ะอาหาร และลุกขึ้นเดินออกจากห้องไป

อิวะ โซตะชะงักค้างมองหลังเพื่อนของเขาที่ออกไปด้วยความสับสน ก่อนจะหันกลับไปมองการต่อสู้ดวงตาของเขาก็หรี่เล็กลง ก่อนที่เขาจะวางตะเกียบลงและเดินตามหลังเพื่อนของเขาออกจากห้องอย่างรวดเร็ว

ห้องอาหาร

ผู้คนมองไปยังจิวโมไป๋ที่ยืนอย่างปลอดโปร่งด้วยความตกตะลึง บนพื้นมีร่างแปดร่างนอนบาดเจ็บไม่สามารถลุกขึ้นมาได้อีก

คนที่มีระดับการบ่มเพาะพลังต่ำกว่าขั้นที่ 5 กระดูก มองไม่เห็นกระบวนท่าของจิวโมไป๋ ก่อนที่การโจมตีจะถึงร่างของจิวโมไป๋ เพียงพริบตาทุกคนก็ถูกกำจัด ผู้ที่มีระดับการบ่มเพาะพลังสูงมองเห็นเพียงมือของจิวโมไป๋ที่โบกขึ้นเท่านั้น!

จิวโมไป๋ไม่สนใจผู้คนที่กำลังพูดกัน เขาค่อยๆหันมามองที่ชายหนุ่มสองคนที่เดินเข้ามาอย่างช้าๆ พลังกดดันที่แฝงไปด้วยกลิ่นอายสังหาร บ่งบอกว่าทั้งสองต้องฆ่าผู้คนไปไม่ต่ำกว่าร้อยคน

อายุของทั้งสองเพียง 20 ต้นๆ เท่านั้นแต่กลิ่นอายสังหารเหนือกว่าอัจฉริยะรุ่นเยาว์ของประเทศมังกรอย่างเทียบไม่ติด

นี้เป็นความแตกต่างระหว่างการฝึกฝนดอกไม้ในเรือนกระจก ที่ไม่สามารถทนแรงลมฝนได้ กับดอกไม้ป่าที่แข็งแกร่ง

“คนที่พวกนายส่งมา ไม่ค่อยมีฝีมือเท่าไหร่ พวกนายอยากต่อสู้ไหม”จิวโมไป๋กล่าวท้าทายด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย พลังกดดันอันแข็งแกร่งโถมเข้าหาทั้งสองอย่างรุนแรง

แต่ทั้งสองยังคงเดินเข้ามาราวกับว่าไม่ถูกพลังกดดันโจมตี

จิวโมไป๋เก็บรอยยิ้มซ่อนความตื่นเต้นไม่แสดงออกมา

เมื่ออยู่ประเทศมังกร เขาต้องระวังตลอดเวลาว่าจะเผลอแสดงความแข็งแกร่งออกมาจนถูกตระกูลชั้นสูงค้นพบ และครอบครัวถูกเล่นงาน ทำให้เขาต้องซ่อนความแข็งแกร่งตลอดเวลา

การมาที่ประเทศเกาะเป็น เหมือนเป็นการปลดล็อคข้อจำกัดบางอย่าง ที่กักขังเขาเอาไว้

เหตุผลที่เขากล้าแสดงความแข็งแกร่งที่ประเทศเกาะ ก็เพาะว่าเขามาที่นี่ในฐานะผู้ร่วมทำภารกิจพิเศษ

ภารกิจพิเศษเป็นภารกิจระดับสูงที่จะถูกเก็บเป็นความลับ ไม่เปิดเผยข้อมูลใดๆของภารกิจ

เขาเป็นผู้ร่วมทำภารกิจพิเศษนี้ ทำให้ตัวตนของเขาในระหว่างทำภารกิจจะถูกเก็บเป็นความลับ คนที่มีระดับต่ำกว่า 7 ดาวไม่สามารถค้นหาข้อมูลรายงานภารกิจของเขาได้ว่าเขาทำอะไรในระหว่างภารกิจ

ไม่ต้องพูดถึงคนของประเทศเกาะ พวกเขาจะไม่มีทางค้นหาเขาที่ประเทศมังกรได้

ทำให้เขาสามารถแสดงความสามารถทั้งหมดออกมา โดยไม่ต้องกลัวถูกค้นพบ

เขาลอบมองชายทั้งสองแล้วครุ่นคิดบางอย่าง เขารู้สึกคุ้นเคยกับทั้งสองเล็กน้อย เหมือนกับว่าทั้งสองมีชื่อเสียงในอนาคต เขาครุ่นคิดระลึกความทรงจำก็ไม่สามารถค้นพบตัวตนของทั้งสองได้ ในอดีตพวกเขาอาจเป็นเส้นขนานไม่รู้จักกัน

ในช่วงเวลาที่ประเทศมังกรกำลังอยู่ในช่วงวิกฤต ประเทศรอบข้างเข้าโจมตี ประเทศเกาะเป็นกำลังหลักที่โจมตีประเทศมังกร เขาจดจำศัตรูที่เข่นฆ่าคนของประเทศมังกรได้เป็นอย่างดี

ถ้าทั้งสองเป็นศัตรูเขาก็สามารถจดจำได้ทันที การที่เขาแค่คุ้นเคย แสดงว่าทั้งสองไม่ได้เป็นศัตรูกับเขาและประเทศมังกรในทางตรง

ไม่ใช้คนของประเทศเกาะทุกคนที่โจมตีประเทศมังกรด้วยความโลภ

ตัวอย่างก็คือพันเอกนาคามูระ เคนชิดะ ที่มารับเขาและเจ้าอาวาสหงหมิงที่สนามบิน เขาและตระกูลนาคามูระไม่ได้เป็นศัตรูกับประเทศมังกร ที่เขาจำได้มีแค่ เขาได้ข่าวว่าตระกูลนาคามูระได้รับโชคบางอย่าง พวกเขาจึงย้ายออกจากประเทศเกาะทั้งตระกูล พวกเขาเข้ามิติลึกลับ และหายไปไม่ปรากฏตัวอีกเลย…

อิวะ โซตะที่เดินมาช้ากว่านาคามูระ เคนชิดะเล็กน้อย เมื่อได้ยินคำพูดของจิวโมไป๋ใบหน้าของเขาก็ตึงทันที เพราะคนที่ถูกจิวโมไป๋จัดการเป็นลูกน้องใต้บังคับบัญชาของเขาเอง การที่อีกฝ่ายพูดแบบนั้นเป็นการดูถูกเขาอย่างรุนแรง

อิวะ โซตะสูดลมหายใจระงับอารมณ์ก่อนจะเดินผ่าน นาคามูระ เคนชิดะ ไปเผชิญหน้ากับจิวโมไป๋และกล่าวขอโทษด้วยท่าทางจริงจัง

“ขอโทษที่ทำให้ขุ่นเคือง ฉันเป็นคนส่งคนพวกนี้ไปเอง ดังนั้นค่าเสียหายทั้งหมดฉันจะเป็นคนจ่ายเอง”

จิวโมไป๋พยักหน้าช้าๆไม่พูดอะไร ทั้งสองยืนเผชิญหน้ากันพลังกดดันที่มองไม่เห็นเข้าปะทะกันอย่างรุนแรง จนโต๊ะ เก้าอี้ จาน ชามที่ล้มลงบนพื้นสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด